เชิญชวนไปร่วมงานมหกรรม "คืนชีวิตให้แผ่นดิน": ปฏิบัติการหยุดวันสิ้นโลก 2012

หาทางเอาไปเปิดเลยน้อง
หากเป็นเพลง สรรเสริญพระบารมี ผลึกน้ำจะงามระยับจับใจแค่ไหนหนอ

 

โดย อาจารย์คณานันท์ ทวีโภค
วันอาทิตย์ที่ ๗ มีนาคม พ.ศ.๒๕๕๓
ณ.เมตตาภิรมณ์สถาน

จิตที่มีเมตตายังความอุดมสมบูรณ์ได้อย่างไร

เราจะเข้าสู่การศึกษาการเรียนรู้เรื่อง สมาธิจิต และการนำกำลังของสมาธิไปประยุกต์ใช้่กับการเกษตร

ก่อนอื่นเราต้องตั้งกำลังใจกันก่อนว่า เราทำเกษตร เราทำกสิกรรมที่ปลอดสารพิษ ปลอดสารเคมีเป็นกสิกรรมธรรมชาติ นั้นก็คือการที่เราปรารถนาที่จะไม่เบียดเบียนกัน ไม่เบียดเบียนโลก

คำว่า "ธรรมชาติ" หมายถึง สิ่งที่มันเป็นไปของมันตามธรรมชาติ
เป็นสารที่เป็นอินทรีย์ ไม่ใช้สิ่งที่ปรุงแต่งทางเคมีหรือทางวัตถุ

ถ้าเราพิจารณาดูให้ดี การเกษตรที่เป็นเกษตรเคมีสร้างผลกระทบกับโลกใบนี้มาโดยตลอด ยาฆ่าแมลงส่งผลให้สัตว์ในอากาศ สัตว์ในน้ำ สัตว์ที่อยู่ในพืชไร่ อยู่ในสวน อยู่ตามต้นไม้ใบหญ้า จุลินทรีย์ทั้งหลายมันตายหมดไปเยอะ

เมื่อสารเคมีมันเยอะเข้า สมดุลของธรรมชาติก็เสื่อมทรามลง มีผลที่เป็นผลผลิตมากขึ้น แต่ครั้นมันมีการสะสมตัวมากเข้า ดินก็กระด้างขึ้น สัตว์เล็ก สัตว์น้อย ไส้เดือนมันตายไหม... มันก็ไม่มีสัตว์ที่มาช่วยพรวนดิน สัตว์ที่มาช่วยกำจัดศัตรูพืชตามสภาวะ ตามธรรมชาติวิสัยของมัน แล้วก็ขาดเมตตา... ทำไมถึงบอกว่าขาดเมตตา..เพราะว่าเราปรารถนาที่จะตักตวงทรัพยากร ตักตวงผลผลิต โดยไม่คำนึงถึงผลกระทบที่สืบเนื่องสืบต่อกันอย่างแท้จรืง

มันทำให้เราลืมไปว่า..ไม่ใช่เฉพาะมนุษย์ที่อยู่ร่วมกันบนโลกใบนี้ โลกใบนี้ยังมีสัตว์อื่นที่อาศัยอยู่ร่วมกันบนพื้นโลก ตั้งแต่สัตว์ที่เล็กที่สุด จุลินทรีย์ มดแมลงทั้งหลาย ไส้เดือน นก ปลาที่อยู่ในน้ำ ที่อยู่อาศัยอยู่ในนาข้าว หอยทาก สัตว์ต่าง ๆ มันอยู่ร่วมกันตามวัฏจักรของธรรมชาติ เกื้อกูลกันบ้าง เบียดเบียนกันบ้างก็เป็นไปตามวิสัย แต่มันก็ส่งผลสืบเนื่องกัน

ไส้เดือนให้ปุ๋ยพรวนดินให้เรา มีสัตว์อื่นมากินไส้เดือนก็ขับถ่ายมูล มันสืบต่อเป็นวัฏจักรวนเวียนสืบเนื่องเกื้อกูลกันอยู่ สัตว์ก็ขับถ่ายมาเป็นปุ๋ยให้กับพืช พืชก็ให้อาหารกับสัตว์ ต่างฝ่ายต่างเกื้อกูลกัน อันนี้ก็คือวัฏจักรของธรรมชาติ


แต่พอมนุษย์เรากอบโกยทรัพยากรมากเกินไป โดยไม่สนใจผลกระทบที่เกิดขึ้น ผลก็คือ ดินเสื่อมโทรมลง น้ำเสื่อมโทรมลง ธรรมชาติก็ไม่ผลิดอกออกผล ให้อาหารที่เกิดความอุดมสมบูรณ์กับมนุษย์ เราลองพิจารณาดู

หรือแม้กระทั่งความเห็นแก่ตัวของมนุษย์ เบียดเบียนกระทั่งผู้ที่อาศัยอยู่ในมิติอื่น เราเห็นการตัดไม้ทำลายป่าเพื่อต้องการที่ดิน พอป่ามันเป็นป่าหัวโล้นแล้วผลมันคืออะไร...

หน้าดินโดนชะล้าง โดนทำลาย เกิดภัยธรรมชาติ ดินถล่ม โคลนถล่ม ยามที่น้ำมา ยามฤดูร้อนเกิดภัยพิบัติอะไร... ภัยแล้ง ไฟไหม้ป่า มองไป...เขาทั้งเทือกกลายเป็นดินแดงไปหมด ถ้าถึงเวลาที่เราไม่มีอาหาร เราอยู่ในทุ่งแบบนั้นเราจะมีอะไรกินไหม อดตายไหม..เมื่อเทียบกับที่เราอยู่ในป่าที่มีความอุดมสมบูรณ์

ความโลภของมนุษย์ชักนำเภทภัยมาสู่ตัวเราเอง คนในพื้นที่ที่แผ้วถางป่าก็ดี ที่ทำลายธรรมชาติก็ชักนำภัยพิบัติมาสู่ตัวเอง ถึงเวลาตัวเองก็เกิดภัยจากไฟป่า เกิดผลในยามหน้าฝนเข้ามา หน้าน้ำมา เกิดดินโคลนถล่ม เกิดน้ำหลาก ไม่มีต้นไม้ ไม่มีใบหญ้า ที่คอยยับยั้งความเร็วของน้ำ ผลก็คือ บ้านก็ถูกถล่ม บ้านที่หาเงินซื้อมาจากการแผ้วทางป่าไปขายที่ สุดท้ายธรรมชาติเขาก็เอากลับคืนไป

แล้วเรามามองดูต่อไปว่า...พอจิตของมนุษย์มีความหยาบมีความโลภมากขึ้น มองเห็นแต่เงินเป็นที่ตั้ง มองเห็นแต่วัตถุเป็นที่ตั้ง ความละเอียดอ่อนลึกซึ้งในจิตใจมันเริ่มเสื่อมทรามลง เริ่มน้อยลงใช่ไหม...

เราลองมาดู ลองนึกในจิตกำหนดในใจของเราดูว่า จริง ๆ แล้วความอุดมสมบูรณ์หรือคุณประโยชน์ของต้นไม้มันมีมากกว่าที่เราคิด เราจับความรู้สึกดู ใบไม้…ตัวใบไม้มีไอน้ำ มีการคายไอน้ำไหม..ดังนั้นมันมีระบบที่มีการเก็บกักน้ำในระบบที่มีการเก็บความชื้นรอบ ๆ ใบ อันนี้เรารู้สึกได้... มีการเก็บน้ำในรูปของน้ำเลี้ยง การเก็บน้ำในรูปของความชื้นที่อยู่รอบ ๆ รากต้นไม้

คราวนี้เรามาดูเวลาฝนตก เราเคยเห็นเวลาที่ฝนตกแล้วมีไอละอองหมอกน้อย ๆอยู่ตามใบไม้ไหม นี่คือสิ่งที่บอก...เราเคยมีจิตที่ละเอียดมองเห็นและสัมผัสสิ่งเหล่านี้ได้ นั่นก็คือ..เวลาฝนตกมา ต้นไม้มันช่วยเก็บน้ำในรูปไอน้ำด้วย เก็บน้ำชะลอน้ำในรูปที่หยาบอยู่บนใบไม้ด้วย เก็บน้ำที่มันหลากที่มันไหลอยู่ตามลำต้น กิ่งไม้ เปลือกไม้ด้วย เก็บน้ำชะลอน้ำที่อยู่บริเวณรากด้วย ดังนั้นต้นไม้หนึ่งต้นมันชะลอน้ำ กักน้ำ ก่อนที่จะหลากไปได้จำนวนมากไหม... แล้วป่าทั้งป่ามันจะช่วยกักเก็บ รักษา และชะลอน้ำไม่ให้มีน้ำป่าไหลมาได้มากไหม... เราลืมมองไป..เพราะเราเริ่มหยาบขึ้น...

พูดถึงความละเอียด ความสมบูรณ์ ความสมดุลของจิตใจแบบธรรมชาตินั้น ถ้ายิ่งเรามีความละเอียดอ่อนมากเท่าไร จิตเรามีสมาธิมากเท่าไร จิตเรามีเมตตามากเท่าไร เราจะยิ่งมองเห็นการประสานเชื่อมโยงกันของธรรมชาติที่มันมีการเกื้อกูลต่อเนื่องเป็นวัฏจักรสืบต่อกัน

ดังนั้นภูมิปัญญาที่เกิดขึ้น หากเราคิด เราสร้าง เรากำเนิดภูมิปัญญาหรือศาสตร์ต่าง ๆ ขึ้นมา โดยมีพื้นฐานจากความละเอียดของจิตใจ จากพื้นฐานของเมตตาจิต ศาสตร์ต่าง ๆ ความรู้ องค์ความรู้ต่าง ๆ จะเป็นความรู้ที่เป็นไปในการยังประโยชน์ให้เกิดขึ้น ต่อทั้งคน ทั้งสัตว์ ทั้งต้นไม้ ทั้งป่า ทั้งธรรมชาติ มันจะเป็นความรู้ที่บริสุทธิ์ ไม่เบียดเบียนกัน จะเกื้อกูลกัน ส่งเสริมกัน สงเคราะห์กัน

เราลองพิจารณาต่อไป... เมื่อมนุษย์เราจิตใจหยาบช้า จิตใจมีความโลภ จิตใจมีความเบียดเบียนธรรมชาติมากขึ้น ๆ อย่างที่อธิบายไปเบื้องต้นแล้วว่ามันเป็นตัวที่ดึงภัยพิบัติเข้ามา และนอกเหนือยิ่งไปกว่านั้นอีก เมื่อจิตของมนุษย์มีความหยาบ มีความโกรธ มีความเกลียดชังกัน มีความเบียดเบียน มีความโลภโมโทสันต่อกัน ผลที่มองไม่ออก มองไม่เห็น หรือเรานึกไม่ถึงก็คือ มันทำให้ผลึกน้ำเปลี่ยนสภาวะเป็นผลึกน้ำที่น่าเกลียด ผลึกของธาตุดินกลายเป็นผลึกของธาตุดินที่น่าเกลียด จิตใจของมนุษย์ คำพูดวาจาของมนุษย์ที่ด่าว่า ด่าทอ กระทบอารมณ์กันก็ส่งผลทำให้ ต้นไม้ที่อยู่ในเขต อยู่ในอาณาบริเวณนั้น ไม่ออกดอก ไม่ออกผล ไม่เจริญเติบโต

ดังนั้น ยิ่งจิตของมนุษย์มีความเสื่อมมากเท่าไร มีความต่ำลงมากเท่าไร สภาวะที่เป็นทุพภิกขภัย เป็นความข้าวยากหมากแพง พืชผลไม่ออกดอกออกผลถูกต้องตามฤดูกาล ดินฟ้าอากาศไม่ถูกต้องตามฤดูกาล ก็มีผลมาจากกระแสจิตของมนุษย์ จากการเปลี่ยนผลึก เปลี่ยนสภาวะ เปลี่ยนสภาพ ที่มีผลสืบเนื่องมาจากจิตนั่นเอง ดังที่คนโบราณเคยพูด เคยบอกแล้ว แต่เราไม่มีปัญญาที่ลึกซึ้งพอจะมองเห็นถึงข้อนั้นได้

และในทางกลับกัน ในกลุ่มชาวกสิกรรมธรรมชาติ มีตัวอย่างของหลาย ๆ ท่าน ที่ท่านประสบความสำเร็จจากการทำเกษตรในการยึดทฤษฎีเศรษฐกิจพอเพียงขององค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ท่านเคยมาพูดและบรรยายให้ฟังว่า ท่านเองเวลาทำเกษตร ท่านจะพูดกับต้นไม้ บอกกับต้นไม้ พูดดีๆ กับต้นไม้ว่า "ออกดอกออกผลนะ ให้กิน ให้ขาย ให้มีใช้นะ" และผลก็คือ พืชพรรณธัญญาหารมันก็ออกอุดมสมบูรณ์

หรือเวลามีสัตว์มีหนูมีแมลงมารบกวน เขาก็บอกว่า "แบ่งกันบ้างนะ เอาไปกินเอาไปใช้บ้าง เหลือไว้ให้พ่อเหลือกินเหลือขายบ้าง" หนูมันก็เลิกรบกวน มันก็กินเฉพาะที่มันพอ แล้วมันก็ไปที่อื่น ซึ่งเรื่องเหล่านี้ มันเกี่ยวกับจิตที่เป็นเมตตาโดยตรง

และถ้าเราเริ่มเข้าใจอีกว่า กระแสจิตที่มีเมตตานั้นยังความอุดมสมบูรณ์ได้อย่างไร เราก็มาพิจารณาดูในเรื่อง Message from the Water ที่จิตที่มีเมตตาก็ดี จิตที่เป็นกุศลก็ดี คำพูดที่เป็นบวก คำพูดที่เป็นมงคล สิ่งต่างๆ เหล่านั้น คือตัวที่ทำให้ธรรมชาติ ธาตุดิน ธาตุน้ำ ธาตุลม ธาตุไฟมีความอุดมสมบูรณ์ ยังให้พฤกษาหาร มังสาหาร ธัญญาหาร มีความอุดมสมบูรณ์ตามไปด้วย


พิธีโบราณ ประเพณีโบราณ เวลาเราจะปลูกข้าว เรามีการกล่อมขวัญข้าว นั้นก็คือการที่เราพูดดีๆ เห่กล่อม ขอสิ่งที่เป็นมงคล เราเคารพเราไหว้เทวดาที่เป็นรุกขเทวดา ภุมมเทวดา ที่รักษาสถานที่ให้ช่วยให้เกิดความอุดมสมบูรณ์ขึ้น สิ่งต่างๆ เหล่านี้แหละมันเป็นความละเอียดอ่อน เป็นความลึกซึ้งของวัฒนธรรมไทย ที่เข้าใจและเล็งเห็นผลที่เกิดขึ้นนี้อยู่

นอกเหนือไปจากนั้น เมื่อเราทราบดีแล้วว่า จิตที่เป็นเมตตา จิตที่เป็นกุศล การที่เราแผ่เมตตา ทำให้ผลึกน้ำกลายเป็นแก้วเป็นเพชรได้ ดังนั้นยิ่งมีผู้คน หรือสังคม หรือกลุ่ม หรือหมู่บ้านที่เป็นแผ่นดินธรมแผ่นดินทอง ผู้คนอยู่ในศีลในธรรม ปฏิบัติธรรมเจริญทานกันมาก มีศีลธรรมสูง เมื่อกรวดน้ำ แผ่อุทิศส่วนกุศล และรินรดลงผืนแผ่นดินนั้น เป็นคลื่นเป็นกระแสบุญรินรดบนผืนแผ่นดินนั้นมาก อาณาเขตบริเวณนั้นจะเกิดความอุดมสมบูรณ์ไหม.. แล้วถ้าเรากำหนดจิตลงไปอีกว่าเวลาที่เรารดต้นไม้ เราตั้งใจแผ่เมตตาลงไปในน้ำที่เรารินรด

ทุกอุ้งมือที่เราอุ้มดินประคองดินไว้ เรากอบเราอุ้มดินด้วยกระแสคลื่น กระแสจิตที่มีเมตตา มีจิตที่ปรารถนา ที่จะยังให้เกิดความอุดมสมบูรณ์ ความร่มเย็นให้กับมนุษย์และสัตว์ที่อาศัยอยู่ในบริเวณนั้น มีจิตเจตนาที่มีเมตตา จิตปรารถนาที่จะให้โลกนี้กลับฟื้นคืนสู่ความร่มเย็นอุดมสมบูรณ์ในทุกๆ ก้อนดิน ในทุกๆ ต้นไม้ที่เราปลูก เราปรารถนาให้ได้เป็นที่อยู่ที่อาศัยของสัตว์ทั้งหลาย มดแมลงได้อยู่ได้อาศัย นก กระรอก สัตว์เล็กสัตว์น้อย ได้อาศัยพักพิงร่มเงา รุกขเทวดาที่เป็นสัมมาทิฐิให้ท่านอาศัย สร้างวิมานในต้นไม้

เมื่อดินทุกก้อนที่เราลง น้ำที่หยาดที่เราหยดลงบนพื้นแผ่นดิน ต้นไม้ทุกต้นที่เราปลูก เราปลูกด้วยจิตอันเป้นกุศล ปลูกด้วยจิตที่มีเมตตาต่อสรรพสัตว์ทั้งหลาย ผืนแผ่นดินนั้น เรือกสวนไร่นานั้น จะมีความอุดมสมบูรณ์ไหม เราน้อมพิจารณาดูได้ ตรองดูได้ สถานที่นั้นจะมีความร่มเย็น มีความอุดมสมบูรณ์ มีความผาสุก สัตว์ทั้งหลายอยู่ร่วมกัน มีความอุดมสมบูรณ์ เราอาศัยอยู่ในที่ดินนั้นพลอยมีความสุขไปด้วย

แล้วพืชพรรณธัญญาหารข้าวทุกเม็ดที่ออกรวงขึ้น มันจะมีคุณค่าทางอาหารสูงกว่าพืชไร่ที่เป็นอุตสาหกรรมไหม มันมีอะไรผสมผสานอยู่ในเม็ดข้าวทุกเม็ดที่เราปลูกด้วยจิตที่มีเมตตา มันจะมีความจริงใจ มันจะมีความเมตตา มันจะมีกระแสของความอุดมสมบูรณ์ กระแสคลื่น กระแสจิต กระแสความคิดที่เป็นกุศลอยู่ในเมล็ดข้าว อยู่ในผลไม้ทุกผล ในข้าวทุกเมล็ด สิ่งต่างๆ เหล่านั้นมันคืออะไร... มันคือจิตที่เราตั้งใจว่าเราทำกสิกรรมทำการเกษตรเพื่อเลี้ยงสัตว์เลี้ยงมนุษย์ ให้มีความอุดมสมบูรณ์ร่มเย็น ให้พ้นจากความอดอยากยากแค้น ให้เขามีอาหารที่มีคุณค่า ให้เขามีอาหารที่เป็นยารักษาโรคไปพร้อมกัน ให้เขากินแล้วอยู่เย็นเป็นสุข ปราศจากโรคาพยาธิเบียดเบียน

เมื่อจิตประกอบไปด้วยกุศล ด้วยเจตนาอันเป็นมงคลไว้ ในการปลูกพืชผลทุกอย่าง ผืนดินผืนน้ำปราศจากเคมี ปราศจากสารพิษทั้งปวง มีความบริสุทธิ์ทั้งโดยธาตุ มีความบริสุทธิ์ทั้งโดยเจตนา มีความบริสุทธิ์ทั้งในกุศลจิตในการกระทำ

ดังนั้นคุณค่าแห่งธัญญาหาร คุณค่าแห่งพฤกษาหารนั้น มันก็จะกลายเป็นอาหารทิพย์มีคุณค่าสูง มีมูลค่าสูงตามไปด้วย และตัวเราเองผู้ทำเกษตรเราก็ไม่ได้รับผลของเคมีของยาฆ่าแมลงที่ปนเปื้อนมาสู่เรา ผู้ที่รับประทานอาหารก็ไม่ได้รับสารพิษที่ตกค้าง สารเคมีที่ตกค้าง ฮอร์โมนที่ตกค้างในอาหารที่เรากินจนเกิดเป็นโทษ สิ่งต่างๆ เหล่านี้ ถึงแม้ว่าเราไม่เจตนา แต่เราใส่ฮอร์โมนที่เป็นพิษใส่ยาฆ่าแมลง ใส่สารเคมีที่ทำให้คนกินไปแล้วสะสมไปเรื่อยๆ จนเป็นโรคมะเร็ง โรคภัยไข้เจ็บต่าง ๆ กรรมมันเกิดไหม..ถึงแม้มันจะเป็นกรรมโดยไม่เจตนา ในเมื่อกรรมมันเกิด ผลกระทบก็ย้อนกลับมาสู่เรา เป็นผลเป็นกรรมต่อเนื่องกันไปไม่สิ่้นสุด

แต่หากเราทำเกษตรด้วยจิตที่เป็นกุศล ด้วยมีเมตตานั้น มันกลายเป็นบุญ กลายเป็นกุศล ดังนั้นเมื่อเราทำเกษตรเลี้ยงชีวิต ตัวเราเองก็ดีเราตั้งจิตเจตนาว่าเราทำการเกษตรเพื่อเลี้ยงคนบนโลกใบนี้ เลี้ยงคนบนโลกใบนี้ให้พ้นจากความอดอยากหิวโหยทั้งปวง ขอให้เรือกสวนไร่นาของเรานั้นจงปรากฎความอุดมสมบูรณ์มากพอที่จะเลี้ยงคนทั้งหลายได้ และขอให้ผู้ที่เป็นเกษตรกร ผู้มีจิตอันเป็นกุศลร่วมตัวกันสร้างผลิตผลทางการเกษตรจนสามารถที่จะเลี้ยงดูคนทั้งโลกได้

เราตั้งจิตให้เป็นกุศลแบบนั้น เมื่อนั้นตลอดเวลาที่เราทำการเกษตรก็ดี เราปลูกพืช เราสร้างอาหารให้กับคนบนโลกใบนี้ มันก็จะเป็นจิตที่เป็นมงคล เป็นบุญ เป็นกุศล ทุกครั้งที่เราทำงานก็เป็นบุญไปหมด ทั้งทำงานด้วยและเป็นบุญด้วย

และจากการที่เราทำการเกษตรปลอดสารพิษ ปลอดสารเคมี เราทำปุ๋ยชีวภาพใช้เอง ต้นทุนเราถูกกว่า ไม่ต้องจ่ายเงินเพิ่ม มีต้นทุนที่ถูกกว่า เราก็ไม่ต้องเสียเงินค่าปุ๋ยไร่ละห้าหมื่อน ไร่ละแสน เราก็เอาเงินมาให้ครอบครัวได้กิน ได้อยู่ ได้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ดังนั้นก็เท่ากับเราเมตตากับครอบครัวของเรา และตัวเราเองด้วย เมตตาต่อบุคคลทั้งหลาย เมตตาต่อผู้ที่กินผู้ที่ใช้ อาหารที่เราผลิตที่เราปลูกขึ้นนั้นด้วย มีแต่สิ่งที่เป็นความสุข ความอุดมสมบูรณ์ ความมั่งคั่งยั่งยืน

เมื่อเราพิจารณาแล้ว เมื่อเราเห็นแล้ว ว่าเมื่อไรก็ตามเรามีจิตเจตนาอันเป็นกุศล เราทำด้วยจิตเป็นสุข การเกษตรทั้งหลายเราทำด้วยจิตเมตตา เราทำด้วยการเกื้อกูลกัน แบ่งปันกัน เมตตาต่อกัน หรือแม้แต่แรง งาน เราก็อาศัยการร่วมใจกันลงแขก ร่วมกันเกี่ยว ร่วมกันหว่าน ช่วยเหลือสงเคราะห์กัน แบ่งปันกัน มีน้ำใจให้กัน สังคมกสิกรรมธรรมชาติที่เราอาศัยอยู่ ก็เริ่มมีความสุข มีการพึ่งพา ก็ขยับมาเป็นความพอเพียง เมื่อเราพอเพียงแล้ว เราก็เผื่อแผ่ไปยังบุคคลทั้งหลาย เพื่อนบ้านของเรา ชุมชนของเรา ถวายเป็นทานให้กับพระสงฆ์ อุปถากพระ แบ่งปันเป็นโครงการให้กับเด็กนักเรียนที่โรงเรียน

เมื่อสังคมขยับมาถึงในระดับที่เรามีเพียงพอจนสามารถเผื่อแผ่คนอื่นได้แล้ว เมตตามันก็ยิ่งขยายมากออกไปอีก ความสุขมันก็เพิ่มขึ้น ความอุดมสมบูรณ์ ความไม่ขาดแคลนก็เพิ่มขึ้น ความอดอยากในชุมชนมันก็ไม่มี เพราะเราแบ่งปันกัน เผื่อแผ่กัน เกื้อกูลกัน เมื่อยิ่งเผื่อแผ่ เกื้อกูลกันมากขึ้นเท่าไร ความรัก ความเป็นมิตรไมตรี ความปรารถนาดี ความจริงใจต่อกันในชุมชนก็จะยิ่งมากขึ้นตามไปด้วย สังคมนั้นก็จะเกิดความสุขมากขึ้น เบียดเบียนกันน้อยลงจนกระทั้งหมดไปในที่สุด

เมื่อไม่อดอยาก ก็ไม่มีการปล้น ไม่มีการแย่งชิงกัน เมื่อมีการแบ่งปัน มีการให้ทานมากขึ้น จิตก็มีความนุ่มนวล นอบน้อม ควรแก่การปฏิบัติธรรมมากขึ้น ความทุกข์ที่มาขวางจิต ขวางใจเราไม่ให้เราปฏิบัติธรรมะก็เบาบางลง เรื่องกังวลในใจ ในเรื่องหนี้สินจนเราเกิดอกุศลจิตคิดแก้ปัญหาไปสู่การเข้าอบายมุขบ้าง การดื่มเหล้า ติดเหล้าเพื่อดับทุกข์บ้าง การเล่นหวยสร้างความหวังในการปลดหนี้ปลดสินบ้างก็ไม่มี มีเพียงแต่จิตใจที่มีความพร้อมที่จะรับฟังธรรมะ เพราะความทุกข์ความยากทางกายมันเบามันบางลงไปแล้ว

เมื่อนั้นคุณธรรม ศีลธรรมก็ยิ่งเจริญงอกงามไพบูลย์ยิ่งขึ้น มีผู้ทำบุญทำกุศลกรวดน้ำมากขึ้นผืนแผ่นดินก็ยิ่งอุดมสมบูรณ์ขึ้น มีผลึกแก้วผลึกเพชรปรากฏในเรือกสวนไร่นาในแหล่งน้ำแหล่งอาหารเรามากขึ้น ความอุดมสมบูรณ์ ความมั่งคั่ง พืชผลก็ออกเมล็ดพันธ์ุที่ให้ผลใหญ่ขึ้น รสชาดหวาน รสชาดดีขึ้น น้ำก็มีรสหวานหอมชุ่มฉ่ำมากขึ้น ข้าวก็ออกรวงใหญ่ขึ้น ความอุดมสมบูรณ์ก็ยิ่งทับทวีคูณมากขึ้น จนเกิดความเจริญทั้งทางโลกทางธรรม ความสุข ความสันติตามไปด้วยเป็นผลสืบต่อต่อเนื่องไป..ในเชิงบวกในเชิงสร้างสรรค์

เมื่อเราพิจารณา เมื่อเราเข้าใจ เมื่อเราเห็นผลของอานิสงค์ที่จะพึงเกิดการเจริญจิตเจริญเมตตา การตั้งกำลังใจในการทำกสิกรรมทำการเกษตรแล้ว เราก็อธิษฐานจิตว่านับแต่นี้ เราจะตั้งใจทำการเกษตรด้วยด้วยจิตอันเปี่ยมไปด้วยเมตตา ปรารถนาดี ปรารถนาที่จะเกื้อกูลต่อสรรพชีวิต ยังให้เกิดการรักษาโลกใบนี้ให้มีความสะอาด มีความบริสุทธิ์ด้วยธรรมชาติ ให้ธรรมชาติเยียวยา ให้ธรรมชาติบำบัดตัวเอง

เราจะปลูกป่าเพื่อความอุดมสมบูรณ์ เราจะรักษาต้นน้ำ และเจริญเมตตาจิตในน้ำในแหล่งน้ำที่เราทำ ที่เราขุดที่เราสร้างเพื่อสร้างความชุ่มชื่น ความอุดมสมบูรณ์ให้เกิดขึ้น เราจะเริ่มต้นทำความอุดมสมบูรณ์ให้เกิดขึ้นในเรือกสวนไร่นาที่เราอยู่ที่เราอาศัยให้ยังชีพเลี้ยงชีพทั้งตัวเราเองและครอบครัวของเรา และเป็นแหล่งอาหารจุนเจือผู้อื่น เป็นแหล่งอาหารที่เป็นทั้งยารักษาโรคและสร้างความอิ่มลดความอดอยากให้เบาบางลงจากสังคมจากประเทศชาติ ให้มีแต่ผู้ที่มีความสุขจากผลที่เราทำการเกษตร

ตั้งใจของเราให้เป็นกุศลเอาไว้ ตั้งจิตของเราไว้ ถ้าเรามีความตั้งมั่นในพระรัตนตรัยเราก็อธิษฐานจิตขอให้คุณแห่งพระรัตนตรัยคุ้มครองให้ผืนแผ่นดินที่เราทำเกษตรเลี้ยงชีวิตอยู่นี้จงมีความอุดมสมบูรณ์ และยังความอุดมสมบูรณ์ให้ปรากฎต่อตัวเราครอบครัวเรา และยังความอุดมสมบูรณ์ให้ปรากฎเลี้ยงดูสรรพชีวิต เกื้อกูลชีวิตสัตว์น้อยใหญ่ เลี้ยงดูประชาชนทั้งหลายให้มีความอยู่ดีกินดี ให้พ้นจากความอดอยาก ให้พ้นจากโรคภัยไข้เจ็บทั้งปวง ให้อาหารที่เราปลูกเป็นยา มีความอร่อย มีความอิ่ม มีความเต็ม

เมื่อคุณธรรมสูงจนถึงขีดสุด ที่ท่านบอกว่าข้าวเพียงเมล็ดเดียวก็อิ่มได้ ก็เพราะว่าตัวนี้แหละ... มันอิ่มจากความเป็นทิพย์... หรืออิ่มจากจิตที่มีเมตตา...ข้าวหม้อเดียวแกงหม้อเดียวตักเท่าไรไม่หมด

ดังนั้นหากเราตั้งกำลังใจถูก ถึงมนุษย์บนโลกมันจะมีจำนวนสักเท่าไร ถ้าทุกคนบนโลกมีเมตตาจิตเมตตาธรรมต่อกัน ทรัพยากรบนโลกก็เพียงพอต่อการเลี้ยงดูทุกชีวิต ธรรมชาติเขารู้เขาเองว่าควรจะมีอยู่เท่าไร แต่เราไปตัดสินแทนธรรมชาติเขา

ดังนั้นยิ่งเรามีจิตเมตตา มีจิตเป็นกุศลมากเท่าไร ความอุดมสมบูรณ์ก็จะยิ่งบังเกิด เมื่อเรามีจิตกุศลมากเท่าไร ความบริสุทธิ์ก็ยิ่งเพ่ิมขึ้น พืชพรรณธัญญาหารก็ออกถูกต้องตามฤดูกาล ฝนฟ้าก็ตกต้องตามฤดูกาล ความอุดมสมบูรณ์ ความร่มเย็น ความเป็นสุข รอยยิ้มต่าง ๆ ก็เกิดขึ้นโดยธรรมชาติ โดยวิสัย โดยเหตุ โดยธรรม

เมื่อเรากำหนดรู้ กำหนดนึก กำหนดพิจารณา เห็นในอานิสงค์ผลที่เกิดขึ้นแล้ว เราก็ตั้งใจว่าเราจะทำให้ปรากฏ...สร้างศานติบุรี...ดินแดนที่เต็มไปด้วยความสุขความเมตตาต่อกัน จิตที่มีไมตรีจิต จิตที่มีน้ำจิตน้ำใจให้กัน น้ำที่เรารดลงบนผืนแผ่นดินเป็นหยาดน้ำใจที่เราทนุถนอมรักษา ผืนปฐพี ผืนดิน ผืนน้ำ ผืนฟ้าให้เกิดความสุขเกิดความอุดมสมบูรณืไม่มีที่สิ้นสุด

เราอยู่ทุกสถานที่ก็ให้ที่แห่งนั้นมีแต่ความร่มเย็น มีแต่ความอุดมสมบูรณ์ยิ่งขึ้นไป เมื่อใจเราดีแล้ว...ทุกสิ่งทุกอย่างก็ดี ดึงคนดีเข้าหากัน ดึงสิ่งดีๆ เข้าหากัน ทำให้ธรรมชาติกลับคืนสู่ความสมดุล...

จากนั้นเราก็กำหนดรู้ค่อย ๆ ภาวนา และหายใจเข้าลึกๆ ช้าๆ สามครั้ง แล้วภาวนาพุทโธ ธัมโม สังโฆ แล้วค่อยๆ ถอนจิตออกจากสมาธิ

 

สาธุ สาธุ สาธุ ขออนุโมทนาบุญกับทุก ๆ ท่านด้วยทุก ๆ ประการค่ะ

" ดินแดนที่เต็มไปด้วย ความสุข ความเมตตา ต่อกัน จิตที่มีไมตรีจิต จิตที่มีน้ำจิตน้ำใจให้กัน
น้ำที่เรารดลงบนผืนแผ่นดินเป็นหยาดน้ำใจที่เราทนุถนอมรักษา ผืนปฐพี ผืนดิน ผืนน้ำ ผืนฟ้า

.......... ให้เกิดความสุขเกิดความอุดมสมบูรณ์ไม่มีที่สิ้นสุด

เมื่อใจเราดีแล้ว...ทุกสิ่งทุกอย่างก็ดี "

 

ร่วมกันส่งแรงใจไปกับทัพหน้า ( หน่วยทะลวงฟัน )

มีพี่กุ้ง คุณแก้ว คุณเจย์ น้องนิค น้องชัช กันด้วยค่ะ

พร้อมฝากเสบียงกรังทิพย์ ให้ไปเลือกหม่ำกันอิ่มแปร้ตามอัธยาศัยเลยนะคะ @^^@


@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@

 

Narong<!-- google_ad_section_end --> <SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_3038471", true); </SCRIPT>
ผู้สนับสนุนบริจาคพิเศษ



บ้านที่ใช้ชีวิตความเป็นอยู่พอเพียง

ได้มีโอกาสไปพบบ้านหลังหนึ่งที่ปลูกติดถนนสายวังน้ำเย็นไปทางลัดที่จะไป อ.วัฒนานครเป็นครอบครัวที่น่ายินดีมาก ๆ
มีความสงบร่มเย็นในความเป็นอยู่ ปลูกบ้านหลังเล็กๆกระทัดรัด ในพื้นที่ 5 ไร่ รอบบ้านทำสวนครัว ขุดบ่อน้ำ ทำนาพอกิน
มีของกินรอบบ้าน ไม่ต้องพึ่งตลาด เป็นครอบครัวที่อบอุ่น พ่อแม่ลูก ที่สำคัญ เป็นครอบครัวที่มีศีลมีธรรม ไม่ฆ่าสัตว์ -
เป็นอาหาร จิตใจเมตตาต่อสัตว์ แม่บ้านนั้น เคร่งครัดในการปฏิบัติ สวดมนต์ถาวนาอยู่เป็นประจำ

แม้ผมจะเป็นคนแปลกหน้า เข้าไปทีแรกจะไม่ค่อยวางใจผมเท่าไร ผมเลยเอาบัตรประจำตัวให้เขาดู
เขาก็ยิ้มๆ พอคุยกันถึงเรื่องบุญกุศล ผมบอกเขาในเรื่องทำบุญที่ผมทำอยู่ปละปฏิบัติอยู่

พอเขาได้ยินผมพูดเท่านั้น ก็จัดแจงหาเก้าอี้มาให้นั่งสนทนากันนานทีเดียว
แต่ผมไม่กล้าถ่ายรูปเขามาเท่านั้นเอง ถ่ายแต่รอบบ้านมาบางส่วน เดี๋ยวมาชมกันครับ



ภาพแรกเป็นภาพบ้านมาตรฐานหลังเล็กกระทัดรัดพออยู่กันในครอบครัว บนพื้นที่ 5 ไร่ รอบบ้านปลูกผักสวนครัว
ทานในครอบครัวแบบพอเพียง ไม่ต้องไปซื้อหามาจากที่อื่น ค่อยทำกันไปสองสามี - ภรรยา จัดสวนสวยงามในบ้าน
จากภายในพื้นที่บ้าน มองออกไปไกลๆ เป็นทิวไร่ สวนที่กว้างไกล แต่ผมไม่มีภาพมาให้ชมกัน

อย่างภาพที่สองนี่แหละครับ เป็นสวนผักในหน้าแล้งมาก ( ย้ำว่าแล้งมากๆ ) แต่จะเห็นผักยังเป็นสีเขียวอยู่ได้
เพราะ ระบบน้ำแบบสปริงเกอร์ รดได้ตามที่ต้องการ จึงสามารถมีผักในบ้าน ทานได้แม้ในหน้าแล้งจัดอย่างนี้
ตลอดเส้นทางถนนเส้นนี้มีเพียงบ้านหลังนี้เท่านั้น

ที่เห็นไกลๆเป็นบ่อน้ำหลังบ้าน เป็นบ่อที่พบตาน้ำที่สมบูรณ์ คือน้ำไม่เคยเหือดแห้งหมดบ่อนั่นเอง เพียงคืนเดียวเท่านั้น
น้ำก็จะกลับมาเท่าเดิม หลังจากที่สูบขึ้นรดผักจนปริมาณน้ำลดลงไป ผมพูดคุยกับเขา สังเกตุเห็นว่าเขา มีความสุข เขา
ไม่ต้องกังวลกับเรื่องของเวลา ไม่ต้องกังวลกับต้องไปหาซื้อของทานจากตลาด มีความรักความอบอุ่นพร้อมสรรพ
อยู่พร้อมหน้าพ่อแม่ลูก เห็นไหมล่ะครับ

อยู่แบบพอเพียง ได้อะไรมากมาย เป็นสังคมครอบครัวที่สมบูรณ์อย่างยิ่ง ที่ผมยกตัวอย่าง
เอาครอบครัวนี้มาให้ชม เพราะผมเข้าไปสัมผัสความรู้สึกที่ดีๆความสำเร็จของการมีชีวิตแบบพอเพียง
จึงทำให้นึกถึง พระมหากรุณาธิคุณ อันล้นพ้น ขององค์ในหลวงท่าน นั่นเอง


" ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนานเทอญ"<!-- google_ad_section_end -->




แม้จะเกิดเหตุเภทภัยร้ายแรงเพียงใด จะขาดไม่ได้เลย คือ ,,,,
การสร้างคุณความดี สร้างบุญกุศล แม้จะตาย ก็ตายไปกับความดี
แม้จะทุกข์ก็ทุกข์ด้วยใจอันเป็นกุศล บุญฤทธิ์ อันเกิดจากการสร้างคุณงามความดี
มีได้กับทุกคน ขอให้ตั้งอยู่กับจิตอันเป็นกุศล มี ทาน ศีล สวดมนต์ภาวนา อยู่เป็นประจำ

ท่านก็จะได้บุญฤทธิ์แล้วครับ

เพื่อการกุศล เชิญร่วมประมูล สมเด็จองค์ปฐมรุ่น 3 ช่วยค่าน้ำ ค่าไฟ อาหารวัดที่ขาดแคลน < เชิญคลิก
( ลิงค์ข้างบนนี้เป็นลิงค์ของการสร้างคุณความดี เป็นการสร้างมหากุศลที่ยิ่งใหญ่ อันเนื่องพระศาสนาหนทางใด วิธีใด อันทำให้เราได้
มีโอกาสได้ทำความดี อันประกอบด้วยศรัทธาอันบริสุทธิ์ก็จงทำเถอะครับ บางทีโอกาสไม่รอเรา มันไหลไปตามกาลเวลา แล้วก็ไม่อาจ
ย้อนเวลากลับมาได้อีก ดุจพระธรรมเทศนาขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ก่อนปรินิพพาน คือ ยังความไม่ประมาทให้ถึงพร้อม )

วัดที่กำลังเดือดร้อน กำลังต้องการความช่วยเหลือ เรารอไม่ได้ เมื่อมีหนทางช่วยเราต้องช่วยทันที
เชิญร่วมประมูล พระ สมเด็จองค์ปฐม รุ่น 3 เพื่อช่วยวัดขาดแคลนได้ในลิงค์ข้างบนครับ ลิงค์ที่กำลังเข้าไปช่วยคือที่นี่ครับ
ขอความเมตตาอนุเคราะห์ให้การช่วยเหลือทำบุญถวายค่าน้ำค่าไฟค่าภัตตาหารแก่วัดยากจน<!-- google_ad_section_end -->


ขอบคุณข้อมูลจากกระทู้
http://palungjit.org/threads/۩-สโมสรออนไลน์-★ทำบุญกับวัดชนบทที่ขาดแคลนทั่วไทย-☆-และสนับสนุนเว็บพลังจิต-♥.217423/page-11

 

ขอส่งแรงใจไปกับทัพหน้า
มีพี่กุ้ง คุณแก้ว คุณเจย์ น้องนิค น้องชัช กันด้วยค่ะ

 

อนุโมทนาบุญในจิตใจอันงดงามขอทุกๆ ท่านด้วยค่ะ... สาธุ
และขอส่งกำลังใจเต็ม 100 ไปด้วยนะคะ .. (^_^)
ขอให้งานสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี... อย่าได้มีอุปสรรคค่ะ

 

ศานติบุรี นครแห่งความ สุข สงบ สันติ และเต็มเปี่ยมไปด้วยความเมตตา
ผู้คนต่างมีรอยยิ้ม มีความจริงใจ ปราถนาดีต่อกัน
ยึดมั่นในคุณธรรมความดี ไม่เบียดเบียนซึ่งกันและกัน
ดำรงชีวิตอยู่อย่างเกื้อกูลธรรมชาติ และเกื้อกูลกันและกัน

 

ขอบคุณรูปและบทความดีๆที่ทีมงานค้นคว้าหามาให้กันนะครับ

เช้านี้ได้ไปกราบพระอาจารย์ ดร.สิงห์ทน นราสโภ แห่งวัดวรเชษฐ์(ป่าแก้ว) จ.อยุธยา

ณ ตลาดดอนสุวรรณ ถนนนวมินทร์ ซ.๑๓๙

มีพี่กุ้ง และพี่ชานนท์ไปรับท่านมาจากอยุธยา

ทางทีมงานที่ไปก็มี พี่แก้ว พี่เจย์ น้องติน และ ผม

ท่านเมตตาสวดมนต์ และ ให้ธรรม

เห็นหลายๆท่านวุ่นกันน่าดูเลย เพราะท่านสวดนานมากๆ แต่ก็ไพเราะมากเช่นกัน

ผมก็ทรงสมาธิตามไป จิตเป็นปิติ พอเสร็จ ก็สบายมาก จิตเบิกบาน

ะท่านก็เมตตาบอกกุศลของการสวด

รอรูปจากพี่กุ้งก็แล้วกันนะครับ
____________________

พอเสร็จแล้วก็มาทำงานมาบเอื้องกันต่อ ซื้อของ ซื้ออุปกรณ์

ปริ้นรูป เนื้อหา จะเป็นรูปเป็นร่างแล้วครับ


สิ่งใดเป็นสิ่งดีแล้ว ก็ขอให้ทุกๆท่านยินดี

 

save รูปและข้อความไว้แล้วนะคะ ขอบคุณมากเลยค่ะ คุณอ้อยช่วยได้เยอะมาก ๆ เลยค่ะ

 

" เหตุสำนึกในบุญคุณธรรมชาติ จึงมุ่งมาด จัดบวงสรวงปวงรักษา

ได้ผลลัพธ์ ทรัพย์ในดิน ถิ่นนั้นมา เพราะพึ่งพากันและกัน ไม่บั่นทอน "

" ไม่ตระหนักคุณธรรมชาติ ปรามาสไซร้ สิ่งที่ได้ หลังเหยียบย่ำ

ท่านพร่ำสอน เป็นมหาพิบัติภัย ไม่อาวรณ์ เพราะเราทำท่านก่อน ย้อนกลับมา "

 

ขอเป็นกำลังใจให้กับทีมงานทุกท่าน ที่ได้ร่วมแรง ร่วมใจ ช่วยกันจัดเตรียมงานเพื่อจุดประกายความดีให้เกิดขึ้นในจิตใจของผู้ที่จะได้มาสัมผัสกับสื่อ ผลงานทุกชิ้นที่ทุกท่านได้ทุ่มเทกันจัดทำขึ้นมา


รวมถึงพี่ๆน้องๆของเราทั้งในและนอกเว็บ ทั้งที่เป็นสมาชิกเว็บพลังจิต และ ไม่ใช่สมาชิกที่ตามอ่าน ตามเป็นแรงใจ ร่วมลุ้น ร่วมส่งกำลังใจ ส่งแรงเชียร์มาให้ แนวหน้า.. ทีมงานที่กำลังลุยงานกันอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย


สิ่งที่เรากำลังช่วยกันทำอยู่นี้ จะเป็นความดีที่ยิ่งใหญ่ เราจะเป็นผู้หนึ่งที่มีส่วนในการสร้างสังคมสัมมาทิฐิ ดินแดนที่เต็มไปด้วยเมตตาธรรม ความอุดมสมบูรณ์ สันติสุข .... "ศานติบุรี"


ความปลื้มปิติ ที่ได้เห็น ความสุข รอยยิ้ม จิตใจที่เปี่ยมไปด้วย "เมตตา" ความอุดมสมบูรณ์ แห่งผืนแผ่นดิน และ แหล่งน้ำ ความสุข สงบ ที่จะเกิดขึ้น ...ความเจริญรุ่งเรืองของพระพุทธศาสนา และ พระพักตร์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่ทรงมีรอยแย้มสรวลอยู่เป็นนิจ คือ รางวัลที่ยิ่งใหญ่ สำหรับพวกเรา


สู้ สู้ ค่ะ

 

มีข่าวฝากจากคุณจูนน์ น้องคุณปาริตา ว่า..


วันเสาร์ ที่ 13 มี.ค. ทางทีมมูลนิธิพระสุรัสวดีจะมีพิธีอัญเชิญ และ ขบวนแห่พระบรมสารีริกธาตุจากประเทศพม่า โดยมีพิธีการตั้งแต่ 9.00 - 14.00 น.


เริ่มพิธีสวดมนต์ เวลา 9.00 น. ที่สำนักพระพุทธศาสนาโลก สวนเบญจกิติ ถนนสุขุมวิท ติดกับห้างเอ็มโพเลี่ยม


ประมาณ 13.00 น. อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุร่วมขบวนแห่ไปยังวัดธาตุทอง



ท่านใดที่สนใจเข้าร่วมพิธี เข้าร่วมงาน ขอได้โปรดแต่งกายด้วยชุดขาวล้วนค่ะ



หมายเหตุ :

ช่วงนี้ ระบบโทรศัพท์ที่ต่อกับเน็ทของอาจารย์คณานันท์มีปัญหา จึงไม่สามารถเข้ามาร่วมแสดงความเห็นกับเราได้ วันนี้ก็ปิดทำการ ต้องรอวันจันทร์นี้ หากสามารถเปิดทำการได้ (องค์การโทรศัพท์สาขาแถวบ้าน อ.คณานันท์ อยู่วงเวียนใหญ่ จุดรวมพลของผู้ชุมนุมพอดี ) ต้องลุ้นว่าทางองค์การโทรศัพท์ท่านจะมาช่วยแก้ไขปัญหาให้ได้เมื่อไหร่

ขอให้สถานการณ์คืนสู่ความสงบโดยไวด้วยเทอญ

 

งานสรุปเรื่องน้ำที่จะนำเสนอเสร็จออกมาแล้วนะค่ะ เพื่อน ๆ ช่วยกันขัดเกลาแก้ไขก่อนวันจริงนะคะ ทั้งหมดจะเป็นเพียงหัวข้อที่ผู้นำเสนอจะมีรายละเอียดเพิ่มเติมพร้อมอธิบายรายละเอียดอยู่หน้าบอร์ดแต่ละด้าน ลองช่วยกันดูนะคะ

 

เพื่อน ๆ ก็ได้เห็นแล้วนะค่ะ ว่าแก้วใส่นู้นใส่นี่ที่เพื่อน ๆ แนะนำมาก็ใส่ไว้ในงานที่นำเสนอนี่แหละค่ะ รูปภาพ และคำพูดดีๆ จากคุณคุชินาดะ พี่ตุ๊กตาแก้ว น้องSawiika แง่คิดของพี่นัทอันดามัน กำลังใจจากน้องตุ๊กOupasene พี่ลี คุณนิก น้องชัช พี่กุ้งรัตติธรรม คุณ ณใ คุณดอกขจร คุณNamsompun น้องหญิง รวมถึงคำสอนสมาธิของอาจารย์เล็ก บทความที่ได้มาจากงานปีที่แล้วด้วย และแง่คิดจากท่านอื่นๆ ที่ร่วมประชุมกันทั้งสองครั้งที่ผ่านมา บางข้อความไม่ได้เอาลงไว้ในสไลด์ เพราะเนื้อที่ที่จำกัดบนบอร์ด เราก็พิมพ์และพริ้นท์ออกมาเป็นไฟล์กระดาษเพื่อใช้ประกอบการนำเสนอในวันงานค่ะ อย่างไรแนวความคิดทั้งหมดก็สรุปร่วมยอดลงมาเป็นหัวข้อต่าง ๆ ดังที่เห็น และแล้วงานก็เสร็จลงได้...เพราะทุกคนร่วมมือร่วมใจกันอย่างดี สมกับที่งานนี้เป็นงานของพวกเราทุกคนจริง ๆ ค่ะ

 

สุดยอดครับ

 

อยากหา "มือตบ" มาตีให้เสียงดังสนั่น (เพราะ ถ้าใช้ มือตัวเอง คงตบจนแดงไปหมด แต่ก็ยังไม่ สมใจ)


ยืนยัน คำเดียวกับคุณนัทค่ะ "สุดยอดดดดด..."

 

<img onclick="if(this.width>=700) window.open('http://anywhereis.exteen.com/images/072415.gif');" src="http://anywhereis.exteen.com/images/072415.gif" onload="if(this.offsetWidth>'700')this.width='700';if(this.offsetHeight>'700')this.height='700';" border="0">

ศานติบุรี

ผลงานที่ออกมาของทุกท่าน ดีจังเลยค่ะ

ทั้งเนื้อหา รูปภาพ และ การออกแบบ

ขอช่วยเป็นกำลังใจให้นะคะ

 

ขออนุโมทนาด้วยทุกประการค่ะ
ขอส่งกำลังใจไปให้นะคะ เยี่ยมมากๆค่ะ

 

วันนี้ไปรวมตัวกันเพื่อเก็บงานครั้งสุดท้ายกันที่บ้านคุณซัน Forever in love มีคุณอ้อย คุชินาดะ คุณตุ๊ก Oupasene คุณกุ้งรัตติธรรม และทีม 1535 ที่บ้านคุณซันมีเครื่องมือครบครันทั้งที่เคลือบ ที่ตัด อาหาร อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ต่าง ๆ แม้ทุกคนจะอยู่กันคนละมุมเมืองก็ได้มารวมตัวกันช่วยให้งานคืบหน้าไปจนเสร็จเรียบร้อยในขั้นตอนสุดท้าย เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีอะไรตกหล่น พรุ่งนี้ 1535 จะไปทำหนังสือแจกอีก 100 เล่ม ขอบคุณคุณอ้อยอีกแล้ว หลังจากที่เคยส่งเสบียงทิพย์มาให้ชื่นใจแล้ว วันนี้ส่งเสบียงจริงมาให้เราทั้งที่ทำงาน และให้เอาติดไปทานที่งานอีกเพียบ ใจอีจริง ๆ ค่ะ ขอบคุณคุณซันมาก ๆ ที่สละสถานที่ และอุปกรณ์ต่าง ๆ ให้เราใช้อย่างไม่อั้น... และต้องขอบคุณคุณแม่คุณซันที่ตระเตรียมอาหารกลางวันแสนอร่อยไว้ให้คณะเราด้วยนะคะ ขอบคุณสำหรับทุก ๆ กำลังใจที่ส่งมาด้วยค่ะ