แจกฟรีฮู้ (โป้ยก้วยหลักเล้ง)/ผ้ายันต์จีน จากมาเลเซีย แจกฟรีครับ แต่ช่วยค่าส่งหน่อย

แจกฟรีฮู้ (โป้ยก้วยหลักเล้ง)/ผ้ายันต์จีน
จากมาเลเซีย แจกฟรีครับ แต่ช่วยค่าส่งหน่อยเถอะ
มีน้ำใจครับแต่เงินไม่เยอะที่จะออกค่าส่งให้น่ะครับ​

.......................เป็นผ้ายันต์ ที่ ทางคณะ ศาลเจ้า และอาจารย์ ผม
(ครูบาเจ้าเทพมุณี) ได้จัดสร้างไว้ที่วัดประเทศ มาเลเซีย เพื่อจัดจำหน่าย หารายได้ เพื่อทำการเชิญพระจากไทยใหญ่ ประเทศ พม่า มาประดิษฐาน ที่ วัดนี้
ชื่อ
วัดพม่า จองคำ ธรรมเจริญ
อยู่ที่
เขต ตงโบ๊ะ
เมืองตันโจ๋งสะปั้ต
รัฐสลางงอ
ประเทศมาเลเซีย

ทางคณะ กรรมการ และ ท่านครู ได้จัดสร้างขึ้นมา จำนวน ไม่มากครับ เผอิญ แอบ จิ๊ก ไว้ปึกหนึ่งว่าจะเอาไปแจกเพื่อนๆ ที่เมืองไทย
(หุหุ จะบาปป่ะเนี้ยะ)
มีรอยระทับตราวัด(ของมาเลเซีย)ด้วยครับ พร้อมลายเซ็นของท่านครู ทำการปลุกเสก และมีคณะ นักบวชจีน มาทำการ ไค่กวง-คุ้ยกึง(เปิดญาญธรรมรัศมี)ของผ้ายันต์ ชุดนี้ แล้วครับ ที่ มาเลเซีย
แจกฟรีครับ แต่จนตังส์จังไม่งั้น ส่งให้พร้อมเสร็จแล้ว เอางี้ ดีกว่า ช่วยกันไปช่วยกันมาล่ะกันครับ
เพราะผ้ายันต์ชุดนี้ น่าสนใจมากทีเดียว เพราะมีลักษณะคล้าย ผ้ายันต์ มงคลจักวาลหรือโพธิบาทว์ ที่ รายล้อมรอบด้วยดั่งกำแพงแก้วเจ็ดประการ ที่แวดล้อมกันสรรพยันต์อันตรายและหนุนนำเสริมบารมีแก่
ผู้ที่พกพา เหมาะสำหรับ เจ้าของห้างร้าน จะนำไปใส่กรอป ขึ้นหน้าบ้านหน้าร้าน ก็เป็นศิริมงคลก็ดีอย่างยิ่ง
..............เป็นลายมือมาสเตอร์ของท่านครูครับ แล้ว ก๊อปปี้ ทำออกมาสกรีน ทำมาไม่มากนัก
####ที่มาเล ออกให้เช่าบูชา
ประมาณ 69 ริงกิตมาเลเซีย/หรือ 690 ไทยบาท

""""""""แต่ผ้ายันต์ ชุดนี้ ผม ได้ มาฟรี แถมแจกเพื่อนไปไม่กี่คนเอง ยังเหลืออีก ไม่มากนัก แจกฟรีครับ แต่ช่วยค่าส่งหน่อยเถอะ เพราะงวดที่แล้ว ไปแจกที่เว็ป สักเสกเลขยันต์ ไม่มีใคร ช่วยผมเลย โดนค่าส่ง ไป เกลือบ 5,600 บาท โอ้ว แย่จังเลยครับ
กลุ้ม ไปเป็นเดือน แต่งวดนี้ จะจัดส่ง ให้ครับ แต่จากต่างประเทศนะครับ พร้อมประกันของหายด้วย(ปัจจุบันผมอยู่ที่ประเทศมาเลเซีย)

กติกา

1 โพสลง ในข้อความหน้าโพสของผมครับ
ที่นี้ ต่อจากตรงนี้ ไปได้เลย หรือ ที่

ผ้า ยันต์(ฮู้) จีน | Facebook

1.1 แจ้งรายละเอียด ชือ-นามสกุล(ไทยและอังกฤษ)
ที่อยู่ปัจจุบัน สามารถพร้อมจัดส่งได้ถึงมือผู้รับ
(บ้านเพื่อนบ้านแฟน ไม่เอาเด้อ)

2หากจะบอกว่า ช่วยค่า จัดส่งสัก 200 ไทยบาทหรือเท่ากับ20 ริงกิตมาเลเซีย คง ไม่แพง ไปนะครับสำหรับการจัดส่งจาก มาเลเซีย สู่เมืองไทย

3 หากต้องการฟรี สามารถมารับเองได้ที่ หาดใหญ่ ทุกวันที่ 15-20 ครับเพราะผมจะเดินทางกลับไปที่หาดใหญ่ทุกเดือน ที่หน้ากองบินกองทัพอากาศ สนามบินหาดใหญ่
(แต่ต้องแจ้งล่วงหน้านะครับ ว่าต้องการมารับด้วยตัวเอง เพราะไม่งั้นอาจจtไม่ได้ นำใส่กระเป๋าเดินทางกลับไปด้วยแน่นอน)

4 โอนเงินช่วยค่าจัดส่งหน่อยนะครับ
(เพราะใจดีอยากให้แต่ทุนน้อยเหลือเกินที่จะออกค่าจัดส่งให้ โดยเงินส่วนตัว)

ช่วยโอนเงิน 200 ไทยบาท

มาที่ .

ธ.ซีไอเอ็มบีไทย
MR.PIYAPUT CHUEAKAVILAVONG
หมายเลขบัญชี 429-2-04373-7
สาขา ถนนศุภสารรังสรรค์
บัญชีออมทรัพย์

จะเป็นค่าจัดส่งให้จาก มาเลเซีย ไปยังเมืองไทยครับ
(ราคาปรกติในการส่งจม.แบบธรรมดา 1 ฉบับต่อ 1 ผืน)

5 เมือโอนเงินเรียบร้อยแล้ว ช่วยเก็บหลักฐานใบเสร็จการโอน ไว้ด้วยนะครับจนกว่าจะได้รับของที่จัดส่งไปให้ เพื่อเป็นหลักฐานยืนยัน
แล้วช่วยโพสแจ้งมาด้วยว่า โอน ค่าช่วยจัดส่งมาวันที่ เท่าไหร่ เวลากี่โมง
เมื่อทางผม รับทราบแล้ว จะรีบดำเนินการจัดส่ง ไปให้ทันที่
ที่ได้รับแจ้งวันเวลา การช่วยค่าส่ง (ผมว่าแบบนี้ ดีกว่า ไม่ช้ำทั้งสองฝ่ายครับ)
เมื่อผมส่งไปรษณีย์พัสดุไปให้แล้ว จะแจ้ง หมายเลขโค็ตไปให้
เพื่อ เอาไว้เป็นหลักฐาน การยืนยันเพื่อรับของจากไปรษณีย์

เฉพาะ คนที่ต้องการจริงๆนะครับ ขอยืนยันว่าไม่ขาย แต่ช่วย ผมเป็นค่าส่งหล่ะกัน คงหวังว่าผมคง ไม่เข้าเนื้อ เหมือนเมื่อคราวที่แล้วนะครับ
แง้ๆๆๆๆใจดีนะ แต่ งบน้อยน่ะ ไม่งั้น จะส่งให้ไม่ต้องออกตังส์เลย นอนตีพุงรอที่บ้านคอยรับได้เลย แต่ แค่อยากบอกว่า อยากแจกจริงๆ นะ
ช้าหมด อด เน้อ!!
ที่อยู่ ติดต่อ ครับ สำหรับคนที่อยากส่ง จม.มาสอบถาม ยินดีครับ

Lot 1871 Tokong Jalan Tambuk
Kg. pantai 42800 Tg. sepat selangor
Malaysia.
หรือที่เบอร์ โทรศัพย์
+60163505616
ครับ ต้องอย่าลืม กด เครื่อง หมายบวกด้วยนะครับ
เพราะเป็นเบอร์ต่างประเทศอ่ะนะ

โอ้ ขอย้ำนะครับ ช่วยค่าจัดส่งผมแค่ 200 บาท/1ชิ้น/1ซองการจัดส่ง/1 ชื่อครับ หากท่าน ต้องการหลายชิ้น ก็คิดเป็นหนึ่งซอง ครับ เพราะ เวลาส่ง เขาชั่งน้ำหนักอ่ะนะ
เช่น ช่วยค่า ส่งผม มา 200 บาท ขอ 4 ผืน เวลา เขาชั่งน้ำหนัก คิดราคา ไปรษณีย์ พัสดุที่นี้ เขา จะคิดเป็น 800 บาท แง้ๆๆๆ ผมต้องควัก เนื้อ เหรอ แจกให้ฟรีแล้วนะเนี้ยะ
หากเรียบร้อยแล้ว ช่วยโพส
1 ชื่อนามสกุล (ไทย อังกฤษ)
2 สถานที่จัดส่ง โดยละเอียด
3 จำนวนเงินที่ส่ง วันที่ เวลา ที่โอนเงินมาด้วยครับ
####และกรุณาเก็บเอกสารการโอนไว้ด้วยนะครับ จนกว่าจะได้รับของ
ปล. จะปิดการแจก รอบที่ 1 ในวันที่ 6/8/54 เวลา 6 โมง เย็นครับ
มีจำนวนจำกัด ไม่เกิน 50 ท่าน เท่านั้น

 

เอาภาพวัด และงานพิธี มาให้ชมกันครับ
วันนั้น ได้ทำพิธี ขึ้นพระ องค์ ใหม่ เป็นพระ พุทธรูปไทยใหญ่ ที่อัญเชิญมาจากพม่า
และ ทำพิธี ตั้งศาลองค์ ท้าวมหาพรหมสี่หน้า ที่ อัญเชิญมาจากเมืองไทย
เพื่อมาประดิษฐานที่นี่ ครับ และวันนั้น นี่เองเป็นวันที่เปิดให้บูชา ฮู้ ชุดนี้ ศักดิ์สิทธิ์มาก คนที่นี้ บูชาไปแล้วมัก จะหวงแหนเป็นที่สุด ภาพนี้ ถ่ายเมื่อประมาณ 2-3 ปีที่แล้วครับ ตอนนั้นที่ นำออกมา ให้ บูชา น่าจะ 69 ริงกิตมาเลเซีย แต่ผมแจกฟรีครับเพราะแอบจิ๊กท่านครูมาปึกหนึ่ง เห้นที่ต้องไถ่ โทษไถ่บาป ซะหน่อย เลยตัดสินใจเอาออกมาแจกฟรีกัน แต่ก็ช่วยค่าส่งผมหน่อยล่ะกันครับ

 

เอาภาพวัด และงานพิธี มาให้ชมกันครับ
วันนั้น ได้ทำพิธี ขึ้นพระ องค์ ใหม่ เป็นพระ พุทธรูปไทยใหญ่ ที่อัญเชิญมาจากพม่า
และ ทำพิธี ตั้งศาลองค์ ท้าวมหาพรหมสี่หน้า ที่ อัญเชิญมาจากเมืองไทย
เพื่อมาประดิษฐานที่นี่ ครับ และวันนั้น นี่เองเป็นวันที่เปิดให้บูชา ฮู้ ชุดนี้ ศักดิ์สิทธิ์มาก คนที่นี้ บูชาไปแล้วมัก จะหวงแหนเป็นที่สุด ภาพนี้ ถ่ายเมื่อประมาณ 2-3 ปีที่แล้วครับ ตอนนั้นที่ นำออกมา ให้ บูชา น่าจะ 69 ริงกิตมาเลเซียประมาณ 690บาท แต่ผมแจกฟรีครับเพราะแอบจิ๊กท่านครูมาปึกหนึ่ง เห้นที่ต้องไถ่ โทษไถ่บาป ซะหน่อย เลยตัดสินใจเอาออกมาแจกฟรีกัน แต่ก็ช่วยค่าส่งผมหน่อยล่ะกันครับ แค่ 200 บาท ก็พอครับ

 

ขอจอง 2 ผืนครับ โอนเงินแล้วจะแจ้งให้ทราบอีกครั้ง

 

อภิณสรณ์ บุญถนอม (ผมขอ 4 ผืน เพื่อให้กับญาติพี่น้องไว้ใช้นะครับ)
ที่อยู่ 125/1 หมู่ 1 ซอย 21 ต.บางทราย อ.เมือง จ.ชลบุรี 20000

โอนให้แล้วนะครับ นะครับ 200 บาทไทย ยังงัยช่วยแจ้งด้วยได้รับแล้วหรือไม่
(โอนให้วันที่ 11 July 2011 time : 14.14pm)
อนุโมทนา ครับ

 

อนุโมทนาบุญนะค่ะ

"ขอ ฮู้ (โป้ยก้วยหลักเล้ง)/ผ้ายันต์จีน 2 ผืนได้มั้ยคะ "

ดวงใจ ศานติวิวัฒน์กุล ( Duangjai Santiwiwatkul )
70 ม.4 ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี 12120

 

ยินดีอย่างยิ่งครับพี่ อนุโทนาสาธุครับ ผมเคยเอาผ้ายัน์ใส่ซองจดหมายของที่นี่ แล้วชั่งกิโลมิตเตอร์ครับ การส่งของที่นี่ ท่า ไม่ใช่กระดาษ เขาจะชั่งกิโลหมดเลยครับ คิดกันเป็นกรัม ผมลอง ใส่ไปหนึ่งผืน ให้เพื่อนผม น้ำหนักอยู่ที่ 50 กรัม เขาคิดราคา 20 ริงกิต หรือประมาณ 200 บาทในการส่ง ไปต่างประเทศ ครับ ถ้าหลายผืน ก็ จะคิดราคาเพิ่มน่ะครับพี่ ดังนั้นต้องกราบขอโทษมากๆ เลยครับ ถ้าผม จะส่งไป ได้เพียง 1 ผืน/200 บาท /1 ท่าน เท่านั้นนะครับ ยังไง ก็ อนุโมทนาสาธุด้วยครับ ขอ บารมีแห่งเต๋า และ ธรรมชาติแห่งโลก คุ้มครองทุกท่านนะครับ
ปล.. กรุณาเก็บ ใบเสร็จการโอนเงิน ไว้ด้วยนะครับ จนกว่าจะได้รับของ ที่ส่งไป น่ะ

 

ยินดีอย่างยิ่งครับพี่ อนุโทนาสาธุครับ ผมเคยเอาผ้ายัน์ใส่ซองจดหมายของที่นี่ แล้วชั่งกิโลมิตเตอร์ครับ การส่งของที่นี่ ท่า ไม่ใช่กระดาษ เขาจะชั่งกิโลหมดเลยครับ คิดกันเป็นกรัม ผมลอง ใส่ไปหนึ่งผืน ให้เพื่อนผม น้ำหนักอยู่ที่ 50 กรัม เขาคิดราคา 20 ริงกิต หรือประมาณ 200 บาทในการส่ง ไปต่างประเทศ ครับ ถ้าหลายผืน ก็ จะคิดราคาเพิ่มน่ะครับพี่ ต้องกราบขอโทษมากๆ เลยครับ ถ้าผม จะส่งไป ได้เพียง 1 ผืน/200 บาท /1 ท่าน เท่านั้นนะครับ ยังไง ก็ อนุโมทนาสาธุด้วยครับ ขอ บารมีแห่งเต๋า และ ธรรมชาติแห่งโลก คุ้มครองทุกท่านนะครับ<!-- google_ad_section_end --> แต่ยังไง ก็ช่วย ค่า จัดส่งผม หน่อยนะครับ ไม่งั้นเข้าเนื้อแน่เลยอ่ะ
ช่วยอ่าน กติกา ให้ละเอียดด้วยครับ พอโอน ค่าช่วยจัดส่งมา ช่วยแจ้งวันที่เวลา โอน แล้วช่วยแจ้งมาด้วยว่า โอน ค่าช่วยจัดส่งมาวันที่ เท่าไหร่ เวลากี่โมง
เมื่อทางผม รับทราบแล้ว จะรีบดำเนินการจัดส่ง ไปให้ทันที่
ที่ได้รับแจ้งวันเวลา การช่วยค่าส่ง(ผมว่าแบบนี้ ดีกว่า ไม่ช้ำทั้งสองฝ่ายครับ) เมื่อผมส่งไปรษณีย์พัสดุไปให้แล้ว จะแจ้ง หมายเลขโค็ตไปให้ อนุโมทนาครับ

 

อนุโมทนาสาธุ ทุกท่านครับ

 

เรามาชมภาพวันงานพิธีดีกว่าครับ
วัดนี้ เป็นวัดสาขา ของท่านครู อยู่ที่มาเลเซียครับ รัฐสลางงอ
หากมีโอกาส จะเอาภาพวัดที่ ญี่ปุ่น กับ อินโดนี่เซีย มาฝากให้ชมกันครับ

 

ฮู้ ผ้ายันจีน

ฮู้ (ยันต์)<?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-comfficeffice" /><o></o>​

《符》​

​

ฮู้ 《符》หรือ ยันต์ถือเป็นเอกลักษณ์ที่สำคัญของชาวจีนที่คนทั่วไปสามารถเห็นได้จนเจนตา ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นผลสืบเนื่องมาจากความเชื่อทางศาสนาและวัฒนธรรม เป็นการยากที่ระบุว่าฮู้มีต้นกำเนิดเมื่อใด โดยตำนานบ้างก็ว่า มีมาแต่สมัยผานกู่ 《盘古》 สร้างโลก บ้างก็กว่าฝูซี 《伏羲》 เป็นผู้ให้กำเนิด บ้างก็ว่าจิ่วเทียนสฺวียนนฺวี่ 《九天玄女》เป็นผู้ให้กำเนิดสมัยเมื่อมาช่วยหวงตี้ 《黄帝》 บุกเบิกแผ่นดิน ซึ่งช่วงเวลาที่ตำนานทั้งหมดกล่าวถึงมานี้มานี้ มีอายุเก่าแก่ไม่ต่ำกว่า 4,000 ปี แต่นั่นก็เป็นเพียงตำนานหรือเทพนิยาย ไม่อาจใช้เป็นหลักฐานอ้างอิงได้ จากหลักฐานทางประวัติศาสตร์ ทำให้เราสันนิษฐานได้ว่า ความเชื่อเรื่องฮู้น่าจะก่อตัวขึ้นในสมัย “ชุนชิวจ้านกว๋อ” 《春秋战国》 (ก่อนพ.ศ. 227 ปี – พ.ศ. 322) <o></o>

<o></o>​

ฮู้ถือกำเนิดก่อนที่ศาสนาเต๋าจะเป็นรูปร่าง และภายหลังได้ถูกจัดรวมเป็นศาสตร์แขนงหนึ่งของศาสนาเต๋า โดยถือเป็นส่วนหนึ่งของ 1 ใน 5 ศิลปะศาสตร์ของศาสนาเต๋า จนถึงปัจจุบันเราสามารถแบ่งฮู้ออกได้เป็น 7 ลักษณะคือ <o></o>
<o></o>
1. มีลักษณะเป็นสัญลักษณ์
<o>2. มีลักษณะเป็นอักษรประดิษฐ์ โดยจะประดิษฐ์จากตัวอักษรจีน ซึ่งตัวอักษรที่มักใช้กันมากคือ อฺวี๋ (ฝน)《雨》, กุ้ย (ผี) 《鬼》, ชื่อ (คำสั่ง)《敕》, เฟิ่ง (ประกาศิต) 《奉》ฯลฯ
<o>3. มีลักษณะเป็นอักษรเฉพาะ โดยอักษรประเภทนี้เป็นอักษรโบราณ (ปัจจุบันเลิกใช้แล้ว) และอักษรบางตัวเป็นอักษรที่ใช้เฉพาะภายในศาสนาเต๋า ซึ่งความหมายของอักษรเหล่านี้ (บางส่วน) สามารถหาได้ในพจนานุกรมภาษาจีนขนาดใหญ่สมัยก่อน อาทิเช่น《道教大辞典》และ 《康熙字典》</o>
<o>4. มีลักษณะเป็นอักษรโดยปกติ </o>
<o>5.ประเภท “ตั่วฮู้”(สำเนียงจีนกลางออกเสียงว่า “ต้าฝู”) 《大符》ฮู้ประเภทนี้มีรายละเอียดมากใช้เขียนลงบนวัสดุที่มีขนาดใหญ่ และค่อนข้างทนทาน เริ่มแรกนั้นมักเขียนลงในผืนผ้า หรือแผ่นไม้ โดยนำแขวนบูชาไว้ในห้องพระ หรือประดับในโถงรับแขก ต่อมาภายหลังมีการประยุกต์โดยการนำไปเขียนลงบนผืนธงเทพธวัช หรือ “เหล่งกี” 《令旗》</o>
<o>6. มีลักษณะเป็นแบบพิมพ์ โดยฮู้ประเภทนี้มักเป็นของศาลเจ้า มักผลิตด้วยเหตุผลเพื่อความสะดวกและต้องการใช้ในปริมาณมากๆ โดยอาจจะมีรูปของเทพเจ้า, ชื่อศาลเจ้า ตลอดจนถึงสัญลักษณ์และวลีมงคลประกอบด้วย
<o>7. มีลักษณะนอกแบบ กล่าวคือเป็นฮู้นอกเหนือจากลักษณะที่กล่าวมาข้างต้น เป็นฮู้ที่เขียนขึ้นโดยไม่มีตำราที่สามารถอ้างอิงหรือรองรับได้ ฮู้ประเภทนี้มักเขียนโดยร่างทรง (ตั่งกี) โดยจะเขียนขึ้นอย่างรวดเร็วในขณะที่เทพประทับทรง <o></o>
<o></o>
โดยฮู้ทั้ง 7 ประเภทที่กล่าวมาข้างต้น มีเฉพาะประเภทที่ 4, 5 และ 6 เท่านั้น ที่คนที่ไม่เคยศึกษาทางด้านนี้ ขอเพียงอ่านภาษาจีนออก ก็สามารถทราบว่าฮู้ประเภทนี้มีไว้ใช้เพื่อการณ์สิ่งใด และฮู้ประเภทที่ 6 นั้น ศาสนาเต๋าสายเขียนฮู้ ไม่ยอมรับด้วยฮู้ที่เกิดจากการพิมพ์ด้วยนัยยะทั้งปวง ด้วยถือว่าฮู้ที่เกิดจากการพิมพ์ถือเป็นโมฆะ (ไม่ใช่เพราะสมัยก่อนไม่มีการพิมพ์ ชาวจีนเป็นชนชาติแรกในโลกที่รู้จักการพิมพ์ โดยเริ่มมีการพิมพ์ตั้งแต่สมันราชวงศ์ถัง) ที่มาของฮู้ในรูปลักษณ์ต่างๆนั้น เชื่อกันว่า มีที่มา 3 ประการคือ <o></o>
<o></o>
1. ได้รับการถ่ายทอดจากเทพเจ้า<o></o>
2. เกิดจากการจำลองภาพปรากฏการณ์ของเทหวัตถุบนท้องฟ้า และ<o></o>
3. มาจากภาพนิมิตในการปฏิบัติสมาธิของนักพรตในศาสนาเต๋า
<o>ทั้งนี้เรายังสามารถแบ่งประเภทของฮู้ ออกตามวัตถุประสงค์ของการใช้งาน ได้เป็น 10 ประเภท คือ<o></o>
<o></o>
1. ใช้เพื่อเคารพบูชาโดยถือเป็นสิ่งแทนองค์เทพเจ้า<o></o>
2. ใช้เพื่อการรักษาโรค ตลอดจนถึงการรักษาบาดแผล<o></o>
3. ใช้เพื่อการไล่ผี หรือไล่สิ่งอัปมงคล ตลอดจนถึงการสเดาะเคราะห์<o></o>
4. ใช้เพื่อการคุ้มครองให้แคล้วคลาดปลอดภัย<o></o>
5. ใช้เพื่อการขอโชคลาภให้ร่ำรวย หรือประสบความสำเร็จในธุรกิจ<o></o>
6. ใช้เพื่อการสอบ, การแข่งขัน ตลอดจนถึงการเลื่อนยศเลื่อนตำแหน่ง<o></o>
7. ใช้เพื่อให้มีมนุษย์สัมพันธ์ดี (มีเสน่ห์) ,ให้มีชื่อเสียง ตลอดจนถึงการทำให้คนรักกัน (ทำเสน่ห์) หรือทำให้คนเกลียดกัน<o></o>
8. ใช้เพื่อการทำร้าย หรือฆ่าคน<o></o>
9. ใช้เกี่ยวกับการจัดชัยภูมิ (ฮวงจุ้ย)<o></o>
10. ใช้เพื่อการฝึกวิชาของนักพรตในศาสนาเต๋า
<o>และยังสามารถแบ่งประเภทของฮู้ ตามลักษณะของวิธีการใช้งาน ได้เป็น 7 ประเภท คือ<o></o>
<o></o>
1. นำฮู้ผกติดตัวตัว<o></o>
2. นำฮู้เผาไฟ โดยแบ่งออกเป็น <o></o>
2.1 เผาแล้วเอาเถ้าผสมยากิน<o></o>
2.2 เผาแล้วเอาเถ้าผสมน้ำดื่ม<o></o>
2.3 เผาแล้วเอาเถ้าผสมน้ำอาบ (ร่างกาย) หรือ ทำความสะอาด (สิ่งของ)<o></o>
2.4 เผาแล้วเอาเถ้าผสมน้ำใส่ปากแล้วพ่น <o></o>
2.5 เผาต่อหน้าคน<o></o>
2.6 เผาในที่กลางแจ้ง<o></o>
2.7 เผาในขณะที่ทำพิธี<o></o>
3. ปล่อยฮู้ให้ลอยน้ำไป <o></o>
4. นำฮู้ไปติดตามที่ต่างๆ (เช่นติดบนประตูบ้าน)<o></o>
5. นำฮู้ไปซ่อนหรือเก็บไว้ตามที่ต่างๆ<o></o>
6. นำฮู้ไปต้ม (โดยมากมักนำไปต้มร่วมกับยาสมุนไพรจีน)<o></o>
7. นำฮู้มากินโดยการกลืนลงไป
<o>ในปัจจุบันมีผู้ศึกษาวิชาเขียนฮู้มากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งนี้เพราะจำนวนประชากรที่เพิ่มขึ้น ทำให้ผู้ที่สนใจศึกษาก็มีเพิ่มขึ้นด้วย อีกประการหนึ่งคือในปัจจุบันจะพบว่าวิชาแขนงนี้มีการเปิดตัวมากขึ้นไม่ปิดบังเหมือนดังแต่ก่อน (แต่ก็ยังไม่เปิดทั้งหมด) โดยผู้ศึกษานั้นก็มีวัตถุประสงค์ที่แตกต่างกันไป บ้างก็ศึกษาเพราะสนใจในด้านนี้ บ้างก็เพื่อต้องการสืบทอดวัฒนธรรม บ้างก็ศึกษาเพื่อต้องการเป็นผู้วิเศษ บ้างก็ต้องการศึกษาเพื่อทดลองดูว่าจริงหรือไม่ บ้างก็ต้องการเพื่ออวดตนว่าเป็นผู้รู้ แต่ทั้งนี้ไม่ว่าเป็นเพราะสาเหตุใด สิ่งที่ผู้ศึกษาจะต้องตระหนักคือ เมื่อเริ่มศึกษาจะด้วยเหตุผลใดไม่สำคัญ แต่เมื่อเริ่มศึกษาแล้วมีวัตถุประสงค์เดียวคือ เพื่อช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ ไม่เช่นนั้นแล้วฟ้าดินจะลงทัณฑ์อย่างแน่นอน โดยทั่วไปผู้ศึกษาวิชาแขนงนี้มีกฎพึงปฏิบัติดังต่อไปนี้ (ทุกสำนักและทุกสาย)
<o>1. ต้องซื่อสัตย์และกตัญญู เหตุที่จัดเรื่องนี้ไว้เป็นอันดับแรกเพราะเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด [FONT=ˎ̥]“ซื่อสัตย์และกตัญญู[FONT=ˎ̥]” คำนี้ใครก็พูดได้ แต่ทำกลับไม่ง่ายนัก เอาเข้าจริงความหมายของคำนี้ สำหรับคนในยุคปัจจุบันกับคนสมัยก่อนก็ต่างกันมาก คนสมัยนี้มีอิสระมีความคิดเป็นของตนเอง ซึ่งเมื่อเทียบกับคนสมัยก่อนนับว่าต่างกันมาก ไม่ว่าจะเป็นคำสอนหรือคำสั่งของครูบาอาจารย์หรือพ่อแม่ คนสมัยก่อนมีหน้าที่ปฏิบัติตามสถานเดียว ไม่มีสิทธิ์ที่จะบ่ายเบี่ยง หรือจะละเมิดด้วยเห็นว่าไม่สมควรแก่เหตุ ไม่มีสิทธิ์แม้จะสงสัย คนจีนนั้นเรียกอาจารย์ว่า [FONT=ˎ̥]“ซูฮู[FONT=ˎ̥]” 《师父》[FONT=ˎ̥] (จีนกลางออกเสียงว่า [FONT=ˎ̥]“ซือฟู่[FONT=ˎ̥]”) ด้วยอรรถว่า เปรียบอาจารย์ประดุจดังบิดา 《以师为父》 ว่าถ้าศึกษาจากอาจารย์ที่เป็นคน ก็ต้องฟังคำสอนของอาจารย์ สอน เราไม่มีสิทธ์แม้แต่จะคิดว่าสิ่งที่ครูอาจารย์สอนสั่ง หรือความประพฤติของท่านจะถูกหรือผิด และไม่แสวงหาสิ่งที่นอกเหนือจากอาจารย์ ว่าถ้าจะมีก็ต้องขอ และได้รับอนุญาตจากอาจารย์ก่อน ในกรณีที่จะศึกษาจากอาจารย์อื่นเพื่อต่อยอด จะต้องเรียนให้อาจารย์ท่านเดิมรับทราบก่อนด้วย ส่วนผู้ที่ศึกษาจากตำราด้วยตนเอง ตำราก็คืออาจารย์ให้กราบไหว้ นั่นคือในทางปฏิบัติ แต่โดยจิตสำนึกคือการกราบไหว้พระคุณของบูรพาจารย์ที่สืบทอดกันมารุ่นต่อรุ่น นี่เป็นประเด็นที่ผู้ศึกษาจะต้องตระหนัก ว่าหาไม่แล้วจะต้องพบความวิบัติอย่างรวดเร็ว แน่นอนว่าการเคารพครูอาจารย์ของตนเป็นสิ่งที่ดี แต่ก็ไม่ควรดูถูกเหยียดหยามในความรู้ของผู้อื่น ว่าโดยความจริงวิชาทุกสาขาในโลกนี้มีการสืบทอดเป็นระยะเวลาที่ยาวนาน แตกแขนงเป็นหลายสาขาหลายสาย การที่จะมีแนวคิด ตลอดจนถึงข้อปฏิบัติที่แตกต่างกันย่อมเป็นไปได้ จึงถือเป็นความหลายทางวิชาการ และวัฒนธรรม ไม่ควรที่จะนำมาเป็นประเด็นที่จะนำไปสู่ความขัดแย้ง หรือโจมตีซึ่งกันและกัน บางคนนั้นพอไม่มีความรู้ก็เหมือนลูกแมว พอมีความรู้เข้าหน่อยก็เหมือนเสือ เริ่มมีเขี้ยวมีเล็บ ก็เริ่มไล่กัดผู้อื่น ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่สมควรอย่างยิ่ง เป็นสิ่งสำคัญที่ผู้ศึกษาพึงตระหนักอย่างยิ่ง<o></o>
2.ทรลักษณ์ อกตัญญู เนรคุณ ไม่เชื่อฟังคำสอนครูอาจารย์ และใช้ฮู้ส่งเดชไม่สมควรแก่เหตุ ฟ้าดินลงโทษ อายุจะสั้น<o></o>
3. เรียนวิชาด้วยใจไม่ซื่อ ภัยจะมาถึงตัว<o></o>
4.ต้องถือศีลกินเจในทุกวันขึ้น 1 ค่ำและ 15 ค่ำจันทรคติจีน <o></o>
5.ห้ามมีเพศสัมพันธ์ในวันขึ้น 1 ค่ำและ 15 ค่ำจันทรคติจีน (ถ้ามีคู่ครองต้องแยกห้องนอน)<o></o>
6.หมั่นสร้างกุศลทุกชนิด ห้ามฆ่าสัตว์ มีโอกาสควรปล่อยสัตว์<o></o>
7.ห้ามกินเนื้อ สัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ เช่น ปลาไหล, กบ, เต่า, ตะพาบ, งู ห้ามกินเนื้อสัตว์ใหญ่ เช่น วัว, ม้า, และห้ามกินเนื้อสุนัข<o></o>
<o></o>

โดยการเขียนฮู้นั้นจะต้องมีอุปกรณ์ที่สำคัญดังต่อไปนี้​

<o>

2.หมึกจีน โดยมีชนิดหมึกแท่ง และน้ำ (บางคนอนุรักษ์นิยมจะนิยมใช้แบบแท่งนำมาฝนกับน้ำในจานหมึก โดยบางสำนักจะมีคาถาภาวนา ขณะฝนหมึก) <o></o>​

<o></o>​

หมึกจีนชนิดแท่ง​

​

3.ผงชาด 《朱砂》​

​

4.แป้นหมึก 《砚》​

​

5.กระดาษสำหรับเขียนฮู้ หรือผ้า​

​

โดยมากจะใช้หมึกจีน และใช้กระดาษสีเหลืองในการเขียนฮู้ รองลงมาคือ การดาษสีแดง นอกจากนี้ยังมีการใช้กระดาษ 5 สี คือ แดง, ขาว, ดำ, เขียว และ เหลือง ในการเขียนฮู้ อันเป็นสัญลักษณ์ตัวแทนของธาตุทั้ง 5 โดยมากมักจะใช้กับฮู้ประเภทประจำทิศ ขณะที่ชาวจีนแต่จิว《潮州》 จะนิยมใช้กระดาษสีเขียวในการเขียนฮู้ โดยทั่วไปแล้วฮู้ที่ไม่มีการระบุว่าต้องใช้กระดาษสีใด และใช้อะไรเขียน ก็จะใช้กระดาษเหลืองและหมึกจีน (หมึกดำ) ในการเขียนฮู้ ขนาดของกระดาษในการเขียนฮู้โดยมาก จะเป็นรูป 4 เหลี่ยมผืนผ้า ไม่มีการกำหนดขนาดตายตัว ยกเว้นฮู้บางชนิดที่กำหนดขนาดชัดเจนว่า ต้องใช้ขนาดเท่าใด (โดยทั่วไปในกรณีที่ไม่ระบุ จะมีขนาดประมาณ 8 x <?xml:namespace prefix = st1 ns = "urn:schemas-microsoft-comffice:smarttags" /><st1:metricconverter w:st="on" ProductID="25 เซนติเมตร">25 เซนติเมตร</st1:metricconverter>) ทั้งนี้อาจมีการประยุกต์ใช้ไม้วัดเหวินกง 《文公尺》 ประกอบ เพื่อใช้วัดหาขนาดที่เป็นมงคล อย่างไรก็ตามก็มีบางสำนักที่กำหนดขนาดของกระดาษอย่างชัดเจน ส่วนพู่กันนั้นบางสำนักจะแยกออกเป็น 2 ชนิดคือ พู่กับบุ๋น (ใช้เขียนหมึกจีน) และพู่กันบู๊ (ใช้เขียนผงชาดหรือจูซา) ซึ่งโดยทั่วไปถือตรงกันว่าพู่กัน และจานหมึกที่จะนำมาเขียนใช้ในฮู้ จะต้องไม่นำมาปะปนกับการใช้งานด้านอื่น และไม่ควรผ่านการใช้งานด้านอื่นมาก่อน<o></o>
การเขียนฮู้นั้นจะต้องเขียนในช่วงเวลาจื้อซี้ 《子时》 (ภาษากลางออกเสียง “จื่อสือ” คือเวลา 23.00 - 01.00 น.) เพราะช่วงดังกล่าวเป็นเวลาที่สงัด ปราศจากสิ่งรบกวน และเป็นช่วงที่ธาตุอินและธาตุหยางเปลี่ยนถ่าย แต่ถ้าสุดวิสัยก็สามารถเขียนในเวลาอื่นได้ แต่ไม่ควรทำโดยไม่จำเป็น เชื่อกันว่าการเขียนฮู้ในวันที่มีฤกษ์ดีจะช่วยเพิ่มพลังของฮู้ได้มาก แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ได้บังคับตายตัวว่าต้องรอฤกษ์ดี มีเพียงบางสำนักเท่านั้น ที่กำหนดว่าต้องรอฤกษ์ แต่ยกเว้นการเขียนตั่วฮู้เท่านั้นที่บังคับว่า ต้องหาฤกษ์ดี อย่างไรก็ตามใน 1 ปี มี 4 วันที่ปรมาจารย์สั่งว่าห้ามเขียนฮู้ ไม่ว่าในวันนั้นฤกษ์จะดีขนาดไหนก็ตาม คือ ขึ้น 9 ค่ำเดือน 3, ขึ้น 2 ค่ำเดือน 6, ขึ้น 6 ค่ำเดือน 9 และ ขึ้น 2 ค่ำเดือน 12 จันทรคติจีน <o></o>

ในการเรียนเริ่มต้นนั้น ไม่ว่าเรียนจากตำรา หรือกับครู สิ่งที่ต้องมีเหมือนกันคือ การไหว้ครู ในเรื่องของสิ่งของที่จะนำมาไหว้นั้น ก็จัดตามความสามารถ ในกรณีที่ฐานะทางการเงินไม่ดีก็ไม่จำเป็นต้องมาก (แม้ว่ารวยก็ไม่ควรสิ้นเปลือง) แต่อย่างน้อยที่สุด ก็ควรจะมีธูป, เทียน และน้ำชา ต่อจากนี้ก็เป็นรายละเอียดของแต่ละสำนัก ซึ่งมีวิธีที่อาจเหมือน, คล้าย จนกระทั่งแตกต่างกันไป เช่นสำนักคุนหลุน 《昆仑派》 เมื่อไหว้ครูจะต้องหันไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ เพราะเชื่อว่า ปรมาจารย์ของสำนัก เป็นดวงดาวที่สถิตอยู่บนท้องฟ้าในทิศดังกล่าว บางสำนักเมื่อเริ่มเรียนจะต้องเขียนฮู้สาบาน ฮู้ดังกล่าวมีลักษณะคล้ายใบสมัคร โดยเป็นฮู้ใบแรกที่จะเขียนในชีวิต เขียนขึ้นเพื่อปฏิญาณตนว่าจะเป็นศิษย์ของสำนัก และจะเขียนเพียงครั้งเดียวเท่านั้น เมื่อทำพิธีเสร็จสิ้น จะเผาฮู้สาบานนี้ไปให้ปรมาจารย์ จึงจะถือว่าเป็นศิษย์อย่างสมบูรณ์ การไหว้ครูนี้สำคัญมาก เชื่อกันว่าถ้าเกิดข้อผิดพลาด คนที่ไหว้ครูถูกต้องจะได้รับการคุ้มครองจากปรมาจารย์ โดยในเรื่องของปรมาจารย์นั้น ทุกสำนัก (โดยเฉพาะในภาคกลางจนถึงภาคใต้ของประเทศจีน) ​

​

จะมีปรมาจารย์สูงสุดเหมือนกัน คือเทพปรมาจารย์ซำเช็ง 《三清》
แต่ในทางปฏิบัตินั้นบางครั้งเราจะพบว่ามีการให้ความสำคัญ กับปรมาจารย์ของแต่ละสำนักมากกว่า​

​

ในการเขียนฮู้นั้นต้องมีสมาธิ (ผู้เรียนวิชาแขนงนี้ต้องฝึกนั่งสมาธิด้วย) และมีกฎว่าห้ามพูดคุยกับใครขณะเขียนฮู้ (บางสำนักมีการฝึกโดยการให้ผู้เขียนอมน้ำขณะเขียนฮู้) ฮู้ที่ดีไม่จำเป็นต้องสวย เพราะไม่ได้เขียนส่งประกวด และไม่ได้กำหนดว่าการเขียนต้องช้าหรือเร็ว เป็นไปตามธรรมชาติตามแต่ที่ควรจะเป็น (ยกเว้นฮู้บางชนิดที่กำหนดว่าต้องเขียนให้เสร็จในชั่วอึดใจเดียว) ที่สำคัญในทุกขั้นตอนของการเขียนฮู้ มีคาถากำกับชัดเจน และในการเสกฮู้แต่ละชนิดจะมีคาถาเฉพาะของฮู้นั้นๆ (ยกเว้นบางชนิดที่ไม่ได้ระบุว่าต้องใช้คาถาใด) ไม่ใช่ฐานะที่ใครจะสักแต่เขียนๆวาดๆ แล้วค่อยมาเสกคาถาทีหลัง ปัจจุบันมีการว่าจ้างให้คนเขียนฮู้ แล้วนำไปให้ร่างทรง (ตั่งกี) ลง ซึ่งวิธีการดังกล่าวไม่ค่อยถูกต้องนัก ฮู้ที่เขียนผิดพลาด, ไม่สมบูรณ์, ผิดขั้นตอน เรียกว่า “กุ้ยฮู้” 《鬼符》(ภาษาจีนกลางออกเสียงว่า “กุ่ยฝู” แปลว่า “ยันต์ผี”) โดยมีภาษิตว่า “ไม่เพียงไม่อาจสำแดงฤทธิ์ แม้ภูตผีก็ยังเย้ยหยัน” อนึ่งในการสวดคาถานั้นจะสวดเสียงดัง – เบา, สวดช้า – เร็ว หรือจะสวดด้วยภาษาจีนสำเนียงใดไม่ใช่ปัญหา ของเพียงมีสมาธิก็เป็นอันใช้ได้ <o></o>

​

​

ในการเขียนฮู้นั้นยังมีองค์ประกอบอันเป็นสัญลักษณ์แห่งอำนาจอีก 3 อย่างคือ ตราประทับ, มุทรา และการเดินดารา <o></o>
<o></o>
ตราประทับเป็นอุปกรณ์ที่ศาสนาเต๋า ทำขึ้นเพื่อเลียนแบบราชสำนักของจีนในสมัยโบราณ เพื่อเป็นใช้เป็นสัญลักษณ์แห่งอำนาจ โดยตราแกะเป็นชื่อตามเทพเจ้าตามที่ต้องการ แล้วนำมาประทับลงบนฮู้ (ในการประทับนี้บางแห่งจะมีคาถากำกับ) วัสดุที่นำมาสร้างก็มีหลากหลายอาทิเช่น หยก, หิน, ไม้ ฯลฯ โดยในส่วนของไม้ที่นำมาทำนั้น มีไม้จากต้นท้อ 《桃树》และต้นหลิว 《柳树》ซึ่งศาสนาเต๋าเชื่อว่าไม้ทั้ง 2 ชนิดนี้เป็นต้นไม้ที่ศักดิ์สิทธิ์ ขณะที่บางแห่งจะใช้ไม้จากต้นส้ม ทั้งนี้เพราะเสียงคำว่าส้ม 《桔树》 พ้องเสียงกับคำว่า “จี๋” 《吉》 ที่แปลว่า “ศิริมงคล” ในส่วนของตราประทับนี้ ยังมีรายละเอียดบางประการซึ่งไม่ขอกล่าวในที่นี้

#######ดังนั้นภายหลังเรา จะพบ ว่า ฮู้นั้น ก็ ได้ขยายเผยแพร่ มายังศาสนาความเชื่อของชาวพุทธ แบบจีนด้วยเช่นกัน ดังนั้น ฮู็ ที่จัดสร้างขึ้นมานั้น จัดเป้นฮู้ หรือผ้ายัน แบบ พุทธศาสนา ที่เอา ความเชื่อ ตามอย่าง เต๋า
</o></o></o></o></o></o>[/FONT][/FONT][/FONT][/FONT]</o>[/FONT]</o>[/FONT][/FONT]

 

สาธุ ครับ นำโม อ่อ หมี่ท่อ ฝ่อ

 

ขอร่วมอนุโมทนาครับ ถ้ามีเงินแล้วจะจะร่วมบูชาด้วยครับ

 

สาธุครับ

สาธุด้วยครับ

 

อนุโมทนาบุญค่ะ

เดี๋ยวจะโอนไป400บาทนะคะ
แล้วจะแจ้งอีกที

 

สาธุครับ

อนุโมทนาสาธุครับผม

 

กลับมาเมืองไทยแล้วค่อยส่งทางไปรษณีย์ได้เปล่าครับจะได้ประหยัดค่าส่งไหนๆๆก็มีกลับมาครับ

 

สาธุครับ
อืมก็ดีเหมือนกัน แต่
1 กระเป๋าสะพาย
2กระเป๋าคอมพิมเตอร์
3 ถุง ของใช้ส่วนตัว

ซึ่งอีสามอย่างนี้ ก็ใส่สารพัด ตั้งแต่กางเกงใน ยันถุงเท้าอ่ะครับ ยินดีครับท่าคุณ ไม่ถืออ่ะ ถ้าหาก( ฮู้ )ไปหมก ใน ถุงเท้ากางเกงในผมอ่ะ
แต่ผมว่า ก็ ไม่เท่าไหร่นะครับ หากต้องการจริงๆ กับแค่ เสียค่าส่งเองผมว่าน่าจะคงไหวอยู่ม้าง เพราะคนที่เข้ามาเล่นคอมพ์ในนี้ ก็ล้วนแต่เป็นคนดีมีการศึกษา รวมทั้งฐานะการเงิน ไอ้ไวรัสคอมพิวเตอร์ คงไม่ส่งคลื่นแม่เหล็กไปป่วนสมอง จนกลายเป็นคนขี้ตืด หรอกน่านะว่าไหม
ทั้งนั้น เป็นน้ำ ใจเล็กๆ น้อยๆ น่ะครับ ตอนแรก ผม ก็คิดว่าจะลง ในนี้ ดีอ่ะเปล่า
เพื่อนคนอินเดียเชื้อสายจีน ที่นี้ ชื่อซาบาล
บอกว่า
ไม่เป็นไรหรอก คนไทยใจดีมากมาก ใจกว้าง ใจบุญไม่ขี้หนียวหรอกเอาลงไปเลย
(เหบี๋ยวกิ้น บ่ ไต่จี่ ไท่ก๊กหลังซิมอีหอฮ่อ ตั่วซิม ไอ้ซิวซิมเจ้กเต้ก หม่ายเขียมหรุ่ย ปังชิเป๋งล้อ)

แหม กว่าผมจะเอามาลงในโลกไซเบอร์ ก็นาน เหมือนกันนะครับ เพราะกลัว กระแสวิพากวิจารณ์ ถึงแม้ว่า มัน จะเป็นอิสระทางความคิดก็เหอะ แต่ มันไม่มีกรรมการคอยคุมอ่ะดินะ

ก็ถือว่าเป็นน้ำใจ จากคนไทยล่ะกันครับ เพราะอีกเหตุผล ท่า ผมกลับไปที่นั่น ก็คงไม่มีเวลอีกล่ะครับ เพราะ ต้อง ทำอยายอย่างอ่ะ เอาแบบสะดวก สะดวกผมดีกว่าเน้อะ
สาธุอนุโมทนามิ........................

 

ยินดีครับ

ยินดีครับ ได้ครับแต่อยากให้มารับเองจะดีกว่า

 

โอนเงิน จำนวน 201 บาทแล้วเมื่อ 14/7/2554
ผ่านเคาน์เตอร์ธนาคาร CIMBTHAI สาขาฟิวเจอร์พาร์ครังสิต
ที่อยู่ในการจัดส่ง CHANTIPONG KAEWSOMBUN
RANGSIT POSTOFFICE T.PHACHARTIPAT A.TANYABUREE
P.PHATHUMTHANEE 12130 THAILAND