พระพุทธเจ้าในอดีตไม่ได้มี 28 พระองค์เท่านั้นมีมากกว่า 28 พระองค์ ?

ในห้อง 'พุทธภูมิ - พระโพธิสัตว์' ตั้งกระทู้โดย จิตเดิมแท้, 20 กุมภาพันธ์ 2008.

  1. โพธิ์แก้ว

    โพธิ์แก้ว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    362
    ค่าพลัง:
    +440
    การนับพระพุทธเจ้า 28 พระองค์นั้น นับตั่งแต่ พระตัณหังกรพุทธเจ้า
    ซึ่งพระพุทธทธเจ้าองค์ปัจจุบันได้อธิษฐานต่อหน้าเพื่อเป็นพระพุทธเจ้า แต่ยังไม่ได้รับพุทธพยากรณ์ ซึ่งพระทีปังกรพุทธเจ้าเป็นพรุพุทธเจ้าองค์ที่ 25 นับถอยหลังไปนะคับ ก็คือองค์ต่อจากพระตัณหังกรมาอีก 3 พระองค์
    พระทีปังกรพุทธเจ้าเป็นองค์แรกที่พระสมณโคดมได้พุทธพยากรณ์คับ
     
  2. จิตเดิมแท้

    จิตเดิมแท้ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 เมษายน 2006
    โพสต์:
    63
    ค่าพลัง:
    +117
    เรียน คุณ lepus

    ขอบคุณที่ตอบคำถามให้ครับ<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_992579", true); </SCRIPT>
     
  3. นายวีระศักดิ์ ท

    นายวีระศักดิ์ ท เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กันยายน 2006
    โพสต์:
    309
    ค่าพลัง:
    +1,003
    อนุโมทนาสาธุ สาธุ สาธุ กับพระที่ 12 และขออ้างอิงด้วยครับ บทสวดสัมพุทเธ ที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้จะอยู่ในหนังสือสวดมนต์ ลองไปหาบทสวดมนต์แปลดูนะครับร้านขายหนังสือทั่วไปมี
     
  4. mossolo

    mossolo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    87
    ค่าพลัง:
    +101
    พุทธมหายานถือว่า พระพุทธเจ้านั้นมีมากมายเช่นเดียวกับพระโพธิสัตต์ก็มีมากมาย ดั่งหนึ่งเม็ดทรายในมหาคงคานที ได้มีการแบ่งพระพุทธเจ้าเป็น 3 ประเภท คือ 1. พระพุทธเจ้าในอดีต เช่น พระอมิตาภพระพุทธ พระไภษัชยคุรุไวฑูรย์ประภาส พระพุทธอักโษภัย พระพุทธไวโรจน์ พระพุทธทีปังกร ฯลฯ
    2. พระพุทธเจ้าในปัจจุบัน คือ พระพุทธศากยมุนี หรือสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
    3. พระพุทธเจ้าในอนาคต คือ พระศรีอารยเมตไตรย ซึ่งทางมหายานถือว่าขณะนี้ท่าน คือ พระศรีอารยเมตไตรยโพธิสัตต์ประทับอยู่บนสวรรค์ชั้นดุสิต
    [​IMG] สวรรค์ชั้นนี้ ในทางพุทธศาสนาถือเป็นดินแดนประทับของพระโพธิสัตต์ที่เตรียมมาประสูติ และตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า เช่น พระศากยมุนีพุทธเจ้า เมื่อครั้งทรงเป็นพระมหาเวสสันดรโพธิสัตต์ ก็ทรงประทับอยู่ ณ สวรรค์ชั้นดุสินนี้เอง เมื่อใดที่ถึงสมัยที่พระศรีอารยเมตไตรยจะมาเป็นพระพุทธเจ้า ก็คือ ต้องจากสวรรค์ดุสิตลงมา
    โดยมหายานได้แบ่งเวลาระหว่างพระพุทธเจ้าในปัจจุบัน และอนาคต หรือเวลาหลังการดับขันธ์ของพระพุทธเจ้า กับการอุบัติของพระเมตไตรยออกเป็น 3 สมัย คือ
    1. สมัยแรก 500 ปี ถือเป็นช่วงที่พระธรรมกำลังแพร่ขยาย
    2. สมัยสอง 1,000 ปี ถือเป็นช่วงปฏิรูปพระธรรม
    3. สมัยสาม 3,000 ปี ถือว่าถึงจุดที่พระพุทธศาสนาเสื่อมสิ้นแล้ว พระเมตไตรยมหาโพธิสัตต์ จะเสด็จลงจากดุสิตสวรรค์สู่โลกมนุษย์ เพื่อยังพระธรรมให้บริสุทธิ์อีกครั้ง
     
  5. จรัล

    จรัล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    295
    ค่าพลัง:
    +405
    คำตอบที่แท้จริงคือนับไม่ถ้วน และไม่ต้องไปนั่งคิดว่าองค์ใดคือองค์แรกและองค์ไหนจะเป็นองค์สุดท้าย มันเป็นอจิณไตย เป็นเรื่องที่ไม่ควรคิด เพราะคิดแล้วเดี๋ยวเป็นบ้า เอาเป็นว่าเรามาพบมาเจอองค์นี้ก็ถือว่าเป็นบุญ ทุกคนถือว่ามีบุญที่ได้มาเกิดในยุคนี้ แม้ว่าจะไม่ได้เกิดในตอนที่พระองค์ยังมีพระชนม์ชีพอยู่ ( เป็นเพราะเศษบุญนิดเดียวแท้นิดเดียวจริงๆ 2560 ปี ไม่งั้นได้เฝ้าอยู่ตรงหน้าแน่ )แต่พระธรรมคำสั่งสอนของพระองค์ยังอยู่ครบ พระธรรมที่อยู่นี้จะเป็นเครื่องมือที่จะพาเราให้ไปเฝ้าพระองค์ได้ในนิพพาน ขอให้ทุกคนโขคดีบุญรักษา
     
  6. คนมีกิเลส

    คนมีกิเลส เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    3,973
    ค่าพลัง:
    +19,431
    กว่าพระพุทธองค์จะได้ตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ท่านต้องได้รับพุทธพยากรณ์จากพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์ก่อนหน้านั้น และพระองค์ก่อนหน้านั้นก็ต้องได้รับพุทธพยากรณ์มาก่อนเช่นกัน ลองคิดย้อนกลับไปก็แล้วกันว่าจะมากขนาดไหน

    ครูบาอาจารย์ท่านว่ามีในอายตนะนิพพานนั้นจะนับจะประมาณมิได้ทีเดียว

    [​IMG][​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 มิถุนายน 2008
  7. ปรมิตร

    ปรมิตร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    404
    ค่าพลัง:
    +528
    คิดง่ายๆ ครับ(คิดไปเอง)
    ผมเคยสงสัยแบบคุณเมือนกัน จึงใช้หลักการคาดคะเนตามหลักตรรกะ คิดแล้วสบายใจแบบนี้ว่า
    หากตราบใดที่มีมนุษย์ มีผู้ก่อบาปแล้วเกิดทุกข์ ก็ย่อมมีผู้เบื่อหน่ายในความทุกข์ตั้งใจลอยบาป บำเพ็ญบุญ เมื่อมีมนุษย์ที่ต้องการหลุดพ้นจากการเวียนว่ายตายเกิดเพราะได้เบื่อหน่ายในความทุกข์เพราะความไม่เที่ยงแล้ว(มีการเปลี่ยนแปลงเสมอ ไม่แน่นอน) ก็ย่อมแสวงหาทางที่จะพ้นทุกข์ จึงมีผู้รู้แจ้ง ผู้ทราบธรรมที่ประกอบให้สัตว์โลกติดอยู่ในโลก และละธรรมนั้นพ้นจากโลกนี้ไปแล้ว เราเรียกว่าพระอรหันต์หากตรัสสั่งสอนผู้อื่นก็มีพระนามว่า พระพุทธเจ้า เมื่อมีจำนวนพระพุทธเจ้ามากมายก็ต้องมีองค์แรกที่อุบัติขึ้นเราก็ขนานนามท่านว่าพระพุทธเจ้าองค์ปฐมบรมพุทธ ทราบแค่นี้ก็คงพอแล้วมั้งครับและ
    แม้จะมีพระพุทธเจ้าตรัสรู้ต่อมา อีกมากมายยิ่งกว่าเม็ดทรายในมหาสมุทรและได้นำเวไนย์สัตว์ข้ามพ้นวัฏสงสารมากมายเช่นกัน แต่เหล่าสัตว์โลกที่เวียนว่ายตายเกิดอยู่ก็มีจำนวนมากมายจากอนันต์ถึงอนันต์ มากกว่าพระผู้ไปดีแล้วเหล่านั้นเราเองก็เป็นเช่นนั้น ยังต้องท่องเที่ยวไปในวัฏสงสาร เมื่อรู้ทางที่จะไปสู้ฝั่งพระนิพพานและตั้งใจทำในสิ่งที่เราจะไปถึงได้ก็ย่อมเป็นสัตว์ผู้ข้องอยู่ในโพธิ(=โพธิสัตว์)แม้นจะยังไม่เที่ยงแท้ ก็เป็นสัตว์ที่ยิ่งกว่าสัตว์ที่ยังไม่รู้ทาง ครับ ดังนั้นผมจึงไม่ได้เพ่งประเด็นว่ามีมาแล้วมากขนาดไหน กี่พระองค์ตอบตัวเองว่ามากมาย แต่ประเด็นของผมคือ แล้วเราล่ะ จะไปทางไหน ไปยังไง เมื่อไหร่นี่คงกำหนดไม่ได้ ไม่รุว่าได้คำตอบหรือเปล่า
    ขอบคุณที่เสียเวลาฟังผมเพ้อเจ้อตั้งนาน ยังไงก็โชคดีกับทางที่เลือกไว้นะครับ กัลญาณมิตร
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 มิถุนายน 2008
  8. nut33

    nut33 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กันยายน 2006
    โพสต์:
    52
    ค่าพลัง:
    +44
    พระคาถาบูชาพระพุทธเจ้า ๕๑๒,๐๒๘ พระองค์

    พระคาถาบูชาพระพุทธเจ้า ๕๑๒,๐๒๘ พระองค์*
    จากคัมภีร์ มูลภาษา ที่อาจารย์พระมหาแสวง โชติปาโล
    วัดศรีประวัติ บางกรวย นนทบุรี ได้นำมาจากประเทศพม่า
    (อภินันทนาการ จาก พระราชญาณวิสิฐ วัดหลวงพ่อสดธรรมกายาราม อ.ดำเนินสะดวก จ.ราชบุรี ๗๐๑๓๐)
    ...

    นะโม สัมมาสัมพุทธานัง ปะระมัตถะทัสสีนัง สีลาทิคุณะปาระมิปปัตตานัง (๓ จบ)
    พุทธัม สะระณัม คัจฉามิ
    ธัมมัม สะระณัม คัจฉามิ
    สังฆัม สะระณัม คัจฉามิ
    ทุติยัมปิ พุทธัม สะระณัม คัจฉามิ
    ทุติยัมปิ ธัมมัม สะระณัม คัจฉามิ
    ทุติยัมปิ สังฆัม สะระณัม คัจฉามิ
    ตะติยัมปิ พุทธัม สะระณัม คัจฉามิ
    ตะติยัมปิ ธัมมัม สะระณัม คัจฉามิ
    ตะติยัมปิ สังฆัม สะระณัม คัจฉามิ
    อธิฏฐานสีลคาถา
    (อธิษฐานศีล ๕ สำหรับญาติโยม สำหรับพระไม่ต้องอธิษฐานนี้)
    อิมานิ ปัญจะสิกขาปะทานิ อะธิฏฐามิ
    ทุติยัมปิ อิมานิ ปัญจะสิกขาปะทานิ อะธิฏฐามิ
    ตะติยัมปิ อิมานิ ปัญจะสิกขาปะทานิ อะธิฏฐามิ
    ปาณาติปาตาเวระมะณีสิกขาปะทัง อะธิฏฐามิ
    อะทินนาทานาเวระมะณีสิกขาปะทัง อะธิฏฐามิ
    กาเมสุมิจฉาจาราเวระมะณีสิกขาปะทัง อะธิฏฐามิ
    มุสาวาทาเวระมะณีสิกขาปะทัง อะธิฏฐามิ
    สุราเมระยะมัชชะปะมาทัฏฐานาเวระมะณีสิกขาปะทัง อะธิฏฐามิ

    * พระคาถาอันศักดิ์สิทธิ์ บูชาพระพุทธเจ้า ๕๑๒,๐๒๘ พระองค์ ท่านผู้รู้แนะนำให้ใช้ภาวนาเพื่อปกป้องอุปสรรค อันตราย จากภัยต่างๆ มีภัยจากอาวุธและ/หรือลูกระเบิดเป็นต้นได้ จงตั้งใจสวดภาวนาสาธยายด้วยจิตสงบ

    อะระหันเต อัฏฐะวีสัญจะ ทวาทะสัญจะ สะหัสสะเก
    ปัญจะสะตะ สะหัสสานิ นะมามิ สิระสา อะหัง
    อัปปะกา วาฬุกา คังคา อะนันตา นิพพุตา ชินา
    เตสัง ธัมมัญจะ สังฆัญจะ อาทะเรนะ นะมามิหัง
    นะมะการานุภาเวนะ หิตวา สัพเพ อุปัททะเว
    อะเนกา อันตะรายาปิ วินัสสันตุ อะเสสะโต ฯ
    สัมมาสัมพุทเธ อัฏฐะวีสัญจะ ทวาทะสัญจะ สะหัสสะเก
    ปัญจะสะตะ สะหัสสานิ นะมามิ สิระสา อะหัง
    อัปปะกา วาฬุกา คังคา อะนันตา นิพพุตา ชินา
    เตสัง ธัมมัญจะ สังฆัญจะ อาทะเรนะ นะมามิหัง
    นะมะการานุภาเวนะ หิตวา สัพเพ อุปัททะเว
    อะเนกา อันตะรายาปิ วินัสสันตุ อะเสสะโต ฯ
    วิชชาจะระณะสัมปันเน อัฏฐะวีสัญจะ ทวาทะสัญจะ สะหัสสะเก
    ปัญจะสะตะ สะหัสสานิ นะมามิ สิระสา อะหัง
    อัปปะกา วาฬุกา คังคา อะนันตา นิพพุตา ชินา
    เตสัง ธัมมัญจะ สังฆัญจะ อาทะเรนะ นะมามิหัง
    นะมะการานุภาเวนะ หิตวา สัพเพ อุปัททะเว
    อะเนกา อันตะรายาปิ วินัสสันตุ อะเสสะโต ฯ
    สุคะเต อัฏฐะวีสัญจะ ทวาทะสัญจะ สะหัสสะเก
    ปัญจะสะตะ สะหัสสานิ นะมามิ สิระสา อะหัง
    อัปปะกา วาฬุกา คังคา อะนันตา นิพพุตา ชินา
    เตสัง ธัมมัญจะ สังฆัญจะ อาทะเรนะ นะมามิหัง
    นะมะการานุภาเวนะ หิตวา สัพเพ อุปัททะเว
    อะเนกา อันตะรายาปิ วินัสสันตุ อะเสสะโต ฯ
    โลกะวิทุเก อัฏฐะวีสัญจะ ทวาทะสัญจะ สะหัสสะเก
    ปัญจะสะตะ สะหัสสานิ นะมามิ สิระสา อะหัง
    อัปปะกา วาฬุกา คังคา อะนันตา นิพพุตา ชินา
    เตสัง ธัมมัญจะ สังฆัญจะ อาทะเรนะ นะมามิหัง
    นะมะการานุภาเวนะ หิตวา สัพเพ อุปัททะเว
    อะเนกา อันตะรายาปิ วินัสสันตุ อะเสสะโต ฯ
    อนุตตะเร ปุริสะทัมมะสาระถิเก อัฏฐะวีสัญจะ ทวาทะสัญจะ สะหัสสะเก
    ปัญจะสะตะ สะหัสสานิ นะมามิ สิระสา อะหัง
    อัปปะกา วาฬุกา คังคา อะนันตา นิพพุตา ชินา
    เตสัง ธัมมัญจะ สังฆัญจะ อาทะเรนะ นะมามิหัง
    นะมะการานุภาเวนะ หิตวา สัพเพ อุปัททะเว
    อะเนกา อันตะรายาปิ วินัสสันตุ อะเสสะโต ฯ
    สัตถาเทวะมะนุสเส อัฏฐะวีสัญจะ ทวาทะสัญจะ สะหัสสะเก
    ปัญจะสะตะ สะหัสสานิ นะมามิ สิระสา อะหัง
    อัปปะกา วาฬุกา คังคา อะนันตา นิพพุตา ชินา
    เตสัง ธัมมัญจะ สังฆัญจะ อาทะเรนะ นะมามิหัง
    นะมะการานุภาเวนะ หิตวา สัพเพ อุปัททะเว
    อะเนกา อันตะรายาปิ วินัสสันตุ อะเสสะโต ฯ
    พุทเธ อัฏฐะวีสัญจะ ทวาทะสัญจะ สะหัสสะเก
    ปัญจะสะตะ สะหัสสานิ นะมามิ สิระสา อะหัง
    อัปปะกา วาฬุกา คังคา อะนันตา นิพพุตา ชินา
    เตสัง ธัมมัญจะ สังฆัญจะ อาทะเรนะ นะมามิหัง
    นะมะการานุภาเวนะ หิตวา สัพเพ อุปัททะเว
    อะเนกา อันตะรายาปิ วินัสสันตุ อะเสสะโต ฯ
    ภะคะวันเต อัฏฐะวีสัญจะ ทวาทะสัญจะ สะหัสสะเก
    ปัญจะสะตะ สะหัสสานิ นะมามิ สิระสา อะหัง
    อัปปะกา วาฬุกา คังคา อะนันตา นิพพุตา ชินา
    เตสัง ธัมมัญจะ สังฆัญจะ อาทะเรนะ นะมามิหัง
    นะมะการานุภาเวนะ หิตวา สัพเพ อุปัททะเว
    อะเนกา อันตะรายาปิ วินัสสันตุ อะเสสะโต ฯ
    อะระหันตาทิ นะวะหิ คุเณหิ สัมปันเน อัฏฐะวีสัญจะ ทวาทะสัญจะ สะหัสสะเก
    ปัญจะสะตะ สะหัสสานิ นะมามิ สิระสา อะหัง
    อัปปะกา วาฬุกา คังคา อะนันตา นิพพุตา ชินา
    เตสัง ธัมมัญจะ สังฆัญจะ อาทะเรนะ นะมามิหัง
    นะมะการานุภาเวนะ หิตวา สัพเพ อุปัททะเว
    อะเนกา อันตะรายาปิ วินัสสันตุ อะเสสะโต ฯ

    นะโม เต พุทธะวีรัตถุ วิปปะมุตโตสิ สัพพะธิ
    สัมพาธะปะฏิปันโนสมิ ตัสสะ เม สะระณัง ภะวะ

    ตะถาคะตัง อะระหันตัง จันทิมา สะระณัง คะโต
    ราหุ จันทัง ปะมุญจัสสุ พุทธา โลกานุกัมปะกา
    ตะถาคะตัง อะระหันตัง สุริโย สะระณัง คะโต
    ราหุ สุริยัง ปะมุญจัสสุ พุทธา โลกานุกัมปะกา
    นาญญัตระ โพชฌังคาตะปะสา นาญัตรินทริยสังวะรา
    นาญญัตระ สัพพะนิสสัคคา โสตถิง ปัสสามิ ปาณินัง

    อตีตัง พุทธะ ระตะนัง พุทธะวังสัง อะนาคะตัง
    มะมะ สีเส ฐะเปตวา ยาวะชีวัง นะมัตถุ เม

    พุทโธ เม รักขะตุ นิจจัง พุทโธ เม รักขะตุ สะทา
    พุทโธ เม รักขะตุ ทิเน อายุ ทีฆัง สุขัง ภะเว
    ธัมโม เม รักขะตุ นิจจัง ธัมโม เม รักขะตุ สะทา
    ธัมโม เม รักขะตุ ทิเน อายุ ทีฆัง สุขัง ภะเว
    สังโฆ เม รักขะตุ นิจจัง สังโฆ เม รักขะตุ สะทา
    สังโฆ เม รักขะตุ ทิเน อายุ ทีฆัง สุขัง ภะเว

    มาราฬะวะกะ นาฬาคิริง อังคุลิง จิญจะ สัจจะกัง
    นันโท ปะนันทะ พรหมัญจะ เชตุ โหตุ ตะโต ปะรัง
    คัจฉันเต วา สะยะเน วา สัพพัสมิง อิริยาปะเถ
    มิจฉาเทวา ปักกะมันตุ สัมมาเทวา อุเปนตุ เม

    พุทโธ เม สีเส ติฏฐะตุ พุทโธ เม หะทะเย ติฏฐะตุ
    พุทโธ เม อังเส ติฏฐะตุ อายุ ทีฆัง สุขัง ภะเว
    ธัมโม เม สีเส ติฏฐะตุ ธัมโม เม หะทะเย ติฏฐะตุ
    ธัมโม เม อังเส ติฏฐะตุ อายุ ทีฆัง สุขัง ภะเว
    สังโฆ เม สีเส ติฏฐะตุ สังโฆ เม หะทะเย ติฏฐะตุ
    สังโฆ เม อังเส ติฏฐะตุ อายุ ทีฆัง สุขัง ภะเว

    วิปัสสี พุทโธ ภะคะวา อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ
    อะนันตะปุญโญ อะนันตะคุโณ อะนันตะญาโณ อะนันตะเตโช
    อะนันตะอิทธิ อะนันตะชุติ อายุ ทีฆัง สุขัง ภะเว
    สิขี พุทโธ ภะคะวา อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ
    อะนันตะปุญโญ อะนันตะคุโณ อะนันตะญาโณ อะนันตะเตโช
    อะนันตะอิทธิ อะนันตะชุติ อายุ ทีฆัง สุขัง ภะเว
    เวสสะภู พุทโธ ภะคะวา อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ
    อะนันตะปุญโญ อะนันตะคุโณ อะนันตะญาโณ อะนันตะเตโช
    อะนันตะอิทธิ อะนันตะชุติ อายุ ทีฆัง สุขัง ภะเว
    กะกุสันโธ พุทโธ ภะคะวา อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ
    อะนันตะปุญโญ อะนันตะคุโณ อะนันตะญาโณ อะนันตะเตโช
    อะนันตะอิทธิ อะนันตะชุติ อายุ ทีฆัง สุขัง ภะเว
    โกนาคะมะโน พุทโธ ภะคะวา อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ
    อะนันตะปุญโญ อะนันตะคุโณ อะนันตะญาโณ อะนันตะเตโช
    อะนันตะอิทธิ อะนันตะชุติ อายุ ทีฆัง สุขัง ภะเว
    กัสสะโป พุทโธ ภะคะวา อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ
    อะนันตะปุญโญ อะนันตะคุโณ อะนันตะญาโณ อะนันตะเตโช
    อะนันตะอิทธิ อะนันตะชุติ อายุ ทีฆัง สุขัง ภะเว
    โคตะโม พุทโธ ภะคะวา อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ
    อะนันตะปุญโญ อะนันตะคุโณ อะนันตะญาโณ อะนันตะเตโช
    อะนันตะอิทธิ อะนันตะชุติ อายุ ทีฆัง สุขัง ภะเว
    สัตติเม พุทธา ภะคะวันโต อะระหันโต สัมมาสัมพุทธา
    อะนันตะปุญญา อะนันตะคุณา อะนันตะญาณา อะนันตะเตชา
    อะนันตะอิทธิมันตา อะนันตะชุติมันตา อายุ ทีฆัง สุขัง ภะเว

    นะโม เตสัง สัตตันนัง พุทธานัง ภะคะวันตานัง อะระหันตานัง
    สัมมาสัมพุทธานัง อายุ ทีฆัง สุขัง ภะเว

    อะนันตะปุญญา สัตติเม พุทธา ภะคะวันโต อะระหันโต
    สัมมาสัมพุทธา อะนันเตหิ ปุญญะจักเกหิ มัง รักขันตุ
    อะนันตะคุณา สัตติเม พุทธา ภะคะวันโต อะระหันโต
    สัมมาสัมพุทธา อะนันเตหิ คุณะจักเกหิ มัง รักขันตุ
    อะนันตะญาณา สัตติเม พุทธา ภะคะวันโต อะระหันโต
    สัมมาสัมพุทธา อะนันเตหิ ญาณะจักเกหิ มัง รักขันตุ
    อะนันตะเตชา สัตติเม พุทธา ภะคะวันโต อะระหันโต
    สัมมาสัมพุทธา อะนันเตหิ เตชะจักเกหิ มัง รักขันตุ
    อะนันตะอิทธิมันตา สัตติเม พุทธา ภะคะวันโต อะระหันโต
    สัมมาสัมพุทธา อะนันเตหิ อิทธิมันตะจักเกหิ มัง รักขันตุ
    อะนันตะชุติมันตา สัตติเม พุทธา ภะคะวันโต อะระหันโต
    สัมมาสัมพุทธา อะนันเตหิ ชุติมันตะจักเกหิ มัง รักขันตุ

    ทิวา ตะปะติ อาทิจโจ รัตติมาภาติ จันทิมา
    สันนัทโธ ขัตติโย ตะปะติ ฌายี ตะปะติ พราหมะโณ
    อะถะ สัพพะมะโหรัตติง พุทโธ ตะปะติ เตชะสา
    ตาทิสัง เตชะสัมปันนัง พุทธัง วันทามิ อาทะรัง
    ทิวา ตะปะติ อาทิจโจ รัตติมาภาติ จันทิมา
    สันนัทโธ ขัตติโย ตะปะติ ฌายี ตะปะติ พราหมะโณ
    อะถะ สัพพะมะโหรัตติง ธัมโม ตะปะติ เตชะสา
    ตาทิสัง เตชะสัมปันนัง ธัมมัง วันทามิ อาทะรัง
    ทิวา ตะปะติ อาทิจโจ รัตติมาภาติ จันทิมา
    สันนัทโธ ขัตติโย ตะปะติ ฌายี ตะปะติ พราหมะโณ
    อะถะ สัพพะมะโหรัตติง สังโฆ ตะปะติ เตชะสา
    ตาทิสัง เตชะสัมปันนัง สังฆัง วันทามิ อาทะรัง
    แผ่เมตตาให้ตนเอง
    อะหัง สุขิโต โหมิ, อะหัง อะเวโร โหมิ, อะหัง นิททุกโข โหมิ,
    อะหัง อัพยาปัชโฌ โหมิ, อะหัง อะนีโฆ โหมิ, อะหัง สุขี อัตตานัง ปะริหะรามิ
    แผ่เมตตาให้สรรพสัตว์
    สัพเพ สัตตา อะเวรา โหนตุ, สัพเพ สัตตา อัพยาปัชฌา โหนตุ,
    สัพเพ สัตตา อะเวรา โหนตุ, สัพเพ สัตตา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุ,

    อิทัง เม ปุญญัง ปุพพะการีนัญจะ เวรีนัญจะ อารักขะเทวานัญจะ ญาตะกานัญจะ
    ทุกขัปปัตตานัญจะ นิพพานัสสะ จะ ปัจจะโย โหตุ อะนาคะเต กาเล.
    ขออนุโทนาบุญกับทุกท่าน สาธุ​
     
  9. แชมป์คุง

    แชมป์คุง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    212
    ค่าพลัง:
    +279
    ผมเคยอ่านหนังสือทางมหายานยานน่ะครับว่าพระพุทธเจ้ามีทั่วทศทิศมีดุจเม็ดทรายในคงคานที
    อย่างเช่นในพระสัทธรรมปุณริฑสูตรอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์สมันตมุขปริวรรคก็กล่าวว่าพระแม่กวนอิมเคยเจ้าพระพุทธเจ้ามาหลายกัลป์แล้วก็อาจจะแสดงถึงการที่มีพระพุทธเจ้าหลายพระองค์หรืออย่างพระสหัสรภุชสหัสรเนตรอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์อกิญจนมหากรุณาจิตธารณี(84ธรรมกาย)ก็กล่าวว่าผู้ที่สวดคาถาบทนี้จะได้รับการคุ้มครองจากพระพุทธเจ้าทั้ง10ทิศด้วยน่ะครับผม
     

แชร์หน้านี้

Loading...