อิสวาร์ยาไรท์
ความเคลื่อนไหวล่าสุด:
1 กรกฎาคม 2015
วันที่สมัครสมาชิก:
10 พฤศจิกายน 2005
โพสต์:
1,608
พลัง:
1,955

โพสต์เรตติ้ง

ได้รับ: ให้:
ถูกใจ 1,955 4,118
อนุโมทนา 0 0
รักเลย 0 0
ฮ่าๆ 0 0
ว้าว 0 0
เศร้า 0 0
โกรธ 0 0
ไม่เห็นด้วย 0 0
ที่ตั้ง:
Eastbourne, United Kingdom
อาชีพ:
Lecturer

แชร์หน้านี้

อิสวาร์ยาไรท์

เป็นที่รู้จักกันดี, จาก Eastbourne, United Kingdom

อิสวาร์ยาไรท์ เห็นครั้งสุดท้าย:
1 กรกฎาคม 2015
    1. AddWassana
      AddWassana
      [IMG]
      สวัสดียามเย็นค่ะคุณอิสวาร์ยาไรท์
      ทราบว่างานเยอะมาก รักษาสุขภาพด้วยนะคะ
    2. ภัทรอังคาร
    3. นักรบเเห่งสยาม
      นักรบเเห่งสยาม
      สวยจังๆๆๆๆๆๆคับ
    4. valentine7
      valentine7
      ผีเสื้อ



      ดี
      นะ



      สวยเหมือนคนส่ง หรือเปล่า อิอิ

      ปายและ

      เดี๋ยวว่างๆจะแวะมากวนใหม่นะ

      พักผ่อนเยอะๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆนอนเยอะๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

      กินเยอะๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆยิ้มเยอะๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆยี้มๆๆๆๆๆๆๆๆ
    5. siamesecat2005
      siamesecat2005
      [IMG]
      สวัสดีตอนกลางวันค่ะ คุณอิสวาร์ยาไรท์
      มีความสุขมาก ๆ นะคะ
    6. horwang072
    7. AddWassana
      AddWassana
      [IMG] สวัสดีวันทำงานค่ะคุณอิสวาร์ยาไรท์
    8. 5A
      5A
      ถ้าพอใจกับการเวียนว่ายตายเกิด คนที่คิดจะเปลี่ยน ย่้อม มี แน่

      ขอ ค้านที่บอก พระพุทธเจ้าเสียหาย ไม่จริง เพราะมนุดที่ไม่ปฎิบัติตาม ผลเสียเกิดกับ มนุดคนนั้น เอง


      ถูกไม่ถูก คุณ แ ..อิส
    9. 5A
      5A
      ฉันมาเป็นคริสเตียนได้อย่างไร (ตอนที่ 4)
      เวลาที่คนรอบข้างรู้ว่าฉันเป็นคริสเตียน (โดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นคริสเตียนที่เปลี่ยนมาจากพุทธ) เขาก็อดถามไม่ได้ว่าเปลี่ยนศาสนาเพราะอะไร และถามเกี่ยวกับเรื่องศาสนาคริสต์ด้วย บางคนก็ถามแบบบริสุทธิ์ใจเพราะอยากรู้จริงๆ แต่บางคนก็ถามแบบตำหนิอ้อมๆ บางคนถึงกับถามเพื่อต้อนให้ฉันจนมุม

      บังเอิญว่าคนรอบๆตัวของฉันส่วนมากเป็นพวกนิสิต อาจารย์และนักวิชาการ พวกนี้เรียนกันอย่างต่ำก็ปริญญาโท และหลายๆคนก็เป็นคนที่มีความรู้ค่อนข้างดีด้านศาสนา (เมื่อเทียบกับคนทั่วไปในสังคม) ฉันจึงจำเป็นต้องศึกษาและเตรียมคำตอบมาตอบพวกเขาอย่างดีเหมือนกัน พวกเขาติดนิสัยนักวิชาการ การถามของพวกเขาจึงค่อนข้างลึก เวลาฉันจะอ้างอะไรสักอย่างบางครั้งถึงกับต้องเปิดพระคัมภีร์หรือตำราให้เขาอ่านเองกับตาตัวเอง จะมาพูดลอยๆไม่ได้เด็ดขาด รู้เรื่องศาสนาเดียวก็ไม่พอมาคุยกับคนพวกนี้ ต้องรู้หลายๆศาสนาและต้องสามารถเปรียบเทียบความเหมือน-ต่างได้

      เพื่อนบางคนต้องการคำตอบแต่ไม่ต้องการฟังฉันพูด เขาขอให้ฉันหาหนังสือคริสเตียนดีๆให้เขายืมไปอ่าน บางคนถึงกลับกลัวว่าหนังสือภาษาไทยแปลมาไม่ตรงต้นฉบับภาษาอังกฤษ จึงขออ่านต้นฉบับเป็นภาษาอังกฤษเลยก็มี ฉันไม่ได้รู้สึกเหนื่อยกับสภาพนี้ ตรงกันข้ามกับรู้สึกดีเพราะเป็นแรงกระตุ้นทำให้ฉันต้องทำความเข้าใจเรื่องของพระเจ้าให้มาก (และก็ต้องศึกษาศาสนาอื่นไปด้วยเพื่อให้เปรียบเทียบได้ชัดเจน) ต้องศึกษาทั้งจากหนังสือ จากอินเทอร์เน็ต จากการถามผู้รู้ และที่ขาดไม่ได้คือจากการสนิทกับพระเจ้าเป็นการส่วนตัว และยิ่งศึกษามากเท่าไรฉันก็ยิ่งรู้สึกว่าเรื่องของพระเจ้าเป็นความจริง และเป็นทางที่ดีที่สุดสำหรับฉัน

      คำถามยอดฮิตที่คนมักจะถามฉันได้แก่
      รู้ได้ยังไงว่าพระเจ้ามีจริง
      ถึงพระเจ้ามีจริงแล้วเกี่ยวอะไรกับมนุษย์เราด้วย
      การลงโทษของพระเจ้าต่างจากกฎแห่งกรรมอย่างไร
      พระเจ้าของคริสต์กับอิสลามเหมือนหรือต่างกันอย่างไร
      รู้ได้ยังไงว่าพระเจ้าไม่ได้สำแดงตนแก่มนุษย์ในหลายๆรูปแบบ ทำไมไม่คิดว่าที่ชาวพุทธไหว้พระพรหม พระภูมิ หรือแม้แต่ท้าวจตุคามก็คือไหว้พระเจ้าองค์เดียวกับคริสเตียนนั่นแหละ
      ศาสนาพุทธไม่ดีตรงไหน
      ทำไมคริสเตียนไม่ไหว้รูปเคารพ
      ทำไมแค่สารภาพบาปพระเจ้าก็ยกโทษให้
      ทำไมคริสเตียนใจแคบจัง ทำไมไม่ค่อยสนับสนุนให้แต่งงานกับคนต่างศาสนา
      ทำไมต้องไปโบสถ์ทุกวันอาทิตย์
      ทำไมต้องให้ยอมรับพระเยซูถึงจะได้ไปสวรรค์ อย่างนี้คนดีๆที่ไม่ใช่คริสเตียนก็ตกนรกงั้นหรือ
      ทำไมทางรอด (จากนรก) ของคริสเตียนฟังดูง่ายจังเลย ง่ายจนเชื่อไม่ลง
      ศาสนาทุกศาสนาสอนให้เป็นคนดี แล้วจะต้องไปเปลี่ยนศาสนาให้วุ่นวายทำไม
      ทำไมคริสเตียนต้องมาชวนคนไปโบสถ์ และชวนให้เปลี่ยนศาสนา
      ฯลฯ

      ฉันจะไม่ตอบคำถามเหล่านี้ในที่นี้ เพราะมันคงจะยาวมาก แต่จะขอบอกเพียงว่าสำหรับการพิจารณาเพียงแวบแรก ศาสนาคริสต์ดูเผินๆเหมือนเป็นศาสนาที่ไม่มีเหตุผลจริงๆนั่นแหละ แต่ถ้าใครได้ศึกษาจริงจังจนรู้ข้อมูลเหตุผลเบื้องหลังแล้วก็จะพบว่า ศาสนาคริสต์ไม่ได้ไร้เหตุผลหรือใจแคบอย่างที่เคยคิด แต่ปัญหาก็คือคนจำนวนมากไม่เปิดใจศึกษาหาคำตอบ เช่น พอเห็นว่าศาสนาคริสต์สอนว่าสารภาพบาปแล้วพระเจ้ายกโทษให้ พวกเขาก็ส่ายหน้า ด่วนสรุปว่าอย่างนี้คริสเตียนก็ทำชั่วได้สบาย ทำแล้วค่อยมาสารภาพบาปทีหลัง แล้วเขาก็มีอคติต่อคริสเตียน แล้วก็หันหลังเดินไปทันทีก่อนที่เขาจะได้ศึกษาจนรู้ว่ามันไม่ใช่อย่างที่เขาเข้าใจ

      ส่วนคำถามที่ว่า "ศาสนาพุทธไม่ดีตรงไหน" นั้น ฉันขอตอบในที่นี้ว่าศาสนาพุทธเป็นศาสนาที่ดีมาก ฉันมีความเห็นส่วนตัวว่า ถ้าพระเจ้าไม่มีจริง และ/หรือ พระเจ้าไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับมนุษย์ ศาสนาพุทธจะเป็นศาสนาที่ดีที่สุด (และนั่นหมายความว่าฉันก็จะนับถือศาสนาพุทธ) แต่ในเมื่อฉันเชื่อว่าพระเจ้ามีจริงและพระเจ้าเกี่ยวข้องกับมนุษย์ ฉันก็ย่อมต้องเลือกที่จะนับถือศาสนาที่ให้ความสำคัญกับพระเจ้า และเลือกที่จะศึกษาศาสนาพุทธ โดยขอไม่อุทิศตัวเป็นพุทธศาสนิกชน อะไรที่พระพุทธเจ้าสอนดีมีประโยชน์ฉันก็ไม่รังเกียจที่จะนำมาใช้ในชีวิตหรอกนะ

      ฉันยังรู้สึกโกรธเลยเวลาที่เห็นชาวพุทธคนไหนลบหลู่พระพุทธเจ้าทางอ้อม ตัวอย่างเช่น พระพุทธเจ้าสอนว่าศีล 5 เป็นมาตรฐานต่ำสุดที่มนุษย์จะต้องพยายามรักษา ฉันเห็นด้วยว่าอะไรๆที่กำหนดไว้ในศีล 5 เป็นมาตรฐานสำคัญขั้นต่ำที่ทำให้คนอยู่กันอย่างสงบในสังคมจริงๆ เวลาฉันฟังชาวพุทธคนไหนบอกปฏิเสธที่จะพยายามถือศีล 5 เพราะไม่อยากเลิกกินเหล้า ฉันก็รู้สึกโกรธแทนชาวพุทธขึ้นมาเลยทั้งๆที่ฉันเป็นคริสเตียน จะบ้าเหรอ มันเก่งมาจากไหน เก่งได้ 1 ในพันของพระพุทธเจ้าหรือ... พระพุทธเจ้าท่านรู้ดีว่าอะไรควรอะไรไม่ควร ท่านเสียสละความสุขสบายในฐานะเจ้าชายออกมาแสวงหาทางแห่งการหลุดพ้นจากความทุกข์ แล้วท่านก็ออกสั่งสอนประชาชนตลอดชีวิตของท่าน เหนื่อยนะ เดินป่าสมัยก่อนไม่เหมือนสมัยนี้ ไม่มีไฟฟ้า ไม่มีน้ำประปา ไม่มีถนน แล้วคนที่อ้างชื่อของท่านเรียกตัวเองว่าเป็นชาวพุทธมันจะเนรคุณกันไปหน่อยแล้ว ท่านให้ถือ 5 ข้อก็ดันจะมาถือ 4 ข้อ อ้างอีกต่างหากว่าข้อที่ห้ามกินเหล้ามันไม่จำเป็น ทำเป็นรู้ดีกว่าพระพุทธเจ้าเสียแล้ว แล้วพวกมันก็ไปนั่งกินเหล้ากันจนเมาไร้สติ ไปทำตัวไม่ดี คนเขามองมา (โดยเฉพาะคนต่างศาสนา) เขาก็อดนึกไม่ได้ว่า เนี่ยเหรอชาวพุทธ สรุปว่าใครเสีย... ก็พระพุทธเจ้าเสียไงล่ะ เสียชื่อมาก

      ฉันเห็นว่าการมาเป็นคริสเตียนไม่ใช่การเปลี่ยนสังกัดจากปฏิบัติตามกฎของศาสนาหนึ่งมาเป็นอีกศาสนาหนึ่ง แต่การเป็นคริสเตียนคือการเปลี่ยนชีวิต เหมือนการเกิดใหม่เป็นอีกคนหนึ่ง ฉันรู้สึกว่าตัวเองค่อยๆเปลี่ยนแปลงไปมากในด้านความคิด ฉันสามารถยุติความผิดบาปบางอย่างซึ่งเป็นปัญหาของฉันได้อย่างเด็ดขาด มันไม่ใช่การพยายามบังคับใจละเลิกสิ่งไม่ดี แต่มันเป็นการที่ฉันเปลี่ยนมุมมองและทัศนคติไปได้อย่างหน้ามือเป็นหลังมือ ฉันไม่ต้องใช้ความพยายามอะไรเลยในการเปลี่ยนพฤติกรรม ฉันรู้สึกว่าชีวิตไม่ว่างเปล่าอีกต่อไปแล้ว ที่สำคัญที่สุดก็คือ ในที่สุดฉันก็มีความรู้สึกอยากจะมีชีวิตอยู่เหมือนกับคนอื่นๆเสียที

      มีคนเคยถามฉันด้วยว่าถ้าตายไปแล้วพบว่าพระเจ้าไม่มีจริง หรือค้นพบว่าคำสอนเรื่องการเชื่อพระเยซูแล้วได้รับความรอดไม่เป็นจริงฉันจะรู้สึกอย่างไร โดยส่วนตัวของฉันแล้ว ฉันเชื่อว่าเรื่องราวของพระเจ้าที่ได้ยินได้ฟังมาเป็นจริง แต่ถ้าจะให้สมมุติกันเล่นๆว่าตายไปแล้วพบว่าพระเจ้าไม่มีจริง ฉันก็ไม่กลัวอยู่ดีว่าฉันจะไปทุกข์ทรมานในนรกหลังความตาย เพราะฉันรู้ว่าฉันจะได้รับผลบุญเท่ากับชาวพุทธดีๆทุกประการ ตราบใดที่ฉันทำตัวเป็นคนดี

      ฉันศึกษามาแล้วว่าในทางของศาสนาพุทธนั้น คนคนหนึ่งสามารถได้บุญกุศลหรือแม้แต่บรรลุธรรมได้ โดยไม่ต้องรู้ด้วยซ้ำว่าคำสั่งสอนที่ตนเลื่อมใสทำตามมาจากศาสนาใดหรือศาสดาชื่ออะไร ถ้าพระเจ้าไม่มีจริง ผลกรรมที่ฉันไร้ปัญญาไปหลงเชื่อพระเจ้าก็คงมีบ้าง แต่ไม่ใช่เรื่องใหญ่เพราะยังไงๆฉันก็หลงเชื่อพระเจ้าองค์เดียว ยังหลงไปน้อยกว่าชาวพุทธจำนวนมากที่หลงไหว้เทพสิบองค์เครื่องรางสิบชิ้น (ทั้งๆที่ไม่ใช่คำสอนของพระพุทธเจ้าเลย) เสียอีก และฉันก็มีอาชีพในตอนนี้เป็นผู้สั่งสอนวิชาความรู้ ถ้าฉันเป็นครูที่ดี ศาสนาพุทธก็บอกว่าฉันจะเกิดชาติหน้าเป็นคนฉลาด เพราะให้ปัญญาทานไว้มาก (น่าจะพอเอาปัญญาทานจากการเป็นครูที่ดีมาผ่อนผลกรรมของการหลงเชื่อพระเจ้าได้บ้าง)

      แต่ถ้าฉันเป็นชาวพุทธ แล้วฉันปฏิเสธพระเจ้า ไม่ยอมรับพระเยซูมาตลอดชีวิต แล้วฉันก็มาพบความจริงหลังตายไปว่าพระเจ้ามีจริง อันนี้ลำบากแน่ ฉันทำดีมายังไงก็ไม่รอด เพราะตามมุมมองของศาสนาคริสต์นั้นสวรรค์เป็น "บ้านพระเจ้า" ถ้าไม่รู้จักเจ้าของบ้านจะไปเข้าบ้านใครเขาได้ยังไง

      ดังนั้นถ้าไม่คิดเรื่องศรัทธาหรือเรื่องสัจธรรมใดๆ แต่คิดกันเรื่องผลประโยชน์ ฉันก็คิดแล้วว่าเป็นคริสเตียนคุ้มกว่า เสี่ยงน้อยกว่า ถ้าคำสอนของศาสนาพุทธจริง แต่ของศาสนาคริสต์ไม่จริง ฉันก็ไปเวียนว่ายตายเกิดไม่ต่างอะไรกับชาวพุทธ (ดีๆ) คนหนึ่ง แต่ถ้าคำสอนของศาสนาคริสต์จริงศาสนาพุทธไม่จริง ฉันก็ไปสวรรค์สบายๆ แต่สำหรับคนเป็นพุทธ ถ้าเขาตายไปแล้วพบว่าศาสนาพุทธจริงศาสนาคริสต์ไม่จริงก็แล้วไป (ที่ว่า “แล้วไป” นี่ไม่ใช่ว่าจะรอดด้วยนะ ก็ต้องไปเวียนว่ายตายเกิดให้ทุกข์ยากอีกนานเหมือนเดิม) แต่ถ้าเขาตายไปแล้วพบว่าศาสนาคริสต์จริงศาสนาพุทธไม่จริง เขาก็อดไปสวรรค์แน่ จะทำดีมาแค่ไหนแต่ถ้าไม่รู้จักเจ้าของสวรรค์ก็จะเข้าสวรรค์ได้ยังไง

      พระเจ้าให้ของขวัญแก่ลูกๆของพระองค์ต่างกัน ฉันได้ยินว่าคริสเตียนบางคนได้รับทรัพย์สินเงินทองมากมายจากพระเจ้า บางคนได้รับหน้าที่การงานที่ก้าวหน้า บางคนได้รับความสามารถด้านต่างๆ บางคนได้รับการเปลี่ยนแปลงอุปนิสัยใหม่ ฯลฯ ส่วนฉันได้รับทัศนคติใหม่และแรงใจเพื่อดำรงชีวิต ซึ่งเป็นสิ่งมีค่ามากสำหรับฉัน (อันที่จริงพระองค์ก็ให้การเลี้ยงดูทางโลกแก่ฉันด้วย แต่ไม่เด่นชัดเท่าเรื่องนี้) ส่วนของขวัญที่มีค่าที่สุดที่พระองค์ให้ลูกของพระองค์ทุกคนเหมือนๆกันก็คือการให้โอกาสรอดพ้นจากความบาปและเข้าสู่ชีวิตนิรันดร์ในแผ่นดินสวรรค์

      ตรงนี้เองที่พระเจ้าต่างจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์อื่นๆในความคิดของคนทั่วไป คนทั่วไปนับถือสิ่งศักดิ์สิทธิ์เพราะเชื่อว่าสิ่งนั้นสามารถดลบันดาลลาภยศต่างๆให้ได้ สิ่งศักดิ์สิทธิ์บางองค์ก็ช่วยปกป้องรักษาร่างกายชีวิตทรัพย์สินเงินทองให้ด้วย ฟังเผินๆแล้วก็ดี แต่ในความเห็นส่วนตัวของฉัน ฉันเห็นว่าความช่วยเหลือเหล่านั้นกลายเป็นเรื่องเล็กน้อยไปเลยเมื่อเทียบกับการที่พระเจ้าสร้างชีวิตเราขึ้นมา ดูแลเรามาจนโต ส่งเสริมให้เราดี อภัยเมื่อเราพลาด ให้โอกาสเมื่อเราล้มลง ตีสอนเมื่อเราออกนอกลู่นอกทาง ปูทางรอดให้เราไปสวรรค์ มันไม่มีประโยชน์อะไรเลยถ้าเราจะมีสุขภาพแข็งแรง ชีวิตปลอดภัย มีเงินทองร่ำรวย หรือหนังเหนียวแทงไม่เข้า แต่เมื่อตายไปก็กลับต้องไปทุกข์ทรมานเพราะอดเข้าแผ่นดินสวรรค์

      ฉันไม่รู้ว่าอนาคตของฉันจะเป็นอย่างไร จะก้าวหน้าในอาชีพการงานหรือไม่ จะร่ำรวยหรือยากจน จะตายวันพรุ่งนี้หรืออีก 40 ปีข้างหน้า แต่ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับฉัน ฉันรู้ว่าพระเจ้าดูแลฉันอยู่เสมอ

      จบ
    10. อดุลย์ เมธีกุล
      อดุลย์ เมธีกุล
      [IMG]
      สว่าง สะอาด สงบ ย่อมเกิดแก่ผู้ปฏิบัติ
    11. บุษบากาญจ์
      บุษบากาญจ์
      สวัสดีค่ะ มีความสุขทั้งวันนะคะ

      [IMG]
    12. ธรรมทาสี
      ธรรมทาสี
      ขอบคุณสำหรับผีเสื้อสวยๆค่ะ คุณอิสวาร์ยาไรท์

      เห็นเเล้วนึกถึงวันที่พ่อพราหมณ์มาทำพิธีมงคลที่บ้านเพื่อน มีผีเสื้อหลายตัวบินมาเกาะ พ่อพราหมณ์บอกว่าเป็นนิมิตหมายที่ดีจากสิ่งสักดิ์สิทธิ์ที่มาสื่ออนุโมทนาในงานมงคลค่ะ

      อีกครั้ง เคยเห็นข่าวเเปลกที่มีผีเสื้อตัวขนาดใหญ่มาบินวนรอบองค์เจดีย์พระธาตุเชิงชุม จังหวัดสกลนครคะ ทราบว่าพระประธานในพระอุโบสถสร้างในสมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 เคยฝันเห็นองค์พระธาตุมาก่อน เล่าให้น้องสาวร่วมโลกฟัง น้องก็ฝันคล้ายๆกันในคืนนั้น
    13. 5A
      5A
      นกการเวกสำคัญที่ เสียง
      สตรีสำคัญที่ รูป
      บุรุษสำคัญที่ วิทยาคุณ
      นักพรตสำคัญที่ การอบรม
      ผู้ปฏิบัติวิปัสสนาฯ สำคัญที่ ความเข้าใจ
    14. ภัทรอังคาร
      ภัทรอังคาร
      สวัสดียามเช้าค่ะ คุณอิส คิดถึงนะค่ะ

      [IMG]
    15. horwang072
      horwang072
      [IMG]
      สวัสดีตอนเช้าครับ
    16. Kob
    17. เฮียปอ ตำมะลัง
      เฮียปอ ตำมะลัง
      ดีจัง ยิ่งพูดยิ่งอิจฉา...^_^
    18. บุษบากาญจ์
      บุษบากาญจ์
      เดี๋ยวบุษขอตัวไปสวดมนต์นอนก่อนนะคะ
    19. อรมณีจันทร์
      อรมณีจันทร์
      <img src="http://www.iloveindia.com/bollywood/gifs/mallika-sherawat.jpg?"/>
      :: ถ้าคุณต้องการจะอ่าน ต้องอ่านมันให้จบแล้วคุณจะมีความสุข หากคุณอ่านไม่จบคุณจะ......

      1.ดูพระอาทิดตกดินด้วยกัน
      2. กระซิบถึงกันและกัน
      3. ทำอาหารให้กัน
      4. เดินท่ามกลางฝนตก
      5. จับมือ
      6. ซื้อของขวัญให้กัน
      7. ดอกกุหลาบ
      8. ถามว่าน้ำหอมสุดโปรดคือกลิ่นไหน และใช้ทุกครั้งที่อยู่ด้วยกัน
      9. เดินริมทะเลตอนเที่ยงคืนด้วยกัน
      10. เขียนกลอนให้กัน
      11. การกอดคือยาที่ดีที่สุด
      12. พูดว่า'รักเธอ' ตอนที่รู้สึกว่ารักจิงๆ และทำให้เค้ารู้ว่าเรารู้สึกรักจิงๆ
      13. ให้ของขวัญเล็กๆ ดอกไม้/ลูกอม/กลอน
      14. บอกเธอ/เขา ว่าเธอ/เขา คือผู้หญิง/ผู้ชาย ที่คุณต้องการมากที่สุด
      15. อยู่ด้วยกันให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
      16. มองตากันและกัน.
      17. (เฉพาะผู้ชาย) ดันคางเธอขึ้นเบาๆ มองตาเธอ บอกว่ารักเธอมากที่สุด
      และจูบเธอเบาๆ 'เบาๆ' ล่ะ
      18. ในที่สาธารนะชน แค่จีบกันเฉยๆ อย่าทำอย่างอื่น
      19. ใส่จดหมายรักในกระเป๋าเขา/เธอ เมื่อเธอ/เขาไม่เห็น
      20. ซื้อแหวนให้เธอ (เฉพาะผู้ชาย)
      21. ร้องเพลงให้กันและกัน
      22. (เฉพาะผู้ชาย) โอบกอดเทอตรงสะโพกเสมอ
      23. พาไปกินข้าว2ต่อ2
      24. กินสปาเก็ตตี้ (เคยดูเรื่องทรามวัยกับ**ตูบมั๊ย)
      25. (เฉพาะผู้ชาย)จับมือเธอ มองตาเธอ จูบมือเธอแล้ววางไว้บนหัวใจ
      26. เต้นด้วยกัน
      27. (เฉพาะผู้หญิง) เวลาอยู่ด้วยกัน นอนตักเขา
      28. ทำเรื่องน่ารักๆ เช่น เขียนว่า 'ฉันรักเธอ' ในสมุดโน้ต
      29. หาเรื่องมาเรียกเธอ/เขา ทุกๆ5นาที
      30. ไม่ว่าจะยุ่งขนาดไหน โทรไปหาเขา/เธอ และบอกว่า'ฉันรักเธอ'
      31. โทรจากสถานที่ๆคุณไปเที่ยวและบอกว่าคุณคิดถึงเขา/เธอ เสมอ
      32. จำฝันของคุณและเล่าให้เขา/เธอ ฟัง
      33. บอกความกลัวและความลับสุดยอดของคุณให้เธอ/เขา ฟัง
      34. ทำดีกับพ่อแม่ของเธอ/เขา
      35. (เฉพาะผู้ชาย) ลูบผมออกจากใบหน้าของเธอเบาๆ 'เบาๆ' ล่ะ
      36. ไปเที่ยวกับเพื่อนของเธอ/เขา
      37. ไปวัด/อธิษฐาน/สาบาน ด้วยกัน
      38. พาไปดูหนังโรแมนติคและจำส่วนที่เธอ/เขาชอบ
      39. เรียนรู้กันและกัน และอย่าทำผิดแบบเดิมเกิน2ครั้ง
      40. บอกว่าคุณรู้สึกดียังไงที่ได้อยู่กับเธอ/เขา
      41. เสียสละให้กันและกัน
      42. รักกันมากๆ ถ้าไม่อย่างนั้นก้อเลิกกันไปเลย
      43. ทำให้ไม่มีนาทีไหนที่คุณไม่คิดถึงเขา/เธอ
      44. รักตัวเองก่อนที่จะไปรักใคร
      45. หัดพูดคำหวานๆในภาษาอื่น
      46. ขอเพลงให้เขา/เธอ ในวิทยุ
      47. หลับคาโทรศัพท์ด้วยกัน
      48. ปกป้องเธอ/เขา เมื่อคนอื่นพูดอะไรไม่ดีต่อเขา/เธอ
      49. ห้ามลืมการจูบgood night และพูดว่า'ฝันดีนะ' เสมอ
      นี่คือจดหมายศักดิ์สิทธิ์ ห้ามลบทิ้ง....ส่งต่อไปเรื่อยๆ
      ถ้าคุณลบ คุณจะอกหักตลอดชีวิต
      50.และสุดท้ายต้องขอขอบคุณที่โลกสร้างเธอ/เขาขึ้นมา
      >>>>>>>>> <<<<<<<<<

      ถ้าคุณคอมเมนท์ 5 คอมเมนท์จะเจอ ผู้หญิง/ผู้ชายในฝัน
    20. บุษบากาญจ์
      บุษบากาญจ์
      อย่านอนดึกนักนะคะเดี๋ยวจะไม่สบายไป
  • Loading...
  • Loading...
  • เกี่ยวกับ

    ที่ตั้ง:
    Eastbourne, United Kingdom
    อาชีพ:
    Lecturer
    ชื่อและนามสกุล:
    C. SrivardhanaSalisbury
    แนะนำตัวเอง:
    .......
    Photographer

    ลายเซ็น

    I am a slow walker, but I never walk backwards.
Loading...