" ลมปราณ ธาตุสี สมาธิจิต "

เห็นไม่เหมือนกันนี่เอง
หรือเห็นเหมือนกัน แต่คิดไม่เหมือนกัน

 

คำตอบข้อนี้ มันส์ ขออนุญาติแซงฉัน

มณีน้อยรู้ไหมว่า วาระสุดท้ายของชีวิต เราจะขาด ธาตุไฟ มาก

ถึงเวลานั้น คนจะสงสาร จะขน ธาตุไม้หอมๆ มาส่งให้ มณีน้อย
เอาไปเสริมธาตุไฟ

ฮี้ ฮี้ ฮี้

 

ภาวนาเสมอด้วยธาตุ ๕
ดูกรราหุล เธอจงเจริญภาวนา (อบรมจิต) เสมอด้วยแผ่นดินเถิด......

จาก มหาราหุโลวาทสูตร
http://www.84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=13&A=2541&Z=2681&pagebreak=0

สนใจเดินจงกรมธาตุ(จตุธาตุววัตถาน)
เชิญที่เว็บมัชฌิมา คลิกได้เลย
http://www.madchima.org/madchima/index2.php
## สำนักงานส่งเสริมพระกรรมฐาน มัชฌิมา ::

 

".มันก็ดีนะคะ การที่เราทำสมาธิแบบพิจารณาธาตุ
มันไม่ใช่สงสัยอย่างอื่น ให้ฟุ้งซ่าน แต่มันสงสัยภายในกายเรา
เหมือนเรากำลัง รุ้ สึกตนเอง
ยกตัวอย่างเมื่อวานนี้
มณีเดินไปรับเด็กๆ หิมะตก หนาวด้วย
อยุ่ๆ มันพิจารณา ธาตุไฟขึ้นว่า
จริงๆแล้ว ทีเราใส่เสื้อผ้าหนาๆ เพราะกัก อุณหภูมิไว้
เพื่อ รักษาสมดุล ให้ร่างกายอบอุ่น
ร่างกายเหมือนตระแกง มีรูเต็มไปหมด
ลมไหลเข้าไหลออกได้ทุกส่วน
แล้วมันก็เริ่ม รุ้สึกถึง ความอุ่น รวมตัวกันเป็นกลุ่มก้อน
ในร่างกาย เดินพิจารณาไปเรื่อย จนถึงที่ ร.ร.
ทำให้รุ้สึกว่า..เรานั้น ไม่จำเป็นต้องนั่งสมาธิก็ได้
เพียงมี สติ พิจารณา เหตุ ผล ตามคำสอนพระพุทธองค์
ก็ทำให้เราเข้าใจ กาย เข้าใจ วีธี การเดินของจิตได้

....้

 

ดูได้ พินาได้ แต่อย่าไปจับ องค์ขึ้น

 

ธรรมไม่เครียด อิอิอิอิอิอิอิอิอิ

 

ยกตัวอย่างได้มั้ยคะ

ขยาย ให้หน่อยคะ
ขอบพระคุณคะ

 

...................รู้มหาภูติรูปทั้งสี่ จากที่พี่พี่ทั้งหลายกล่าวไว้แล้ว..เย็น ร้อน อ่อน ไหว...ทันใดนั้น นามก็เกิด (เวทนา เจตนา สัญญา ผัสสะ มนสิการ)..จากอะไร? อ๋อ จาก วิญญานไปรู้มหาภูตรูปทั้งสี่(วิญญาน ทางหู ตา จมูก ลิ้น กาย ใจ)...เราก็อ๋อ การเกิดขึ้นแห่งโลก เป็นอย่างนี้นี่เอง.....แล้วกิเลสตัณหามาจากใหน? อนุสัยจาก สุขเวทนา ทุกข์เวทนาจากผัสสะนั้นเอง(ความเพลินในทุกข์ สุข).....แท้จริงแล้ว เราไปเพลินพอใจ(สุข ทุกข์)ในมหาภูตรูปทั้งสี่นี่เอง... หรือความเพลินพอใจในวิญญาน(การรู้)(วิญญานอาหาร)... เป็นสาเหตุ....รู้ดังนี้ ก็ แล้วแต่?

 

ชาบู นารูโตะ ครับ

แอบอ่านฟรี ในเนท เขาเรียกขโมยมั้ยนั่น

:'(

 

มณีไปอ่านเกือบทุกอาทิตย์เลย เหอะๆ