บทสวด พระมหาจักรพรรดิ พร้อมคำอธิฐาน

ในห้อง 'บทสวดมนต์ - คาถา' ตั้งกระทู้โดย ปราถนาบุญ, 7 มิถุนายน 2010.

  1. ปราถนาบุญ

    ปราถนาบุญ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มกราคม 2010
    โพสต์:
    177
    ค่าพลัง:
    +896
    บทสวดพระมหาจักรพรรดิ<O:p</O:p
    เป็นบทสวดที่เรียบเรียงมาจาก[FONT=&quot][/FONT]ชมพูปติสูตร[FONT=&quot][/FONT]ในตอนที่พระพุทธเจ้าทรงเนรมิตรพระองค์เป็นพระเจ้าจักรพรรดิเพื่อกำราบทิฐิมานะของพญาชมพูบดีพระมหากษัตริย์ผู้มากด้วยอิทธิฤทธิ์ โดยผู้ที่แต่งพระคาถาบทนี้คือหลวงปู่ดู่พรหมปัญโญ คาถาจักรพรรดิ บทนี้เป็นพระคาถาหลักที่หลวงปู่ดู่ใช้ในการรวมบารมีแผ่ช่วยเหลือภพภูมิและใช้ในการอธิษฐานปลุกเสกพระเครื่องทุกชนิดของท่าน
    การสวดครั้งหนึ่งมีอานิสงค์แผ่ไปทั้งสามแดนโลกธาตุแผ่บุญไปทั่วถึงสรรพสัตว์ตลอดจนเทวดาประจำตัวเรา ญาติมิตร เพื่อนฝูง ครอบครัวเจ้ากรรมนายเวรบทสวดพระมหาจักรพรรดินี้เป็นการสวดไหว้พระพุทธเจ้าทั่วทั้งหมดตลอดจนถึงพระธรรมและพระโพธิสัตว์เจ้าพระอริยสงฆ์ทั้งมวล รวมถึงน้อมนำกำลังของเทพพรหม พระอริยะเจ้า พระเจ้าจักรพรรดิทุกพระองค์ พระมหาโพธิสัตว์ตั้งแต่อดีต ปัจจุบัน อนาคต มาอารธนารวมเข้าที่กายใจอัญเชิญเข้าตัวป้องกันภัยมีการกล่าวถึงพระสีวลีเป็นมหาโชคมหาลาภและบทนี้มีพลังงานอย่างยิ่งในการเจริญกรรมฐานหากสวดบทนี้สามารถอธิษฐานเรื่องราวที่ขัดข้องให้ผ่านพ้นไปอย่างทะลุปรุโปร่ง
    ทุกๆวัน ในเวลา ๒๐.๓๐ น.หลวงตาม้า[FONT=&quot]([/FONT]ลูกศิษย์หลวงปู่ดู่ที่ยังดำรงค์ขันธ์อยู่[FONT=&quot])[/FONT]และศิษย์ทั้งหมดจะร่วมสวดมนต์บทนี้ เพราะเป็นช่วงที่เปิดทั้งสามโลกธาตุให้สื่อถึงกันได้หมดเทพพรหมทั่วแสนโกฏิจักรวาล จะร่วมกันสวดบทนี้ ในช่วงนี้แม้แต่ไฟนรกก็ดับชั่วคราว
    คาถา มหาจักรพรรดิเปิดโลก <O:p</O:p
    ที่หลวงตาหลวงตานำลูกศิตย์ และ เทพพรหม โอปปาติกะทั่ว 3 แดนโลกธาตุ สวดตอน 20.30 น. ของทุกวัน<O:p</O:p
    <O:p</O:p
    ตั้งสัจจะอธิฐาน คำอัญเชิญ ภพภูมิ <O:p</O:p

    คำอัญเชิญภพภูมิ<O:p</O:p

    ลูกขอตั้งสัจจะอธิษฐานกราบขออาราธนาเมตตาบารมีรวมหลวงปู่ทวดหลวงปู่ดู่ขอหลวงปู่ได้โปรดมีเมตตา อารธนาบารมีรวมขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าโดยตั้งแต่องค์ปฐมจนถึงองค์ปัจจุบันบรมมหาจักรพรรดิทุกๆพระองค์บารมีรวมพระปัจเจกพุทธเจ้า พระโพธิสัตว์พระธรรม และพระอริยสงฆ์ทั้งหลายโดยตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันและอนาคตบารมีรวมหลวงปู่ทวด หลวงปู่ดู่ ท่านอันเป็นที่สุดบารมีรวมหลวงตาม้าเป็นต้น
    ขอบารมีหลวงปู่ได้โปรดเมตตาน้อมนำ ภพภูมิต่างๆทั้งหลายในทั่วทั้ง3 แดนโลกธาตุอันประกอบไปด้วยเทพ6 ชั้นพรหม20 ชั้นเทพพรหมทุกชั้นฟ้ามหาสมุทรโดยทั่วทั้งหมื่นแสนโกฎิจักรวาลเทพพรหมเทวาที่เกี่ยวพันกับหลวงปู่ทวด หลวงปู่ดู่หลวงตาม้าเทพพรหมเทวาที่เกี่ยวพันเกี่ยวข้องกับข้าพเจ้าโดยตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันและอนาคต ท่านปู่พระอินทร์เจ้าฟ้าท่านท้าวจตุมหาราชทั้ง4 พระยายมราชพร้อมด้วยบริวารทั้งหมดพระศรีสยามเทวาธิราชทุกๆพระองค์วีรบุรษและวีรสตรีทั้งหลาย ที่คอยปกป้องรักษาแผ่นดินสยามโอปาติกะทั้งหลายพระฤาษีและดาบสทั้งหลายศาลเจ้าพ่อหลักเมืองทุกๆจังหวัดพระเสื้อเมืองพระทรงเมืองพระราหูวราหก เจ้ากรุงพาลี แม่พระธรณีแม่พระคงคาพระเพลิง พระพาย พระพิรุณพระยายมราชพร้อมบริวารพญาครุฑ-พญานาคพร้อมด้วยบริวาร คนธรรณ์ชาวเมืองลับแลและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในสถานที่อันศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายที่ข้าพเจ้าได้เคยไปอธิษฐานไว้ขอหลวงปู่ได้โปรดเมตตาน้อมนำท่านทั้งหลายมาร่วมสวดบทพระมหาจักรพรรดิพร้อมกันกับพวกข้าพเจ้า ณ กาลบัดเดี๋ยวนี้ด้วยเถิด<O:p</O:p

    <O:p</O:p

    ลูกขอตั้งสัจจะอธิษฐานกราบขออาราธนาเมตตาบารมีรวมหลวงปู่ทวดหลวงปู่ดู่ขอหลวงปู่ได้โปรดมีเมตตา อารธนาบารมีรวมขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าโดยตั้งแต่องค์ปฐมจนถึงองค์ปัจจุบันบรมมหาจักรพรรดิทุกๆพระองค์บารมีรวมพระปัจเจกพุทธเจ้า พระโพธิสัตว์พระธรรม และพระอริยสงฆ์ทั้งหลายโดยตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันและอนาคตบารมีรวมหลวงปู่ทวด หลวงปู่ดู่ ท่านอันเป็นที่สุดบารมีรวมหลวงตาม้าเป็นต้น

    <O:p</O:p

    บทบูชาพระ<O:p</O:p


    พุทธัง ชีวิตตัง เมปูเชมิ<O:p</O:p


    ธัมมัง ชีวิตตัง เมปูเชมิ<O:p</O:p


    สังฆัง ชีวิตตัง เมปูเชมิ<O:p</O:p


    <O:p</O:p



    กราบพระ ๖ครั้ง<O:p</O:p


    พุทธัง วันทามิ(กราบ) ธัมมัง วันทามิ(กราบ)สังฆัง วันทามิ(กราบ)

    ครูอุปัชฌาย์อาจาริยคุณัง วันทามิ(กราบ) มาตาปิตุคุณังวันทามิ(กราบ) พระไตรสิกขาคุณัง วันทามิ(กราบ)<O:p</O:p




    <O:p</O:pบทสมาทานศีล<O:p</O:p


    นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ(๓ ครั้ง)<O:p</O:p


    พุทธัง สรณัง คัจฉามิ<O:p</O:p


    ธัมมัง สรณัง คัจฉามิ<O:p</O:p


    สังฆัง สรณัง คัจฉามิ<O:p</O:p


    ทุติยัมปิ พุทธัง สรณังคัจฉามิ<O:p</O:p


    ทุติยัมปิ ธัมมัง สรณังคัจฉามิ<O:p</O:p


    ทุติยัมปิ สังฆัง สรณังคัจฉามิ<O:p</O:p


    ตะติยัมปิ พุทธัง สรณังคัจฉามิ<O:p</O:p


    ตะติยัมปิ ธัมมัง สรณังคัจฉามิ<O:p</O:p


    ตะติยัมปิ สังฆัง สรณังคัจฉามิ<O:p</O:p


    ปาณาติปาตา เวรมณีสิกขาปะทังสมาธิยามิ<O:p</O:p


    อทินนาทา เวรมณีสิกขาปะทังสมาธิยามิ<O:p</O:p


    อพรัมจริยา เวรมณีสิกขาปะทังสมาธิยามิ<O:p</O:p


    มุสาวาทา เวรมณีสิกขาปะทังสมาธิยามิ<O:p</O:p


    สุราเมรยะ มัชชปมาทัฎฐานา เวรมณีสิกขาปะทังสมาธิยามิ<O:p</O:p


    อิมานิ ปัญจสิกขา ปทานิ สมาธิยามิ(๓ครั้ง)<O:p</O:p


    สีเลนะ สุคะติง ยันติ สีเลนะโภคะสัมปทา<O:p</O:p


    สีเลนะ นิพพุติง ยันติ ตัสมา สีลัง วิโสธะเย<O:p</O:p

    <O:p</O:p
    <O:p</O:p

    บทอาราธนาพระ<O:p</O:p


    นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ(๓ ครั้ง)<O:p</O:p


    พุทธัง อาราธนานังกะโรมิ<O:p</O:p


    ธัมมัง อาราธนานังกะโรมิ<O:p</O:p


    สังฆัง อาราธนานังกะโรมิ<O:p</O:p


    <O:p</O:pคาถาหลวงปู่ทวด<O:p</O:p


    น้อมระลึกถึงหลวงปู่ทวดแล้วว่าคาถาดังนี้<O:p</O:p


    นะโม โพธิสัตโต อาคันติมายะ อิติภะคะวา (๓ครั้ง)<O:p</O:p


    <O:p</O:p


    คาถาหลวงปู่ดู่<O:p</O:p


    น้อมระลึกถึงหลวงปู่ดู่แล้วว่าคาถาดังนี้<O:p</O:p


    นะโม โพธิสัตโต พรหม ปัญโญ (๓ครั้ง)<O:p</O:p


    <O:p</O:pบทขอขมาพระรัตนตรัย<O:p</O:p


    โยโทโส โมหะจิตเต นะพุทธัสมิง ปาปะกะโตมะยา ขะมะถะเม กะตัง โทสัง สัพพะปาปัง วินัสสันตุ<O:p</O:p


    โยโทโส โมหะจิตเต นะธัมมัสมิง ปาปะกะโตมะยา ขะมะถะเม กะตัง โทสัง สัพพะปาปัง วินัสสันตุ<O:p</O:p


    โยโทโส โมหะจิตเต นะสังฆัสมิง ปาปะกะโตมะยา ขะมะถะเม กะตัง โทสัง สัพพะปาปัง วินัสสันตุ<O:p</O:p


    <O:p</O:pบทสวดมหาจักรพรรดิ<O:p</O:p


    นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมา สัมพุทธัสสะ(๓ ครั้ง)<O:p</O:p


    *สวดตามกำลังวัน อาทิตย์ ๖[FONT=&quot], [/FONT]จันทร์ ๑๕[FONT=&quot], [/FONT]อังคาร ๘[FONT=&quot], [/FONT]พุธ ๑๗[FONT=&quot], [/FONT]พฤหัส ๑๙[FONT=&quot], [/FONT]ศุกร์ ๒๑[FONT=&quot], [/FONT]เสาร์ ๑๐<O:p</O:p


    นะโมพุทธายะ พระพุทธไตรรัตนญาณ

    มณีนพรัตน์สีสะหัสสะสุธรรมา
    พุทโธ ธัมโม สังโฆยะธาพุทโมนะ
    พุทธะบูชา ธัมมะบูชา สังฆะบูชา
    อัคคีธานัง วะรังคันธังสีวลีจะมหาเถรัง
    อะหังวันทามิทูระโต อะหังวันทามิ ธาตุโยอะหังวันทามิสัพพะโส
    พุทธะ ธัมมะสังฆะปูเชมิ<O:p</O:p




    <O:p</O:p


    บทอัญเชิญพระเข้าตัว[FONT=&quot] ([/FONT]แผ่เมตตา)<O:p</O:p


    สัพเพพุทธา สัพเพธัมมาสัพเพสังฆา

    พะลัปปัตตาปัจเจกานัญจะยังพลัง
    อรหันตานัญ จะ เตเชนะรักขัง พันธามิสัพพะโส[FONT=&quot]([/FONT]สวด ๕ จบ)<O:p</O:p




    พุทธัง อธิษฐามิ ธัมมัง อธิษฐามิสังฆังอธิษฐามิ

    [FONT=&quot]([/FONT]ให้อธิษฐานจิตแผ่บุญไปทั้งสามโลกธาตุ ภพภูมิทั้งหมดทั้งมวลบิดามารดา ญาติ เจ้ากรรมนายเวร ฯลฯ และส่งวิญญาณทั้งหลาย)<O:p</O:p



    <O:p</O:p

    คำอธิษฐานในตอนเช้า (สามารถนำไปใช้ในตอนสองทุ่มครึ่งได้เช่นกัน)<O:p</O:p


    <O:p</O:p

    เริ่มต้นด้วยการสวดบทพระคาถามหาจักรพรรดิทันทีที่รู้สึกตัวตื่น จากนั้น ลุกขึ้น ล้างหน้า และตั้งจิตสวดบทพระคาถามหาจักรพรรดิในตอนเช้า 1, 3, 9 จบ หรือจะสวดตามกำลังวันก็ได้ หลังจากสวดเสร็จแล้วให้อธิษฐานแผ่บุญก่อน แล้วสัพเพฯ ไป 5 รอบเวลาสัพเพฯ ให้นึกถึงคนที่เราต้องการแผ่บุญไปให้ครบ หากมีมาก จะสัพเพฯ มากกว่า 5 รอบก็ได้ หรือให้นึกภาพรวมของกลุ่มที่เราต้องการจะแผ่บุญไป อย่างเช่นเรานึกถึงแผนที่ประเทศไทย ก็จะได้ทั้งหมด แม้แต่เทวดาก็จะได้ด้วย จากนั้นให้อธิษฐานรวมบุญดังนี้<O:p</O:p
    “...ข้าพเจ้าขอตั้งสัจจะอธิษฐาน สิ่งที่ข้าพเจ้าอธิษฐาน ข้าพเจ้าอธิษฐานเพื่อชาติ ศาสนา ราชบัลลังก์ หมู่คณะ สัตว์ และมนุษย์ทั้งหมดที่ยังวนเวียนว่ายตายเกิด สิ่งที่ข้าพเจ้าอธิษฐานนี้ ข้าพเจ้าขอตั้งสัจจะอธิษฐานขอบารมีกำลังองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า องค์ปฐมบรมมหาจักรพรรดิ ถึงองค์ปัจจุบัน บรมมหาจักรพรรดิทุกๆ พระองค์ ขอบารมีพระแก้วแดง พระปัจเจกพุทธเจ้า พระโพธิสัตว์ พระธรรม และพระอริยะสงฆ์ ทั้งหลาย ขอบารมีรวมหลวงปู่ทวด หลวงปู่ดู่เป็นที่สุด<O:p</O:p
    ขอได้โปรดเมตตารวมบุญบารมีที่ข้าพเจ้าเคยสะสม เคยอบรมมา ตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบันชาติ ไม่ว่าจะเป็นทาน ศีล เนกขัมมะ ปัญญา วิริยะ ขันติ สัจจะ อธิษฐาน เมตตา อุเบกขา และทศบารมี เพื่อนำกำลังนี้มาใช้เป็นประโยชน์ในปัจจุบัน.....(อธิษฐานเอาตามปรารถนา) เป็นประโยชน์กับชาติ พุทธศาสนา สถาบันพระมหากษัตริย์<O:p></O:p>
    ข้าพเจ้าขออนุโมทนาบุญกุศลทั้งหมดทั้งมวล แห่งองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระปัจเจกพุทธเจ้า พระอรหันต์ พระโพธิสัตว์ทุกพระองค์ พระอริยะสงฆ์เจ้าทั้งหมด ทั้งมวล หลวงทวด หลวงปู่ดู่ พระศรีสยามเทวาธิราช หลวงตาม้า ผู้สวดคาถามหาจักรพรรดิทั่วทั้งสามแดนโลกธาตุ นับตั้งแต่อดีต ปัจจุบัน<O:p</O:p
    จนถึงอนาคตเทอญ ข้าพเจ้าขออธิษฐาน ขออาราธนาบารมี<O:p</O:p
    องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ได้โปรดเมตตาสถิตเหนือเศียรเกล้าของข้าพเจ้า ได้โปรดเมตตาสถิตเหนือเศียรเกล้าของข้าพเจ้า หลวงปู่ทวด หลวงปู่ดู่อยู่เบื้องซ้ายและขวา เสมือนข้าพเจ้าสวดพระคาถามหาจักรพรรดิอยู่ตลอดเวลา ขอให้กายทิพย์ของข้าพเจ้าสวดพระคาถามหาจักรพรรดิตลอดเวลา และขอทุกลมหายใจเข้าออกของข้าพเจ้า เป็นสัพเพฯ แผ่กุศลผลบุญไปทั่วทั้งสามแดนโลกธาตุอย่างไม่มีประมาณ แผ่ให้กับเจ้ากรรมนายเวร และผู้ที่เกี่ยวข้องทุกลมหายใจด้วยเทอญ<O:p></O:p>
    ข้าพเจ้าขออาราธนาบารมีหลวงปู่ดู่ สิ่งใดที่เกี่ยวข้องกับข้าพเจ้า ไม่ว่าจะเป็นตา หู จมูก ปาก ลิ้น กาย และใจ ขอข้าพเจ้ารู้ได้ตามสภาพความเป็นจริง<O:p></O:p>
    ขอให้ข้าพเจ้าพบแต่ความดีตลอดไป ไม่ว่าข้าพเจ้าจะเกิด ณ ที่แห่งใดในสามแดนโลกธาตุนี้ ขอความขัดข้อง ความไม่มี อย่าได้เกิดกับข้าพเจ้าอีกเลย นับตั้งแต่บัดนี้ ตราบจนข้าพเจ้าเข้าสู่พระนิพพานเทอญ<O:p</O:p
    ข้าพเจ้าขออธิษฐานต่อองค์พระศรีสยามเทวาธิราช โปรดเมตตา<O:p</O:p
    ขจัดปัดเป่าปัญหาและอุปสรรคในชีวิตข้าพเจ้าให้หมดสิ้นไป<O:p</O:p
    ขออธิษฐานต่อองค์พระอุปคุต โปรดเมตตาช่วยให้การงาน การเงินของข้าพเจ้ามีความคล่องตัว ไม่มีอุปสรรคใดๆ<O:p</O:p
    ขออธิษฐานต่อองค์พระกาล โปรดเมตตาเลื่อนเวลาแห่งความดีงาม ความสำเร็จทั้งในทางโลกทางธรรม เข้ามาสู่ชีวิตของข้าพเจ้าโดยพลัน เพื่อนำมาเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวมต่อชาติ พุทธศาสนา และสถาบันพระมหากษัตริย์สืบไป....<O:p</O:p
    สัพเพฯ 5 รอบ หรือมากกว่า เวลาสัพเพฯ ให้นึกไปถึงธุรกิจการงานต่างๆ รวมถึงผู้ที่เกี่ยวข้อง หากมีมาก ให้นึกถึงภาพรวม<O:p</O:p
    <O:p</O:p
    “การสวดบทพระคาถามหาจักรพรรดิคือการชาร์จพลังงาน การสัพเพฯ คือการแผ่กระจายพลังงานออกไป”<O:p</O:p
    จากนั้นให้อธิษฐานขอหลวงปู่ท่านอีกครั้ง ขอท่านตรงๆ ง่ายๆ แต่ต้องขอในสิ่งที่เป็นประโยชน์ และอธิษฐานว่า<O:p</O:p
    “...ข้าพเจ้าขออาราธนาพระบารมีหลวงปู่ดู่ด้วยกำลังแห่งพระมหาจักรพรรดิ<O:p</O:p
    ขอสิ่งที่ข้าพเจ้าอธิษฐานนี้ สำเร็จเป็นจริงโดยฉับพลันทันใจทุกประการ ด้วยอิมังสัจจะวาจังอธิษฐมิ พุทธังอธิษฐามิ ธัมมังอธิฐามิ สังฆังอธิษฐามิ...”<O:p</O:p
    <O:p</O:p
    วิธีการฝึกจิต<O:p</O:p
    หลักสำคุญในการฝึกจิตนั้นก็คือ ทำตัวให้สบายทำใจให้สนุก นั่นคือการ ตั้ง<O:p></O:p>
    จิตให้สบาย กำพระหรือกำหนนึกรู้เห็นพระ (จะเป็นพระพุทธนิมิตก็ดี หลวงปู่ทวดก็ดี หลวงปู่ดู่ ก็ดี เรียกอีกอย่างว่าการ ตั้งองค์พระ) วางอารมณ์จิตเบาๆ วางลมหายใจสบายๆ ตามปกติ และภาวนาคลอไปเรื่อยๆ<O:p</O:p
    ทำได้ทุกอิริยาบท ยืน เดิน นั่ง นอน ยามหลับ ยามตื่น รู้ตัว มิรู้ตัว ให้ภาวานา และตั้งองค์พระ (คือการกำหนดภาพพระ) ไว้ตลอด ทำทุกครั้งที่มีสตินึกระลึกรู้ ไม่ต้องบังคับ ไม่ต้องเกร็ง ให้ทำอย่างสบายๆ ยามจะหลับ ให้ ภาวนาไปจนหลับ ยามตึ่น ให้รีบภาวนาจนมีสติดีแล้ว ให้นึกถึงพระ พร้องทั้งอธิฐานดังนี้ <O:p></O:p>
    <O:p</O:p

    คำอธิษฐาน ฝึกจิตเร่งสมาธิเร่งนิมิต

    ข้าพเจ้า ......(นามของท่าน)...ขอนอบน้อมและน้อมนำบารมีแห่งพระพุทธเจ้า พระปัจเจกพุทธเจ้าพระอริยบุคคลทุกชั้นภูมิพระโพธิสัตว์และพระบรมมหาจักรพรรดิ ตั่งแต่อดีต ปัจจุบันและอนาคตครูบาอาจารย์ทั้งหลายสืบ ๆกันมาโดยมีบารมีรวมของหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญเป็นที่สุดขอได้โปรดยกจิตของข้าพเจ้าขึ้นสู่ภาวะ พระกรรมฐานทั้ง40 ทัศ พระปิติทั้ง5 และวิปัสสนาญาณทั้ง9 ขอพระกรรมฐานทั้ง40 ทัศ พระปิติทั้ง5 และวิปัสสนาญาณทั้ง9 จงมาบังเกิดปรากฏในกายทวาร ในวจีทวารในมโนทวาร ของข้าพระพุทธเจ้า ณ กาลบัดเดี๋ยวนี้เถิด
    .......ขอได้โปรดยกจิตของข้าพเจ้า ขึ้นสู่ภาวะเมฆจิต สามารถกำหนดจิตรู้ภาวะการณ์ต่างๆทั้งเหตุ ผล อดีต อนาคต และปัจจุบันได้ทุกขณะจิตที่ปรารถนาจะรู้เมื่อรู้แล้วขอให้เห็นภาพนั้นได้ชัดเจนแจ่มใสและพยากรณ์ได้ตามความเป็นจริงทุกๆประการเหตุที่จะพึงบังเกิดแก่ข้าพเจ้าขอให้ข้าพเจ้าได้รู้เหตุนั้นโดยมิต้องกำหนดจิตแม้แต่ประการใด ณกาลบัดเดี๋ยวนี้เถิด<O:p</O:p



    <O:p</O:p
    จากนั้นให้ภาวนา เบาๆ สบายๆ ยืน เดิน นั่ง นอน ได้ทุก อริยาบถ เมื่อจะใช้งานหรือจะดูอะไร ก็สวดบท สัพเพฯ อาราธนาเชิญพระเข้าตัว จากนั้นให้นึกถึง หลวงปู่ดู่ ขอบารมีท่านดูเอา<O:p</O:p
    <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    วิธีการอธิฐานขอบารมีพระช่วยเหลือในกรณีพิเศษ<O:p</O:p
    ในเวลา 20.30 ของทุกวัน<O:p</O:p
    ให้เตรียมกาย เตรียมใจให้พร้อมก่อนถึงกำหนดเวลา จากนั้นเมื่อถึงเวลา 20.30 น. ให้กำพระผงกรรมฐานแล้วอธิฐานจิต ขอท่านตามความปรารถนา แล้วสวดมนต์ตามแบบของหลวงปู่ อธิฐานซ้ำอีกครั้งหลังจากสวดมนต์เสร็จแล้ว หากทำเช่นนี้ทุกวันก็จะเป็นการเร่งให้ได้ผลร็วขึ้น<O:p</O:p
    <O:p</O:p</O:p
    <O:p</O:p
    วิธีการอธิฐานฝากดวง<O:p</O:p
    ให้ตั้งจิตระลึกถึงหลวงปู่ดู่ แล้วอธิฐานว่า ...ข้าพเจ้าขอยกให้หลวงปู่เป็นพ่อแม่ครูอาจารย์ของข้าพเจ้า ขอให้หลวงปู่ช่วยดูแลข้าพเจ้าทั้งทางโลกและทางธรรม และขอฝากดวงฝากชีวิตนี้ไว้กับหลวงปู่ นับตั้งแต่บัดนี้ไป จนกว่าข้าพเจ้าจะเข้าสู่พระนิพพานเทิญ...<O:p</O:p
     
  2. ปราถนาบุญ

    ปราถนาบุญ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มกราคม 2010
    โพสต์:
    177
    ค่าพลัง:
    +896
    <O:p</O:p


    คำอธิษฐานแผ่บุญหลังสวดมนต์(20.30 น.)<O:p</O:p


    ข้าพเจ้า[FONT=&quot] ......([/FONT]นามของท่าน)...ผู้เป็นผู้รับใช้พระพุทธศาสนาขอนอบน้อมและน้อมนำบารมีรวมแห่งพระพุทธเจ้า พระปัจเจกพุทธเจ้าพระอริยบุคคลทุกชั้นภูมิ พระโพธิสัตว์ และพระบรมมหาจักรพรรดิทุก ๆ พระองค์โดยตั้งแต่อดีต ปัจจุบันและอนาคต โดย มีบารมีรวมของหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญเป็นที่สุด
    ขอพระบารมีอันหาที่สุดมิได้นี้โปรดจงส่งไปให้ถึงภพภูมิต่างๆทั้งหลายในทั่วทั้ง [FONT=&quot]3 [/FONT]แดนโลกธาตุ อันประกอบไปด้วยเทพ [FONT=&quot]6 [/FONT]ชั้น พรหม [FONT=&quot]20 [/FONT]ชั้น เทพพรหมทุกชั้นฟ้ามหาสมุทรโดย ทั่วทั้งหมื่นแสนโกฏิจักรวาลเทพพรหมเทวาที่เกี่ยวพันกับหลวงปู่ทวด หลวงปู่ดู่ หลวงตาม้าเทพพรหมเทวาที่เกี่ยวพันเกี่ยวข้องกับข้าพเจ้า โดยตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันและอนาคตท่านปู่พระอินทร์เจ้าฟ้า ท่านท้าวจตุมหาราชทั้ง [FONT=&quot]4 [/FONT]พระยายมราชพร้อมด้วยบริวารทั้งหมดพระศรีสยามเทวาธิราชทุกๆพระองค์ วีรบุรุษและวีรสตรีทั้งหลายที่คอยปกป้องรักษาแผ่นดินสยาม โอปาติกะทั้งหลาย พระฤาษีและดาบสทั้งหลายศาลเจ้าพ่อหลักเมืองทุกๆจังหวัด พระเสื้อเมือง พระทรงเมือง พระราหูวราหกเจ้ากรุงพาลี แม่พระธรณี แม่พระคงคา แม่พระโพสพ พระเพลิง พระพาย พระพิรุณพญาครุฑ-พญานาคพร้อมด้วยบริวาร คนธรรพ์ ชาวเมืองลับแลและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในสถานที่อันศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายที่ข้าพเจ้าได้เคยไปอธิษฐานไว้ ตลอดจนถึง สิ่งมีชีวิตทั้งหลายสรรพสัตว์ในดินแดนอบายภูมิทั้งหลายทั้งหมดทั้งสิ้นขอโปรดจงได้รับมหากุศลผลบุญบารมีนี้ โดยถ้วนทั่วทุกตัวตน ทุกคนทุกท่านเทอญ[FONT=&quot][/FONT]
    [FONT=&quot]([/FONT]ตั้งใจโน้มนำบุญและแผ่บุญออกไปด้วยบทสัพเพฯ)<O:p</O:p

    บทอัญเชิญพระเข้าตัว[FONT=&quot] ([/FONT]แผ่เมตตา)<O:p</O:p


    สัพเพพุทธา สัพเพธัมมาสัพเพสังฆา
    พะลัปปัตตา ปัจเจกานัญจะยังพลัง
    อรหันตานัญ จะ เตเชนะรักขัง พันธามิ สัพพะโส[FONT=&quot] ([/FONT]สวด ๕ จบ)<O:p</O:p



    พุทธัง อธิษฐามิ ธัมมัง อธิษฐามิ สังฆังอธิษฐามิ[FONT=&quot] ([/FONT]ให้อธิษฐานเอา)<O:p</O:p


    <O:p</O:p


    คำอธิษฐานรวมกำลังจักรพรรดิ์<O:p</O:p

    ลูกขอตั้งสัจจะอธิษฐาน (ตั้งสัจจะโดยจะสวดมหาจักรพรรดิ์ทุกวันหรือ สัจจะใดก็ตามที่เราคิดว่าทำได้ทุกวัน)
    ด้วยสัจจะอธิษฐานลูกขอบารมีหลวงปู่ดู่โปรดเมตตารวมบุญน้อมนำบารมีรวมขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์ปฐมบรมมหาจักรพรรดิ์ถึงองค์ปัจจุบันบรมมหาจักรพรรดิ์ทุกๆพระองค์
    ขอบารมีรวมพระปัจเจกพุทธเจ้า พระโพธิสัตว์ พระธรรมและพระอริยสงฆ์ทั้งหลาย ขอบารมีรวมหลวงปู่ทวด หลวงปู่ดู่เป็นที่สุดขอบารมีรวมของดวงจิตพระโสดาบัน พระสกิทาคามี และพระอนาคามีทุกๆ ดวงจิต
    สิ่งที่ลูกอธิษฐานลูกอธิษฐานเพื่อชาติ ศาสนา ราชบัลลังก์ หมู่คณะ สัตว์และมนุษย์ทั้งหมดที่ยังเวียนว่ายตายเกิด
    สิ่งที่ลูกอธิษฐานนี้ลูกขออาราธนาบารมีหลวงปู่ดู่น้อมนำบารมีรวมองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์ปฐมบรมมหาจักรพรรดิ์ถึงองค์ปัจจุบันบรมมหาจักรพรรดิ์
    ขอบารมีรวมหลวงปู่ทวดหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ ขอได้โปรดเมตตารวมกำลังพระจักรพรรดิในทุกรูปลักษณ์และที่ลูกได้สวดทุกวัน เพื่อนำกำลังนี้มาเป็นประโยชน์ต่อหน้าที่การงานของลูก[FONT=&quot] ([/FONT]ฯลฯ)
    และแผ่ออกไปให้กับประเทศไทย (กำหนดภาพแผนที่ประเทศไทย)พระเจ้าแผ่นดินองค์ปัจจุบัน ผู้ที่นับถือพระพุทธศาสนาทั่วโลกผู้ที่ทำประโยชน์เพื่อประเทศชาติศาสนา
    [FONT=&quot]([/FONT]สัพเพฯ[FONT=&quot] 3 [/FONT]ครั้ง)<O:p</O:p


    คำอธิษฐานรวมบารมี[FONT=&quot] 10<O:p</O:p[/FONT]​


    ลูกขอตั้งสัจจะอธิษฐาน[FONT=&quot] ([/FONT]ตั้งสัจจะโดยจะสวดมหาจักรพรรดิ์ทุกวัน หรือสัจจะใดก็ตามที่เราคิดว่าทำได้ทุกวัน)
    และลูกขออนุโมทนาบุญแห่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์ปฐมบรมมหาจักรพรรดิ์ถึงองค์ปัจจุบันบรมมหาจักรพรรดิ์ทุกๆพระองค์ พระปัจเจกพุทธเจ้า พระโพธิสัตว์ พระธรรม และพระอริยสงฆ์ทั้งหลาย พระโสดาบันพระสกิทาคามี และพระอนาคามีทุกๆ ดวงจิต
    สิ่งที่ลูกอธิษฐานลูกอธิษฐานเพื่อชาติ ศาสนา ราชบัลลังก์ หมู่คณะ สัตว์และมนุษย์ทั้งหมดที่ยังเวียนว่ายตายเกิด
    สิ่งที่ลูกอธิษฐานนี้ลูกขออาราธนาบารมีกำลังองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์ปฐมบรมมหาจักรพรรดิ์ถึงองค์ปัจจุบันบรมมหาจักรพรรดิ์ขอบารมีรวมหลวงปู่ทวด หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ บุญบารมีใดที่ลูกเคยสะสมอบรมมาเคยปฏิบัติมาจากอดีตชาติจนถึงปัจจุบันชาติไม่ว่าจะเป็นบุญบารมีทั้ง[FONT=&quot] 10 [/FONT]ทัศอันได้แก่ ทาน[FONT=&quot], [/FONT]ศีล[FONT=&quot], [/FONT]เนกขัมมะ[FONT=&quot], [/FONT]ปัญญา[FONT=&quot], [/FONT]วิริยะ[FONT=&quot], [/FONT]ขันติ[FONT=&quot], [/FONT]สัจจะ[FONT=&quot], [/FONT]อธิษฐาน[FONT=&quot], [/FONT]เมตตาและอุเบกขา
    ลูกขอบารมีหลวงปู่ดู่รวมบุญบารมีนี้ น้อมถวายแด่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์ปฐมบรมมหาจักรพรรดิ์ จนถึงองค์ปัจจุบันบรมมหาจักรพรรดิถวายหลวงปู่ทวด หลวงปู่ดู่ ขอถวายเป็นพุทธบูชา มหาเตชวันโต ธัมมะบูชา มหาปัญโญสังฆะบูชา มหาโภควะโห ถวายแด่ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์
    ขออาราธนาบารมีหลวงปู่ดู่โปรดน้อมนำบารมีทั้งหมดทั้งมวลนี้กลับมายังลูกเป็นเท่าทวีคูณเพื่อลูกจะได้นำมาเป็นกำลังในการช่วยชาติ ศาสนา ราชบัลลังค์ หมู่คณะ สัตว์และมนุษย์ทั้งมวล
    [FONT=&quot]([/FONT]ตั้งจิตแผ่เมตตาให้กับผู้มีพระคุณเจ้ากรรมนายเวรทั้งที่บ้านและหมู่คณะ)<O:p</O:p

    สัพเพพุทธา สัพเพธัมมาสัพเพสังฆา
    พะลัปปัตตา ปัจเจกานัญจะยังพลัง
    อรหันตานัญ จะ เตเชนะรักขัง พันธามิ สัพพะโส<O:p</O:p



    [FONT=&quot]([/FONT]กล่าว[FONT=&quot] 5 [/FONT]ครั้งและอธิษฐานขอในสิ่งที่ปรารถนา)<O:p</O:p


    ขอสิ่งที่ลูกอธิษฐานจงศักดิ์สิทธิ์สำเร็จเป็นจริง โดยฉับพลันทันใจทุกประการ<O:p</O:p


    อิมัง สัจจะวาจานังอธิฐามิพุทธัง อธิฐามิ ธัมมัง อธิฐามิ สังฆังอธิฐามิ<O:p</O:p
     
  3. ปราถนาบุญ

    ปราถนาบุญ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มกราคม 2010
    โพสต์:
    177
    ค่าพลัง:
    +896


    ตัวอย่างแนวทางการปฏิบัติสำหรับผู้เริ่มต้น

    ๑. เริ่มต้นด้วยการกล่าวคำบูชาพระ สมาทานศีล (เปลี่ยนศีลข้อกาเมสุมิจฉาจาร เป็น อะพรัหมะจะริยาฯ เพื่อเตรียมจิตก่อนอธิษฐานบวชจิต) จากนั้น ก็กล่าวคำอาราธนากรรมฐาน ว่า พุทธัง อาราธะนัง กะโรมิ, ธัมมัง อาราธะนัง กะโรมิ, สังฆัง อาราธะนัง กะโรมิเป็นต้น

    ๒. เบื้องต้น ยังไม่ต้องรีบร้อนบริกรรมภาวนา หรือนึกนิมิตใดๆ หากแต่ให้ปรับท่านั่งให้เข้าเป็นที่สบาย โดยตั้งกายให้ตรง ผ่อนคลายความตึงเครียดของกล้ามเนื้อทุกส่วน สูดลมหายใจลึกๆ สักสองสามครั้ง พร้อมกับทำจิตใจของเราให้ปลอดโปร่งโล่งว่าง สร้างฉันทะที่จะปฏิบัติกรรมฐาน ระลึกว่าเรากำลังใช้เวลาที่มีคุณค่าแก่ชีวิต คือการพัฒนาจิตใจ ซึ่งเป็นสมบัติล้ำค่ากว่าสมบัติอย่างอื่น ไม่ว่าจะเป็นร่างกาย หรือทรัพย์สมบัติ

    ๓. กล่าวอาราธนาขอให้พระพุทธเจ้า หลวงปู่ทวด หลวงปู่ดู่ หลวงปู่เกษม ได้โปรดมาเป็นผู้นำและอุปการะจิตในการปฏิบัติธรรมครั้งนี้ จากนั้น ก็น้อมจิตกราบพระว่า พุทธังวันทามิ ธัมมังวันทามิ สังฆังวันทามิ

    ๔. สำรวจอารมณ์ที่ค้างคาอยู่ในใจเรา แล้วชำระมันออกไป ทั้งเรื่องน่าสนุกเพลิดเพลิน หรือเรื่องชวนให้ขุ่นมัวต่าง ๆ ตลอดถึงความง่วงเหงาหาวนอน และความฟุ้งซ่านรำคาญใจต่าง ๆ รวมทั้งปล่อยวางความลังเลสงสัยเสียก่อน

    ๕. เมื่อชำระนิวรณ์อันเป็นอุปสรรคของการเจริญสมาธิออกไปในระดับหนึ่งแล้ว กระทั่งรู้สึกปลอดโปร่งโล่งว่างตามสมควร จึงค่อยบริกรรมภาวนาในใจว่า พุทธัง สรณัง คัจฉามิ, ธัมมัง สรณัง คัจฉามิ, สังฆัง สรณัง คัจฉามิ

    ๖. มีหลักอยู่ว่าต้องบริกรรมภาวนาด้วยใจที่สบายๆ (ยิ้มน้อยๆ ในดวงใจ) ไม่เคร่งเครียด หรือจี้จ้องบังคับใจจนเกินไป

    ๗. ทำความรู้สึกว่าร่างกายของเราโปร่ง กระทั่งว่าลมที่พัดผ่านร่างกายเรา คล้ายๆ กับว่าจะทะลุผ่านร่างของเราออกไปได้

    ๘. ให้มีจิตยินดีในทุกๆ คำบริกรรมภาวนา ว่าทุกๆ คำบริกรรมภาวนา จะกลั่นจิตของเราให้ใสสว่างขึ้นๆ

    ๙. เอาจิตที่เป็นสมาธิพอประมาณนี้มาพิจารณาร่างกายว่ามันเป็นก้อนทุกข์ ยามจะแก่ จะเจ็บ จะตาย เราก็ไม่อาจบังคับบัญชา หรือห้ามปรามมันได้ ถึงแม้ว่าเราจะดูแลมันดีอย่างไร มันก็จะทรยศเรา มันจะไม่เชื่อฟังเรา ให้พิจารณาให้ละเอียดลงไปซ้ำๆ จนกว่าจิตจะเห็นและยอมรับความจริง เมื่อจิตยอมรับจิตก็จะคลายจากความยึดมั่นถือมั่นว่ากายนี้เป็นเราหรือเป็นของเรา (การปฏิบัติกรรมฐานครั้งต่อไป ก็อาจเปลี่ยนเป็นการพิจารณาอย่างอื่น ผม ขน เล็บ ฟัน หนัง เป็นต้น หรือพิจารณาโดยรวมว่าร่างกายเราหรือคนอื่นก็สักแต่ว่าเป็นโครงกระดูก แม้ภายนอกจะดูแตกต่าง มีทั้งที่ผิวพรรณงาม หรือทรามอย่างไร แต่เบื้องลึกภายในก็ไม่แตกต่างกันในความเป็นกระดูก ที่ไม่น่าดูน่าชม เสมอกันหมด ให้พิจารณาให้จิตยอมรับความจริง เพื่อให้คลายความหลงยึดในร่างกาย ฯลฯ)

    ๑๐. เมื่อรู้สึกว่าจิตเริ่มขาดกำลังหรือความแจ่มชัด ก็ให้หันกลับมาบริกรรมภาวนาเพื่อสร้างสมาธิขึ้นอีก

    ๑๑. ในบางครั้งที่จิตขาดกำลัง หรือขาดศรัทธา ก็ให้นึกนิมิต (นอกเหนือจากคำบริกรรมภาวนา) เช่น นึกนิมิตหลวงปู่ดู่ อยู่เบื้องหน้าเรา นึกง่ายๆ สบายๆ ให้คำบริกรรมดังก้องกังวานมาจากองค์นิมิตนั้น ทำไปเรื่อยๆ เวลาเผลอสติไปคิดนึกเรื่องอื่น ก็พยายามมีสติระลึกรู้เท่าทัน ดึงจิตกลับมาอยู่ในองค์บริกรรมภาวนาดังเดิม

    ๑๒. เมื่อจิตมีกำลัง หรือรู้สึกถึงปีติและความสว่าง ก็ให้พิจารณาทบทวนในเรื่องกาย หรือเรื่องความตาย หรือเรื่องความพลัดพราก ฯลฯ หรือเรื่องอื่นใด โดยมีหลักว่าต้องอยู่ในกรอบของเรื่องความไม่เที่ยง ความเป็นทุกข์ และความที่ไม่ใช่ตัวไม่ใช่ตนที่เที่ยงแท้แน่นอน (อนัตตา)

    ๑๓. ก่อนจะเลิก (หากจิตยังไม่รวม หรือไม่โปร่งเบา หรือไม่สว่าง ก็ควรเพียรรวมจิตอีกครั้ง โดยให้เลิกตอนที่จิตดีที่สุด) จากนั้นให้อาราธนาพระเข้าตัวว่า สัพเพพุทธา สัพเพธัมมา สัพเพสังฆา พะลัปปัตตา ปัจเจกานัญ จะยังพะลัง อะระหัน ตานัญ จะเต เชนะรักขัง พันธามิสัพพะโส พุทธัง อธิษฐามิ ธัมมังอธิษฐามิ สังฆัง อธิษฐามิ (นึกอาราธนาคุณพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ มาไว้ที่จิตเรา หรืออาจจะนึกเป็นนิมิตองค์พระมาตั้งไว้ในตัวเรา

    ๑๔. สุดท้าย ให้นึกแผ่เมตตา โดยนึกเป็นแสงสว่างออกจากใจเรา พร้อมๆ กับว่า พุทธัง อนันตัง ธัมมัง จักรวาลัง สังฆัง นิพพานะ ป?จจะโยโหตุ โดยน้อมนึกถึงบุญอันมากมายไม่มีประมาณของพระพุทธเจ้าและพระอริยสงฆ์ทั้งหลาย อีกทั้งบุญกุศลที่เราสั่งสมมาดีแล้ว รวมทั้งบุญจากการภาวนาในครั้งนี้ ไปให้กับเทพผู้ปกปักรักษาเรา ให้กับเจ้ากรรมนายเวร ให้กับบิดามารดา ครูบาอาจารย์ ผีเหย้าผีเรือน พระภูมิเจ้าที่ เทพ พรหม ทั้งหลาย แลสรรพสัตว์ทั้งหลายไม่มีประมาณ ท่านทั้งหลายที่ยังทุกข์ ขอจงพ้นทุกข์ ท่านทั้งหลายที่มีความสุขอยู่แล้ว ขอจงมีความสุขยิ่งๆ ขึ้นไป

    หมายเหตุ การอาราธนาพระเข้าตัว (บทสัพเพฯ) ก็เพื่อว่าเมื่อเวลาเลิกนั่งสมาธิไปแล้ว จะได้ระมัดระวังรักษาองค์พระในตัว โดยการสำรวมระวังรักษากาย วาจา ใจ ตลอดวัน ซึ่งการสำรวมระวัง หรือที่เรียกว่าอินทรียสังวรนี้ จะช่วยให้การปฏิบัติกรรมฐานครั้งต่อๆ ไป จิตจะเข้าถึงความสงบได้โดยง่าย
     
  4. ราศีสิงห์

    ราศีสิงห์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    815
    ค่าพลัง:
    +2,118
    [​IMG]
     
  5. jurung5

    jurung5 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    64
    ค่าพลัง:
    +75
    สาธุๆ ดีมากๆชอบครับเราก ระลืกถืงหลวงปู่โต หลวงปู่ทวดเสมอ
     
  6. ปราถนาบุญ

    ปราถนาบุญ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มกราคม 2010
    โพสต์:
    177
    ค่าพลัง:
    +896
    การนั่งสมาธิ ภาวนา ปฏิบัติธรรม ต้องทำไปอย่างสม่ำเสมอ เหมือนกับ การตักน้ำใส่ตุ่ม หากตักใส่ไปเรื่อยๆ น้ำก็จะเต็มตุ่ม หากหยุดตักใส่เมื่อไร น้ำก็ไม่เต็มตุ่ม...เป็นปริศนาธรรมคำสอนที่ หลวงปู่ดู่ มักจะสอนลูกศิษย์เสมอ
     
  7. nippitarnit

    nippitarnit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    325
    ค่าพลัง:
    +182
    อนุโมทนา สาธุ เป็นบุญเหลือเกินที่ได้เกิดมาในศาสนาพุทธ...สาธุ สาธุ สาธุ



    สัพเพ สังขารา อะนิจจา สังขารทั้งหลายทั้งปวงไม่เที่ยง
     

แชร์หน้านี้

Loading...