ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย koymoo, 25 มกราคม 2005.

  1. Lazaza

    Lazaza เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    991
    ค่าพลัง:
    +5,549
    ======================================


    21 ธ.ค. 53

    งานสัมนาที่ ม.ศรีปทุม จัดได้ดีมาก คนตื่นตัวกันมากแต่จะเตรียมตัวกันสักกี่ราย

    ดูน่าเป็นห่วง ผมได้เจอกับท่านสมาชิกรายเก่าก็ได้ทักทายและถามถึงการเตรียม
    การก็ได้รับคำตอบว่าได้ไปซื้อที่ดินในจ.นครราชสีมาไว้แล้วและใกล้กับสำนัก
    สงฆ์ ถ้าให้ดีกว่านี้ควรจะชวนสมาชิกรายอื่นหรือเพื่อนสนิทไปด้วยหลายๆราย
    เพื่อที่จะได้ช่วยเหลือกันในยามฉุกเฉินก็จะดีกว่านี้ อย่าไปอยู่เฉพาะครอบครัว
    ตัวเอง การเอื้อเฟื้อคนอื่นก็จะเป็นเกราะป้องกันภัยให้ครอบครัวตัวเองด้วย



    20 ธ.ค. 53

    มือกดเสาเข็มสองต้น

    ในภาพตัวเองใช้มือกดเสาเข็มคอนกรีตสองต้น การสร้างบ้านน็อคดาว์นของ

    ผมเมื่อสร้างเสร็จในตอนแรกก็คิดว่าจะซื้อแผ่นคอนกรีตสำเร็จปูแล้วเสาบ้านก็
    จะตั้งอยู่บนแผ่นปูนจากนั้นก็จะยึดด้วยน็อตอีกที เช้านี้หน่วยเหนือได้กรุณาแจ้ง
    มาทางภาพให้ผมต้องลงเสาเข็มหลุมละสองต้นด้วย นี่แสดงว่าถ้าผมทำตาม
    แบบของผมตัวบ้านคงมีปัญหาตามมาแน่นอน

    วันนี้ผมได้คำแนะนำจากช่างว่าถ้าพื้นดินถ้าไม่ใช่ดินดานก็ให้ตอกเสาเข็มความ
    ยาวต้นละสามเมตรหลุมละสองต้น ถ้าเป็นดินดานก็ให้ขุดหลุมให้กว้างและลึก
    ห้าสิบเซ็นติเมตรพร้อมผูกเหล็กด้วย





    องค์อินทร์ ๙๗
    ทำการแทน


    ======================================
    ภาพฐานผาแบ่นบางส่วนค่ะ
    ภาพความคืบหน้าฐานผาแบ่น1
    ภาพความคืบหน้าฐานผาแบ่น2
    ที่มา นาม "องค์อินทร์ ๙๗"







    ---------------------------------------------------------------------
    หลงทางเสียเวลา แต่ไหนแต่ไรมา พระพุทธเจ้าท่านสอนแต่เรื่องทุกข์ และการพ้นทุกข์เท่านั้น<!-- google_ad_section_end -->
     
  2. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,710
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    "คู่มือการเตรียมตัวหลบภัยและเตรียมการอพยพ"

    [​IMG]

    เนื่องจากผมได้รับเอกสาร "คู่มือการเตรียมตัวหลบภัยและเตรียมการอพยพ" จากคุณมนตรี ชัยชาติ ในวันที่ผมไปรับฟังการอบรมสัมนาเรื่อง"เจาะลึกภัยพิบัติ พลิกวิกฤติให้เป็นทางรอด" เมื่อวันที่ 19 ธ.ค.ที่ผ่านมานี้ ผมเห็นว่ามีเนื้อหาที่น่าสนใจและจะมีประโยชน์อย่างมากกับบุคคลทั่วไป เมื่อยามที่เกิดภัยพิบัติ คนที่กำลังตื่นตระหนกตกใจและสับสน ไม่รู้จะทำอย่างไรดี จะได้ใช้คู่มือนี้เป็นแนวทางในการเอาชีวิตรอดในเบื้องต้นได้ทันที

    ท่านใดที่ได้อ่านคู่มือนี้แล้ว หากเห็นว่าดีมีคุณประโยชน์ก็สามารถคัดลอกเอาไปใช้ได้เลย เพราะคุณมนตรี ชัยชาติ ต้องการให้นำมาเผยแพร่เป็นวิทยาทานครับ หรือหากท่านใดมีจิตใจอยากช่วยเหลือผู้อื่นด้วย ก็สามารถนำไปเผยแพร่ต่อได้ทันที และจะเกิดเป็นบุญกุศลกับตัวท่านและครอบครับของท่านสืบต่อไปในภายภาคหน้าด้วยครับ

    ขอเชิญทุกท่านอ่าน"คู่มือการเตรียมตัวหลบภัยและเตรียมการอพยพ" ได้ที่ลิ้งค์ข้างล่างนี้ครับ

    http://palungjit.org/threads/คู่มือการเตรียมตัวหลบภัยและเตรียมการอพยพ.272600/

    สำหรับท่านที่ต้องการดาวน์โหลดข้อมูล "คู่มือการเตรียมตัวหลบภัยและเตรียมการอพยพ" สามารถดาวน์โหลดได้ที่ลิ้งค์ข้างล่างนี้ครับ
    <!-- google_ad_section_end --><FIELDSET class=fieldset><LEGEND>ไฟล์แนบข้อความ</LEGEND><TABLE border=0 cellSpacing=3 cellPadding=0><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD><TD>คู่มือเตรียมตัวหลบภัย.xls </TD></TR></TBODY></TABLE></FIELDSET>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 ธันวาคม 2010
  3. Lazaza

    Lazaza เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    991
    ค่าพลัง:
    +5,549
    ======================================


    22 ธ.ค. 53

    ทวงหนี้

    ในภาพ ตัวเองถูกทางธนาคารทวงหนี้งวดค่าส่งบ้านหนึ่งเดือน ผมบอกเขาว่า
    ผมส่งงวดครบเมื่อร่วมสามสิบปีที่แล้ว ทางธนาคารก็ได้โอนโฉนดให้ผมเรียบ
    ร้อยแล้ว อยากได้ก็ไปฟ้องเอา

    ใครติดหนี้ธนาคารก็เฝ้าดูว่าจะจริงหรือไม่?




    องค์อินทร์ ๙๗
    ทำการแทน


    ======================================
    ภาพฐานผาแบ่นบางส่วนค่ะ
    ภาพความคืบหน้าฐานผาแบ่น1
    ภาพความคืบหน้าฐานผาแบ่น2
    ที่มา นาม "องค์อินทร์ ๙๗"







    ---------------------------------------------------------------------
    หลงทางเสียเวลา แต่ไหนแต่ไรมา พระพุทธเจ้าท่านสอนแต่เรื่องทุกข์ และการพ้นทุกข์เท่านั้น<!-- google_ad_section_end -->
     
  4. kananun

    kananun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    10,282
    ค่าพลัง:
    +114,775
    ต่อไปจากนี้ จะมีผู้เข้ามาร่วมศึกษาข้อมูลที่พวกเราทุกๆคนช่วยกันรวบรวมกันเอาไว้เพิ่มอีกมากครับ

    ผมขอให้เราทุกๆคนที่มีส่วนร่วม ตั้งใจให้ข้อมูลที่มีคุณค่าเหล่านี้เป็นวิทยาทานกันต่อส่วนรวม

    เป็นฐานข้อมูลที่ทุกๆคนร่วมกันใช้ร่วมกันได้ โดยไม่แบ่งแยก

    หากข้อมูลต่างๆเหล่านี้ช่วยชีวิตผู้คนได้ แม้เพียง 1 ชีวิต หรือ อีกหมื่นแสนชีวิต ก็นับเป็นมหากุศลด้วยกันทั้งสิ้น

    ต่อไปคงจำเป็นต้อง จัดระเบียบกลุ่มข้อมูลเพื่อให้ง่ายในการดึงฐานข้อมูลไปใช้กันครับ

    มีหลายเครือข่ายได้ร้องขอที่จะ ขอใช้ข้อมูลของเราทุกๆคนแล้วครับ

    หากใช้ฐานข้อมูลร่วมกันได้ จะทำงานเพื่อช่วยคนยามเกิดภัยพิบัติในภาพรวมได้ เร็วและง่ายขึ้นครับ
     
  5. Siranya

    Siranya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    2,051
    ค่าพลัง:
    +9,004
    เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่ง..ขอบคุณสำหรับข้อมูลของทุกๆท่านที่เอามาลงให้อ่านค่ะสาธุ สาธุ สาธุ อนุโมทนาค่ะ
     
  6. kananun

    kananun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    10,282
    ค่าพลัง:
    +114,775
    ต้องกราบโมทนาบุญกับเครือข่ายที่ช่วยผลักดันโครงการ สร้าพลังพุทธบารมีเป็นความดีคุ้มครองประเทศไทยครับ

    จะมีโครงการทั่วประเทศไทยสวดมนต์ทำสมาธิข้ามปี เคาน์ดาวน์ ปีใหม่ที่วัดหลายแห่งทั่วประเทศครับ


    วัดที่จัดกิจกรรมสวดมนต์ข้ามปี 2554 ทั่วประเทศไทย - Google แผนที่
    bit.ly

    มีหลายกลุ่มช่วยกันผลักดันครับ สาธุ รวมใจได้มหากุศลมากกว่าที่คิดครับ
     
  7. pangbualun

    pangbualun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 เมษายน 2010
    โพสต์:
    140
    ค่าพลัง:
    +285
    เข็มทิศที่บ้านก็ทิศเหนือเหมือนเดิมท่าจะไปกันใหญ่จริงๆ อย่าเบลอซิ
     
  8. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,710
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    ขั้วแม่เหล็กโลกกำลังเคลื่อนที่

    ใช่ครับ เข็มทิศอย่างไรมันก็ต้องชี้ไปทางทิศเหนือ ตามอำนาจแรงดึงดูดของขั้วแม่เหล็กโลกอยู่แล้ว แต่สิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นก็คือขั้วแม่เหล็กโลกมันกำลังจะเปลี่ยนตำแหน่งจากที่เดิม ไปอยู่ตำแหน่งใหม่ต่างหาก โปรดเข้าใจให้ถูกต้องตามนี้ด้วยครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 2102.jpg
      2102.jpg
      ขนาดไฟล์:
      198 KB
      เปิดดู:
      251
    • 2103.jpg
      2103.jpg
      ขนาดไฟล์:
      286.8 KB
      เปิดดู:
      147
    • 2105.jpg
      2105.jpg
      ขนาดไฟล์:
      286.8 KB
      เปิดดู:
      136
  9. 1535

    1535 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    146
    ค่าพลัง:
    +2,105
    ผู้คนเรือนหมื่นบุกหมู่บ้านเล็ก ๆ ในฝรั่งเศส

    คนเรือนหมื่นบุกหมู่บ้านเล็ก ๆ ในฝรั่งเศส
    เพราะเชื่อว่ามีมนุษย์ต่างดาวแอบซ่อนอยู่ในภูเขาสูง
    และมีความเชื่อว่าสถานที่แห่งนี้เองน่าจะเป็นแหล่งหลบภัยอย่างดีเมื่อเกิดเหตุการณ์ล้างโลกในปี 2012


    อีกหน่อยบ้านเราจะมีเหตุการณ์อย่างนี้เกิดขึ้นมั้ยคะ
    ผู้คนมากมายไหลทะลักเข้าไปในพื้นที่ที่คาดว่าปลอดภัย
    จนสร้างความรู้สึกไม่ปลอดภัยให้คนในพื้นที่
    ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลาฉุกละหุกยังวุ่นวายขนาดนี้
    เชื่อว่าหลังจากข่าวนี้ออกไปชาวบ้านกลุ่มเล็ก ๆ ที่เคยอยู่อย่างสงบสุขคงลำบากมากกว่าเดิม
    ลองพิจาณาเหตุการณ์นี้เป็นตัวอย่าง
    ไม่ช้าไม่นานคงเกิดขึ้นกับบ้านเรา เมื่อผู้คนเริ่มต้นแสวงหาพื้นที่ปลอดภัย

    [​IMG]

    When the world ends, can we hitch a ride on your flying saucer?

    Henry Samuel
    December 23, 2010 - 3:00AM


    PARIS: The mayor of a French village has threatened to call in the army to seal it off from an influx of New Age fanatics and UFO watchers, who believe it will be spared from armageddon in 2012.

    Bugarach, population 189, is a peaceful, picturesque farming community in the south-western region of Aude and sits at the foot of the Pic de Bugarach, the highest mountain in the Corbieres wine region.

    But in the past few months, the village has been inundated by groups who believe the peak is an ''alien garage''.

    The say extraterrestrials are quietly waiting in a huge cavity beneath the rock for the world to end, at which point they will leave, taking, it is hoped, a lucky few humans with them.

    Most believe armageddon will take place on December 21, 2012, the end date of the ancient Maya calendar, at which point they predict human civilisation will come to an end. Another favourite date mentioned is December 12, 2012. They see Bugarach as one of perhaps several ''sacred mountains'' that will be sheltered from the cataclysm.

    ''This is no laughing matter,'' the mayor, Jean-Pierre Delord, said. ''If tomorrow 10,000 people turn up, as a village of 200 people we will not be able to cope. I have informed the regional authorities of our concerns and want the army to be at hand if necessary come December 2012.''

    Mr Delord said people had been coming to the village for 10 years or so in search of alien life after a post in a UFO review by a local man, who has since died.

    ''He claimed he had seen aliens and heard the humming of their spacecraft under the mountain,'' he said.

    The internet abounds with tales of the late president Francois Mitterrand being deposited on the peak by helicopter and mysterious digs conducted by the Nazis and later Mossad, the Israeli secret service.

    Recently, however, interest in the site had rocketed, the mayor said, with UFO websites advising people to seek shelter in Bugarach as the countdown to armageddon begins.

    Sigrid Benard, who runs a local guesthouse, said UFO tourists were taking over. ''At first, my clientele was 72 per cent ramblers. Today, I have 68 per cent 'esoteric visitors','' he said.

    Several ''ufologists'' have bought properties in the hamlet of Le Linas, in the mountain's shadow, for ''extortionate'' prices and locals have complained they are being priced out of the market. Strange sect-like courses are held for up to €800 ($1050) a week. ''For this price, you are introduced to a guru, made to go on a procession, offered a christening and other rubbish, all payable in cash,'' Mr Delord said.

    Valerie Austin, who hails from Newcastle upon Tyne, England, but settled in Bugarach 22 years ago, said the alien-watchers were spoiling the village atmosphere. Although she described the alien claims as ''total rubbish'', she said there was nevertheless ''something special'' about the area.

    ''It has a magnetic force in the scientific sense of the word. There is a special feeling here, but if I really believed the world were about to end, I'd have a whale of a time over the next two years rather than look for salvation,'' she said.

    Telegraph, London

    This story was found at: When the world ends, can we hitch a ride on your flying saucer?
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  10. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,710
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    ญี่ปุ่นพบนกกระเรียนติดหวัดนกชนิดอันตรายร้ายแรง

    [​IMG]

    ญี่ปุ่น 23 ธ.ค.-เจ้าหน้าที่ญี่ปุ่นยืนยันเชื้อไวรัสไข้หวัดนกซึ่งพบในนกกระเรียนตัวหนึ่งในจังหวัดคาโกชิมะ เป็นสายพันธุ์ที่มีความอันตรายอย่างยิ่ง

    นกกระเรียนที่มีเชื้อไวรัสหวัดนกสายพันธุ์อันตรายดังกล่าวอยู่ในกลุ่มนกกระสา 7 ตัวที่ตายและล้มป่วยอยู่ในศูนย์อนุรักษ์สัตว์ป่าเมืองอิซูมิ จังหวัดคาโกชิมะ เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา การตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า นกกระเรียน 4 ตัว มีเชื้อไวรัสหวัดนกเอช 5 เอ็น 1 แต่จากการตรวจสอบอย่างละเอียดที่มหาวิทยาลัยท็อตโตริ ยืนยันได้ว่าเชื้อไวรัสหวัดนกที่อยู่ในนกกระเรียนตัวหนึ่งเป็นสายพันธุ์อันตรายและมีพิษรุนแรง

    ขณะนี้ทางการท้องถิ่นได้เพิ่มมาตรการเฝ้าระวังภายในรัศมี 10 กิโลเมตร ขณะที่กระทรวงสิ่งแวดล้อมได้ร้องขอให้ทางการท้องถิ่นในหลายพื้นที่เพิ่มการตรวจหานกกระเรียนป่าที่ล้มป่วย รวมทั้งขอให้ฟาร์มสัตว์ปีกทั่วประเทศหาทางป้องกันฝูงนกป่าและให้พ่นยาฆ่าเชื้อภายในฟาร์มทั้งหมด.-สำนักข่าวไทย

    วันพฤหัสบดี ที่ 23 ธ.ค. 2553

    เกาหลีใต้จะซ้อมรบด้วยกระสุนจริงใกล้ชายแดนเกาหลีเหนืออีกในวันนี้

    [​IMG]

    โตเกียว 23 ธ.ค.-บรรษัทกระจายเสียงของญี่ปุ่น (เอ็นเอชเค) รายงานบนเว็บไซต์ข่าวภาคภาษาอังกฤษว่า เกาหลีใต้จะซ้อมรบด้วยกระสุนจริงครั้งใหญ่ใกล้ชายแดนติดกับเกาหลีเหนือในวันนี้ ซึ่งเป็นการแสดงแสนยานุภาพทางทหารต่อต้านการยั่วยุของเกาหลีเหนือ

    กองทัพเกาหลีใต้ประกาศว่า การซ้อมรบจะมีขึ้นที่เมืองโปชอน ห่างจากเขตปลอดทหารไปทางทิศใต้ประมาณ 25 กิโลเมตร โดยจะเริ่มซ้อมในเวลา 14.00 น.เป็นเวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ซึ่งตรงกับโอกาสครบรอบ 1 เดือน ที่เกาหลีเหนือยิงปืนใหญ่ถล่มเกาะยอนพยองของเกาหลีใต้ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 4 คน

    การซ้อมรบในวันนี้จะใช้กำลังพลจากกองทัพบกและเรือ 800 นาย จำลองสถานการณ์ว่าเป็นการโจมตีตอบโต้เกาหลีเหนือ สำหรับอาวุธที่จะใช้ในการซ้อมประกอบด้วยปืนใหญ่อัตตาจรกระสุนวิถีโค้ง รุ่นเค 9 ระยะยิงไกล 40 กิโลเมตร และเครื่องบินรบเอฟ-16 โดยจะเชิญแขกประมาณ 2,000 คนร่วมชม ในจำนวนนี้มีทั้งชาวบ้านและเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นรวมอยู่ด้วย

    ขณะเดียวกัน กองทัพเรือเกาหลีใต้เริ่มต้นการซ้อมรบทางทะเลด้วยกระสุนจริงและซ้อมต่อต้าน เรือดำน้ำเป็นเวลา 4 วัน ทางฝั่งตะวันออกของคาบสมุทรเกาหลี การซ้อมครั้งนี้เป็นแผนที่วางไว้ล่วงหน้าก่อนที่เกาหลีเหนือจะยิงถล่มเกาะยอ นพยอง

    นายคิม ควาน-จิน รัฐมนตรีกลาโหมเกาหลีใต้ กล่าวต่อคณะกรรมาธิการรัฐสภาเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาว่า กองทัพจะยังคงความสามารถตอบโต้ผู้รุกรานด้วยการผสานกำลังของ 3 เหล่าทัพ และป้องกันการยั่วยุของเกาหลีเหนือ.-สำนักข่าวไทย

    วันพฤหัสบดี ที่ 23 ธ.ค. 2553

    ผลสำรวจชี้ประชาชนไม่อาจมีชีวิตอยู่ได้หากขาดอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง

    [​IMG]

    นิวยอร์ก 22 ธ.ค.- ผลสำรวจชิ้นใหม่ของสหรัฐระบุว่าอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงส่งผลกระทบด้านเทคโนโลยีทางสังคมมากที่สุดในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา และเป็นเทคโนโลยีที่ผู้คนส่วนใหญ่กล่าวตรงกันว่า หากขาดสิ่งนี้ก็ไม่สามารถมีชีวิตอยู่ได้

    ผลสำรวจระบุว่า ร้อยละ 24 ของผู้ใหญ่ชาวอเมริกันจำนวน 1,950 คน ที่ตอบแบบสำรวจทางอินเทอร์เน็ตของบริษัทซอกบี อินเตอร์เนชันแนล กล่าวว่าอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงมีอิทธิพลมากที่สุดกับชีวิตของพวกเขา ตามด้วยเว็บไซต์เฟซบุ๊ก ที่ร้อยละ 22 และเว็บไซต์กูเกิล ที่ร้อยละ 10

    ส่วนเทคโนโลยีที่ประชาชนบอกว่าไม่สามารถมีชีวิตอยู่ได้หากขาดไป คือ อินเทอร์เน็ตความเร็วสูงเป็นอันดับแรกที่ร้อยละ 28 รองลงมาคืออีเมลที่ร้อยละ 18 สำหรับคำถามว่า พวกเขาคิดว่าเทคโนโลยีใดที่จะมีความก้าวหน้าอย่างมากในปีถัดไป ร้อยละ 24 ระบุว่าเป็นความบันเทิงในบ้าน และร้อยละ 16 ระบุว่าเป็นการใช้งานคอมพิวเตอร์ทั่วไป

    ส่วนความก้าวหน้าในทศวรรษถัดไป ร้อยละ 43 ของผู้ตอบแบบสำรวจคาดการณ์ว่าจะเป็นการใช้งานสเต็มเซลล์และเทคนิคการโคลนนิงเพื่อสร้างอวัยวะมนุษย์สำหรับใช้ในการปลูกถ่าย ขณะที่ร้อยละ 40 กล่าวว่า การฝังชิปประมวลผลคอมพิวเตอร์ในมนุษย์เพื่อติดตามด้านสุขภาพ และในจำนวนเท่ากันกล่าวว่าหุ่นยนต์สามารถทำงานที่ใช้แรงงานได้. -สำนักข่าวไทย

    วันพฤหัสบดี ที่ 23 ธ.ค. 2553

    ที่มา http://www.mcot.net
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  11. kananun

    kananun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    10,282
    ค่าพลัง:
    +114,775
    [​IMG]



    ในช่วงเทศกาลขึ้นปีใหม่ 2554 สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ(สสส.) เชิญชวนประชาชนทุกคนร่วมกิจกรรม “สวดมนต์ข้ามปี เริ่มต้นดี ชีวิตดี ในปีใหม่” เพื่อ ความเป็นสิริมงคลต้อนรับปีใหม่ที่จะมาถึง โดยมีวัดที่เข้าร่วมโครงการสวดมนต์ข้ามปีฯ อยู่ทั่วประเทศ ใกล้วัดไหนสามารถเข้าร่วมกิจกรรมวัดใกล้บ้านกันได้เลย



    ดาวน์โหลด รายชื่อวัดที่จัดกิจกรรมสวดมนต์ข้ามปี ได้ที่นี่




    คณะ สงฆ์ 5 วัดดังกรุงเทพฯ ประกาศ พร้อมรับคลื่นมหาชนร่วมกิจกรรมสวดมนต์เค้าท์ดาวน์ปีใหม่ ชีวิตใหม่ ไร้แอลกอฮอล์ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
    [​IMG] จาก การที่สำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า(สคล.) ภายใต้มูลนิธิวิถีสุข โดยการสนับสนุนของสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ(สสส.) ร่วมกับกรรมการมหาเถรสมาคม สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ สำนักนายกรัฐมนตรี กรุงเทพมหานคร และประชาคมงดเหล้า 8 ภาค ร่วมกันจัดกิจกรรมสวดมนต์ปีใหม่วิถีพุทธ ประจำปี 2553 ร่วมกับ 35 วัดดังทั่วประเทศ และสำนักปฏิบัติธรรมประจำจังหวัดกว่า 1,016 แห่ง ตามมติมหาเถรสมาคม เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวนั้น

    สำหรับวัดในกรุงเทพมหานครจำนวน 5 วัด ประกอบด้วย วัดสร้อยทอง เขตบางซื่อ, วัดยานนาวา เขตสาทร, วัดพรหมวงศาราม เขตดินแดง, วัดเทพลีลา เขตบางกะปิ, วัด พระศรีมหาธาตุ เขตบางเขน ได้แจ้งว่า ตอนนี้ทางวัดได้จัดเตรียมสถานที่และกำหนดกิจกรรมต่างๆพร้อมเสร็จสรรพแล้ว สามารถรองรับพุทธศาสนิกชนได้โดยไม่จำกัด นอกจากนั้น บางวัดยังจัดเตรียมวัตถุมงคลและของที่ระลึกมอบให้ทุกคนที่มาร่วมกิจกรรม ครั้งนี้ด้วย

    วาน นี้ พระมหาปัญญา ปญฺญาวโร ผู้ประสานงานจัดกิจกรรมที่วัดเทพลีลาและตัวแทนคณะสงฆ์จาก 5 วัดที่เข้าร่วมโครงการให้สัมภาษณ์ผ่านรายการวิทยุ Fm.102.5 และ Fm.96.5 ว่า

    “ที่ ผ่านมาทุกปี วัดเทพลีลาได้จัดกิจกรรมนี้อยู่แล้ว สำหรับปีนี้ถือว่าพิเศษ เพราะได้ประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อหลายช่องทาง ทั้งวิทยุกรมประชาสัมพันธ์ หนังสือ เวบไซต์ต่างๆ คาดว่าคนจะมาวัดล้นหลามแน่นอน สิ่งที่อยากเน้นย้ำคือ เยาวชนในรั้วมหาลัยที่อยู่ใกล้วัดทั้ง 5 แห่ง ไม่ว่าจะเป็น มหาวิทยาลัยราชภัฎจันทรเกษม มหาวิทยาลัยหอการค้า สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ สถาบันเทคโนโลยีราชมงคล วิทยาเขตพระนครใต้ และมหาวิทยาลัยรามคำแหง น่าจะมาร่วมกิจกรรมกันมากๆ นอกจากจะทำดีให้กับตนเองแล้ว ยังเป็นการถวายการทำดีเหล้าแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวด้วย ที่สำคัญ ไม่อยากให้เริ่มต้นชีวิตใหม่ด้วยการเที่ยวเตร่ตามผับหรือมหรสพมากเกินไป โดยเฉพาะอย่าเอาค่าเล่าเรียนที่พ่อแม่ส่งให้มาเป็นค่าเหล้ายาหมด ปีใหม่แล้ว ควรมีค่านิยมใหม่ๆที่สร้างสรรค์และแสดงวุฒิภาวะทางปัญญาในฐานะคนรุ่นใหม่และ มีการศึกษาที่ดี ”

    [​IMG] “กลุ่ม เป้าหมายหลักนอกจากจะเป็นกลุ่มคนวัยทำงานแล้ว กลุ่มที่อาจจะเป็นนักดื่มหน้าใหม่ก็น่าสนใจ เราจึงเปิดพื้นที่ให้พวกเขาได้มีส่วนร่วมในกิจกรรมมากขึ้น เพราะลำพังการใช้กฎหมายห้ามมากเกินไป อาจเกิดจากการต่อต้านได้ ถ้าหากว่าห้ามไม่ได้ ก็ต้องหากิจกรรมให้ทำ อย่างน้อยการมาวัดครั้งนี้ ก็เป็นอีกจุดเริ่มต้นหนึ่งที่อาจนำมาซึ่งความเปลี่ยนแปลงภายในของน้องๆ เยาวชนรุ่นใหม่ได้” นายประญัติ เกรัมย์ ผู้ประสานงานโครงการ กล่าวปิดท้าย

    รายละเอียดกิจกรรมในวัดทั้ง 5 แห่ง สามารถเข้าไปดูได้ที่ www.stopdrink.com และ http//t.stopdrink.com

    นอกจากนั้น ทุกท่านยังสามารถไปร่วมกิจกรรมในวัดอื่นๆที่จัดสวดมนต์ปีใหม่อยู่แล้ว เช่น วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร, วัดราชาธิวาสราชวรวิหาร, วัดชนะสงครามราชวรมหาวิหาร, วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร, วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ ราชวรมหาวิหาร, วัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร, วัดปทุมคงคาราชวรวิหาร, วัดชัยชนะสงครามราชวรมหาวิหาร, วัดมหรรณพารามวรวิหาร, วัดพิชัยญาติการามวรวิหาร, วัดสังข์กระจาย, วัดพระราม๙ กาญจนาภิเษก, วัดเทพศิรินทราวาสราชวรวิหาร, วัดศิริพงษ์ธรรมนิมิตร, วัดราชสิงขร, วัดดาวดึงส์, วัดมหาพฤฒารามวรวิหาร, วัดธรรมมงคล, วัดไตรมิตร





    ที่มา : สำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า(สคล.)


    วัยรุ่นสวดมนต์ข้ามปีต้อนรับปีใหม่


    เด็กไทยคิดใหม่ทำใหม่

    [​IMG]
    โครงการสวดมนต์ปีใหม่ ชีวิตใหม่ ไร้แอลกอฮอล์ นับเป็นโครงการสุดเจ๋งต้อนรับศักราชใหม่ของสำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า (สคล.) รวมทั้งยังเป็นอีกหนึ่งโครงการที่เห็นคนไทยมีชีวิตในช่วงปีใหม่ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว...

    เมื่อ วันที่ 31 ธ.ค. ได้มีกิจกรรมสวดมนต์ข้ามปีในปีนี้ มี 2 โครงการใหญ่ ๆ ที่หลายหน่วยงานร่วมมือกันจัดขึ้น โดยโครงการแรก กรมการศาสนา (ศน.) และกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) ได้ร่วมกันจัดขึ้น ภายใต้ชื่อ "โครงการส่งท้ายปีเก่าวิถีไทย ต้อนรับปีใหม่วิถีพุทธ ปี พ.ศ.2553" เพื่อให้พุทธศาสนิกชนได้ร่วมกิจกรรมส่งท้ายปีเก่า และเข้าสู่ปีใหม่ด้วยสิ่งที่เป็นสาระอันแท้จริงของชีวิต ตามหลักธรรมคำสอนของพระพุทธศาสนา

    สำหรับ วัดที่ร่วมกิจกรรมสวดมนต์ข้ามปีนั้น ประกอบด้วยวัดต่าง ๆ ในส่วนกลางที่กรุงเทพฯ จำนวน 51 วัด และมีวัดราชาธิวาส จะเป็นวัดที่จัดกิจกรรมหลัก นอกจากนี้ยังมีวัดประจำจังหวัดและวัดในอำเภอต่าง ๆ ในต่างจังหวัด ร่วมจัดกิจกรรมสวดเจริญพระพุทธมนต์ น้อมจิตอธิษฐานถวายพระพรแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในคืนวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ.2552 -1 มกราคม พ.ศ.2553 ด้วยเช่นกัน โดยในช่วงเช้าจะมีพิธีตักบาตรพระสงฆ์ เพื่อความเป็นสิริมงคล

    ส่วน โครงการที่ 2 จัดขึ้นภายใต้แนวคิด "ส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่..แบบวัฒนธรรมไทย ปีใหม่ ชีวิตใหม่ ไร้แอลกอฮอล์" โดยความร่วมมือของ สำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า (สคล.) ภายใต้มูลนิธิวิถีสุข โดยการสนับสนุนของสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับกรรมการมหาเถรสมาคม สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ สำนักนายกรัฐมนตรี กรุงเทพมหานคร และประชาคมงดเหล้า 8 ภาค ร่วมกันจัดกิจกรรมกับ 35 วัดดังทั่วประเทศ และสำนักปฏิบัติธรรมประจำจังหวัดกว่า 1,016 แห่ง เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

    สำหรับ บรรยากาศการส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ในวันนี้ต้องบอกว่า ปีนี้ประชาชนเป็นจำนวนมากให้ความสนใจมาร่วมสวดมนต์ส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปี ใหม่ 2553 โดยเฉพาะวัดชนะสงครามราชวรมหาวิหาร และวัดสระเกศ วัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร ที่มีประชาชนทุกเพศทุกวัย หลั่งไหลเข้าร่วมพิธีอันเป็นมงคลในครั้งนี้เป็นจำนวนมาก ร่วมหลายพันคน

    โดย กิจกรรมภายในงานจะประกอบด้วย การถวายสังฆทาน ไหว้พระสวดมนต์ทำวัตรเย็น เจริญพระพุทธมนต์ที่เป็นมงคลในการเริ่มต้นปีใหม่ เช่น ชัยมังคลคาถา, มงคลจักรวาลน้อย-ใหญ่, มหาสมัยสูตร, ธัม มจักรกัปปวัตนสูตร การนั่งสมาธิและการแผ่เมตตาบารมี 10 ทิศ เสร็จสิ้นการสวดมนต์ พระสงฆ์แสดงธรรม กล่าวสัมโมทนียคาถา อวยพรปีใหม่และประพรมน้ำพระพุทธมนต์

    ด้านนางสาวนฤมล ศรีรุ้ง วัย 19 ปี บอกว่า การที่เลือกมาส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ด้วยการเข้าวัดเพื่อเข้าร่วมพิธี สวดมนต์ข้ามปี ซึ่งเป็นมงคลกับชีวิต เพราะเคยได้ยินแต่ผู้ใหญ่พูดกันว่าการได้มาเข้าวัดในช่วงส่งท้ายปีเพื่อต้อน รับปีใหม่ถือเป็นสิ่งที่ดีในชีวิต ในปีนี้ จึงอยากลองดูสักครั้งว่า การทำบุญช่วยให้จิตใจของเรานั้นมีความสุขมากอย่างไร

    "อยาก ขอเชิญชวนให้เด็กไทย คนรุ่นใหม่หันมาสนใจเข้าวัดกันให้มากๆ ขึ้น โดยไม่จำเป็นว่าต้องเป็นวันขึ้นปีใหม่ หรือวันพระ วันไหนๆก็ได้ ขอเพียงให้เรามีจิตใจที่บริสุทธิ์ พร้อมที่จะทำบุญก็เพียงพอแล้ว" นางสาว นฤมล กล่าว

    ส่วนนายอติเวช ธรรมรงค์กุล วัย 18 ปี เล่าด้วยว่า รู้สึกดีใจ และประทับใจมาก ที่เห็นวัยรุ่นกลุ่มใหม่ๆ หันมาเข้าวัดทำบุญกันมากขึ้น อย่างน้อยก็เพื่อความเป็นสิริมงคลให้กับชีวิต ซึ่งคิดว่าเป็นสิ่งที่ดีมากกับการจัดกิจกรรมดีดี เช่นนี้ขึ้นมา อย่างน้อยก็เห็นว่าในช่วงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่มีคนไทยจำนวนมากที่ยัง ระลึกถึงพระพุทธศาสนา


    ขอเชิญร่วมกิจกรรมรณรงค์ "สวดมนต์ข้ามปี เริ่มต้นดี ชีวิตดี ในปีใหม่" บริเวณ หัวลำโพง และสถานีขนส่งหมอชิตใหม่

    วัน เวลา:
    24/12/2010


    [​IMG]
    สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)
    ขอเชิญร่วมกิจกรรมรณรงค์
    “สวดมนต์ข้ามปี เริ่มต้นดี ชีวิตดี ในปีใหม่”
    วันศุกร์ที่ 24 ธันวาคม 2553

    หัวลำโพง

    09.00-11.30 ทีมคาราวาน “หนุ่ม-สาวพาบุญ” ร่วมรณรงค์แจกสื่อบริเวณ หัวลำโพง
    กิจกรรม : ทีม หนุ่ม-สาว นำบุญ จะเดินแจกหนังสือสวดมนต์ให้กับ ประชาชนทั่วไป
    พร้อมเชิญชวนให้ผู้ที่สนใจเข้าร่วมโครงการลงชื่อลงแผนที่ยักษ์ บนจังหวัดที่อยู่ในคืนสิ้นปี
    ประชาสัมพันธ์ให้ทราบว่ามีวัดที่เข้าร่วมโครงการกิจกรรมสวดมนต์ข้ามปี 999 วัดทั่วประเทศ

    สถานีขนส่งสายเหนือ หมอชิตใหม่

    13.30-15.00 ทีมคาราวาน “หนุ่ม-สาวพาบุญ” ร่วมรณรงค์แจกสื่อบริเวณ หมอชิต
    กิจกรรม : ทีม หนุ่ม-สาว นำบุญ จะเดินแจกหนังสือสวดมนต์ให้กับ ประชาชนทั่วไป
    พร้อมเชิญชวนให้ผู้ที่สนใจเข้าร่วมโครงการลงชื่อลงแผนที่ยักษ์ บนจังหวัดที่อยู่ในคืนสิ้นปี
    และให้เค้าทราบว่ามีวัดที่เข้าร่วมโครงการกิจกรรมสวดมนต์ข้ามปี 999 วัด ทั่วประเทศ
    ตามเป้าหมาย






    ที่มา : สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)



    --------------------------------------------------------------------------------

    การที่ผู้คนในสังคมจำนวนมากมารวมใจกันทำความดี สร้างกุศลมหากุศลให้เกิดขึ้นในแผ่นดิน ย่อมเป็นแรงบุญคุ้มครองให้ภัยพิบัติบรรเทาเบาบางลงไปได้ มารวมใจกันทำความดี

    ขับเคลื่อนการทำความดีไปพร้อมๆกันครับ

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 ธันวาคม 2010
  12. พลอยรุ้ง

    พลอยรุ้ง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    467
    ค่าพลัง:
    +2,088
    ขออนุโมทนาสาธุ กับโครงการดีๆ และผู้เข้าร่วมทุกท่านค่ะ :cool:
     
  13. อบ.

    อบ. เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    430
    ค่าพลัง:
    +1,538
    ศิริ .. แห่งปีใหม่ ..


    กรรมการ มส.นำชาวพุทธร่วม "สวดมนต์ข้ามปี เริ่มต้นดี ชีวิตดี ในปีใหม่" เพื่อมงคลชีวิต เสนอรัฐบาลทำเป็นวาระแห่งชา<WBR></WBR>ติเพื่อเยียวยาความบอบช้ำขอ<WBR></WBR>งบ้านเมือง เตรียมให้วัดทั่วประเทศเข้า<WBR></WBR>ร่วม

    ที่วัดยานนาวา กรุงเทพฯ วันที่ 20 ธันวาคมนี้ มีการแถลง "สวดมนต์ข...้ามปี เริ่มต้นดี ชีวิตดี ในปีใหม่" โดยพระพรหมวชิรญาณ เจ้าอาวาสวัดยานนาวา และกรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าสำนักปฏิบัติธรรมประจำก<WBR></WBR>รุงเทพมหานครแห่งที่ 1 เป็นประธาน กล่าวว่า การสวดมนต์ภาวนาถือเป็นสิ่ง<WBR></WBR>มงคล เมื่อจิตสงบจะสะอาดและสว่าง<WBR></WBR> เกิดปัญญานำไปสู่ชีวิตที่สั<WBR></WBR>นติสุข การเจริญพระพุทธมนต์เป็นสิร<WBR></WBR>ิมงคลและการเริ่มต้นที่ดีใน<WBR></WBR>การเข้าสู่ปีใหม่

    "ปีที่ผ่านมาคนไทยบอบช้ำมาก<WBR></WBR>จากเหตุการณ์ต่างๆ การพร้อมใจกันเจริญพระพุทธม<WBR></WBR>นต์ต้อนรับปีใหม่ควรสนับสนุ<WBR></WBR>นให้เกิดเป็นวาระแห่งชาติ เพราะจิตใจที่เป็นบุญจะบรรเ<WBR></WBR>ทาความทุกข์ ความอัปมงคลที่เกิดขึ้นได้ ซึ่งเชื่อว่านายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี จะเห็นได้ในเรื่องนี้" เจ้าอาวาสวัดยานนาวากล่าว และว่า วัดยานนาวาจะมีการเจริญภาวน<WBR></WBR>าตั้งแต่วันที่ 28 ธ.ค.ต่อเนื่องจนถึงวันที่ 1 มกราคม และยังมีวัดไทยในต่างประเทศ<WBR></WBR>ที่พร้อมใจกันร่วมทำพิธีเจร<WBR></WBR>ิญพระพุทธมนต์ข้ามปีด้วย

    พระพรหมวชิรญาณกล่าวว่า การสวดมนต์ต้อนรับปีใหม่นอก<WBR></WBR>จากควรจัดให้เป็นวาระแห่งชา<WBR></WBR>ติแล้ว ยังควรได้มีการจัดขึ้นที่วั<WBR></WBR>ดสถานปฏิบัติธรรมในทั่วโลก ทั้งนี้ คำสอนของพระพุทธเจ้าอย่างหน<WBR></WBR>ึ่ง คือ ไม่ควรคิดถึงเรื่องอดีต แต่อยู่กับปัจจุบัน เอาความผิดพลาดในอดีตมาพิจา<WBR></WBR>รณาเพื่อแก้ไข เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมาจากค<WBR></WBR>วามเห็นแก่ได้ ความโลภ ความหลง ก็ต้องปรับโดยใช้หลักธรรมที<WBR></WBR>่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หั<WBR></WBR>วทรงย้ำเตือน คือ ความพอเพียง สิ่งสำคัญที่จะทำให้เราอยู่<WBR></WBR>รอดร่วมกัน คือ การไม่เบียดเบียนและให้อภัย<WBR></WBR> มิฉะนั้นบ้านเมืองจะหาความส<WBR></WBR>ุขไม่ได้ เมื่อยึดหลักธรรมก็จะทำให้ผ<WBR></WBR>่านความบอบช้ำไปได้ด้วยความ<WBR></WBR>เจริญและมั่นคง

    ทพ.กฤษดา เรืองอารีย์รัชต์ ผู้จัดการสำนักงานกองทุนสนั<WBR></WBR>บสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวว่า การสำรวจข้อมูลกลุ่มตัวอย่า<WBR></WBR>ง 4,000 คนที่เข้าร่วมงาน "สวดมนต์ปีใหม่ ชีวิตใหม่ ไร้แอลกอฮอล์" ของสำนักงานเครือข่ายองค์กร<WBR></WBR>งดเหล้าในปี 2552 จาก 37 วัด ใน 30 จังหวัดทั่วประเทศ พบผู้เข้าร่วมงานส่วนใหญ่มา<WBR></WBR>เป็นครอบครัว เป็นหญิง 46.3% ชาย 53.7% ผู้เข้าร่วมงาน 86.6% อาศัยอยู่ใกล้เคียงวัดที่จั<WBR></WBR>ดงาน ทั้งนี้ 99.5% ยืนยันจะมาร่วมงานสวดมนต์ปี<WBR></WBR>ใหม่อีก ขณะที่ข้อมูลในเว็บไซต์

    http//t.stopdrink.com ที่เปิดให้แสดงความเห็นในเร<WBR></WBR>ื่องนี้ มีผู้เข้าชม 3,533 คน ในจำนวนนี้ 83% ระบุว่างานสวดมนต์ข้ามปีรัฐ<WBR></WBR>บาลควรจัดให้เป็นวาระแห่งชา<WBR></WBR>ติ ซึ่งในวันที่ 21 ธ.ค.นี้ จะมีการนำเสนอต่อคณะรัฐมนตร<WBR></WBR>ีเพื่อผลักดันนโยบายดังกล่า<WBR></WBR>ว

    ทพ.กฤษดากล่าวว่า ข้อมูลดังกล่าวน่าจะสะท้อนค<WBR></WBR>วามรู้สึกของคนไทยส่วนใหญ่ไ<WBR></WBR>ด้ว่า หากมีวัดหรือสำนักปฏิบัติธร<WBR></WBR>รมที่จัดการสวดมนต์ข้ามปีก็<WBR></WBR>อยากเข้าร่วมงาน หลายเครือข่าย อาทิ สำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชา<WBR></WBR>ติ มูลนิธิศึกษาธิการ มูลนิธิวัดปัญญา สำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเ<WBR></WBR>หล้า ยุวพุทธิกสมาคมแห่งประเทศไท<WBR></WBR>ยในพระบรมราชูปถัมภ์ และ สสส. จึงจัดโครงการ "สวดมนต์ข้ามปี เริ่มต้นดี ชีวิตดี ในปีใหม่" เพื่อขยายแนวคิดและรณรงค์ให<WBR></WBR>้ประชาชนชาวไทยได้ประกอบกิจ<WBR></WBR>กรรมอันเป็นมงคลในช่วงคืนวั<WBR></WBR>นส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม<WBR></WBR>่ กระทำได้ทั้งที่วัด สำนักปฏิบัติธรรม และที่พักอาศัย โดยขณะนี้มีรายนามวัดที่จัด<WBR></WBR>กิจกรรมแล้ว 202 แห่ง ซึ่งจะรวบรวมรายชื่อขึ้นสู่<WBR></WBR> www.thaihealth.or.th เพื่อเป็นศูนย์รวมข้อมูลให้<WBR></WBR>ประชาชน โดยจะมีการถ่ายทอดสดพิธีเจร<WBR></WBR>ิญพระพุทธมนต์จากวัดสระเกศว<WBR></WBR>รมหาวิหารด้วย

    ดร.อำนาจ บัวศิริ ผู้อำนวยการสำนักเลขาธิการม<WBR></WBR>หาเถรสมาคม กล่าวว่า จะนำเรื่องการสวดมนต์ข้ามปี<WBR></WBR>เข้าสู่การพิจารณาของที่ประ<WBR></WBR>ชุม มส. เพื่อให้มีมติสนับสนุนให้วั<WBR></WBR>ดกว่า 3 หมื่นแห่งทั่วประเทศจัดกิจก<WBR></WBR>รรมสวดมนต์ข้ามปีเพื่อสร้าง<WBR></WBR>สิริมงคลให้แก่ประชาชน โดยจะใช้บทสวดมนต์ที่ มส.รวบรวมไว้เป็นชุดสวดถวาย<WBR></WBR>เป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเ<WBR></WBR>ด็จพระเจ้าอยู่หัว ทั้งยังเป็นสิริมงคลแก่ตนเอ<WBR></WBR>งและครอบครัว.

    http://www.thaipost.net/x-<WBR></WBR>cite/211210/31802


    http://palungjit.org/f36<WBR>/สวดมนต์ข้ามปี-วัดทั่วประเทศ-2<WBR>72634.html
     
  14. อบ.

    อบ. เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    430
    ค่าพลัง:
    +1,538
    กิจกรรมปฏิบัติธรรม วัดป่ากรรมฐานต่างๆในวันปีใ<WBR></WBR>หม่

    แนะนำวัดป่า ปฏิบัติธรรมภาวนา สำหรับคนกรุงเทพฯที่ไม่ต้อง<WBR></WBR>เดินทางไกล



    1. วัดป่ามณีกาญจน์ อ.บางกรวย จ.นนทบุรี (พระอาจารย์สาคร ธัมมาวุโธ)

    คืนวันที่ 31 ธันวาคม 2553 พระสงฆ์นำปฏิบัติธรรม
    เช้าวันที่ 1 มกราคม 2554 ทำบุญ-ตักบาตร เนื่องในวันปีใหม่

    ติดต่อ วัดป่ามณีกาญจน์ โทร.02-449-2234
    ...........................................................


    2. วัดป่าเชิงเลน ซอยจรัลสนิทวงศ์ 37 เขตบางกอกน้อย กทม. (พระอาจารย์ภัลลภ อภิปาโล)
    คืนวันที่ 31 ธันวาคม 2553 พระสงฆ์นำปฏิบัติธรรม
    เช้าวันที่ 1 มกราคม 2554 ทำบุญ-ตักบาตร เนื่องในวันปีใหม่

    ติดต่อ วัดป่าเชิงเลน โทร.02-865-5645 , 02-865-5646
    .............................................................


    3. วัดป่าภูริทัตตปฏิปทาราม อ.สามโคก จ.ปทุมธานี (พระอาจารย์บุญช่วย ปุญฺญวนฺโต)
    คืนวันที่ 31 ธันวาคม 2553 พระสงฆ์นำปฏิบัติธรรม
    เช้าวันที่ 1 มกราคม 2554 ทำบุญ-ตักบาตร เนื่องในวันปีใหม่

    ติดต่อ วัดป่าภูริทัตตปฏิปทาราม โทร.02-593-2434
    .............................................................


    4. มูลนิธิ พระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต ซอยจรัลสนิทวงศ์ 37 เขตบางกอกน้อย กทม.
    คืนวันที่ 31 ธันวาคม 2553 พระสงฆ์นำปฏิบัติธรรม
    เช้าวันที่ 1 มกราคม 2554 ทำบุญ-ตักบาตร เนื่องในวันปีใหม่

    ติดต่อ มูลนิธิฯ โทร.02-412-2752 , 02-864-4238
    ...............................................................


    5. สวนทิพย์ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี (หลวงปู่บุญฤทธิ์ ปณฺฑิโต)
    คืนวันที่ 31 ธันวาคม 2553 พระสงฆ์นำปฏิบัติธรรม
    เช้าวันที่ 1 มกราคม 2554 ทำบุญ-ตักบาตร เนื่องในวันปีใหม่

    ติดต่อ สวนทิพย์ โทร.02-583-4540-2 , 02-583-3748
    ................................................................


    6. ที่พักสงฆ์ กม.27 ดอนเมือง (มูลนิธิหลวงปู่หลุย จนฺทสาโร)
    คืนวันที่ 31 ธันวาคม 2553 พระสงฆ์นำปฏิบัติธรรม
    เช้าวันที่ 1 มกราคม 2554 ทำบุญ-ตักบาตร เนื่องในวันปีใหม่

    ติดต่อ มูลนิธิ โทร.02-523-6446
    ................................................................


    7.วัดพุทธบูชา ถนนพุทธบูชา ซอย 30 ริมคลองบางมด แขวงบางมด เขตทุ่งครุ กรุงเทพฯ
    คืนวันที่ 31 ธันวาคม 2553 พระสงฆ์นำปฏิบัติธรรม
    เช้าวันที่ 1 มกราคม 2554 ทำบุญ-ตักบาตร เนื่องในวันปีใหม่

    ติดต่อ วัดพุทธบูชา โทร.02-513-4368 , 081-847-1815 , 081-825-3365
    ................................................................



    <FONT color=sienna>หมาâ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 ธันวาคม 2010
  15. อบ.

    อบ. เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    430
    ค่าพลัง:
    +1,538
    เพิ่มอีกวัด . .

    วัดปทุมวนาราม ราชวรวิหาร

    หมายกำหนดการตามที่จำได้

    ศุกร์ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๓

    ๗.๐๐ น. พระสงฆ์บิณฑบาตรในสวนป่าพระราชศรัทธา นำโดยพระราชพิพัฒนาทร (หลวงพ่อถาวร จิตฺตถาวโร)

    ๗.๓๐ น. ถวายภัตตาหาร ให้พร แสดงธรรม

    ๑๐.๐๐ น. ใส่บาตร ถวายสังฆทาน

    ๑๑.๐๐ น. ถวายเพล

    ๑๓.๐๐ น. แสดงธรรม

    ๑๘.๓๐ น. สวดมนต์ทำวัตรเย็น เวียนเทียนรอบพระบรมสารีริกธาตุ และพระอรหันตธาตุ

    ๑๙.๐๐ น. แสดงธรรม

    ๒๐.๐๐ น. ปฏิบัติธรรมตลอดคืน (เนสัชชิก)

    ๒๔.๐๐ น. สวดมนต์ส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่



    เสาร์ที่ ๑ มกราคม ๒๕๕๔

    ๑.๐๐ น. ถวายพระพุทธรูป ๕ พระองค์

    ๔.๐๐ น. สวดมนต์ทำวัตรเช้า

    ๗.๐๐ น. พระสงฆ์บิณฑบาตรในสวนป่าพระราชศรัทธา นำโดยพระราชพิพัฒนาทร (หลวงพ่อถาวร จิตฺตถาวโร)

    ๗.๓๐ น. ถวายภัตตาหาร ให้พร แสดงธรรม

    ๑๐.๐๐ น. ใส่บาตร ถวายสังฆทาน

    ๑๑.๐๐ น. ถวายเพล

    ๑๓.๐๐ น. แสดงธรรม

    ๑๘.๓๐ น. สวดมนต์ทำวัตรเย็น เวียนเทียนรอบพระบรมสารีริกธาตุ และพระอรหันตธาตุ

    ๑๙.๐๐ น. แสดงธรรม


    หมายเหตุ
    หากผิดพลาดหรือคลาดเคลื่อน ก็ขออภัยด้วยค่ะ จดมาคร่าวๆ ประมาณนี้นะคะ

    วัดปทุมวนาราม ราชวรวิหาร ตั้งอยู่ที่ ถนนพระรามที่ 1 แขวงปทุมวัน เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร อยู่ระหว่างศูนย์การค้าสยามพารากอนและห้างเซ็นทรัลเวิลด์ วัดนี้เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปพระเสริมศักดิ์สิทธิ์ พระพุทธรูปสร้างพร้อมกัน จำนวน 3 องค์ ได้แก่ พระเสริมพระแสน และ พระสุก

    วัดปทุมวนาราม ราชวรวิหาร ยังเป็นตั้งของพระเจดีย์ ที่เป็นที่ประดิษฐานพระบรมอัฐิ พระราชสรีรางคาร และพระอัฐิของพระเจ้าอยู่หัวและพระราชวงศ์ในราชสกุลมหิดลหลายพระองค์ เช่น สมเด็จพระศรีสวรินทิราบรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก สมเด็จพระราชปิตุจฉา เจ้าฟ้าวไลยอลงกรณ์ กรมหลวงเพชรบุรีราชสิรินธร พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล และสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี


    วัดปทุมวนารามราชวรวิหาร - วิกิพีเดีย
     
  16. อบ.

    อบ. เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    430
    ค่าพลัง:
    +1,538
    “วัดปทุมวนาราม” แดนสงบงามกลางป่าคอนกรีต<HR>[​IMG]
    พระเสริมและพระแสน ภายในพระวิหาร




    ถ้าจะพูดถึงแหล่งที่มีห้างสรรพสินค้ามารวมกันอยู่มากที่สุดในกรุงเทพฯ คงต้องยกให้ย่านสยามสแควร์ เพราะลองนับๆ ดูแล้วแถวนี้มีห้างสรรพสินค้าอยู่เกือบสิบแห่งทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นสยามสแควร์ สยามเซ็นเตอร์ สยามดิสคัฟเวอรี่ สยามพารากอน เซ็นทรัลเวิลด์พลาซ่า เกษรพลาซ่า อัมรินทร์พลาซ่า และอื่นๆ อีกมากมาย เป็นต้น แน่นอนว่าจำนวนของผู้คนที่เดินทางผ่านไปมาในย่านนี้ก็ต้องยิ่งมากทวีคูณเข้าไปอีก

    แต่ในวงล้อมของห้างสรรพสินค้าป่าคอนกรีต ความจอแจของผู้คนโดยเฉพาะเด็กแนวสายเดี่ยว รวมไปถึงรถราที่หนาแน่นทั้งหลายนี้ มีสถานที่อยู่แห่งหนึ่งที่ดูเหมือนจะอยู่เหนือความพลุกพล่านทั้งหมด และยังคงความสงบอยู่ได้อย่างไม่น่าเชื่อ ที่แห่งนั้นก็คือ “วัดปทุมวนาราม” หรือ “วัดปทุมวนาราม ราชวรวิหาร” นั่นเอง

    [​IMG]
    พระบรมราชานุสาวรีย์ของรัชกาลที่ 4


    เคยได้ยินชื่อเสียงของวัดปทุมวนารามมานานแล้ว ว่าเป็นวัดกลางเมืองที่มักจะมีผู้คนมานั่งสมาธิปฏิบัติธรรมกันมาก ก็ให้สงสัยยิ่งนักว่าจะมีความสงบได้จริงหรือในสิ่งแวดล้อมเช่นนี้ คราวนี้จึงต้องมาพิสูจน์ด้วยตนเอง ลงจากรถไฟฟ้าสถานีสยาม ก็เดินตรงเข้ามายังวัดปทุมวนาราม พร้อมกับนึกถึงประวัติของวัดที่รู้มาว่า พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 ทรงมีพระราชประสงค์ให้จัดทำรมณียสถาน หรือพูดง่ายๆ ก็คือ สถานตากอากาศ ที่อยู่นอกพระนคร โดยทรงมีนาหลวงอยู่บริเวณทุ่งพญาไท ริมคลองบางกะปิ ซึ่งเป็นที่ลุ่มต่ำมีน้ำขังตลอดเวลาและมีบัวขึ้นอยู่ทั่วไป บริเวณดังกล่าวเป็นที่อยู่ของชาวล้านช้าง หรือชาวลาวที่ถูกกวาดต้อนเข้ามาตั้งแต่สมัยกบฏเจ้าอนุวงศ์เวียงจันทน์

    ในการก่อสร้างครั้งนั้น ได้มีการจ้างชาวจีนมาขุดลอกสระ 2 สระเชื่อมต่อกัน สระทางด้านเหนือเรียกว่า สระใน เป็นเขตหวงห้ามส่วนพระองค์และฝ่ายใน ส่วนทางด้านใต้เรียกว่า สระนอก ทรงอนุญาตให้ข้าราชการและราษฎรทั่วไปมาเล่นเรือกันได้ และภายในสระทั้งสองนั้นก็ปลูกบัวพันธุ์ต่างๆ ไว้ ไม่ว่าจะเป็นบัวสาย บัวผัน บัวเผื่อน บัวหลวง ฯลฯ ออกดอกงดงามเต็มสระ

    [​IMG]
    พระอุโบสถวัดปทุมวนาราม


    และบริเวณสระบัวนั้นยังได้สร้างที่ประทับสำหรับพระองค์ และเรือนฝ่ายในเป็นที่ประทับของเจ้าจอม รวมไปถึงโรงเรือนโรงครัวต่างๆ ซึ่งพระองค์ให้พระราชทานนามให้แก่สถานที่แห่งนี้ว่าปทุมวัน และทรงเรียกบริเวณที่ประทับว่า วังสระปทุม

    ไม่ใช่เฉพาะแต่ที่ประทับเท่านั้น แต่พระองค์ยังได้ทรงสร้างวัดขึ้นบริเวณด้านทิศตะวันตกของสระนอก เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแก่ สมเด็จพระเทพศิรินทราบรมราชินี พระมเหสี และพระราชทานนามวัดว่า “วัดปทุมวนาราม” แต่ชาวบ้านมักเรียกว่า วัดสระปทุม โดยในเวลาที่พระองค์เสด็จมาประทับที่วังสระปทุมนี้ ก็จะทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พระสงฆ์จากวัดปทุมวนารามพายเรือเข้าไปบิณฑบาตในสระนี้ด้วย

    มาจนถึงวันนี้ แม้ดอกบัวที่เคยมีอยู่เต็มสระจะเหลือเพียงแค่ไม่กี่ดอกอยู่ในอ่างบัวเท่านั้น แต่ภายในวัดปทุมฯ ก็ยังมีสิ่งที่น่าสนใจหลายสิ่งด้วยกัน สิ่งแรกก็ต้องเป็นเรื่องของพระพุทธรูป เพราะที่วัดแห่งนี้เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์จากฝั่งลาวถึง 3 องค์ด้วยกัน นั่นก็คือ “พระเสริม” , “พระแสน” และ “พระสายน์”

    [​IMG]
    ทิวทัศน์ของวัดกลางเมือง


    สำหรับพระเสริมและพระแสนนั้นประดิษฐานอยู่ด้วยกันในพระวิหาร “พระเสริม” นั้นเป็นพระพุทธรูปพี่น้องกับ “พระสุก” และ “พระใส” ซึ่งพระราชธิดาของกษัตริย์ล้านช้างทั้ง 3 พระองค์ เป็นผู้สร้างขึ้นและถวายนามของพระองค์เองให้เป็นชื่อของพระพุทธรูปด้วย

    ต่อมาในสมัยรัชกาลที่ 3 กองทัพสยามเดินทางไปตีเมืองเวียงจันทน์เพื่อปราบกบฏเจ้าอนุวงศ์ เมื่อกองทัพจะเดินทางกลับบ้านเมือง ก็ได้อัญเชิญพระพุทธรูปมาจากเมืองเวียงจันทน์มาด้วยหลายองค์ด้วยกัน รวมทั้ง พระสุก พระใส และพระเสริมด้วย

    แต่ในขณะที่เคลื่อนย้ายพระพุทธรูปมาทางลำน้ำงึมออกแม่น้ำโขง ก็ได้เกิดพายุฝนตกหนัก จนทำให้พระสุกหล่นจากแท่นประดิษฐานจมลงใต้แม่น้ำ บริเวณนั้นต่อมาจึงเรียกกันว่าเวินพระสุก หรือเวินสุก ส่วนพระเสริมและพระใสก็ได้อัญเชิญข้ามมายังฝั่งไทยได้อย่างปลอดภัย แต่เมื่อจะอัญเชิญต่อมายังกรุงเทพฯ ก็ปรากฏว่าเกวียนที่ประดิษฐานพระใสนั้นเกิดหักลงอยู่ตรงหน้าวัดโพธิ์ชัย เมืองหนองคาย ทำอย่างไรก็ไปต่อไม่ได้ จึงต้องอัญเชิญพระใสให้ประดิษฐานไว้ที่วัดโพธิ์ชัย เป็นพระคู่บ้านคู่เมืองหนองคายมาแต่บัดนั้น ส่วนพระเสริมนั้นอัญเชิญต่อมาได้จนถึงกรุงเทพฯ และมาประดิษฐานไว้ที่วัดปทุมวนารามอย่างที่เห็นในปัจจุบัน

    [​IMG]
    ประชาชนมานั่งสมาธิภายในศาลาพระราชศรัทธา


    ส่วน “พระแสน” พระพุทธรูปอีกองค์หนึ่งซึ่งประดิษฐานอยู่ในวิหารเดียวกันกับพระเสริมนั้น เดิมประดิษฐานอยู่ในถ้ำที่เมืองมหาไชย แขวงล้านช้าง แต่ได้อัญเชิญมายังกรุงเทพฯ เมื่อรัชกาลที่ 4 มีพระราชประสงค์จะอัญเชิญพระพุทธรูปโบราณจากล้านช้างมาประดิษฐานไว้ในพระอารามที่ทรงสร้างขึ้นใหม่หลายแห่ง

    เช่นเดียวกับ “พระสายน์” ซึ่งประดิษฐานอยู่ในพระอุโบสถของวัดปทุมวนาราม ก็เป็นพระพุทธรูปที่อัญเชิญมาจากเมืองมหาไชย แขวงล้านช้าง ในสมัยรัชกาลที่ 4 เช่นกัน โดยพระแสนและพระสายน์นั้นต่างก็มีความศักดิ์สิทธิเหมือนกัน ตรงที่เมื่อใดเกิดฝนแล้ง ก็จะอัญเชิญท่านออกมาบูชากลางแจ้งและบูชาขอฝนจากท่านได้

    นอกจากพระพุทธรูปทั้งสามองค์นี้แล้ว ระหว่างพระวิหารและพระอุโบสถก็ยังมี พระเจดีย์ ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานรอยพระพุทธบาทจำลองทำด้วยหินอ่อน และพระพุทธไสยาสน์หินอ่อนซึ่งได้มาจากลังกาอีกด้วย ส่วนด้านหลังพระเจดีย์ตรงข้ามกับพระวิหารนั้นก็มี พระมณฑปของรัชกาลที่ 4 ซึ่งเป็นผู้ทรงสร้างวัดนี้ขึ้นมา

    [​IMG]
    พระเจดีย์บรรจุพระสรีรังคารของสมเด็จพระมหิตลาธิเบศรฯ


    หากกราบพระเรียบร้อยแล้ว อย่าลืมเดินไปทางด้านหลังพระวิหารออกประตูเล็กๆ ไปเพื่อกราบพระเจดีย์ที่ตั้งอยู่ด้านหน้าหอพระปริยัติธรรม ซึ่งภายในพระเจดีย์นั้นเป็นที่บรรจุพระสรีรังคารของ สมเด็จพระมหิตลาธิเบศรอดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก หรือพระราชบิดาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช หรือในหลวงของเรานั่นเอง

    หากใครที่เข้ามาชมวัดตรงบริเวณนี้แล้ว ถ้ายังคิดว่าวัดปทุมวนารามยังสงบไม่พอ ก็ต้องไปที่ “สวนป่าพระราชศรัทธา” ซึ่งตั้งอยู่บริเวณด้านหลังของวัด ที่เรียกว่าสวนป่าก็เนื่องจากว่าบรรยากาศในแถบนี้ร่มครึ้มเต็มไปด้วยต้นไม้ใหญ่ร่มรื่น และมี “ศาลาพระราชศรัทธา” ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุให้ผู้ที่ศรัทธามากราบไหว้ รวมทั้ง ศาลาแห่งนี้ยังเปิดให้ประชาชนเข้าไปนั่งสมาธิ และฟังธรรมได้ โดยจะมีเทปธรรมะเปิดให้ฟังตลอดทั้งวันอีกด้วย หรือหากใครต้องการเดินจงกรมก็สามารถทำได้เช่นกัน

    [​IMG]
    บรรยากาศร่มครึ้มของต้นไม้ในสวนป่าพระราชศรัทธา


    ในตอนที่เดินชมพระอุโบสถและพระวิหารอยู่นั้น ก็รู้สึกขัดตาอยู่บ้างกับตึกสูงทั้งหลายที่ล้อมรอบวัดอยู่ แต่เมื่อเข้ามายัง “สวนป่าพระราชศรัทธา” แห่งนี้แล้ว บรรยากาศเหล่านั้นก็ถูกบดบังไปด้วยต้นไม้ใหญ่หลากหลายนานาพันธุ์มากมายที่อยู่เต็มบริเวณ ซึ่งทำให้เชื่อแล้วว่า แม้ว่าวัดปทุมวนารามจะอยู่ในย่านที่มีผู้คนพลุกพล่านที่สุด แต่ก็ยังคงมีความสงบ ร่มรื่น และมีบรรยากาศของความเป็นวัดอยู่ครบถ้วนไม่ตกหล่นไปไหนจริงๆ

    ดังนั้น หากใครที่ต้องการมาสัมผัสบรรยากาศสงบของวัดที่อยู่ท่ามกลางชุมชน อยากมานั่งสมาธิ ฟังธรรม หรือสนใจอยากจะไปร่วมทำบุญเนื่องในวันอาสาฬหบูชาและวันเข้าพรรษาที่วัดปทุมวนาราม ก็ขอเชิญมาได้ ซึ่งนอกจากจะได้มาร่วมทำบุญถวายสังฆทาน ตักบาตรพระประจำวันเกิด และไหว้พระพุทธรูปสำคัญๆ ภายในวัดแล้ว ก็ยังมีการถวายเทียนพรรษาและผ้าอาบน้ำฝน รวมทั้งมีการเวียนเทียน และแสดงพระธรรมเทศนา 1 กัณฑ์ในวันอาสาฬหบูชาอีกด้วย...โอกาสนี้ก็ขอเชิญเด็กแนวทั้งหลายแถวสยามมาลิ้มรสพระธรรมด้วยเสียเลยก็แล้วกัน

    [​IMG]
    พระอุโบสถวัดปทุมวนาราม


    * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

    วัดปทุมวนาราม ราชวรวิหาร ตั้งอยู่ที่ ถนนพระรามที่ 1 แขวงปทุมวัน เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร อยู่ระหว่างศูนย์การค้าสยามพารากอน และห้างเซ็นทรัลเวิลด์ พลาซ่า มีรถประจำทางสาย 2 15, 16, 25, 40, 45, 48, 54, 73, 79, 204, 79 ฯลฯ ผ่าน หรือสามารถนั่งรถไฟฟ้ามาลงที่สถานีสยาม แล้วเดินมาทางที่จะไปแยกเฉลิมเผ่า วัดจะอยู่ทางซ้ายมือ เปิดให้เข้าชมทุกวัน ในเวลา 07.00-18.00 น. สอบถามโทร. 0-2251-6469

    * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

    โดย ผู้จัดการออนไลน์ 24 กรกฎาคม 2550 16:14 น.

    :: �ҹ�����ѡ� :: :: ��ҹ - ��Ѵ����ǹ����� ᴹʧ������ҧ��Ҥ͹��յ


    วัดปทุมวนารามฯ เปิดให้ประชาชนทั่วไปสามารถเข้าร่วมสวมดมนต์ทำวัตรเช้า –เย็น นั่งสมาธิ ฟังธรรม สวดมนต์ เดินจงกรม หรือทำกิจทางศาสนาอื่นได้ตามอัธยาศัยทุกวัน โดยจะมีเทปธรรมะเปิดให้ฟังตลอดทั้งวัน และทุกวันอาทิตย์ที่ 1 และ 3 ของเดือนจะมีการนิมนต์พระจากวัดต่าง ๆมาเทศน์ ในช่วง 13.00 น.

    สำหรับ “ศาลาพระราชศรัทธา” นี้ สามารถเข้า-ออกได้ตลอด 24 ชม. มีห้องน้ำและน้ำดื่ม มีบริการให้ตลอด

    http://www.pendulumthai.com/smf/index.php?topic=2115.0;wap2
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 ธันวาคม 2010
  17. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,710
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    นครสวรรค์-แม่น้ำเจ้าพระยาเริ่มแห้งขอด

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    ระดับแม่น้ำเจ้าพระยาที่จังหวัดนครสวรรค์ลดลงอย่างน่าเป็นห่วง ล่าสุดปริมาณน้ำไหลผ่านเพียง 448 ลบ.ม./วินาที ชลประทาน เตือนเกษตรกรเตรียมกักเก็บน้ำไว้ใช้ในฤดูแล้ง และควรใช้น้ำอย่างประหยัด

    จากเมื่อปลายเดือนตุลาคมที่ผ่านมาระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาสูงมีปริมาณน้ำไหลผ่านสูงถึง 2,815 ลบ.ม./วินาที แต่ในวันนี้ระดับน้ำลดลงอย่างน่าเป็นห่วงจนสามารถเดินลงไปกลางแม่น้ำได้แล้ว โดยล่าสุดอยู่มีปริมาณน้ำไหลผ่านเพียง 448 ลบ.ม./วินาที ทั้งยังมีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ชลประทานจังหวัดนครสวรรค์ เผยปริมาณน้ำของแม่น้ำทุกสาย เช่น แม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำปิง และแม่น้ำน่าน น้ำลดลงอย่างต่อเนื่องช่นกัน

    ขอให้เกษตรกรกักเก็บน้ำไว้ใช้ในหน้าแล้งนี้ ไม่ควรวิดสระเพื่อจับปลา และควรหันมาปลูกพืชใช้น้ำน้อยหรือพืชตระกูลถั่วแทนการปลูกข้าว เนื่องจากฤดูแล้งปีนี้มีแนวโน้มจะยาวนานและรุนแรง

    ข่าวทีวีช่อง 3 วันพฤหัสบดี ที่ 23 ธันวาคม พ.ศ.2553

    ที่มา http://www.krobkruakao.com/
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 2.jpg
      2.jpg
      ขนาดไฟล์:
      28.7 KB
      เปิดดู:
      2,201
    • 3.jpg
      3.jpg
      ขนาดไฟล์:
      24.5 KB
      เปิดดู:
      91
    • 6.JPG
      6.JPG
      ขนาดไฟล์:
      29 KB
      เปิดดู:
      2,205
    • 7.JPG
      7.JPG
      ขนาดไฟล์:
      32.2 KB
      เปิดดู:
      2,182
    • 9.jpg
      9.jpg
      ขนาดไฟล์:
      28.2 KB
      เปิดดู:
      2,193
    • 10.jpg
      10.jpg
      ขนาดไฟล์:
      31.1 KB
      เปิดดู:
      2,192
  18. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,710
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    เพื่อนบ้านของโลกมาเยือนทุกๆรอบ 13,000 ปี

    [​IMG]

    ของจริงที่กำลังมาปรากฏให้เห็นด้วยตา เป็นดาวฤกษ์ดวงหนึ่งที่ ทางองค์การนาซ่าตรวจพบเมื่อ ค.ศ.1982 และติดตามสังเกตการณ์เรื่อยมา จนข้อมูลมาต่อเชื่อมกับดาวดวงเดียวกันกับที่ชาวสุเมเรียลได้บันทึกเอาไว้ในอดีต หลายพันปี ปัจจุบันนี้ชาวออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ ได้เห็นดาวสีส้มโตเท่าลูกกอล์ฟขึ้นทางทิศใต้เป็นปกติ นั่นคือ ดาวนิบิรุ ที่มีลักษณะรีคล้ายลูกรักบี้เป็นดาวฤกษ์ใหญ่กว่าดาวพฤหัสบดีประมาณ 2 เท่า โคจรเป็นวงรีควง 2 กาแลกซี่รอบดวงอาทิตย์ 2 ดวง ในเพลนทะแยงมุม 30 องศากับระนาบวงโคจรของโลกและดาวเคราะห์อื่นๆในระบบสุริยะ

    เราลองแวะดูข่าวสารข้อสรุป ของ AndrosEnigmax ในวิดีโอนี้ เพื่อเสริมสร้างสติปัญญาของเรา ที่ชาวโลกได้เริ่มมองเห็นดาวดวงนี้ด้วยตาเปล่ากันมากขึ้นแล้ว ช่วงระยะที่ ดาวนิบิรุ ทำยูเทิร์นดวงอาทิตย์ด้วยวงรีจะเร่งอัตราความเร็วเนื่องจากอยู่ในโค้งข้อศอก และเป็นขณะเดียวกับโลกโคจรรอบดวงอาทิตย์เข้าไปในระหว่างระยะทางของนิบิรุและดวงอาทิตย์พอดี ช่วงนั้นพลังเส้นแรงแม่เหล็กของดาวนิบิรุและดาวบริวารอีก 5 ดวง ซึ่งมีขนาดใหญ่พอๆกับโลก จะเหนี่ยวนำให้ขั้วเหนือแม่เหล็กโลก เคลื่อนโน้มลงประมาณ 90 องศา
    นักดาราศาสตร์คาดการณ์เอาไว้ว่าจะเกิดขึ้นประมาณ 14 ก.พ. 2013 ดาวนิบิรุ เป็นดาวฤกษ์ที่มีขนาดพอๆกับดาวพฤหัสฯ มีผงฝุ่นฟุ้งกระจายอยู่รอบตัวและมีส่วนหางยาว ดังนั้นประมาณ กลางปี ค.ศ. 2011 เป็นต้นไปช่วงที่โลกโคจร รอบดวงอาทิตย์ และเข้าไปอยู่ใต้ดาวดวงนี้ซึ่งมีระนาบโคจรทะแยงมุมกับระนาบโคจรของสุริยะจักรวาลประมาณ 30 องศา โลกจะได้รับปรากฏการณ์ฝนดาวตก ลงมาจากผงฝุ่นและส่วนหางของดาวนิบิรุ ซึ่งอาจมีโลหะหรือของแข็งที่ไหม้ไม่หมด ในชั้นบรรยากาศของโลก หลุดรอดลงมาถึงพื้นโลกได้

    ซึ่งได้ทราบเพิ่มเติมจากญาณทัสสนะของ พระอาจารย์รัตน์ว่า ขั้วเหนือใหม่จะไปอยู่ที่สฟิงซ์ที่ประเทศอียิปต์ ในช่วงเวลานี้ที่จะมีปรากฏการณ์ธรรมชาติมากมายเกิดขึ้นแก่โลก ที่อาจเรียกว่าเป็นการร่อนตะแกรงครั้งสุดท้ายของธรรมชาติ ที่มนุษย์ชาติที่เหลือรอดตายประมาณ 10 % ตามพุทธทำนาย ส่วนผู้เตรียมวิดีโอนี้ ได้สรุปไว้ว่า ประชากรของโลกจะสูญเสียรอบแรกไป 2 ใน 3 ส่วนที่เหลือจะอดอยากและเผชิญความแร้นแค้นในระยะ 6 เดือนไปอีก 2 ใน 3 ทั้ง 2 ช่วง ก็จะมีประชากรโลกรอดชีวิตอยู่ประมาณ 10 %

    ดาวนิบิรุจะโคจรมาทำยูเทิร์นกับดวงอาทิตย์ของระบบสุริยะ เริ่มเข้าใกล้โลกและจากไปกินเวลาประมาณ 2 ปี ชาวโลกที่ยังมีชีวิตอยู่จะได้เห็นพระอาทิตย์ขึ้น 2 ดวง จนดาว นิบิรุ เริ่มตีวงจากไกลดวงอาทิตย์ออกไป ทั้งนี้มีความเห็นจากนักดาราศาสตร์ไว้ว่า ต้นปี 2012 ที่ นิบิรุ ได้เริ่มโคจร เข้าใกล้โลก จะมีฝนดาวตกจากเศษดาว นิบิรุ ลงมาที่โลก และอาจมีวัตถุก้อนใหญ่ๆ ที่อาจไหม้ในบรรยากาศของโลกไม่หมดจะตกลงมาเป็นอันตรายต่อชาวโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในระยะ 7 วัน ที่โคจรเฉียดโลกมากที่สุด

    ระหว่างที่ ดาวนิบิรุ เดินทางผ่าน กลุ่มอุกาบาต ที่ลอยเป็นแนวยาวอยู่ในระบบสุริยะระหว่างดาวพฤหัสบดีและดาวอังคาร จะดึงดูด เศษอุกาบาตน้อยใหญ่ในย่านนี้ ให้ตกลงมายังผิวโลกก่อนที่มนุษย์จะมองเห็นดาวหางอย่างใกล้ชิดเป็นเวลา 7 วัน เนื่องจากระนาบวงโคจรของดาวหางและดาวบริวารมีระนาบเอียงประมาณ 30 องศากับระนาบของสุริยะจักรวาล หรืออาจเกิดการชนกันขึ้นในอวกาศก็ได้

    การเดินทางของดาวหางนิบิรุ และดาวบริวารอีก 5 ดวงขนาดพอๆกับโลก หากเดินทางผ่านแนวขยะอวกาศ (Asteroid) ที่ลอยอยู่ในอวกาศระหว่างดาวพฤหัสบดีและดาวอังคารนั้น จะไปกระตุ้นให้ขยะขนาดใหญ่เหล่านี้ หลุดลอยออกจากกลุ่ม ติดตามแรงดึงดูดของ ดาวหางนิบิรุ พุ่งตรงเข้ามาในชั้นบรรยากาศของโลก ได้อย่างง่ายดาย โดยเฉพาะขณะนี้ชั้นบรรยากาศชั้น Magnetosphere ของโลกอ่อนแรงด้วย ขยะจากชั้นนอกโลก จึงมีโอกาสหลุดลอดลงมาบนพื้นผิวโลกได้มากยิ่งขึ้น ​

    (ส่วนทำไมจึงมาเลือกตกลงในเขตประเทศที่เคยเป็นมหาอำนาจ ในแถบเมดิเตอร์เรเนียนนั้น ก็ต้องมองย้อนไปถึงกรรมดำในอดีตที่คนในประเทศเหล่านี้ได้สะสมเอาไว้มากมายมหาศาลทีเดียว ช่างเทคนิค หรือเจ้ากรรมนายเวรจึงเป็นผู้ที่เลือกจะเอาระเบิดเพลิงไปลงที่ไหน)​

    สำหรับผู้คนทางภาคตะวันออก ไม่คุ้นเคยภูมิประเทศ และเมืองต่างๆที่นอสตราดามุส กล่าวถึง ก็อาศัยภาพถ่ายดาวเทียม ลองแพนดู ต้องการดูพื้นที่ส่วนไหน ก็ขยายดูได้ ก็จะช่วยให้ท่านติดตามภาพอนาคต ที่นอสตราดามุส ได้บันทึกคำเตือนลูกหลานภายหน้าเอาไว้ ส่วนใครจะดูแล้วผ่านเลยไป ก็เป็นสิทธิของแต่ละคน การดูภาพต่างๆจะให้ชัดเจนยิ่งขึ้นน่าจะสลับกับแผนที่โลกใหม่ ของนายกอร์ดอนไปด้วย จะให้เรื่องราวรายละเอียดแก่ทุกๆท่านได้ชัดเจนยิ่งขึ้น

    ส่วนผู้ที่ติดตามสิ่งแวดล้อมโลกมาตลอด คงจะไม่ลืมว่า พระอาจารย์รัตน์ ได้ให้คำแนะนำไว้ว่า หากต้องบินไปทำธุระในต่างประเทศ ก็ขอให้รีบทำให้เสร็จเสียภายในปี 2010 นี้ หาก ปีหน้าท่านยังเดินทางได้อยู่ แต่จะไม่มีขากลับ ท่านกล่าวไว้เพียงแค่นั้น ส่วนจะมีสาเหตุอันใดเกิดขึ้น ก็ต้องเสาะหารายละเอียดเพิ่มเติมกันเอาเอง ปกติทั่วไปเครื่องที่บินระหว่างประเทศ หากขาดสัญญาณนำทางจากหอบังคับการระหว่างประเทศ การบินก็ไม่สามารถทำได้ เมื่อขาดสัญญาณเรดาร์รับช่วงกัน ทางเรือก็เช่นเดียวกัน ถ้ายิ่งเกิดมีวัตถุภูเขาเกือบ 2 กม.ที่กำลังลุกไหม้แดงฉานจากนอกโลกที่นอสตราดามุส มองเห็นกำลังวิ่งลงมาชนโลก ที่บริเวณมหาสมุทรเมดิเตอร์เรเนียนตอนเหนือ ระหว่างเมืองมอนาโค และอิตาลี่นั้น ยิ่งไม่ต้องพูดถึงการเดินทางใดๆ

    ด้วยขนาดของดาวหางนิบิรุ เท่าๆกับดาวพฤหัสฯ โคจรในทิศสวนทางกับโลกในระยะใกล้ ตอนทำยูเทิร์นรอบดวงอาทิตย์ สนามแม่เหล็กจำนวนมหาศาลของดาวหาง จะเหนี่ยวนำให้แกนพลังงานของโลกหมุนเคลื่อนที่ไปประมาณ 90 องศา ขั้วโลกเหนือใหม่จะอยู่ที่สฟริงซ์ประเทศอียิปต์ ซึ่งในอนาคตอียิปต์ทั้งประเทศจะจมหายลงไปใต้ทะเลอีกวาระหนึ่ง

    เมื่อโลกย้ายแกนพลังงาน เปลือกโลกทุกแผ่นก็ต้องปรับสมดุล ให้โลกหมุนต่อไปได้ราบเรียบ นั้น ย่อมส่งผลกระทบ ต่อชั้นบรรยากาศ เกิดลมพายุ แผ่นดินไหวเป็นเวลานานหลายชั่วโมงติดต่อกัน เกิดภูเขาไฟระเบิดทั้งบนบกและใต้ทะเล เกิดคลื่นสึนามิขนาดใหญ่ทั่วโลก เกิดฝนตกหนักและแผ่นดินถล่ม เปลือกโลกมีทั้งลอยขึ้นและจมลง ดังที่นายกอร์ดอน เห็นภาพล่วงหน้าเมื่อ 2521 ในแผนที่โลกใหม่ ​

    การเปลี่ยนแปลงของโลกหลังโลกย้ายแกน ย่อมมีความรุนแรงกว่า ตอนที่ดาวหางเริ่มเข้ามาใกล็โลก สัก 5-6 เดือนล่วงหน้า ซึ่งจะเกิดฝนดาวตก ที่จะมีเศษอุกาบาตตกลงมาด้วย เมื่อส่วนต่างๆของโลกหันพื้นที่ส่วนนั้นไปรับสายฝนอุกาบาต ที่ดาวหางนิบิรุนำมาจาก แถบเศษดาว ที่ลอยเคว้งอยู่ในอวกาศระหว่างดาวพฤหัสฯและดาวอังคาร ​

    เข้ามาในบรรยากาศของโลก เป็นการโหมโรง ก่อนที่ดาวนิบิรุจะมาปรากฏตัวให้ชาวโลกได้ชมอย่างใกล้ชิดเป็นเวลา 7 วัน ผู้ที่ทราบเรื่องราวล่วงหน้า และได้เตรียมเซฟเฮ้าส์เอาไว้แล้ว ค่อยๆติดตามข่าวและรับทราบความเปลี่ยนแปลงของธรรมชาติ ก็จะทราบชัดว่า เมื่อไรจะถึงเวลาที่ท่านจะต้องเร่งอพยพ)​

    ผลดีของการมาของดาว นิบิรุ ในรอบนี้ จะช่วยปรับย้ายระบบสุริยะและโลก ไปสู่แรงดึงดูดของ กาแลกซี่ ไตรแอง กุลัม หรือกาแลกซี่เบาทางด้านทิศตะวันออก โลกจะได้รับพลังคลื่นสีขาว เหลือง หรือพลังดี เป็นพลังปราณ และพลังมโนธาตุและธาตุว่างอย่างเต็มที่ ตรงกันข้ามกับธาตุหนักของกาแลกซี่ทางช้างเผือก เป็นการนำโลกไปสู่ยุคใหม่ใต้อิทธิพลของกาแลกซี่นี้ไปอีก 13,000 ปี แล้วจึงจะสลับกลับมาสู่กาแลกซี่ทางช้างเผือกอีก 13,000 ปี เป็นวัฏจักรของสุริยะจักรวาล และกาแลกซี่อื่นๆที่ครอบสุริยะจักรวาลอยู่​

    สำหรับหลายๆท่านยังต้องการจะรู้จักดาวดวงนี้ให้ละเอียดละออยิ่งขึ้น ก็ลองแวะที่นี่ได้..http://www.yowusa.com/
    [​IMG]
    การที่ระบบสุริยะจักรวาลทั้งหมดจะย้ายที่ได้นั้น ย่อมต้องการทั้งแรงดูดและแรงผลักในอวกาศเกิดขึ้นทั้ง 2 อย่าง แรงดูดนั้นปัจจุบันกาแลกซี่ไตรแองกุลัมได้ดูดสุริยะจักรวาลเข้ามาใกล้ขอบแล้ว ยังขาดแต่แรงผลักจากกาแลกซี่ทางช้างเผือกเท่านั้น ซึ่งคาดว่าจะเกิดขึ้นในปลายปี ค.ศ.2012 เป็นต้นไป ลั่นไกเมื่อดาวทุกดวงในระบบสุริยะและดาวนิบิรุมาเข้าแถวอยู่ในระนาบเดียวกันเป็นเส้นตรง ส่งเชื่อมพลังสนามแม่เหล็ก บวก-ลบ ๆ เพิ่มกำลังแรงแม่เหล็กเต็มที่ ส่งพลังไปยังศูนย์กลางของกาแลกซี่ทางช้างเผือก จุดประกายขึ้นทั่วจักรวาล ทั้งแสงและเสียง ส่งพลังคลื่นแม่เหล็กสะท้อนกลับมายังดาวต่างๆ ที่เข้าแถวอยู่ให้เคลื่อนตัวไปสู่กาแลกซี่ไตรแองกุลัม เริ่มขบวนการเปลี่ยนแปลงตั้งแต่กลางดึกของ 21-12-2012

    ก่อนที่บ้านที่กำลังสร้างใหม่ จะตกแต่งให้เรียบร้อย ความยุ่งเหยิงเกะกะรกเต็มไปหมด ด้วยเศษวัสดุก่อสร้างต่างๆเกิดขึ้นฉันใด ผลกระทบต่อมวลมนุษย์และสรรพสัตว์และทุกๆสิ่งบนเปลือกโลกในโซนต่างๆ ย่อมจะได้รับในระดับต่างๆแตกต่างกันออกไป ทุกๆด้าน ทั้ง ดิน น้ำ ลม ไฟ แสง เสียง ที่มีเสกลที่อาจรุนแรง ที่มนุษย์จะค่อยๆสัมผัสมากยิ่งขึ้นไปโดยลำดับ ตั้งแต่เวลานี้เป็นต้นไป ผสมกับแรงกรรมทั้งดีและชั่ว ที่มนุษย์ได้สะสมมาเป็นเวลาหมื่นๆปี ที่เจ้ากรรมนายเวรจะถือโอกาสนี้ชำระสะสางกรรมเก่า ที่เคยก่อต่อกันเอาไว้ แปลงพลังความแค้นเคืองเป็นพิบัติภัยทางธรรมชาติ และโรคภัยไข้เจ็บและโรคระบาดต่างๆที่เคยสงบไปเป็นเวลานาน กลับมาระบาดอย่างรุนแรงอีกคำรพหนึ่ง

    ความเห็นเรื่องโลกย้ายแกนและน้ำท่วมโลกของอดีตพนักงานองค์การนาซ่ามีรายละเอียดที่ สหรัฐฯได้ตระเตรียมเอาไว้อย่างไรบ้าง
    http://www.ainews1.com/modules.php?name=Web_Board&file=view&No=196

    จึงมีความจำเป็นที่ผู้ไม่ประมาทจะทำการแก้ไขเสียแต่เนิ่นๆ ให้เจ้ากรรมนายเวรหายแค้นเรา และสร้างภูมิคุ้มกันโรค และตระเตรียมเคลื่อนย้ายสู่สถานที่ปลอดภัย พร้อมทั้งสะสมสะเบียงกรัง เครื่องนุ่งห่ม ยารักษาโรค และโซนของดินแดนสุวรรณภูมิจะย้ายเข้าใกล้ขั้วโลกเหนือใหม่ เหลือเพียง 1 ใน 3 ของระยะทางปัจจุบัน คงจะหนาวเย็นไม่แพ้เมืองคุณหมิงในปัจจุบัน วกกลับมาโซนที่ปลอดภัย พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้วางแนวทางล่วงหน้า ประมาณ 2583 ปี เริ่มตั้งแต่พระพุทธองค์มีพระชนม์มายุได้ 57 พระพรรษา เตรียมการสำหรับการมาอุบัติครั้งใหม่ของพระพุทธองค์หลังกึ่งพุทธกาลหรือ พ.ศ. 2550 แวะศึกษารายละเอียดที่ http://ainews1.com/article300.html

    สิ่งต่างๆที่กล่าวข้างต้น ทุกท่านต้องตอบคำถามให้แก่ตนเองให้ได้ก่อนว่า ปัจจุบันตัวท่านกำลังอยู่ที่ไหน และภารกิจที่มาเกิดในยุคนี้เพื่อจะทำอะไรให้แก่ตนเองบ้าง เนื่องจากวิถีชีวิตของทุกๆท่านมาเกิดอยู่ตรงรอยต่อของโลกพลิกขั้วพอดี จึงเป็นเหตุการณ์ที่อาจจะทั้งดี และร้ายพอๆกัน แล้วแต่สติปัญญาและความไม่ประมาทที่แต่ละชีวิต จะต้องใช้เวลาศึกษาให้ถ่องแท้แก่ตนเอง มิใช่พอได้ทราบข้อมูลจะไปสรุปเลยว่าใช่ หรือ ไม่ใช่ เนื่องด้วยเหตุการณ์อย่างนี้ประวัติศาสตร์ของโลกไม่เคยบันทึกเอาไว้ สำหรับให้คนรุ่นนี้ได้ใช้อ้างอิง นอกเสียจากต้องใช้ญาณทัสสนะ ไม่ใช่ใช้ การคิดนึก หรือสติปัญญา อย่างที่มนุษย์เคยชิน หรือหากใช้ย่อมจะเกิดความคลาดเคลื่อนได้มากทีเดียว

    แต่อย่างไรก็ดี ทางองค์การนาซ่ารู้จักดาวดวงนี้ดีพอสมควร เนื่องจากได้ติดตามศึกษามาตั้งแต่ ค.ศ. 1982 เป็นต้นมา และทาง ดร.อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ ก็ได้ยืนยันถึงความเป็นไปได้ที่ขั้วโลกจะเกิดการพลิกขึ้น และผู้เชี่ยวชาญทางดาราศาสตร์ก็ได้ทำการศึกษาวิจัยแล้วว่า ในอดีตประมาณ 12,000 ปี ขั้วโลกเหนืออยู่ที่บริเวณทะเลสาปมิชิแกน หรืออเมริกาเหนือ ก่อนที่จะเปลี่ยนมาอยู่ในตำแหน่งปัจจุบันในเวลานี้


    เมื่อท่านผู้ไม่ประมาทต่อความเปลี่ยนแปลงของโลกและทุกๆสิ่งอยู่ตลอดเวลา ตามที่พระพุทธองค์ได้ทรงตรัสบอกมวลมนุษย์เอาไว้นานแล้ว ในปลายปี 2012 นี้ ละครฉากเดิมก็จะปิดฉากลง และเมื่อได้ติดตามค้นหาความจริงของโลกที่กำลังเกิดขึ้น และที่จะวิกฤตยิ่งขึ้นในอนาคตข้างหน้า ทำให้สภาพต่างๆของประเทศไทยถอยหลังไปอีกประมาณ 50 ปี จนตนเองเข้าใจตรงกับความเป็นจริงที่จะต้องเผชิญแล้ว สิ่งที่ควรจะมานั่งลงไตร่ตรองต่อไปเช่น :-
    • ตารางเวลาเหตุการณ์ต่างๆเท่าที่เราจะค้นหา และพอเชื่อถือได้
    • สภาวะปัจจุบันที่เรากำลังใช้ชีวิตปกติเดิมๆอยู่ ลองประเมินดูว่าจะมีผลกระทบต่อการเป็นอยู่ของเราอย่างไรบ้าง
    • หากเราจำเป็นจะต้องเคลื่อนย้าย ควรพิจารณาโซนไหนของประเทศที่เราน่าจะปลอดภัยที่สุด และสะดวกในการเดินทางไปให้ถึงเซฟเฮ้าส์ในเวลาที่จำกัด
    • ความพร้อมทางการเงินในการเตรียมการและทุนสำรองที่จำเป็น
    • หากยังมีปัญหาทางการเงิน ควรหาทางเลือกแก้ปัญหานี้ให้ลุล่วงโดยเร็ว ให้เรามั่นใจตนเองทุกปัญหาสามารถแก้ได้
    • ศึกษาและคาดการณ์ เหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้น และมีความเป็นไปได้ ที่เราจะต้องเตรียมการเรื่องที่อยู่อาศัยแบบใดให้เราปลอดภัย ในช่วงเกิดพิบัติภัยของโลก ตรงนี้ต้องใช้ความรอบรู้ทางวิศวกรรมโยธาเข้ามาช่วย สำหรับใช้แก้ปัญหาที่จะเกิดในอนาคต
    • ข่าวสำหรับผู้อาศัยในที่ราบลุ่ม ในระดับสูงกว่าน้ำทะเล 100 เมตรลงมา ให้ลองติดตามข่าวพิบัติภัยต่างๆทั่วโลกประกอบเป็นระยะๆไป และสิ่งที่จะนำอัฟเดทให้ทราบเป็นคราวๆไป สำหรับผู้ที่จะติดตามข้อมูลนำไปประกอบการพิจารณาของท่านเองโดยอิสระ ยังไม่ต้องปักใจเชื่อแต่ประการใด
    • ทำเลที่จะใช้อาศัยเป็นเชฟเฮ้าส์ เมื่อได้จัดเตรียมการเอาไว้พร้อมแล้ว เมื่อถึงเวลาอพยพให้ใช้การเดินทางถึงที่หมายให้ได้ภายในเวลา 6 ชั่วโมง ในเส้นทางที่ดัดเลือกและซักซ้อมไว้เป็นประจำ พร้อมเส้นทางสำรองอื่นๆหากจำเป็นต้องใช้
    • ทำเลหลบภัย แน่นอนต้องมีสิ่งจำเป็นในการดำรงชีวิตอย่างพอเพียง สำรองไว้ใช้ในกลุ่มของตน 4-6 เดือน และเตรียมอุปกรณ์สำหรับการเกษตร ที่จะใช้สำหรับการดำรงชีวิต ที่เน้นด้านมังสวิรัติ ที่เป็นประโยชน์ต่อชีวิต
    • ระหว่างใช้ชีวิตอยู่ในเซฟเฮ้าส์ ภารกิจของทุกๆชีวิตคืออยู่อย่างพอเพียง ทั้งกายและใจ กายต้องการอาหารหล่อเลี้ยงที่พอเพียง ส่วนจิต จะไม่มีงานมากนักในทางโลกหรือจำเป็นต้องดิ้นรนอะไรมาก จิต จึงเป็นโอกาสในการกำหนดดู 'ทาง' หรือ มรรค อย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอ เตรียมพร้อมสำหรับการตายครั้งสุดท้ายได้ทุกเวลา
    • ส่วนพ่อแม่ที่ยังมีลูกเล็กๆ ต้องเตรียมอุปกรณ์การเรียนการสอนต่างๆให้แก่ลูกๆของตนเองเอาไว้ล่วงหน้า
    • ตระเตรียมเครื่องมืออุปกรณ์ง่ายๆสำหรับใช้สกัดสารอาหารธรรมชาติ ที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายใช้รับประทานสดๆรายวัน
    • ตระเตรียมเครื่องมือการเกษตร ชีวะเคมีธรรมชาติสำหรับปลูกพืชครบวงจร ยุ้งฉางเก็บข้าวเปลือก เครื่องสีข้าวขนาดเล็ก
    • เตรียมเมล็ดพันธุ์พืช และต้นพันธุ์ไม้สมุนไพรจำเป็นต่างๆสำหรับใช้ยามฉุกเฉิน
    • ศึกษาข้อมูลการผลิตปุ๋ย และฮอร์โมนธรรมชาติ จากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และเตรียมสำรองหัวเชื้อสำเร็จรูปเอาไว้ใช้ในระยะยาว
    • เตรียมปลูกพืชต่างๆที่ใช้เป็นอาหาร สมุนไพร และใช้ผลิตเชื้อเพลิงแทนดีเซล
    • ศึกษาเตรียมการผลิตกาซเชื้อเพลิงธรรมชาติ สำหรับผลิตใช้เองในครอบครัว
    • เตรียมเสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่ม สำหรับใช้ยามอากาศหนาว ตั้งแต่ 5 องศาเซลเซียสขึ้นไป ให้เพียงพอ
    • ระบบป้องกันภัยตนเองจากโจรผู้ร้าย และสัตว์มีพิษต่างๆที่ต่างหนีตายเอาตัวรอด
    • สำรองเครื่องเวชภัณฑ์ต่างๆ ที่ใช้อยู่เป็นประจำให้เพียงพอ
    • เตรียมอาหารแห้งที่เก็บได้ระยะยาว และเกลือแกง
    • เตรียมเชื้อเพลิง และเตาประหยัดพลังงาน อย่างน้อย 2 ระบบ
    • เตรียมระบบน้ำใช้สำรอง ทั้งด้านบริโภค และเพื่อใช้ภาคเกษตรกรรมแบบประหยัดน้ำ
    • เตรียมสำรองปูนขาว สำหรับกวนกับน้ำฝนที่เป็นกรดกำมะถันอ่อนๆ อันเป็นผลจากเถ้าภูเขาไฟในชั้นสตราโตสเฟียร์จำนวนมากที่ถูกภูเขาไฟทั้งบนบกและใต้น้ำพ่นขึ้นไปรวมกับเมฆฝน และมลภาวะภูเขาไฟอาจลอยอยู่ในอากาศนานหลายปี จึงน่าเป็นห่วงการปลูกพืชผักนาๆชนิดอย่างยิ่ง
    • การเกิดภูเขาไฟระเบิดขึ้นทั่วโลก ทำให้เมฆหมอกของเถ้าภูเขาไฟบดบังแสงอาทิตย์ โลกจึงอาจเย็นลงมากกว่าปกติ และผลิตผลทางภาคเกษตรกรรมจะเป็นปัญหามาก
    • เตรียมเชื้อเห็ดและโรงเพาะเห็ดเล็กๆ เอาไว้ปลูกเห็ดรับประทานเป็นอาหารโปรตีน
    • เตรียมทรัพย์สำรองสำหรับการแลกเปลี่ยน สิ่งของจำเป็นในการดำรงชีวิต เช่นทองคำ
    • อุปสรรคการเดินทางโดยรถยนตร์ .. สะพานลอยคนข้ามหล่นลงมาขวางทางจราจรตามที่ต่างๆ เนื่องจากตัวสะพานไม่ได้ ยึดกับตอม่ออย่างมั่นคง
    ลองฝากประเด็นเอาไว้แค่นี้ก่อน แล้วจะค่อยๆนำมาสนทนากันต่อไป ว่ายังมีประเด็นใดบ้างที่จะต้องนำมาพิจารณา รวมทั้งการติดตามจากข่าวสารต่างๆในปัจจุบัน ที่มีเหตุการณ์ต่างๆเกิดขึ้นทั่วโลก และควรจะทราบให้ได้ว่าต้นเหตุนั้นมันมาจากที่ไหนบ้างเป็นหลักใหญ่ๆตามความเป็นจริงของสิ่งแวดล้อมโลก ที่กำลังเป็นปัญหาร้ายแรงมากยิ่งขึ้นโดยลำดับ ส่วนใหญ่มาจากน้ำมือของมนุษย์ในรอบ 2 ศตวรรษ ที่ผ่านมาแทบทั้งสิ้น

    ส่วน มนุษย์ในยุคใหม่ที่ดีเอ็นเอเปลี่ยนไป หลังจากโลกย้ายแกนใหม่แล้ว และสุริยะจักรวาลพร้อมกับโลก ได้สลับจากกาแลกซี่ทางช้างเผือก เคลื่อนไปสู่แรงดึงดูดของ กาแลกซี่ไตรแองกุลัม ทาง ทิศตะวันออก ของยุคชาวศิวิไลซ์ ซึ่งเน้นความดี มีศีลธรรม แทนสังคมเงินทอง ซึ่ง หลวงปู่ประเสริฐ อวยชัยให้พรให้ลูก หลานปัจจุบัน พยายามนำพาชีวิตอยู่ไปให้ถึงยุคใหม่ให้ได้...

    'ปี 2555 เมืองไทยจะเกิดวิกฤติ จนถึงขั้นอาจตกต่ำลงไป' ซึ่งพ่อเจ้าราชครูโพนสะเม็กกล่าวเตือนลูกหลานเอาไว้​

     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  19. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,710
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    ฝนอุกกาบาตถล่มโลก

    [​IMG]

    บทความจากคุณ Chayutt<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_373938", true); </SCRIPT> สมาชิก

    เมื่อวันที่ 9 มิ.ย.49 ที่ผ่านมานี้ ผม(chayutt)ได้ไปถวายเงินผ้าป่าสร้างพระ (รอบที่2) กับท่าน พ.ธรรมรังสี ที่วัดสระแก จ.อยุธยา ท่านได้เล่าให้ฟังว่า ภัยพิบัติที่ได้เกิดขึ้นไปแล้วนั้น(สึนามิ) ท่านเองก็ทราบมาก่อนเหมือนกัน และมันก็ได้เกิดขึ้นไปแล้วจริงๆ​

    แต่ที่ท่านบอกว่าท่านอกสั่นขวัญแขวนก็คือ ภัยพิบัติที่กำลังจะมาถึงในอนาคตนี้ต่างหากหละ ท่านบอกว่าท่านเห็นลูกไฟมากมายตกลงมาจากท้องฟ้า เป็นห่าลูกไฟห่าใหญ่ ท่านก็พาคนกลุ่มหนึ่งวิ่งเข้าไปหลบในถ้ำได้อย่างปลอดภัย ส่วนคนที่วิ่งหนีกระเจิดกระเจิงเข้าป่าไปนั้น ก็ถูกลูกไฟตกใส่ เผาไหม้ร้องโอดโอยทั้งคนทั้งป่า ไหม้หมดเลย

    <!-- google_ad_section_end -->
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 3iepnp4o.jpg
      3iepnp4o.jpg
      ขนาดไฟล์:
      79.4 KB
      เปิดดู:
      95
    • 518.jpg
      518.jpg
      ขนาดไฟล์:
      70.1 KB
      เปิดดู:
      2,125
    • Meteor1.jpg
      Meteor1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      32.7 KB
      เปิดดู:
      82
    • ฝนอุกา~1.JPG
      ฝนอุกา~1.JPG
      ขนาดไฟล์:
      54.5 KB
      เปิดดู:
      85
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 ธันวาคม 2010
  20. Aqua-ma-rine

    Aqua-ma-rine เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 เมษายน 2008
    โพสต์:
    820
    ค่าพลัง:
    +1,242
    ฝนอุกาบาตถล่มโลก ? ในพระคัมภีร์ชาวคริสต์พูดถึงการกลับมาพิพากษามนุษย์โดยพระเจ้าว่า จะมีการล้างโลกด้วยไฟ ต่างจากยุคโนอาห์ที่ตอนนั้น ล้างด้วยน้ำน่ะ


    webcache.googleusercontent.com/search?q=cache:6jrGVIfWumwJ:www.tyrannusthai.com/index.php%3Flay%3Dshow%26ac%3Darticle%26Id%3D137328%26Ntype%3D3+%E0%B8%9E%E0%B8%B4%E0%B8%9E%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%A9%E0%B8%B2%E0%B8%94%E0%B9%89%E0%B8%A7%E0%B8%A2%E0%B9%84%E0%B8%9F+%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%88%E0%B9%89%E0%B8%B2&cd=3&hl=th&ct=clnk&gl=th


    "การงานของแต่ละคนก็จะได้ปรากฎให้เห็น เพราะวันเวลาจะให้เห็นได้ชัดเจนเพราะว่าจะเห็นชัดได้ด้วยไฟ ไฟนั้นจะพิสูจน์ให้เห็นการงานของแต่ละคนว่าเป็นอย่างไร" (13) เมื่อพระเจ้าได้ทรงพิพากษาลงโทษคนในสมัยโนอาห์ พระองค์ได้ทรงสัญญาว่า จะไม่พิพากษาด้วยน้ำอีก แต่จะพิพากษาด้วยไฟ

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 ธันวาคม 2010

แชร์หน้านี้

Loading...