‘สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว’ โปรดเกล้าฯเสด็จฯยกนพปฎลมหาเศวตฉัตรยอดพระเมรุมาศ 18 ต.ค.นี้

เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 13 ก.ย. ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระนคร พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานกรรมการฝ่ายจัดสร้างพระเมรุมาศ สิ่งปลูกสร้างประกอบพระเมรุมาศ และบูรณปฏิสังขรณ์ราชรถและพระยานมาศ ในงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการฝ่ายจัดนิทรรศการงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช โดยมีนายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รมว.วัฒนธรรม นายอนันต์ ชูโชติ อธิบดีกรมศิลปากร รายงานความคืบหน้าการดำเนินงาน



พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร กล่าวภายหลังการประชุมว่า ที่ประชุมได้ข้อสรุปเบื้องต้นในการจัดนิทรรศการพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช โดยนิทรรศการบนพระที่นั่งทรงธรรมจะแบ่งเป็น 5 โซน ได้แก่ เมื่อเสด็จอวตาร รัชกาลที่ร่มเย็น เพ็ญพระราชธรรม นำพระราชไมตรี และพระจักรีนิวัตฟ้า โดยเบื้องต้นจะเปิดให้เข้าชมตั้งแต่วันที่ 1-30 พ.ย.2560 ในเวลา 07.00-21.00 น. ทุกวัน ซึ่งจากการทดลองเดินชมนิทรรศการ หากเดินแบบไม่เร่งรีบจะใช้เวลารอบละประมาณ 14 นาที



อย่างไรก็ตาม จะต้องประเมินอีกครั้งว่าจะเปิดให้เข้าชมครั้งละหลายคนหรือเปิดให้เข้าชมเป็นรอบๆ โดยกำหนดเวลาเข้าชมเพื่อให้ประชาชนสามารถเก็บรายละเอียดของนิทรรศการได้อย่างทั่วถึง ส่วนการแสดงมหรสพจะเริ่มตั้งแต่เวลา 07.00 น. ซึ่งจะมีทางการแสดงโขน ดนตรีสากล ศิลปะพื้นบ้าน ปี่พาทย์บรรเลง และวงดนตรีจากสำนักสังคีตศิลป์ ด้านการอำนวยความสะดวกจะมีบริการสำหรับผู้ที่ต้องนั่งรถเข็น ผู้สูงอายุ และผู้พิการทางสายตา โดยมีจิตอาสาคอยอำนวยความสะดวกให้กับผู้ที่เข้าชมนิทรรศการ



ทั้งนี้การจัดแสดงพระเมรุมาศจำลองในพื้นที่กรุงเทพฯ และต่างจังหวัดทั่วประเทศ โดยจะมีการจัดแสดงนิทรรศการในรูปแบบเดียวกันเพื่อให้ประชาชนสามารถรับชมอย่างทั่วถึง และลดความคับคั่งของประชาชนที่จะเข้าชมนิทรรศการบริเวณท้องสนามหลวง



สำหรับในพื้นที่นิทรรศการบริเวณท้องสนามหลวงจะมีการจำลองพระเมรุมาศ สัตว์หิมพานต์ และสิ่งประกอบพระเมรุมาศในรูปแบบที่สามารถสัมผัสได้ เพื่อให้ผู้พิการทางสายตาได้มีโอกาสสัมผัสความงดงามของพระเมรุมาศ รวมถึงมีคิวอาร์โค้ดแสดงรายละเอียดเนื้อหาของนิทรรศการทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ ภาพที่จัดแสดงภายในนิทรรศการ และรายละเอียดของพระเมรุมาศ รวมถึงสิ่งประกอบพระเมรุมาศในรูปแบบ 3 มิติ เพื่อให้ประชาชนศึกษารายละเอียดของนิทรรศการได้ในภายหลัง พร้อมทั้งจะมีการแจกแผ่นพับสำหรับนำชมนิทรรศการวันละ 3 ล้านแผ่น ซึ่งคาดว่าจะมีประชาชนเข้าชมนิทรรศการวันละ 100,000 คน



รองนายกฯ กล่าวต่อว่า ขณะที่การรักษาความปลอดภัยและการอำนวยความสะดวกจะมีจุดคัดกรอง 3 จุดได้แก่ บริเวณพระแม่ธรณีบีบมวยผม กรมการรักษาดินแดนและท่าช้าง หลังจากประชาชนผ่านจุดคัดกรองแล้วจะมาที่บริเวณจุดพักคอยด้านในสนามหลวงซึ่งจะตรงกับช่วงโค้งด้านทิศเหนือของท้องสนามหลวง เนื่องจากเป็นบริเวณที่สามารถมองเห็นพระเมรุมาศได้สวยสดงดงามประชาชนสามารถถ่ายรูประหว่างที่พักรอ รวมทั้งจะมีการจัดรถรับส่งประชาชนจากพื้นที่ต่างๆ รอบกรุงเทพมหานครซึ่งเบื้องต้นได้กำหนดไว้ 6 จุด และจะมีการหารือในรายละเอียดของจุดจอดรถในการประชุมหลังจากนี้



“สำหรับความคืบหน้าการก่อสร้างพระเมรุมาศอาคารประกอบ ภาพรวมขณะนี้คืบหน้ามากกว่าร้อยละ 90 ซึ่งจะเสร็จสมบูรณ์ภายในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ในการนี้สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ เสด็จพระราชดำเนินไปทรงยกนพปฎลมหาเศวตฉัตร ยอดพระเมรุมาศในวันที่ 18 ต.ค.2560 เวลา 17.00 น. เป็นต้นไป ในส่วนของการบูรณะปฏิสังขรณ์ราชรถราชยาน ดำเนินการเสร็จแล้ว 100 เปอร์เซ็นต์ โดยกรมศิลปากรได้เชิญพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มาเป็นประธานในการทำพิธีบวงสรวงราชรถราชยานในวันที่ 21 ก.ย. นี้” พล.อ.ธนะศักดิ์ กล่าว



รองนายกฯ กล่าวว่า ในส่วนของบุษบกทั้งเก้ายอดติดตั้งองค์ประกอบทั้งหมดแล้วเสร็จ รวมทั้งดาวเพดานภายในบุษบกประธาน ขณะนี้อยู่ระหว่างการประกอบสะพานเกรินทางทิศเหนือของพระเมรุมาศ ส่วนงานตกแต่งด้วยผ้าทองย่นได้ดำเนินการบริเวณฐานชาลาชั้นที่ 2 และ 3 แล้ว และกำลังขึ้นติดตั้งรอบฐานบุษบก รวมทั้งผนังภายในและภายนอกของบุษบกประธาน ซ่าง และหอเปลื้องพระที่นั่งทรงธรรม โดยติดตั้งรวยระกาและหน้าบันส่วนมุขประธาน พร้อมทั้งตกแต่งภายในโถงกลางและปีกอาคารทั้งหมดแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างการทดสอบระบบปรับอากาศ



รวมทั้งงานตกแต่งภายในห้องประทับและห้องรับรองต่างๆ ศาลาลูกขุน ศาลาลูกขุน 1 และ 2 ได้ติดตั้งองค์ประกอบสถาปัตยกรรม ระบบแสงสว่าง ดาวเพดานลวดลายผ้าทองย่นและลายตบสีภายในและภายนอกอาคารแล้ว อยู่ระหว่างตกแต่งรายละเอียดขั้นสุดท้ายและติดตั้งระบบระบายน้ำฝน ผ้าใบกันฝน ส่วนศาลาลูกขุนแบบที่ 3 โครงสร้างทั้งหมด รวมทั้งกั้นผนัง ทำลูกฟักและทาสีแล้ว อยู่ระหว่างตกแต่งรายละเอียดและงานระบบ



นอกจากนี้ ยังมีทับเกษตร ทิม พลับพลายกสนามหลวง พลับพลาหน้าพระที่นั่งสุทไธสวรรย์ปราสาทพลับพลายกหน้าวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม และเกยลา รวมถึงงานภูมิสถาปัตยกรรม อยู่ระหว่างดำเนินการ

ในส่วนงานศิลปกรรมประกอบพระเมรุมาศ ได้แก่งานประติมากรรม โดยรายการที่ปั้นหล่อและเขียนสีแล้วเสร็จ ได้แก่ ประติมากรรมมหาเทพ พระพรหม พระนารายณ์ เทวดานั่งและยืน ครุฑ สัตว์ประจำทิศ ช้าง ม้า โค สิงห์ นาคราวบันได เทพนมและเทพชุมนุมรอบฐานพระเมรุมาศ งานจิตรกรรมฉากบังเพลิงและจิตรกรรมโครงการพระราชดำริ ฉากบังเพลิงลงสีรายละเอียดแล้วเสร็จ อยู่ระหว่างการผนึกชิ้นงานลงบนฉาก และเก็บรายละเอียด

ส่วนงานจิตรกรรมฝาผนังโครงการพระราชดำริสำหรับติดตั้งบนพระที่นั่งทรงธรรม มีขนาดสูง 9 เมตร จำนวน 3 ผนัง ขณะนี้ได้ลงสีภาพจิตรกรรมโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ตำแหน่งที่ 2 (บริเวณด้านทิศใต้ของพระที่นั่งทรงธรรม) และตำแหน่งที่ 3 (บริเวณด้านทิศเหนือของพระที่นั่งทรงธรรม) แล้วเสร็จ สำหรับภาพจิตรกรรมโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ตำแหน่งที่ 1 (บริเวณผนังกึ่งกลางพระที่นั่งทรงธรรม) อยู่ระหว่างตัดเส้นเก็บรายละเอียด

งานจัดสร้างฉัตรโลหะฉลุลายกลีบบัวและฉัตรผ้าทองย่น อยู่ระหว่างประกอบลายฉัตรผ้าทองย่น งานประณีตศิลป์ในงานพระราชพิธี ได้แก่ งานจัดสร้างพระโกศจันทน์ ดำเนินการประกอบลวดลายบนพระหีบจันทน์และพระโกศจันทน์แล้วเสร็จ คงเหลือการเก็บรายละเอียดเรื่องการปิดทองงานจัดสร้างพระโกศพระบรมอัฐิ 4 แบบ จำนวนรวม 6 องค์ ขึ้นหุ่นพระโกศโลหะและกลึงถ้ำศิลาแล้วเสร็จ
งานออกแบบและจัดทำเครื่องสังเค็ด พัดรอง ผ้ากราบ ย่าม ตู้หนังสือ ธรรมมาสน์ปาติโมกข์ หีบพระปาติโมกข์ จัดทำแบบและขยายแบบทั้งหมดแล้วเสร็จ

นอกจากนี้ งานบูรณปฏิสังขรณ์ราชรถและพระยานมาศ ประกอบด้วย การบูรณปฏิสังขรณ์ราชรถและราชยาน พระมหาพิชัยราชรถและพระที่นั่งราเชนทรยาน ได้รับการอนุรักษ์ ปิดทองประดับกระจกแล้วเสร็จ ส่วนราชรถน้อยอยู่ระหว่างเก็บรายละเอียดงานปิดทองประดับกระจก การจัดสร้างราชรถปืนใหญ่ สำหรับอัญเชิญพระบรมศพเวียนอุตราวัฏ และ การจัดสร้างพระที่นั่งราเชนทรยานน้อย สำหรับอัญเชิญพระบรมราชสรีรางคารจากมณฑลพิธีท้องสนามหลวง กลับสู่พระบรมมหาราชวังรอบพระเมรุมาศ ดำเนินการแล้วเสร็จ

ขณะที่พ.อ.ณัฐกฤต สันป่าแก้ว ผู้บังคับหน่วยพัฒนาการพิเศษ กล่าวว่า สำหรับความคืบหน้าโครงการก่อสร้างถนนเส้นกลาง บริเวณสนามหลวง ตามที่กองบัญชาการกองทัพไทย โดย หน่วยบัญชาการทหารพัฒนาเป็นหน่วยรับผิดชอบและมอบหมายให้หน่วยพัฒนาการพิเศษ หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา เป็นหน่วยดำเนินการ เริ่มเข้าปฏิบัติงานตั้งแต่วันที่ 15 มิ.ย.60 เพื่อขนคอนกรีตเสริมเหล็กรองรับน้ำหนักบรรทุกไม่น้อยกว่า 14 ตัน

ซึ่งน้ำหนักคิดน้ำหนักรวมการบรรทุกสูงสุดของพระมหาพิชัยราชรถ ซึ่งการดำเนินงานเป็นไปตามลำดับ ดำเนินการแล้วเสร็จภายในวันที่ 15 ก.ย.60 โดยขณะนี้ความคืบหน้าแล้วเสร็จ 100 เปอร์เซ็นต์ และอยู่ในขั้นตอนของการเก็บรายละเอียดและขัดแต่งพื้นผิวถนนเล็กน้อย เพื่อให้พร้อมในการซักซ้อมริ้วขบวนประกอบพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดลุยเดช หลังจากนี้จะมีกำลังพลเข้ามาดูและตกแต่งบริเวณถนนเส้นกลางอย่างต่อเนื่องจนถึงวันงาน

ขอขอบคุณที่มา
https://www.khaosod.co.th/around-thailand/news_507877