แม่กับมะเร็งระยะสุดท้าย

ตอนนี้ยาอะไรก็รักษาไม่ได้แล้วครับ ผมคงได้แค่แผ่อุทิศส่วนกุศลบุญไปให้กับเจ้ากรรมนายเวรของแม่ ให้แม่ไม่ทรมานกับอาการป่วยมากไปกว่านี้ ขอถามทุกคนในที่นี้นะครับ จะมีวิธีที่แนะนำได้ไหมครับ ที่ผมจะทำอะไรได้นอกจากวิธีนี้บ้าง ผมไม่ค่อยถนัดเรื่องบทสวดเท่าไหร่นัก หากเราจะกล่าวอะบางอย่างไปให้แม่ จะใช้คำพูดลักษณะไหนได้บ้าง ทุกวันศุกร์ผมจะไปสวดมนต์ที่วัด พยายามจะไปให้มากกว่า 1 ครั้ง แต่สัปดาห์ แต่ก็เรื่องงานและเวลาที่จำกัด ทำให้ผมไม่สามารถเลือกได้มากกว่านี้เลย

 

เปิดซีดีธรรมะ หรือบทสวดมนต์ อาทิ พระคาถาชินบัญชร ให้คุณแม่ฟังบ่อยๆครับ ชวนท่านพูดคุยแต่เรื่องที่สบายใจ ถ้าคุณแม่นับถือพระสงฆ์องค์ใดเป็นพิเศษหารูปของท่านมาติดไว้ที่ท่านจะมองเห็นได้ง่ายๆ ถ้าท่านท่านมีสติน้อยประโยคที่สื่อสารควรใช้คำสั้นๆ ถ้าถึงขั้นสุดท้ายจริงๆ บอกกล่าวท่านข้างหูแล้วให้ท่านกล่าวตามว่า พุทโธ ทั้งหมดนี้เพื่อดึงจิตท่านให้มาจดจ่อกับสิ่งดีงาม จิตคนเราตอนจะออกจากร่างสำคัญครับ ถ้าท่านนึกถึงสิ่งดีๆ ท่านคงมีสุคติภูมิเป็นที่ไปครับ สำคัญอย่าร้องไห้ให้ท่านเห็นเป็นอันขาด ท่านจะติดห่วง ขออำนาจคุณพระศรีรัตนไตรย์จงเป็นเครื่องนำทางให้คุณแม่คุณครับ

 

ให้คุณเเม่ภาวนาบ่อยๆนะคะ ก่อนนอนก็ให้นอนภาวนาจนหลับไป พุทโธก็ได้ค่ะ ถ้าหากติดงานหรืออะไรก็ไม่จำเป้นต้องไปที่วัดก้ได้ค่ะ สวดที่บ้านก้ได้อยู่ที่ใจนะคะ อ่านคำสอนต่างๆธรรมะต่างๆให้ท่านฟัง หนังสือธรรมะหรือจะเป็นซีดีธรรมะต่างๆ ขอให้ท่านได้ดวงตาเห็นธรรม หากเราช่วยคุณเเม่ทางกายไม่ได้ เราก็ช่วยท่านทางจิตใจนะคะ ทำให้ท่านสบายใจเป็นการตอบเเทนพระคุณของท่าน พูดเเต่เรื่องดีดีสิ่งดีดีที่เคยทำมา มีโอกาสก็กล่าวขออโหสิกรรมกับท่านด้วยกราบท่าน ดูเเลท่านอย่างดีที่สุดเท่าที่จะทำได้นะคะ
สู้ๆนะคะ ^_^

 

น่าเห็นใจ ผมเบิกบุญให้กับทั้งเจ้ากรรมนายเวรและเทวดาประจำตัวของแม่คุณไปแล้วนะครับ

ข้อแนะนำก็คือ
1 บอกกับแม่คุณว่าขอให้นึกถึงพุทโธ หรือนึกถึงพระพุทธรูป หลวงพ่อที่ไหนที่เคารพก็ได้ แต่ข้อนี้ขึ้นอยู่กับว่า แม่ของคุณเป็นคนที่สนใจในเรื่องศาสนาเป็นทุนเดิมอยู่หรือเปล่า

2 ให้แม่คุณอุทิศส่วนกุศลให้กับทั้งเทวดาประจำตัว เจ้ากรรมนายเวร และเชื้อโรคด้วย ทำบ่อยๆ นะครับ จะทำวันละกี่ครั้งก็ได้

ก็กำหนดในใจนี่แหละว่า "บุญใดที่ข้าพเจ้าทำมาตั้งแต่อดีตชาติตราบจนถึงชาติปัจจุบันนี้ ข้าพเจ้าขออุทิศส่วนกุศลให้กับเทวดาประจำตัวของข้าพเจ้า ขอให้ท่านโมทนาบุญของข้าพเจ้าเถิด และโปรดรักษาอาการของข้าพเจ้าให้ทุเลาเบาบางลงด้วยเทอญ

และที่สำคัญอีกส่วนหนึ่งก็คือ "เจ้ากรรมนายเวรและเชื้อมะเร็ง" บอกให้แม่คุณกำหนดจิตถึงเจ้ากรรมนายเวรว่า "บุญใดที่ข้าพเจ้าทำมาตั้งแต่อดีตชาติตราบจนถึงชาติปัจจุบันนี้ ข้าพเจ้าขออุทิศส่วนกุศลให้กับเจ้ากรรมนายเวรของข้าพเจ้า ขอให้เจ้ากรรมนายเวรของข้าพเจ้าโมทนาในผลบุญที่ข้าพเจ้าอุทิศให้ และอโหสิกรรมให้กับข้าพเจ้าด้วยเทอญ"

อีกเรื่องหนึ่งที่ลงลึกลงไปในรายละเอียด ก็คือ อุทิศส่วนกุศลให้กับเชื้อโรค ถ้าแม่ของคุณเชื่อนะครับ ถ้าไม่ศรัทธาก็คือจบ แต่ถ้าศรัทธาก็คือ ถ้าเรารู้ว่ามีมะเร็งตรงจุดไหน เอามือไปแตะเบาๆ เหมือนเรียกพวกเค้านะครับ บอกว่า "ข้าพเจ้าขออุทิศส่วนกุศลของข้าพเจ้าให้กบเชื้อโรคทั้งหลาย ขอให้ออกมารับส่วนบุญของข้าพเจ้า และอย่าได้เบียดเบียนข้าพเจ้าเลย" ตรงนี้อาจจะไม่ตรงกับที่หลายๆคนเคยรู้ ถ้ากรณีไม่จำเป็นผมก็คงไม่มาบอกเล่าไว้

แต่ถ้าใช้มือไปสัมผัสไม่ได้ ก็กำหนดจิตไปที่อวัยวะส่วนนั้น แล้วก็เรียกพวกเชื้อโรคให้ออกมารับส่วนบุญ

3 บนบวช หรือสร้างพระพุทธรูปถวาย ถ้าสร้างพระพุทธรูปถวาย จะหน้าตักกี่นิ้วก็ว่าไป ต้องใช้ทรัพย์ของคุณเองนะครับ อย่าใช้ทรัพย์ของคนอื่น เพราะกรณีนี้เป็นกรณีพิเศษ ทำเพื่ออุทิศเจาะจงให้กับเจ้ากรรมนายเวร แต่อาจจะต้องสิ้นเปลืองเงินทองมาก สู้ใช้วิธีบนบวชดีกว่า คือ ไปกราบพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ที่ไหนก็ได้ แล้วก็บนบานขออำนาจคุณพระศรีรัตนตรัยและขออำนาจเทวดาประจำพระพุทธรูปนั้นโปรดช่วยขอให้เจ้ากรรมนายเวรอโหสิกรรมและทำให้แม่คุณหายจากโรคมะเร็ง ถ้าหาย คุณจะไปบวชที่วัดนั้นวัดนี้ เป็นเวลากี่วัน เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้กับเจ้ากรรมนายเวรของแม่คุณโดยเฉพาะเจาะจง

4 ใช้ยาสมุนไพร เคยได้ยินคำว่า "ฮวานง็อก" มั้ยครับ สมุนไพรตัวนี้ เข้ามาทางอีสานเมื่อหลายปีมาแล้ว มีพระที่ท่านเป็นมะเร็ง ชนิดที่ระยะสุดท้าย ท่านคิดว่าท่านคงจะไปแน่ ท่านก็เลยออกจากโรงพยาบาลมาอยู่ที่วัด ปรากฎว่าท่านยังไม่สิ้นบุญ มีลูกศิษย์นำต้นฮวานง็อกไปถวายท่าน แล้วท่านก็ฉันแต่ฮวานง็อกอย่างเดียว ฉันสดๆ ปรากฎว่าหาย

เมื่อก่อนสมุนไพรตัวนี้ราคาแพงมาก นับใบขาย แต่เดี๋ยวนี้คนรู้จักกันเยอะ และปลูกกันมาก ราคาก็ถูกลง แต่ผมไม่มีปลูกนะครับ คุณลองไปหาตามตลาดขายต้นไม้ดู เคยเห็นแถวเทเวศน์ แต่ต้นเล็กๆ หรือลอง search หาจาก google ก็ได้ เด็ดเอาใบสดๆมากิน ล้างน้ำให้สะอาด กินวันละ 3 ครั้งๆละไม่ต่ำกว่า 7 ใบ

สิ่งที่เกือบลืมถามไปอย่างหนึ่งก็คือ สภาพจิตของแม่คุณเป็นอย่างไรบ้าง ? ลองเล่าให้ฟังหน่อย

สุดท้ายแล้ว อยากบอกว่า ถ้าแม่คุณถึงคราว "หมดอายุขัย" ก็ต้องทำใจนะครับ ..... เกิดแก่เจ็บตายเป็นเรื่องธรรมดา

 

อนุโมทนาสาธุ กับเมตตา ของคุณkhomeraya
ที่มีต่อเพื่อนร่วมวัฏสังสารครับ
<!-- google_ad_section_end -->

 

เอาคำพูดผมไปบอกแล้วกัน

แม่ ร่างกายนี้ เป็นเพียงแค่ วัตถุ ให้แม่จับจิตแม่ให้เจอ จิตมันพ้นจากกายได้ ไม่เจ็บไม่ป่วยก็ได้ ให้แม่วางอาการเจ็บให้บ่อยๆ ด้วยการวางใจไปที่พระพุทธองค์ และ ความดีที่แม่ทำมา

ได้แก่ การเลี้ยงลูกให้เป็นคนดี มีเมตตาต่อลูก ถ้าแม่เอาใจไปวางไว้ที่อื่น ความเจ็บมันจะทุเลา

คนเรา ถ้าจากกันก็ไม่ได้จากกันจริง มันต้องเจอกันอีก ขอให้แม่ทำใจให้ดี สลัดใจที่คอยไปกังวลทั้งปวงทิ้งไป ถ้าทำได้ อาจจะหายได้

พระพุทธองค์ ทรงเป็นครู ฝึกจิตคนทั้งปวง
พระธรรม คือ การละวาง ความทุกข์ในใจทั้งปวง
พระสงฆ์ คือ ผู้วางความทุกข์ในใจได้ถูกทาง

ทั้งสามประการเป็นที่พึ่งที่แท้จริง ขอให้แม่หายจากโรคภัยไข้เจ็บทุกประการ
นิพพานปัจจโยโหตุ

ถ้าไม่กล้าบอก พิมพ์ข้อความผมไปให้ท่านอ่านก็ได้ บอกว่ามีคนให้กำลังใจ

 

ขอเป็นกำลังใจให้คุณ thanatchai นะคะ ให้คุณปฎิบัติตาม ทุกๆท่านที่แนะนำมานะคะ
เพราะ เคยปฏิบัติกับพี่สาวมาแล้ว จะรู้สืกดี กับทั้งคนป่วย และตัวเราค่ะ สู้ๆนะคะ

​

 

ระยะที่ท่านเป็นอยู่นี้มีสติสัมปชัญญะดี
แนะนำให้ท่านทำบุญ หรือฝากเงินทำบุญ โดยไม่ต้องใช้เงินมาก ๆ จะได้ไม่ต้องเดือดร้อน
4 บาท
1 บาทแรก ทำบุญบริจาคเป็นวิหารทาน (หยอดตู้ที่วัดไหนก็ได้ที่เค้ากำลังก่อสร้างอยู่ก็ดี)
1 บาทที่สอง ทำบุญเป็นธรรมทาน หยอดตู้ที่วัดหรือมีเงินมากกว่านั้นให้ซื้อหนังสือธรรมะถวายวัดก็ได้
1บาทที่สาม ทำบุญเป็นสังฆทาน เวลาเราไปทำบุญสังฆทานที่วัดไหนก็ได้ให้ท่านฝากเงินเราไปทำบุญก็ได้
1บาทที่สี่ ทำบุญเป็นเงิน ชำระหนี้สงฆ์ ที่วัดไหนก็ได้

เวลาทำบุญทุกอย่างบอกให้ท่านรับทราบทุกครั้งและให้อนุโมทนาในบุญกุศลเหล่านั้น
ทำบุญทั้งหมดนี้ถ้าท่านมีแรงไปวัดด้วยตนเองจะยิ่งดีมาก ๆ
บุญทั้งหมดทั้งมวลที่ได้กล่าวมาข้างต้นเป็นมหาบุญกุศลสำคัญยิ่งเราเป็นลูก ๆ ควรทำให้แม่ในระยะนี้มาก ๆ ให้ท่านฟังเทศน์บ้างก็ดีมีอานิสงส์สูง หรือให้ท่านกำหนดใจตนเองว่าจะรักษาศีลหรือภาวนาพุทโธระลึกถึงพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่งตลอดไปจักเป็นสุขแลฯ

 

อนุโมทนาค่ะ

 

อนุโมทนาค่ะ กับคาแนะนำและกำลังใจที่เป็นกุศลอย่างมาก

 

อนุโมทนาค่ะ ในคำแนะนำที่เป็นกุศล

 

อนุโมทนาค่ะ

 

ปูพื้นจิตใจของแม่ก่อน ก็ดีนะ
ด้วยการเปิดซีดีเสียงธรรมะ อย่างเช่น
ดอกไม้แห่งชีวิต ๑-๔ - Buddhism Audio

เสียงอ่านจากหนังสือ "ทางแห่งความดี" - Buddhism Audio

จากนั้นค่อยนำความบอกกล่าวของกัลยาณมิตรที่แนะนำไปบอกกับแม่

เป็นกำลังใจให้ครับ

 

ลองดูคะเพื่อช่วยได้คะไม่มากก็น้อย แพทย์แผนพุทธ 0 บาทรักษาทุกโรค [หมอที่ดีที่สุด คือ ตัวคุณเอง]<!-- google_ad_section_end -->
<HR style="COLOR: #ffffff; BACKGROUND-COLOR: #ffffff" SIZE=1><!-- google_ad_section_start -->วันจันทร์ที่ 7 มิถุนายน พ.ศ. 2553

แพทย์แผน พุทธ 0 บาทรักษาทุกโรค

ศูนย์บาท รักษาทุกโรค "หมอเขียว" ใจเพชร กล้าจน
ณ สวนป่านาบุญ อำเภอดอนตาล จังหวัดมุกดาหาร

​

การที่ ชายคนหนึ่งเปลี่ยนชื่อตนเองจาก "สำเริง มีทรัพย์" เป็น "ใจเพชร กล้าจน" ในทางหนึ่งเป็นความพยายามบอกกับทุกคนถึงสิ่งที่เขายึดเหนี่ยว

จุด หมายชีวิตแท้จริงที่ชายผู้นี้ยึดถือ คือ ความพยายามช่วยเหลือให้เพื่อนมนุษย์ได้หายจากโรคภัย โดยไม่ต้องเสียเงินสักบาท... ด้วยการรักษาแบบ "แพทย์วิถีพุทธ"

"หมอเขียว" หรือ ใจเพชร กล้าจน จบการศึกษาด้านวิทยาศาสตร์สุขภาพ เขาพยายามรักษาผู้ป่วยตามวิชาแพทย์ที่ได้ร่ำเรียนมาอย่างเต็มที่ แต่พอทำไปได้ชั่วระยะ คนเป็นหมอก็ต้องผจญกับคำถามในใจที่ไหนคำตอบกับตัวเองไม่ได้เสียที

"ทำไมทุกคนยังป่วย ทั้งที่เครื่องมือแพทย์ทันสมัยขึ้น ทำไมรักษาไปแล้วแพงขึ้นทุกวัน ที่สำคัญเจ้าหน้าที่สาธารณสุขกลับป่วยแซงหน้าชาวบ้านอีก"

ยิ่งคิด ก็ยิ่งงง เขาว่า ไม่เพียงเท่านั้น ตัวหมอเองที่เป็นโรคหัวใจขาดเลือดและปวดข้อ ใช้ยาที่ดีที่สุดของโรงยาบาลรักษาแล้วแต่ก็ไม่หายความสงสัยนี้ทำให้หันกลับ มาศึกษาแพทย์ ทางเลือกและนำมาใช้ร่วมกับแผนปัจจุบันผลปรากฏว่าคนไข้หายเพิ่มขึ้นเกือบเท่า ตัว แต่นับแล้วก็ยังได้แค่ 40 เปอร์เซ็นต์ของคนไข้ทั้งหมด ซึ่งทำให้หมอเขียวยังคาใจต่ออีกว่า ทำไมอีก 60 เปอร์เซ็นต์ รักษาไม่ได้ คนที่รักษาได้ก็กลับมาเป็นใหม่ หรือการแพทย์ที่ทำอยู่จะมาผิดทาง หมอเขียวเครียดกับเรื่องนี้มากจนต้องไปปฏิบัติธรรม แต่พอได้อ่านพระไตรปิฎกก็พบว่า คำตอบทั้งหมดอยู่ในนี้แล้ว

หนึ่ง ในคำสอนที่นำมาพิจารณา คือ เรื่องสังคีติสูตร หมอเขียวคิดไปถึงเรื่องสมดุลของร่างกาย เรื่องปรับร้อน-ปรับเย็น ซึ่งมีในศาสตร์แพทย์แผนไทยอยู่แล้ว เพียงแต่ยังใช้ไม่ได้ผลดี เพราะมัวแต่ปฏิบัติตามตำราซึ่งเขียนในสมัยโบราณ ในขณะที่โลกปัจจุบันร้อนขึ้น การปรับร้อน-เย็นจึงต้องเปลี่ยนตามโลก เพื่อให้เกิดสมดุลที่แท้จริง

หมอเขียวลองรักษาโดยวิเคราะห์ ธาตุร้อน - เย็น ด้วยตนเอง ให้ยาฤทธิ์เย็นมากขึ้นตามโลกที่ร้อนขึ้น เริ่มจากรักษาแม่ที่ปวดมดลูกให้หายได้ ทั้งที่แพทย์ปัจจุบันหาสาเหตุไม่พบ จากนั้นก็ใช้แนวทางดังกล่าวไปรักษาโรคมะเร็ง โรคไต โรคความดัน และบันทึกการรักษาทุกครั้ง ผลปรากฏว่าคนไข้ร้อยละ 90 อาการทุเลา รู้สึกสบายขึ้น เมื่อค้นพบว่าการรักษาที่ได้ผลจริงนั้น พระพุทธเจ้าได้สอนไว้หมดแล้ว หมอจึงประมวลความรู้ทั้งหมด และเรียกชื่อว่า "การแพทย์วิถีพุทธ"

ใจความของการแพทย์แผนนี้ คือ ใช้คำสอนของพระพุทธเจ่าเป็นแก่นแกน นำจุดดีของการแพทย์ต่าง ๆ มารวมกัน โดยมีธรรมะเป็นตัวเชื่อมประสานบูรณาการ โดยมีหลักการ 3 ข้อ คือ ใช้สิ่งที่ประหยัดและเรียบง่าย มีประสิทธิภาพในการแก้ปัญหา เพราะแก้ที่ต้นเหตุ และแต่ละคนทำเองได้ ไม่ต้องให้หมอรักษา แต่รักษาตัวเอง

ยา 9 เม็ดที่หมอเขียวใช้รักษาก็ไม่มีราคาค่างวด เพราะเป็นหลักปฏิบัติ 9 ประการที่ทำได้เอง ได้แก่ รับประทานสมุนไพรปรับสมดุล แช่มือเท้าในน้ำสมุนไพร รับประทานอาหารปรับสมดุล ใช้ธรรมะคลายเครียด ออกกำลังกายกดจุดลมปราณรู้จักเพียรและพักให้พอดี ทำกัวซา ดีทอกซ์ และพอก ทา หยอด ประคบ อบ อาบ ด้วยสมุนไพรที่ถูกกัน เมื่อไม่ต้องเสียค่ายาแพง ๆ หรือเสียค่าหมอ จึงเป็นจุดเริ่มต้นของคำว่า "ศูนย์บาท รักษาทุกโรค"

นอก จากเหนือจากมิติทางสุขภาพ หมอเขียวยังให้ความสำคัญกับวิถีชีวิตแบบพุทธอย่างครบวงจร ดังที่ได้สละพื้นที่กว่า 40 ไร่ เพื่อตั้ง "สวนป่านาบุญ" ซึ่งเป็นศูนย์เศรษฐกิจพอเพียง ใช้ปลูกข้าว ผัก พืชสมุนไพร เพื่อเตรียมความพร้อมในการพึ่งพาตนเองก่อนที่ต่อมาจะเปิดเป็นศูนย์สุขภาพให้ ผู้คนเข้ามาเก็บเกี่ยวความรู้เรื่องการใช้ชีวิตตามแนววิถีพุทธอีกด้วย

ความตั้งใจทั้งหมดของหมอเขียว ไม่เพียงทำให้หลาย ๆ คนได้เห็นว่า ชีวิตที่ดี ไม่มีโรคภัย ก็ไม่จำเป็นต้องใช้เงินจำนวนมากๆ ไปแลกหาจากการแพทย์สมัยใหม่ หากแต่ยังมีนัยไปถึงวิถีพุทธ วิถีไทย ในแบบที่เราเป็นนั่นเอง ที่เพียงพอแล้วสำหรับความสุข

คนค้นฅน หมอเขียว 0 บาทรักษาทุกโรค ช่วงที่ 1 ( วันที่ 01 มิถุนายน 2553 )





<EMBED src=http://www.youtube.com/v/hKWqyYOm1rA&hl=en_US&fs=1&color1=0x3a3a3a&color2=0x999999 width=480 height=385 type=application/x-shockwave-flash allowscriptaccess="always" allowfullscreen="true">
​

คนค้นฅน หมอเขียว 0 บาทรักษาทุกโรค ช่วงที่ 2 (วัน ที่ 01 มิถุนายน 2553

<EMBED src=http://www.youtube.com/v/v_Ejy8vVzIo&hl=en_US&fs=1&color1=0x3a3a3a&color2=0x999999 width=480 height=385 type=application/x-shockwave-flash allowscriptaccess="always" allowfullscreen="true">



คนค้นฅน หมอเขียว 0 บาทรักษาทุกโรค ช่วงที่ 3 (วันที่ 01 มิถุนายน 2553)





<EMBED src=http://www.youtube.com/v/AD7Ua9NFwbs&hl=en_US&fs=1&color1=0x3a3a3a&color2=0x999999 width=480 height=385 type=application/x-shockwave-flash allowscriptaccess="always" allowfullscreen="true">


คนค้นฅน หมอเขียว 0 บาทรักษาทุกโรค ช่วงที่ 4 (วันที่ 01 มิถุนายน 2553)
​

<EMBED src=http://www.youtube.com/v/I5qIVE7evQA&hl=en_US&fs=1&color1=0x3a3a3a&color2=0x999999 width=480 height=385 type=application/x-shockwave-flash allowscriptaccess="always" allowfullscreen="true">


อาหาร อากาศ อารมณ์ บ่อเกิดแห่งโรคภัยไข้เจ็บ หากเรียนรู้ที่จะปรับให้เป็นประัโยชน์สูงสุดต่อร่างกาย นั่นหมาย ถึงว่าสุขภาพร่างกายของเราย่อมแข็งแรงและต่อสู้เอาชนะโรคภัยไข้เจ็บได้เอง

" อตฺตา หิ อตฺตโน นาโถ โก หิ นาโถ ปโร สิยา
อตฺตนา หิ สุทนฺเตน นาถํ ลภติ ทุลฺลภํ. "

ตนแลเป็นที่พึ่งของตน, บุคคลอื่นใครเล่า พึงเป็นที่พึ่งได้ เพราะบุคคล มีตนฝึกฝน ดีแล้ว ย่อมได้ที่พึ่ง อันบุคคลได้โดยยาก.

 

สำหรับต้น ฮวานง็อกนั้น สามารถเปิดดูรายละเอียดได้ทางเวป
www.hoanngoc-th.com

 

ลองสวดโพชงฌงค์ ให้คุณแม่ฟังนะครับ
เมื่อมีการเกิดก็มีการจากไป
โพชฌังคปริต

โพชฌังโค สะติสังขาโต, ธัมมานัง วิจะโย ตะถา
โพชฌงค์ ๗ ประการ คือ สติสัมโพชฌงค์ ธรรมวิจยะสัมโพชฌงค์

วิริยัมปิติ ปัสสัทธิ, โพชฌังคา จะ ตะถาปะเร
วิริยสัมโพชฌงค์ ปิติสัมโพชฌงค์ ปัสสัทธิสัมโพชฌงค์

สะมาธุเปกขะโพชฌังคา
สมาธิสัมโพชฌงค์ และอุเบกขาสัมโพชฌงค์

สัตเตเต สัพพะทัสสินา, มุนินา สัมมะทักขาตา
๗ ประการเหล่านี้ เป็นธรรมะอันพระมุนีเจ้าผู้ทรงเห็นธรรมทั้งปวงตรัสไว้ชอบแล้ว

ภาวิตา พะหุลีกะตา
อันบุคคลเจริญแล้ว กระทำให้มากแล้ว

สังวัตตันติ อะภิญญายะ, นิพพานายะ จะ โพธิยา
ย่อมเป็นไปเพื่อความรู้ยิ่ง เพื่อความตรัสรู้ และเพื่อนิพพาน

เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ
ด้วยการกล่าวคำสัตย์นี้

โสตถิ เต โหตุ สัพพะทา
ขอความสวัสดี จงบังเกิดมีแก่ท่าน ตลอดกาลทุกเมื่อ

เอกัสมิง สะมะเย นาโถ, โมคคัลานัญจะ กัสสะปัง, คิลาเน ทุกขิเต ทิสวา
ในสมัยหนึ่ง พระโลกนาถเจ้า ทอดพระเนตรเห็นพระโมคคัลลานะ และ พระมหากัสสปะเป็นไข้ ได้รับความลำบาก

โพชฌังเค สัตตะ เทสะยิ
จึงทรงแสดงโพชฌงค์ ๗ ประการ ให้ท่านทั้งสองฟัง

เต จะ ตัง อะภินันทิตวา
ท่านทั้งสองนั้น ชื่นชมยินดียิง ซึ่งโพชฌงคธรรมนั้น

โรคา มุจจิงสุ ตังขะเณ
ก็หายโรคได้ในบัดดล

เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ
ด้วยการกล่าวคำสัตย์นี้

โสตถิ เต โหตุ สัพพะทา
ขอความสวัสดี จงบังเกิดมีแก่ท่าน ตลอดกาลทุกเมื่อ

เอกะทา ธัมมะราชาปิ, เคลัญเญ นาภิปีฬิโต
ในครั้งหนึ่ง องค์พระธรรมราชาเอง(พระพุทธเจ้า) ทรงประชวรเป็นไข้หนัก

จุนทัตเถเรนะ ตัญเญวะ, ภะณาเปตวานะ สาทะรัง
รับสั่งให้พระจุนทะเถระ กล่าวโพชฌงค์นั้น นั่นแล ถวายโดยเคารพ

สัมโมทิตวา จะ อาพาธา, ตัมหา วุฏฐาสิ ฐานะโส
ก็ทรงบันเทิงพระหฤทัย หายจากพระประชวรนั้นได้โดยพลัน

เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ
ด้วยการกล่าวคำสัตย์นี้

โสตถิ เต โหตุ สัพพะทา
ขอความสวัสดี จงบังเกิดมีท่าน ตลอดกาลทุกมื่อ

ปะหีนา เต จะ อาพาธา, ติณณันนัมปิ มะเหสินัง
ก็อาพาธทั้งหลายนั้นของพระผู้ทรงคุณอันยิ่งใหญ่ทั้ง ๓ องค์นั้น หายแล้วไม่กลับ
เป็นอีก

มัคคาหะตะกิเลสาวะ, ปัตตานุปปัตติธัมมะตัง
ดุจดังกิเลส ถูกอริยมรรคกำจัดเสียแล้วถึงซึ่งความไม่เกิดอีกเป็นธรรมดา

เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ
ด้วยการกล่าวคำสัตย์นี้

โสตถิ เต โหตุ สัพพะทา
ขอความสวัสดี จงบังเกิดมีท่าน ตลอดกาลทุกเมื่อ เทอญ.

 

ขอบคุณทุกๆคนสำหรับคำแนะนำนะครับ ผมไม่ได้อยู่กับแม่นะครับ กลับไปเยี่ยมวันเสาร์-อาทิตย์นี้ จะกลับมาเล่าอาการของแม่ให้ฟัง

 

เป็นกำลังใจให้นะค่ะ ขอให้ทำตามแนะนำที่กล่าวมาทั้งหมดข้างบนเลยค่ะ มีประโยชน์คุณอนันตเลย หากคุณแม่หมดอายุขัยไม่สามารถยื้อต่อไปแล้ว เราก็ควรทำกำลังใจให้ดีค่ะ เพราะเกิด แก่ เจ็บ ตาย เป็นเรื่องธรรมดา เพียงแต่เราเตรียมตัวก่อนตาย เตรียมตายก่อนแก่กันหรือปาว แค่นั้น เพราะบางคนไม่นึกถึงความตายเป็นอารมณ์ เลยทำให้ทำใจลำบากเมื่อเวลาความพลัดพรากจะมาถึง หากคุณแม่ยังสามารถมีอายุยืนยาวต่อไปได้อีกก็ขอให้เจอปาฎิหารย์นะค่ะ สู้ๆๆนะค่ะ ภัทรก็ดูแลคุณแม่เหมือนกัน แต่คุณแม่ดีอย่างไม่มีโรคภัยไข้เจ็บค่ะ

 

ขอเป็นกำลังใจให้ด้วยนะคะ ขอให้มีปาฎิหารย์เกิดขึ้น ขอให้ความดีที่สั่งสมมาโปรดช่วยให้คุณแม่คุณหายจากโรคภัยไข้เจ็บ แม่ของดิฉันก็กำลังป่วยหนักเหมือนกัน สุดท้ายสิ่งที่สามารถช่วยได้คือ แรงศรัทธาค่ะ ดิฉันแนะนำให้แม่สวดมนต์ ท่านก็สวด และปาฎิหารย์เกิดขึ้นจริงๆ แม่ดิฉันค่อยๆดีขึ้น ขอให้แม่ของคุณดีขึ้นเช่นกันนะคะ