NEW! NEW AGE PLUS+ พลังงานใหม่ พลังงานอิสระ....

วอทยาศาสตร์ = ศาสตร์แห่งการทดลองหรือศาสตร์แห่งความรู้ ผมก็ให้วิธีทำไป จะมโนอะไรอีก

แล้วยังมาถามอีกว่ามโนอะไรก็ที่ถามเนี่ยถามมาได้ไง เอ็งมองรูปแล้วรู้ธรรมารมณ์เนี่ยมันเรียกว่าส่งจิตออกนอกไง

แค่ประโยคข้างบนเนี่ยมันก็แสดงออกมาแล้วว่าเอ็งเนี่ยมโนเต็มสูบไปเลย โดยมองรูปดิสแล้วมโนไปว่ามันเป็นความรู้สึกบลาๆ ทั้งที่ๆยังไม่รู้เลยว่านั่นแหละธรรมารมณ์ของตัวเอง ไม่เข้าใจธรรมตามจริงเลย เลยไม่รู้ไง ขาดสติ แล้วไหนดูสิ จะดริฟท์อะไรอีก แถหน้าแทบพังแล้วนะท่าน หรือหากไม่รู้ตัวจริงๆก็แสดงว่าไม่แถ แต่สติไม่มีไงเข้าใจยัง? แต่ไม่ว่าจะอันไหนก็ไม่ดีทั้งนั้นแหละ

หากยังถามเรื่องมโนอีก ว่าทำไมผมถึงบอกคุณมโนก็กล้บไปฝึกใหม่ตั้งแต่ต้นเลยนะแล้วค่อยมาคุยกัน ก็เห็นๆกันอยู่เนี่ย ระวังนะหากยังไม่รู้อีกมันแสดงว่าใกล้จะวิปลาศแล้วนะ

 

วิปลาศไปแล้วว่างั้นสรุปไม่ได้อ่านที่พิมไปใช้ไหม? เอาเถอะเขียนไปแล้วนะ ไม่อ่านเอง "บ่อน้ำไม่เดินไปหาควาย" ฉันใดก็ฉันนั้นนะ

 

QUOTE="Sataniel, post: 10746409, member: 705592"]ก็ตั้งแต่ที่ลองให้เขาไปส่องรูปแล้วดูธรรมารมณ์ตัวเองเนี่ยแหละ (ไม่เคยสอบแบบนั้นเลย จ๊ะ ใครสอบแบบนี้ก็เช้ยเชย) เพราะผมก็ไม่เคยเลื่อนไปอ่านที่คุณโพสท์ไว้เมื่อก่อนหรอก แล้วก็เรื่องมิติอีกมันแสดงว่าไม่เคยตั้งสติมั้นรู้ธรรมเฉพาะหน้าได้ เพราะสิ่งต่างๆมันแยกกันแต่ต้นแล้ว และมันยังแสดงอีกว่าไม่มีสติเพราะยามหลงไปในมิติใดๆมัน คือเราเป็นมันแล้ว (ออ แน่นอน การที่จะรู้อะไร ต้องเข้าไปในมิตินั้นๆ แม้จะเป็นมิติเลว ก็ขอไปดูสักนิด ... กล้วซ่ะที่ไหนล่ะวิบาก ...แต่การมีสติ ยังมีอยู่คือรู้ภาวะที่ปรากฎ แต่ไม่มีเบียดเบียนก็แล้วกัน ขอบใจ)

มันเลยแสดงว่าคุณน่ะ ไม่เคยฝึก "สติปัฏฐาน" จริงๆด้วยซ้ำหรือหากเคยก็แสดงว่าไม่สำเร็จมันก็เท่านั้นละ เพราะคุณไม่รู้แม้กระทั่งว่าคุณยังมีอัตตาจิตอยู่และยังหลงไปในมิติต่างๆซึ่งที่บอกว่ายังหลงเพราะไม่สามารถตั้งสติมั่นรู้ธรรมเฉพาะหน้า คำๆนี้หมายถึงการมีสติไม่ได้เข้าไปเป็นสิ่งใดๆที่ปรากฏ เรารู้อยู่ของเรามันก็เหมือนที่ผมเคยยกตัวอย่างไปเรื่องเดินเตะโต๊ะนั่นแหละ หากมีสติมั้นจริงๆอาการเจ็บมีแต่ไม่มีอิทธิพลใดๆต่อเราทั้งสิ้น[/QUOTE]

 

โม้ไปไหน? มโนไปไหนอีกก็เห็นๆกันอยู่ย้งตอบท่านอื่นที่มาโพสท์อยู่เลยหรือหากจะใช้กริยาของตุ้ดลบคำเม้นท์ไปก็เรื่องของท่านอีกนั่นแหละผมไม่ตุ้ด ผมอยู่กับความจริง

แล้วจะบอกอะไรให้ฟังเมื่อเข้าไปในมิติใดๆ เขาเรียกว่า "เพ่ง" ไปแล้วละ ไม่ใช่อาการรู้ซักนิด คำพูดของเอ็งก็บอกยี่ห้อของเอ็งเองละนะ


เพราะการรู้สภาวะนั้น คือการไม่มีตัวไม่มีตนมันจึงใช้คำว่าเข้าไปดูไม่ได้แต่แรกไงเข้าใจยัง?

ไหนจะแถอะไรอีกจัดมา

 

แล้วไหน ล่ะที่ เธอ ว่าเป็นรูป...หือ รู้ก็บอกมาสิ ....เอาตัวอย่างว่ามาสิ พูดลอยๆ ... ขึ้นมา ไม่แมนเลย

 

โม้ไปไหน? มโนไปไหนอีกก็เห็นๆกันอยู่ย้งตอบท่านอื่นที่มาโพสท์อยู่เลยหรือหากจะใช้กริยาของตุ้ดลบคำเม้นท์ไปก็เรื่องของท่านอีกนั่นแหละผมไม่ตุ้ด ผมอยู่กับความจริง


ว้าว... เจอคนจริงเข้าแล้ว ...


แล้วจะบอกอะไรให้ฟังเมื่อเข้าไปในมิติใดๆ เขาเรียกว่า "เพ่ง" ไปแล้วละ ไม่ใช่อาการรู้ซักนิด คำพูดของเอ็งก็บอกยี่ห้อของเอ็งเองละนะ

ออ ไม่ได้เพ่งเลย ... แค่ดู(ไม่ใช่เพ่งที่เธอเข้าใจ) ดูคือดู อาการที่ปรากฎเฉยๆ มันจะมาตรงไหน สัมผัสปรากฎตรงไหน ก็แค่ดู ดูภาพรวม (อาการเพ่งคือจดจ่อกับสิ่งที่เห็นเพียงจุดเดียว .... เธอเข้าใจคำว่าเพ่งผิดแล้ว ล่ะอ่อน)

เพราะการรู้สภาวะนั้น คือการไม่มีตัวไม่มีตนมันจึงใช้คำว่าเข้าไปดูไม่ได้แต่แรกไงเข้าใจยัง?

อาการดู จึงดูแบบไม่ได้เพ่ง จึงไม่มีตัวตนอยู่แล้ว .....แค่เฝ้าดู หรือว่าเฝ้าดูไม่ได้อีก บ่ะ แบบนี้ท่าจะลำบาก บะ

ไหนจะแถอะไรอีกจัดมา

 

แถได้ปัญญาอ่อนอีกแล้วก็เอ็งพิมพ์มาเองนะถ้าไม่ตุ้ดลบไปซะก่อนว่าลองดู และจะรู้ว่าธรรมารมณ์เป็นยังไงใช่ไหม? แล้วเอ็งจะดูอะไรในเมื่อสิ่งที่ดูทั้งหมดในโลกมันเป็นรูปใช้ไหม? แล้วเอ็งจะมาส่องธรรมารมณ์ข้าเอ็งดูจากไหนละ? เนี่ยข้าตอบเอ็งทุกคำถามเลยไม่ยักกะเห็นเอ็งตอบข้าซักคำถามเลย ลองไปคอบหน่อยสิว่าที่ข้าพิมพ์มาทั้งหมดเนี่ยใช่ไหม? รวมทั้งข้อความบนๆด้วยและวิธีทำด้วยนะ. ถ้าเอ็งยังไม่เลิกสันดานตุ้ด(ยอกแยกกลับกลอกไม่รับความจริง) จะตอบแบบไม่ไว้หน้าแล้วนะตุ้ดเอ๋ย เพราะพูดจริงไปก็ยอกย้อนไม่ยอมรับไม่ยอมทำ ให้ไปลองทำเดี๋ยวก็รู้ว่าพูดจริงไหม เอ้ยแต่ตุ้ดมาฝึกปฏิบัติธรรมได้ไง? พระพุทธเจ้าห้ามบวชนะ เพราะคนจำพวกนี้ไม่สามารถรับธรรมตามจรองได้ไงเข้าใจยัง?

 

เพ่งก็คือดูนั่นแหละ บอกวิธัทำไปแล้วจากการหาอัตตาจิตจากเม้นท์บนๆนะ ดูไปไหนกระแสจะออกมาจากอัตตาจิตหากทุกข์ตัวอัตตาจิตจะแน่นหรือที่เข้าใจว่าเพ่งไง โง่จังนะ เลิกปฏิบัติเถอะ นี่ถามจริงเคยฝึกเองหรืออ่านตำรามา? กะล่อนตอแหลไปเรื่อย สมแล้วน้องตุ้ดเอ๋ย ปรบมือๆ

 

เป็นตุ๊ด จนได้ .... เพิ่งรู้ ตุ๊ดแปลว่า ยอกแยยกกลับกลอก

 

ไม่ต้องรู้หรอก มองดูกริยาตัวเองให้ออกก็รู้เองว่าตุ้ดเป็นแบบไหน แต่จะมองออกหรือเปบ่าเพราะไม่รับธรรมตามจริงน่ะสิ

 

QUOTE="Sataniel, post: 10746425, member: 705592"]แถได้ปัญญาอ่อนอีกแล้วก็เอ็งพิมพ์มาเองนะถ้าไม่ตุ้ดลบไปซะก่อนว่าลองดู และจะรู้ว่าธรรมารมณ์เป็นยังไงใช่ไหม? แล้วเอ็งจะดูอะไรในเมื่อสิ่งที่ดูทั้งหมดในโลกมันเป็นรูปใช้ไหม? แล้วเอ็งจะมาส่องธรรมารมณ์ข้าเอ็งดูจากไหนละ?[/QUOTE]

อืออ ... เป็นตุ๊ดแล้วไง... ..ล่ะอ่อน..... ฉันก็ไม่ได้กลับไปลบ อะไรนี่ .... มโนว่าฉันจะไปลบ เหรอ ..... มโนอีกแล้วเธอ
โลกเป็นรูปแล้วไงล่ะ......

ภาษาของฉันโลกที่เป็น คล้าย จอภาพคอมพิวเตอร์

แล้วไง ....

 

โผล่มาแล้ว แสดงว่า ต้องการให้รับธรรม

ฟังเหมือน ธรรมมารดา อะไรสักอย่าง ให้ไปรับธรรม

 

QUOTE="Sataniel, post: 10746425, member: 705592"]แถได้ปัญญาอ่อนอีกแล้วก็เอ็งพิมพ์มาเองนะถ้าไม่ตุ้ดลบไปซะก่อนว่าลองดู และจะรู้ว่าธรรมารมณ์เป็นยังไงใช่ไหม? แล้วเอ็งจะดูอะไรในเมื่อสิ่งที่ดูทั้งหมดในโลกมันเป็นรูปใช้ไหม? แล้วเอ็งจะมาส่องธรรมารมณ์ข้าเอ็งดูจากไหนละ? เนี่ยข้าตอบเอ็งทุกคำถามเลยไม่ยักกะเห็นเอ็งตอบข้าซักคำถามเลย ลองไปคอบหน่อยสิว่าที่ข้าพิมพ์มาทั้งหมดเนี่ยใช่ไหม? รวมทั้งข้อความบนๆด้วยและวิธีทำด้วยนะ. ถ้าเอ็งยังไม่เลิกสันดานตุ้ด(ยอกแยกกลับกลอกไม่รับความจริง) จะตอบแบบไม่ไว้หน้าแล้วนะตุ้ดเอ๋ย เพราะพูดจริงไปก็ยอกย้อนไม่ยอมรับไม่ยอมทำ ให้ไปลองทำเดี๋ยวก็รู้ว่าพูดจริงไหม เอ้ยแต่ตุ้ดมาฝึกปฏิบัติธรรมได้ไง? พระพุทธเจ้าห้ามบวชนะ เพราะคนจำพวกนี้ไม่สามารถรับธรรมตามจรองได้ไงเข้าใจยัง?[/QUOTE]

ออ ปิ๊ดแตก เพราะไปส่องนี่เอง ....5555

เอ้อ...ก็ไม่ได้อยากบวชสักกะหน่อย ....นี่ก็มโน ขนานแท้อีกแล้ว

 

ไปขี้มาครับขับถ่ายสะดวกดีฟินเลย

 

จะมาให้คนฟังคิดว่ารับขันธ์อะไรว่างั้น? อันนี้ผมพิมพ์ผิดเองแหละ มันต้อง "รู้ธรรมเฉพาะหน้า" ก็แค่นั่นละแล้วไงต่อ

 

ออ ปิ๊ดแตก เพราะไปส่องนี่เอง ....5555[/QUOTE]
หืม? งั้นเหรอก็ให้คนอื่นดูเอาเองแล้วกัน ที่ผมพิมพ์ไปยังไงก็ยังคมอยู่อย่างนั้น ขณะที่นางภูดิช เริ่มจะแสดงกิริยา ตุ้ด ลงไปเรื่อยๆ นี่ละใครกันหนอ ปรี้ดแตก?

 

ธรรม จะเห็นได้เฉพาะคนที่มี ความเจริญ เป็นอุปนิสัย

ไม่ใช่คนที่เพิ่งเห็นธรรม ... ก็จะตื่นเต้นที่เห็นธรรม ...

คล้ายคนที่ไม่เคยทำความดี ... พอทำความดี ไปนิดสหนึ่ง

ก็จะตื่นเต้น .... ทำนองกับเธอนี่ล่ะ ร้อนวิชา

 

อืออ ... เป็นตุ๊ดแล้วไง... ..ล่ะอ่อน..... ฉันก็ไม่ได้กลับไปลบ อะไรนี่ .... มโนว่าฉันจะไปลบ เหรอ ..... มโนอีกแล้วเธอ
โลกเป็นรูปแล้วไงล่ะ......

ภาษาของฉันโลกที่เป็น คล้าย จอภาพคอมพิวเตอร์

แล้วไง ....[/QUOTE]
อืมแล้วยังไง? ที่พูดมาทั้งหมดไม่ต่างอะไรกับที่ผมพิมพ์มาเลย ไม่ได้กลับไปลบก็เรื่องของคุณจะลบก็เรื่องของคุณอีกนั่นแหละ ผมก็พิมพ์ไว้เผื่อเพราะเคยเจอคนแอบไปลบไง ไม่ลบก็ดีแล้ว

ส่วนไอ้โลกที่คล้ายจอคอมพ์? จะพูดให้ยากเพื่ออะไร? ไม่เข้าใจ ภาษาที่ชัดเจนย่อมสามารถทำให้ผู้ปฏิบัติ ทำตามได้อยู่ถูกต้องและตรง เพราะไอ้ภาษาจอคอมพ์ของคุณนั่นแหละจึงทำให้ชาวบ้านเขาเขวกันไปหมดไง ? ก็อย่างว่าละโง่นั่นแหละ ถึงได้ยังไม่รู้จนป่านนี้

หากนางภูดิชไม่เข้าใจจะอธิบายให้ ระหว่าง แสบ กับ คัน หรือ เกา กับ ลูบ เนี่ยมันต่างกันหมดเลยทางกริยา แล้วคุณเอ็งบอกภาษาของโลกที่คล้ายจอคอมพ์ ไหนพิมพ์ตอบมาเป็นโค้ดให้ดูหน่อย

พูดแล้วอย่าคืนคำนะ ภาษาจอคอมพิวเตอร์พูดเองนะ

พิมพ์มา คุยภาษาคอมพ์กับผมที ตอบมาแบบภาษา C+ นั่นแหละ ไหนตุ้ดไหม? ตอบ

 

ตื่นเต้นอะไร? ก็นางภูดิชถามผมมา จะให้ไม่ตอบหรือไง? ผมตอบ = ตื่นเต้น ? ว่างั้นโคตรมโนเลย กลับไปกินหญ้าซักโหลไหมท่าทางจะช่วยได้ดีขึ้นนะ ถ้าจะตอบอย่าลืมภาษาคอมพ์(c+) ด้วยนะรออ่านอยู่

 

อืมแล้วยังไง? ที่พูดมาทั้งหมดไม่ต่างอะไรกับที่ผมพิมพ์มาเลย ไม่ได้กลับไปลบก็เรื่องของคุณจะลบก็เรื่องของคุณอีกนั่นแหละ ผมก็พิมพ์ไว้เผื่อเพราะเคยเจอคนแอบไปลบไง ไม่ลบก็ดีแล้ว

ส่วนไอ้โลกที่คล้ายจอคอมพ์? จะพูดให้ยากเพื่ออะไร? ไม่เข้าใจ ภาษาที่ชัดเจนย่อมสามารถทำให้ผู้ปฏิบัติ ทำตามได้อยู่ถูกต้องและตรง เพราะไอ้ภาษาจอคอมพ์ของคุณนั่นแหละจึงทำให้ชาวบ้านเขาเขวกันไปหมดไง ? ก็อย่างว่าละโง่นั่นแหละ ถึงได้ยังไม่รู้จนป่านนี้

หากนางภูดิชไม่เข้าใจจะอธิบายให้ ระหว่าง แสบ กับ คัน หรือ เกา กับ ลูบ เนี่ยมันต่างกันหมดเลยทางกริยา แล้วคุณเอ็งบอกภาษาของโลกที่คล้ายจอคอมพ์ ไหนพิมพ์ตอบมาเป็นโค้ดให้ดูหน่อย

พูดแล้วอย่าคืนคำนะ ภาษาจอคอมพิวเตอร์พูดเองนะ

พิมพ์มา คุยภาษาคอมพ์กับผมที ตอบมาแบบภาษา C+ นั่นแหละ ไหนตุ้ดไหม? ตอบ[/QUOTE]

นี่ก็ มโน เอาเอง เข้าใจเอาเอง .... เพิ่มเติมเอาเอง จอคอมฯ ....เสือกเพิ่งภาษาขึ้นมา