คำเตือนลูกศิษย์ ของพระอริยสงฆ์แห่งสยามยุครัชกาลที่ ๙

เมื่อหลายสิบปีมาแล้ว มีศิษย์คนหนึ่ง ได้เข้าไปกราบเรียน ท่านพระอาจารย์...เพื่อขอความเมตตาอนุเคราะห์ ขอปรึกษาเรื่องการซื้อขายที่ดินผืนหนึ่ง แถวชานเมือง

ซึ่งเจ้าของที่ดินกำลังร้อนเงิน

ท่านพระอาจารย์.....ได้กล่าวเตือนว่า ไม่ให้ซื้อ

เพราะต่อไปวันข้างหน้า มันจะน่ากลัวมาก

------------------------------------------------------------------
อริยะญาณ ขององค์ท่านฯ ไม่เคยผิดพลาด แม้แต่เรื่องเดียว ในยุคก่อนๆ สมัยปี พ.ศ. ๒๕๒๖ ยุคคอมมิวนิสต์ยังคืบคลานเพื่อต้องการมวลชนและผืนแผ่นดินไทย ท่านพระอาจารย์....ถูกคนมีสีระดับหัวกระทิ ใส่ร้ายสารพัด พร้อมทั้งดักเล่นงานต่างๆวิธี แต่ด้วยคุณธรรมบารมี ที่องค์ท่านฯ เคยกล่าวว่า เหตุการณ์ต่างๆทั้งหลาย หากจะเกิดขึ้นจะมีพลังบางอย่างวิ่งมา ซึ่งจิตท่านสัมผัสและรู้ได้ ด้วยความสมบูรณ์และบริบูรณ์ของมหาสติ ในหลายๆครั้งที่ องค์ท่านฯและคณะสงฆ์ต้องรับนิมนต์และเดินทางไป ตจว. ขากลับ มีหลายครั้ง ที่องค์ท่านฯ สั่งให้เปลี่ยนเส้นทาง ต่อเมื่ออีกวัน พระติดตามจึงทราบว่า มีการตั้งด่านของคนมีสี ดังกล่าวหลายหน่วยงาน เพื่อปองร้ายองค์ท่านฯ

----------------------------------------------------------------

อริยญาณขององค์ท่านฯ แม้แต่คนทั่วไปที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน องค์ท่านฯยังเมตตาอนุเคราะห์ให้ชีวิต ดังเช่นเหตุการณ์หนึ่ง ประมาณปี พ.ศ.๒๕๒๐ กว่า

ผู้ขับรถ กำลังรีบ เพื่อทำความเร็วให้ไปทันเวลานิมนต์ ใน กทม.ฯ แต่เมื่อรถวิ่งมาถึงบริเวณ วงเวียนเส้นทางแยกขึ้นเขาใหญ่ และเข้าปราจีนบุรี องค์ท่านฯ สั่งให้คนขับรถ ให้เลี้ยวเข้าไปตัวเมืองปราจีนบุรี บอกเพียงแต่ว่าให้ไป ร.พ. นี้ ผู้ขับรถนึกสงสัยในใจ เอ เห็นองค์ท่านฯบอกให้รีบไปงานนิมนต์ แต่ทำไมให้แวะที่ รพ. ก่อน เมื่อไปถึงหน้า ร.พ. องค์ท่านฯ สั่งให้ผู้ขับรถเดินไปที่อาคารนี้ ห้องเลขที่เท่านี้ เีตียงนี้นะ ให้ไปบอกผู้ป่วย (ชาย) ที่นอนอยู่เตียงนี้ ให้รีบย้ายห้องด่วน เพราะคืนนี้ เขาจะมายิงแล้ว

ผู้ขับรถ เล่าเพิ่มอีกว่า ในขณะนั่งรถ องค์ท่านฯ ก็ไม่ได้นั่งสมาธิ นั่งเฉยธรรมดานี่แหล่ะ

หลังจากนั้น เช้าวันต่อมา นสพ.หลายฉบับ พาดหัวข่าว บุกยิงถึง รพ. แต่เป็นการยิงผิดตัว
----------------------------------------------------------------

ช่วงหลายสิบปีที่ผ่านมา องค์ท่านได้อนุเคราะห์ เหล่าทหารหาญ ผู้ยากไร้ และสืบทอดศาสนาทั้ง เทศนาธรรม ปริศนาธรรม การปฏิบัติธรรมที่ถูกต้อง ซึ่งหมายถึงการดำเนินสมาธิจิตที่ถูกต้อง เพื่อเอากำลังตปธรรม ไปคุ้มครองจิต ให้ตัดกระแสของภพ ฯลฯ ฝากไว้ให้ศิษย์ยานุศิษย์และให้แก่มวลมนุษยชาติ ทั้งไทยและเทศ ที่องค์ท่านฯ พยากรณ์ไว้ว่า ความเจริญพุทธศาสนาจะย้ายไปอยู่ทางตะวันตก แต่ ณ.สถานที่แห่งนี้ ที่เกิดจากบารมีธรรมขององค์ท่านฯ จะกลายเป็นศูนย์วิปัสสนากรรมฐานโลก ดังคำพยากรณ์ของ องค์พ่อแม่ครูบาอาจารย์ หลวงปู่มั่น ภูริทัตตะเถระ

 

รู้สึกว่าน่าสนใจมาก
ขอติดตามต่อครับ

 

อืม จะมีมาให้อ่านอีกไหมคะ ติดตามค่ะ

 

บันทึกของลูกศิษย์ เกี่ยวกับคำทำนายขององค์ท่านฯ

ลูกศิษย์นี้ หมายถึง ท่านเป็นพระสงฆ์ (หลวงพ่อ...วัดอยู่ จ.ระยอง)

ได้บันทึก ไว้อย่างนี้

.....ได้ยินท่านพูดไม่ต่ำกว่า ๒-๓ ครั้ง ว่าการไปนิพพานของท่านไม่ใช่เรื่องยากเย็นอะไร ขอเวลาให้ท่านแค่ ๓ นาที ก็ไปได้แล้ว แต่ยังสงสารลูกศิษย์ที่มีมากเหลือเกินที่ส่วนใหญ่ไม่ได้อะไร

ชาตินี้มีลูกศิษย์ที่ได้ทางปัญญาแค่คนสองคนเท่านั้น

ทางด้านฤทธิ์ก็มีแต่รุ่นหลานศิษย์ แต่ก็ได้นิดเดียว แค่ปลายเล็บของท่านเท่านั้น

ท่านยังเคยพูดว่าจะกลับอีกซักครั้งสองครั้ง (เพื่อสงเคราะห์ศิษย์ ) แล้วลงมาอีกทีแล้วรู้เอง (คำนี้มีนัยพิจารณาดู) เป็นคำทำนายตัวท่านเองขอให้ศิษย์ทั้งหลายลองพิจารณาดูเอาเองก็แล้วกันนะ

เรื่องท่านทำนายเหตุการณ์บ้านเมืองไม่เคยผิดพลาด เช่นเรื่อง ๑๖ ตุลา และการปฏิวัติปฏิรูป ตรงเป๊ะทุกครั้ง

และผู้เขียนเคยถามเรื่องบ้านเราจะเป็นคอมมิวนิสต์หรือเปล่า ท่านว่าบ้านเราคอมมิวนิสต์แพ้และผู้เขียนเคยถามเรื่องสงครามโลกครั้งที่สาม....(ถามเมื่อ พ.ศ. ๒๕๑๘ )......

----------------------------------------------------------------

มีอยู่เรื่องหนึ่ง ซึ่ง code13 อัศจรรย์ใจว่า ญาณทัศน์ขององค์ท่านฯ. ประมาณปลายปี พ.ศ. ๒๕๒๘ หรือ ๒๙ นี่แหล่ะ องค์ท่านฯ ดำริจะสร้าง อาคารขนาดใหญ่ กว้าง ๔๕ เมตร ยาว ๘๐ เมตร บนไหล่เขาซึ่งสภาพพื้นที่เป็นที่ลาดเอียง

ทางวิศวกรแจ้งว่าไม่สามารถทำได้ เนื่องจากสภาพพื้นที่อีกทั้งตัวอาคารใหญ่มาก องค์ท่านฯ กำหนดว่า ภายในอาคารเสาแต่ละต้นมีช่องห่างระยะ ๙ เมตร พื้นถึงเพดานความสูง ๖ เมตร วิศวกรว่า เสาแต่ละต้นอยู่ห่างเกินไปถึงทำได้ ไม่เกินสองปี ก็พัง

องค์ท่านฯเลยดำิเนินการเอง ทั้งหาหัวหน้าช่างเพื่อคุมงาน (แบบไม่ธรรมดา) รวมถึงกำหนดรูปร่างแบบอาคาร การผูกเหล็ก (ผูกแบบเหล็กเพื่อการกระจายน้ำหนักตัวอาคารลงที่เสา)

ช่วงเริ่มแรกที่เทเสาเอกต้นแรกนั้น องค์ท่านฯสั่งว่า ถ้าจะหล่อเสาต้นนี้ ต้องรอท่านก่อน (องค์ท่านฯติดนิมนต์) ปรากฏว่าช่างไม่รอ ทำการเทไปก่อน แต่เมื่อแกะแบบ เสาคอนกรีตนั้นกลับร้าวใช้การไม่ได้ ต้องทุบทำใหม่ ยิ่งไปกว่านั้น

อาคารหลังนี้ อยู่มากว่า ๒๐ ปีแล้ว และ ไม่มีเสาเข็มสักต้นเดียว

 

เหตุการณ์บ้านเมืองจะเป็นอย่างไรต่อครับ รออ่านต่อ

 

มารออ่านต่อนะครับ มาลงเรื่อย ๆ จนจบนะ

 

รออ่านด้วยคนครับ

 

เรื่องอะไรที่เราไม่รู้เป็นสิ่งที่น่าสนใจ เป็นธรรมดาของคน

 

มารออ่านต่อครับ

 

ตกลงว่า....เรื่องมันยาว ใช่ไหมคะ (deejai)

 

จบแล้วหรือ....รออ่านต่อครับ

 

อ่านบทความคุณ code 13 แล้วทำให้นึกถึง ความตอนหนึ่งในหนังสือ ฐานิยปูชา ความว่า



... บ้านเมืองเรานี่ คอมมิวนิสต์เต็มบ้านเต็มเมืองเรายังปราบอยู่ บารมีของประเทศนี่มันเท่าไหร่

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเคยรับสั่งถามหลวงปู่ฝั้นว่า

"ต่อไปนี้บ้านเมืองไทยเราจะเป็นอย่างไร"

"ไม่เป็นไรหรอก มหาบพิตร บ้านเมืองเราเป็นเมืองพุทธศาสนา มีศีลมีธรรม ใครมาเบียดเบียนเมืองไทย ธรณีจะสูบมัน" ...



จากหนังสือ ฐานิยบูชา ๒๕๔๔ : ๘๐ ปี หลวงพ่อพุธ

 

คำปรารภให้ศิษย์ฟัง เมืองหลวงของไทยจะกลายเป็นป่ากระต่ายขี้

code13 เคยไปกราบหลวงพ่อ...ที่ สำนักสงฆ์เล็กๆ แถวอุทยานแห่งชาติ เขต จ.กำแพงเพชร หลวงพ่อ...เล่าให้ฟังว่า ท่านพระอาจารย์ฯ ของท่าน เคยปรารภให้ศิษย์ใกล้ชิดรวมถึงตัวหลวงพ่อ...เองด้วย ว่า วันนึงข้างหน้า เมืองของไทยจะกลายเป็นป่ากระต่ายขี้....

ถ้าท่านอยากทราบความหมาย ป่ากระต่ายขี้ ให้ลองถามคนแก่ๆ คนสูงอายุ ว่า หมายความว่าอย่างไร

หมายเหตุ ท่านพระอาจารย์ฯ ที่หลวงพ่อ...กล่าวถึง คือองค์เดียวกันกับที่เตือนศิษย์ ไม่ให้ซื้อที่ดิน แถวชานเมือง

------------------------------------------------------------

เวลาเหลือน้อยแล้ว อีกไม่กี่ปีแล้ว (ไม่ใช่ปี 55 ) รีบเร่งทำความดีกันไว้ ปัจจุบันเทคโนโลยี่ไปไกลมาก เมื่อมันมีคุณ โทษก็ย่อมมี ซึ่งเปรียบเหมือนเงา หากผู้ใดใฝ่หาแต่ทางโทษ ถึงวันนั้น...วันที่ธรรมชาติเอาคืน

code13 ขอบอกว่า กรรมแต่ละคนมีอยู่แล้ว แต่เมื่อมวลชนที่ใฝ่แต่ทางโทษ มาอยู่ผสมปนเปกันกลางเมือง พลังงานของจิตของแต่ละคนซึ่งเป็นพลังงานสีดำก็จะแผ่ขยายออกไปโดยรอบ ทำให้เทวดาและสิ่งศักดิ์สิทธิ์กลางเมือง ถดถอย ยามเมื่อภัยใหญ่มาถึง อะไรก็เอาไม่อยู่

ส่วนคนบุญ...อานิสงส์ปัจจุบันในช่วงนี้จนถึงก่อนเกิดเหตุเท่านั้น จะช่วยให้ท่านรอดพ้นจาก เภทภัยร้ายนั้นได้

โชคดีๆๆ จงเป็นของทุกท่าน

 

ค้นจาก google มาให้

ป่ากระต่ายขี้ คือ ป่าละเมาะ มีต้นไม้เล็ก ๆ เป็นพุ่ม ๆ และมีทุ่งหญ้า ไม่มีต้นไม้ใหญ่ ๆ ทึบ ๆ กระต่ายจะออกมาขี้ ออกมาผึ่งแดดยามเช้า ตามปกติมักจะเป็นชายป่าใหญ่ หรือชายทุ่ง ถ้ากระต่ายออกมาขี้ได้แปลว่าแถวนั้นเป็นที่รกร้าง

 

ก่อนที่จะช้าไป แย้มสักนิดได้มั้ย ว่า จะเกิด อะไร ที่ไหน เมื่อไหร่ครับ อย่างน้อยก็เป็นการช่วยเตือน

 

คนมีอายุมาตอบให้ "ป่ากระต่ายขี้" แปลว่า พื้นที่ซึ่งไม่มีผู้คนอาศัยอยู่ หรือที่รกร้างว่างเปล่า นั่นเอง
แต่ป่ากระต่ายขี้ นี่ยังดีกว่าโดนน้ำท่วมไม่เหลือให้ทั้งคนและกระต่ายขี้อ่ะดิ่...อันนี้น่าคิดมากกว่า

 

(เวลาเหลือน้อยแล้ว อีกไม่กี่ปีแล้ว (ไม่ใช่ปี 55 ) รีบเร่งทำความดีกันไว้)
เอาวะ...พอมีเวลาหายใจได้อีกเฮือกหนึ่ง สู้ สู้ :VO:VO:VO

 

อืมมม...
น่าคิด ป่ากระต่ายขี้
แต่ผมว่ายังจะดีกว่าไม่มีพื้นดินให้เหยียบนะ

 

จบก่อนสิ้นปีไหมครับ จะรออ่านต่อครับ

 

จบแล้วหรอครับ รอฟังต่อครับ