โอม มณี ปัท เม ฮุม

ในห้อง 'พุทธภูมิ - พระโพธิสัตว์' ตั้งกระทู้โดย ธรรมวิวัฒน์, 25 สิงหาคม 2019.

  1. ธรรมวิวัฒน์

    ธรรมวิวัฒน์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    26,236
    กระทู้เรื่องเด่น:
    82
    ค่าพลัง:
    +114,964
    FB_IMG_1566740546808.jpg

    โอม มณี ปัท เม ฮุม

    ในมหายานอลังการรัตนราชาสูตร ได้กล่าวว่า
    สมัยหนึ่งสมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้า ประทับอยู่
    ณ เชตวันมหาวิหาร พร้อมด้วยภิกษุ 1250 รูป
    และโพธิสัตว์มหาสัตว์จำนวนประมาณมิได้

    ครานั้นทรงมีพระประสงค์จะตรัสเทศนา
    เรื่องคาถามูลฐานของพระโพธิสัตว์กวนอิม
    อันเป็นธารณี ที่จะทำให้เกิดปัญญาญาณ ชำระทุกข์ภัยของสรรพสัตว์ทั้ง 6 ภูมิ ให้บรรลุพระโพธิมรรคด้วยความรวดเร็ว
    อันเป็นกำลังการตรัสรู้ที่ไม่มีขอบเขตไม่มีประมาณ

    พระสวรนิรวาณะวิศกัมภิณโพธิสัตว์ ได้ลุกขึ้นแล้วทูลถามว่า หม่อมฉัน เคยได้ยินมาว่าอันธารณี ทั้ง 6 พยางค์ เป็นมหาธารณีที่มีค่ามหาศาล แม้นำเอารัตนะทั้ง 7 ประการ หรือแม้กระทั่ง
    นำเอาเลือด และหนังของตนมาแทนน้ำหมึกและกระดาษ ก็ยังมิอาจพรรณาถึงคุณค่าของธรณีนี้ได้หมดสิ้น ขอพระผู้มีพระภาคโปรดแสดงถึงที่มาและประโยชน์ของธารณีอันเร้นลับนี้แก่หมู่สัตว์ด้วยเทอญ

    ครั้งนั้นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตรัสว่า
    เมื่ออดีตเราเองก็ต้องการทราบถึงที่มาของธารณีทั้ง 6 พยางค์นี้ จึงได้ดั้นด้นเดินทางไปยังพุทธเกษตรต่างๆ เพื่อตามหามหาธารณีนี้

    จนวันหนึ่งได้ไปถึงโลกธาตุหนึ่ง ท่ามกลางทะเลทรายแห่งโลกธาตุนั้นนั้น มีต่อมน้ำเล็กๆ เราจึงเข้าไปยังต่อมน้ำนั้น ภายในเป็นพุทธเกษตรของพระรัตนะอุตตรพุทธเจ้า ท่ามกลางพุทธเกษตรแห่งนั้นมีพระพุทธองค์ประทับสมาธิเหนือสีหบัลลังก์

    ณ ที่แห่งนั้น เราพระศากยมุนีพุทธเจ้า จึงคุกเข่าแล้วกราบอาราธนาให้พระรัตนะอุตตรพุทธเจ้า ทรงแสดงถึงที่มาของมนต์หกพยางค์นี้ ครานั้นพระรัตนะอุตตรพุทธเจ้า จึงทรงดำรัสว่า สาธุกุลบุตร เธอจงเดินทางไปยังพุทธเกษตร
    ของพระปัทมะอุตตรพุทธเจ้า
    พระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้น
    จะตรัสแสดงถึงที่มาของธรณีทั้ง 6 พยางค์แก่เธอ
    พระศากยมุนีพุทธเจ้าจึงทรงเสด็จไปยังพุทธเกษตรแห่งนั้น ตามคำชี้แนะ ของพระรัตนะอุตตรพุทธเจ้า

    เมื่อเสด็จไปถึง พุทธเกษตรแห่งนั้น มีความอลังการปรากฏดอกบัว ขนาดมหึมาอยู่ท่ามกลางทะเลแห่งน้ำหอม
    พระศากยมุนีพุทธเจ้าจึงทรงอาราธนาให้พระปัทมะอุตตร
    ทรงแสดงธารณี เพื่อที่จะทำให้พระอนุตรมรรคปรากฏโดยไวแก่สรรพสัตว์ เป็นเสมือนประทีปส่องทาง ให้กับสรรพสัตว์ทั้ง 6 ภูมิ ขอพระพุทธองค์โปรดเมตตาแสดงธารณีทั้ง 6 พยางค์
    นี้ด้วยเทอญ

    เมื่อนั้นพระปัทมะอุตตรพุทธเจ้า จึงตรัสแก่พระศากยมุนีว่า
    เมื่อครั้งอดีต เราได้ดำเนินไปยังพุทธเกษตรของพระตถาคตมากมายมหาศาลนับไม่ถ้วน เพื่อตามหามหาธารณีทั้งหกพยางค์นี้ จนวันหนึ่งเราได้ดำเนินไปถึงพุทธเกษตรสุขาวดี
    ของพระอมิตายุสะพุทธเจ้า

    ณ สุขาวดีธรรมสภาแห่งนั้น เราได้คุกเข่าอยู่ต่อพระพักตร์
    พระอมิตาภะพุทธเจ้า ที่ทรงประทับอยู่เหนือรัตนบัลลังก์
    พระอมิตาพุทธเจ้าทรงมีพุทธดำรัสแก่เราว่า
    เธอปรารถนา ต้องการฟังมนต์ทั้ง 6 พยางค์หรือไม่

    เพียงแค่เราได้ยินสุรเสียงดำรัสดังนั้น เราก็เกิดความปิติยินดี
    จึงตอบพระสัมมาสัมพุทธเจ้าอมิตาว่า
    เหมือนดั่งผู้ที่กระหายน้ำ ต้องการน้ำ น้ำจึงเป็นสิ่งที่มีค่าที่สุด หม่อมฉันได้เดินทางไปถวายสักการะบูชาต่อพระโลกนาถทั้งหลายอันประมาณมิได้ เพื่อปรารถนาจะได้สดับมนตราทั้ง 6 พยางค์นี้ แต่พระพุทธเจ้าทั้งหลายเหล่านั้นมิทราบถึงมนตราทั้งหกพยางค์นี้ เพราะธารณีนี้เป็นธรรมลับ ขอพระอมิตาพุทธเจ้าทรงเมตตากรุณาต่อสรรพสัตว์ โปรดเมตตาประทาน
    มนต์หกพยางค์ซึ่งเป็นดุจเกราะวัชระ ให้แก่หม่อมฉันได้สดับเถิด

    ครานั้นพระอมิตาพุทธเจ้าทรงแผ่ข่ายพระญาณไปถึง
    พระอวโลกิเตศวร ส่งตรัสแก่พระอวโลกิเตศวรว่าเพื่อสมแก่ความพากเพียรที่จะได้พบมหาธารณีนี้
    เพื่ออนุเคราะห์แก่พระปัทมะอุตตรพุทธเจ้า
    และสรรพสัตว์ทั้ง 6 ภูมิ
    ดูก่อนอวโลกิเตศวร จงกล่าวแสดงมนตรานั้นเถิด

    พระปัทมอุตตรพุทธเจ้าที่คุกเข่าอยู่เบื้องหน้ารัตนบัลลังก์
    จึงทรงบ่ายหน้าไปยังพระอวโลกิเตศวร และคุกเข่าอาราธนา พระอวโลกิเตศวรให้ทรงเมตตากรุณาต่อสรรพสัตว์
    ทรงทูลต่อพระอวโลกิเตศวรว่า

    เพื่อเป็นดั่งประทีปทองคำที่ส่องสว่างเหนือความมืดมน
    เพื่อให้สัตว์เหล่านั้นได้หลุดพ้นจากทุกข์ภัย
    มุ่งสู่อนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณด้วยความรวดเร็ว
    ทรงตรัสแสดงมนต์ทั้ง 6 พยางค์นั้นเถิด

    พระอวโลกิเตศวรสดับดังนั้น จึงตรัสว่า "โอม มานี เปเม โฮง"
    พระสุรเสียงแห่งมนตรานี้แผ่ก้องไปในภูมิทั้งหก
    พื้นพสุธา กัมปนาทเคลื่อนไหว ในมณฑลสุขาวดีธรรมสภา
    ปรากฏมีดอกมณฑารพ ร่วงหล่นจากนภาถวายบูชา

    พระปัทมะอุตตรพุทธเจ้าจึงทรงถอดสร้อยพระศอ
    ถวายบูชาต่อพระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์
    เมื่อพระอวโลกิเตศวรทรงรับ
    แล้วจึงถวายบูชาพระอมิตาพุทธเจ้า
    เมื่อพระอมิตาพุทธเจ้าทรงรับแล้วชูขึ้น
    และประทานกลับมายังพระปัทมอุตตระพุทธเจ้า
    อันเป็นการแสดงถึงการเอาภาระของการโปรดสัตว์
    ดุจดั่งสร้อยที่สวมอยู่ในคอ
    การกอบกู้สรรพชีวิตทั้งหลาย
    ซึ่งเป็นภาระกิจของพระพุทธเจ้าทั้งมวล

    กาลนั้นพระปัทมะอุตตรพุทธเจ้า ได้ตรัสแสดงถึงที่มาของมนต์จบสิ้นลง จึงตรัสแสดงมหาวิทยามนต์ทั้ง 6 แก่พระศากยมุนีว่า "โอม มานี เปเม โฮง"

    ในธรรมสภา ณ เชตวันมหาวิหาร
    พระพุทธองค์ศากยมุนีจึงตรัสแก่พุทธบริษัทว่า
    เธอทั้งหลายพึงน้อมคารวะในพระคุณแห่งพระสัมมาสัมพุทธเจ้านามว่า ปัทมะอุตตรพุทธเจ้า

    เพราะด้วยเหตุแห่งความกรุณาของพระองค์ พวกเธอทั้งหลายในวันนี้จึงได้รับรู้ ธรรมอันยากแก่การแสวงหา ขอให้พวกเธอจงคาวะและสดุดีพระตถาคต

    Cr. วิหารพระอวโลกิเตศวรมหาโพธิสัตว์กวนอิม
     
  2. นะมัตถุ โพธิยา

    นะมัตถุ โพธิยา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    621
    ค่าพลัง:
    +2,268
    นะมัตถุ พุทธานัง นะมัตถุ โพธิยา

    = ขอนอบน้อมกราบนมัสการแด่ พระพุทธเจ้า และพระมหาโพธิสัตว์ ทุกพระองค์
     

แชร์หน้านี้

Loading...