—••• (ปิดรับชี้ทาง) รับชี้ทางด้วยจิตญาณ เรื่องทำบุญอย่างไรจะช่วยส่งเสริมในดวงชะตาวาสนาของตน •••—

-แชร์ธรรมทานเรื่อง “เธอควรเดินทางไปทำบุญที่วัดด้วยตนเอง และเหตุการณ์ค่ำคืนนี้ทั้งหมดเกิดจากองค์เทพได้จัดสรรขึ้น เพื่อให้เธอพาแม่ไปทำบุญที่วัด”​

———————————
จิตญาณบอกว่า “พ่อขุนศรีอินทราทิตย์ ท่านเคยเป็นบิดาของหญิงคนนี้มาแต่ปางก่อน และตอนนี้ท่านเป็นองค์เทพสถิตอยู่ชั้นดาวดึงส์ มีหน้าที่นำพาผู้คนไปทำบุญตามวัดวาอารามต่างๆที่ควรไป การที่ท่านวิทย์พูดคุยถึงเรื่องการทำบุญกับวัดแห่งนี้ ก็มีเหตุจากองค์เทพท่านนี้นำพาจิตใจให้พูดคุยในเรื่องดังกล่าว!

เมื่อหญิงผู้นี้รู้ในองค์เทพที่รักษาตัวของเธอแล้ว ขอเธอจงนอบน้อมบูชาท่านด้วยใจจริง! แล้วความสำเร็จใดๆท่านจะบันดาลให้ผลแก่เธอ แต่เธอต้องเดินทางไปทำบุญในทริปที่พูดถึงนี้เสียก่อน! เพราะเป็นความตั้งใจของเทพองค์ดังกล่าวที่ดลใจมายังท่านทั้งสองในค่ำคืนนี้ เราขออนุโมทนาบุญนี้ด้วยใจจริง!”
———————————

*หมายเหตุ องค์เทพท่านก็ดลใจผมให้โอนเงินร่วมบุญกับเธอในทริปนี้ด้วยเช่นกัน ^_^

-ข้อมูล : “พ่อขุนศรีอินทราทิตย์หรือพ่อขุนบางกลางหาว”
https://th.m.wikipedia.org/wiki/พ่อขุนศรีอินทราทิตย์

 

-แชร์ธรรมทานเรื่อง “การขอพรพึ่งบารมีของสิ่งศักดิ์สิทธิ์จนมากเกินไป! จะทำให้เราขาดความเชื่อมั่นในศักยภาพของตนเอง!”
​

 

-แชร์ธรรมทานเรื่อง “องค์ครูบาอาจารย์ของเธอ มาเตือนสติเธอในเรื่องการเสี่ยงโชค”
​

 

-แชร์ธรรมทานเรื่อง “อย่าลืมสั่งสมเสบียงบุญ!”
​

 

-แชร์เรื่องราวภพชาติหนึ่งในอดีตของหญิงคนหนึ่งที่เธอเคยถูกตราหน้าว่าเป็น “นางกาลกิณี!”​

จิตญาณชี้แนะว่า “เราเห็นว่า แม่หญิงท่านนี้เธอเป็นคนใจบุญสุนทานอยู่เป็นปกติ และเธอก็ยังมีเหล่าเทพเทวาที่ดูแลเธอ คอยให้การช่วยเหลือและนำพาเธอไปทำบุญประเภทต่างๆอยู่เป็นนิจสิน แต่เราเห็นว่า เพื่อตอบแทนความดีที่เธอกระทำอยู่เสมอ! เราจึงขอชี้แนะหรือบอกเล่าในเรื่องอื่นจะดีกว่า..

ในเรื่องที่เราจะบอกเล่าแก่เธอผู้นี้ จะเกี่ยวกับอดีตชาติหนึ่งของเธอในสมัยยุคพระนารายณ์ ในชาติสมัยนั้น เธอผู้นี้เคยกำเนิดเป็นสตรีนางหนึ่งที่เป็นลูกเจ้าเมืองเมืองหนึ่งในภาคอีสาน ตอนที่เวลาเธอเกิด มีปรากฏการณ์อย่างหนึ่งเกิดขึ้นพร้อมกัน! นั่นคือ บนฟากฟ้าจากที่สว่างกลับพลันค่อยๆมืดลง! เป็นปรากฏการณ์ประหลาดอย่างยิ่ง! จนทำให้ผู้คนที่รู้ข่าวต่างหวาดกลัวว่า การกำเนิดของลูกสาวเจ้าเมืองท่านนี้ จะเป็นปรากฏการณ์อัปมงคลต่อบ้านเมือง! พอลูกสาวคนนี้เติบใหญ่เป็นกุลสตรีนางหนึ่งที่พร้อมจะออกเรือน แต่ด้วยมีข่าวลือว่า สตรีนางนี้เป็นหญิงอัปมงคล! ข่าวนี้ได้แพร่สะพัดไปทั่ว! จนไม่มีลูกชายของเจ้าเมืองเมืองใดมาสู่ขอไปเป็นศรีภรรยา ทำให้เจ้าเมืองผู้เป็นบิดาของสตรีนางนี้กลัดกลุ้มเป็นอย่างมาก!

เจ้าเมืองจึงได้ปรึกษากับคนสนิทข้างกายว่า จะทำอย่างไรให้ข่าวลือนี้หมดไป! สุดท้ายคนสนิทของเจ้าเมืองจึงได้คิดอุบายสร้างข่าวลือขึ้นมาใหม่! โดยออกอุบายว่า ให้ลูกสาวเจ้าเมืองเดินทางออกจากเมืองไปพำนักอาศัยอยู่ในหมู่บ้านแห่งหนึ่งเป็นระยะเวลา 3 เดือน โดยในระยะ 3 เดือนนี้ เธอจะต้องแต่งตัวเป็นสาวชาวบ้าน เพื่อให้เธอคุ้นเคยกับวิถีชีวิตของชาวเมือง และให้ชาวเมืองได้รู้จักตัวตนที่แท้จริงของนาง! และด้วยนิสัยที่เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ของสตรีนางนี้ ได้สร้างความประทับใจให้กับชาวบ้านในหมู่บ้านที่นางไปอาศัยอยู่..

พอครบ 3 เดือน เจ้าเมืองจึงแห่ขบวนมารับลูกสาวด้วยตนเองอย่างยิ่งใหญ่! จนทำให้ชาวบ้านในหมู่บ้านทุกคนประหลาดใจว่า เจ้าเมืองแห่ขบวนมามากมายเพื่อการใด! สุดท้ายชาวบ้านถึงกับตะลึงและตกใจอย่างมากว่า เนื้อแท้ของสตรีนางนี้ที่มีจิตใจเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ที่แท้คือ ลูกสาวของเจ้าเมืองที่โจษจันกันว่า “นางเป็นกาลกิณีต่อบ้านเมือง ถ้านางไปอาศัยอยู่ที่แห่งใดก็จะทำให้บ้านเมืองนั้นเกิดวิบัติหายนะ!” แต่ด้วยการกระทำความดีที่ผ่านมาตลอดระยะเวลา 3 เดือนกับทุกคนในหมู่บ้านแห่งนี้ ทำให้ชาวบ้านทุกคนเปลี่ยนความคิดเสียใหม่! และยังช่วยเล่าลือถึงความดีความเอื้อเฟื้อและจิตใจที่มีเมตตาของเธอ ไปยังต่างหมู่บ้านและต่างบ้านต่างเมืองให้ได้รู้ทั่วกัน ข่าวลือที่ดีเกี่ยวกับสตรีนางนี้จึงไปกลบข่าวลือกาลกิณีของเธอที่ผ่านมาจนหมดสิ้น! จนมีลูกหลานเจ้าเมืองเมืองอื่นทั้งแดนใกล้แดนไกล ต่างรีบมาตีสนิทใกล้ชิดและทาบทามสู่ขอนางไปเป็นศรีภรรยาคู่บ้านคู่เมือง! ทำให้เจ้าเมืองท่านนี้ได้คลายความกังวลใจในเรื่องข่าวลือเสียหายของลูกสาวลงได้เสียที! และสุดท้ายลูกสาวเจ้าเมืองก็ได้ออกเหย้าออกเรือนหรือไปเป็นศรีภรรยาของลูกกษัตริย์ในฝั่งลาว”
————————————
** ปรากฏการณ์ที่จิตญาณบอกว่า “ตอนที่ช่วงเวลาเธอเกิด บนท้องฟ้าจากที่สว่างกลับพลันค่อยๆมืดลง ผมเดาว่า น่าจะเป็นปรากฏการณ์ของสุริยุปราคา” แต่เธอดันมาคลอดในช่วงเวลานี้ แสดงว่า มีเหตุจากกรรมเก่าให้ผล **

-ข้อมูล : “สมเด็จพระนารายณ์มหาราช”
https://th.m.wikipedia.org/wiki/สมเด็จพระนารายณ์มหาราช

 

ขอเชิญมาร่วมอนุโมทนาบุญกันครับ กับภาพของสังฆทานที่หญิงคนนี้เลือกหามาเพื่อถวายพระภิกษุสงฆ์(ชื่อธรรมสถานปัญญาธรรม จ.ลพบุรี) และเตรียมของสำหรับให้แก่เด็กชาวเขา ซึ่งผมก็มีโอนปัจจัยเงินไปส่วนหนึ่งร่วมกับเธอในบุญครั้งนี้ด้วยครับ.

 

-แชร์ธรรมทานเรื่อง “เธอผู้มีความกตัญญูซื่อสัตย์ต่อแผ่นดินสยาม เมื่อเธอตายไปย่อมไปเสวยสุขอยู่บนสวรรค์ชั้นฟ้า”​

จิตญาณชี้แนะว่า “กรณีสำหรับเธอผู้นี้ จากที่เราตรวจญาณดู แม่หญิงคนนี้เธอมีจริตอย่างหนึ่งที่ทำเป็นประจำ! นั้นก็คือ เธอชอบทำบุญเลี้ยงอาหารให้แก่เหล่าเด็กกำพร้าตามสถานสงเคราะห์หรือมูลนิธิต่างๆ เพราะเธอมีจิตใจอันมีเมตตาธรรมอยู่ในดวงจิต เวลาเธอจะทำอะไรเธอก็จะนึกถึงผู้อื่นเสมอ! ด้วยความมีใจเมตตาเช่นนี้ ไม่ว่าจะกระทำบุญใดย่อมได้อานิสงส์แห่งบุญมาก! แต่เราอยากจะชี้แนะเพิ่มเติมให้แก่เธอในเรื่องอื่นเสียมากกว่า..

เรื่องที่เราจะชี้แนะนั้น ก็อีกเช่นเคย หนีไม่พ้นเป็นอดีตชาติภพหนึ่งของแม่หญิงท่านนี้ เรื่องราวมีอยู่ว่า ในกาลสมัยหนึ่งย้อนหลังกลับไปในช่วงเสียกรุงศรีอยุธยาในครั้งแรกให้กับพม่ารามัญ ในชาติภพดังกล่าว แม่หญิงท่านนี้ตัวเธอเคยกำเนิดเกิดเป็นข้าราชบริพารผู้ใกล้ชิดของขุนหลวงองค์หนึ่งหรือก็คือกษัตริย์ในรัชสมัยนั้น ในชาตินั้นตัวนางถูกถวายตัวเป็นข้ารับใช้ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท เธอรู้สึกว่าเธอได้รับเกียรติอันยิ่งใหญ่หาที่สุดมิได้!

จนมาวันหนึ่ง ข้าราชบริพารคนนี้มีเหตุบังเอิญไปได้ยินแผนการร้ายบางอย่างของขุนนางที่คิดไม่ซื่อต่อแผ่นดินสยาม! นางจึงไม่นิ่งนอนใจรีบไปรายงานต่อหัวหน้าสายตรงของนาง แต่เธอหารู้ไม่ว่า หัวหน้าของนางท่านนี้ก็สมรู้ร่วมคิดในแผนการร้ายดังกล่าวด้วยเช่นกัน! เมื่อหัวหน้าท่านนี้รู้ว่านางคนนี้รู้ในแผนการร้ายในการล้มล้างราชบัลลังก์! เธอจึงได้ถูกใส่ร้ายในความผิดที่เธอไม่ได้กระทำ! สุดท้ายเธอถูกเนรเทศออกนอกวังหลวง หลังจากออกนอกวังหลวง เธอก็ถูกลอบฆ่าเพื่อปิดปาก!

หลังเธอตายไป เธอก็ไปจุติเกิดยังสวรรค์ชั้นยามา ซึ่งเป็นดินแดนแห่งความสุข พอเธอเสวยบุญอยู่ไม่นานบนสวรรค์! เธอก็รู้สึกอยากกลับมาเกิดยังโลกมนุษย์อีกครั้ง เพื่อสร้างสมบุญบารมีของเธอเองให้มากยิ่งขึ้น! ในภพชาติถัดไป เธอจึงลงมาเกิดอยู่ในครอบครัวผู้มีสกุลรุนชาติครอบครัวหนึ่ง และการเกิดอยู่ในครอบครัวนี้ก็ทำให้เธอได้สามารถช่วยเหลือคนตกทุกข์ได้ยากได้อย่างมากมาย ตามที่เธออธิษฐานจิตลงมาเกิด!

สิ่งที่เราจะบอกในเรื่องราวอดีตชาติของเธอนี้ ก็คือ การเกิดเป็นมนุษย์ควรที่จะสั่งสมบุญความดีไว้ เมื่อตายไป! จะได้ไปสู่ในภพภูมิที่ดี! อย่างต่ำสุดก็จะได้ไปเสวยสุขในทิพย์วิมานชั้นฟ้าอันแสนสุข บางคนมีบริวารคอยรับใช้ แต่ถ้ากระทำบาปชั่ว! ก็จะลงไปสู่อบายภูมิ! เสวยทุกขเวทนาอย่างยาวนาน! ด้วยไฟนรก! เราหวังว่า ธรรมทานเรื่องนี้จะเป็นสิ่งเตือนสติแก่ผู้กำลังทำบาปชั่วได้! อย่างน้อยให้คนเหล่านี้ได้ฉุกคิดได้บ้าง! เพราะโลกใบนี้มีคนจำพวกนี้อยู่มาก!”

-ข้อมูล : “การเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่หนึ่ง”
https://th.m.wikipedia.org/wiki/การเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่หนึ่ง

-ข้อมูล : “สวรรค์ชั้นยามา(สวรรค์ชั้นที่ 3)
http://buddhismarticles.com/?p=212

 

-แชร์ธรรมทานเรื่อง “ชายผู้ได้โอกาสจากท่านพญายมบาล ให้มาเกิดใหม่ยังแดนมนุษย์อีกครั้ง!”​

จิตญาณชี้แนะว่า “กรณีชายท่านนี้ เราจะเล่าประวัติในอดีตชาติของเขาให้ท่านวิทย์ฟังแบบเดิม เราจะไม่ชี้แนะการทำบุญให้เขา

เราจะขอเล่าย้อนอดีตชาติของเขาในชาติสมัยหนึ่ง ช่วงปีที่เขาเกิดนั้น เราไม่ขอระบุ เราจะเล่าโดยย่อว่า ในชาติภพนั้นตัวชายผู้นี้เคยเกิดมาในวงศานุวงศ์ของกษัตริย์พระองค์หนึ่งในสมัยเชียงแสน ในชาตินั้นชายผู้นี้ได้ดำรงตำแหน่งเป็นถึงหม่อมราชวงค์ ได้รับหน้าที่มอบหมายจากกษัตริย์ให้ช่วยเหลือในด้านการจัดเตรียมไพร่พล เวลากษัตริย์ต้องออกเดินทางไปพำนักในสถานที่ต่างๆทั้งในและนอกเมือง เมื่อวันเวลาผ่านไป คนก็เปลี่ยนไปรวมถึงชายผู้นี้ที่คอยรับใช้ใกล้ชิดกษัตริย์ และเป็นที่ไว้วางใจอย่างมาก! จนมาวันหนึ่ง เขาเกิดความคิดที่อยากจะตั้งตนเป็นกษัตริย์เสียเอง! เขาจึงได้วางแผนที่จะล้มล้างราชบัลลังก์ของกษัตริย์พระองค์นี้ แต่สุดท้ายชายผู้นี้โดนจับได้! และถูกพิพากษาลงโทษทัณฑ์ให้ถูกประหารชีวิต!

หลังจากที่ชายผู้นี้สิ้นชีวิต ตัวเขาก็ถูกนำตัวไปพิพากษาคดีต่อในยมโลก ด้วยความผิดในฐานทรยศต่อชาติบ้านเมืองที่ตนเติบโตและใช้ชีวิต! ดวงวิญญาณของชายผู้นี้จึงถูกตัดสินให้ไปชดใช้กรรมต่อในขุมนรก! แต่ด้วยขณะที่ชดใช้กรรมอยู่ในนรก ตัวเขาบังเกิดจิตสำนึกว่าตนกระทำผิดไปจริงๆ และอยากแก้ไขในผิดบาปที่ตนเคยกระทำลงไป! ด้วยจิตสำนึกที่บังเกิดขึ้นนี้ในดวงจิตวิญญาณของเขา สุดท้ายท่านพญายมบาลท่านรู้ในกระแสจิต! ท่านจึงลดโทษทัณฑ์โดยการให้โอกาสเขาได้เกิดใหม่ยังแดนมนุษย์! แต่ท่านมีข้อแม้ว่า เมื่อเขาได้เกิดในภพชาติใหม่ นอกจากห้ามกระทำผิดในรูปแบบเดิมแล้ว เขาจะต้องกลับตัวกลับใจเป็นคนดี! และคอยช่วยเหลือผู้อื่นเมื่อมีโอกาส! ซึ่งชาติที่เกิดใหม่นั้น นั่นก็คือ ภพชาติในปัจจุบันในตอนนี้ของเขา! สิ่งที่เราชี้แนะมาทั้งหมดนี้ เจ้าจะเชื่อหรือไม่ ก็เป็นเรื่องของเจ้าในชาตินี้ เรามีหน้าที่เพียงชี้แนะหนทางสว่างให้กับชีวิตของเจ้าในชาตินี้เพียงเท่านั้น! ท่านวิทย์ เรื่องราวก็มีเพียงเท่านี้ท่าน.

-เพิ่มเติม-
ท่านพญายมบาลท่านก็มีสิทธิ์ในการตัดสินโทษทัณฑ์เช่นกัน แต่ผู้มีอำนาจสูงสุดในนรกภูมิ ก็คือ ท่านพญายมราช ท่านพญายมบาลนั้นมีหลายองค์มาก ท่านทั้งหลายก็มีหน้าที่อันแตกต่างกันไปตามภาระหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายมาจากท่านพญายมราช หวังว่าท่านวิทย์คงเข้าใจในเรื่องราวของท่านทั้งสองโดยคร่าวแล้วนะ”

-ข้อมูล : “เมืองเชียงแสน”
http://huexonline.com/knowledge/22/345/

-ข้อมูล : “พญายมบาลรู้ได้อย่างไรว่าเราทำดีชั่วอะไรไว้บ้าง”
https://www.thanavuddho.org/index.php/blog/article-category-blog-2/412-2017-12-11-07-28-107

 

-แชร์ธรรมทานเรื่อง “ผลกรรมจากการค้าขายปลาหรือสัตว์น้ำในอดีตชาติ ส่งผลมาเป็นวิบากกรรมให้การเงินของเธอต้องติดขัดไม่ราบรื่นในชาตินี้”​

จิตญาณชี้แนะว่า “ในเรื่องอดีตชาติของเธอคนนี้ เรื่องราวเกิดขึ้นในรัชสมัยหนึ่ง ครั้งนั้นเธอเคยกำเนิดมามีฐานะค่อนข้างยากจน! ต้องปากกัดตีนทีบ! ส่วนพ่อแม่ของเธอก็ทำอาชีพหาปลาทะเลไปส่งขายในตลาด ตัวเธอตั้งแต่เกิดมา ก็ต้องคอยช่วยงานพ่อแม่ของเธออยู่ตลอด ด้วยอาชีพหาปลาในท้องทะเลในชาตินี้ จึงเป็นเหตุที่ส่งผลมาเป็นวิบากกรรมมายังภพชาติปัจจุบัน ผลแห่งวิบากกรรมที่เคยกระทำมาในชาติภพนั้น ได้มาถูกชดใช้โดยส่งผลในเรื่องการติดขัดหรือไม่ราบรื่นในเงินทองของเธอในภพปัจจุบัน! ส่วนวิธีแก้ไขนั้น จากที่เราได้ตรวจญาณดู เธอจำเป็นต้องชดใช้ในวิบากกรรมนี้ให้หมดสิ้นเสียก่อน! แล้วจึงค่อยไปเสวยกรรมดีหรือบุญที่เธอเคยสร้างสั่งสมไว้มาตลอด! ส่วนวิธีแก้ไขอื่น เรายังไม่เห็นจะมีวิธีไหนแก้ไขในวิบากกรรมเธอได้เลย แต่อย่างไรเสีย ขอเธอจงหมั่นเจริญในทาน ศีล และภาวนาให้ดีอยู่เสมอ ถึงแม้ว่า ผลบุญที่เคยกระทำหลายอย่างยังไม่ถึงวาระเวลาที่จะส่งผลก็ตาม!”

 

-แชร์เรื่องราวการชี้แนะจากจิตญาณ ให้แก่ผู้ถามคือสามีชาวสวีเดนของหญิงไทยคนหนึ่ง.​

จิตญาณชี้แนะโจนาทานว่า “จากที่เราได้ตรวจญาณวิสัยพิจารณาดูในเรื่องราวของสามีเธอคนนี้ เราอยากจะชี้แนะแก่ชายคนนี้ว่า วันใดที่เขามีโอกาสได้บวชในบวรพุทธศาสนาเป็นพระภิกษุสงฆ์แล้ว ขอให้เขาจงตั้งใจปฏิบัติฝึกฝนจิตตนให้มาก! เขาจะได้ดวงตาเห็นธรรมตามบารมีเดิมของเขา แม้เขาชาตินี้เกิดมาเป็นคนต่างชาติ แต่จากที่เราเห็นในภพชาติอดีตนั้น ตัวเขาก็เคยเกิดเป็นคนไทยมาหลายชาติ และเคยนับถือพระพุทธศาสนามาแต่ในอดีต ชาตินี้เขาจึงกลับมาผูกเกี่ยวได้ภรรยาคนไทย รวมทั้งมีโอกาสได้ทำบุญในบวรพระพุทธศาสนาอีกครั้ง

ในอดีตแม้เขาเคยเชื่อว่า มนุษย์เป็นเมล็ดพันธุ์มาจากนอกโลก มิได้มีกำเนิดมาจากวิวัตนาการของลิงแต่อย่างใดและในอดีตเขายังเชื่อว่า เมื่อมนุษย์ทุกคนตายไปแล้วก็สูญสลายกลับคืนสู่ธรรมชาติ(ไม่มีภพชาติหรืออดีตชาติ) แต่พอเขามาพบเจอและได้เรียนรู้ศึกษาเพิ่มเติมในเรื่องพระพุทธศาสนา ก็ทำให้ความเชื่อเดิมของเขาได้เปลี่ยนไปไม่เหมือนเดิม! โดยพระพุทธศาสนาสั่งสอนว่า มนุษย์ทุกคนเมื่อตายจากโลกใบนี้ไปแล้ว ย่อมหลงเหลือดวงจิตวิญญาณอยู่บนโลกแต่อยู่อีกมิติหนึ่ง มนุษย์ไม่ได้สูญสลายไปจริง! แต่เขายังสงสัยและมีคำถามว่า การทำบุญในความเชื่อของพระพุทธศาสนานั้น เมื่อได้กระทำบุญใดไปแล้ว บุญเหล่านั้นจะมีการส่งผลได้จริงแก่เราเองในภพชาติปัจจุบัน รวมถึงส่งผลไปยังภพชาติหน้าได้จริงเหรอ? ตัวเขารู้สึกแปลกใจในคำสอนของพระพุทธศาสนาที่เขาได้เรียนรู้ในช่องทางต่างๆมา เขาจึงมีความสนใจและอยากลองเข้าไปศึกษาเรียนรู้พระพุทธศาสนาจริงๆด้วยตนเอง เผอิญว่า พระอาจารย์ท่านหนึ่งชวนเขาบวช เขาเห็นเป็นโอกาสดีที่จะได้พิสูจน์ด้วยตัวของเขาเอง! ด้วยความใคร่รู้! เขาจึงยินดีและรับปากพระอาจารย์ท่านนั้นว่าจะบวช หลังจากนี้ต่อไป ก็ขอให้เขาจงพิสูจน์ในสิ่งที่ตัวเขาสงสัยด้วยตัวของเขาเองเถิด!”

 

-แชร์ธรรมทานเรื่อง “พระโพธิสัตว์กวนอิมส่งเธอมาเรียนรู้สุขทุกข์ในโลกมนุษย์ และสั่งสมบารมีธรรม”​

จิตญาณชี้แนะว่า “วันนี้เราจะบอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับอดีตชาติหนึ่งของหญิงผู้นี้ให้ตัวท่านวิทย์ได้รับฟัง เพื่อให้ท่านนำไปเขียนเป็นธรรมทาน เราขอเล่าเรื่องเลยแล้วกัน..

ในชาติสมัยหนึ่งของหญิงท่านนี้ที่ย้อนถอยกลับไปในยุคของราชวงศ์หนึ่ง ซึ่งราชวงศ์นี้ไม่ใช่ราชวงศ์ไทย แต่เหตุการณ์ทั้งหมดของเธอเกิดขึ้นที่ประเทศจีนแผ่นดินใหญ่ ในชาติสมัยนั้นตรงกับราชวงศ์ถังของชาวจีน ในชาตินั้นเธอคนนี้ได้เกิดมาในวงศ์ตระกูลของขุนนางท่านหนึ่ง ซึ่งขุนนางท่านนี้เป็นขุนนางที่ฝักใฝ่ในลัทธิประชานิยม ซึ่งลัทธินี้มุ่งเน้นให้ประชาชนมีสิทธิ์มีเสียงในการปกครองประเทศ ซึ่งก็คล้ายกับประชาธิปไตยในยุคสมัยนี้ ด้วยวงศ์ตระกูลของเธอค่อนข้างจะมีสิทธิ์มีอำนาจในระบอบการปกครองในยุคราชวงศ์ถัง แต่น่าเสียดาย! มีคนรักก็ย่อมมีคนเกลียดเป็นเรื่องธรรมดาของโลกมนุษย์ ขุนนางฝ่ายตรงข้ามที่มีแนวคิดการปกครองที่เห็นต่างจากวงศ์ตระกูลของเธอ จึงกลั่นแกล้งใส่ร้ายให้วงศ์ตระกูลของเธอมีความผิดในฐานก่อกบฏต่อราชวงศ์ถัง สุดท้ายฝ่ายตรงข้ามก็ใส่ร้ายสร้างหลักฐานเท็จจนสำเร็จ! วงศ์ตระกูลของเธอจึงถูกสั่งประหารเสียสิ้นทุกชีวิต! ไม่เว้นแม้แต่คนรับใช้ในวงศ์ตระกูลนี้..

หลังจากชาตินั้นที่เธอตายไป เธอก็ไปจุติยังแดนสุขาวดี(พุทธเกษตร)ที่ซึ่งเป็นสวรรค์ในอีกจักรวาลหนึ่ง โดยจักรวาลนั้นมีพระอมิตาภพุทธเจ้าเป็นดั่งผู้ดูแลทุกสิ่งในห้วงแห่งจักรวาลนั้น แต่พอเธอได้ไปเกิดเป็นเทพธิดาหรือนางฟ้าเพียงไม่นาน! เธอก็ถูกบัญชาจากพระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์หรือพระโพธิสัตว์กวนอิม ส่งเธอมาเกิดในโลกมนุษย์อีกครั้ง เพราะท่านอยากให้เทพธิดาองค์นี้ได้ลงไปยังโลกมนุษย์ เพื่อที่จะเรียนรู้ในสุขทุกข์ต่างๆของมนุษย์ให้มาก! เพื่อการสั่งสมบารมีธรรมของเธอ! ฉะนั้น ในดวงจิตลึกๆของเธอ จากที่เราเห็นในญาณ ในดวงจิตเธอมีกระแสพระญาณขององค์พระโพธิสัตว์กวนอิมสถิตอยู่ที่ภายใน! ครั้นเวลาที่ตัวเธอหลับลึกถึงก้นบึ้งของดวงหทัย เธอจะนิมิตฝันเห็นองค์แม่องค์นี้อยู่โดยตลอด สิ่งที่เราเล่ามาทั้งหมดก็เป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น”
——————————
จิตญาณบอกว่า “ท่านวิทย์ มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์จีนทางฝั่งเธอมาขอสื่อจิตกับตัวท่าน..

*ตอนแรกท่านคุยจีนมา แต่จิตญาณบอกให้คุยภาษาจิต จะได้สื่อไม่ผิดพลาด!..

เฉินฮั้นฟง(ชื่อภาษาจีนของผม) เราคือพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร เราอยากไหว้วานตัวท่านให้ช่วยนำข้อความจากเรา ไปช่วยบอกให้แก่สตรีนางนี้ได้รับรู้!

-ข้อความ-
เราผู้เป็นดั่งแม่ผู้บังเกิดเกล้าของเธอ มีความห่วงใยในการใช้ชีวิตในช่วงนี้ของเธอยิ่งนัก! แต่เราก็ไม่สามารถยื่นมือเข้าไปช่วยได้! เพราะเราอยากให้เจ้าได้เรียนรู้ว่า กว่าจะสร้างบารมีธรรมจนสำเร็จนั้น มิใช่เรื่องง่ายเลย! จำเป็นต้องเกิดแล้วตายนับชาติไม่ถ้วน! การเกิดเป็นทุกข์เราย่อมรู้! แต่ความทุกข์ทั้งหลายจะคอยบ่มเพาะให้เจ้าได้แข็งแกร่งขึ้นมาได้! ฉะนั้น ถ้าเรายื่นมือเข้าไปช่วยเจ้า เจ้าก็จะไม่เรียนรู้ในความทุกข์ที่เผชิญนั้น! ปัญญาของเจ้าก็จะไม่เกิด! เราหวังว่า เจ้าจะเข้าใจในเจตนาของเราที่มีต่อเจ้า!”
——————————
-ข้อมูล : “ราชวงศ์ถัง”
https://th.m.wikipedia.org/wiki/ราชวงศ์ถัง

-ข้อมูล : “สุขาวดี”
https://th.m.wikipedia.org/wiki/สุขาวดี

-ข้อมูล : “พระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์หรือพระโพธิสัตว์กวนอิม”
https://sites.google.com/site/pramaha2521/phra-phothi-satw-xw-loki-te-swr

-ข้อมูล : “กิมท้ง เง็กนึ้ง หรือ เด็กชายหญิงที่ยืนข้างพระโพธิสัตว์กวนอิม”
http://watchanara.blogspot.com/2013/12/blog-post_9996.html?m=1

 

วันนี้ผมเห็นข่าวหลวงพ่อวิริยังค์ละสังขาร ซึ่งผมก็เคยได้ยินชื่อเสียงท่านมาบ้าง และจิตญาณจึงให้ผมลงข่าวนี้และให้ผมเขียนข้อความตามนี้ว่า “ท่านหลวงพ่อวิริยังค์ ท่านมิใช่เป็นพระภิกษุสงฆ์ธรรมดาทั่วไปอย่างที่ตัวท่านวิทย์เข้าใจท่านถือเป็นพระอริยสงฆ์ผู้เจริญรูปหนึ่ง ในสมัยที่พระรูปนี้ดำรงขันธ์อยู่! นอกจากท่านจะทำคุณไว้มากมายในบวรพระพุทธศาสนาแล้ว ท่านยังเป็นพระผู้ให้อย่างแท้จริง! จวบจนท่านละสังขารลงไป! เราจึงอยากให้ท่านวิทย์นำข้อความของเราเขียนลงไปพร้อมกับข่าวสารที่หลวงพ่อวิริยังค์ท่านละสังขาร! เราเพียงให้เขียนเพื่อสดุดีในคุณความดีของพระรูปนี้”

-ข่าว : “หลวงพ่อวิริยังค์” ละสังขารสิริอายุ 100 ปี
https://liff.line.me/1454988218-NjbXbq18/v2/article/npXegg?utm_source=copyshare

 

-แชร์ธรรมทานเรื่อง “เธอผู้ปรารถนาพุทธภูมิ และเคยเกิดเป็นสาวกของพระกัสสปพุทธเจ้า”​

จิตญาณชี้แนะว่า “ในอดีตชาติหนึ่งของหญิงคนนี้ ในชาตินั้นตัวเธอเคยกำเนิดเกิดเป็นสาวกของพระตถาคต ในชาติดังกล่าวเธอไม่ได้เกิดเป็นหญิง แต่เธอเกิดเป็นชายชาติทหารที่มีหน้าที่ดูแลปกป้องบ้านเมืองในยามนั้น แต่ในชาติสมัยนั้นเป็นยุคที่มีพระพุทธเจ้าได้บังเกิดขึ้นในโลกธาตุแห่งนี้ ซึ่งพระพุทธเจ้าพระองค์นั้น ท่านมีพระนามว่า “พระกัสสปพุทธเจ้า” ท่านเป็นพระพุทธเจ้าในภัทรกัปป์นี้ ในเวลานั้น พระพุทธองค์ทรงเสด็จผ่านมายังบ้านเมือง ที่ชายชาติทหารคนนี้กำลังลาดตระเวนยามอยู่ พอชายทหารคนนี้เผอิญได้เดินผ่านไปแถบบริเวณที่ พระพุทธองค์กำลังแสดงธรรมเทศนาให้แก่ชาวบ้านฟังอยู่!

ด้วยความอยากรู้ว่า ชายแปลกหน้าคนนี้พร้อมผู้ติดตามกำลังพูดอะไรให้กับชาวเมืองฟังอยู่ ตัวเขาจึงเข้าไปร่วมรับฟังในระยะใกล้ๆด้วย ชายทหารคนนี้ได้ฟังที่ชายแปลกหน้าคนนี้หรือก็คือพระกัสสปพุทธเจ้าแสดงธรรมอยู่นานพอสมควร ขณะที่เขากำลังฟังธรรมเทศนาจากพระตถาคต ความรู้สึกอย่างหนึ่งที่เกิดขึ้นมาในดวงจิตของเขาในขณะฟังธรรม! นั่นคือ “ความปิติอิ่มเอิบใจหรือความสุขล้น” เป็นอารมณ์ความรู้สึกที่เขาไม่เคยเป็นมาก่อน! ตั้งแต่เขาเกิดมา! ชายทหารหนุ่มคนนี้จึงปักใจเชื่อว่า ชายแปลกหน้าคนนี้อาจจะเป็นผู้วิเศษ! หลังจากที่พระพุทธองค์ทรงแสดงธรรมเสร็จสิ้น เขาจึงเดินเข้าไปหาพระพุทธองค์ และเอ่ยปากถามตรงๆว่า

ชายทหาร : ท่านเป็นใคร? มาจากที่ไหนกันเล่า?
พระพุทธองค์ : เราเป็นผู้บำเพ็ญพรตมาจากแดนไกล!
ชายทหาร : แล้วพวกท่านมาที่เมืองแห่งนี้ มีจุดประสงค์สิ่งใดกัน?
พระพุทธองค์ : พระพุทธองค์นิ่งไปสักครู่! และตอบแก่ชายทหารคนนี้ว่า เราเพียงเดินทางผ่านมา! ไม่ได้มีกิจธุระสำคัญอะไรในเมืองแห่งนี้!

พอเขาได้รับฟังคำตอบจากชายแปลกหน้าคนนี้ ในใจเขาก็คิดสงสัยว่า ชายแปลกหน้าและคณะมีพฤติกรรมที่น่าสงสัย! เขาจึงคุมตัวคนทั้งหมดไปไตร่สวนเพื่อหาความจริง! กลุ่มคณะของพระตถาคตถูกกักบริเวณไม่ให้ไปไหนอยู่แรมเดือน! จนชายทหารคนนี้หมดข้อสงสัยในตัวของพระตถาคตและคณะ ก่อนที่ชายแปลกหน้าคนนี้หรือพระตถาคตและคณะจะเดินทางออกไปจากบ้านเมืองนี้ พระตถาคตได้เอ่ยวาจาชักชวนให้ชายทหารหนุ่มคนนี้ร่วมเดินทางไปกับพระองค์ด้วย! ซึ่งในระยะเวลาหลายเดือนที่ชายทหารหนุ่มคนนี้ ได้มาคลุกคลีสนทนาเรื่องราวต่างๆหรือจะเรียกว่า สนทนาธรรมกับพระตถาคต ในช่วงเวลาดังกล่าวพระพุทธองค์ก็ทรงแสดงธรรมให้แก่ชายคนนี้ได้รับรู้! จนชายทหารหนุ่มคนนี้หมดข้อกังขาใดๆกับพระตถาคต! จนปล่อยพระพุทธองค์และคณะออกมา..

หลังจากที่ชายทหารหนุ่มคนนี้ ถูกเอ่ยวาจาชักชวนให้เดินทางติดตามคณะของพระพุทธองค์ไปด้วยกัน! ชายทหารหนุ่มคนนี้ก็ไม่ลังเลใจแต่อย่างใด! เขาได้ลาออกจากการเป็นทหารในบ้านเมืองนั้น และเดินทางติดตามพระพุทธองค์ไปทุกที่! จนสุดท้ายชายหนุ่มคนนี้ก็ได้เข้าถึงธรรมขั้นสูง! เข้าถึงจิตอันเป็นอริยะ! พอเขาสิ้นลมจากชาติภพนั้น ตัวเขาก็ได้ไปบังเกิดเป็นพรหมชั้นสูงในชั้นพรหมสุทธาวาส และตัวชายคนนี้ก็ได้เคยตั้งปณิธานในภพชาติที่ได้พบพระกัสสปพุทธเจ้าว่า “ตัวเขาปรารถนาที่จะเป็นพระพุทธเจ้าพระองค์หนึ่งในอนาคตกาลเฉกเช่นพระกัสสปพุทธเจ้า(ปรารถนาพุทธภูมิ)” ดังนั้น ในดวงจิตของชายผู้นี้จึงมีกระแสพระญาณบารมีของพระกัสสปพุทธเจ้าดำรงสถิตอยู่ในทุกภพชาติ! จนกว่าตัวเขาจะสำเร็จในปณิธานของเขา! หรือจนกว่าตัวเขาจะเข้าสู่พระนิพพาน!

เรื่องราวเหตุการณ์ข้างต้น เป็นสิ่งที่เรารับรู้มาผ่านการตรวจในดวงญาณทัศนะของเรา หญิงคนนี้จักเชื่อหรือไม่! เราไม่ได้ให้ความสำคัญ! แต่เราอยากให้ไว้เป็นธรรมทานเรื่องหนึ่งสำหรับผู้เจริญธรรมทั้งหลาย รวมถึงให้แก่พุทธศาสนิกชนชาวไทยที่รักในพระพุทธศาสนา ให้ทุกคนได้รู้ว่า ภพชาตินั้นมีจริง! การสั่งสมบารมีธรรมของผู้เจริญธรรมทั้งหลายนั้นก็ล้วนมีจริง! คำสั่งสอนของพระตถาคตนั้นเป็นจริง! แม้กาลเวลาก็มิอาจลบเลือนในคำสอนของพระพุทธองค์ไปได้! เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ธรรมทานจากเราในเรื่องนี้จะเป็นประโยชน์แก่สาธุชนทั้งหลายเทอญ”

-ข้อมูล : “พระกัสสปพุทธเจ้า”
https://th.m.wikipedia.org/wiki/พระกัสสปพุทธเจ้า

 

-แชร์ธรรมทานเรื่อง “การทำความดีด้วยใจที่เป็นผู้ให้ ไม่ว่าจะให้เป็นสิ่งของเงินทองหรือให้โอกาส ก็ถือเป็นการทำบุญอย่างหนึ่ง”
​

 

-แชร์ธรรมทานเรื่อง “ผู้ใช้ปัญญาในการทำบุญ”
​

 

-แชร์ธรรมทานเรื่อง “ผู้มีวาสนาในอาชีพค้าขายเกี่ยวกับดอกไม้นานาพันธุ์”​

จิตญาณชี้แนะว่า “ในสิ่งที่เราจะชี้แนะแก่เธอคนนี้ เราคิดพิจารณาแล้ว เราจะชี้แนะเธอเกี่ยวกับการใช้ชีวิตของเธอผู้นี้ สิ่งที่เราจะชี้แนะ คือ เราควรกระทำตนอย่างไรในสภาวะเหตุการณ์บางอย่างที่เกิดขึ้นกับเรา ชีวิตคนเราถึงแม้มันไม่ง่าย! ไม่ว่าเราจะคิดพูดหรือกระทำอะไรไป! มันก็เหมือนไม่ถูกใจกับบางคนในบางสถานการณ์! อันดับแรกโปรดจงดำรงสติมั่น! เพื่อตั้งรับกับสถานการณ์อันไม่พึงประสงค์ที่อาจจะเกิดขึ้นได้! เมื่อมีสติแล้วเราต้องมีปัญญาที่ดีรอบคอบในการจัดการกับปัญหาเหล่านั้น! แต่เมื่อปัญหาที่เผชิญนั้นไม่สามารถที่เราจะแก้ไขให้ได้สำเร็จลุล่วงลงได้ ก็จงยอมรับในสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น! ถึงแม้เราจะพยายามแสดงรอยยิ้มออกมาให้เห็น ส่วนในใจเรากำลังร้องไห้ก็ตาม! เพราะชีวิตก็เป็นเช่นนี้มีสุขก็ย่อมมีทุกข์เป็นธรรมดาของโลกใบนี้ เราขอเป็นกำลังใจให้แก่เธอ ขอจงใช้ชีวิตให้เป็น! ตั้งอยู่บนความไม่ประมาท! สุขทุกข์อยู่ที่ใจ! ไม่มีใครรักเรา เราจงรักตนเองให้มากก็พอ!

จากที่เราตรวจในภพชาติของเธอคนนี้ อีกสิ่งที่เราอยากชี้แนะแก่เธอ เป็นเรื่องในวาสนาที่เธอควรดำเนินไป! ครั้งหนึ่งในอดีตชาติเราพบว่า เธอคนนี้เคยกระทำสัมมาอาชีพในเรื่องการปลูกดอกไม้ส่งขาย! เป็นอาชีพที่สุจริต! และสามารถเติบโตได้อย่างยั่งยืนเลยทีเดียว! มือของเธอจะต้องจับพวกดอกไม้นานาพันธุ์! จึงจะถูกกับบุญวาสนาเดิมของเธอที่เคยมีมา! ลองนำสิ่งที่เราชี้แนะไปพิจารณาเถิด!”

 

-แชร์ธรรมทานเรื่อง “หัวใจของการไหว้บูชาในสิ่งศักดิ์สิทธิ์และสิ่งที่มองไม่เห็นต่างๆ”​

*คำถาม*
พี่วิทย์คะ หนูขอสอบถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับการไหว้พระที่บ้านหน่อยค่ะ

1. จำเป็นไหมที่ต้องไหว้พระพุทธรูปในบ้านทุกวัน (จุดธูป+เปลี่ยนน้ำ)
2. จำเป็นไหมที่ต้องไหว้เจ้าที่ในบ้านทุกวัน (จุดธูป5ดอก+ชงน้ำชา)
3. จำเป็นไหมที่เราต้องจุดธูปไหว้พระแม่ธรณีทุกวัน

คือหนูไม่เคยทำพวกนี้มาก่อน แต่พอดีมีเหตุเลยต้องทำ แต่เกิดความสงสัยว่า เราจำเป็นต้องไหว้ท่านทุกวันหรือไม่ หรือว่าทำแค่วันสำคัญก็พอ และสิ่งที่ทำอยู่ในปัจจุบัน มีสิ่งไหนที่ทำไม่ถูกต้องรึเปล่า หรือพระในบ้าน และเจ้าที่ในบ้าน อยากให้หนูทำอะไรให้เพิ่มเติมไหม เพราะทุกวันนี้เหมือนหนูทำตามคำบอกเล่าต่อกันมา หนูไม่รู้ว่าสิ่งที่หนูทำนั้นมันถูกไหม และถึงท่านๆรึเปล่าอะ
————————————
*คำตอบ*

จิตญาณตอบว่า “ข้อนี้ เราให้ท่านวิทย์ตอบแทนเรา”

พี่แนะนำว่า “สิ่งไหนดีเราก็ควรน้อมนำปฏิบัติหรือกระทำเป็นประจำ แต่จะถามว่า ควรทำเป็นประจำทุกวันไหม? สำหรับเรื่องการไหว้ในสิ่งต่างๆนั้น พี่มองว่า การไหว้เป็นการแสดงความนอบน้อมของใจมนุษย์ แต่การไหว้ที่ดีควรไหว้จากใจที่เคารพจริงๆ ส่วนการจะจุดธูปหรือถวายส่ิงของใดๆนั้น ไม่จำเป็นต้องถวายทุกวันหรือบ่อยๆก็ได้ ให้ถวายตามโอกาสตามความรู้สึกและความสะดวกของเราจะดีกว่า! หรือถวายในวันสำคัญต่างๆในทางพุทธศาสนาก็ได้ ไม่มีสิ่งใดผิดหรือถูก! ขอให้เราทำด้วยใจก็พอ! ตามสื่อต่างๆเขาก็เขียนสร้างเรื่องราวให้เราเชื่อ! แต่อย่าลืมว่า ถ้าเราทำไปโดยไม่มีใจที่เคารพบูชาไม่ศรัทธาจริง! สิ่งศักดิ์สิทธิ์หรือสิ่งที่มองไม่เห็นต่างๆท่านจะรับรู้ได้! จงอย่าทำไปตามคำบอกเล่าโดยขาดการพิจารณาที่ดีของเราหรือถ้าเราไม่คิดอยากทำจริงๆ เพราะทุกอย่างมีใจเป็นสำคัญ! ศาสนาพุทธเป็นศาสนาแห่งการสอนให้เราใช้สติปัญญาที่ดี! มิใช่ศาสนาแห่งความเชื่อที่ขาดการพิจารณา!”

 

-แชร์เรื่องราว “ข้าเก่าเต่าเลี้ยงของพระเจ้าตากสิน”​

จิตญาณชี้แนะว่า “จากที่เราได้ตรวจญาณวิสัย เราพบว่า ชายคนนี้เขาควรไปกราบสักการะพระเจ้าตากสินในจังหวัดใดก็ได้ เพราะทุกรูปปั้นของพระเจ้าตากสินจะมีกระแสพระญาณบารมีของพระองค์ท่านสถิติอยู่! เพราะในอดีตชาติยุคหนึ่ง ตัวเขาเคยเกิดเป็นข้ารับใช้ในพระองค์ท่านมาแต่เก่าก่อน และชายคนนี้ควรหมั่นบูชาและระลึกถึงพระองค์ท่านอยู่เป็นประจำ! สำหรับการชี้แนะของชายคนนี้ก็มีเพียงเท่านี้”

-ข้อมูล : “สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี หรือ สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช”
https://th.m.wikipedia.org/wiki/สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี

 

••— บันทึกความทรงจำเรื่อง “การทำบุญฝากหนุนดวงชะตาชีวิตที่ศาลเจ้าพ่อเห้งเจีย พิษณุโลก —••
(.. เขียน 30 ธันวาคม 2563 ..)​

หลังจากที่ผมได้ไปทำบุญฝากหนุนดวงชะตาไว้ที่โรงเจไซทีฮุกตึ๊ง ศาลเจ้าพ่อเห้งเจีย บนเขาสมอแคลงจังหวัดพิษณุโลก(โคมไฟสีแดงฝากหนุนดวงชะตา) พอผมก้าวเท้าเดินออกจากศาลเจ้าพ่อเห้งเจีย ผมก็รู้สึกปวดหัว! และได้เผลอหลับไปบนรถไม่รู้ตัว! พอกลับถึงบ้าน ด้วยความปวดหัวจึงล้มตัวลงนอนไป 2 ชมกว่า พอผมตื่นมา ผมรู้สึกว่า มันแปลกๆ ผมเชื่อว่า น่าจะเกี่ยวกับการที่ผมไปฝากดวงชะตาที่ศาลเจ้า! เพราะทุกครั้งที่ผมกลับบ้านต่างจังหวัด ผมก็แวะไปทำบุญที่ศาลเจ้าแห่งนี้ทุกครั้ง แต่ผมก็ไม่เคยมีอาการมาก่อน! แต่ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ผมได้ทำบุญฝากดวงชะตากับทางศาลเจ้า ผมจึงเชื่อว่า อาจเป็นเพราะสาเหตุนี้จึงทำให้ผมปวดหัวและอยากจะนอน! ผมจึงสอบถามจิตญาณว่า มันเกิดอะไรขึ้นกับผม?

ซึ่งจิตญาณได้ชี้แนะว่า “หลังจากที่ท่านวิทย์ไปทำการฝากหนุนดวงชะตาที่ศาลเจ้าจีนแห่งนั้น พอหลังจากที่ท่านเดินทางออกจากศาลเจ้า ก็มีเทพจีนองค์หนึ่งท่านได้ส่งมวลพลังงานเข้าสู่ร่างกายของท่านวิทย์ จนทำให้ท่านวิทย์หลับไปโดยไม่รู้ตัว! และเกิดอาการปวดศรีษะตามมา! แต่ภายหลังมวลพลังงานดังกล่าวก็ถูกกระแสพลังบารมีของเหล่าองค์บรมครูของท่านวิทย์ทำการค่อยๆชะล้างให้หมดไป!”

และจิตญาณชี้แนะเพิ่มเติมว่า “ในเรื่องที่ท่านถามเกี่ยวกับเรื่องราวการฝากในดวงชะตาที่ศาลเจ้าทางจีน เราเห็นว่า เรื่องแบบนี้ก็เป็นเรื่องทั่วไปที่แต่ละศาสนามีกัน ไม่ได้เป็นเรื่องราวแปลกใหม่อะไร! แต่ถ้าจะให้เราอธิบายแล้วละก็ ในส่วนทางจีน เราไม่สามารถอธิบายได้ชัดเจนเท่าใด ส่วนในทางไทยนั้น เราสามารถจะอธิบายได้ดังนี้

การฝากในดวงชะตาชีวิตให้กับเทพเทวาหรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในแต่ละสถานที่ได้ช่วยดูแลหรือช่วยหนุนดวงชะตาของคนนั้นมิให้เกิดภัยอันตรายร้ายแรง! ยังรวมถึงช่วยเหลือในด้านต่างๆของชีวิต! การหนุนดวงชะตาชีวิตลักษณะดังกล่าวนี้ ก็เป็นอุบายหนึ่งในการทำบุญของแต่ละสถานที่ แต่ทว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในแต่ละสถานที่จะช่วยเหลือได้มากหรือน้อยเท่าใด ก็ขึ้นอยู่กับบาปกรรมที่เป็นพื้นฐานของชีวิตมนุษย์ในแต่ละผู้นาม ในกรณีของตัวท่านวิทย์ที่ได้ทำการฝากในดวงชะตาให้แก่เทพจีนดูแลรักษาในวันนั้น ถึงแม้ท่านวิทย์จะได้ร่วมบุญฝากในดวงชะตาไว้! แต่ทว่า ด้วยดวงชะตาในชีวิตของท่าน ณ ตอนนี้ ได้อยู่ในความดูแลขององค์บรมครูท้าวมหาพรหมชิณณะปัญชะระเป็นที่เรียบร้อยแล้ว! ดังนั้น ถึงแม้ท่านจะไปฝากดวงชะตาในสถานที่ใดก็ตาม! สุดท้าย ดวงชะตาของท่านวิทย์ก็ยังขึ้นอยู่กับองค์ท้าวมหาพรหมท่านอยู่ดี! ตอนนี้ท่านวิทย์คงกระจ่างในเรื่องการฝากหนุนดวงชะตาแล้วนะ”

-ข้อมูล : “โรงเจไซทีฮุกตึ๊ง ศาลเจ้าพ่อเห้งเจีย”
https://thailandtourismdirectory.go.th/th/info/attraction/detail/itemid/460

 

-แชร์ธรรมทาน เรื่อง “การทำทานไถ่ชีวิตสรรพสัตว์ สามารถช่วยบรรเทาเหตุการณ์เลวร้ายในกาลข้างหน้าได้”​

จิตญาณชี้แนะว่า “สิ่งที่เราจะบอกเกี่ยวกับชายผู้นี้ คือ ในตอนนี้ชายคนนี้กำลังโดนคนจ้องจะทำร้ายในหน้าที่การงานของเขาอยู่! จากที่เราเห็น ในอนาคตเขาอาจโดนใส่ร้าย! สิ่งที่เราจะชี้แนะ ก็คือ จากนี้ไปขอให้ชายคนนี้จงหมั่นทำทานประเภทการไถ่ชีวิตสรรพสัตว์! ไม่ว่าสัตว์เล็กหรือใหญ่ ขอให้เขาหมั่นทำให้เป็นประจำ! พละกำลังของบุญชนิดนี้จะสามารถช่วยเหลือบรรเทาในเหตุการณ์อันเลวร้ายในกาลข้างหน้าของเขาได้ จากหนักก็บรรเทาลงส่วนหนึ่งได้!”

จิตญาณบอกเพิ่มเติมว่า “การไถ่ชีวิตสัตว์ หมายถึง การให้อิสระแก่สัตว์จากการโดนคุมขัง!,การให้ชีวิตแก่สัตว์ได้รอดพ้นจากความตาย! รวมถึงให้การรักษาเยียวยาสัตว์ที่เจ็บป่วย! การไถ่ชีวิตสัตว์นั้น ในความหมายที่แท้จริงนั้น มิได้มีความหมายเพียงแค่การให้ชีวิตแก่สัตว์เท่านั้น! แต่หมายรวมถึง การให้การเยียวยาให้สรรพสัตว์ได้รอดพ้นจากความเจ็บป่วยและความตาย!”