เห็นธรรมไรๆ แม้นิพพานโดยเป็นอัตตาแล้ว แม้โสดาปัตติผลก็ไม่ได้

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย siratsapon, 31 มีนาคม 2008.

  1. siratsapon

    siratsapon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    368
    ค่าพลัง:
    +641
    ผมเองยังไม่สำเร็จเป็นพระอรหันต์ จึงไม่สามารถจะอธิบายลักษณะของนิพพานให้ได้อย่างกระจ่างถ้วนทั่วโดยพิศดารได้ แต่ผมเองพอจะอธิบายแต่โดยย่อได้อยู่บ้าง ผมคิดว่าหากใครก็ตามที่อ่านกระทู้นี้ แล้วพิจารณาตามด้วยปัญญาอันชอบแล้ว ย่อมเห็นทางที่ถูกที่ควรว่าเป็นอย่างไร และควรจะนำไปปฏิบัติให้ถูกต้องถูกทางได้อย่างไร?

    เริ่มแรก ผมขออธิบายตามหลักทฤษฏีดังนี้ครับ

    พระพุทธเจ้าทรงตรัสเอาไว้ว่า

    "ดูกรภิกษุทั้งหลาย เพราะตถาคตอุบัติขึ้นก็ตาม ไม่อุบัติ ขึ้นก็ตาม ธาตุนั้น คือ ความตั้งอยู่ตามธรรมดา ความเป็นไปตามธรรมดา ก็คงตั้งอยู่อย่างนั้นเอง ตถาคตตรัสรู้ บรรลุธาตุนั้นว่า สังขารทั้งปวงไม่เที่ยง ครั้นแล้วจึงบอก แสดง บัญญัติ แต่งตั้ง เปิดเผย จำแนก ทำให้เข้าใจง่ายว่า สังขารทั้งปวงไม่เที่ยง

    ดูกรภิกษุทั้งหลาย เพราะตถาคตอุบัติขึ้นก็ตาม ไม่อุบัติขึ้น ก็ตาม ธาตุนั้น คือ ความตั้งอยู่ตามธรรมดา ความเป็นไปตามธรรมดา ก็คงตั้งอยู่อย่างนั้นเอง ตถาคตตรัสรู้ บรรลุธาตุนั้นว่า สังขารทั้งปวงเป็นทุกข์ ครั้นแล้วจึงบอก แสดง บัญญัติ แต่งตั้ง เปิดเผย จำแนก ทำให้เข้าใจง่ายว่า สังขารทั้งปวงเป็นทุกข์

    ดูกรภิกษุทั้งหลาย เพราะตถาคตอุบัติขึ้นก็ตาม ไม่อุบัติขึ้นก็ตาม ธาตุนั้น คือ ความตั้งอยู่ตามธรรมดา ความเป็นไปตามธรรมดา ก็คงตั้งอยู่อย่างนั้นเอง ตถาคตตรัสรู้ บรรลุธาตุนั้นว่า ธรรมทั้งปวงเป็นอนัตตา ครั้นแล้วจึงบอก แสดง บัญญัติ แต่งตั้ง เปิดเผย จำแนก ทำให้เข้าใจง่ายว่า ธรรมทั้งปวงเป็นอนัตตา ฯ"

    ที่มา : พระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๐ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๒ อังคุตตรนิกาย เอก-ทุก-ติกนิบาต อุปปาทสูตร


    คำว่า สังขารทั้งปวง คือ สิ่งที่ถูกปรุงแต่ง, สิ่งที่เกิดจากเหตุปัจจัย เป็นรูปธรรมก็ตาม นามธรรมก็ตาม ได้แก่ขันธ์ ๕ ทั้งหมด ตรงกับคำว่า "สังขตธรรม"

    ที่มา : พจนานุกรมพุทธศาสน์ ฉบับประมวลศัพท์ พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ. ปยุตฺโต)

    คำว่า ธรรทั้งปวง คือ ขันธ์ ๕ อายตนะ ๑๒ ธาตุ ๑๘ กุศลธรรม อกุศลธรรม อัพยากตธรรม กามาวจรธรรม รูปาวจรธรรม อรูปาวจรธรรม โลกุตตรธรรมฯ

    ที่มา : พระไตรปิฎก เล่มที่ ๓๑ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๒๓ ขุททกนิกาย ปฏิสัมภิทามรรค มหาวรรค ญาณกถา ข้อ ๒๒๗

    โลกุตตรธรรม เป็นไฉน? มรรค ๔ ที่เป็นโลกุตตระ สามัญผล ๔ และนิพพาน สภาวธรรมเหล่านี้ ชื่อว่า โลกุตตรธรรม.

    ที่มา : พระไตรปิฎก เล่มที่ ๓๔ พระอภิธรรมปิฎก เล่มที่ ๑ ธรรมสังคณีปกรณ์


    ที่ผมนำทฤษฏีมาแสดงให้เห็นข้างต้นนี้ แสดงให้เห็นชัดเจนว่าที่พระพุทธเจ้าตรัสสอนเอาไว้นั้น ให้เห็นว่าธรรมทั้งปวง รวมนิพพานเข้าอยู่ด้วยเป็นอนัตตา ดังนั้นผู้ที่เห็นว่าธรรมไรๆ ยังมีความเป็นอัตตาอยู่จึงจัดว่ามีความเห็นผิดอยู่นั้นเอง และผู้ที่เห็นธรรมไรๆ โดยความเป็นอัตตาแล้ว พระพุทธเจ้าตรัสสอนเอาไว้ว่าไม่สามารถทำให้แจ้งแม้โสดาปัตติผลได้เลย ปฏิบัติไปเท่าไรก็ไม่มีทางจะสำเร็จได้ แต่ไม่ใช่ว่าด้านศีล สมาธิ หรืออภิญญา ผู้ที่เห็นผิดอย่างนั้นจะไม่สำเร็จนะครับ เช่น พระเทวทัต, พราห์มในศาสนาอื่น เป็นต้น ย่อมทำให้สำเร็จได้เหมือนกัน ดังนี้

    "ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุนั้นหนอ พิจารณาเห็นธรรมไรๆ โดยความเป็นอัตตาอยู่ จักเป็นผู้ประกอบด้วยอนุโลมขันติ ข้อนี้ไม่เป็นฐานะที่จะมีได้ ผู้ไม่ประกอบด้วยอนุโลมขันติ จักย่างลงสู่สัมมัตตนิยาม ข้อนี้ไม่เป็นฐานะที่จะมีได้ เมื่อไม่ย่างลงสู่สัมมัตตนิยาม จักทำให้แจ้งซึ่งโสดาปัตติผล สกทาคามิผล นาคามิผล หรืออรหัตผล ข้อนี้ไม่เป็น ฐานะที่จะมีได้ ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุนั้นหนอ พิจารณาเห็นธรรมไรๆ โดยความเป็นอนัตตาอยู่ จักเป็นผู้ประกอบ ด้วยอนุโลมขันติ ข้อนี้เป็นฐานะที่มีได้ ผู้ประกอบด้วยอนุโลมขันติ จักย่างลงสู่สัมมัตตนิยาม ข้อนี้เป็นฐานะที่มีได้ ผู้ย่างลงสู่สัมมัตตนิยาม จักทำให้แจ้งซึ่งโสดาปัตติผล สกทาคามิผล อนาคามิผล หรืออรหัตผล ข้อนี้เป็นฐานะที่มีได้ฯ"

    ที่มา : พระไตรปิฎก เล่มที่ ๓๑ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๒๓ ขุททกนิกาย ปฏิสัมภิทามรรค ปัญญาวรรค วิปัสสนากถา ข้อ ๗๓๓

    เพราะว่าลักษณะของบุคคลผู้ถึงพร้อมด้วยทิฐิ หรือโสดาบัน ที่จัดว่าเป็น อริยบุคคลชั้นแรกสุดนั้น จะมีอฐานะอยู่ ๖ ประการดังต่อไปนี้

    ดูกรภิกษุทั้งหลาย ฐานะที่ไม่ควรเป็นได้ ๖ ประการนี้ ๖ ประการเป็นไฉน คือ บุคคลผู้ถึงพร้อมด้วยทิฐิ
    ย่อมเป็นผู้ไม่ควรเพื่อยึดถือสังขารไรๆ โดยความเป็นของเที่ยง ๑
    เป็นผู้ไม่ควรเพื่อยึดถือสังขารไรๆ โดยความเป็นสุข ๑
    เป็นผู้ไม่ควรเพื่อยึดถือธรรมไรๆ โดยความเป็นอัตตา ๑
    เป็นผู้ไม่ควรเพื่อกระทำอนันตริยกรรม ๑
    เป็นผู้ไม่ควรเพื่อเชื่อถือความบริสุทธิ์โดยมงคลตื่นข่าว ๑
    เป็นผู้ไม่ควรเพื่อแสวงหาเขตบุญภายนอกศาสนานี้ ๑
    ดูกรภิกษุทั้งหลาย ฐานะที่ไม่ควรเป็นได้ ๖ ประการนี้แล ฯ

    ที่มา : พระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๒ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๔ อังคุตตรนิกาย ปัญจก-ฉักกนิบาต ๙. กัญจิสังขารสูตร

    ด้วยเหตุและผลต่างๆ ทั้งหมดที่ผมบอกไปข้างต้น หวังว่าคงจะช่วยให้ผู้ที่ยังเห็นว่าธรรมไรๆ แม้นิพพาน เป็นอัตตาอยู่ได้นำไปคิดพิจารณา ว่าจะปรับปรุงความคิดเห็นของคุณใหม่หรือไม่? อย่างไร? เพราะหากยังคงเห็นเป็นอัตตาอย่างนั้นต่อไป ย่อมทำนายได้เลยถึงอนาคตจะเป็นอย่างไร เพราะยิ่งปฏิบัติไป ยิ่งไปคนละทาง ไม่สามารถจะบังเกิดญาณได้นั่นเอง

    ที่ผมอธิบายนี้เป็นหลักฐานล้วนๆ ไม่ได้นำมาจากประสบการณ์ของผมเองแต่อย่างไร ซึ่งผมคิดว่าแม้เพียงเท่านี้ก็ทำให้ผู้ที่คลางแคลงสงสัยว่าพระพุทธเจ้าตรัสสอนเกี่ยวกับเรื่องนี้เอาไว้อย่างไร จะได้นำไปปฏิบัติอย่างมั่นใจ จะได้ก้าวหน้าในธรรมอย่างเป็นสัมมาทิฐิไม่ติดขัด

    ความสุขอันเป็นโลกุตระนั้น เกิดจากความไม่ยึดมั่นถือมั่นใดๆ ทั้งสังขตธรรม และอสัขตธรรม...ปล่อยวางได้หมดสิ้นเมื่อไรก็จะพบสุขแท้คือ "นิพพาน"
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 31 มีนาคม 2008
  2. haha4959

    haha4959 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    388
    ค่าพลัง:
    +85
    กำ ครับ กำ

    สำเนียง ส่อ ภาษา

    มา แปลก จัง เน่อ ครับ

    พูด จา กัน ดี ดี จะ ดี กว่า ไหม ครับ

    พูด ตรง ได้ นี่ ครับ ไม่ ต้อง พูด ก้าว ร้าว ก็ พูด ตรง ได้

    อยาก สื่อ อะ ไร ก็ แสดง ออก มา ดี ดี จะ ดี กว่า ครับ
     
  3. จรรยา

    จรรยา Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12
    ค่าพลัง:
    +33
    จริงจ๊ะ ใครเห็นนิพพานเป็นอัตตา (ตัวตน)
    ไม่สามารถเข้าสู่แม้ โสดาปัตติผล
     
  4. jinny95

    jinny95 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    6,075
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +9,666
    อิอิ.... อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา
     
  5. siratsapon

    siratsapon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    368
    ค่าพลัง:
    +641
    คุณพิทักษ์ 1 ไม่เป็นไรหรอกครับ คนเราก็มีทั้งเห็นด้วย และไม่เห็นด้วยเป็นธรรมดา แต่สิ่งที่ผมนำมาผมไม่ได้คิดเอาเอง ธรรมทั้งปวงมีอะไรบ้าง ผมนำถ้อยคำมาจากพระไตรปิฏกทั้งนั้น จากที่มาที่ผมอ้างถึงไว้

    ส่วนกระทู้ "ไม่เข้าใจเรื่องอนัตตาธรรม จะเข้าใจอนัตตาและอัตตาได้อย่างไร???" ผมอ่านไปแล้วครับ ก็ไม่เห็นจะมีอะไรแปลก คนเราย่อมมีความคิดแตกต่างกันได้ แม้จะแตกต่างจากพระไตรปิฏกที่เก็บคำสอนของพระพุทธเจ้าก็ตาม ส่วนผมนั้นมีจุดยืนว่าหากความคิดเห็นใดค้านกับพระไตรปิฏกผมจะไม่เชื่อไว้ก่อนโดยทันทีครับ

    จริงๆ ยังมีพระสูตรอีกมาก ที่ผมไม่ได้เอามาลง ซึ่งจะทำให้ชัดเจนไปอีก ในระดับลึกซึ่งถึงว่าทำไม่เห็นเป็นอัตตาแล้วไม่เกิดญาณเลยก็มี จึงทำให้ไม่สำเร็จโสดาปัตติผลได้ แต่ผมไม่เห็นความจำเป็นอีกต่อไปที่จะนำมาลง เพราะเกินจุดมุ่งหมายของกระทู้นี้แล้ว อย่างไรก็ขอบคุณนะครับที่มาลงความเห็น

    และขอบคุณสำหรับความเห็นอื่นๆ ของทุกท่านด้วยนะครับ
     
  6. wiwat911

    wiwat911 สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    36
    ค่าพลัง:
    +2
    สิ่งที่ไม่มีตัวตนเราเสพได้ไหม สิ่งทีมีตัวตนเราเสพได้ไหม
     
  7. สันโดษ

    สันโดษ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    9,940
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +16,870
    <TABLE class=tborder cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=thead>ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 2 คน ( เป็นสมาชิก 2 คน และ บุคคลทั่วไป 0 คน ) </TD><TD class=thead width="14%">





    </TD></TR><TR><TD class=alt1 width="100%" colSpan=2>สันโดษ, ใบไม้นอกกำมือ </TD></TR></TBODY></TABLE>


    แช๊ะ...ตามมาถ่ายรูปคู่..เฮอะๆๆ

    เขาบอกว่านายเป็นมารศาสนา

    แต่เราเป็นเพื่อนกับนายนะ

    เราไม่คิดอะไร....ว่างงงง
     
  8. สันโดษ

    สันโดษ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    9,940
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +16,870


    งั้นท่านก็ต้องยอมรับชะตากรรมแล้วกัน

    เรานะแค่ดู.....ไม่ได้คิด

    ท่านเองเชื่อมั่นว่าอะไรถูก อะไร ผิด

    ท่านก็ต้องเข้าใจผู้อื่นเหมือนกันนะคะ(||)

    เพราะคนอื่นเขาก็มีความเห็นที่แตกต่างกันไปเหมือนกัน
     
  9. สันโดษ

    สันโดษ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    9,940
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +16,870

    ก็ท่านอย่าใช้ศัพท์ที่เต็มไปด้วยอารมณ์ซิท่าน

    ท่านใช้อารมณ์ในการเขียน

    คนอื่นเขาก็ คิดว่าท่านเจตนาไม่ดีเท่านั้นเอง

    ลองเปลี่ยน Feel นะท่าน

    เผื่อศัตรูจะน้อยลง

    ไปเดินทางสายกลางงงงกันครับพี่น้อง

    ศาสนามีมาตั้ง 2500 กว่าปี

    ไม่มีท่านมันก็ไม่เป็นไรหรอก

    ท่านไปนิพพานเถอะท่าน เอาตัวรอดไปก่อน

    อย่างอื่นค่อยกลับมาแก้นะท่าน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 เมษายน 2008
  10. จรรยา

    จรรยา Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12
    ค่าพลัง:
    +33


    ครูอาจารย์บางท่าน ว่านิพพานเป็นอัตตา ต้องดูท่าท่านจะสื่อความถึงอะไร

    หากว่านิพพานเป็นอนัตตา ต้องดูว่าท่านจะสื่อความถึงอะไร

    และหากบอกว่า นิพพานไม่ควรกล่าวว่าเป็นทั้งอัตตาหรืออนัตตา ก็ต้องดูว่าท่านจะสื่อความถึงอะไร

    ถ้าตีความของท่านผิดไป เป็นกรรมของเรา ที่จะทำให้คนเข้าใจท่านผิดก็ดี หรือหลงไปก็ดี

    พุทธพจน์ยังถูกตีความผิดมาก อย่างไรเสีย ควรระวังและให้เกิดความผิดพลาดน้อยที่สุด หรือไม่เกิดเลยยิ่งดี


    (||)
     
  11. nut33

    nut33 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กันยายน 2006
    โพสต์:
    52
    ค่าพลัง:
    +44
    2สอง คนยลตามช่องคนหนึ่งเห็นทองคนหนึ่งเห็นโคลนตม
     

แชร์หน้านี้

Loading...