ไสยขาว ไสยดำ

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย peachgirl, 29 พฤศจิกายน 2004.

  1. peachgirl

    peachgirl บุคคลทั่วไป

    ค่าพลัง:
    +0
    ขอโทษนะคะ ไม่ทราบว่าคุณพอรู้เกี่ยวกับด้านไสยขาวบ้างมั้ยคะ
    คือดิฉันอยากทราบว่า ไสยขาวเนี่ย ยังมีพวกน้ำมันอยู่ในการทำพิธีด้วยเหรอคะ
    แล้วไสยขาวมีทำเสน่ห์ด้วยหรอคะ ตอบหน่อยเถอะนะคะ หนูกลัวโดนหลอกค่ะ
    แล้วถ้าหนูทำไสยขาวไปแล้ว จะมีโอกาสที่คนอื่นมาทำไสยดำใส่มั้ยคะ ขอบคุณมากนะคะ
    หนูยอมรับค่ะว่าอ่านเวบนี้แล้วสบายใจขึ้นมาก หนูแนะนำไปหลายท่านแล้วค่ะ
    ถ้าคุณไม่รู้ พอรู้บ้างมั้ยคะว่าจะมีเวบไหนเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้บ้าง รบกวนหน่อยนะคะ ขอบคุณค่ะ
     
  2. อโณทัย

    อโณทัย บุคคลทั่วไป

    ค่าพลัง:
    +0
    ไสยขาว ไสยดำ นั้นเรามากำหนดกันเองหรอกครับ ว่าไสยดำหมายความว่าเป็นเรื่องไสยศาสตร์ที่ไม่ดี เน้นไปทำร้ายคนอื่น ไสยขาวหมายถึงไสยศาสตร์ที่ดีๆ คอยบรรเทาความเดือดร้อนให้คนที่มีความทุกข์
    ..... จริงๆ แล้วก็อย่างเดียวกันแหละครับ ต่างกันที่การนำเอาไปใช้เท่านั้น
    ..... เปรียบเทียบเหมือนมีด มันก็เป็นมีด แต่ถ้าเอามีดไปแทงใคร มีดก็เป็นสิ่งไม่ดี แต่ถ้าเอาไปปอกผลไม้ ก็เป็นสิ่งที่มีประโยชน์
    ..... คนที่เรียนไสยศาสตร์ จำเป็นต้องเรียนทั้งไสยขาวและดำ
    ..... คนชั่วเรียนไปเพื่อรู้ว่าต้องทำอย่างไร เรียนไสยดำก็เอาไปทำร้ายคนอื่น แต่ต้องเรียนไสยขาวก็คือการถอดถอน การป้องกัน การบรรเทาทุกข์ ก็เผื่อว่าทำไสยดำให้คนอื่นเดือดร้อนแล้ว พอได้รับ "อามิสสินจ้าง" ก็ถอดถอนให้
    ..... คนดีเรียนไปเพื่อรู้ว่าต้องทำอย่างไร เรียนไสยดำเพื่อรู้กระบวนการว่ามันทำอย่างไร จะได้แก้ไขถูก เรียนไสยขาวไว้ก็เพื่อช่วยเหลือคน บรรเทาความเดือดร้อนให้คนมีความทุกข์
    ..... ส่วนประกอบของพิธีกรรมนั้น ไม่เหมือนกัน แตกต่างกันตามความรู้ที่เรียนมา และวัตถุประสงค์ของแต่ละเรื่อง
    ..... น้ำมันมะพร้าวก็เป็นส่วนประกอบหนึ่ง..เท่านั้น แต่ไม่จำเป็นต้องใช้ทุกพิธีกรรม
    ..... ไสยศาสตร์ (ไม่ว่าจะขาวหรือดำ) เน้นความเชื่อ (โดยไม่จำเป็นต้องมีเหตุผลประกอบ) ความลุ่มหลง ความมั่นคงในคำสอนหรือคำบอกต่อ เน้นเรื่องวิ__าณและเรื่องของสิ่งที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า เน้นคาถา อาคม ฯลฯ
    ..... ผู้ที่ยุ่งเกี่ยวกับเรื่องของไสยศาสตร์ ไม่ว่าจะเป็นขาวหรือดำ ชีวิตจะไม่มีความสุขกายสบายใจ หรือจิตที่สงบเยือกเย็น
    ..... คนที่ทำไสยดำ แน่นอน เอาวิชาความรู้ไปทำร้ายคนอื่น จะมีความสุขกาย สบายใจได้อย่างไร
    ..... ส่วนคนที่ใช้ไสยขาว ก็ต้องคอยมานั่งแก้ไขให้คนอื่น เรื่องของคนอื่น ตัวเองต้องมานั่งคอยแก้ให้ จะเอาเวลาที่ไหนมาทำให้จิตใจสบายอย่างแท้จริง และที่สำคั_คนที่ใช้ไสยขาวจะเป็นที่น่ารังเกียจของคนใช้ไสยดำ เพราะคอยแก้ไขสิ่งที่ไสยดำทำให้เกิด ก็เป็นความโกรธต่อกัน เลยหันมาทำร้ายคนใช้ไสยขาว
    ..... เหนื่อยตายเลย ไหนจะต้องคอยช่วยเหลือคนโดนไสยดำ ไหนจะต้องคอยระวังคนไสยดำมาทำให้เดือดร้อน
    ..... อย่าไปยุ่งเกี่ยวแม้แต่น้อยเลยครับ กับคนที่เป็นทั้งไสยขาว-ไสยดำ
    ..... แฟนไม่รัก เกลียดคนไหน...อย่าไปแก้ด้วยไสยศาสตร์เลย ไม่มีทางแก้ไขได้จริงๆ อย่างมากก็แค่แก้ไขได้เพียงเฉพาะหน้า แก้ถาวรไม่ได้หรอกครับ
    ..... ต้องแก้ด้วย "ธรรมะ" ครับ ดีที่สุด และแก้ได้ "ตรงจุด" ที่สุด
    ..... คุณบอกว่าช่วยแนะนำสถานที่ หรือเวบที่เกี่ยวเรื่องนี้ให้ด้วย
    ..... ผมไม่โง่พอที่จะแนะนำให้คุณไปตกนรกตายทั้งเป็นหรอกครับ
    ..... เพราะ "เมตตา "หรอกครับ ถึงไม่แนะนำให้
    ..... ต้องแก้ด้วย "ธรรมะ" ครับ ดีที่สุด และแก้ได้ "ตรงจุด" ที่สุด
     
  3. คนเก่า

    คนเก่า เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    1,355
    ค่าพลัง:
    +15,053
    ไสยขาว มักหมายถึงพุทธศาสตร์ ไม่มีโทษ ไม่มีภัย

    ถ้าไสยดำ จึงมีโทษ แต่ด้วยจิตที่คิดไม่ดี ไม่เป็นกุศล กำลังจิตจึงสู้พุทธศาสตร์ไม่ได้ คนที่รักษากำลังใจ ด้วยศีล ด้วยการปฏิบัติภาวนากรรมฐานเป็นปกติ ไสยดำทำอะไรไม่ได้ บางทีเพียงเดินผ่านก็สลายตัว

    เพียงมีพระเครื่อง หรือวัตถุมงคล ที่มั่นใจว่าอาจารย์ผู้สร้าง สร้างด้วยบารมีพระพุทธเจ้า บูชาติดตัวไว้ รู้จักอาราธนา อธิษฐานขอพระคุ้มครองทุกเช้า-เย็น ก็ป้องกันได้สบายๆครับ
     
  4. Kit

    Kit บุคคลทั่วไป

    ค่าพลัง:
    +0
    อันนี้จริง อันนี้จริง

    :cool:
     
  5. casy99

    casy99 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กันยายน 2004
    โพสต์:
    311
    ค่าพลัง:
    +449
    คำว่า "ไสย" แปลว่า "ดำ/มืด" เพราะฉนั้น จะไม่มีคำว่าไสยขาวแน่นอน ไสยศาสตร์ = วิชาที่ดำมืด
     
  6. พฤติจิต

    พฤติจิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ธันวาคม 2004
    โพสต์:
    124
    ค่าพลัง:
    +230
    ไสย แปลว่า ความมืดบอด ------ถูกต้องเลยครับ(ซึ่งหมายถึงศาสตร์ที่เกิดจากโมหะเป็นตัวเหตุ)
    แต่คำว่าไสยศาตร์นั้นมี 3 แบบด้วยกัน
    1.ไสยดำ-----เกิดอกุศลกรรมแน่แท้
    2.ไสยขาว----เกิดกรรมขึ้นแน่แต่อาจจะเป้นทั้งอกุศล/กุศลกรรมได้ทั้งสิ้น
    3.ไสยกลางๆ----ไม่ขาว ไม่ดำ
    ซึ่งทั้ง 3 อย่างล้วนเป็น มิจฉาทิฐฐิครับ ถ้าไม่ยุ่งเงี่ยวได้เป็นดีแต่บางครั้งก็มีการใช้ศาสตร์นี้อยู่ทั้ง ปุถุชน ทั้งผู้ทรงศีล ------โปรดอย่ามองว่า ไสยศาสตร์เป็นเรื่องี่เกี่ยวข้องกับอิทธิฤทธิ์ปาฏิหารใดๆนะครับ เพราะที่เกิดขึ้นมานั้นเป้นเพราะผลแห่ง แรงจากปัจจัย 4 คือกรรม อตุ อาหาร จิต ทำให้เกิด ทำให้มี ถ้าหลุดพ้นแล้วจากขันธ์ 5 ไม่ว่าจะไสยไหนก็ทำอะไรไม่ได้ไม่เกิดผลพระไม่มีที่ลงครับ ส่วนในเรื่องอิทธิปาฏิหารย์ และคุณวิเศษต่างๆนั้นจะมีก็ต่อเมื่อมี วิชชา อภิญญา ปฏิสัมภิททาเกิดขึ้นครับ มันคนละเรื่องกัน หลายคนรวมทั้งผมด้วยครับก็เคยเข้าใจว่าไสยศาสตร์นั้นคือ อะไรที่แบบ เหาะเหิญ เดินอากาสไรเงี้ยครับซึ่งไม่ใช่นะครับเพื่อนๆ
     
  7. นายฉิม

    นายฉิม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กันยายน 2004
    โพสต์:
    2,105
    ค่าพลัง:
    +2,695
    อ่านแล้วมึน นายฉิมขอ ไส(ย)หัวไปละกัน
     
  8. Des

    Des เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    1,264
    ค่าพลัง:
    +303
    55555555 ขำความคิดเห็นข้างบนของนายฉิม
     
  9. พฤติจิต

    พฤติจิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ธันวาคม 2004
    โพสต์:
    124
    ค่าพลัง:
    +230
    แฮะๆๆงงไปกันใหญ่เห็นไหมหละอย่าไปยุ่งกะไสยศาสตร์55555
     
  10. Temper45

    Temper45 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กันยายน 2004
    โพสต์:
    272
    ค่าพลัง:
    +441
    555555555555 นายฉิมนี่มันกวนจริงๆ
     
  11. mikky

    mikky เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    892
    ค่าพลัง:
    +577
    น้อง ๆ โปงลางสะออน บอกว่าเบื่อเรื่องไสย ๆ แล้ว ขอลาไปสีไหดีกว่า
     
  12. Kamen rider

    Kamen rider เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2004
    โพสต์:
    3,773
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +1,998
    เด็กวัยไสย(ศาสตร์) เด็กแนว แห่ง โลกดิจิตอล มันต้อง สนใจควายธนู บูชาไสยศาสตร์ ฉลาดใช้ชีวิต
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 มกราคม 2005
  13. mikky

    mikky เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    892
    ค่าพลัง:
    +577
    อวิชชา แปลว่า ความไม่รู้ ภาษาอังกฤษ เรีกว่า Ignorance ไม่เกี่ยวอะไรกับไสยขาว ไสดำ อะไรเลย (ไม่เกี่ยวกับไห ของโปงลางสะออนด้วย ฮิ ฮิ)

    ถ้าจะเรียกให้ถูกต้องเรียกว่าเป็นเดรัจฉานวิชชา เพราะคำแปลที่คุณบอกว่าเป็นตัวขวางพระนิพพาน อันนี้แปลว่าเดรัจฉานวิชชาครับ เดรัจฉานแปลว่าตัวขวางกั้นครับ พวกสัตว์เดรัจฉานทั้งหลายถูกเรียกว่าสัตว์เดรัจฉานเพราะกระดูกสันหลังของมันอยู่ตามขวาง (คือแนวนอน) กับอีกความหมายหนึ่งคือ ภพภูมิของสัตว์เดรัจฉานเป็นเครื่องกั้นขวางตัวของมันเอง ไม่ให้มีสิทธิ์บรรลุธรรมได้
     
  14. witt

    witt เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กันยายน 2004
    โพสต์:
    208
    ค่าพลัง:
    +551
    อ้างอิจจากพระไตรปิฎกฉบับประชาชน หน้า 52 อวิชชา ความไม่รู้ มีคำอธิบายว่า ได้แก่ไม่รู้ทุกข์ เหตุทำให้เกิดทุกข์ ความดับทุกข์ และข้อปฏิบัติให้ถึงความดับทุกข์ แต่ในที่นี้แม่ความไม่รู้ทั่วๆไปก็ทำให้เกิดความเสียหายได้

    ไสยศาสตร์เป็น ศาสตร์ ทำให้รู้ทุกข์ เหตุทำให้เกิดทุกข์ ความดับทุกข์ และ ข้อปฎิบัติ ให้ถึง ความดับทุกข์ หรือเปล่าล่ะ

    ถ้า ไสยศาสตร์ เป็นศาสตร์ ที่ทำให้รู้ทุกข์ เหตุทำให้เกิดทุกข์ ความดับทุกข์ และ ข้อปฎิบัติ ให้ถึง ความดับทุก ก็ถือว่าเป็น วิชชา ถ้า ไสยศาสตร์เป็น ศาสตร์ ไม่รู้ทุกข์ เหตุทำให้เกิดทุกข์ ความดับทุกข์ และข้อปฏิบัติให้ถึงความดับทุกข์ ถือว่าเป็น อวิชชา

    หวังว่าคงกระจ่างแจ้งน่ะครับ พิจรณากันเอาเองน่ะ
     
  15. DevilBitch

    DevilBitch เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มกราคม 2005
    โพสต์:
    9,776
    ค่าพลัง:
    +36,838
    ครอบครัวของยายผีป่า...

    ฝ่ายแม่...เป็นหมอธรรมฝ่ายไสย์ขาว สามารถฟังภา๋ษาเทพได้โดยไม่ใช่ร่างทรง ไม่มีการสักไม่มีการลงน้ำมัน ภาษาเทพคือภาษาที่พระพุทธเจ้าของเราใช้คือ..มคธ...

    ตอนแรกไม่ทราบ (ไปศึกษาตำราจึงทราบ )...ที่มาคือฟังจนชินเบื้องบนลงมาเสวนาสอนผีบุญที่บ้านเราบ่อยมากพระธุดงค์หลายองค์เวลาผ่านมาก้อแวะมาเสวนาธรรมกับหลวงตาของเรา..(เมื่อยังเป็นปะขาว )...จะพุดมคธได้ทุกท่าน

    เวลานั้นก้อจะบอกตำรับปรุงยาสมุนไพรตามเบื้องบนบอก มนต์ไล่ไข้ไล่ผีร้ายต่างๆ

    ฝ่ายทางพ่อ...เป็นเขมรไสย์ดำ (แบบขอมเก่า)...แปลงร่างเป็นจระเข้เดินเล่นลานบ้านได้ ทำควายธนุเฝ้าสวนได้ เคยมองลอดหน้าต่างห้ามทัก!

    ไสย์ดำของฝ่ายพ่อไม่ใส่ของใครคือแบบนักเลงดี? ไว้ป้องกันตัวและทรัพย์

    ส่วนยายผีป่า...เคยเกิด...เคยครองแถบนั้น!...เกิดมาเฝ้าที่ตายของตัวเอง...ตอนนี้ปลดปล่อยแล้ว ทางราชการขุดขึ้นมาแล้วแต่เค้าเอาไปไว้ไหนไม่ทราบ น้าสาวบอกกรมศิลป์เอาไปทั้งสองศพ...

    เรื่องนี้เหมือนภาพหลอนมาตลอดตั้งแต่จำความได้ เคยบอกใครๆ ให้ขุดเอาขึ้นที! ก้อไม่มีใครเชื่อ!!!

    นี่หล่ะคือที่มาว่าทำไม...ยายผีป่า...ถึงประหลาด!!!
     
  16. KomAon11

    KomAon11 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 ตุลาคม 2004
    โพสต์:
    4,803
    ค่าพลัง:
    +18,982
    คน รึ แมว.. เนี่ย ยายผีป่า

    ........แว๊ก แซวเล่นนะครับ... คนมีบุญก็ยังงี้แหละยาย เกิดในครอบครัว ไม่เหมือนชาวบ้าน ชาวเมือง ...แปลกประหลาด ข้ามโลก .... แต่โคตร เก่ง โหะๆ
     
  17. Des

    Des เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    1,264
    ค่าพลัง:
    +303
    เรื่องของยายสุดยอด ..... เดย์ก็เคยได้ยินแม่พูดภาษาเทพเหมือนกัน แต่ไม่รู้ว่าพูดได้ยังไงรู้แต่ว่าท่านบวชธรรม
     
  18. DevilBitch

    DevilBitch เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มกราคม 2005
    โพสต์:
    9,776
    ค่าพลัง:
    +36,838
    เด...ไปห้องจัรวาน?!! Now!!!
     
  19. DevilBitch

    DevilBitch เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มกราคม 2005
    โพสต์:
    9,776
    ค่าพลัง:
    +36,838
    ว๊าย!!!...แม่เดเป็นหมอธรรมเหมียนกัน เยี่ยมมาก?...
     
  20. kiatkiat

    kiatkiat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    665
    ค่าพลัง:
    +825
    ภาษาเทพ .... อืม ... ท่าทางน่าฟังนะครับ ..
    แหม ประวัต ยาย โชกโชน จังเลยครับ ..... ดีจัง
     

แชร์หน้านี้

Loading...