ในห้องนี้มีใครได้อภิญญาบ้างครับ

ขอดูคลิปหน่อยได้ไหมครับ

 

ระหว่าง รอ คลิป

มา กำหนดรู้ว่า. กำลังรอคลิปอภิญญา

พอกำหนดรู้ ไม่เห็นอภิญญา

ในทางปฏิบัติ จะถือว่า.
รู้ธรรม อภิญญา นั้นแล้ว

รู้แล้วนะ. แต่เปนข้าง. ไม่เหนคลิป

พอกำหนดรู้ได้อย่างนี้

แล้ว. เหนความรู้ชัดว่า. ไม่เหนคลิป
ไม่เหนอภิญญา

ในทางปฏิบัติ จะถือว่า. รู้อภิญญาแล้ว
( ความปริเฉทในการ ปริฬาหะ ปริเยสนา
เจ้าตัวต้องสังเกตเอาเอง ที่ ฉันทะว่าปัก
ไปทาง อภิญญาตัวไหนเป็น สมุฏฐาน)

ทั้งนี้ ทั้งนั้น. อภิญญาพุทธ
จะมี อภิญญาตัวที่หก
ชื่อว่า. อาสวขยญาณ

พอกำหนดเหนความ ดับสนิทของ
คลิปอภิญญา. จะไม่เสียเวลา

สามารถทำ นิพพานให้แจ้ง
ในปัจจุบันไปเลย

พอสิ้นกิเลส ตัณหา อุปทาน
จะมีอะไร. ขวาง จขกท
จากอภิญญาหากปราถนา

 

ไม่ต้องอภิญญาหรอก ขอแค่ศีลห้าครบก็ยากแล้ว

 

การได้อภิญญาศีล5 จะครบหรือไม่ครบก็
ได้แล้วแต่กรณี
มีอภิญญาได้ก็เสื่อมได้แล้วแต่กรณีคับ

 

อยากเห็น...

 

อภิญญาโลกีย์ มีได้เสื่อมได้ เป็นเหตุให้ พา ลง นรก ได้ ถ้าใช้ผิดทาง..

อภิญญาโลกีย์ ไม่ใช่ทางพ้นทุกข์ พระพุทธองค์ ไม่ทรงสรรเสริญ..

 

ผู้ปรารถนาอภิญญาโลกีย์ เป็นผู้มีตัณหาในจิตอยู่มาก ควรเร่งขัดเกลาจิตใจ จะดีกว่า..

 

ต้องใช้ ปฏิภาณ. ไหวพริบ นิดนึง....

คือ. ต้องรู้ชัด. เหตุของอภิญญา

เหตุของอภิญญาพุทธคือ. สิ้นตัณหา. อุปทาน
อยากสอน อยากอวด

พอรู้ชัดเหตุของอภิญญา. จึงจะสามารถ
สอดส่อง. ผู้ที่จะสอนจะอวดให้เราเห็นได้
เฉพาะตน

รับรอง. เจอแน่นอน
ไม่ใกล้ไม่ไกล แค่ปลายจมูก

ระหว่างรอ. รู้ว่า. ยังไม่เหนคลิป
จะชื่อว่า. รู้อรรถ

การรู้ชัดว่า. ยังไม่เหนคลิป.
ชื่อว่า. รู้ธรรม

ระหว่างรอ. รู้ว่า. ยังไม่เหนคลิป
และ. รู้ชัดว่าไม่เหนคลิป
ชื่อว่า. อธิปัญญา. มีอภิญญาทันที

ง่าย. ไม่ยากหลอก.
เพียงแต่ว่า. เปน อภิญญาที่
มีในเฉพาะพุทธศาสนา

 

ไหนๆ ก้ มาช่วยกันรอและ...

ฟัง นิทานปรำปราไปพลางๆ

ครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ประมาณ
สองพันห้าร้อยสี่กว่าปีก่อน...

พราหมณ์มุนีตีกลองชุมนุน

อาจารย์เขาสั่งมาว่า....

ให้หาใครที่มี ปฏิภาณที่สุด รีบรุด
ไปสำนักสมณโคตมโคตร แล้ว
ถาม หริอ คอยตามเห็น สมณะ
ในสำนักสมณโคตมโคตร ว่า
ฝึกอย่างไร ถึงมี อภิญญาชนะ
อาจารย์ของเราได้อย่างราบคราบ

ก้มีพราหมณ์ ขื่อ สุนักขะ อาศา
ไปรอดู

รอดูอยู่หลายปี ทุกองค์ก้ได้แต่
พูดว่า รูปไม่เที่ยง...สังขารไม่เที่ยง
......ฯ (ละถึง) วิญญานไม่เที่ยง
เปนทุกข์หรือสุขเล่า...ฯ

ตัดใจ เขาไป บ่นต่อหน้าพระพักต์
สมณโคตมเจ้า ฟ้องศาสดาว่า
สมณสาวกของท่าน เอาแต่พูด
"รูปไม่เที่ยง...ฯลฯ" อภิญญาจะ
มีมาแต่ไหน

พระศาสดา จึงตรัสถึง ความปรกติ
ของใจ(สีล) แล้วจึง ถามต่อว่า....

รูปเที่ยง..หรือ ไม่เที่ยง....ฯลฯ

สุนักขะพรหมณ์ ฟังจบ อภิวาท
กราบลา รีบกลับไปรายงาน...
พระอาจารย์ตน.....

ที่พระอาจารย์แพ้อภิญญาราบคราบ
เหนท่าว่าจะ......


ผั๊วะ!!!! จบ

 

อยากได้บ้านทรงไทยแต่ไม่มีเสาเอกคงลำบาก ฐานจิตไม่มี อภิญญาจึงเกิดดับ
มีแต่สมาธิก็เกิดได้แต่ไม่มีวิปัสสนาญาณ
นิพพานไม่มี

 

เคยสังเกตไหมครับ

ก่อนฝึกวิปัสสนา......

เวลาจะกำหนดรู้ เชิงอภิญญา
จะต้องหลีกเร้น หาป่า หาเขา
บำเพ๊ญระยะหนึ่ง. จึงค่อยทราบ
ว่า. จิตควรแก่การงานไหม

แต่พอฝึก. วิปัสสนา. จนจิตเปลี่ยน

เวลาจะกำหนดรู้เชิง อภิญญา จะคล่อง
ตัวกว่า. คือ ถ้าไม่มีความจำเปนก้ไม่
ต้องไป. คำนึงถึง......แต่เมื่อไหร่
รถคว่ำ ไฟไหม้ เซอรกิตเบรค
จิตมันจะ. รวมลงแล้วใช้ การรู้
การเหนเท่าที่จำเปน. อันไหนเปน
วาระกรรมก้รับผล. อันไหนยังบรร
เทาได้ จิตจะเหนช่องนำออก
เปนช๊อตๆ แบบเนื้อหนังไม่ถลอก

นะ แค่พอมี วิปัสสนา แยกรูปแยกนาม
เปน พอให้จิตตื่น(ตั้งตรงสู่การสิ้นอาสวะ)
แค่นี้ อภิญญาก้ไม่มีอุปทานว่าเสื่อมว่า
เจริญ พ้นการประกอบโยคะเข้าป่า
เข้าเขาที่ฝั่นเฝือผลัดวันประกันพรุ่งเณรแอ

ดังนั้น อภิญญาสำหรับผู้ฝีกด้วยสติปัฏฐาน
จะไม่มี การสำคัญเรื่อง อภิญญาเจริญ
หรือเสื่อม จึงชื่อว่า มีอภิญญาเที่ยงตาม
เหตุตามผลที่ควร

 

จะรีบไปไหน ให้เรียนรู้ข้อวัตรปฏิบัติ ข้อวินัยให้แน่นก่อน ให้ศึกษาตำราให้พอรู้หลักการสอนก่อน..

เกิดมา มาเกิด ทั้งทีต้องเก็บให้ละเอียด..

สร้างพระปฏิมา ต้องใจเย็นๆ ทำด้วยความประณีต จะได้พระที่สวยงาม ไร้ตำหนิ..

หรือท่านกลัวตายก่อนได้ชื่นชมความงามของพระปฏิมา อย่างนั้นหรือ..

 

จะกลัวทำไม ถ้าท่านไม่ทำอะไรผิด จะกลัวตายทำไม..

พระปฏิมา ในพระพุทธศาสนา ต้องสวยงาม งดงาม ไม่ด่างพร้อย ไร้ตำหนิ..

 

หน้าที่เรา ต้องสำเร็จลุล่วง สมบูรณ์ บริบูรณ์ อย่างงดงาม ปราณีต..

ไม่เสียชาติเกิด แน่นอน..

 

อยากเห็น ต้องถือศิล ปฎิบัติธรรม ศิล ๕ ไม่พอ ต้องจับศิล ๘
เป็นลูกผู้ชาย ๒๒๗ ข้อไปเล้ย จะชัดเจนที่สุด
ธรรมอันใด จะ บันลุ ไม่ได้ ถ้าไม่ทำเอาเอง

 

เราเริ่มจากศีล๕ แล้วมาศีล๘ แล้วมาศีล๑๐

ยังเหลือศีล๒๒๗..

เรามาตามขั้นตอนเรื่อยๆ ไม่ข้ามขั้น..

เรามาจากโคลนตม กว่าจะโผล่พ้นน้ำมาเบ่งบานได้ก็ต้องใช้เวลา..

ด้วยความเพียรอันยิ่ง..


เราทำให้ดูเป็นตัวอย่างแล้ว ที่เหลือก็อยู่ที่ใครจะทำตาม..

 

มันเป็นปัญหาของแต่ละบุคคล
ทั้งนี้ทั้งนั้น อยู่ที่บารมี
บุญทานช่วยท่านได้แค่ใหน
ท่านทำบุญที่ใหน ตรงที่ ตรงจุดหรือไม่นั้นมีผล
ต่อสมาธิของท่านเป็นอย่างยิ่ง
เพราะจริตพระแต่ละองค์ มีผลในเราผู้เป็นเจ้าของทานเป็นอย่างยิ่ง
ท่านปฎิบัติเพือละความอยาก หรือเพื่ออะไร....
เราจะรับผ้ากาสาวพัตินั้นมาทำให้แจ้ง.....จริงหรือเปล่าการให้สัจจะนั้นเป็นสิ่งหนึ่งในบารมี
มีนจะเป็น สะเตป ไปเรื่อย

 

การปฎิบัติของท่าน สายใหนท่านอยากไปก็ไป หาสายนั้น
การนั่งอยู่กับที่ไม่มีประโยชน์ ถ้าจะเดินต่อไป คุณต้องทิ้งและละในในชีวิตคุณไปอีกเยอะ
ถ้าคุณทิ้งของที่คุณรักไปแล้ว คุณย่อมทิ้งตัวตนของคุณได้
คุณยึดสิ่งใหน สิ่งนั้นจะทำลายคุณ

 

อันนี้แหละที่ครูบาอาจารย์ให้ฝึกท่องขานนาค หัวใจของการท่องขานนาคมันอยู่ตรงนี้..

แต่ครูบาอาจารย์ให้หัดท่องเป็นภาษาบาลี..

 

ทิ้งร่างกายสังขารนี้แหละ..

ขี้เกียจหอบกระดูกเดิน..

ทุกข์ ล้วนๆ..