พี่ๆมีรูป พระสังกัจจาย ที่เป็นเเบบรูปคนจริงๆไหมครับ ? ผมอยากดู

ในห้อง 'พุทธภูมิ - พระโพธิสัตว์' ตั้งกระทู้โดย วิญญาณนิพพาน, 15 เมษายน 2009.

  1. วิญญาณนิพพาน

    วิญญาณนิพพาน ทีมงานอาสาฯ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2008
    โพสต์:
    22,310
    กระทู้เรื่องเด่น:
    51
    ค่าพลัง:
    +21,002
    ผมก็ไม่รู้ว่าโลกนี้มีรึเปล่า ? หรือมีเเต่เป็นรูปภาพกับรูปปั้นก็ไม่รู้ อนุโมทนาครับ ถ้ามี ขอดูหน่อยก็ดีครับ ขอบคุณครับทุกคน
     
  2. CHOTIYA

    CHOTIYA เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,006
    ค่าพลัง:
    +359
    พระมหากัจจายณ นิพพานล่วงแล้ว๒๖๐๐ปี ใครมีรูปจากองค์จริงท่านได้ เขาผู้นั้นคือ นักต้มตุ๋นระดับจักรวาล
     
  3. วรกันต์

    วรกันต์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    190
    ค่าพลัง:
    +257
    พระมหากัจจายน ตามประวัติ พระองค์ ท่าน เป็นพระสาวก ที่มีรูปงาม ใกล้เคียงกับพุทธองค์มากครับ เพราะจากประวัติ พระมหากัจจายน เป็นพุทธภูมิ ที่จะได้รับการพยากรณ์ครั้งแรก ในสมัยพระพุทธเจ้าโคดมครับ แต่เปลี่ยนใจ ปรารถนาสาวกภูมิแทน

    ด้วยผลบุญที่ท่านทำในพุทธภูมิ จึงทำให้รูปกายท่าน มีความงดงามคล้ายพระพุทธเจ้ามากครับ (ตามประวัตินะครับ)

    แต่เพราะด้วยความงามนี่แหละ ทำให้แม้แต่ชายยังหลงไหลในรูปท่าน ท่านจึงเนรมิตให้รูปกายของท่าน เป็น คนอ้วน พุงพุ้ย อย่างที่เห็นๆกัน เพราะเกรงว่าจะเป็นอุปสรรค ต่อ การครองเพศบรรชิตของท่าน
     
  4. J47

    J47 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2010
    โพสต์:
    500
    ค่าพลัง:
    +3,405
    โมทนาด้วยครับ
    คงไม่ใช่แล้วนะครับ ที่พระมหากัจจายนะเป็นพุทธภูมินะครับ
    พระมหากัจจายนะ ปรารถนาเป็นผู้เลิศในด้าน " กล่าวจำแนกเนื้อความย่อแห่งภาษิตให้พิสดาร " เมื่อ 100,000 กัปป์ที่แล้ว ในสำนักขององค์สมเด็จพระปทุมุตตรสัมมาสัมพุทธเจ้า


    ความปรารถนาในอดีต
    ประวัติในอดีตชาติของท่าน นอกจากในหลาย ๆชาติที่ท่านได้เกิดร่วมสมัยกับพระพุทธองค์เมื่อครั้งเสวยชาติเป็นพระโพธิสัตว์ ดังเช่น
    ได้เกิดเป็น รัชชุคาหกะอำมาตย์ผู้รังวัด เมื่อครั้งพระพุทธองค์ทรงเสวยพระชาติเป็น พระเจ้ากุรุราชโพธิสัตว์ ใน กุรุธรรมชาดก
    ได้เกิดเป็น กาฬเทวิลดาบส เมื่อครั้งพระพุทธองค์ทรงเสวยพระชาติเป็น สรภังคดาบส ใน อินทริยชาดก
    ได้เกิดเป็น กาลเทวละดาบส เมื่อครั้งพระพุทธองค์ทรงเสวยพระชาติเป็น สรภังคดาบสโพธิสัตว์ ใน สรภังคชาดก
    ส่วนในชาติที่ท่านได้แสดงถึงความปรารถนาที่จะได้รับตำแหน่งเอตทัคคะดังกล่าวมีดังนี้
    ได้ยินว่า ครั้งพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระนามว่า ปทุมุตตระ พระมหากัจจายนเถระนั้นบังเกิดในสกุลคฤหบดีผู้มหาศาล ครั้นเมื่อเจริญวัยแล้ว อยู่มาวันหนึ่งวันหนึ่งได้ไปยังพระวิหารที่พระพุทธปทุมุตตระประทับอยู่ และฟังธรรมอยู่แถวท้ายหมู่พุทธบริษัทในวิหารนั้น ได้เห็นภิกษุรูปหนึ่งที่พระศาสดาทรงสถาปนาไว้ในตำแหน่งเป็นยอดของเหล่าภิกษุผู้จำแนกอรรถแห่งพระดำรัสที่พระองค์ตรัสโดยย่อให้พิสดาร ท่านจึงปรารถนาที่จะได้เป็นอย่างภิกษุนี้ในศาสนาของพระพุทธเจ้าพระองค์หนึ่งในอนาคตกาลเช่นนั้นบ้าง
    ดังนั้นท่านจึงนิมนต์พระพระปทุมุตตระพุทธเจ้า และทำการถวายมหาทานอยู่ ๗ วัน. แล้วท่านจึงหมอบลงแทบพระบาทของพระศาสดา แสดงความปรารถนาว่า ด้วยผลแห่งการถวายทานสักการะนี้ ข้าพระองค์ไม่ปรารถนาสมบัติอื่นใด เพียงแต่ในอนาคตกาล ขอข้าพระองค์พึงได้ตำแหน่งเอตทัคคะนั้นในศาสนาของพระพุทธเจ้าพระองค์หนึ่งในอนาคตกาล เหมือน ภิกษุที่พระองค์ทรงสถาปนาไว้ในตำแหน่ง ในวันสุดท้าย ๗ วัน นับแต่วันนี้
    พระศาสดาทรงตรวจดูอนาคตกาลด้วยพุทธญาณ ทรงเห็นว่าความปรารถนาของกุลบุตรนี้จักสำเร็จ จึงทรงพยากรณ์ว่ากุลบุตรผู้เจริญ ในที่สุดแห่งแสนกัปในอนาคต พระพุทธเจ้าพระนามว่าโคดม จักทรงอุบัติขึ้น ท่านจักเป็นยอดของเหล่าภิกษุผู้จำแนกอรรถแห่งคำที่ตรัสโดยสังเขปให้พิสดาร ในศาสนาของพระโคดมพุทธเจ้าดังนี้ ครั้นเมื่อทรงพยากรณ์แล้ว ทรงกระทำอนุโมทนาแล้วเสด็จกลับไป.
    ฝ่ายกุลบุตรนั้นบำเพ็ญกุศลตลอดชีพแล้วเวียนเกิดเวียนตายอยู่ในภูมิเทวดา และมนุษย์ทั้งหลายแสนกัป ในกาลแห่งพระผู้มีพระภาคเจ้าพระนามว่าสุเมธะ ได้เป็นวิทยาธร เที่ยวไปทางอากาศ ได้พบพระผู้มีพระภาคเจ้าพระนามว่าสุเมธะ ซึ่งประทับนั่งในชัฏแห่งป่าแห่งหนึ่ง มีใจเลื่อมใสได้เอาดอกกรรณิการ์มาทำการบูชา.ด้วยบุญอันนั้น ท่านจึงเกิดเฉพาะแต่ในสุคติภูมิอย่างเดียว
    ครั้นสมัยพระกัสสปพุทธเจ้า ท่านพระมหากัจจายนเถระก็มาถือปฏิสนธิในครอบครัวหนึ่ง ในกรุงพาราณสี เมื่อพระกัสสปพุทธเจ้าปรินิพพานแล้ว ท่านก็ไปยังสถานที่สร้างเจดีย์ทอง จึงเอาอิฐทองมีค่าแสนหนึ่งถวายเป็นพุทธบูชา ตั้งความปรารถนาว่า ข้าแต่พระผู้มีพระภาคเจ้า สรีระของข้าพระองค์จงมีวรรณเพียงดังทองในที่ ๆ เกิดแล้วเถิด
    ต่อแต่นั้น ก็กระทำกุศลกรรมจนตลอดชีวิต และได้เวียนว่ายในภูมิเทวดาและมนุษย์ ได้พุทธันดรหนึ่ง ทั้งนี้ด้วยผล ๓ ประการแห่งพุทธบูชานั้น ดังที่กล่าวไว้ใน อปทาน ( ขุ. อ. ๓๓/ข้อ ๑๒๑) ดังนี้
    ๑ เราได้ทำกรรมใดในกาลนั้น ด้วยกรรมนั้น เราไม่รู้จักทุคติเลย นี้เป็นผลแห่งพุทธบูชา
    ๒ เราท่องเที่ยวอยู่แต่ในสองภพ คือในเทวดาและมนุษย์ ไม่เกิดในภูมิอื่น นี้เป็นผลแห่งพุทธบูชา
    ๓ เราเกิดในสองสกุล คือสกุลกษัตริย์และสกุลพราหมณ์ เราไม่เกิดใน สกุลที่ต่ำทราม นี้เป็นผลแห่งพุทธบูชา.
     
  5. Nothing Eternal

    Nothing Eternal เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    117
    ค่าพลัง:
    +654
    คัดลอกประวัติท่านมาให้อ่านกัน บางตอน นะครับ

    พระมหากัจจายนะเป็นผู้มีรูปร่างสง่างาม ผิวพรรณประดุจทองคำ สะอาดผ่องใส เป็นที่ต้องตาต้องใจ
    แก่ผู้พบเห็น กระทั่งครั้งหนึ่ง บุตรเศรษฐี นามว่า โสเรยยะ ผ่านมาเห็นพระเถระกำลังหุ่มจีวร จิตคิดอกุศลขึ้นว่า...
    งามจริงหนอ พระรูปนี้ ขอให้ภริยาของเรามีสีผิวกายเหมือนพระรูปนี้”<?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-com:eek:ffice:eek:ffice" /><o:p></o:p>

    ด้วยอกุศลจิต ทำให้เพศของเขากลับกลายเป็นหญิง เขาอับอายเป็นอย่างมาก จึงหนีไปพร้อมกับกองเกวียนพ่อค้า
    ที่มุ่งสู่เมืองตักสิลา และได้ตกเป็นภริยาของเศรษฐีในเมืองนั้น อยู่ร่วมกันจนมีบุตร ๒ คน (เดิมที เขาอยู่ในเมือง
    โสเรยยะ เขาก็มีภริยาแล้ว และมีบุตรด้วยกัน ๒ คน เช่นเดียวกัน จึงปรากฏว่า เขาเป็นทั้งพ่อและแม่ หรือเป็นทั้งผัว
    และเมียในชาติเดียวกันนี้)<o:p></o:p>

    ต่อมา พระมหากัจจายนะ จาริกมายังเมืองตักสิลา โสเรยยะทราบเรื่อง จึงเล่าเรื่องของตนให้สามีฟัง แล้วพากันไป
    ขอขมาต่อพระเถระ ท่านก็ยกโทษให้ แล้วเขาก็กลับเป็นเพศชายเหมือนเดิม โสเรยยะเกิดเลื่อมใสในพระเถระ
    จึงขอออกบวชในสำนักของพระมหากัจจายนะ และบรรลุอรหันต์ในเวลาต่อมา<o:p></o:p>

    เนื่องด้วย พระมหากัจจายนะมีรูปลักษณ์ละม้ายคล้ายคลึงพระผู้มีพระภาคเจ้า ทำให้พระภิกษุ ตลอดจนเทวดา และมนุษย์
    ทั้งหลาย เกิดความเข้าใจผิด เมื่อเห็นท่านแล้วเข้าใจว่าเป็นพระพุทธองค์ จึงพากันกราบไหว้ด้วยความเข้าใจผิด พระเถระ
    เห็นดังนั้น จึงอธิษฐานจิตให้ร่างกายของท่านเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม ให้มีลักษณะท้วม ไม่สง่างามเหมือนก่อน เพื่อมิให้
    ผู้คนเข้าใจผิด คิดว่าท่านเป็นพระบรมศาสดา<o:p></o:p>

    ปล. หากใครฝึกมโนมยิทธิ ได้อตีตังสญาณแล้ว ก็ไปกราบท่านดูนะครับ
    ที่จริงท่านไม่อ้วนถึงขนาดที่เค้าปั้นกัน เพียงแค่ท้วมๆ แต่ก็ยังงามอยู่มาก
     

แชร์หน้านี้

Loading...