ด่วน!กฐินสามัคคี ปฏิสังขรณ์องค์ พระอัฏฐารสยืนคู่ เดียวในโลก อายุ 700 กว่าปี

ในห้อง 'ร้องเรียนและปัญหา' ตั้งกระทู้โดย por410, 22 มีนาคม 2011.

  1. วิชา ละ

    วิชา ละ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    338
    ค่าพลัง:
    +2,416
    ขออนุโมทนาสาธุกับบุญกุศลกับทุกท่านด้วยครับ
     
  2. bork

    bork Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    33
    ค่าพลัง:
    +37
    เงินเดือนออก จาโอนไปทำบุญด้วยนะคับ
     
  3. por410

    por410 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    535
    ค่าพลัง:
    +39
  4. maylin

    maylin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    526
    ค่าพลัง:
    +797
    ดิฉันได้โอนเงินจำนวน 209.-บาท
    เข้าบัญชี 207-221-193-0 ออมทรัพย์ ธ.ไทยพานิชย์ เพื่อร่วมทำบุญกฐินสามัคคี ปฏิสังขรณ์องค์ พระอัฏฐารสยืนคู่ เดียวในโลก อายุ 700 กว่าปี (ชำระหนี้สงฆ์)
    ขออุทิศบุญทั้งหมดนี้ให้กับ
    1.เจ้ากรรมนายเวรของข้าพเจ้า ของพ่อแม่ข้าพเจ้า
    2.เทวดาทุกองค์ที่คุ้มครองตัวข้าพเจ้า และพ่อแม่ข้าพเจ้า
    3.ญาติทั้งหลายที่รู้จักก็ดีไม่รู้จักก็ดีของข้าพเจ้า และพ่อแม่ข้าพเจ้า
    4.เชื้อโรคทุกชนิดที่ก่อกวนข้าพเจ้า พ่อแม่ข้าพเจ้า
    ขอให้ได้รับส่วนบุญส่วนกุศลในครั้งนี้ อโหสิกรรม อย่าได้จองเวรซึ่งกันและกันเลย
    ขอเอ่ยนามผู้บริจาคดังนี้
    1.นางสาวณวภัทส์ ไชยวงค์ (ข้าพเจ้า)
    2.นายจันทร์ ไชยวงค์ (บิดา)
    3.นางฟอง ไชยวงค์ (มารดา)

    ถ้ามีกิจกรรมใดๆ เกี่ยวกับพุทธศาสนาให้ร่วมทำบุญอีก ก็แจ้งให้ทราบด้วยนะค่ะ
    ขอบคุณค่ะ
     
  5. por410

    por410 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    535
    ค่าพลัง:
    +39
  6. por410

    por410 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    535
    ค่าพลัง:
    +39
    อนุโมทนาสาธุ ครับ หลวงพ่อคุ้มครอง

     
  7. de_fam

    de_fam Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    13
    ค่าพลัง:
    +71
    วันนี้ โอน เงิน ร่วมเป็นเจ้าภาพ ทอดกฐิน สามัคคี 2500 นะคะ

    [​IMG][/url][/IMG]
     
  8. por410

    por410 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    535
    ค่าพลัง:
    +39
    อนุโมทนาสาธุ หลวงพ่อคุ้มครองให้ท่านและครอบครัวมีแต่ความสุขความเจริญ สาธุ


     
  9. por410

    por410 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    535
    ค่าพลัง:
    +39
    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=nS7CqYCoFxs&feature=related]YouTube - ‪ธรรมกวี หลวงพ่อพุทธทาส 1.mpg‬‏[/ame]
     
  10. por410

    por410 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    535
    ค่าพลัง:
    +39
  11. por410

    por410 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    535
    ค่าพลัง:
    +39
    <!--images-->ทาน คือ อะไร


    .......ความหมายของ " ทาน " ที่เราทราบโดยทั่วไปนั้น หมายถึง " การให้ " ได้แก่
    การเสียสละสิ่งของต่างๆของตน หรือให้ความรู้ทางโลกและทางธรรม เพื่อประโยชน์แก่ผู้อื่น


    ...การให้นั้นจะให้ผลดีเต็มที่ เมื่อผู้ให้สามารถเอาชนะใจตนเอง
    ขจัดความตระหนี่ ออกไปจากใจได้ คือให้ด้วยความ
    บริสุทธิ์ใจไม่หวังผลตอบแทนจากผู้รับ ขอเพียงให้ได้บุญ
    กุศล และความสบายใจเท่านั้น...


    .......นอกจากนี้ยังมีความหมายของทาน ในลักษณะอื่นอีก ได้แก่

    วัตถุทาน หมายถึงวัตถุสิ่งของที่ให้เป็นทาน เช่น อาหาร เครื่องนุ่งห่ม ยารักษาโรค
    ยานพาหนะ ที่อยู่อาศัย และประทีปโคมไฟ เป็นต้น

    เจตนาทาน หมายถึงความคิดความตั้งใจที่เป็นเหตุให้บริจาคทาน
    ทั้งก่อนให้ ขณะให้ และหลังจากให้แล้ว

    วิรัติทาน หมายถึงการให้ โดยงดเว้นจากการเบียดเบียน
    รังแกกัน หรือหมายถึงการให้ความปลอดภัย ให้อภัย ( อภัยทาน )
    ซึ่งก็คือการให้ที่เป็นผลจากการรักษาศีลนั่นเอง เช่น เมื่อเรารักษาศีลข้อที่ ๑
    งดเว้นจากการฆ่าสัตว์ ย่อมได้ชื่อว่า เป็นการให้ความปลอดภัยแก่ชีวิตของสัตว์
    ทั้งหลายเป็นต้น


    .......อนึ่ง มีการให้บางอย่างที่เราพบเห็นโดยทั่วไป คือ การให้
    ที่หวังผลประโยชน์ตอบแทนแก่ตน เช่น ให้ข้าวแก่สุนัข หวังว่า
    มันจะเฝ้าบ้านให้เรา ให้อาหารเลี้ยงวัว หวังจะได้น้ำนมจากมัน หรือ
    ทำผิดกฏหมาย แล้วให้สินบนแก่เจ้าหน้าที่ เพื่อให้ตนพ้นผิด ฯลฯ
    การให้ในลักษณะเช่นนี้ ในทางพระพุทธศาสนา ไม่จัดว่าเป็นทาน


    ผู้คนมักจะใช้สำนวน " ทำบุญ ทำทาน " คู่กัน แต่น้อยคนนักที่จะเข้าใจความหมายที่แท้จริง


    บุญ คือสิ่งที่ทำให้คุณภาพจิตดีขึ้น มีความสบาย สงบ สะอาด สว่าง เป็นสุข ตรงกันข้าม
    กับบาป

    บาป คือสิ่งที่ทำให้คุณภาพจิตเสียไป มีความไม่สบาย เดือดร้อน เศร้าหมอง เป็นทุกข์

    ดังนั้น ทำบุญ จึงหมายถึงการทำคุณภาพของจิตใจให้ดีขึ้น คือการทำความดี มีการให้
    เป็นต้น

    วิธีการทำบุญนั้นมีถึง ๑๐ วิธี (บุญกิริยาวัตถุ ๑๐) คือ



    ๑. ทานมัย บุญที่สำเร็จด้วยการให้

    ๒. สีลมัย บุญที่สำเร็จด้วยการรักษาศีล

    ๓. ภาวนามัย บุญที่สำเร็จด้วยการเจริญสมาธิภาวนา

    ๔. อปจายนมัย บุญที่สำเร็จด้วยการประพฤติอ่อนน้อมถ่อนตน

    ๕. เวยยาวัจจมัย บุญที่สำเร็จด้วยการให้ความช่วยเหลือขวนขวายในกิจการงานที่ถูกที่ควร

    ๖. ปัตติทานมัย บุญที่สำเร็จด้วยการอุทิศส่วนบุญกุศลให้แก่ผู้อื่น

    ๗. ปัตตานุโมทนามัย บุญที่สำเร็จด้วยการอนุโทนา (แสดงความยินดี) ในการทำบุญกุศล หรือการทำความดีของผู้อื่น

    ๘. ธัมมัสสวนมัย บุญที่สำเร็จด้วยการฟังธรรม

    ๙. ธัมมเทสนามัย บุญที่สำเร็จด้วยการแสดงธรรม

    ๑๐. ทิฏิฐุชุกัมม์ บุญที่สำเร็จด้วยการทำความเห็นให้ถูกต้องดีงาม ตรงตามความเป็นจริง


    หรือสามารถย่อให้ง่ายขึ้น เป็น บุญกิริยาวัตถุ ๓ คือ
    ทาน ศีล ภาวนา ก็ได้ โดยจัดเป็น

    ทาน ประกอบด้วย ทานมัย ปัตติทานมัย และปัตตานุโมทนามัย

    ศีล ประกอบด้วย สีลมัย อปจายมัย เวยยาวัจจมัย

    ภาวนา ประกอบด้วย ภาวนามัย ธัมมัสสวนมัย และ ธัมมเทสนามัย

    ทิฎฐุชุกัมม์ จัดลงได้ทั้ง ทาน ศีล และภาวนา


    .......ทาน หรือ การให้ เป็นหนึ่งในบุญกิริยาวัตถุ ๑๐ จึงนับ
    ว่าเป็นการทำบุญ เพราะ " บุญ " คือการทำความดี การให้จึงเป็น
    หนึ่งในการทำความดี แต่ส่วนมากเราใช้แทนกันจนคุ้นชิน โดยเวลา
    ถวายของแด่พระภิกษุสงฆ์ เรามักจะเรียกกันติดปากว่า " ทำบุญ "
    เพราะจิตใจของผู้ให้ มีความศรัทธา ต้องการบุญกุศล จึงให้เพื่อ
    ชำระใจให้สะอาดบริสุทธิ์ แต่เมื่อให้ของแก่คนยากจน หรือคนที่มี
    ฐานะต่ำกว่า ด้อยกว่าตน มักจะเรียกว่า " ทำทาน " เพราะจิตใจ
    ของผู้ให้มุ่งสงเคราะห์ อนุเคราะห์แก่คนยากจน


    วัตถุประสงค์ของทาน

    .......แบ่งตามลักษณะของการให้ ที่ประพฤติปฎิบัติกัน มี ๔ อย่างคือ


    ๑. ให้เพื่อชำระกิเลส คือ ความตระหนี่ในใจของผู้ให้
    เรียกว่า บริจาคทาน หมายถึง การให้ด้วยการเสียสละเพื่อกำจัด
    ความขุ่นมัวแห่งจิต โดยไม่คำนึงถึงว่าผู้รับจะเป็นใครก็ตาม การ
    ให้แบบนี้ได้บุญมากที่สุด ยิ่งเรามีใจที่บริสุทธิ์ และให้แก่ผู้ที่
    บริสุทธิ์มาก ยิ่งได้บุญมาก


    ๒. ให้เพื่อตอบแทนคุณความดี เรียกว่า ปฎิการทาน
    หมายถึง การให้เพื่อตอบแทนหรือบูชาคุณความดี แก่ผู้ที่มีคุณธรรม
    สูงกว่า หรือผู้ที่มีอุปการะแก่ตน การให้แบบนี้ผู้ให้อาจจะไม่นึกถึง
    บุญ แต่นึกถึงเฉพาะคุณความดีของท่าน เช่น การให้สิ่งของแด่พ่อแม่
    ครูบาอาจารย์ และบุคคลต่างๆ เป็นต้น แต่ถ้าเราให้เพื่อการบูชา
    คุณความดี และนึกถึงบุญด้วย ย่อมมีผลานิสงส์มาก


    ๓. ให้เพื่อสงเคราะห์ เรียกว่า สังคหทาน หมายถึง
    การให้เพื่อผูกมิตร ยึดเหนี่ยวน้ำใจกัน ในกลุ่มคนที่มีความเกี่ยว
    ข้องสัมพันธ์กับตน ไม่ว่าจะเป็นโดยส่วนตัว หรือโดยหน้าที่การงาน
    ก็ตาม โดยมุ่งที่จะให้เกิดคุณประโยชน์แก่ผู้รับเป็นสำคัญ


    ๔. ให้เพื่ออนุเคราะห์ เรียกว่า อนุคหทาน หมายถึง
    การให้ความช่วยเหลือเกื้อกูลแก่คนยากจน ด้วยจิตเมตตาสงสาร
    เมื่อเห็นเขาตกทุกข์ได้ยาก ไม่ว่าคนนั้นจะเป็นใคร จะมีความเกี่ยว
    ข้องสัมพันธ์กับตนหรือไม่ก็ตาม ก็อนุเคราะห์ช่วยเหลือตามกำลัง


    .......องค์ของการให้ หรือเรียกว่า ทานสมบัติ ในทางพุทธศาสนามุ่งสอนในเรื่องของการให้
    เพื่อทำให้ใจของเราบริสุทธิ์สะอาด ยิ่งมีความบริสุทธิ์สะอาดมาก ก็จะได้ผลคือบุญมาก
    ผู้ให้จะต้อง ทำให้ครบด้วยองค์ทั้ง ๓ ที่เรียกว่าทานสมบัติ ๓ ข้อ คือ


    ๑. วัตถุบริสุทธิ์
    ๒. เจตนาบริสุทธิ์
    ๓. บุคคลบริสุทธิ์


    .....ก่อนจะให้ ก็มีใจดี
    กำลังให้ พึ่งทำจิตให้เลื่อมใส
    ครั้นให้แล้วก็เป็นผู้มีใจชื่นบาน .......



    การให้ทานของคนดี ๕ ประการ คือ


    ๑. ให้ทานด้วยศรัทธา

    ๒. ให้ทานโดยเคารพ

    ๓. ให้ทานในกาลอันสมควร

    ๔. มีจิตอนุเคราะห์ให้ทาน

    ๕. ให้ทานที่ไม่กระทบตนและผู้อื่น


    ที่มา พันทิพดอดคอม<!--detail--> <!-- [​IMG] -->
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 มิถุนายน 2011
  12. por410

    por410 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    535
    ค่าพลัง:
    +39
  13. por410

    por410 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    535
    ค่าพลัง:
    +39
    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=EMKJ13lNsp0&feature=player_embedded]YouTube - ‪ธรรมกวี หลวงพ่อพุทธทาส 2.mpg‬&rlm;[/ame]
     
  14. por410

    por410 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    535
    ค่าพลัง:
    +39
    [ame="http://www.youtube.com/watch?v=NNuAxacqto0&feature=grec_index"]YouTube - ‪??????? ?????????????? 3.mpg‬&rlm;[/ame]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 มิถุนายน 2011
  15. por410

    por410 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    535
    ค่าพลัง:
    +39
  16. por410

    por410 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    535
    ค่าพลัง:
    +39
  17. por410

    por410 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    535
    ค่าพลัง:
    +39
    บาป กับ บุญ แยกกันโดยสิ้นเชิง
    บาปกับบุญไม่สามารถ บวกลบคุณหาร ได้ด้วยบุคคลอื่น
    บาป คือ กรรมชั่ว
    บุญ คือ กรรมดี
    กรรม เกิด ได้จาก.....ประธาร ทำปฎิกริยาหรือกระทำ กับ กรรม เช่น นายดำ(ประธาน) ต่อย(กิริยา) นายแดง(เป็นกรรมที่นายดำกระทำ) แต่ถ้านายแดง ถือโทษโกรธเขื่อง ต้องการต่อยเอาคืน เรียก กรรมตามสนอง...กลับไป กลับมา ไม่จบสิ้น.............นอกจากว่า นายแดง ไม่ถือโทษ หรือ อโหสิกรรม และนายดำ กล่าวคำขอโทษ............ตัดเส้นทางกรรม ไม่ให้เกิดขึ้นอีก...หรือน้อยลง
    ถามว่า นายดำ เป็น บาปไหม ตอบ บาป....ถามทำไหมล่ะ.....เพราะ ความผิดนี้จะเกาะติดที่ใจ กล่าวคือบาปอยู่ที่ใจเราเอง คอยให้คิด กัดกลุ้ม ในความผิด เป็นทุกข์ เรียกได้ว่าเป็นกรรม

    ตอบจากคำถาม...............ทุกคนเกิดมามีกรรมเป็นของตัวไม่ว่า กรรมดี หรือ กรรมบาป ไม่สามารถ รวมกัน แบ่งให้กัน ทำแทนกัน...แต่กรรมสามารถ แสดงเป็นออกเป็นทอด ๆ เช่น คุณด่าพ่อแม่ คุณเป็นบาป......ต่อไปคุณก็จะถูกลูกด่าเหมือนกันเป็นกรรมตามสนอง............ระงับหรือบรรเทาให้บางลงได้ ก็คือ การขอขมา ขออโหสิกรรม แพร่เมตตาจิต ต่อกัน

    คำตอบต่อเนื่อง...แต่จะสามารถเสื่อถึงได้....คุณอุทิศ...เป็นกุศลจิต.....แฟนคุณรับรู้แฟนคุณได้รับ กุศลจิต ( เป็นความเชื่อของผมไม่ได้บอกให้เชื่อน่ะ แต่จะเล่าให้ฟัง แล้วแต่จะพิจารณา ) แต่เขาไม่สามารถรับได้.....กรรมของใคร คนนั้นก็รับกรรมไป.....ชดใช้ไป..........

    ถามว่า งั้นก็ไม่มีประโยชน์ล่ะซิที่คุณทำเช่นนั้น......ตอบ มีประโยชน์ เพราะ...เวลาคุณทำคุณรู้สึกว่า....ดี หรือ ไม่ดี........เกิดขึ้นที่ตัวคุณเองใช่ไหม ความรู้สึกนั้นล่ะจะเกิดขึ้นกับแฟนคุณด้วย....น่ะ.........สาธุ

    (....ย้ำ เป็นความเชื่อส่วนบุคคลไม่ได้บอกให้เชื่อน่ะ แต่จะเล่าให้ฟัง แล้วแต่จะพิจารณา..แต่มันเกิดแล้วที่ตัวผม....ไม่มีหลักฐานเป็นวัตถุ พยาน รับรู้ได้ด้วย ใจ ของผู้กระทำเอง....)
     
  18. por410

    por410 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    535
    ค่าพลัง:
    +39
    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=wT4DEk5IN7E&NR=1]YouTube - ‪ธรรมกวี ก.ข. ปรมัตถ์ หลวงพ่อพุทธทาส3.mpg‬&rlm;[/ame]
     
  19. por410

    por410 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    535
    ค่าพลัง:
    +39
    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=yeeDn9z-nJc&feature=related]YouTube - ‪ประชุมเพลิงพุทธทาสภิกขุ 1/5‬&rlm;[/ame]
     
  20. por410

    por410 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    535
    ค่าพลัง:
    +39
    บอกบุญ การทอดกฐิน <?XML:NAMESPACE PREFIX = O /><O:p></O:p>
    การทอดกฐิน นับว่าเป็นพิธีกรรมทางพระพุทธศาสนาที่สำคัญอย่างหนึ่ง ซึ่งมีช่วงเวลาจำกัดเพียงปีละ ๑ เดือน คือระหว่าง แรม ๑ ค่ำเดือน ๑๑ ถึง ขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๑๒ เท่านั้น ประเพณีการทอดกฐินนี้ ประชาชนชาวไทยนิยมทำกันมาก ถือว่าได้อานิสงส์แรง เพราะทำในเวลาจำกัด และต้องการทำการจองกฐินกันก่อน เพราะ 1 วัดจะรับได้เพียงกฐินเดียวเท่านั้น ในปัจจุบันนี้มักทำกันเป็นพิธีรีตองมโหฬารทีเดียว บางทีก็มีการแห่แหนประดับตกแต่งองค์กฐินพร้อมทั้งไทยธรรมที่เป็นของบริวารซึ่งจัดทำกันไว้อย่างประณีตบรรจง <O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    อานิสงส์กฐิน
    การทำบุญกฐินนี้ได้บุญมาก เพราะเป็นทานที่พิเศษยิ่งกว่าทานอื่นใด ด้วยเป็นทั้ง "กาลทาน" และ "สังฆทาน" นับเป็นทานชนิดเดียวที่ผู้ให้(คฤหัสถ์)และผู้รับ(พระสงฆ์ ) ได้บุญด้วยกันทั้งสองฝ่าย ฝ่ายผู้ให้ย่อมได้บุญอันไพบูลย์ทั้งในชาตินี้และชาติต่อๆ ไป เช่น
    o ทำให้เป็นผู้มีความมั่งคั่ง
    o มั่นคงในโภคทรัพย์สมบัติและหน้าที่การงาน

    o เป็นคนรูปงาม ผิวพรรณงาม เป็นที่ยอมรับของบุคคลทั่วไป
    o เป็นผู้มีจิตใจบริสุทธิ์ผ่องใส ตั้งมั่นในสมาธิและเข้าถึงธรรมได้ง่าย แม้ละโลก แล้วย่อมได้บังเกิดในสุคติโลกสวรรค์
    <O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    เหตุที่การทอดกฐินได้บุญมาก
    1. จำกัดประเภททาน คือ ต้องถวายเป็นสังฆทานเท่านั้น จะถวายเฉพาะเจาะจงภิกษุรูปใดรูปหนึ่งเหมือนทานอย่างอื่นไม่ได้

    2. จำกัดเวลา คือ ต้องถวายภายในระยะเวลา 1 เดือน นับแต่วันออกพรรษาเป็นต้นไป
    3. จำกัดงาน คือ พระภิกษุที่กรานกฐินต้องตัด เย็บ ย้อม และครองให้เสร็จภายในวันที่กรานกฐิน
    4. จำกัดไทยธรรม คือ ผ้าที่ถวายต้องถูกต้องตามลักษณะที่สงฆ์กำหนดไว้
    5. จำกัดผู้รับ คือ พระภิกษุผู้รับกฐิน ต้องเป็นผู้ที่จำพรรษาในวัดนั้นโดยไม่ขาดพรรษา และมีจำนวนไม่น้อยกว่า 5 รูป
    6. จำกัดคราว คือ วัดๆ หนึ่งรับกฐินได้เพียงปีละ 1 ครั้งเท่านั้น(จาก 1 เจ้าภาพ)
    7. เป็นพระบรมพุทธานุญาต ทานอย่างอื่นทายกทูลขอให้พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงอนุญาต เช่นมหาอุบาสิกาวิสาขาทูลขออนุญาตถวายผ้าอาบน้ำฝน แต่ผ้ากฐินนี้พระองค์ทรงอนุญาตเอง นับเป็นพระพุทธประสงค์โดยตรง <O:p></O:p>
    อานิสงส์ของกฐิน พระพุทธเจ้าทรงตรัสว่า"โภ ปุริสะ ดูกรท่านผู้เจริญ บุคคลใดเคยทอดกฐินไว้ในพระพุทธศาสนา แม้ครั้งหนึ่งในชีวิต ถ้าตายจากความเป็นคน ยังไม่ถึงพระนิพพานเพียงใด ท่านผู้นั้นจะไปเกิดเป็นเทวดา หรือนางฟ้า๕๐๐ ชาติ" นั่นหมายความว่า ถ้าหมดอายุเทวดา หรือนางฟ้าจุติแล้วก็เกิดทันที ๕๐๐ ครั้ง เมื่อบุญหย่อนลงมานิดหน่อย เกิดเป็นเทวดาเกิดเป็นนางฟ้าไม่ได้ ลงมาเป็นมนุษย์ จะเกิดเป็นพระเจ้า จักรพรรดิปกครองโลก ๕๐๐ ชาติ เมื่อเป็นพระเจ้าจักรพรรดิ๕๐๐ ชาติแล้ว บุญก็หย่อนลงมา ก็จะเป็นพระมหากษัตริย์ ๕๐๐ ชาติ หลังจากนั้น จะเป็นมหาเศรษฐี ๕๐๐ ชาติ เมื่อเป็นมหาเศรษฐี ๕๐๐ ชาติแล้ว ก็เป็นอนุเศรษฐี ๕๐๐ ชาติ หลังจากเป็นอนุเศรษฐี ๕๐๐ ชาติแล้ว ก็เป็นคหบดี ๕๐๐ ชาติ(จากพระสูตรภาษาบาลี) <O:p></O:p>
    ผลบุญของการทำกฐินนั้นมากมาย หากต้องการสรุปสั้นให้เห็นภาพก็อธิบายได้ว่า แม้ว่าเราตักบาตรและทำสังฆทานทุกวันตลอดชีวิต ก็อาจจะได้บุญไม่เท่าการทำบุญด้วยกฐินเพียงครั้งเดียว โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กฐินที่นำเงินที่ได้ไปสร้างโบสถ์ วิหาร หรือซื้อที่ในวัด เราก็จะได้บุญหลายต่อจากบุญกฐินด้วย และได้บุญวิหารทานด้วย(ซึ่งได้บุญมากและได้บุญทุกครั้งทีมีคนใช้สิ่งที่เราสร้าง) <O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    หากใครที่กำลังจะทำบุญด้วยกฐินหรือทำไปแล้วผมก็ขอโมทนาบุญด้วย แต่หากใครที่ยังไม่ได้ทำ ยังเหลือเวลาจนถึงวันลอยกระทง ลองหาวัดใดสักวัด แล้วทำบุญที่ได้บุญมากมายมหาศาลนี้ ด้วยการทำบุญกฐินกันเถอะครับ <O:p></O:p>
     

แชร์หน้านี้

Loading...