ใครแพ้ใครในจักรวาล

ในห้อง 'ดูดวง และ ทำนายฝัน' ตั้งกระทู้โดย satan, 19 กันยายน 2006.

  1. satan

    satan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ตุลาคม 2004
    โพสต์:
    5,055
    ค่าพลัง:
    +17,915
    ใครแพ้ใครในจักรวาล
    ก่อนที่จะเข้าถึงความลึกซึ้งในเรื่องนี้ ผมขอนำบทความที่อาจารย์ประยูร พลอารีย์
    เขียนไว้ในหนังสือเกร็ดโหราศาสตร์ชาวบ้าน มากล่าวนำให้ทราบก่อน ซึ่งมีรายละเอียดดัง
    นี้ครับ
    "ถึงแม้ความเร้นลับนี้จะไม่สลับซับซ้อน แต่ก็เป็นสิ่งที่ปกปิดในสมัยโบราณ โดย
    เฉพาะการนำไปใช้งานที่ต้องการความลึกซึ้งมากๆ และถึงแม้จะนำมาเปิดเผยไว้แล้วในที่
    นี้ก็ตาม หากไม่มีการทดลองหรือหาประสบการณ์เพิ่มเติมแล้ว ถึงจะรู้ก็เหมือนไม่รู้ เพราะ
    มีความลึกซึ้งในตัวเองไม่มีที่สิ้นสุด
    อันเพลงอาวุธนั้น ถึงแม้จะมีความเฉียบขาดและล้ำลึกปานใด ก็ยังอยู่ในวิสัยที่จะ
    สามารถแก้ไขหรือเอาชนะได้ เพราะเหนือฟ้ายังมีฟ้า อย่างไรก็ตาม การแพ้ชนะกันในทีหรือ
    โดยธรรมชาติ ซึ่งเป็นไปตามกำหนดของฟ้านี้ ไม่รู้จะแก้ไขได้อย่างไร ขอให้สังเกตการแพ้
    ชนะกันในทีอันเป็นความเร้นลับของโลกอย่างหนึ่งสักสองสามกรณีดังต่อไปนี้
    .....ช้างที่กำลังตกมันจะเชื่องลงในทันที เมื่อได้ยินเสียงคำรามของหมู
    .....เสียงไก่ขันทำให้สิงโตหยุดอาละวาดได้
    .....เสือดำจะไม่กล้ากินไก่ที่ชดลมด้วยมันไก่ตัวเมีย โดยเฉพาะผสมกระเทียมด้วย
    .....ชะมดนั้นสู้เสือดำไม่ได้ก็จริง แต่ถ้าเอาหนังเสือดำมาแขวนคู่กับหนังชะมดแล้ว
    ขนของเสือดำจะร่วงหมดทันที
    .....แมงป่องแพ้หนู
    .....งูแพ้พิษปู
    .....ถูกแมงป่องต่อย รักษาด้วยหนู
    .....หมูถูกงูพิษกัด ใช้ปูรักษาหาย
    .....เดือนกรกฎาคม ซึ่งอาทิตย์โคจรอยู่ในราศีกรกฎ ราศีปู งูจะลำบาก
    .....สุนัขป่าไม่เคยกลัวหอกดาบ แต่กลัวก้อนหิน ถูกปาด้วยก้อนหินเมื่อใดเจ็บเมื่อนั้น
    .....ช้างกลัวไก่ตัวผู้
    .....ม้ากลัวอูฐ แม้แต่รูปของอูฐม้าก็เห็นไม่ได้
    .....ฯลฯ
    ต่อไปนี้ คือกฎทั่วไปของการแพ้ชนะในสุริยจักรวาลแบบง่ายๆ โดยวิธีพิจารณา
    จากเดือนเกิด
    ผู้เกิดเดือนเมษายน แพ้ผู้เกิดเดือนพฤศจิกายน
    ผู้เกิดเดือนพฤษภาคม แพ้ผู้เกิดเดือนธันวาคม
    ผู้เกิดเดือนมิถุนายน แพ้ผู้เกิดเดือนมกราคม
    ผู้เกิดเดือนกรกฎาคม แพ้ผู้เกิดเดือนกุมภาพันธ์
    ผู้เกิดเดือนสิงหาคม แพ้ผู้เกิดเดือนมีนาคม
    ผู้เกิดเดือนกันยายน แพ้ผู้เกิดเดือนเมษายน
    ผู้เกิดเดือนตุลาคม แพ้ผู้เกิดเดือนพฤษภาคม
    ผู้เกิดเดือนพฤศจิกายน แพ้ผู้เกิดเดือนมิถุนายน
    ผู้เกิดเดือนธันวาคม แพ้ผู้เกิดเดือนกรกฎาคม
    ผู้เกิดเดือนมกราคม แพ้ผู้เกิดเดือนสิงหาคม
    ผู้เกิดเดือนกุมภาพันธ์ แพ้ผู้เกิดเดือนกันยายน
    ผู้เกิดเดือนมีนาคม แพ้ผู้เกิดเดือนตุลาคม
    นี่คือการพิจารณาแบบง่ายๆ แต่ถ้าจะพิจารณาละเอียดลึกซึ้งนั้น จำเป็นต้องปรึกษา
    นักโหราศาสตร์ เพราะจำเป็นต้องใช้ดวงชะตาและอาศัยหลักวิชา ซึ่งไม่ใช่ของง่ายนัก
    โดยอาศัยการพิจารณาข้างต้น เราก็คงรู้ตัวของเราเองว่าเรามีธรรมชาติแพ้ใคร ซึ่ง
    ในกรณีหลีกเลี่ยงไม่ได้ ก็อาจแก้ไขโดยอาศัยหลักโหราศาสตร์ ซึ่งไม่รับรองว่าได้ผลร้อยเปอร์
    เซ็นต์ สำหรับวิธีการที่ถูกต้องที่สุด คือ ใช้วิธีหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้า เหมือนม้าแพ้อูฐ เมื่อรู้
    ว่าแพ้ก็อย่าเอาไปอยู่ร่วมกับอูฐก็สิ้นเรื่อง สิ่งที่แพ้กันโดยธรรมชาตินี้ หากแพ้มาก เมื่อนำมารวม
    กัน หากสิ่งที่แพ้เป็นสิ่งมีชีวิตแล้ว อาจตายได้ง่ายๆเลยทีเดียว"

    รายละเอียดมีทุกราศีจะทยอยโพสละกันครับ เว็บโนมะแบนแล้วขอบคุณมากๆครับเว็บโน
     
  2. นพสร

    นพสร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กันยายน 2006
    โพสต์:
    549
    ค่าพลัง:
    +1,176
    เยื่ยมมมมมมมมมมมมม
     
  3. karain

    karain เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2006
    โพสต์:
    640
    ค่าพลัง:
    +707
    จริงหรอเนี่ย
     
  4. semix

    semix เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    37
    ค่าพลัง:
    +181
    อุอุ แฟนผม แพ้ผมหรอเนี้ย อิอิ ขอบคุณมากครับ ได้ความรู้เพียบเลย
     
  5. aonwit01

    aonwit01 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    682
    ค่าพลัง:
    +1,025
    แล้วพวกธาตุละครับ ช่วยบอกผมได้มั๊ย แสงสว่าง ความมืด วิญญาณ ดิน น้ำ ลม ไฟ
     
  6. den_siam2523

    den_siam2523 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2006
    โพสต์:
    595
    ค่าพลัง:
    +2,267
    ขำดีครับ อิอิ น่าสนใจ น่าจะมีเหตุมีผลด้วยนะครับ
     
  7. satan

    satan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ตุลาคม 2004
    โพสต์:
    5,055
    ค่าพลัง:
    +17,915
    ความรู้เรื่องธาตุ - ธาตุไฟ - 1

    เท่าที่ศึกษาวิชาโหราศาสตร์มาพอสมควร ผมไม่ค่อยจะเคยเห็นมีใครเคยเขียนตำรา
    เรื่องธาตุไว้กระจ่างชัดนัก บางท่านอาจเคยมีประสบการณ์เหล่านี้มาแล้ว ในเรื่องของการ
    แพ้ทางกัน บางคนใช้วัตถุสิ่งของบางอย่าง บางสีแล้ว กลับมีแต่เรื่องยุ่งยากเดือดร้อนเข้า
    มา พอเลิกใช้ความวุ่นวายเหล่านั้นกลับสงบลงอย่างราบคาบ บางคนประกอบอาชีพหนึ่ง
    ดี แต่พอเปลี่ยนไปประกอบอาชีพใหม่กลับความเจริญไม่ได้ บางคนแพ้ทางคู่ครอง ถ้าเป็น
    ผู้ชายเรียกว่าแพ้ทางเมีย ภาษาชาวบ้านเรียกว่ากลัวเมีย แต่บางคนอาจจะบอกว่าไม่ได้
    กลัวเมียสักกะหน่อย แต่เป็นเพราะรักครอบครัวจึงยอมตกเป็นเบี้ยล่าง ก็ว่ากันไปตาม
    เหตุผลของแต่ละคนครับ บางคนคบเพื่อนคนนี้กลับเสียเปรียบ แต่พอกับอีกคนหนึ่งกลับ
    เป็นตรงกันข้าม หลายๆเรื่องราวเหล่านี้มาจากการแพ้ทางกันนั่นเอง เพื่อให้บทความนี้มี
    ประโยชน์ครบถ้วน ผมจะลงรายละเอียดเป็นรายราศีเลยน่าจะดีกว่า
    ก่อนที่จะเข้าสู่รายละเอียดดังกล่าว ผมขอแนะนำเรื่องธาตุในวิชาโหราศาสตร์ให้ท่าน
    ผู้อ่านรู้จักพอเป็นสังเขป นักโหราศาสตร์แบ่งธาตุในโลกนี้เป็น 4 ธาตุ ได้แก่ ธาตุ ไฟ ดิน
    ลม และน้ำ และจัดให้แต่ละราศีมีคุณสมบัติของธาตุดังต่อไปนี้
    ธาตุไฟ ได้แก่ ราศีเมษ ราศีสิงห์ ราศีธนู
    ธาตุดิน ได้แก่ ราศีพฤษภ ราศีกันย์ ราศีมังกร
    ธาตุลม ได้แก่ ราศีมิถุน ราศีตุลย์ ราศีกุมภ์
    ธาตุน้ำ ได้แก่ ราศีกรกฎ ราศีพิจิก ราศีมีน
    ส่วนธรรมชาติของแต่ละราศีนั้น ยังมีความแตกต่างกันอีกพอสมควร ผมจะค่อยๆเจาะ
    ลึกลงในรายละเอียดไปเรื่อยๆครับ ขอเริ่มจากราศีเมษก่อน
    ราศีเมษ เป็นราศีต้นธาตุไฟ ราศีเมษเป็นราศีทวาร ที่เน้นให้พลังของราศีออกมาเต็มที่
    แบบสุดๆ มีพลังงานเท่าไหร่ ก็จะปล่อยออกมาหมด ราศีเมษจึงเปรียบเสมือนไฟกองใหญ่
    ที่มีพลังงานความร้อนสำหรับการเผาผลาญอย่างรุนแรง ถ้าเปรียบเป็นนิสัยของคนก็เหมือน
    กับคนที่มีนิสัยใจคอใจร้อนมาก เจ้าอารมณ์ ขี้โมโหโทโส เวลาโกรธมักแสดงอารมณ์โกรธ
    ออกมาแบบไม่ยั้ง มีอะไรในใจแสดงออกมาเต็มที่ ไม่สามารถเก็บงำไว้ในใจได้ ธรรมชาติ
    ของคนราศีเมษแรง จึงมักมีนิสัยรุกรานคนอื่น ก้าวร้าว เจ้าอารมณ์ เจ้าโทสะ
    ราศีสิงห์ เป็นราศีธาตุไฟเหมือนกัน แต่เป็นไฟที่ลุกรุนแรงน้อยกว่าราศีเมษ เป็นไฟที่ลุก
    โชติช่วงสม่ำเสมอ เหมือนไฟที่ถูกเติมเชื้ออยู่ตลอดเวลา ถ้าเปรียบกับนิสัยใจคอของคน
    เปรียบเหมือนคนที่ใจร้อนเป็นนิจสิน ไม่จำเป็นต้องให้มีเหตุการณ์มากระตุ้นก็มีความร้อน
    เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว
    ราศีธนู เป็นราศีธาตุไฟที่อ่อนที่สุด เป็นไฟที่กำลังจะมอดอยู่แล้ว หรือเรียกว่าเป็นไฟสุม
    ขอนนั่นเอง มีความร้อนแรงขึ้นมาบ้างเป็นพักๆ เอาแน่เอานอนอะไรไม่ได้ เปรียบเหมือนคน
    ที่เจ้าอารมณ์ ขี้โมโหโทโสเป็นพักๆ ไม่แน่ไม่นอน

    ความรู้เรื่องธาตุ - ธาตุไฟ (2)

    เมื่อวันก่อนผมเกริ่นถึงเรื่องธาตุโดยนำความหมายของธาตุไฟมากล่าวนำ และแยกแยะให้
    เห็นว่าราศีธาตุไฟแต่ราศีราศีมีความแตกต่างกันอย่างไร กล่าวคือ ราศีเมษมีธรรมชาติเหมือน
    ไฟกองมหึมา มีพลังเท่าใดปล่อยออกมาหมด ส่วนราศีสิงห์เป็นไฟกองขนาดย่อมลงมาหน่อย
    แต่ยังมีเชื้อไฟรุนแรงสม่ำเสมอ แสดงถึงธรรมชาติที่มีความร้อนแบบเสมอต้นเสมอปลาย ส่วน
    ราศีธนูเป็นไฟจำพวกไฟสุมขอนที่จวนจะมอดแหล่มิมอดแหล่ ถ้าพูดเพียงเท่าที่ ท่านผู้อ่านอาจ
    จะยังงงอยู่ ผมจะลองยกตัวอย่างให้เห็นชัดเจนสักตัวอย่างหนึ่ง
    ยกตัวอย่างในเรื่องของบุคลิกภาพ หากท่านใดมีนิสัยแบบราศีเมษ หมายความว่า คือเกิดมี
    โทสะหรือมีความโมโหที่ร้อนเหมือนไฟ บุคคลนั้นจะแสดงโทสะหรือความโกรธออกมาเต็มที่ มี
    ความโกรธอยู่เท่าไร แสดงออกมาหมดแบบไม่ต้องยั้งคิด ซึ่งถือว่าค่อนข้างอันตรายมาก ใคร
    อยู่ใกล้หรือเป็นคู่กรณีกับคนแบบนี้ อาจถูกทำร้ายด้วยความรุนแรง จนอาจเป็นอันตรายอย่าง
    มาก ใครห้ามก็ห้ามไม่อยู่ สติของตนเองยังยั้งไม่อยู่เลย ความร้อนแบบนี้จึงมีสิทธิเผาผลาญ
    ทั้งคนรอบข้างที่เกี่ยวข้องและตัวของเขาเอง
    สำหรับท่านที่มีบุคลิกภาพหรือนิสัยแบบธาตุไฟราศีสิงห์ จึงมักแสดงความห้าว ความดุหรือ
    เจ้าโทสะได้แบบเสมอต้นเสมอปลาย ค่อนข้างรุนแรงเสียด้วย แต่แรงน้อยกว่าธาตุไฟแบบราศี
    เมษ คนธาตุไฟแบบราศีสิงห์ จึงถือว่าเป็นคนประเภทร้อนสม่ำเสมอ ไม่ต้องให้ใครมาจุดชนวน
    ให้โกรธหรือมีโทสะ ก็มีเชื้อที่ค่อนข้างรุนแรงอยู่ในใจอยู่แล้ว บางครั้งคนรอบข้างจึงมองว่าเป็น
    ขี้โมโห เจ้าโทสะ เจ้าอารมณ์ ต้องรู้จักนิสัยกันพอสมควร ถึงจะพอคบกันได้ มิฉะนั้นคงจะเข้าหน้า
    กันไม่ค่อยติด เพราะจะถูกฟาดหัวฟาดหางเข้าใส่เอาง่ายๆ ถ้าไม่เข้าใจเขา ก็มักพาลเลิกคบเอา
    ง่ายๆ
    สำหรับท่านที่มีบุคลิกภาพแบบราศีธนู ซึ่งเป็นธาตุไฟปลายธาตุ เป็นประเภทไฟสุมขอน ถ้า
    ไม่ได้ลม ไม่ได้ออกซิเจนที่เพียงพอมากระตุ้น ความร้อนที่มีอยู่ก็อาจไม่แสดงฤทธิ์ออกมา แต่ถ้า
    ได้เชื้อมาเติมบ้าง อาจแผลงฤทธิ์แห่งความร้อนออกมาได้บ้าง แต่เป็นพัก ๆ ไม่สม่ำเสมอ และ
    อาจไม่รุนแรงนัก คนธาตุไฟแบบราศีธนูจึงไม่ถึงกับอารมณ์ร้อนจนน่ากลัวนัก ถ้ามีอะไรมากระ
    ตุ้นถูกจุดจึงจะโกรธ แต่ก็ไม่บ่อยนัก จึงน่าจะเป็นอันตรายกับคนรอบข้างน้อยกว่าคนธาตุไฟ
    แบบราศีเมษและราศีสิงห์
    ลองมาดูในเรื่องของความรักบ้างดีกว่า หากคนใดมีความรักแบบราศีเมษ หมายความว่า
    บุคคลนั้นมักจะแสดงความรักที่ตนมีอยู่ออกมาจนหมด ปล่อยออกมาเต็มที่ไม่มียั้ง เป็นความ
    รักที่รุนแรง ถ้าแสดงผลออกมาในด้านบวก ก็หมายถึง คนที่มีพลังความรักล้นเหลือ แต่ถ้าไม่
    สมหวังขึ้นมาเมื่อไหร่ละก็ คงจะน่ากลัวมากเหมือนกัน เพราะคนที่รักมาก เวลาผิดหวังก็มักจะ
    ผิดหวังมาก ถ้าไม่รู้จักใช้สติยับยั้งชั่งใจเสียบ้าง อาจกระทำการในด้านที่เลวร้ายเกินกว่าที่ใคร
    จะคาดคิดก็เป็นได้ มองอีกมุมหนึ่ง คือ ทำให้คนๆนั้นไม่ค่อยรู้จักระงับยับยั้งในเรื่องรักๆใคร่ๆ
    พอรักเขาชอบใครขึ้นมา จะไม่รั้งรอ เป็นประเภทเจ้าชู้ยักษ์อะไรทำนองนั้นเลยเชียว
    สำหรับคนที่มีความรักแบบธาตุไฟราศีสิงห์ ก็ยังเป็นความรักที่มีความร้อนแรงน้อยกว่า
    แบบราศีเมษ แต่ก็รุนแรงไม่เบา แต่เป็นความรักที่รุนแรงแบบเสมอต้นเสมอปลาย รักใครแล้ว
    ไม่เลิกรักง่ายๆ ผูกใจรักอย่างสม่ำเสมอ ไม่เปลี่ยนแปรง่ายๆ ใครที่จะรักกับคนแบบนี้ต้องจริง
    ใจกับเขา จะมารักเล่นๆไม่ได้เหมือนกัน เพราะความรักแบบราศีสิงห์ เหมือนไฟกองใหญ่พอ
    สมควรที่ชุโคนอย่างเสมอต้นเสมอปลายนั่นเอง
    ส่วนคนที่มีความรักแบบราศีธนู หมายถึง คนที่มีความรักที่ไม่ค่อยแน่นอนนัก พอมีอะไรมา
    กระตุ้นถูกจุดหน่อยก็จะมีความรักร้อนแรง แต่เป็นแค่ประเดี๋ยวประด๋าว หาความจีรังยั่งยืนอะไร
    นักไม่ได้ พอไม่มีอะไรมากระตุ้นจะพาลเลิกรักเอาง่ายๆ อยู่ในจำพวกลมเพลมพัด พอได้เชื้อได้
    ลมเข้าหน่อย ความรักถึงจะมีพลังขึ้นมาบ้าง แต่พอขาดเชื้อขาดลม ความรักที่เคยร้อนแรงอยู่ก็
    อาจจะมอดลงไปง่ายๆ เรียกว่าเชื่อน้ำยานักไม่ค่อยได้ ถ้าใครจะรักคนแบบนี้เห็นทีจะต้องระวัง
    เอาไว้บ้าง
     
  8. satan

    satan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ตุลาคม 2004
    โพสต์:
    5,055
    ค่าพลัง:
    +17,915
    ความรู้เรื่องธาตุ - ธาตุดิน

    เมื่อวันก่อน ผมขยายความถึงเรื่องราวของบุคลิกภาพและความรักของบุคคลที่มีธรรมชาติ
    แบบธาตุไฟ โดยแจกแจงว่าธาตุไฟแต่ละประเภทส่งผลอย่างไรบ้าง วันนี้เราจะมาพูดกันถึงเรื่อง
    ของธาตุดินบ้าง ท่านใดที่เกิดในราศีธาตุดินก็เตรียมตัวติดตามได้แล้วครับ
    ราศีที่สังกัดในราศีธาตุดิน มีทั้งหมด 3 ราศี ได้แก่ ราศีพฤษภ ราศีกันย์และราศีมังกร
    ใครบ้างที่สังกัดราศีดังกล่าว ขออธิบายดังนี้ครับ
    หากท่านเกิดระหว่างวันที่ 22 เมษายนถึง 22 พฤษภาคมของทุกปี ท่านเป็นชาวราศีพฤษภ
    สังกัดธาตุดิน
    หากท่านเกิดระหว่างวันที่ 23 สิงหาคมถึง 22 กันยายนของทุกปี ท่านเป็นชาวราศีกันย์ สังกัด
    ราศีธาตุดิน
    หากท่านเกิดระหว่างวันที่ 22 ธันวาคมถึง 20 มกราคมของทุกปี ท่านเป็นชาวราศีมังกร สังกัด
    ราศีธาตุดิน
    ราศีมังกรเป็นราศีแม่ธาตุดิน หมายถึง สิ่งที่มีความหนักแน่นมั่นคงเหมือนผืนแผ่นดิน ดินแบบ
    ราศีมังกรเป็นดินที่มีความหนาแน่นหรือมั่นคงเป็นที่สุด ถ้าเปรียบกับความมั่นคงในจิตใจคน ก็ต้อง
    เรียกว่ามีความหนักแน่นเป็นที่สุด มีพลังแห่งความหนักแน่นเท่าใดปล่อยออกมาเต็มที่ ถ้าเปรียบ
    ให้เห็นได้ชัดเจนยิ่งขึ้น น่าจะเปรียบได้กับกำแพงชั้นเดียว มีความหนาแบบมหึมา
    ราศีพฤษภ เป็นราศีธาตุดินเช่นกัน เป็นดินที่มีความหนาแน่นรองลงมาจากราศีมังกร ถ้าจะ
    เปรียบกับความมั่นคงก็เป็นความมั่นคงที่เสมอต้นเสมอปลาย ถ้าเปรียบเทียบกับความหนักแน่น
    ของจิตใจคน ก็หมายถึง คนที่มีจิตใจมั่นคง หนักแน่นแบบเสมอต้นเสมอปลายไม่เปลี่ยนแปลง ยึด
    มั่นสิ่งใดแล้วก็จะยึดมั่นสิ่งนั้นตลอดไป ถึงแม้จะมีสิ่งใดมากระทบก็ไม่ยอมเปลี่ยนแปรง่ายๆ
    ราศีกันย์ เป็นราศีธาตุดินที่มีพลังแห่งความหนักแน่นอ่อนที่สุด เรียกว่าาถูกพายุพัดก็คงจะแปร
    สภาพ กระจัดกระจายอย่างไม่มีชิ้นดี ถ้าเปรียบกับความหนักแน่นในจิตใจคนแล้ว ต้องถือว่ามีน้อย
    ต้องคอยกระตุ้น หวั่นไหวได้ง่าย มีอะไรมากระทบกระทั่งก็มักขาดความอดทนได้ง่ายๆ
    ลองมาเปรียบเทียบกับความรักดูบ้างดีกว่าครับ บุคคลที่มีความรักแบบราศีมังกร เป็นความรัก
    ที่มั่นคงยิ่งใหญ่หาใดเทียม ยึดมั่นในความรักมากกว่าสิ่งอื่นใด ใครจะมาถอนความยึดมั่นนั้นคงไม่
    มีทาง ด้านดี ทำให้เป็นคนรักจริง ไม่เหลาะแหละ แต่ด้านร้าย บางทีอาจจะกลายเป็นจำพวกความรัก
    มักทำให้คนตาบอด ลองได้รักแล้ว ไม่ฟังใครทั้งสิ้น จะผิดจะถูกยังไงฉันไม่สน ฉันรักของฉันเสียอย่าง
    จะดีจะชั่วอย่างไรก็ไม่เลิกรัก ดีไม่ดีถึงขั้นยอมตายเพื่อความรักเลยยังได้ แต่ไม่ใช่ความรักที่ร้อนแรง
    แบบไฟเหมือนราศีเมษ
    ความรักแบบราศีพฤษภก็ไม่ใช่เบา แต่ลดความมั่นคงลงมาบ้าง ถือว่ารองจากราศีมังกร เป็น
    ความรักที่มากมายเหมือนกัน ต่างจากราศีมังกรตรงที่เป็นความรักที่หนักแน่น เสมอต้นเสมอปลาย
    ยึดมั่นในความรักมิใช่น้อย แถมคงเส้นคงวาอีกต่างหาก ถือเป็นจำพวกรักเล่นๆรักไม่เป็น รักแล้ว
    รักเลย ไม่ยอมเปลี่ยนแปลงง่ายๆ ด้านดี ถ้าสมหวังในความรัก ชีวิตรักก็ชุ่มฉ่ำไม่มีวันจืดจาง แต่หาก
    ชีวิตรักหักเหผิดหวัง ชาวราศีพฤษภมักจะลืมยาก เป็นรักที่ต้องจำฝังใจ
    สำหรับความรักแบบราศีกันย์ ซึ่งเป็นราศีพันทาง พลังแห่งความหนักแน่นจึงน้อยที่สุดในบรรดา
    ราศีธาตุดินด้วยกัน เป็นประเภทเอาแน่เอานอนอะไรนักไม่ได้ เป็นความรักที่มั่นคงบ้า ไม่มั่นคงบ้าง
    เดี๋ยวรัก เดี๋ยวไม่รัก เบื่อๆอยากๆอะไรทำนองนั้น เชื่อถือจริงจังนักไม่ได้ แต่ก็ยังเป็นความรักแบบ
    ธาตุดิน ที่ยังไงก็ยังแฝงความหนักแน่นในความรักอยู่บ้าง ถึงแม้จะน้อยนิดก็ตาม
     
  9. satan

    satan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ตุลาคม 2004
    โพสต์:
    5,055
    ค่าพลัง:
    +17,915
    ความรู้เรื่องธาตุ -ธาตุน้ำ

    เราพูดกันถึงเรื่องธาตุ จบไว้ที่ธาตุดิน วันนี้ผมจะมาพูดต่อครับ เป็นเรื่องของธาตุน้ำ ท่านผู้อ่าน
    จะได้ทราบถึงเรื่องของธาตุน้ำว่าในสายตาของนักโหราศาสตร์มองธาตุน้ำเป็นเช่นไร และแบ่งประเภท
    ไว้อย่างไร เรียกว่ามีธรรมชาติอะไรหลายๆอย่างที่น่าสนใจ และสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้มากมาย
    มหาศาล เรามาเริ่มกันที่จักรราศี นักโหราศาสตร์กำหนดราศีที่สังกัดธาตุน้ำไว้ดังนี้
    ราศีกรกฎ เป็นราศีแม่ธาตุน้ำ เปรียบเทียบเหมือนพลังของน้ำที่โหมกระหน่ำเต็มที่แบบไม่มีการ
    หยุดยั้ง ถ้าเป็นน้ำท่วมก็เรียกว่า เป็นน้ำท่วมใหญ่ มีพลังมหาศาลแทบจะไม่มีใครหยุดยั้งได้ ธรรมชาติ
    ของน้ำมักนำความชุ่มชื้นมาให้ ราศีกรกฎก็เช่นกันใครได้รับอิทธิพลของราศีนี้แรง มักจะทำให้คนที่อยู่
    ใกล้ชิดมีความอิ่มเอิบใจเป็นอย่างมากแบบบอกไม่ถูก
    ราศีพิจิก เป็นราศีธาตุน้ำเช่นกัน แต่พลังลดน้อยลงกว่าพลังของน้ำในราศีกรกฎ ยังคงมีพลังมาก
    แต่เป็นพลังที่ต่อเนื่องสม่ำเสมอแบบไม่ขาดสาย เปรียบเสมือนสายน้ำจำนวนมากพอสมควรที่ไหลอย่าง
    ต่อเนื่อง ถ้ารู้จักนำพลังนี้ไปใช้ ก็สามารถก่อกำเนิดพลังงานได้อย่างไม่ขาดสาย เช่น พลังจากระหัดวิดน้ำ
    ไฟฟ้าพลังน้ำ เหล่านี้เป็นต้น พลังแห่งความชุ่มฉ่ำหรือการสร้างความอิ่มเอิบใจของชาวราศีพิจิกจึงค่อน
    ข้างสูง และส่งผลต่อคนรอบข้างอย่างไม่ขาดสาย ไม่ใช่พลังที่โหมกระหน่ำอย่างรุนแรงครั้งเดียวแล้วเลิก
    กันไป
    ราศีมีน เป็นราศีธาตุน้ำเช่นกัน แต่เป็นพลังของธาตุน้ำที่อ่อนที่สุด มีพลังน้อยกว่าพลังธาตุน้ำของ
    ราศีกรกฎและราศีพิจิก ถ้าเป็นสายน้ำก็เป็นสายน้ำที่ไหลเป็นพักๆ ไหลกระปริดกระปรอยไม่แน่นอน
    เดี๋ยวไหล เดี๋ยวหยุด หาความแน่นอนไม่ได้ จะหวังนำไปใช้ประโยชน์นักไม่ได้ พลังแห่งความชุ่มฉ่ำและอิ่ม
    เอิบที่เกิดจากบุคคลที่อยู่ภายใต้อิทธิพลของราศีมีนจึงน้อย ไม่สม่ำเสมอ มีพลังเป็นพักๆ เดี๋ยวมี เดี๋ยวหมด
    บางครั้งก็ทำให้คนรอบข้างงงได้เหมือนกัน
    คิดว่าท่านผู้อ่านคงพอจะมองเห็นภาพของธาตุน้ำทั้งสามบ้างนะครับว่ามีความแตกต่างกันเช่นไร
    เช่นเดียวกับราศีธาตุที่ผ่านมา ผมจะลองนำมาเปรียบเทียบกับความรักดูบ้างว่าความรักแบบธาตุน้ำทั้ง
    สามแบบมีธรรมชาติเป็นเช่นไร
    ราศีกรกฎ ถ้านำเรื่องความรักมาอุปมาเทียบเคียง ความรักแบบราศีกรกฎ หมายถึง มีความสดใส
    ในเรื่องความรักอย่างรุนแรง เรียกว่า มีความชุ่มฉ่ำอยู่ในหัวใจเท่าไร ปล่อยออกมาหมดไม่มีเหลือ เรียก
    ว่ามีเท่าไรทุ่มให้หมดหัวใจ บางครั้งกลายเป็นการไม่รู้จักบันยะบันยัง พลังรักชุ่มฉ่ำมากเกินไป ถ้าไม่รู้จัก
    ควบคุมจะกลายเป็นความไม่รู้จักพอ มีความเจ้าชู้ มากรักจนเกินเหตุ ไม่รู้จักอิ่ม ไม่รู้จักพอ ในด้านดี
    หมายถึง การมีอารมณ์สุนทรีย์ในเรื่องรักๆใคร่ๆมากจนไม่มีใครเทียบ ใครอยู่ใกล้มีหวังตกหลุมเสน่ห์
    จนถอนตัวไม่ขึ้น
    ราศีพิจิก ความรักตามลีลาของราศีนี้ หมายถึง การมีพลังรักรุนแรงรองลงมาจากราศีกรกฎ แต่
    แสดงออกมาอย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอ ดีกรีของความสุนทรีย์ในอารมณ์รักย่อมไม่ธรรมดาแน่นอน ความ
    รักออกมาในลีลารุนแรงแบบชุ่มฉ่ำ ไม่จืดชืด มีชีวิตชีวา ใครเป็นคู่รักคู่ใคร่จะมีความสุข สุโข สโมสรชุ่มชื่น
    ในหัวใจเป็นที่สุด
    ราศีมีน พลังความรักของธาตุน้ำแบบราศีมีน มีพลังแห่งความชุ่มฉ่ำน้อยกว่าเพื่อน พลังรักไม่สม่ำ
    เสมอ แรงเป็นพักๆ เอาแน่เอานอนอะไรไม่ได้ เดี๋ยวมี เดี้ยวไม่มี เดี๋ยวมาก เดี๋ยวน้อย เบื่อๆอยากๆ หา
    ความแน่นอนอะไรไม่ได้ ใครได้คนรักแบบนี้ ชีวิตรักอาจไม่ค่อยมีชีวิตชีวาเต็มที่นัก ขาดๆเกินๆ หากคู่รัก
    มีพลังรักแรงกว่า จะทำให้ชีวิตคู่ไม่สมดุลย์ อาจทำให้เกิดปัญหาในภายหลังได้
     
  10. satan

    satan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ตุลาคม 2004
    โพสต์:
    5,055
    ค่าพลัง:
    +17,915
    ความรู้เรื่องธาตุ - ธาตุลม

    ผมได้เขียนความรู้เกี่ยวกับเรื่องธาตุในจักรราศีมาแล้ว 3 ธาตุ คือ ธาตุไฟ ดิน น้ำ ยังขาดอยู่อีก 1
    ธาตุ คือ ธาตุลม ความรู้เกี่ยวกับธาตุถือเป็นพื้นฐานที่สำคัญมากก่อนที่จะเข้าถึงความรู้เกี่ยวกับใครแพ้
    ใครในจักรวาล เท่าที่ผมเคยศึกษาวิชาโหราศาสตร์มานานพอสมควร ยังไม่เคยเห็นหนังสือเล่มใดกล่าว
    ถึงความรู้เรื่องธาตุอย่างละเอียด เมื่อมีโอกาสก็อยากนำความรู้ที่ตนเองศึกษามา มาบันทึกไว้ให้คนรุ่น
    หลังได้อ่าน หากมีข้อบกพร่องประการใด ผมยินดีน้อมรับแต่ผู้เดียวครับ หากท่านผู้อ่านท่านใดจะเสนอ
    แนะหรือแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับความรู้ทางโหราศาสตร์ ผมก็ยินดีเป็นอย่างยิ่งครับ
    วันนี้ผมจะนำความรู้เรื่องธาตุมากล่าวต่อให้จบ ธาตุสุดท้ายที่จะต้องกล่าวถึง คือ ธาตุลม ราศีที่สัง
    กัดธาตุลมมีดังนี้
    ราศีตุลย์ เป็นราศีแม่ธาตุลม ถือเป็นลมที่มีพลังมหาศาล มีพลังเท่าใดปล่อยออกมาหมดไม่มีหลง
    เหลือ ถ้าเปรียบกับลมธรรมชาติ น่าจะเปรียบได้กับลมพายุที่มีพลังมหาศาล มีพลังงานเท่าใดก็ปลด
    ปล่อยออกมาเต็มที่ ถ้าพัดผ่านไปสู่ที่ใด ย่อมทำความเสียหายหรือส่งผลกระทบอย่างรุนแรง หรือ อาจ
    เปรียบเทียบได้กับความคิดสร้างสรรค์ที่ยิ่งใหญ่ ทำให้ผู้เกี่ยวข้องได้รับผลอย่างรุนแรง ถ้าเปรียบเทียบ
    กับความรู้ก็น่าจะเป็นความรู้ที่ยิ่งใหญ่ เป็นความรู้ของธรรมชาติที่ไม่มีความรู้ใดเทียบเทียม ถ้าเปรียบ
    เทียบธาตุลมก็อาจหมายถึง พลังแห่งการจินตนาการ เพ้อฝันก็ได้ คนแบบราศีตุลย์มักมีจินตนาการที่
    มากจนคนรอบข้างงง ไม่รู้เอาพลังเหล่านี้มาจากไหน บางครั้งเป็นพลังจินตนาการที่ยิ่งใหญ่จนหาใคร
    เทียมยาก มีพลังเท่าใดปล่อยออกมาหมด
    ราศีกุมภ์ เป็นราศีธาตุลมเช่นกัน เป็นราศีธาตุลมที่มีพลังงานรองลงมาจากราศีตุลย์ ถือว่าอยู่ในระ
    ดับที่มาก แต่มีลักษณะเด่นคือ จะส่งพลังออกมาอย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอ เรียกว่าถ้าเป็นลมธรรมชาติ ก็
    เป็นลมในระดับลมพายุเหมือนกัน แต่พลังยังไม่รุนแรงถึงที่สุด พลังความแรงมีออกมาอย่างต่อเนื่อง
    สามารถทำลายสภาพแวดล้อมได้พอสมควรเหมือนกัน ถ้าเปรียบเป็นพลังแห่งการจินตนาการ ความ
    ยิ่งใหญ่อาจไม่เท่ากับราศีตุลย์ แต่ก็ไม่น้อย และสามารถจินตนาการได้อย่างต่อเนื่อง ไม่มีหมด สามารถ
    คิด สร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆออกมาได้ดีตลอดเวลา
    ราศีมิถุนเป็นราศีธาตุลมลำดับสุดท้าย มีพลังน้อยที่สุดในบรรดาราศีธาตุลมทั้งสามราศี ลักษณะเด่น
    คือ มีพลังเกิดขึ้นเป็นพักๆ หาความแน่นอนไม่ได้ เดี๋ยวพัด เดี๋ยวหยุด แถมเป็นลมที่ไม่ค่อยมีความรุน
    แรงบางครั้งจะนำพลังงานไปใช้ประโยชน์อย่างต่อเนื่องไม่ค่อยได้ เพราะความแรงไม่มากพอ เป็นประ
    เภทลมเพลมพัด ถ้าจะเปรียบกับเรื่องจินตนาการ เป็นพลังจินตนาการอันน้อยนิด นานๆจะเกิดขึ้นสัก
    ครั้ง แถมแต่ละครั้งก็ไม่ค่อยจะมากพอที่ทำให้คนมั่นใจได้ว่าจะเกิดประโยชน์จริงๆ เรียกว่าพลังอ่อนกว่า
    เพื่อนนั่นเอง
    ถ้าจะเปรียบเทียบธาตุลมกับเรื่องความรัก ก็น่าจะหมายถึงการมีอารมณ์ หรือจินตนาการ ความเพ้อ
    ฝันในเรื่องความรักได้ คนที่มีความรักแบบราศีตุลย์น่าจะหมายถึง คนที่มีจินตนาการในเรื่องของความรัก
    สูง เรียกว่าเป็นความฝันล้วนๆ บางครั้งไม่เอาความเป็นจริงมาร่วมพิจารณาด้วย ถ้าเพ้อฝันไปในทางที่ดี
    ด้านดีคือ ทำให้มีพลังกระตุ้นที่จะทำให้ความฝันเป็นจริงสูง ทำให้มีชีวิตชีวามาก แต่ด้านร้ายก็มีเหมือนกัน
    ถ้าหากความจริงไม่เป็นเหมือนที่ฝันไว้ พลังของธาตุลมแบบราศีตุลย์ที่สดใสอาจกลับกลายเป็นพายุร้ายที่
    ปลดปล่อยพลังงานออกมาหมดไส้หมดพุง อาจกลายเป็นพายุทอร์นาโด ทำลายทุกสรรพสิ่งที่ขัดขวางให้
    พินาศได้ในพริบตา
    คนที่มีความรักแบบธาตุลมราศีกุมภ์ ความเพ้อฝันในเรื่องความรักยังจัดว่ามากอยู่ แต่น้อยกว่าราศีตุลย์
    มีส่วนหนึ่งที่นำปัจจัยอื่นมาเกี่ยวข้องด้วย อาจพิจารณาความเป็นจริงของชีวิตประกอบเพิ่มขึ้น ความเพ้อฝัน
    ในเรื่องรักๆใคร่ๆ มีแบบสม่ำเสมอ ไม่เสื่อมคลาย ใครอยู่ใกล้ย่อมมีความสุขตามไปด้วยไม่รู้จักจืดจาง แต่ถ้า
    ผิดหวังขึ้นมาละก็ พลังด้านบวกอาจผันเป็นตรงกันข้าม กลายเป็นพลังลมพายุที่มีความแรงระดับไม่ธรรมดา
    ตามรังควาญคนที่ทำให้ผิดหวังแบบไม่มีการเลิกรา เรียกว่าน่ากลัวไม่หยอกเหมือนกัน
    ส่วนคนที่มีความรักแบบราศีมิถุน จินตนาการหรือความเพ้อฝันแบบราศีมิถุนไม่ค่อยจะแน่นอนนัก มี
    เหมือนกันแต่น้อย ไม่ถึงกับขาดแคลน แต่มีเป็นพักๆ เดี๋ยวมา เดี๋ยวไป ไม่สม่ำเสมอ ใครได้หวานใจที่มีความ
    รักแบบนี้ก็ต้องทำใจหน่อย ชีวิตรักอาจไม่ค่อยโรแมนติดเท่าใดนัก ท่านต้องจินตนาการ เพ้อฝันเอาเองบ้าง
    หาไม่แล้วจะผิดหวังเสียเปล่าๆ
     
  11. satan

    satan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ตุลาคม 2004
    โพสต์:
    5,055
    ค่าพลัง:
    +17,915
    ราศีมังกรแพ้ใครในจักรวาล (1)

    เมื่อวันก่อนเราได้จบเรื่องของราศีธนูแพ้ใครในจักรวาลไปเรียบร้อยแล้ว ทุกสรรพสิ่งที่อยู่
    ภายใต้ราศีธนูแพ้ทางทุกสรรพสิ่งที่อยู่ภายใต้อิทธิพลของราศีกรกฎ วันนี้เป็นเรื่องของราศีมังกรราศีที่
    สิบของจักรราศี เรามาดูกันต่อว่าราศีที่ราศีมังกรแพ้ทางคือราศีใด
    ผมจะนำความรู้เรื่องธาตุและจักรราศีมาเป็นกุญแจสำหรับไขข้อข้องใจข้างต้น ราศีมังกร
    เป็นราศีธาตุดินที่มีความหนาแน่นอย่างที่สุด ถ้าเปรียบเทียบให้เห็นได้ชัดเจน น่าจะเปรียบได้กับกำแพง
    ที่มีความหนาแน่นมากที่สุด เป็นกำแพงใหญ่เพียงชั้นเดียว
    สิ่งที่จะมีธรรมชาติที่จะมาทำลายธาตุดินแบบราศีมังกรได้ ก็คือ ธาตุไฟ ทำลายในที่นี้หมาย
    ถึง การทำให้ธาตุดินเปลี่ยนสภาพของตนเองไปเป็นธาตุอื่น เราอย่าเพียงมองแต่เพียงภายนอก ควรนำ
    หลักของการอุปมาเข้ามาช่วยในการตีความหรือทำความเข้าใจด้วย ควรมองธรรมชาติของการเป็นธาตุ
    ดินให้รอบด้าน เช่น มองในเรื่องของความมั่นคง ความหนักแน่น ความหนาแน่น ความแข็ง เหล่านี้เป็น
    ต้น ธาตุไฟก็เช่นกัน อย่าไปมองเพียงแค่สิ่งที่เป็นเปลวไฟ อาจแปลความไปถึง พลังงานความร้อน ความ
    ร้อนรุ่มในจิตใจคน การแผ่รังสี และในเรื่องของการแพ้ก็เช่นกัน ความหมายของการแพ้ในที่นี้ หมายถึง
    การทำให้อีกสิ่งหนึ่งแปรสภาพไปจากเดิม โดยใช้พลังงานที่พอเหมาะ ตรงนี้เป็นกุญแจสำคัญที่จะทำให้
    เราเข้าถึงเรื่องใครแพ้ใครในจักรวาล
    เรามาพูดถึงเรื่องของราศีมังกรหรือธาตุดินกันต่อ ถ้าเรานำไฟกองมหึมาภายใต้อิทธิพล
    ของราศีเมษมาเผาธาตุดิน ธาตุดินก็จะถูกแปรสภาพด้วยพลังงานความร้อน ถ้าจะเปรียบเทียบให้เห็น
    ชัดเจนขึ้น ลองเปรียบเทียบให้ราศีมังกร เป็นน้ำแข็งก้อนใหญ่มหาศาลเพียงก้อนเดียว ถ้าใช้ไฟพลังมาก
    มายมาพ่นใส่ก้อนน้ำแข็งยักษ์ ความร้อนก็คงจะทำให้น้ำแข็งยักษ์ละลายได้ แต่อาจจะไม่หมด เพราะถึง
    แม้ความร้อนจะมาก แต่เนื่องจากน้ำแข็งก็เป็นก้อนใหญ่มหาศาล ดูแล้วถึงแม้จะละลายได้มากมาย แต่ไม่น่า
    จะหมดแบบพอดิบพอดี
    แต่ถ้าใช้ไฟขนาดลดลงภายใต้อิทธิพลของราศีสิงห์มาลนอย่างสม่ำเสมอ ธาตุดินหรือน้ำแข็ง
    ตามลีลาราศีมังกร ก็ถูกทำให้แปรสภาพเป็นน้ำ โอกาสที่จะทำให้น้ำแข็งยักษ์เปลี่ยนสภาพหรือละลายจน
    หมดก้อนมีความเป็นไปได้สูง เพราะใช้ไฟปริมาณมากพอสมควร และจี้ลนอย่างต่อเนื่องไปเรื่อยๆ ก็น่าจะ
    ทำให้น้ำแข็งยักษ์ละลายหมดก้อนได้
    แต่ถ้าใช้ไฟที่อ่อนที่สุด คือ ธาตุไฟราศีธนูมาลนเป็นบางครั้งบางครา เดี๋ยวลนเดี๋ยวหยุดสลับกัน
    ไป น้ำแข็งยักษ์ตามลีลาของราศีมังกรคงจะหมดก้อนยาก
    พิจารณาแล้ว ราศีมังกรจึงน่าจะแพ้ทางราศีสิงห์แบบเหมาะเจาะมากกว่าราศีธาตุไฟราศีอื่น
     
  12. satan

    satan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ตุลาคม 2004
    โพสต์:
    5,055
    ค่าพลัง:
    +17,915
    ราศีกุมภ์แพ้ใครในจักรวาล (1)

    เราได้เรียนรู้ผ่านไปแล้วสิบราศี ได้เรียนรู้ว่าราศีใดแพ้ทางราศีใด รวมถึงแนวทาง
    การนำหลักเกณฑ์นี้ไปสังเกตเพื่อประยุกต์ใช้งาน วันนี้มาถึงคิวราศีกุมภ์ เรามาดูกันต่อไปว่าราศี
    กุมภ์จะแพ้ทางราศีใด
    ราศีกุมภ์ เป็นราศีแม่ธาตุลม เป็นราศีหน้าทวาร เป็นพลังลมที่รุนแรงเป็นอันดับ
    สองจากบรรดาลมสามจำพวกหรือราศีธาตุลมด้วยกัน นอกจากพลังลมที่มีแรง แต่ไม่ได้แรงที่สุด
    แรงลองมาจากราศีตุลย์ จุดเด่นอีกประการหนึ่ง คือ มีพลังงานที่ปลดปล่อยออกมาอย่างต่อเนื่อง
    ไม่มีหยุด เราเคยเรียนรู้พลังงานธาตุลมของราศีมิถุนไปแล้วว่าจะอ่อนกำลัง เมื่อพัดไปปะทะกับกำ
    แพงที่หนาทึบ เพียงชั้นเดียวก็เพียงพอที่จะสลายพลังลมของราศีมิถุนได้ เรียกว่าพัดมาชนกำแพง
    เพียงครั้งเดียว พลังลมก็ต้องสลายไปทันที แต่สำหรับราศีกุมภ์ ปริมาณและขนาดของพลังงานธาตุ
    ลมมีความมหาศาลมากกว่าราศีมิถุนมากนัก ดังนั้นการที่จะทำให้สูญสภาพหรือสูญเสียความเป็น
    ธาตุลมนั้นจึงไม่เหมือนกับราศีมิถุนแน่นอน
    เป็นที่รู้กันอยู่แล้วว่าราศีธาตุลมย่อมอ่อนแรงเมื่อพัดมาปะทะกับพลังธาตุดินหรือสิ่งที่มี
    ธรรมชาติหนาแน่น ถ้าลมที่ขนาดใหญ่ และพัดอย่างรุนแรงวูบใหญ่ ถ้าพัดผ่านกำแพงธาตุดินที่มี
    ขนาดไม่หนาแน่นนัก และวางห่างกัน มีหลายชั้น (ราศีกันย์) ลมนั้นคงจะพัดกำแพงราศีกันย์กระจุย
    ดูแล้วไม่น่าจะทานความแรงของลมราศีตุลย์ได้ ถึงจะพอเรียกว่าแพ้ทางกันบ้าง แต่ยังไม่สมน้ำสมเนื้อ
    หากลมราศีกุมภ์พัดเข้าหากำแพงขนาดมหึมาเพียงชั้นเดียว เป็นกำแพงที่มีความหนาแน่นอย่าง
    ที่สุด ถ้ากำแพงนั้นมีขนาดใหญ่มหาศาล กำแพงนั้นก็ยังมีสิทธิต้านทานลมของราศีกุมภ์ได้ ทำให้ราศี
    กุมภ์แพ้ทางได้เหมือนกัน แต่หากพิจารณาดีๆแล้ว อาจเป็นการใช้ทรัพยากรเพื่อสลายลมของราศีกุมภ์
    มากเกินไป เรียกว่ายังไม่ลงตัวเท่าใดนัก
    แต่หากสร้างกำแพงให้มีขนาดเล็กลงมา แต่มีกำแพงบ้าง เว้นระยะบ้าง ไม่จำเป็นต้องทำให้มี
    จำนวนสม่ำเสมอ คอยกั้นพลังลม เมื่อลมราศีกุมภ์พัดมาปะทะกำแพง พลังที่มากมายก็จะค่อยๆลดลง
    ประกอบกับระยะทางที่ลมพัด จะทำให้ลดพลังของลมลงไปด้วย พอพัดไปปะทะกำแพงอีก ก็จะยิ่งอ่อน
    แรงลงจนสลายตัวไปในที่สุด ซี่งกำแพงหรือธาตุดินในรูปแบบนี้ คือ ธาตุดินราศีกันย์นั่นเอง ซึ่งถ้าใช้
    กำแพงแบบราศีพฤษภ อาจจะเกินความจำเป็น แต่ถ้าใช้กำแพงแบบราศีกันย์ จะเป็นการใช้ทรัพยากร
    ที่ค่อนข้างลงตัวพอดี
    ราศีกุมภ์แพ้ใครในจักรวาล (ต่อ)

    เมื่อวันก่อนเราได้พูดถึงการแพ้ทางของราศีกุมภ์ต่อราศีกันย์ ซึ่งเป็นเรื่องของที่มา
    ที่ใช้ธาตุเป็นเครื่องมือหลักในการพิจารณา วันนี้มาดูกันต่อในเรื่องของราศีกุมภ์ว่าที่แพ้ราศีกันย์นั้น
    ในแง่ของการประยุกต์ไปใช้งาน เราจะใช้ในลักษณะไหนได้บ้าง เริ่มแรกลองมาดูในเรื่องของดวงสม
    พงษ์ ในแง่ของการคบคน การ่วมหุ้นลงทุน การมีคู่ หรือการอยู่ร่วมกันในรูปแบบใดก็ตาม ชาวราศี
    กุมภ์ย่อมเสียเปรียบ แพ้ทางชาวราศีกันย์วันยังค่ำ
    บุคลิกภาพของชาวราศีกุมภ์ คือ มีความคิดแปลก คิดไม่เหมือนใคร แหวกแนว ทวน
    กระแสชาวโลก ชอบปฎิรูป ปฏิวัติสิ่งต่างๆ มีหัวทางเทคนิค ช่างสังเกต รู้ใจคน มีน้ำใจ บุคคลที่มี
    บุคลิกภาพแบบนี้มักเสียเปรียบบุคคลที่มีบุคลิกภาพแบบราศีกันย์ คือ คนที่มีความเป็นระเบียบเรียบ
    ร้อย มีวินัย เรียบง่าย ขยัน รู้หลายด้าน ชอบวิพากษ์วิจารณ์ หากมาใกล้ชิด สนิทสนมกับชาวราศีกันย์
    นานวัน อาจจะเกิดอะไรเสียสมดุลย์เพราะนิสัยเรียบง่าย ของราศีกันย์อย่างแน่นอน
    พิจารณาในเรื่องของเครื่องแต่งกาย ชาวราศีกุมภ์เหมาะสำหรับเครื่องแต่งกายที่เน้น
    ลีลาทันสมัย แปลก ไม่เหมือนใครและภูมิฐาน เน้นน้ำหอมที่มีกลิ่นอ่อนเป็นหลัก แต่โดยปกติชาวราศี
    กุมภ์ไม่นิยมใช้น้ำหอม ส่วนชาวราศีกันย์ชอบใส่เสื้อผ้าที่เรียบง่าย ดูสะอาดตา อาจเป็นแบบเก่า ไม่ซับ
    ซ้อนมากนัก ล้วนเป็นสไตล์ที่ชาวราศีกุมภ์ควรหลีกเลี่ยง หากจะเสี่ยงลองก็ไม่มีใครว่า แต่หากเสียพลัง
    ธาตุภายในตัวแล้วจะมาว่ากันไม่ได้
    ในเรื่องของสถานที่และทิศทาง ชาวราศีกุมภ์ เหมาะสำหรับตั้งรกราก ถิ่นฐานหรือทำงาน
    ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ อยู่ในสถานที่ใกล้ศูนย์คอมพิวเตอร์ บริเวณที่เป็นศูนย์เทคโนโลยี่ บริเวณที่มี
    ชาวต่างประเทศอาศัยอยู่ สถานีวิทยุ โทรทัศน์ ร้านถ่ายภาพ ควรหลีกเลี่ยงทิศและสถานที่ของราศีกันย์
    คือ ทิศตะวันตกเฉียงเหนือ สถานที่ใกล้โรงพยาบาล สมาคม สโมสร โรงเรียน ตลาดนัด ตลาดสด สวน
    ผลไม้ สวนดอกไม้
    อาชีพที่ไม่สมพงษ์กับชาวราศีกุมภ์ คือ ธุรกิจเกี่ยวกับสุขภาพ อนามัย สุขภัณฑ์ เวชภัณฑ์
    สถานพักฟื้น การตรวจบัญชี งานด้านการตรวจสอบทุกสาขา การพิมพ์ การออกแบบทางอุตสาหกรรม
    ช่างซ่อมนาฬิกา หมายถึงเป็นอาชีพที่ชาวราศีกุมภ์ไม่ค่อยชอบ หรือนำไปประกอบอาชีพแล้วไม่ประสบ
    ความสำเร็จเท่าที่ควร หรือดีไม่ดีก็ถอยหลังลงคลองไปเลย นอกจากนั้นยังหมายถึง ความไม่สมพงษ์ใน
    การคบหาสมาคมกับบุคคลในวงอาชีพดังกล่าว
     
  13. satan

    satan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ตุลาคม 2004
    โพสต์:
    5,055
    ค่าพลัง:
    +17,915
    ราศีมีนแพ้ใครในจักรวาล -1

    จากความรู้เรื่องธาตุและจักรราศี ทำให้เราทราบว่าราศีมีนถือเป็นราศีธาตุน้ำ เปรียบ
    เสมือนน้ำปริมาณน้อยที่ไหลเป็นพักๆ เดี๋ยวไหลเดี๋ยวหยุด ไม่ค่อยมีความแน่นอน เหมือนน้ำประปา
    ยามหน้าแล้งกระมัง จะไม่ใช่น้ำมหึมาแบบราศีกรกฎหรือราศีพิจิก ที่มีปริมาณมากกว่าหลายเท่าตัว
    สิ่งที่มีธรรมชาติสลายพลังของความเป็นธาตุน้ำตามลีลาของราศีมีน คือ ราศีที่อยู่ลำดับ
    ที่แปดถ้านับราศีมีนเป็นราศีตั้งต้น ราศีนั้นคือราศีตุลย์ ราศีตุลย์เป็นราศีธาตุลมที่มีพลังความแรง
    มากเป็นอันดับหนึ่งในบรรดาราศีธาตุลมด้วยกัน จุดเด่นอีกประการหนึ่งของธาตุลมราศีตุลย์ คือ เป็น
    ลมที่พัดอย่างแรงเป็นที่สุด พลังแรงลมมีเท่าใดปล่อยออกมาหมด ธาตุลมราศีตุลย์มีคุณสมบัติที่สา
    มารถสลายธาตุน้ำปริมาณเล็กน้อยได้ไม่ยากเย็น
    ถ้าเราจะเปรียบเทียบถึงการแพ้ทางของราศีมีนต่อราศีตุลย์ ลองเปรียบเทียบให้ราศีมีน
    เป็นน้ำจำนวนน้อยที่กระจายอยู่บนพื้นดินเป็นหย่อมๆ ห่างๆกันไป ทิศทางไม่แน่นอน ถ้ามีลมแรงๆ
    ปานพายุพัดมาอย่างรุนแรง เรียกว่าพัดทีเดียวก็น่าจะทำให้น้ำที่กระจัดกระจายเหล่านี้หมดสภาพไป
    ในพริบตา เปลี่ยนสภาพจากของเหลวกลายเป็นก๊าซ ถ้าถามว่าใช้ลมที่มีความแรงลดลงและปริมาณ
    ที่มากลดลงมาพัดอย่างต่อเนื่อง ก็จะทำให้น้ำเปลี่ยนสภาพได้เหมือนกัน แต่เนื่องจากลมประเภทนี้
    เปรียบได้กับธาตุลมราศีกุมภ์ จะพัดอย่างต่อเนื่อง อาจจะเกินความจำเป็น ถึงแม้น้ำดังกล่าวเปลี่ยน
    สภาพไปหมดแล้ว ลมก็ยังคงพัดอยู่ต่อไป ถือเป็นการใช้พลังเกินความจำเป็น ไม่ใช่การแพ้ทางกันที่
    ลงตัวเท่าใดนัก
    ราศีมีนแพ้ใครในจักรวาล (ต่อ)

    วันนี้เรามาดูกันต่อในเรื่องของราศีมีนว่าที่ว่าแพ้ราศีตุลย์นั้น ในแง่ของการ
    ประยุกต์ไปใช้งาน เราจะใช้ในลักษณะไหนได้บ้าง เริ่มแรกลองมาดูในเรื่องของดวง
    สมพงษ์ ในแง่ของการคบคน การร่วมหุ้นลงทุน การมีคู่ หรือการอยู่ร่วมกันในรูปแบบใดก็
    ตาม ชาวราศีมีนย่อมเสียเปรียบชาวราศีตุลย์
    บุคลิกภาพของชาวราศีมีน คือ เป็นนักแสวงบุญตัวเอ้ ช่างเพ้อฝัน ชอบสันโดษ
    ชีวิตอยู่กับความคลุมเครือ ไวต่ออิทธิพลจากภายนอก ชอบปรัชญาเมธี แสวงหาการมี
    ชีวิต บุคคลที่มีบุคลิกภาพแบบนี้มักเสียเปรียบบุคคลที่มีบุคลิกภาพแบบราศีตุลย์ คือ คน
    ที่รักความสงบสุข ถ้อยทีถ้อยอาศัย รักความเที่ยงตรง รักหมู่คณะ อ่อนโยน เข้าไหนเข้าได้
    ไม่เด็ดขาด ร่าเริงแจ่มใส เจ้าชู้ รักสันติ ซึ่งคิดดูก็น่าจะจริง ยกตัวอย่างเช่น ชาวราศีมีน
    เป็นคนที่ชอบสันโดษ เก็บตัว หากไปเจอชาวราศีตุลย์ที่ชอบสังคม ร่าเริงเฮฮา ชาวราศี
    ตุลย์จึงน่าจะมีบทบาททำลายบุคลิกภาพของชาวราศีมีนได้พอสมควร หากมาอยู่ร่วมกัน
    ความเป็นราศีมีนย่อมถูกทำลายได้โดยง่าย
    พิจารณาในเรื่องของเครื่องแต่งกาย ชาวราศีมีนเหมาะสำหรับเครื่องแต่งกายที่
    คลาสสิค แปลก ไม่เหมือนใครและไม่มีใครเหมือน ชอบน้ำหอมที่มีอ่อน ผสมด้วยความ
    หอมละเมียดของดอกไม้ ส่วนชาวราศีตลุย์ชอบเครื่องแต่งกายที่เน้นรสนิยมสูง ราคาแพง
    ฝีมือตัดเย็บปราณีต เนื้อผ้านุ่มสบายตัว ชอบน้ำหอมชั้นสูงที่ราคาแพงลิบลิ่ว ชาวราศี
    มีนจึงควรหลีกเลี่ยงการแต่งกายตามแบบราศีตุลย์ เพราะคงจะฝืนความรู้สึกของตน
    เองพิลึก และเป็นการทำลายพลังของตนเองอย่างไม่รู้ตัว
    ในเรื่องของสถานที่และทิศทาง ชาวราศีมีน เหมาะสำหรับตั้งรกราก ถิ่นฐาน
    หรือทำงานทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ วัด สำนักสงฆ์ โรงภาพยนตร์ สถานที่เวิ้งว้างเปล่า
    เปลี่ยว อยู่ในสถานที่ใกล้โรงพยาบาล ใกล้น้ำ โดยเฉพาะทะเล มหาสมุทร เกาะ ปั๊มแก๊ส
    ปั๊มน้ำมัน ศาลเจ้า วัด ควรหลีกเลี่ยงทิศและสถานที่ของราศีตุลย์ คือ ทิศตะวันตก สถานที่
    ใกล้ศาลสถิตยุติธรรม โรงเรียนกฎหมาย ร้านค้า ตลาดสด
    อาชีพที่ไม่สมพงษ์กับชาวราศีมีนได้แก่ ธุรกิจเกี่ยวกับกฎหมาย ทนายความ ศิลป
    ศึกษา วิเทศน์สัมพันธ์ ธุรกิจเสริมสวย แฟชั่น เครื่องสำอาง น้ำหอม โภชนาการ สิ่งทอ
    แพรไหม เป็นอาชีพที่ชาวราศีมีนไม่ค่อยชอบ หรือนำไปประกอบอาชีพแล้วไม่ประสบ
    ความสำเร็จเท่าที่ควร หรือดีไม่ดีก็ถอยหลังลงคลองไปเลย นอกจากนั้นยังหมายถึง ความ
    ไม่สมพงษ์ในการคบหาสมาคมกับบุคคลในวงอาชีพดังกล่าว
     
  14. satan

    satan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ตุลาคม 2004
    โพสต์:
    5,055
    ค่าพลัง:
    +17,915
    ราศีเมษแพ้ใครในจักรวาล

    ความรู้ต่างๆในโลกมีมากมายเหลือเกิน มีเรื่องราวอีกไม่น้อยที่เรายังไม่รู้ แต่ถ้าหากุญแจถูกดอก
    เราก็จะสามารถไขความลับต่างๆเหล่านี้ออกมาได้ นักโหราศาสตร์มีกุญแจดอกสำคัญที่จะไขความ
    ลับต่างๆในจักรวาลออกมาตีแผ่ กุญแจดอกนั้นคือ จักรราศีนั่นเอง ความลับในจักรวาลมีมากมาย
    ให้เราไข แต่สำหรับวันนี้เราจะใช้จักรราศีผสมกับเรื่องธาตุในการไขปัญหาว่าราศีเมษแพ้ใครใน
    จักรวาล
    จากความรู้เรื่องธาตุ ราศีเมษถือเป็นราศีแม่ธาตุไฟ เปรียบเสมือนไฟกองใหญ่มหึมามากที่มีพลัง
    ความร้อนมหาศาล มีพลังงานอยู่เท่าใดก็จะปลดปล่อยออกมาหมดไม่มีการยับยั้ง ถ้าเราไม่คิดให้ลึก
    ซึ้ง เราก็อาจคิดว่าคงไม่มีสิ่งใดมาทำลายไฟกองมหึมาได้ แต่ถ้าเราคิดถึงหลักธรรมชาติที่ว่า ทุกสิ่ง
    ทุกอย่างย่อมมีสิ่งที่ตนเองแพ้ทางอยู่เสมอ สิ่งที่จะทำลายไฟได้ ก็ควรจะมีเช่นเดียวกัน ควรจะเป็นสิ่ง
    ที่มีคุณสมบัติตรงกันข้ามกันจึงจะทำลายกันได้ ถ้าเราคิดได้เช่นนี้ เราก็คงพอจะนึกออกว่า ไม่ว่าไฟจะ
    กองใหญ่มหึมาสักเพียงใด ย่อมถูกทำลายได้เช่นกัน เนื่องจากไฟมีธรรมชาติที่ร้อน สิ่งที่จะทำลายไฟ
    ได้ ต้องมีคุณสมบัติตรงกันข้าม คือ เย็น สิ่งนั้นน่าจะเป็นน้ำ แต่น้ำประเภทไหนล่ะที่จะสามารถดับไฟ
    กองมหึมานี้ได้
    เราลองเอาน้ำทั้งสามประเภทมาราดรดใส่เข้าไปในไฟกองมหึมาแบบราศีเมษดูว่า ผลจะเป็นเช่นไร
    ถ้าเราเอาน้ำแบบราศีกรกฎ ซึ่งเปรียบเหมือนน้ำถังใหญ่มาก สาดลงบนกองไฟกองมหึมา มีอยู่เท่าไร
    ราดรดไปทีเดียวจนหมด ก็มีสิทธิทำให้ไฟดับได้ แต่ไม่หมด พลังงานของไฟจึงยังคงเหลืออยู่ ดังนั้น
    ไฟกองใหญ่ตามลีลาของราศีเมษ จึงยังไม่ถือว่าแพ้น้ำถังใหญ่ตามลีลาของราศีกรกฎ แต่ก็ทำให้พลัง
    งานของไฟลดน้อยถอยลงไปพอสมควร
    แต่ถ้าเราจะเอาน้ำมาดับไฟกองเดิมใหม่ โดยใช้น้ำตามลีลาของราศีมีน คือ ใช้น้ำจำนวนไม่มากนัก
    สาดเพื่อดับไฟกองใหญ่ โดยสาดเป็นครั้งคราว สาดเข้าไปเป็นพักๆ ก็คงยากที่จะดับไฟกองใหญ่กอง
    นี้ได้ ธาตุน้ำตามลีลาของราศีมีน จึงไม่สามารถดับไฟกองใหญ่ตามลีลาของราศีเมษได้ คงเป็นทำนอง
    "น้ำน้อยย่อมแพ้ไฟ"
    เราลองมาใช้น้ำตามลีลาของราศีพิจิกดูบ้างว่าพอมีหวังที่จะดับไฟตามลีลาของราศีเมษได้หรือไม่
    น้ำตามลีลาของราศีพิจิก คือ การใช้น้ำจำนวนมากพอสมควร น้อยกว่าตามลีลาของราศีกรกฎ ราด
    รดบนไฟกองใหญ่แบบราศีเมษอย่างสม่ำเสมอไม่ขาดสาย ไฟกองใหญ่ตามลีลาของราศีเมษคงยาก
    ที่จะคุโชนต่อไปได้ มีสิทธิดับมดอย่างแน่นอน
    ราศีเมษแพ้ใครในจักรวาล (2)

    เมื่อวานก่อน เราได้พูดถึงเรื่อง "ราศีเมษแพ้ใครในจักรวาล" ซึ่งกุญแจที่จะช่วยไข
    ความลับนี้ให้กระจ่าง คือ การใช้ความรู้ในเรื่องของจักรราศีและเรื่องธาตุที่ผมได้ปูพื้นไปแล้วนั่น
    เอง ทำให้เราได้ข้อสรุปว่า ราศีเมษ (ธาตุไฟกองใหญ่มหึมา มีพลังเท่าใดปล่อยออกมาหมด) แพ้
    ราศีพิจิก (ธาตุน้ำ จำนวนมาก ที่ไหลถั่งโถมออกมาอย่างต่อเนื่อง) นั่นหมายความว่า ทุกสรรพสิ่ง
    ที่มีธรรมชาติตามแบบราศีเมษ จะแพ้ทางทุกสรรพสิ่งที่มีธรรมชาติตามแบบราศีพิจิก ไม่ว่าสิ่งนั้น
    จะเป็นสิ่งมีชีวิต สิ่งไม่มีชีวิต สิ่งที่มีวิญญาณครอง หรือไม่มีวิญญาณครองก็ตาม
    วันนี้ผมจะพูดถึงการนำหลักการดังกล่าวมาประยุกต์ใช้ในชีวิตจริง ไม่ใช่ว่าอ่านแล้ว
    จบแล้วก็แล้วไป ซึ่งถ้าเป็นเช่นนั้นถือว่าผิดวัตถุประสงค์ของคอลัมน์นี้ บางเรื่องอาจจะเป็นเรื่องที่
    เราประสบอยู่เป็นประจำแล้วก็ได้
    ถ้าเรานำความรู้ดังกล่าวมาพิจารณาถึงเรื่องการคบคน ถ้าเป็นภาษาโหราศาสตร์ก็
    เรียกว่า ดวงสมพงษ์ ความรู้ดังกล่าวบอกเราว่า บุคคลที่เป็นชาวราศีเมษมักเสียเปรียบบุคคลที่
    เป็นชาวราศีพิจิกอยู่ในทีอยู่แล้ว เรียกว่าแพ้ทางกันโดยที่ยังไม่ทันทำอะไรเลย เพียงแค่อยู่ร่วม
    บริเวณ อาจจะเป็นเพื่อนบ้าน เพื่อนร่วมงาน (ถึงแม้จะไม่ได้ทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดก็ตาม )
    พลังของชาวราศีพิจิกมักข่มให้ชาวราศีเมษจ๋อยไปเลย
    ชาวราศีเมษ คือ ผู้ที่เกิดระหว่างวันที่ 21 มีนาคมถึงวันที่ 20 เมษายนของทุกปี
    ชาวราศีพิจิก คือ ผู้ที่เกิดระหว่างวันที่ 21 ตุลาคมถึงวันที่ 20 พฤศจิกายนของทุกปี
    หากชาวราศีเมษและชาวราศีพิจิก มาอยู่ร่วมเป็นสามีภรรยากัน นับว่าเป็นอันตราย
    ต่อชีวิตคู่เป็นอย่างยิ่ง เพราะหากสิ่งที่แพ้ทางกัน โดยเฉพาะเป็นสิ่งที่มีชีวิต มาอยู่ร่วมกัน อาจเป็น
    อันตรายถึงแก่ชีวิตเอาง่ายๆ อย่างเบาก็กลัวเมีย (กรณีสามีเป็นชาวราศีเมษและภรรยาเป็นชาว
    ราศีพิจิก) อย่างหนักก็กลายเป็นดวงกินผัว กินเมีย ดังนั้น คนโบราณก่อนที่จะตัดสินใจมีชีวิตคู่
    ร่วมหอลงโลงเดียวกัน เขามักให้โหราจารย์ที่มีความรู้ตรวจดวงชะตาชายหญิงที่จะแต่งงานกัน
    เสียก่อนว่าดวงชะตาสมพงษ์กันหรือไม่ ถ้าดวงไม่สมพงษ์กัน ก็ควรคบกันในฐานะเพื่อนจะดีกว่า
    ขืนดันทุรังแต่งงานหรืออยู่กินกัน จะทำให้ไม่สมหวังในชีวิตคู่
    หากพิจารณาในเรื่องของการร่วมหุ้นลงทุน ทำธุรกิจ ชาวราศีเมษพึงหลีกเลี่ยงการ
    ร่วมหุ้นลงทุนกับชาวราศีพิจิก เพราะชาวราศีเมษจะเป็นฝ่ายเสียเปรียบตั้งแต่ในมุ้ง ดวงมันข่มกัน
    อยู่ ไม่ว่าจะทำอะไรก็ต้องตกเป็นรองวันยังค่ำ มักส่งผลเสียทั้งในการทำธุรกิจร่วมกัน และบางราย
    อาจได้รับกระแสข่มจากอีกฝ่ายหนึ่ง ซึ่งเป็นผลเสียต่อสุขภาพของตนเองด้วย
    หากพิจารณาในเรื่องของเครื่องแต่งกาย เครื่องแต่งกายตามลีลาของชาวราศีพิจิก
    จะเป็นแบบเซ็กซี่ สีเข้ม ฉูดฉาด แฝงความน่าตี่นเต้นและลึกลับ ดังนั้นชาวราศีเมษจึงไม่เหมาะที่
    จะแต่งกายที่มีลักษณะข้างต้น เพราะจะถูกพลังแฝงของเครื่องแต่งกายดังกล่าวที่อยู่ภายใต้อิทธิ
    พลของราศีพิจิกบั่นทอนพลังของความเป็นชาวราศีเมษโดยไม่รู้ตัว
    ลองพิจารณาในแง่ของความเป็นจริง บุคคลที่อยู่ภายใต้อิทธิพลของราศีเมษ ได้แก่
    ทหาร ตำรวจ ท่านลองคิดดู หากให้ทหาร ตำรวจ แต่งกายแบบเซ็กซี่คงน่าดูพิลึก ให้ใช้เครื่องแบบ
    ที่มีสีฉูดฉาด ออกลวดลายพริ้ว เวลาออกรบหรือจับผู้ร้าย คงสนุกไปอีกแบบหนึ่ง พลังแห่งความ
    เข้มแข็งและน่าเกรงขามที่น่าจะมี คงจะหายไปหมดเป็นแน่แท้
    หากพิจารณาในเรื่องทิศและสถานที่ภายใต้อิทธิพลของราศีพิจิก ได้แก่ ทิศตะวันตก
    เฉียงใต้ ส่วนสถานที่ได้แก่ โรงพยาบาล ป่าช้า ร้านขายโลงศพ โรงแรม บ่อน ซ่อง สถานอาบอบ
    นวด โรงเหล้า สถานที่สันโดษ ทิศและสถานที่เหล่านี้ล้วนแฝงพลังในการทำลายชาวราศีเมษโดย
    เฉพาะ
    สำหรับอาชีพภายใต้อิทธิพลของราศีพิจิก ได้แก่ นักปรัชญา (ในฐานะของนักค้นคว้า)
    นักอภิปรัชญา นักเคมี แพทย์ นักวิเคราะห์ นักโหราศาสตร์ นักไสยศาสตร์ สัปเหร่อ เจ้าหน้าที่เกี่ยว
    กับอาชญากรรม สายลับ ผู้เก็บความลับ นักสืบ จารชน อาชีพที่เกี่ยวกับความตายทั้งหลาย ดังนั้น
    อาชีพเหล่านี้และบุคคลตามอาชีพเหล่านี้จึงไม่ค่อยจะสมพงษ์กับชาวราศีเมษ หากท่านเป็นชาวราศี
    เมษ จึงมักไม่ค่อยประสบความสำเร็จในอาชีพข้างต้น หรือถึงทำได้ ก็มักไม่เจริญก้าวหน้าเท่าที่ควร
    ถ้าเกิดผลเสียรุนแรง อาจทำให้เป็นอันตรายต่อสุขภาพและชีวิตของชาวราศีเมษเอง
    บุคลิกภาพตามลีลาของราศีเมษ ได้แก่ คนหัวริเริ่ม ขยัน ชอบทำตัวเป็นเด็ก ใจร้อน
    โกรธง่ายหายเร็ว ไม่รอบคอบ ส่วนบุคลิกภาพตามลีลาของราศีพิจิก ได้แก่ คนที่เลือดเย็น ขี้ระแวง
    ทรหด ลึกลับ ตายเพื่อความรัก ดุ กล้า เสียสละ หากบุคคลสองบุคลิกนี้มาอยู่ร่วมกัน ย่อมไม่เป็น
    มงคลอย่างแน่นอน
    คำกุญแจหรือความหมายหัวใจของราศีเมษ คือ การเกิด เพราะราศีเมษเทียบได้กับ
    การเกิดของธรรมชาติทั้งปวง หมายถึง การคลอดจากครรภ์มารดา ส่วนราศีพิจิกนั้น มีคำกุญแจ
    คือ การอุทิศตน เป็นราศีแห่งความตายของโลก ดังนั้นจะเห็นได้ว่า คนเราเกิดมา ไม่ว่าจะเก่งแค่
    ไหน ไม่ว่าจะเกิดมาในชั้นวรรณะใด ผลสุดท้ายก็ต้องลงเอยด้วยความตายด้วยกันทั้งสิ้น เป็นภัย
    ที่มนุษย์ทั้งหลาย ไม่ว่าจะฉลาดปราดเปรื่องเพียงใดยังไม่สามารถเอาชนะความตายได้โดยไม่มี
    ข้อยกเว้นแต่ประการใด ดังนั้น ความตายจึงถือเป็นเป้าหมายสุดท้ายของราศีเมษโดยแท้จริง
     
  15. satan

    satan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ตุลาคม 2004
    โพสต์:
    5,055
    ค่าพลัง:
    +17,915
    ราศีพฤษภแพ้ใครในจักรวาล (1)

    เมื่อวันก่อนเราได้จบเรื่องของราศีเมษแพ้ใครในจักรวาลไปเรียบร้อยแล้ว ทุกสรรพสิ่ง
    ที่อยู่ภายใต้ราศีเมษแพ้ทางทุกสรรพสิ่งที่อยู่ภายใต้อิทธิพลของราศีพิจิก วันนี้เป็นเรื่องของ
    ราศีพฤษภราศีที่สองของจักรราศี เรามาดูกันต่อว่าราศีที่ราศีพฤษภแพ้ทางคือราศีใด
    ผมจะนำความรู้เรื่องธาตุและจักรราศีมาเป็นกุญแจสำหรับไขข้อข้องใจข้างต้น ราศีพฤษภ
    เป็นราศีธาตุดินที่มีความหนาแน่นอย่างต่อเนื่อง ถ้าเปรียบเป็นความมั่นคง ก็หมายถึง ความ
    มั่นคงอย่างต่อเนื่อง ถ้าเปรียบเทียบให้เห็นได้ชัดเจน น่าจะเปรียบได้กับกำแพงที่มีความหนา
    มากพอสมควร แต่ไม่ใช่กำแพงหนาเพียงชั้นเดียว เป็นกำแพงที่มีหลายๆชั้น ต่อเนื่องกัน
    สิ่งที่จะมีธรรมชาติที่จะมาทำลายธาตุดินแบบราศีพฤษภได้ ก็คือ ธาตุไฟ ทำลายในที่นี้
    หมายถึง การทำให้ธาตุดินเปลี่ยนสภาพของตนเองไปเป็นธาตุอื่น เราอย่าเพียงมองแต่เพียง
    ภายนอก ควรนำหลักของการอุปมาเข้ามาช่วยในการตีความหรือทำความเข้าใจด้วย ควรมอง
    ธรรมชาติของการเป็นธาตุดินให้รอบด้าน เช่น มองในเรื่องของความมั่นคง ความหนักแน่น
    ความหนาแน่น ความแข็ง เหล่านี้เป็นต้น ธาตุไฟก็เช่นกัน อย่าไปมองเพียงแค่สิ่งที่เป็นเปลว
    ไฟ อาจแปลความไปถึง พลังงานความร้อน ความร้อนรุ่มในจิตใจคน การแผ่รังสี และในเรื่อง
    ของการแพ้ก็เช่นกัน ความหมายของการแพ้ในที่นี้ หมายถึง การทำให้อีกสิ่งหนึ่งแปรสภาพ
    ไปจากเดิม โดยใช้พลังงานที่พอเหมาะ ตรงนี้เป็นกุญแจสำคัญที่จะทำให้เราเข้าถึงเรื่องใคร
    แพ้ใครในจักรวาล
    เรามาพูดถึงเรื่องของราศีพฤษภหรือธาตุดินกันต่อ ถ้าเรานำไฟกองมหึมาภายใต้อิทธิ
    พลของราศีเมษมาเผาดิน ดินก็จะถูกแปรสภาพด้วยพลังงานความร้อน ความชุ่มชื่นที่แฝงอยู่
    ในดินที่เป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดสิ่งมีชีวิต ก็จะถูกทำลายจนเหี้ยนเตียน แต่จะเห็นได้ว่าเป็นการใช้
    พลังงานที่เกินความจำเป็น ไม่สมดุลกับสภาพของธาตุดินราศีพฤษภ แต่ถ้าใช้ไฟขนาดลดลง
    ภายใต้อิทธิพลของราศีสิงห์มาลนอย่างสม่ำเสมอ ธาตุดินก็ถูกทำให้แปรสภาพไปเหมือนกัน
    แต่ก็ยังเป็นการใช้พลังงานที่เกินความจำเป็นอยู่ดี แต่ถ้าใช้ไฟที่อ่อนที่สุด คือ ธาตุไฟราศีธนู
    มาลนเป็นบางครั้งบางครา (ถ้าเปรียบเทียบให้ราศีพฤษภ เป็นน้ำแข็งก้อนใหญ่พอสมควร
    หลายๆก้อนมาวางเรียงกัน) เดี๋ยวลนเดี๋ยวหยุดสลับกันไป เพียงแค่นี้ก็สามารถทำให้น้ำแข็ง
    ก้อนใหญ่ๆแปรสภาพมาเป็นน้ำได้อย่างสบายๆ ทำให้ความเป็นธาตุดินของราศีพฤษภสลาย
    ตัวลงไปอย่างสมดุลที่สุด เป็นการใช้พลังงานทำลายอย่างมีประสิทธิภาพที่สุด
    ราศีพฤษภแพ้ใครในจักรวาล (ต่อ)

    เราจบลงที่การได้ข้อสรุปว่าราศีพฤษภนั้นแพ้ทางราศีธนู ราศีพฤษภเป็นราศีธาตุดินที่มีความหนาแน่นคง
    เส้นคงวา ส่วนราศีธนูเป็นราศีธาตุไฟปลายธาตุ จึงเป็นไฟที่มีพลังความร้อนอ่อนกว่าเพื่อน ร้อนเป็นพักๆ เป็น
    ราศีธาตุไฟที่ทำให้ธรรมชาติของราศีพฤษภเปลี่ยนสภาพได้โดยใช้พลังงานสมดุลที่สุด ตัวอย่างที่ผมยกมาอาจ
    จะมีบางท่านที่ยังไม่กระจ่าง อาจจะยังมองเห็นภาพพจน์ไม่ใสปิ๊งเต็มที่นัก วันนี้ขอนำตัวอย่างมากล่าวต่ออีกสัก
    ครั้ง ท่านผู้อ่านจะได้สามารถทำความเข้าใจได้แบบไม่คาใจ
    เราลองเปรียบเทียบให้ความเป็นธาตุดินที่หนาแน่นมั่นคงของราศีพฤษภเป็นก้อนน้ำแข็งที่มีความแข็งตาม
    ธรรมชาติของธาตุดินราศีพฤษภ ความเป็นธาตุดินของน้ำแข็งจะถูกทำลายหรือถูกทำให้แปรสภาพได้หลายวิธี
    ซึ่งวิธีหลักก็คือ การใช้พลังงานความร้อนมาเผาผลาญ ยามใดที่น้ำแข็งถูกไฟลนหรือได้รับความร้อนหรืออยู่ใน
    อุณหภูมิที่สูงขึ้น น้ำแข็งก้อนนั้นก็จะค่อยๆละลายแปรสภาพจากน้ำแข็งกลายเป็นน้ำหรือกลายสภาพเป็นของ
    เหลวนั่นเอง แต่ไฟหรือพลังงานความร้อนปริมาณเท่าใด จึงจะพอเหมาะในการทำให้น้ำแข็งละลายเป็นน้ำ
    หากเราใช้คบขนาดใหญ่ตามลีลาของราศีเมษมาลนน้ำแข็ง แน่นอน น้ำแข็งก้อนนั้นย่อมละลายกลายเป็นน้ำ ถ้า
    นำไฟที่มีพลังงานน้อยลง แต่ให้พวยพุ่งใส่ก้อนน้ำแข็งอย่างสม่ำเสมอ จะเกิดอะไรขึ้น น้ำแข็งก็ยังคงถูกทำให้
    แปรสภาพเป็นน้ำเหมือนเดิม และหากใช้ไฟแบบราศีธนู คือ ไฟที่มีพลังงานน้ำที่สุด มาลนเป็นครั้งคราว จะเห็น
    ว่าก้อนน้ำแข็งก้อนนั้นก็ยังคงละลายเป็นน้ำเหมือนกัน
    เมื่อเปรียบเทียบความสามารถของไฟทั้งสามแบบที่ทำให้ก้อนน้ำแข็งละลายเป็นน้ำ จะเห็นได้ว่าผลของ
    การใช้ไฟทั้งสามแบบ ทำให้เกิดผลแบบเดียวกัน แต่การใช้ไฟที่ประหยัดที่สุดน่าจะเป็นไฟแบบราศีธนู ถือเป็น
    การใช้พลังงานความร้อนที่สมดุลสำหรับการทำลายสภาพของก้อนน้ำแข็ง
    ด้วยเหตุนี้เองทำให้เราได้ข้อสรุปว่า ราศีพฤษภแพ้ทางราศีธนู ทำนองเดียวกันกับที่ราศีเมษแพ้ทางราศีพิจิก
    ชาวราศีพฤษภ คือ ผู้ที่เกิดระหว่างวันที่ 21 เมษายน ถึง 20 พฤษภาคม ของทุกปี
    ชาวราศีธนู คือ ผู้ที่เกิดระหว่างวันที่ 21 พฤศจิกายน ถึงวันที่ 20 ธันวาคมของทุกปี
    ดังนั้นหากบุคคลสองราศีนี้อยู่ร่วมกัน ผู้ที่ได้เปรียบ คือ ชาวราศีธนู ผู้ที่เสียเปรียบคือ ชาวราศีพฤษภ หาก
    ร่วมหอลงโลงกัน ถือว่าให้โทษแก่กันหรือเรียกว่า ดวงชะตาไม่สมพงษ์กันนั่นเอง หากทำธุรกิจร่วมกัน ดวงชะตา
    ก็ไม่ส่งเสริมกัน ออกมาในทางทำลายกันเสียมากกว่า แต่หากเป็นศัตรูกัน ชาวราศีพฤษภย่อมเป็นฝ่ายเสียเปรียบ
    วันยังค่ำ บางครั้งส่งผลร้ายถึงเรื่องสุขภาพ ดีไม่ดีอาจถึงชีวิตเลยก็ได้
    รูปแบบการแต่งกายของชาวราศีพฤษภ คือ การแต่งกายหรูหรา เน้นที่คอเป็นพิเศษ เช่น ผู้ชายชาวราศีพฤษภ
    อาจจะเน้นด้วยการใช้เนคไทที่สวยหรู ส่วนการแต่งกายตามลีลาของราศีธนู คือ เน้นความเรียบง่าย ไม่มีพิธีรีตอง
    วมใส่ตามสบาย ชาวราศีพฤษภควรแต่งกายตามลีลาของราศีตนเองเป็นหลัก แต่หากดันทุรังไปแต่งกายตามลีลา
    ของชาวราศีธนู จะเป็นภัยแก่ตัวท่านเอง
    ด้านสถานที่ตามอิทธิพลของราศีธนู คือ ทิศตะวันตกเฉียงใต้ วัด สถานที่ทางศาสนา สนามกีฬา สถาบันต่าง
    ประเทศ สถานศึกษาชั้นสูง สิ่งเหล่านี้จึงแฝงพลังที่ให้โทษสำหรับชาวราศีพฤษภโดยเฉพาะอาชีพภายใต้อิทธิพล
    ของราศีธนู คือ นักกีฬา นักปรัชญา นักการเมือง ผู้พิพากษา นักปกครอง พ่อค้าใหญ่ เจ้าของคอกปสุสัตว์ นักแข่ง
    ความเร็วระดับโลก นายทหารม้า เสนาธิการ หมอสอนศาสนา ตัวแทนบริษัทเดินทาง ผู้สอนการขี่ม้าและขับรถ
    บุคคลตามอาชีพเหล่านี้จึงไม่เหมาะสำหรับชาวราศีพฤษภโดยไม่มีข้อแม้แต่ประการใด
     
  16. satan

    satan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ตุลาคม 2004
    โพสต์:
    5,055
    ค่าพลัง:
    +17,915
    ราศีมิถุนแพ้ใครในจักรวาล

    เราได้เรียนรู้ผ่านไปแล้วสองราศี เราจึงทราบว่าราศีเมษแพ้ทางราศีพิจิก ราศีพฤษภแพ้ทางราศีธนู
    ]วันนี้มาถึงคิวของราศีมิถุนว่าจะแพ้ทางราศีใดกันแน่
    ราศีมิถุน เป็นราศีปลายธาตุลม เป็นพลังลมที่อ่อนที่สุดในบรรดาลมสามจำพวก นอกจากพลังลมที่
    อ่อนที่สุดแล้ว จุดเด่นอีกประการหนึ่ง คือ เกิดขึ้นเป็นพักๆ ไม่แน่นอน เดี๋ยวพัด เดี๋ยวหยุด การที่พลังงาน
    ธาตุลมของราศีมิถุนจะอ่อนกำลัง จะเกิดขึ้นเมื่อพัดไปปะทะกับกำแพงที่หนาทึบ เพียงชั้นเดียวก็เพียงพอที่
    จะสลายพลังลมของราศีมิถุนได้ เรียกว่าพัดมาชนกำแพงเพียงครั้งเดียว พลังลมก็ต้องสลายไปทันที
    ถ้าจะเปรียบเทียบให้เห็นชัดเจนมากยิ่งขึ้นในเรื่องของการแปรสภาพของธาตุลมหรือการแพ้ของรา
    ศีมิถุน คงต้องนำเรื่องของไอน้ำ ที่ถือว่าเป็นธาตุลมมาเป็นตัวเปรียบเทียบ ไอน้ำถ้าถูกทำให้ความหนาแน่น
    ลดลงหรือถูกบีบอัดอย่างหนัก สภาพของไอน้ำก็จะถูกทำให้แปรสภาพกลายเป็นหยดน้ำหรือแปรสภาพจาก
    ก๊าซกลายเป็นของเหลว ธรรมชาติของธาตุลมจะถูกทำลายลง
    ซึ่งถ้าจะพิจารณาถึงราศีที่มีคุณสมบัติในการทำให้ราศีมิถุนจากแปรสภาพจากไอน้ำกลายเป็นหยดน้ำ
    ต้องนึกถึงราศีธาตุดิน ซึ่งมีพลังของความหนาแน่นอย่างที่สุด ซึ่งคือ ราศีมังกรนั่นเอง ถึงจุดนี้ทำให้เราได้คำ
    ตอบแล้วว่าราศีมิถุนแพ้ทางราศีมังกรนั่นเอง
    ชาวราศีมิถุน คือ บุคคลที่เกิดระหว่างวันที่ 21 มิถุนายนถึง 20 กรกฎาคมของทุกปี
    ชาวราศีมังกร คือ บุคคลที่เกิดระหว่างวันที่ 21 ธันวาคมถึง 20 มกราคมของทุกปี
    บุคลิกภาพของชาวราศีมิถุน คือ เป็นคนช่างพูด ชอบการสมาคมติดต่อกับคนรอบข้าง อยากรู้อยากเห็น
    รอบรู้ ฉลาด ส่วนบุคคลของชาวราศีมังกร คือ เป็นคนเยือกเย็น ตระหนี่ รอบคอบ พูดค่อย ขี้วิตกกังวล เจ้าทุกข์
    ชีวิตมักพลัดพรากบ่อย
    จากความรู้เรื่องใครแพ้ใครในจักรวาล ทำให้เราทราบว่า คนที่ช่างพูดมักเสียเปรียบคนที่เยือกเย็น รอบ
    คอบ เงียบๅแบบราศีมังกร เพราะถ้าพูดมากย่อมเปิดเผยตัวเองมาก ทำให้คนอื่นรู้ช่องโหว่ของตนเองมาก ใน
    ขณะที่คนเงียบมักจะเป็นฝ่ายฟังมากกว่าพูด ทำให้ "รู้เขา" ส่วนคนที่ช่างพูดหรือพูดมากที่มาพูดกับชาวราศีมัง
    กร จะทั้ง "ไม่รู้เขา" และ "เขารู้เรา" จึงมีโอกาสที่จะตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบวันยังค่ำ
    ถ้าพิจารณาในเรื่องของเครื่องแต่งกายที่ไม่ให้คุณแกชาวราศีมิถุน ได้แก่ เครื่องแต่งกายที่เป็นแฟชั่นเก่าๆ
    โดยเฉพาะสีเทาหรือสีดำ ชาวราศีมิถุนไม่ถูกโฉลกกับน้ำหอมที่มีกลิ่นอ่อนๆ รวมถึงน้ำหอมที่มียี่ห้อเก่าๆ
    ทิศที่ไม่ถูกโฉลกกับชาวราศีมิถุน คือ ทิศใต้ สถานที่ใกล้ทะเล ภูเขา สถานีเกษตร ประมง ที่สันโดษ ที่อากาศ
    หนาวเย็นหรือไม่ค่อยมีแสงสว่าง
    ดอกไม้ที่ไม่สมพงษ์กับชาวราศีมิถุน คือ ดอกฝิ่น ดอกคาร์เนชั่น ดอกไอวี่ อาชีพที่ไม่สนับสนุนชาวราศีมิถุน
    คือ อาชีพช่างปั้น ช่างศิลปะการพิมพ์ เจ้าของฟาร์ม ขายที่ดิน เจ้าของโรงงานประเภทหนัก ช่างก่อสร้าง เจ้าหน้า
    ที่สำรวจรังวัดที่ดิน งานที่เกี่ยวข้องกับการเกษตร
     
  17. satan

    satan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ตุลาคม 2004
    โพสต์:
    5,055
    ค่าพลัง:
    +17,915
    การแก้ไขดวงชะตา
    ค้นหาและแก้ไขจุดอ่อนของราศีตัวเอง ตอน : พรสวรรค์ที่มาพร้อมกับคำสาปของราศีเมถุน
    คำเตือน การเปิดเผยความลับสวรรค์ เป็นการบันทอนอายุตัวเอง การแก้ไขดวงชะตาตัวเองเป็นการฝืนลิขิตสวรรค์ อาจส่งผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงของสรรพสิ่งในจักรวาลได้ แต่ที่เราจะเปิดเผยในวันนี้คือ ถ้าในดวงชะตาของเราดีอยู่แล้วก็ส่งเสริมให้ดียิ่งขึ้น แต่ถ้าอันไหนที่ไม่ดีก็แก้ไขซะ อย่างเช่น ผมเกิดในราศีเมถุน ราศีคู่แฝด เป็นราศีแห่งธาตุลมซึ่งเป็นลมแบบอ่อนที่สุด ดูเหมือนไม่มีพลังเหมือนกับธาตุลมของราศีอื่น ซึ่งถือว่าเป็นจุดอ่อนที่สุดของราศีนี้เลยทีเดียว ราศีที่เอาแน่เอานอนไม่ได้ แต่เป็นราศีที่สามารถเอาชนะราศีอื่นๆได้ไม่ยาก ยกเว้นราศีมังกร ซึ่งเป็นธาตุดินและราศีเมถุนก็แพ้ทางราศีนี้
    แต่ด้วยความที่ผมเกิดรู้ความลับของจักรวาลหลายข้อ จึงรู้วิธีแก้ไขดวงชะตาของตัวเอง ซึ่งจุดอ่อนของราศีเมถุนก็คือ คนคนเดียวแต่เหมือนกับมีสองคน ทำให้ดูเหมือนกับว่าเป็นคนโลเล เอาแน่เอานอนไม่ได้ไม่กล้าตัดสินใจ แต่เนื่องจากว่าผมเป็นผู้เชี่ยวชาญทางด้านค้นหาและกำจัดจุดอ่อนของระบบคอมพิวเตอร์และได้นำหลักการดังกล่าวมาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันของตัวเอง นั่นก็คือ แฮกตัวเองเพื่อค้นหาและกำจัดจุดอ่อนของตัวเองและแก้ไขดวงชะตาในส่วนที่ไม่ดีให้เปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นหรือทำให้ลดสิ่งร้ายๆที่จะเกิดขึ้นให้กับตัวเองได้ นี่คือความลับแห่งสวรรค์
    ผมทำได้แล้วคนอื่นทำไม่ได้หรือ ใช่ว่าผมจะทำได้คนเดียว มีคนตั้งมากมายที่ทำได้แต่ยังทำไม่ถูกทางเท่านั้นเอง หนักไปในทางงมงายแก้ปัญหาไม่ถูกจุดเสียเป็นส่วนใหญ่ จึงทำให้พลังอำนาจที่จะทำให้การเปลี่ยนแปลงดวงชะตามีไม่มากพอที่จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในจักวาลได้ ดังนั้นสิ่งที่ผมจะบอกเล่าต่อไปนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น ส่วนที่เหลือผู้ใดมีวาสนาก็จะรู้เองว่าควรจะทำยังไง
    แล้วผมทำได้ยังไง ผมรู้ว่าผมมีจุดอ่อนที่เหมือนกับคนสองจิตของใจทำให้ไม่กล้าตัดสินใจ มันคือจุดอ่อนแรกที่ไม่ได้ถูกกำจัด แต่ผมเปลี่ยนจุดอ่อนนี้ให้เป็นสิ่งที่เป็นประโยชน์กับตัวเองเสียใหม่ ตัวอย่างเช่นคนธาตุลมแม้จะมีจุดอ่อนคือโลเลแต่อย่าลืมว่าทุกสิ่งในจักรวาลที่เราเห็นมันมีมิติของมันอยู่ มีด้านอ่อนก็มีด้านแข็ง ด้านอ่อนที่ผมจะเปลี่ยนให้เป็นจุดเด่นก็คือ ใช้ความพริ้วไหวดั่งสายลมของเมถุนในการเจรจาต่อรองหรือเจรจาในทุกๆสถานการณ์ เพื่ออะไร ก็เพื่อไม่ให้เกิดการเสียเปรียบในการเจรจาเมื่อต้องเจรจากับคนที่หัวหมอไงล่ะครับ คนหัวหมอแม้จะฉลาดมีเล่ห์เหลี่ยม แต่จะสู้คนที่ไม่มีเล่ห์เหลี่ยมแต่ความคิดและจิตใจเปลี่ยนแปลงได้ทุกวินาทีเหมือนคนราศีเมถุนได้ยังไงครับ สมติว่าคนราศีเมถุกำลังจะถูกคนที่มีเลห์เหลี่ยมหลอกให้เซ็นต์สัญญาที่ไม่เป็นธรรมอยู่ในขณะนั้น แต่ปรากฏว่าในอีก 1 วินาทีนั้นคนราศีเมถุนอาจจะเกิดการเปลี่ยนใจแบบกระทันหัน จนคนที่คิดว่าหมอนี่มันหมูในอวยพากันอึ้งๆๆๆไปตามๆกันครับ วิธีนี้ควรใช้เมื่อต้องใช้เท่านั้นถ้าใช้พร่ำเพรื่อจะกลายเป็นคนที่ไม่มีใครเชื่อถือหรือไว้วางใจได้อีกต่อไป
    คนราศีเมถุนเป็นดั่งสายลมที่อ่อนไหวไม่แข็งกระด้าง ลมที่ไปได้เรื่อยๆเอื่อยๆ แต่ครอบคลุมและซึมลึกเข้าไปได้ทุกทางตารางนิ้วและทุกสรรพสิ่ง สายลมที่เหมือนสงบนิ่งไม่ขยับเหลื่อนไหว แต่ในความสงบนั้นกลับมีพลังแห่งการเคลื่อนไหวอยู่อย่างไม่หยุดยั้ง แต่ที่ไม่สามารถมองเห็นได้นั้นก็เพราะมันสามารถพัฒนาตัวเองให้เป็นสุญญตาได้ จิตที่ไร้ตัวตนของคนราศีเมถุนสามารถนำตัวเองให้ก้าวข้ามขีดจำกัดของความเป็นมนุษย์ได้ไม่ยาก ถ้าหากว่าไม่ใช่จิตด้านที่เป็นมารของคนเมถุน
    ราศีเมถุน นอกจากโลเลแล้วยังมีอีกอย่างที่ถือว่าเป็นจุดอ่อนก็คือ มีด้านมืดของพลังที่มีอำนาจพอๆกับด้านสว่างหรืออาจจะเหนือกว่าด้วยซ้ำ ทำให้คนราศีนี้ถ้าไม่ใช่นักบุญก็เป็นอาชญากรไปเสียอย่างละครึ่งเลยทีเดียว แล้วแต่ว่าพลังด้านไหนจะมีมากกว่ากันเท่านั้นเอง พลังด้านมืดนั้น งดงาม มีเสนห์ เย้ายวน น่าหลงไหลและง่ายต่อการฝึก ถ้าจิตด้านสว่างของคนราศีนี้มีพลังไม่มากพอหรือควบคุมพลังด้านมืดไม่ได้ จะกลายเป็นมารร้ายได้โดยไม่ต้องคุณแม่ของร้อง พลังด้านมืดก็คือความเป็นอัจฉริยะของราศีเมถุน แต่แฝงไปด้วยความร้ายกาจเหนือคำบรรยาย พลังด้านสว่างคือความอ่อนแอที่มักจะถูกเอาเปรียบจากคนรอบข้างแต่คุณธรรมนั้นกลับที่ยิ่งใหญ่หาสิ่งใดเสมอเหมือนมิได้ ดังนั้นคนราศีนี้มีสองแบบคือ ถ้าดีก็ดีจนสุดขั้ว ถ้าชั่วก็ชั่วอย่างสุดขีด
    แล้วจะแก้ไขปัญหานี้ได้ยังไงกัน บางคนนั้นอาจจะคิดว่าไม่ยากก็แค่ทำความดีเข้าไว้แล้วจะดีเอง อันนั้นมันก็ใช่แต่สำหรับราศีอื่นครับ เพราะราศีเมถุนมีสองคนในร่างเดียวกัน ทั้งมารร้ายและเทพเจ้า การกำจัดมารร้ายออกไปจากจิตใจของราศีเมถุนนั้นเป็นสิ่งที่ทำได้ไม่ยากถ้าอยากจะทำ แต่สิ่งที่จะตามมาหลังจากกำจัดมาร้ายออกไปจากจิตใจได้แล้ว ก็อาจจะไม่ใช่อัจฉริยะเหมือนเดิมเมื่อไม่ใช่อัจฉริยะแล้ว มีแต่ความอ่อนแอ ก็อาจจะถูกคนอื่นรังแกได้ง่ายๆเหมือนผมในตอนเด็กๆถูกรังแกตั้งแต่ เข้าอนุบาลจนถึงระดับมหาวิทยาลัยเพราะจิตมารที่เป็นอัจฉริยะยังไม่ออกมา ผมถูกคนอื่นเลิกรังแกเมื่อผมเรียกจิตมารซึ่งเป็นพลังด้านมืดของผมออกมาได้ เปลี่ยนเป็นคนละคนเก่งเหนือคนเก่งแต่ซ่อนพลังอันร้ายกาจเอาไว้ภายใต้ดวงตาและใจที่มีแต่ความว่างเปล่า
    คนอื่นพยายามกำจัดจิตมารของตัวเองออกไปเพราะคิดว่ามารมันมีแต่ชั่วร้ายด้านเดียว ส่วนใหญ่ไม่ได้ให้โอกาสมารร้ายในการบำเพ็ญเพียรหรือทำความดีมารจึงเป็นมารตลอดไป แต่ผมกลับมองอีกมุมหนึ่งว่าพลังด้านสว่างของเราสามารถชักจูงพลังด้านมืดให้คล้อยตามได้เปลี่ยนจากฝ่ายตรงข้าม ก็หันหน้ามาเจรจาพบปะกันครึ่งทาง อยู่ตรงจุดกึ่งกลางของความพอดี ไม่ล้ำเส้นกันต่างคนต่างอยู่ไม่ไปไหนไม่กำจัดซึ่งกันและกัน ต่างบำเพ็ญเพียรและขัดเกลาตนเองไปโดยพลังด้านสว่างช่วยแนะนำและให้โอกาสพลังด้านมือให้ทำความดี นี่คือวิธีการสลายพลังด้านมืดแบบไม่หักดิบของผม ไม่ต้องกลายเป็นคนอ่อนแอเพราะความฉลาดทำให้มีพลัง คนที่อ่อนแอส่วนใหญ่มักจะไม่ฉลาดด้วย เพราะความไม่ฉลาดนี่แหละคือต้นตอของการถูกกลั่นแกล้งและถูกข่มเหงรังแกจากคนรอบข้าง
    ขณะที่ผมสลายพลังด้านมืดออกไปแบบไม่หักดิบแล้ว ผมยังสามารถใช้ความสามารถของพลังสมองอันชาญฉลาดได้พร้อมกับการผดุงคุณธรรมควบคู่กันไป แล้วพลังด้านมืดที่สลายแล้วหายไปไหนกัน แล้วมาร้ายจะกลับกลายเป็นฝ่ายธรรมะบ้างไม่ได้เชียวหรือ แล้วมารร้ายหลังจากถูกสลายพลังด้านมืดไปแล้วจะไปอยู่ไหนล่ะ เปล่าเลยไม่ได้หายไปไหน แต่ยังอยู่ในใจผมตลอดเวลา ยังคงขัดเกลาตนเองต่อไปอยู่ในใจของผม ดังนั้นราศีเมถุนอย่างผมจึงยังคงเป็นคนสองคนในร่างเดียวอยู่เหมือนเดิม เพียงแต่ไม่ใช่ด้านมืดและด้านสว่าง แต่เป็นสุญตา
    แล้วจุดอ่อนที่ถูกกำหนดให้ราศีเมถุนต้องพ่ายแพ้แก่ราศีมังกรที่เป็นธาตุดินล่ะจะแก้ไขดวงชะตาที่ฟ้าลิขิตนี้ได้ยังไงกัน มันฝืนลิขิตสวรรค์เชียวนะ ถ้าทำกันมากๆจะเป็นการเด็ดดอกไม้สะเทือนถึงดวงดาวเลยทีเดียวทุกสิ่งทุกอย่างในจักรวาลจะเกิดการเปลี่ยนแปลงและเสียสมดุลย์และจะแก้ไขระบบที่ยุ่งยากและสับสนนี้ไม่ได้อีกต่อไป ยกตัวอย่างเช่น นาย ก. อกหักอยากฆ่าตัวตายจึงวิ่งตัดหน้ารถซึ่งมีครอบครัวหนึ่งขับรถผ่านมา ด้วยความที่คนขับรถของครอบครัวนี้เป็นคนดีไม่อยากขับรถชนคนตาย จึงหักรถหลบไปข้างทางและไปชนกับร้านอาหารข้างทาง ทำให้คนที่ยังไม่ถึงที่ตายต้องมาตายเป็นจำนวนมาก แต่นาย ก. ซึ่งสมควรที่จะตายกลับมีชีวิตอยู่ จากเหตุการณ์นี้จะเห็นว่า การตายแบบนี้ทำให้บัญชีนรกปั่นป่วน บัญชีสวรรค์ยุ่งเหยิง เพราะคนตายก่อนกำหนดต้องแก้ไขบัญชีนรกสวรรค์กันใหม่ทั้งระบบ เพราะทุกสิ่งทุกอย่างในจักรวาลล้วนเชื่อต่อกันเป็นเน็ตเวิร์กขนาดใหญ่นั่นเอง เหมือนกับการปล่อยไวรัสที่ร้ายแรงเข้าสู่อินเตอร์เน็ตย่อมได้รับผลกระทบในเน็ตเวิร์กอย่างมหาศาล เพราะไวรัสแค่ตัวเดียวแท้ๆเลย
    เข้าเรื่องการแก้ไขจุดอ่อนที่แพ้ราศีมังกรซึ่งเป็นธาตุดินกันต่อดีกว่า เนื่องจากราศีมังกรคือดินที่แข็งแกร่งยากที่จะใช้ลมที่อ่อนแอทำลายได้ ไม่เหมือนกับลมของราศีอื่นที่มีพลังในการทำลายล้างอยู่ แต่ลมของราศีเมถุนคนส่วนใหญ่มองว่าเป็นลมที่อ่อนแอไร้ประโยชน์ แต่ผมกลับมองตรงกันข้ามอีกแล้ว เปลี่ยนจุดด้อยให้เป็นจุดเด่นอีกครั้ง ธาตุดินนั้นเปรียบเสมือนกำแพงที่แข็งแกร่งลมที่ทำลายกำแพงได้ต้องเป็นสมต้นราศีคือลมพายุที่มีพลังมหาศาลปล่อยพลังทำลายได้ในครั้งเดียว ส่วนลมในกลางราศีก็ทำลายได้แต่พลังน้อยว่าพลังของลมต้นราศีแต่ข้อดีก็ยังมีอยู่คือ แม้พลังจะไม่มากแต่เป็นพลังที่ต่อเนื่อง พลังลมของทั้งสองส่วนนั้นเป็นพลังลมที่ทำลายจากภายนอก ส่วนลมของราศีเมถุน ราศีเมถุนเป็นลมเพลมพัด มาบ้างไม่มาบ้างขาดความสม่ำเสมอทั้งยังเป็นลมอ่อนๆไม่มีพลังในการทำลายอยู่ในตัวจึงไม่อาจทำลายกำแพงจากภายนอกได้ แต่ผมก็ใช้หลักการเดิมอีกแล้วเปลี่ยนจุดด้อยให้เป็นจุดเด่นนี่คือหลักของวิชาโยกย้ายฟ้าดิน หลักของกลับดำให้เป็นขาว กลับจากหน้าไปเป็นหลัง กลับจากด้านมืดไปด้านสว่าง โดยไม่ต้องเสียอะไรไปเลย เหรียญมีสองด้าน เราก็เพียงแค่กลับอีกด้านขึ้นมาแทนเท่านั้นเอง
    ในเมื่อเป็นลมที่อ่อนๆไปได้เรื่อยๆเอื่อยๆไม่ทำลายด้วยพลังที่รุนแรงจากภายนอก แต่ลมแบบนี้เป็นลมที่แทรกซึมเข้าไปได้ทุกๆตารางนิ้วที่มีช่องว่างอยู่ แทรกซึมเข้าไปอย่างช้าๆ เงียบเชียบ มองไม่เห็นตัวตน แต่สามารถแผ่กระจายไปทั่วได้โดยที่ไม่มีใครรู้ กว่าใครจะรู้ตัวว่าถูกลมจากราศีเมถุนแทรกซึมเข้ามาล่ะก็ สายเกินไปเสียแล้ว เพราะลมอ่อนๆนี้มันเหมือนกับพลังภายในที่ดูอ่อนนุ่ม แต่มันยืดหยุ่นได้ และมันก็ทำลายของแข็งๆอย่างราศีมังกร ธาตุดินได้จากข้างในนั่นเอง นี่คือหลักการของวิชากำลังภายใน ความสงบสยบความเคลื่อนไหว อ่อนหยุนสยบแข็งกร้าว ไร้กระบวนท่าสยบได้ทุกระบวนท่า ในมือไม่มีกระบี่ในใจก็ไม่มีกระบี่ เพราะกระบี่อยู่ในมือฝ่ายตรงข้าม และกระบี่นั้นก็จะทำลายตัวของเขาเอง ขุนพลที่เก่งกล้ารู้เขารู้เรารบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง แต่ยอดขุนพลมิต้องรบก็สยบได้ทั้งกองทัพ นั่นคือนักรบแห่งปัญญานักรบแห่งแสงสว่างและความดีงาม อันจะนำไปสู่ความเป็นสุญญตาในที่สุด
    หมายเหตุ : การเป็นปรปักษ์กับราศีเมถุนคุณจะไม่ใช่แค่สู้กับคนสองคนที่อยู่ในร่างเดียวเท่านั้น แต่คุณจะสู้กับทหารยอดฝีมือทั้งกองทัพเลยทีเดียว นี่คือลิขิตสวรรค์ที่สวรรค์ประทานความสามารถพิเศษที่ใครๆมองข้ามไป แต่คนราศีเมถุนกลับสามารถใช้ข้อด้อยของตัวเองให้เป็นข้อเด่นขึ้นมาได้ และนี่คือความลับแห่งการพัฒนาเผ่าพันธุ์ของมนุษย์และเกี่ยวข้องกับรหัสพันธุกรรมด้วย มันเป็นอความลับแห่งสวรรค์ และความลับของการพัฒนาเผ่าพันธุ์มนุษย์ ผมไม่สามารถบอกในส่วนของราศีอื่นๆได้เพราะจะเกิดการเปลี่ยนแปลงหลายๆอย่างในจักรวาล แต่ในโลกของเรามีคนที่ทำแบบนี้ได้เป็นจำนวนมาก... นี่บอกเฉยๆไม่ได้สอนให้ทำนะครับ
    ผู้เขียน : พ่อมดโลจิเจ้าของดวงชะตา
     
  18. satan

    satan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ตุลาคม 2004
    โพสต์:
    5,055
    ค่าพลัง:
    +17,915
    ราศีกรกฎแพ้ใครในจักรวาล - 1

    จากความรู้เรื่องธาตุและจักรราศี ทำให้เราทราบว่าราศีกรกฎถือเป็นราศีแม่ธาตุ
    น้ำ เปรียบเสมือนน้ำปริมาณมหึมาที่ไหลไปสู่ที่ใด ก็จะพุ่งเอาไปเต็มที่ไม่มียั้ง เรียกว่าถ้าไหล
    ผ่านไปสู่ที่ใด พลังความแรงของน้ำราศีกรกฎพร้อมที่จะกัดเซาะพังทะลายที่สิ่งที่อยู่ขวางหน้า
    ให้จมหายไปในพริบตา เรียกว่ายากที่จะหาสิ่งใดมาควบคุมเพื่อนำไปใช้ประโยชน์ได้ง่าย แต่
    อย่างไรก็ตาม เหนือฟ้ายังมีฟ้า ราศีกรกฎก็เช่นกัน ยังมีสิ่งอื่นที่มีธรรมชาติเหนือกว่า พร้อม
    ที่จะสลายพลังธาตุน้ำของราศีกรกฎให้เปลี่ยนสภาพได้เช่นกัน
    สิ่งที่มีธรรมชาติสลายพลังของความเป็นธาตุน้ำตามลีลาของราศีกรกฎ คือ ราศีที่
    อยู่ลำดับที่แปดถ้านับราศีกรกฎเป็นราศีตั้งต้น ราศีนั้นคือราศีกุมภ์ ราศีกุมภ์เป็นราศีธาตุลมที่มี
    พลังความแรงมากเป็นอันดับสองรองจากธาตุลมราศีตุลย์ จุดเด่นอีกประการหนึ่งของธาตุลม
    ราศีกุมภ์ คือ เป็นลมที่พัดหนุนเนื่องตลอดเวลาไม่หยุดหย่อน พลังแรงลมจึงไม่ขาดสาย เรียก
    ว่าสามารถนำพลังไปใช้ได้อย่างต่อเนื่อง ธาตุลมราศีกุมภ์มีคุณสมบัติที่สามารถสลายธาตุน้ำ
    ปริมาณมหึมาได้
    ถ้าเราจะเปรียบเทียบถึงการแพ้ทางของราศีกรกฎต่อราศีกุมภ์ ลองเปรียบเทียบ
    ให้ราศีกรกฎเป็นน้ำจำนวนมากที่อยู่ในแหล่งน้ำ ถ้ามีลมแรงๆที่พัดกันอย่างต่อเนื่องตลอดเว
    ลา ก็จะทำให้น้ำระเหยกลายเป็นไอ เปลี่ยนสภาพจากของเหลวกลายเป็นก๊าซ ถ้าถามว่าใช้ลม
    พายุมาพัด ก็จะน่าจะทำให้น้ำเปลี่ยนสภาพได้เหมือนกัน แต่เนื่องจากลมพายุ น่าจะเปรียบได้
    กับธาตุลมราศีตุลย์ที่มีพลังแรงมากที่สุด มีพลังเท่าใดปล่อยออกมาหมด เมื่อพัดแล้วจะไม่พัด
    ต่อเนื่องเหมือนธาตุลมราศีกุมภ์ ถึงแม้จะทำให้น้ำปริมาณมากเปลี่ยนสภาพได้ แต่ไม่น่าจะหมด
    ไม่เหมือนกับลมที่มีความแรงพอสมควร แต่พัดอย่างต่อเนื่อง ที่สามารถถึงขั้นเปลี่ยนสถานะ
    ของน้ำปริมาณมากให้กลายเป็นก๊าซ ถือว่ามีธรรมชาติอันสมดุลย์ในการทำลายธรรมชาติของ
    ราศีกรกฎ
    ราศีกรกฎแพ้ใครในจักรวาล (ต่อ)

    วันนี้เรามาดูกันต่อในเรื่องของราศีกรกฎว่าที่ว่าแพ้ราศีกุมภ์นั้น ในแง่ของการ
    ประยุกต์ไปใช้งาน เราจะใช้ในลักษณะไหนได้บ้าง เริ่มแรกลองมาดูในเรื่องของดวงสมพงษ์
    ในแง่ของการคบคน การ่วมหุ้นลงทุน การมีคู่ หรือการอยู่ร่วมกันในรูปแบบใดก็ตาม ชาว
    ราศีกรกฎย่อมเสียเปรียบชาวราศีกุมภ์
    บุคลิกภาพของชาวราศีกรกฎ คือ มักเฉื่อย ความรู้สึกไว นักฝัน ชอบประเพณี
    รักบ้านเกิด ไม่เด็ดขาด อ่อนไหวง่าย บุคคลที่มีบุคลิกภาพแบบนี้มักเสียเปรียบบุคคลที่มี
    บุคลิกภาพแบบราศีกุมภ์ คือ คนที่คล่อง หัวดี รู้ใจคน สัมพันธ์กับคนอื่นง่าย หัวดื้อ มีหัวปฏิ
    วัติ หัวสมัยใหม่ ซึ่งคิดดูก็น่าจะจริง ยกตัวอย่างเช่น ชาวราศีกรกฎที่มีนิสัยรักประเพณี ถ้าไป
    เจอชาวราศีกุมภ์ที่มีหัวแหวกแนว ไม่ชอบยึดกฎเกณฑ์เก่าๆ มีหัวปฏิวัติ ชาวราศีกุมภ์จึงน่า
    จะมีบทบาททำลายบุคลิกภาพของชาวราศีกรกฎได้สนิท หากมาอยู่ร่วมกัน ความเป็นราศี
    กรกฎย่อมถูกทำลายได้โดยง่าย
    พิจารณาในเรื่องของเครื่องแต่งกาย ชาวราศีกรกฎเหมาะสำหรับเครื่องแต่ง
    กายที่เรียบง่าย สะอาดตา ชอบน้ำหอมกลิ่นลาเวนเดอร์หรือกลิ่นอ่อนๆ ส่วนชาวราศีกุมภ์ชอบ
    เครื่องแต่งกายที่นำสมัย แปลก ไม่เหมือนใคร ดูภูมิฐาน ปกติไม่นิยมใช้น้ำหอม ชาวราศีกรกฎ
    จึงควรหลีกเลี่ยงการแต่งกายตามแบบราศีกุมภ์ เพราะคงจะฝืนความรู้สึกของตนเองพิลึก ชาว
    กรกฎที่ยึดมั่นกับกฎเกณฑ์ประเพณี ถ้าให้มาแต่งกายล้ำสมัย วัยสะรุ่นประเภทไม่ต้องแลหลัง
    มีหวังพละกำลังแห่งความเป็นนักฝันน่าจะถูกทำให้สลายไปแบบไม่ทันตั้งตัว
    ในเรื่องของสถานที่และทิศทาง ชาวราศีกรกฎ เหมาะสำหรับตั้งรกราก ถิ่นฐาน
    หรือทำงานทางทิศเหนือ อยู่ในสถานที่ใกล้น้ำ ไม่ว่าจะเป็นแม่น้ำ บ่อน้ำ ทะเลหรือมหาสมุทร
    ควรหลีกเลี่ยงทิศและสถานที่ของราศีกุมภ์ คือ ทิศตะวันออกเฉียงใต้ ศูนย์คอมพิวเตอร์ ศูนย์
    เทคโนโลยี บริเวณที่มีชาวต่างชาติอาศัยอยู่ สถานีวิทยุโทรทัศน์ ร้านถ่ายภาพ เพราะน่าจะทำ
    ลายกันมากกว่าส่งเสริม
    อาชีพที่ไม่สมพงษ์กับชาวราศีกรกฎ คือ นักปฏิวัติ นักค้นคว้า นัก นักประพันธ์
    นักจิตวิทยา นักโฆษณา นักบิน เจ้าหน้าที่ธนาคาร คนขับยานพาหนะ นักดนตรี ศิลปิน นัก
    แสดงกล อาจจะหมายถึง อาชีพที่ชาวราศีกรกฎไม่ค่อยชอบ หรือนำไปประกอบอาชีพแล้วไม่
    ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร หรือดีไม่ดีก็ถอยหลังลงคลองไปเลย นอกจากนั้นยังหมายถึง
    ความไม่สมพงษ์ในการคบหาสมาคมกับบุคคลในวงอาชีพดังกล่าว
     
  19. satan

    satan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ตุลาคม 2004
    โพสต์:
    5,055
    ค่าพลัง:
    +17,915
    ราศีสิงห์แพ้ใครในจักรวาล

    จากความรู้เรื่องธาตุและจักรราศี ทำให้เราทราบว่าราศีสิงห์เป็นราศีธาตุไฟ ราศี
    สิงห์ถือเป็นราศีหน้าทวาร จึงเปรียบเสมือนไฟที่มีพลังงานความร้อนมากรองจากราศีเมษ
    แต่จุดเด่นประการสำคัญของไฟราศีสิงห์ คือ เป็นไฟที่มีพลังงานความร้อนออกมาอย่าง
    ต่อเนื่อง ไม่ใช่ว่ามีพลังเท่าใดปล่อยออกมาหมด หรือ ไม่ใช่ว่าปล่อยพลังงานออกมาเป็น
    พักๆ เรียกว่าสามารถทำให้สภาพแวดล้อมร้อนรุนแรงได้อย่างต่อเนื่อง ถ้าลองนึกถึงไฟที่
    กำลังไหม้ป่า จะมีไม้ป่าเป็นเชื้อมากมาย แถมได้รับออกซิเจนมาร่วมอย่างต่อเนื่อง ทำให้
    ไฟป่าไหม้ได้อย่างต่อเนื่อง บางทีนานเป็นวันๆก็ยังมี อย่างไรก็ตามทุกสรรพสิ่งในธรรม
    ชาติย่อมมีการแพ้ทางกัน เหนือฟ้ายังมีฟ้า ไฟราศีสิงห์ก็เช่นเดียวกัน ย่อมมีทางดับได้ ถ้า
    มีสิ่งที่มีธรรมชาติที่เหนือกว่าอย่างเหมาะเจาะมาทำการสยบ อย่างไรก็ตามต้องอย่าลืมว่า
    การแพ้ทางกันในที่นี้ ต้องเป็นการแพ้ทางกันอย่างลงตัว มีประสิทธิภาพ สิ่งที่จะทำให้ไฟ
    ราศีสิงห์หมดฤทธิ์ได้ ต้องใช้พลังงานของตนเองอย่างพอดี ไม่ใช่ว่าเกินกำลังของตนเอง
    ปกติสิ่งที่จะมาทำลายไฟได้ ย่อมต้องมีคุณสมบัติตรงกันข้ามกับไฟ สิ่งนั้นก็คือน้ำ
    ในจักรราศี ราศีที่สังกัดธาตุน้ำมีทั้งหมด 3 ราศี คือ ราศีกรกฎ หมายถึง น้ำปริมาณ
    มหาศาล มีพลังงานเท่าใดปล่อยออกมาหมดไม่มีเหลือ ราศีพิจิก หมายถึง น้ำที่มีปริมาณ
    รองลงมาจากราศีกรกฎ แต่เป็นน้ำที่มีพลังงานไหลออกมาอย่างต่อเนื่องไม่มีหมด ส่วนน้ำ
    ราศีมีน เป็นน้ำที่มีจำนวนน้อย ปล่อยพลังงานออกมาเป็นพักๆ ไม่แน่นอน ปล่อยๆ
    หยุดๆ
    ถ้าพิจารณาน้ำทีละประเภท เริ่มจากน้ำราศีกรกฎ ถ้าเราเอาน้ำจำนวนมหาศาลมา
    เพื่อดับไฟราศีสิงห์ ซึ่งเป็นไฟกองใหญ่ มีเชื้อไฟจำนวนมากพอสมควร แถมได้ออกซิเจนดี
    ทำให้ไฟลุกอย่างต่อเนื่องไม่ขาดสาย บางกรกฎน้ำราศีกรกฎอาจดับไฟราศีสิงห์ได้ แต่
    ค่อนข้างจะเป็นการสิ้นเปลืองพอสมควร เพราะต้องใช้น้ำจำนวนมหาศาล ซึ่งต้องราดรดที
    เดียวจนหมด และก็อาจเป็นไปได้ว่าบางครั้งอาจจะไม่สามารถดับไฟราศีสิงห์ได้ เพราะ
    เป็นไฟที่ลุกอย่างต่อเนื่อง น้ำราศีกรกฎอาจจะดับไฟราศีสิงห์ได้บางส่วน แต่ไม่ถึงกับหมด
    เสียทีเดียว ดังนั้นพอจะอนุมานได้ว่าน้ำราศีกรกฎยังไม่น่าจะดับไฟราศีสิงห์ได้อย่างพอดิบ
    พอดี
    ส่วนน้ำราศีพิจิก เป็นการใช้น้ำจำนวนรองลงมาจากราศีกรกฎ แต่นำมาดับไฟรา
    สิงห์ โดยราดรดน้ำจำนวนมากอย่างต่อเนื่องลงไปบนกองไฟ ซึ่งดูแล้วก็น่าจะดับไฟราศี
    สิงห์ได้เหมือนกัน แต่อาจจะน่าจะเป็นการใช้น้ำในปริมาณที่เกินความจำเป็น เพราะต้อง
    ใช้น้ำมาก แถมต้องราดรดอย่างต่อเนื่องอีกด้วย การใช้น้ำแบบราศีพิจิกเพื่อดับไฟราศี
    สิงห์ จึงยังเกินความจำเป็นอยู่ดี
    ลองมาใช้น้ำแบบราศีมีนดูบ้างว่าจะได้ผลเพียงใด การใช้น้ำราศีมีน คือ การใช้น้ำ
    ปริมาณไม่มากนักมาราดรดไฟเป็นพักๆ คงต้องอาศัยการเลือกราดรดลงตรงที่เป็นต้นไฟ
    เลือกรดตามความแรงของไฟที่โหมกระพือขึ้นมา ซึ่งเมื่อราดรดตามจุดที่เหมาะสมก็น่าจะ
    สามารถดับไฟราศีสิงห์ให้มอดสนิทได้ แถมใช้น้ำในปริมาณที่พอเหมาะพอควรได้อีกด้วย
    เมื่อพิจารณาแล้ว จะเห็นได้ว่าน้ำตามลีลาของราศีมีนน่าจะดับไฟลีลาของราศี
    สิงห์ได้ดับสนิทแบบพอเหมาะพอดี เป็นการใช้พลังงานที่สมดุลย์ ไม่สิ้นเปลืองเกินกว่า
    เหตุ ตรงจุดนี้เองที่น่าจะเป็นเคล็ดลับของการแพ้ทางกันในธรรมชาติ
    ราศีสิงห์แพ้ใครในจักรวาล (ต่อ)

    วันนี้เรามาดูกันต่อในเรื่องของราศีสิงห์ว่าที่ว่าแพ้ราศีมีนนั้น ในแง่ของการ
    ประยุกต์ไปใช้งาน เราจะใช้ในลักษณะไหนได้บ้าง เริ่มแรกลองมาดูในเรื่องของดวงสมพงษ์
    ในแง่ของการคบคน การ่วมหุ้นลงทุน การมีคู่ หรือการอยู่ร่วมกันในรูปแบบใดก็ตาม ชาว
    ราศีสิงห์ย่อมเสียเปรียบชาวราศีมีน
    บุคลิกภาพของชาวราศีสิงห์ คือ เต็มไปด้วยความปรารถนาที่จะเอาชนะอุปสรรค
    ทั้งปวง มีพลังขับดันที่เร่าร้อน สิงห์ไม่เคยกินเหยื่อที่ตนเองไม่ได้หา รักเกียรติยศศักดิ์ศรี ไม่
    ก้มหัวให้ใครง่ายๆ ใจกว้าง โอบอ้อมอารีย์ มีอิสระเสรีสูง หยิ่งและไม่ชอบพฤติกรรมเอาเปรียบ
    ทุกประการ บุคคลที่มีบุคลิกภาพแบบนี้มักเสียเปรียบบุคคลที่มีบุคลิกภาพแบบราศีมีน คือ คน
    ที่ช่างเพ้อฝัน ชอบสันโดษ ไปไกลเกินกว่าที่ชาวบ้านจะไปถึง ชอบปรัชญา เฉื่อยชา เพ้อฝันอยู่
    กับอุดมคติ ซึ่งคิดดูก็น่าจะจริง หากให้สิงห์ไปมัวแต่เฝ้าเพ้อฝัน สร้างจินตนาการ สร้างนิยาย
    อยู่แบบเฉื่อยๆชาๆ สิงห์คงจะออกอาการเฉาตายเป็นแน่แท้ พลังที่แท้จริงของสิงห์จะค่อยๆถูก
    สลายไปจนย่อยยับอับปาง
    พิจารณาในเรื่องของเครื่องแต่งกาย ชาวราศีสิงห์เหมาะสำหรับเครื่องแต่งกายที่
    สไตล์หรูหรา โอ่อ่า สีออกเปล่งประกายวาววับ ทรงผมเน้นความเป็นธรรมชาติ เน้นน้ำหอม
    กลิ่นที่สร้างความมั่นคงต่อความรู้สึกมากกว่ารัญจวนจรุงใจ ส่วนชาวราศีมีนชอบเครื่องแต่ง
    กายที่มีรูปแบบคลาสสิค แปลก ไม่เหมือนใครและไม่มีใครเหมือน ชอบน้ำหอมที่มีกลิ่นอ่อน
    เน้นความรัญจวนใจ ชาวราศีสิงห์จึงควรหลีกเลี่ยงการแต่งกายตามแบบราศีมีน เพราะคงจะ
    ฝืนความรู้สึกของตนเองพิลึก อาจทำให้สิงห์ที่เคยผงาดสง่า กลายเป็นสิงห์ที่ไร้พิษสงไปใน
    บัดดล
    ในเรื่องของสถานที่และทิศทาง ชาวราศีสิงห์ เหมาะสำหรับตั้งรกราก ถิ่นฐาน
    หรือทำงานทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ อยู่ในสถานที่ที่เด่นเป็นสง่า เช่น สถานที่ราชการ พระ
    ราชวัง ควรหลีกเลี่ยงทิศและสถานที่ของราศีมีน คือ ทิศตะวันออกเฉียงใต้ โรงพยาบาล ใกล้
    ทะเล มหาสมุทร เกาะ ปั๊มแก๊ส ปั๊มน้ำมัน ศาลเจ้า สำนักสงฆ์ วัด เพราะน่าจะทำลายกันมากกว่า
    ส่งเสริม
    อาชีพที่ไม่สมพงษ์กับชาวราศีสิงห์ คือ ธุรกิจการพยาบาล การรักษาโรค อุตสาห
    กรรมน้ำมัน ก๊าซ พลาสติค การประมง ภาพยนตร์ รองเท้า อุตสาหกรรมเคมี ชุดชั้นใน กิจกรรม
    ที่เกี่ยวข้องกับศาสนา ปรัชญาเมธี งานเดินเรือ นักบิน ป่าไม้ ศิลปิน เรือนจำ โรงงานยาสูบ งาน
    ด้านยาเสพติด งานเกี่ยวกับจิตวิญญาณ หรือหมายถึงอาชีพที่ชาวราศีกรกฎไม่ค่อยชอบ หรือนำ
    ไปประกอบอาชีพแล้วไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร หรือดีไม่ดีก็ถอยหลังลงคลองไปเลย นอก
    จากนั้นยังหมายถึง ความไม่สมพงษ์ในการคบหาสมาคมกับบุคคลในวงอาชีพดังกล่าว
     
  20. satan

    satan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ตุลาคม 2004
    โพสต์:
    5,055
    ค่าพลัง:
    +17,915
    ราศีกันย์แพ้ใครในจักรวาล (1)

    จากความรู้เรื่องธาตุและจักรราศี ทำให้เราทราบว่าราศีกันย์เป็นราศีธาตุดิน ราศี
    กันย์ถือเป็นราศีหลังทวาร จึงเปรียบเสมือนดินที่มีพลังงานความหนาแน่นน้อยที่สุดในบรรดา
    ธาตุดินด้วยกัน รองจากราศีมังกรและราศีพฤษภ ถ้าเปรียบเป็นกำแพงดินก็น่าจะเหมือนกับ
    กำแพงดินที่ไม่หนาทึบ แต่มีหลายชั้น วางอยู่ห่างๆกันเป็นระยะๆ ทุกสรรพสิ่งในธรรมชาติมี
    การแพ้ทางกัน เหนือฟ้ายังมีฟ้า ในการพิจารณาธาตุที่มีพลังในการทำลายคุณสมบัติของความ
    เป็นธาตุดินที่เราศึกษาผ่านมาแล้วจากราศีพฤษภ จะเห็นได้ว่าธาตุดินแพ้ทางราศีธาตุไฟ การ
    แพ้ทางกันในที่นี้ เป็นการแพ้ทางกันอย่างลงตัว มีประสิทธิภาพ
    สำหรับธาตุดินราศีกันย์ หากใช้พลังความร้อนจากราศีธนู ซึ่งเป็นไฟที่มีพลังอ่อน เดี๋ยว
    วูบวาบ เดี๋ยวก็ทำท่าจะมอดดับ คงยากที่จะทำลายธาตุดินที่มีความหนาแน่นไม่มาก แต่มีหลาย
    ชั้นได้แน่ ถ้าจะเปรียบความเป็นธาตุดินของราศีกันย์ให้เห็นชัดเจนมากขึ้น อาจเปรียบเทียบกับ
    ก้อนน้ำแข็งขนาดเล็ก แต่มีกระจัดกระจายไปทั่ว น่าจะใกล้เคียงกับการพิจารณา เมื่อเอาก้อน
    ถ่านที่มีความร้อนจวนจะมอดหลายๆก้อนมาวางไว้ใกล้กัน ถึงแม้ความร้อนจากก้อนถ่านจะทำ
    ให้น้ำแข็งละลายได้ แต่ก็ไม่น่าจะหมด พลังธาตุไฟจากราศีธนูจึงไม่ใช่คู่ทำลายที่พอเหมาะลงตัว
    กับราศีกันย์ น่าจะอ่อนแรงกว่าด้วยซ้ำไป
    ลองมาพิจารณาถึงราศีสิงห์ ซึ่งเป็นราศีธาตุไฟที่มีพลังงานความร้อนรุนแรงกว่าราศีธนู
    แต่มีจุดเด่น คือ เปรียบเสมือนเป็นพลังงานไฟกองใหญ่พอสมควร และมีพลังงานความร้อน
    ออกมาอย่างต่อเนื่องไม่เลิกรา ถ้าเราเอาพลังงานธาตุไฟของราศีสิงห์ไปไว้ใกล้ๆกับก้อนน้ำ
    แข็งราศีกันย์แล้วอะไรจะเกิดขึ้น ลองพิจารณาถึงก้อนน้ำแข็งเล็กๆที่มีกระจัดกระจายแล้วไปอยู่
    ท่ามกลางไฟ หรือความร้อนขนาดพอสมควร แถมลุกโชนอย่างต่อเนื่องแล้วอะไรจะเกิดขึ้น แน่
    นอนครับก้อนน้ำแข็งราศีกันย์คงไม่สามารถทนทานความร้อนจากไฟราศีสิงห์ได้แน่ มีแต่หน
    ทางละลายสลายไปอย่างไม่มีทางสู้ แต่ดูแล้วไม่สมน้ำสมเนื้อเท่าไร เป็นการใช้พลังงานไฟมาก
    เกินความจำเป็น เกิดความหมดเปลืองโดยใช่เหตุ เป็นการแพ้ทางกันก็จริงอยู่ แต่ไม่ค่อยจะสม
    ดุลย์กันเท่าใดนัก เรียกว่าใช้พลังงานในการทำลายเกินความจำเป็นมากไปหน่อย
    ลองมาพิจารณาถึงราศีธาตุไฟที่เป็นราศีแม่ธาตุ คือ ราศีเมษ ซึ่งมีพลังงานของธาตุไฟรุน
    แรงที่สุด แต่มีจุดเด่นคือ ราศีเมษจะปล่อยพลังงานของตนออกมาแบบเต็มที่สุดๆ ทีเดียว ไม่
    เหมือนราศีสิงห์ที่ปล่อยพลังงานออกมาแบบสม่ำเสมอ ส่วนราศีธนูปล่อยพลังงานของตนเอง
    ออกมาเป็นพักๆ ถ้าเราปล่อยพลังงานความร้อนขนาดมหาศาลออกมาครั้งเดียว ส่งพลังงาน
    ไปยังก้อนน้ำแข็งเล็กๆ ของราศีกันย์ที่กระจัดกระจายอยู่ ย่อมทำให้ก้อนแข็งได้รับพลังงานความ
    ร้อนถึงระดับที่จะละลายกลายเป็นน้ำได้เร็วเป็นส่วนใหญ่ ทำให้เกิดการเปลี่ยนสภาพของธาตุจาก
    ธาตุดินกลายเป็นธาตุน้ำ โดยไม่จำเป็นต้องเสียพลังงานธาตุไฟสิ้นเปลืองเกินความจำเป็น
    เมื่อพิจารณาแล้ว จะเห็นได้ว่าไฟตามลีลาของราศีเมษน่าจะสลายโมเลกุลตามลีลาของราศี
    กันย์ได้ลงตัวแนบเนียบแบบพอเหมาะพอดี เป็นการใช้พลังงานที่สมดุลย์ ไม่สิ้นเปลืองเกินกว่า
    เหตุ ตรงจุดนี้เองที่น่าจะเป็นเคล็ดลับของการแพ้ทางกันในธรรมชาติ
    ราศีกันย์แพ้ใครในจักรวาล (ต่อ)

    วันนี้เรามาดูกันต่อในเรื่องของราศีกันย์ว่าที่ว่าแพ้ราศีเมษนั้น ในแง่ของการ
    ประยุกต์ไปใช้งาน เราจะใช้ในลักษณะไหนได้บ้าง เช่นเดียวกับราศีอื่นๆครับ เรามาเริ่มดูใน
    เรื่องของดวงสมพงษ์ ในแง่ของการคบคน การ่วมหุ้นลงทุน การมีคู่ หรือการอยู่ร่วมกันใน
    รูปแบบใดก็ตาม ชาวราศีกันย์ย่อมเสียเปรียบชาวราศีเมษ
    บุคลิกภาพของชาวราศีกันย์ คือ เน้นความเป็นระเบียบเรียบร้อย มีความสำนึก
    ในหน้าที่ของตนเอง มีวินัย เรียบง่าย ไม่มีจริต เกี่ยวข้องกับการรับใช้บริการ ชาวราศีกันย์
    รู้จักพินิจพิจารณา ฉลาด สะอาด ประหยัด สงวนตัว ว่านอนสอนง่าย ซื่อ ใจถึง ชอบวิพากษ์
    วิจารณ์ จู้จี้จุกจิก บุคคลที่มีบุคลิกภาพแบบนี้มักเสียเปรียบบุคคลที่มีบุคลิกภาพแบบราศีเมษ
    คือ คนที่มีจิตใจนักเลง กล้าได้กล้าเสีย ใจร้อน หุนหันพลันแล่น ใจร้อน ไม่ค่อยจะรอบคอบ
    เป็นคนประเภทยอมหักไม่ยอมงอ
    พิจารณาในเรื่องของเครื่องแต่งกาย ชาวราศีกันย์เหมาะสำหรับเครื่องแต่งกายที่
    เน้นความสะอาด เรียบง่าย มีความเป็นระเบียบเรียบร้อย เป็นอาภรณ์ที่สวมใส่แล้วสบายๆ ไม่
    หวือหวา น้ำหอมที่เหมาะต้องเป็นกลิ่นอ่อนๆของดอกไม้ ถือเป็นสไตล์เฉพาะตัวของชาวราศีกันย์
    และควรหลีกเลี่ยงการแต่งกายที่จะทำให้แพ้ทางเสียศูนย์เอาง่ายๆ นั่นคือ เครื่องแต่งกายสไตล์
    ของราศีเมษนั่นเอง ซึ่งมักเน้นอะไรที่เป็นเครื่องแบบหรือเครื่องแต่งกายที่ดูแล้วเป็นทางการ
    รวมถึงน้ำหอมที่กลิ่นแรง จะทำลายดุลยภาพของชาวราศีกันย์ให้อ่อนเปลี้ยเสียสมดุลย์ไปถนัดใจ
    ในเรื่องของสถานที่และทิศทาง ชาวราศีกันย์ เหมาะสำหรับตั้งรกราก ถิ่นฐานหรือ
    ทำงานทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ สถานที่ใกล้โรงพยาบาล สมาคม สโมสร โรงเรียน ตลาดนัด
    ตลาดสด สวนผลไม้ สวนดอกไม้ ชาวราศีกันย์ควรหลีกเลี่ยงทิศและสถานที่ของราศีเมษ คือ ทิศ
    ตะวันออกเฉียงใต้ สถานที่โล่งแจ้ง ใกล้ทุ่งหญ้าหรือฟาร์มปศุสัตว์ สถานที่ใกล้กรมทหาร โรงงาน
    ร้านทันตแพทย์ ล้วนเป็นภัยแก่ชาวราศีกันย์มากกว่าส่งเสริม
    อาชีพที่ไม่สมพงษ์กับชาวราศีกันย์ หรือหมายถึงอาชีพที่ชาวราศีกันย์ไม่ค่อยชอบ
    หรือนำไปประกอบอาชีพแล้วไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร หรือดีไม่ดีก็ถอยหลังลงคลองไปเลย
    นอกจากนั้นยังหมายถึง ความไม่สมพงษ์ในการคบหาสมาคมกับบุคคลในวงอาชีพดังกล่าว ได้แก่
    อาชีพบุคคลในเครื่องแบบ ทหาร ตำรวจ ธุรกิจอุตสาหกรรมหนัก เหล็ก โลหะ รถยนต์ อาวุธ วิศวกร
     

แชร์หน้านี้

Loading...