•••...(ปิด)รับสื่อจิต เบิกเนตรพระพุทธรูปและวัตถุมงคล...•••

ในห้อง 'ดูดวง และ ทำนายฝัน' ตั้งกระทู้โดย วิษณุกรรม, 26 ธันวาคม 2018.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. วิษณุกรรม

    วิษณุกรรม พี่วิทย์ สื่อจิตแห่งพุทธะ(Facebook)

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มิถุนายน 2017
    โพสต์:
    373
    ค่าพลัง:
    +190
    00A58A1C-21C9-4974-9DF0-F22F3C05A173.jpeg 1AB0BB3C-7693-4F29-A9D4-3E74CDEC34A7.jpeg 3D5EDA70-31FE-4520-B10D-13F4AAD7D76F.jpeg

    •••...รับสื่อจิต เบิกเนตรพระพุทธรูปและวัตถุมงคล...•••
    (ไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ)​


    -สิ่งที่ควรรู้ก่อนการสื่อจิตเบิกเนตร-
    1.เป็นการเบิกเนตรด้วยตัวคุณเองที่บ้าน ที่หน้าหิ้งพระอันศักดิ์สิทธิ์(ถ้ามี)หรือจะเบิกเนตรในห้องใดๆ ก็ได้(ควรเหมาะสม) โดยอาศัยคุณบารมีแห่งองค์พรหมผู้บริสุทธิ์ แต่ก่อนอื่น ในระหว่างการสื่อจิตพรหมท่านจะถามครูบาอาจารย์สิ่งศักดิ์สิทธิ์ของคนผู้นั้นก่อนว่า อนุญาตให้เบิกเนตรหรือไม่? ถ้าไม่ คือ จบครับ ดังนั้น รออนุญาตก่อน^_^
    2.รับเบิกเนตร ไม่ว่าวัตถุนั้นจะเป็นสิ่งใด(ควรเหมาะสม) แต่พรหมท่านจะตรวจดูก่อนว่า วัตถุนั้นเหมาะควรหรือไม่? ที่จะเบิกเนตร กล่าวคือ ตรวจดูในวัตถุนั้นมีสิ่งใดหรือพลังงานใดสถิตอยู่บ้าง? ควรเคารพในพลังงานนั้นหรือผู้ที่ปลุกเสกมาก่อน เช่น พระอริยสงฆ์เคยปลุกเสกมาแล้ว วัตถุนั้นท่านก็จะไม่เบิกเนตรให้ หรือ วัตถุใดควรเคลียร์พลังงานที่ตกค้างอยู่เพื่อใส่พลังงานใหม่เข้าไป คือ พลังงานสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของคุณ ท่านก็จะเบิกเนตรให้ อีกกรณีที่พบมาก คือ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ของคนผู้นั้นอาจให้คนนั้นไปหาวัตถุมงคลหรือสิ่งของใดๆ นั้นด้วยตนเอง แล้วค่อยนำมาเบิกเนตร แล้วแต่ท่านปรารถนา.
    3.การสื่อจิตก่อนเบิกเนตรเพื่อให้องค์พรหมตรวจดูก่อนที่คุณจะทำพิธีเบิกเนตรด้วยตนเองที่บ้าน ในวาระนี้ไม่มีการจองคิว เพราะสื่อจิตไม่นาน เอาตามเวลาที่ผมสะดวก ผมว่างแล้วจะติดต่อกลับไปครับ.
    4.ทุกคนที่จะเบิกเนตรจำเป็นต้องสื่อจิตโทรคุยกับผมก่อน เพื่อพรหมท่านจะกล่าวถึงในวัตถุนั้นมีอะไรบ้าง? ถ้ามีพลังงานของสิ่งศักดิ์สิทธิ์สถิตอยู่ พลังงานนั้นเป็นของผู้ใดนามว่าอะไร? ท่านอยู่ภพภูมิใด? เป็นต้น และถ้าไม่มีพลังงานใดเลย ก็เบิกเนตรได้ครับ แต่ก็ขึ้นอยู่กับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของคุณด้วยว่า ท่านจะเลือกวัตถุนี้ในการเบิกเนตรหรือไม่?
    5.หลังจากการสื่อจิตโทรคุยแล้ว และครูบาอาจารย์สิ่งศักดิ์สิทธิ์ของคุณได้อนุญาตให้คุณเบิกเนตรได้แล้ว ขอให้คุณแจ้งวันเวลาที่แน่นอนล่วงหน้าอย่างน้อย 1 วัน ก่อนวันที่คุณจะทำการเบิกเนตรด้วยตนเองมาทางข้อความ inbox ใน Facebook ถึงแม้ผมไม่อ่านข้อความของคุณ ก็ไม่เป็นไร เพราะด้วยความเป็นทิพย์ พรหมท่านรับรู้ทุกอย่างที่เกี่ยวกับตัวผม เพราะถ้าถึงเวลาที่คุณเบิกเนตร องค์พรหมท่านก็จะไปทำการเบิกเนตรให้คุณเองที่บ้านครับ ^_^

    << สิ่งที่ควรเตรียมพร้อมและควรกระทำในการเบิกเนตร >>
    1.ให้เตรียมพวงมะลิพวงใหญ่หน่อย 1 พวง เอาพวงมะลิคล้องไว้หรือครอบไว้ที่วัตถุที่ต้องการจะเบิกเนตร.
    2.ให้ทำการอธิษฐานจิตที่บ้าน(ทั้งในประเทศและต่างประเทศ) ตั้งแต่เวลา 22:00 เป็นต้นไป.
    3.หลังจากสวดมนต์นั่งสมาธิตามปกติเสร็จแล้ว ให้คุณตั้งจิตอธิษฐานแบบพูดในใจหรือแบบพูดออกเสียงก็ได้ตามสะดวก โดยให้พูดคำอธิษฐานตามนี้

    “ด้วยแรงอธิษฐานจิตของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าขออาราธนาอัญเชิญคุณแห่งพระพุทธ คุณแห่งพระธรรม คุณแห่งพระสงฆ์ คุณแห่งครูบาอาจารย์ของข้าพเจ้า และคุณแห่งพรหมผู้บริสุทธิ์ ขอให้ท่านทั้งหลายโปรดช่วยมาสงเคราะห์เบิกเนตรให้แก่ข้าพเจ้าด้วยเทอญ สาธุ!”

    พรหมท่านให้พูดประมาณนี้ พูดผิดบ้างไม่เป็นไรแต่เจตนาถึงแล้ว สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายท่านรับรู้ด้วยความเป็นทิพย์ ในการนี้องค์พรหมท่านจะใช้พลังงานแห่งพรหมอันบริสุทธิ์เปิดมิติทิพย์ที่วัตถุนั้น และดึงกระแสพลังงานของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในโลกทิพย์องค์ที่ท่านแจ้งความประสงค์ไว้แล้วว่าจะมาช่วยเหลือคุณ ให้กระแสพลังงานของท่านสถิตอยู่ในวัตถุนั้น เป็นอันเสร็จพิธีการเบิกเนตรด้วยตัวคุณเอง โดยอาศัยคุณบารมีแห่งองค์พรหม.
    4.ขณะช่วงเวลาอธิษฐานจิตนั้น คุณจะสัมผัสถึงกระแสพลังงานอันบริสุทธิ์แห่งพรหม และกระแสพลังงานของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ถูกเบิกเนตร ณ ขณะนั้น คุณจะมีอาการใดอาการหนึ่งหรือหลายอาการเกิดขึ้นที่กายและจิตคุณ เช่น ขนลุกชูชัน,เย็นกายเย็นใจ,อิ่มเอิบใจ,ใจเบาโปร่งโล่ง,อื่นๆ ที่พุทธศาสนาเรียกว่า “ปิติทั้ง 5” คุณจะเกิดอาการใดหรือคุณอาจสัมผัสถึงพลังงานหรือเห็นแสงอะไรบางอย่างขณะทำพิธี ก็สุดแล้วแต่ภูมิจิตภูมิธรรมหรือ six sense ของแต่ละคนครับ.

    # ขั้นตอนและเงื่อนไขการสื่อจิตเบิกเนตร
    1.ให้เขียนข้อความ inbox ไปใน Facebook ว่า "ขอรับการเบิกเนตร" ที่ Facebook ชื่อ “พี่วิทย์ สื่อจิตแห่งพุทธะ” เท่านั้น.
    2.ช่องทางการพูดคุยสื่อจิต คือ โทรผ่านมือถือหรือโทรผ่าน Facebook เท่านั้น ให้ติดต่อผ่านข้อความ inbox ใน Facebook ก่อนเท่านั้น! ซึ่งคุณต้องรอข้อความตอบกลับจากผมก่อนเป็นรายบุคคล(ส่วนเบอร์โทร ผมจะให้คุณอีกครั้ง ในกรณีถ้าคุณเลือกคุยผ่านมือถือ)
    3.ถ้าใครที่ผมยังไม่ได้ตอบกลับข้อความไปให้ แสดงว่า คุณยังไม่ถึงวาระเบิกเนตร พรหมท่านยังไม่อนุญาต ถ้าถึงวาระของคุณ ผมจะตอบกลับคุณไปเองครับ.
    .........................................................................

    @ จากการสอบถามองค์พรหมว่า “การเบิกเนตรคืออะไร?” ท่านบอกว่า

    การเบิกเนตร คือ การเปิดพลังให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ โดยอาศัยพลังงานของผู้เปิด เปรียบเสมือนการเปิดก๊อกน้ำให้น้ำไหลออกมา ณ ที่นี้หมายถึง การเปิดมิติช่องว่างให้พลังงานของสิ่งศักดิ์สิทธิ์องค์นั้นไหลจากโลกทิพย์มายังโลกมนุษย์ และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ก็ใช้พลังงานนี้ช่วยเหลือมนุษย์ ดังนั้น ไม่ว่าพระหรือฆราวาส เวลาจะกระทำการเบิกเนตรนั้นจะมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่มีบารมีคอยช่วยเบิกเนตรให้เสมอ. ซึ่งการเบิกเนตรจะมีข้อแตกต่างตรงที่พลังงานที่ใช้เบิกเนตร ยิ่งผู้เบิกเนตรมีพลังบารมีสูง พลังอำนาจที่ใช้เบิกก็สูงไปด้วย จึงทำให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ถูกเบิกเนตรนั้นมีพละกำลังสูงตามไปด้วยเช่นกัน ที่เราเรียกว่า “ศักดิ์สิทธิ์มาก” เพราะท่านสามารถช่วยเหลือคนๆนั้นได้มากขึ้น แต่ไม่ก้าวล่วงในกฏแห่งกรรมของคนผู้นั้นจนเกินไป คือ อยู่บนพื้นฐานแห่งบุญกรรมและวาสนาที่ตนมี แต่ท่านจะมีพละกำลังช่วยชี้ทางนำพาให้เราได้สร้างบุญบารมีมากขึ้นเพื่อชีวิตที่ดีขึ้น เปรียบเสมือนเรามีตัวช่วยนำพาเราทำบุญทาน(ทำบุญให้ได้บุญ) รักษาศีล(คอยเตือนสติเรายามผิดศีล) เจริญภาวนา(ดลจิตดลใจให้ใฝ่ธรรม คือ สวดมนต์นั่งสมาธิบ่อยๆ และใช้พลังของท่านส่งเสริมกำลังสมาธิจิตให้เรา) ล้วนแล้วต้องใช้พละกำลังทั้งสิ้น.
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 มกราคม 2019
  2. วิษณุกรรม

    วิษณุกรรม พี่วิทย์ สื่อจิตแห่งพุทธะ(Facebook)

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มิถุนายน 2017
    โพสต์:
    373
    ค่าพลัง:
    +190
    ••• เคสการเบิกเนตรของ”คุณหมอ”ท่านหนึ่ง •••​

    - ขณะสื่อจิตถามองค์พรหม ท่านบอกมาดังนี้ว่า
    1.ท่านพญายมราชอนุญาตให้เบิกเนตรได้.
    2.ท่านพญายมราชส่งพญายมบาลมาดูแลช่วยเหลือหมอท่านนี้.(อดีตเคยเป็นสหายแต่เก่าก่อนของคุณหมอ)
    3.พรหมท่านตรวจแล้วพบว่า พระพุทธรูปสีขาวนี้ มีพลังงานตกค้างอยู่ ท่านต้องเคลียร์พลังงานเก่าออกให้หมดก่อน แล้วค่อยใส่พลังงานใหม่เข้าไป คือ พลังงานหรือพลังญาณของพญายมบาล+พลังงานแห่งพรหม.

    - สรุปเหตุการณ์การเบิกเนตรของคุณหมอ
    1.คุณหมอไม่ได้เตรียมพวงมะลิ พรหมท่านจึงบอกว่า มีดอกพุดอยู่บริเวณรอบๆ ให้เดินออกไปหามาแทนพวงมะลิ สรุปตัวคุณหมอเองก็ไม่รู้ว่า ที่พักของตนเองมีดอกพุด.
    2.ขณะทำพิธีเบิกเนตร จู่ๆ คุณหมอมีอาการตัวร้อนขึ้นมาทั้งตัวและร้อนอย่างมาก เหมือนเป็นไข้สูง แต่ไม่สั่นไม่หนาว ถึงแม้จะเปิดแอร์อยู่ก็ตาม แต่ครั้งนี้ร้อนกว่าครั้งก่อน เพราะครั้งก่อนพญายมราชท่านมาขอสื่อจิตเพื่อชี้ทางชีวิตให้แก่คุณหมอด้วยตัวท่านเอง สาธุครับ!
    3.ขณะที่ตัวร้อนอยู่นั้น คุณหมอก็เห็นความสว่างสีส้มอยู่ข้างหน้าคือตรงบริเวณพระพุทธรูปสีขาว ซึ่งแสงสว่างสีส้ม คือ เป็นฤทธิ์บารมีของท่านพญายมบาล และอาการร้อนค่อยๆ ลดน้อยลง หลังจากที่คุณหมอนั่งสมาธิต่ออีก 10 นาทีหลังพิธีเบิกเนตร.
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 ธันวาคม 2018
  3. วิษณุกรรม

    วิษณุกรรม พี่วิทย์ สื่อจิตแห่งพุทธะ(Facebook)

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มิถุนายน 2017
    โพสต์:
    373
    ค่าพลัง:
    +190
    ••• เคสการเบิกเนตรของ”เจ้าหน้าที่ธุรการ”ท่านหนึ่ง •••​


    -ขณะสื่อจิตถามองค์พรหม ท่านบอกมาดังนี้ว่า
    1.ท่านแนะนำให้หญิงผู้นี้เลือกรูปปั้นหลวงปู่แหวนในการเบิกเนตร(จิตผมรู้สึกว่า สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่จะมาเบิกเนตรนั้น ท่านก็ปรารถนาเลือกองค์หลวงปู่แหวนเช่นกัน).
    2.สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่จะมาเบิกเนตรนั้น นามว่า “เทพรวีวงศ์” เธอเคยเป็นน้องสาวของหญิงผู้นี้มาก่อน เธออยู่ที่สวรรค์ชั้น 1 จาตุมหาราชิกา และเธอก็เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ดูแลหญิงผู้นี้อยู่แล้ว เธอศรัทธาในหลวงปู่แหวน เธอจึงนำพาให้หญิงผู้นี้ได้ครอบครองรูปปั้นหลวงปู่ท่าน และเธอก็นำพาหญิงผู้นี้ให้มาเบิกเนตรด้วยวิธีของพรหมท่าน.

    (อดีตชาติเทพหญิงองค์นี้ เธอชอบถวายดอกบัวสีชมพูแด่พระสงฆ์องค์เจ้า เธอจึงบอกให้ใช้ดอกบัวชมพูในการเบิกเนตร แต่วันนี้ไม่ใช่วันพระไม่มีขายดอกบัวในตลาด ผมก็บอกให้หาดอกกุหลาบชมพูแทน เพราะผู้หญิงชอบสีชมพู ^_^)

    -สรุปเหตุการณ์การเบิกเนตรของเจ้าหน้าที่ธุรการ
    1.ก่อนนั่งสวดมนต์และทำสมาธิ รู้สึกอากาศร้อน พอนั่งสวดมนต์และทำสมาธิ รู้สึกอากาศที่โดนตัวเย็นสบาย และมีความรู้สึกว่า ตอนนั่งสมาธิ เหมือนรอบๆใบหน้าและศรีษะ มีแสงสว่างจางๆ (เทพท่านคงจะลอยอยู่บนหัวหญิงผู้นี้ แสงสว่างที่เห็นผ่านเปลือกตาขณะหลับตานั่งสมาธิ น่าจะเป็นรัศมีกายทิพย์ที่สว่างไสวของเธอ).
    2.พอทำสมาธิเสร็จ ลืมตามองหลวงปู่แหวน ขนหัวลุก มองหน้าหลวงปู่ เหมือนหลวงปู่ยิ้มให้แล้วน้ำตาหญิงผู้นี้ก็ไหลออกมาเอง.
    3.เธอเอามือไปแตะองค์หลวงปู่แล้วรู้สึกเย็นมาก เหตุเพราะพลังงานบริสุทธิ์และมีกำลังแห่งพรหมนั้น มีกระแสเย็นแห่งเมตตาอยู่แล้ว จึงไปเสริมพลังเมตตาเย็นให้แก่เทพหญิงองค์นี้เพิ่มขึ้นหลายเท่าจากพิธีเบิกเนตรนี้.

    <<.. ทุกอาการใดๆที่บังเกิดขึ้นนี้ เกิดจากคลื่นกระแสพลังงานของเทพและของพรหมท่านมากระทบจิตและกายของหญิงผู้นี้ จึงทำให้เกิดปิติต่างๆ ที่เราเรียกว่า ปิติทั้ง 5 ในทางพระพุทธศาสนา ถึงแม้คนไม่มีเซ้นส์ก็รับรู้และสัมผัสได้ ไม่มากก็น้อย สาธุ! ..>>
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  4. วิษณุกรรม

    วิษณุกรรม พี่วิทย์ สื่อจิตแห่งพุทธะ(Facebook)

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มิถุนายน 2017
    โพสต์:
    373
    ค่าพลัง:
    +190
    ••• เคสการเบิกเนตรของ”พนักงานออฟฟิศ”ท่านหนึ่ง •••​

    -ขณะสื่อจิตถามองค์พรหม ท่านบอกมาดังนี้ว่า
    1.สิ่งศักดิ์สิทธิ์ท่านเลือกรูปปั้นพระแม่สุรัสวดี เหตุผลเพราะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่จะมาเบิกเนตรนั้น เป็นเทพอิสตรีเป็นเทพทางอินเดีย มีนามว่า “วโรรมณ์” อยู่สวรรค์ชั้น 1 จาตุมหาราชิกา มีความสามารถพิเศษเล่นพิณ เธอมาในตำนานของพระแม่สุรัสวดี ชาติสุดท้ายก่อนที่เธอจะมาเกิดเป็นเทพนั้น ชาตินั้นเธอเคยเป็นลูกสาวคุณมาก่อน ด้วยความเป็นทิพย์ เธอจึงรู้ว่าคุณมาเกิดในสยามประเทศ ท่านจึงตามมาคุ้มครองดูแลคุณ ท่านชอบสีชมพู ท่านจึงเลือกรูปปั้นองค์นี้มาให้คุณได้ครอบครอง เธอจึงเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำตัวของคุณ ท่านบอกอย่าทำให้บ้านสกปรก และอย่าให้น้ำท่วมบ่อยนัก จะทำให้ชีวิตแย่!
    2.เทพหญิงท่านนี้บอกว่า ให้นำดอกไม้เล็กๆ ที่อยู่ริมรั้วบ้านมาใช้ในพิธีเบิกเนตร หญิงผู้นี้ก็หันไปมองที่ริมรั้ว เห็นดอกแพงพวยสีชมพูอยู่ไม่กี่ดอก(เด็ดมาได้แค่ 11 ดอก) ซึ่งปกติมันไม่ค่อยออกดอกเท่าไร เธอแปลกใจว่ารู้ได้อย่างไรที่ริมรั้วบ้านเธอมีดอกไม้เล็กๆ ขึ้น และมันก็มีไม่กี่ดอกด้วย และเทพท่านให้นำดอกไม้นี้มาวางไว้ที่ตักของพระแม่สุรัสวดีในพิธี.

    -สรุปเหตุการณ์การเบิกเนตรของพนักงานออฟฟิศ
    1.ตอนเวลา 19:37 ของคืนวันเบิกเนตร(คืนนี้มี 3 รายที่องค์พรหมท่านจะเบิกเนตรให้) ผมรู้สึกเหมือนมีกระแสจิตของสิ่งศักดิ์สิทธิ์มาบอกว่า “พิธีเบิกเนตรเริ่มแล้ว” ซึ่งขณะนั้นผมกำลังทานข้าวเย็นอยู่ ผมจึงดูเวลาบนมือถือ ตอนนั้นเป็นเวลา 19:37 พอหลังพิธีเบิกเนตรเสร็จ เธอก็ส่งข้อความมาบอกอาการที่เกิดขึ้นกับตัวเธอว่ามีอะไรบ้าง? ผมจึงถามเธอว่า เธอเริ่มพิธีเบิกเนตรเวลาประมาณนั้น(19:37)ใช่ไหม? เธอตอบว่า ตอน 19:38 เธอเริ่มพิธีด้วยการสวดมนต์ก่อน ซึ่งเทพท่านมาบอกผมในกระแสจิตว่า “พิธีเบิกเนตรเริ่มแล้ว” ก่อนเวลาทำพิธีเพียง 1 นาทีเท่านั้น.
    2.ก่อนเริ่มสวดมนต์และนั่งสมาธิ เธอรู้สึกว่า วันนี้อากาศร้อน และช่วงที่สวดมนต์ เธอเห็นควันขาวบาง ๆ รอบตัว และก็รู้สึกว่า องค์รูปปั้นท่านเหมือนมีชีวิต ช่วงอธิษฐานจิตเบิกเนตรท่าน รู้สึกมีไอเย็นมากระทบตัว.
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  5. วิษณุกรรม

    วิษณุกรรม พี่วิทย์ สื่อจิตแห่งพุทธะ(Facebook)

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มิถุนายน 2017
    โพสต์:
    373
    ค่าพลัง:
    +190
    ••• เคสการเบิกเนตรของ”ผู้ทำธุรกิจส่วนตัว”ท่านหนึ่ง •••​

    -ขณะสื่อจิตถามองค์พรหม ท่านบอกมาดังนี้ว่า
    1.ผู้ที่มาสื่อจิตในวาระนี้เป็นองค์พรหมที่ดูแลหญิงผู้นี้มาโดยตลอด ท่านปรารถนามาสื่อด้วยตัวท่านเอง ท่านแจ้งนามว่า ท่านคือ “อนาถบิณฑิกเศรษฐีพรหม” ในชาติสุดท้ายก่อนมาเป็นพรหมที่รูปพรหมชั้นที่ 16 นี้ ท่านเป็นบิดาของเธอมาก่อน พรหมของผมท่านบอกว่า ท่านบิณฑิกเศรษฐี ท่านมีบทบาทสำคัญในสังสารวัฏนี้(วัฏสงสาร) ผมเข้าใจว่า น่าจะหมายถึง พรหมท่านนี้คงจะโปรดสรรพสัตว์มาเยอะในหลายภพภูมิ และผมมารู้ภายหลังว่า ตัวผมเองก็มีความเกี่ยวข้องกับท่านและเธอด้วยเช่นกันทางสายเลือดในสมัยพุทธกาล.
    2.ในพิธีเบิกเนตรนี้ ท่านบิณฑิกเศรษฐีพรหมจะมาเบิกเนตรให้เธอ ซึ่งตัวเธอเองก็เป็นผู้มีจิตสัมผัสอยู่แล้ว โดยปกติเธอจะรู้เห็นอะไรหลายอย่าง แต่เธอก็พยายามปล่อยวางลง และเธอก็ไม่กล้าจะพูดเรื่องราวลี้ลับต่างๆ นี้ให้กับใครฟัง! เพราะกลัวจะหาว่าบ้า! เธอมีจริตความชอบในการเจริญสติปัฏฐานสี่ในระหว่างวัน ซึ่งหาได้ยากในยุคสมัยนี้ และในใจเธอก็มีความคิดดีที่อยากจะช่วยเหลือคน ท่านจึงปรารถนาจะสงเคราะห์เธอ ให้เป็นแบบผม.
    3.เธอเลือกวัตถุมงคลในการเบิกเนตร คือ “พระอุปคุตเหล็กไหล” ซึ่งเป็นธาตุกายสิทธิ์ และโดยปกติที่ผมทราบ พวกธาตุกายสิทธิ์จะมีสิ่งที่มองไม่เห็นสถิตอยู่ พรหมท่านตรวจดูแล้วพบว่า ข้างในมีบางอย่างอยู่ ผมถามท่านว่า แล้วยังงี้จะเบิกได้เหรอ? พรหมท่านบอกว่า เจ้าของวัตถุนั้นมีสิทธิ์ขาดที่จะให้เขาอยู่หรือไม่อยู่ แต่ควรพิจารณาดูด้วยว่า เราสมควรที่จะเคลียร์พลังงานและสิ่งที่มองไม่เห็นที่อยู่ภายในหรือไม่นั้นเอง.

    -สรุปเหตุการณ์การเบิกเนตรของผู้ทำธุรกิจส่วนตัว
    1.ช่วงอธิษฐานจิตเบิกเนตร เธอเอาพานที่มีพระอุปคุตเหล็กไหลที่จะเบิกเนตรไว้บนหิ้งพระ ต่อมาเธอเริ่มนั่งสมาธิ และในระหว่างทำสมาธิ เธอจะรู้สึกเหมือนตัวหนัก หูอื้อๆ ศรีษะเหมือนโยกไปมา แต่พอเริ่มทำสมาธิสักพัก เธอก็ออกจากสมาธิ และรู้สึกมีความต้องการอยากนำพานพระนั้นลงมาข้างล่าง เอามาวางไว้ที่ข้างหน้าตัวเธอ และเธอก็ยกพานขึ้นมาจบที่หน้าผากตนเอง อาการใดๆ ที่เกิดขึ้นนี้เป็นเพราะบิณฑิกเศรษฐีพรหม ท่านส่งพลังงานมามากจนทำให้รู้สึกตัวหนักและหูอื้อ ส่วนอาการที่ศรีษะโยกไปมา เหตุเพราะสมองเสียการควบคุมชั่วคราว เพราะโดนคลื่นความถี่สูงจากพลังงานบริสุทธิ์แห่งพรหมท่านมากวนการควบคุมของสมอง และการที่รู้สึกอยากทำโน้นทำนี้ขึ้นมาโดยพลัน ก็มีเหตุจากการดลใจของท่านบิณฑิกเศรษฐีพรหมครับ สาธุ!
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  6. วิษณุกรรม

    วิษณุกรรม พี่วิทย์ สื่อจิตแห่งพุทธะ(Facebook)

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มิถุนายน 2017
    โพสต์:
    373
    ค่าพลัง:
    +190
    ••• เคสการเบิกเนตรของ”นักศึกษาหนุ่ม”ท่านหนึ่ง •••​

    -ขณะสื่อจิตถามองค์พรหม ท่านบอกมาดังนี้ว่า
    1.ผู้ที่มาสื่อจิตในวาระนี้เป็นองค์พรหมที่ดูแลเด็กหนุ่มคนนี้มาโดยตลอด ท่านปรารถนามาสื่อจิตและเบิกเนตรด้วยตัวท่านเอง ท่านแจ้งนามว่า ท่านชื่อ “อมฤตพรหม” เป็นครูบาอาจารย์องค์หลักของนักศึกษาคนนี้ ในชาติสุดท้ายก่อนมาเป็นพรหมที่รูปพรหมชั้นที่ 16 นี้ ท่านเคยเป็นสหายเก่าของเด็กหนุ่มคนนี้มาก่อน ท่านบอกให้เขาไปหาวัตถุที่หาง่าย ที่สามารถพกติดตัวไปได้ทุกที่ เพราะท่านจะตามคุ้มครอง พอดีเด็กหนุ่มคนนี้ห้อยองค์ลอยของท้าวเวสสุวัณอยู่เป็นประจำ เขาจึงเลือกสิ่งนี้ในการเบิกเนตร ส่วนดอกไม้ให้ไปเด็ดที่รั้วบ้านดอกอะไรก็ได้ และใช้พานที่มีอยู่ในบ้านเพื่อวางวัตถุที่จะเบิกเนตรเป็นการชั่วคราว.
    2.ตอนท้ายนักศึกษาคนนี้ ได้ถามผมว่า เขามีอาการตัวสั่นไปทั้งตัวโดยสั่นสะท้านจากภายใน มันเป็นเพราะอะไร? เพราะเขาก็ไม่ได้หนาว ผมจึงตอบว่า อาการสั่นสะท้านจากภายใน เกิดจากพลังงานแห่งพรหมท่านส่งพลังงานไปที่กายและจิตคุณ จึงทำให้คุณสั่นสะท้านจากภายใน เหตุเพราะคุณไม่เชื่อว่า พรหมท่านมีจริง ท่านจึงใช้พลังฤทธิ์กับคุณ เพื่อให้คุณเชื่อก่อนที่จะทำพิธีเบิกเนตรด้วยตนเอง! และในขณะทำพิธีผมบอกเขาว่า เขาน่าจะมีอาการมากกว่านี้อีกหรือมีอาการหลากหลาย ก็สุดแล้วแต่พรหมท่านจะสงเคราะห์ทำฤทธิ์.

    @สรุปเหตุการณ์การเบิกเนตรของนักศึกษาหนุ่ม
    ระหว่างช่วงทำพิธี เด็กหนุ่มคนนี้มีอาการเกิดขึ้นหลากหลายที่กายดังนี้ คือ
    -เย็นบริเวณขาลามไปบริเวณช่วงอก
    -เริ่มมีอาการหนักหัวเหมือนมีอะไรมากดทับลง
    -รู้สึกมีอาการเสียวและหน่วงบริเวณกลางหน้าผาก(จุดตาที่สาม) มากๆ ช่วงนั่งสมาธิ
    -รู้สึกเย็นวาบๆ บริเวณข้อพับขาเหมือนมีอะไรเย็นๆ มากระทบ
    - รู้สึกเหมือนมีอาการจะคลื่นไส้ระหว่างช่วงสวดมนต์ไปจนถึงช่วงเสร็จสิ้นพิธี
    -หลังทำพิธีเสร็จ เห็นเทียนที่จุดไว้มีเปลวไฟลุกแรงและสว่างกว่าปกติ
    -ช่วงทำพิธีรู้สึกมีอะไรไต่ตรงจมูกและบริเวณขนตา
    -รู้สึกขนลุกมากตอนช่วงหลังของพิธี และตอนกำลังใกล้จะออกจากพิธี

    “สรุปอาการทั้งหมดข้างต้น เป็นการส่งพลังงานบริสุทธิ์แห่งพรหมมาปรับธาตุในกายของเด็กหนุ่มผู้นี้ อีกทั้งยังมาเปิดจุดจักระต่างๆ ตามร่างกายของเขาอีกด้วย เขาจึงเกิดอาการต่างๆ มากมาย ทั้งเย็นร้อนขนลุกคันหนักเสียวหน่วงปวดตามร่างกายเป็นต้น.”
    ——————————————-
    *ประโยชน์ของการเบิกเนตรสำหรับผู้มีพรหมเป็นครูบาอาจารย์องค์หลัก ส่วนใหญ่วัตถุที่เบิกเนตรแล้วจะมีประโยชน์และคุณสมบัติ ดังนี้ คือ

    วัตถุสิ่งของที่พรหมท่านเบิกเนตรให้นั้น จะมีพลังงานบริสุทธิ์แห่งพรหมไหลเวียนอยู่ในวัตถุนั้น วัตถุชิ้นนั้นก็เปรียบดั่ง”ของดี” ใช้ได้หลากหลายตามบุญวาสนาบารมีของเจ้าของที่ถูกเลือก(ผู้อื่นจะแอบใช้ไม่ได้ เพราะเป็นสมบัติเฉพาะตน) วิธีการใช้โดยคร่าวๆ คือ พนมมือหรือกำวัตถุนั้นไว้ในมือแล้วอธิษฐานจิตขอบารมีพรหมท่านให้ช่วยสงเคราะห์ในเรื่องต่างๆ เช่น ใช้กวนทำน้ำมนต์,ใช้ถอนคุณไสย,ใช้ขับไล่ผี,ใช้รักษาโรคบางอย่าง,ใช้ทำสมาธิ,ใช้เปิดจักระ และอื่นๆอีกมากมาย ตามใจปรารถนาของผู้เป็นเจ้าของ แต่ขึ้นอยู่กับพรหมท่านจะสงเคราะห์มากน้อยเพียงใดในแต่ละการช่วยเหลือ และขึ้นอยู่กับความหนักเบาของกรรมของคนที่เราจะคิดช่วยเหลือด้วย สรุปคือ ของดีนี้มีสรรพคุณมากมายตามใจนึกคิดปรารถนานั้นเอง ส่วนผู้ที่ถูกเลือกให้ครอบครองนั้น พรหมท่านบอกว่า เดี๋ยวคนนั้นก็จะรู้เองว่าใช้อย่างไร? ท่านบอก ทุกอย่างคือการเรียนรู้! แต่พรหมท่านไม่ปรารถนาให้คนครอบครองนั้นหลงงมงายในเรื่องฤทธิ์เดชใดๆ แต่ให้เป็นเครื่องมือในการอนุเคราะห์สัตว์โลกตามสมควร และเป็นการสร้างบารมีโปรดสัตว์ของเหล่าพรหมทั้งหลายผู้ซึ่งมีเมตตาอันบริสุทธิ์ และบางครั้งพรหมท่านก็ใช้ฤทธิ์บารมีเพื่อการเจริญศรัทธาแก่ผู้คนโดยทั่วไป เพื่อให้คนเหล่านั้นได้เริ่มต้นพฤติกรรมแห่งความดีงามตามหลักพุทธศาสนา คือ ทาน ศีล ภาวนา ซึ่งสอนคนให้ดำรงตั้งมั่นอยู่บนเส้นทางแห่งความเจริญของจิตใจที่มากกว่าวัตถุ ให้รู้จักการเสียสละและมีเมตตาต่อผู้อื่นดั่งพรหมวิหาร 4 ที่มีประจำใจของเหล่าพรหมทุกผู้นาม สาธุ!
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  7. วิษณุกรรม

    วิษณุกรรม พี่วิทย์ สื่อจิตแห่งพุทธะ(Facebook)

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มิถุนายน 2017
    โพสต์:
    373
    ค่าพลัง:
    +190
    ••• เคสการเบิกเนตรของ”หญิงอาชีพค้าขาย”ท่านหนึ่ง •••​

    -ขณะสื่อจิตถามองค์พรหม ท่านบอกมาดังนี้ว่า
    1.ผู้ที่มาสื่อจิตและเบิกเนตรให้ เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ดูแลหญิงผู้นี้มาโดยตลอด ท่านเป็นพรหมอยู่ชั้นที่ 13 (อตัปปาสุทธาวาสภูมิ) ท่านบอกว่าชาติสุดท้ายของท่าน ท่านคือ “..(ขอสงวนนาม เพราะเป็นเชื้อพระวงค์)..” และในชาติภพนั้นเธอเคยเป็นชายาของพรหมท่านมาก่อนครั้งยังเป็นมนุษย์ การมาของท่านในวาระนี้เพื่อมาช่วยเหลือหญิงผู้นี้.
    2.สุดท้ายพรหมของเธอให้เธอเลือกวัตถุที่จะใช้ในการเบิกเนตรด้วยตนเอง และเธอก็เลือกเป็น “ล็อกเก็ตพระฉายาลักษณ์”
    3.หญิงผู้นี้สอบถามเรื่องงาน อยากให้ท่านช่วยชี้แนะให้ พรหมของเธอบอกว่า ถ้ามีปัญหาเกี่ยวกับงาน! ให้เอาล็อคเก็ตขึ้นมาจบอธิษฐาน! ท่านจะช่วย! แต่ทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับบุญวาสนาของเราด้วย ถ้าขอแล้วได้แสดงว่า มีบุญวาสนา แต่ถ้าไม่ได้ ก็คือ ไม่มีวาสนา ท่านช่วยได้แต่ก็ไม่เกินกรรมของเรา ท่านก้าวล่วงกรรมไม่ได้.
    4.พรหมท่านรับปากว่า จะเติมพลังงานให้กับวัตถุนั้น ถ้าวัตถุนั้นมีพลังงานลดลง! (ปกติวัตถุมงคลใดเมื่อได้มีการใช้งานไปสักระยะ พลังงานที่สถิตอยู่ข้างในก็จะลดอ่อนลงและหมดไปตามธรรมชาติ).

    -สรุปเหตุการณ์การเบิกเนตรของหญิงค้าขายท่านนี้
    {..ข้อความบอกเล่าอาการของหญิงผู้นี้..}
    “ช่วงสวดมนต์ตั้งแต่เริ่มจนจบไม่มีอาการอะไรเลยค่ะ ทุกอย่างปกติ พอสวดเสร็จก็นั่งสมาธิ สักพักใหญ่ๆพอจิตเริ่มนิ่งเหมือนเห็นแสงสว่างจ้าเป็นสีส้มอยู่ด้านหน้าโดยที่เรายังหลับตาอยู่ แล้วก็สะดุ้งหลุดจากสมาธิ แต่ก็ยังหลับตาอยู่ ก็เริ่มเข้าสมาธิต่อ ผ่านไปพักใหญ่ ก็เริ่มอธิษฐานจิต ระหว่างนี้ไม่มีอาการใดๆค่ะ จบคำอธิษฐานก็นั่งสมาธิต่อ ผ่านไปสักพักเหมือนเห็นแสงสีส้มสว่างๆค่อยๆแผ่ลงมาจากด้านบนผ่านเปลือกตาลงไปแล้วจางหายไป และมีแสงสีม่วงค่อยๆแผ่ลงมาผ่านเปลือกตาลงไปแล้วจางหายไป เราก็ยังนั่งสมาธิต่อไปอีกสักพัก แล้วจึงออกจากสมาธิ(ช่วงที่อยู่ในสมาธิไม่ได้ลืมตา หลับตาตลอด) สรุป เห็นแสงอย่างเดียวไม่มีอาการอื่นค่ะ”

    {..อธิบายเรื่องแสงสีส้มและแสงสีม่วง..}
    “ขณะที่ผมอ่านตอนที่คุณเขียนบอกว่า มีพลังงานสีส้มและสีม่วงแผ่ลงมาจากด้านบน แต่แผ่พลังงานลงมาทีละช่วง องค์พรหมของผมท่านปรารถนาให้คุณได้กระจ่างในเรื่องนี้ ท่านจึงอธิบายว่า

    -พลังงานสีส้มและสีม่วงที่แผ่ลงมาแล้วจางหายไปในวัตถุเบิกเนตรนั้น เป็นการที่พรหมของคุณท่านประจุพลังงานลงไปในวัตถุนั้น.
    1.พลังงานสีส้ม เป็นพลังงานพุทธาคม(พุทธคุณ+อาคม) มีคุณสมบัติหลายอย่าง เช่น แคล้วคลาด มหาอุด เมตตามหานิยม ครบถ้วนตามศาสตร์ เพราะตอนมีชีวิตอยู่ พรหมท่านเรียนรู้วิชชาอาคมต่างๆ จากครูบาอาจารย์ที่เป็นพระอริยสงฆ์(หลวงปู่ศุข)ที่พระท่านเก่งเรื่องคาถาอาคม.
    2.พลังงานสีม่วง เป็นพลังทิพย์ที่มีกระแสจิตของพรหมไหลเวียนอยู่ เปรียบดั่งเสาสัญญาณ เวลาคุณนึกคิดสิ่งใด,มีเรื่องใดในใจหรือมีประสบอันตรายใดๆ ท่านจะรับรู้ทันที.
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  8. วิษณุกรรม

    วิษณุกรรม พี่วิทย์ สื่อจิตแห่งพุทธะ(Facebook)

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มิถุนายน 2017
    โพสต์:
    373
    ค่าพลัง:
    +190
    EF817A27-BC66-4262-8EB6-3B975942AB00.jpeg D36A64D5-C0C4-4A21-9BF7-E2CCB1BF173D.jpeg

    { บันทึกความทรงจำ ณ วันที่ 20 มกราคม 2562 }​

    กรณีเรื่อง “•••...รับสื่อจิต เบิกเนตรพระพุทธรูปและวัตถุมงคล...•••” นั้น ผมได้คำตอบจากองค์พรหมที่ชัดเจนแล้วว่า “ทำไมจึงควรมีพิธีเบิกเนตรด้วยตนเองในพระพุทธรูปหรือวัตถุมงคลหรือวัตถุสิ่งของต่างๆ ที่เหมาะสมที่คนผู้นั้นมีอยู่แล้วหรือให้เขาไปหามาเอง ตามที่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ของเขาปรารถนา” ท่านให้เหตุผลว่า “ด้วยยุคสมัยนี้ของคนไทย มีความเชื่อศรัทธาในเรื่องราวของสิ่งศักดิ์สิทธิ์รวมถึงสิ่งที่มองไม่เห็นอยู่มากมายดาษดื่น! และสิ่งเหล่านี้มีทั้งจริงและปลอม! กล่าวคือ ถ้าเป็นของจริง คือ มีพลังงานของสิ่งศักดิ์สิทธิ์สถิตไหลเวียนอยู่จริงก็ดีไป แต่ถ้าเป็นของปลอม คือ มีพลังงานที่ไม่ดีหรือสิ่งที่มองไม่เห็น เช่น วิญญาณผี,อสูรกาย,คุณไสยให้โทษ!,อื่นๆ เป็นต้น ก็จะทำให้ชีวิตถึงแม้ดีในระยะเริ่มแรกแต่จะทำให้ชีวิตตกต่ำในระยะยาว! และแถมด้วยโรคภัยอันมีเหตุจากพลังงานที่ไม่ดีเหล่านี้ได้แฝงเข้าสู่ร่างกายนานวันนั้นเอง(พลังงานเย็น) เพราะด้วยมนุษย์ก็ไม่รู้ว่า วัตถุเหล่านี้แท้จริงข้างในมีพลังงานดีไม่ดีใดสถิตอยู่? มีคุณหรือให้โทษ? ดังนั้น จากเหตุการณ์ความเชื่อศรัทธาอันมากมายที่ไม่รู้จริงของมนุษย์เหล่านี้ จึงมีเหตุให้บั่นทอนลุกล้ำในวงพระพุทธศาสนาของไทย รวมถึงบั่นทอนการดำเนินชีวิตอันเป็นปกติสุขและหนทางแห่งความเจริญของชีวิตโดยรวมของพุทธศาสนิกชนชาวไทย และส่งผลเสียหายในภาพโดยรวมแก่สังคมประเทศชาติ และองค์พรหมท่านบอกว่า “กาลเวลานี้เป็นกาลเวลาอันเหมาะสมแก่การเริ่มทำกิจหน้าที่ในเรื่องพิธีเบิกเนตรด้วยตนเองนี้ และจักมีเหล่าเทพพรหมสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายมาช่วยเหลือสงเคราะห์ตามหน้าที่ของท่าน”.

    ด้วยเหตุข้างต้น จึงเป็นเหตุให้สวรรค์เบื้องบนสร้างกุศลอุบายที่เรียกว่า “พิธีเบิกเนตร” ขึ้นมา เพื่อจรรโลงใจแก่พุทธศาสนิกชนทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพื่อให้พวกเขาเหล่านั้นได้กลับมาสนใจในครูบาอาจารย์สิ่งศักดิ์สิทธิ์ของตนเองที่บ้านที่หน้าหิ้งพระอันศักดิ์สิทธิ์ของตนเองเป็นสำคัญ! เพื่อให้พวกเขาได้ลดพฤติกรรมสุ่มเสี่ยงที่จะไปตามหาของดีของขลังนอกบ้าน พบเจอของดีมีคุณก็ดีไป! แต่ถ้าพบเจอและนำพาของไม่ดีพลังงานไม่ดี,มีวิญญาณผี,มีคุณไสยมนต์ดำเอาเข้ามาในเขตรั้วบ้านเรือน จนทำให้ชีวิตเดือดร้อนตกต่ำในระยะยาว! บางรายแทบเอาชีวิตไม่รอดก็มี!

    ดังนั้น พิธีเบิกเนตรด้วยตนเองนี้ เป็นกุศลอุบายในแบบฤทธานุภาพ กล่าวคือ เป็นการแสดงฤทธิ์ของเทพพรหมสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ดูแลผู้เบิกเนตรอยู่แล้ว มิใช่ด้วยฤทธิ์ของสิ่งศักดิ์สิทธิ์อื่นใดที่ไม่มีความเกี่ยวข้องกับตัวเขา แต่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ของเขาอาจมีพละกำลังไม่มาก ดังนั้น จึงต้องอาศัยพละกำลังหรือพลังงานบริสุทธิ์ละเอียดแห่งองค์พรหมในภพภูมิสูง ให้พรหมท่านช่วยสงเคราะห์พลังงานให้แก่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ของผู้เบิกเนตรให้ได้มีพละกำลังมากขึ้นที่จะแสดงฤทธานุภาพได้อย่างเต็มที่ เพื่อเจริญศรัทธาแด่ผู้เบิกเนตรที่ท่านดูแลคุ้มครองอยู่! สิ่งศักดิ์สิทธิ์องค์นั้นจึงจะสามารถทำอาการปิติทั้ง 5,อาการใดๆ,ปรากฎการณ์ใดๆ เช่น เห็นแสงสีต่างๆ เป็นต้น ให้ผู้เบิกเนตรทุกคนได้รับสัมผัสทางกายและใจไม่มากก็น้อยตามภูมิจิตภูมิธรรมหรือตามระดับของ Six Sense ของคนผู้นั้น เพื่อให้ผู้เบิกเนตรทุกคนได้รับรู้ผลของการทำพิธีเบิกเนตรด้วยตนเองที่หน้าหิ้งพระในบ้าน(ถ้าไม่มีหิ้งพระ ให้เลือกห้องที่เหมาะควร) องค์พรหมท่านบอกว่า ทุกกรณีจะต้องได้รับความยินยอมให้เบิกเนตรได้จากครูบาอาจารย์สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ดูแลคนผู้นั้นเสียก่อน! ถ้าท่านไม่อนุญาต! ก็ถือว่า “ทำพิธีเบิกเนตรไม่ได้” พรหมท่านบอกว่า “อย่าเพิ่งเชื่อในสิ่งที่เราพูดมาทั้งหมด! แต่จงพิสูจน์ผลแห่งความจริงเหล่านี้ด้วยกายใจและสัมผัสต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับตัวเจ้าเสียก่อน จึงจักเชื่อว่ามันเป็นความจริงนั้นแล”.
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 กุมภาพันธ์ 2019
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...