WMO ชี้ปี 2562 โลกร้อนสุดเป็นอันดับ 2

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย โพธิสัตว์ เตือนภัย, 16 มกราคม 2020.

  1. โพธิสัตว์ เตือนภัย

    โพธิสัตว์ เตือนภัย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2017
    โพสต์:
    1,565
    กระทู้เรื่องเด่น:
    441
    ค่าพลัง:
    +655
    องค์การอุตุนิยมวิทยาโลก ระบุว่าปี 2562 เป็นปีที่ร้อนสุดเป็นอันดับ 2 เท่าที่เคยมีการบันทึก และเตือนว่าอุณหภูมิความร้อนที่พุ่งสูงจะทำให้สภาพอากาศเลวร้ายยิ่งขึ้น

    เมื่อวันที่ 15 ม.ค.2563 องค์การอุตุนิยมวิทยาโลก (WMO) รายงานว่าปี 2562 ถือเป็นปีที่โลกร้อนที่สุดเป็นอันดับ 2 นับตั้งแต่มีการบันทึกสถิติเมื่อปี 2393 พร้อมทั้งเตือนว่าอุณหภูมิความร้อนที่พุ่งสูงจะทำให้สภาพอากาศเลวร้ายยิ่งขึ้น ขณะที่ภัยธรรมชาติจะทวีความรุนแรงเหมือนกับวิกฤตไฟป่าในออสเตรเลียในปีนี้

    การรายงานครั้งนี้มีการอ้างข้อมูลจาก 3 หน่วยงาน ได้แก่ องค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติสหรัฐ (NASA) องค์การจัดการด้านสมุทรศาสตร์และบรรยากาศแห่งชาติสหรัฐฯ และสำนักงานอุตุนิยมวิทยาอังกฤษ (UK Met office)

    นอกจากนี้ ข้อมูลดังกล่าวยังแสดงให้เห็นว่าอุณหภูมิเฉลี่ยของโลกเมื่อปี 2562 เพิ่มขึ้น 1.1 องศาเซลเซียสเหนือระดับก่อนยุคอุตสาหกรรม และมีแนวโน้มว่าโลกจะร้อนขึ้นอีกในปีนี้ ขณะที่ปี 2559 ยังคงเป็นปีที่โลกร้อนที่สุดเท่าที่เคยมีการบันทึก อุณหภูมิพุ่งสูงถึง 1.2 องศาเซลเซียสเหนือระดับก่อนยุคอุตสาหกรรม โดยอุณหภูมิความร้อนพุ่งที่สูงเป็นผลมาจากปรากฏการณ์เอลนีโญ

    e0b982e0b8a5e0b881e0b8a3e0b989e0b8ade0b899e0b8aae0b8b8e0b894e0b980e0b89be0b987e0b899e0b8ade0b8b1.jpg

    ด้านนักวิทยาศาสตร์ระบุว่า การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้สภาพอากาศเลวร้ายเมื่อปี 2562 ในหลายพื้นที่ เช่น คลื่นความร้อนในยุโรปที่อุณหภูมิพุ่งสูงถึง 46 องศาเซลเซียสในฝรั่งเศส และพายุเฮอร์ริเคนโดเรียนที่พัดถล่มบาฮามาส จนทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 50 คน

    ขอบคุณที่มา
    https://news.thaipbs.or.th/content/288016
     
  2. โพธิสัตว์ เตือนภัย

    โพธิสัตว์ เตือนภัย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2017
    โพสต์:
    1,565
    กระทู้เรื่องเด่น:
    441
    ค่าพลัง:
    +655
    82e0b8a5e0b881e0b980e0b89ce0b8a2e0b89be0b8b5-62-e0b8a3e0b989e0b8ade0b899e0b8aae0b8b8e0b894e0b8ad.png

    16 มกราคม 2563


    45

    พร้อมเตือนปี 63 อากาศจะแปรปรวนมากว่าเดิม ขณะผู้นำโลกร่วมถกวิกฤตภูมิศาสตร์การเมือง-ปัญหาโลกร้อน บนเวทีเวิลด์ อีคอโนมิก ฟอรัม (ดับเบิลยูอีเอฟ)


    องค์การอุตุนิมยมวิทยาโลก (ดับเบิลยูเอ็มโอ) แถลงว่า ปีที่แล้วเป็นปีที่ร้อนเป็นอันดับ 2 ของโลกนับตั้งแต่มีการบันทึกสถิติมา และสภาพอากาศที่ร้อนจะทำให้เกิดสภาพอากาศแปรปรวนมากกว่าเดิมในปีนี้ และปีต่อๆ ไป

    ดับเบิลยูเอ็มโอ ซึ่งมีฐานอยู่ในนครเจนิวา ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ วิเคราะห์ข้อมูลจากหลายแหล่ง รวมทั้งจากองค์การนาซา และสำนักงานอุตุนิยมวิทยาของอังกฤษ ซึ่งผลวิเคราะห์ เผยว่าอุณหภูมิเฉลี่ยของโลกในปี 2562 อยู่ที่ 1.1 องศาเซลเซียส สูงกว่าระดับที่บันทึกไว้ในช่วงก่อนยุคอุตสาหกรรม และกำลังขยับขึ้ยไปสู่ระดับที่ทั่วโลกตั้งเพดานไว้ ซึ่งหากสูงไปกว่านี้ คาดการณ์ว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ต่อชีวิตบนโลก

    ด้านคณะนักวิทยาศาสตร์ ระบุว่า การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ส่งผลต่อสภาพอากาศสุดขั้วในปี 2562 เช่นคลื่นความร้อนในยุโรป และพายุเฮอริเคนดอร์เรียน ที่คร่าชีวิตผู้คนอย่างน้อย 50 ราย หลังพัดถล่มบาฮามาสเมื่อเดือนกันยายนปีที่แล้ว และในอนาคต โลกอาจเผชิญกับปรากฏการณ์เอลนีโญที่จะทำให้สภาพอากาศทั่วโลกร้อนขึ้นไปอีก

    การเผยแพร่ข้อมูลขององค์การอุตุนิยมวิทยาโลก มีขึ้นในช่วงที่บรรดาผู้นำโลก ตัวแทนภาครัฐบาลและภาคเอกชนจาก 117 ประเทศ เตรียมเข้าร่วมการประชุมด้านเศรษฐกิจระดับโลก เวิลด์ อีคอโนมิก ฟอรัม ที่เมืองดาวอส แห่งสวิตเซอร์แลนด์ในสัปดาห์หน้า โดยคาดกันว่า ความตึงเครียดด้านภูมิศาสตร์การเมือง การเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศโลก และข้อพิพาททางการค้าระหว่างประเทศ จะเป็นประเด็นใหญ่ในปีนี้

    นายเคลาส์ ชวอบ ผู้ก่อตั้ง เวิลด์ อีคอโนมิก ฟอรัม กล่าวในโอกาสครบรอบ 50 ปี การก่อตั้ง เวิลด์ อีคอโนมิก ฟอรัม ว่า ทั่วโลกไม่ได้ต้องการให้เกิดความขัดแย้งด้านการเมืองและเศรษฐกิจโลกอย่างที่เป็นอยู่ รวมทั้งไม่ต้องการให้โลกไปถึงจุดที่ไม่สามารถแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศได้อีกแล้ว แต่จากสถานการณ์ที่เป็นอยู่นี้ บอกได้ว่าโลกกำลังเผชิญกับภาวะฉุกเฉิน และทุกฝ่ายต้องพร้อมที่จะร่วมมือแก้ไขอย่างเร่งด่วนก่อนจะสายเกินไป ซึ่งเวที เวิลด์ อีคอโนมิก ฟอรัม ก็เป็นอีกช่องทางที่ผู้นำโลกจะแสวงหาความร่วมมือจากนานาชาติเพื่อแก้ไขวิกฤตเหล่านี้ได้



    ขอบคุณที่มา
    https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/862271
     

แชร์หน้านี้

Loading...