โหราศาสตร์ว่าด้วยแผ่นดินไหว

มฤตยูจร (0) เดินอยู่ในราศีเมษ

พระพฤหัสบดีจร (5) กำลังเดินอยู่ในราศีธนู

พระเสาร์จร (7) กำลังเดินอยู่ในราศีธนู

มีปรากฏการณ์ทางโหราศาสตร์ที่น่าสนใจ ที่หากใช้หลักที่มีเฝ้าติดตามลีลาการเดินของดาวใหญ่สองดวงแล้ว สามารถทำนายได้ว่าแผ่นดินไหวมีแนวโน้มจะเกิด เพียงแต่ไม่รู้ว่าจะเกิดที่ไหน เมื่อไหร่เท่านั้น

เฉกเช่นที่ผ่านมาหลังจากวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2562 แผ่นดินไหวขนาด 4.9 ที่อำเภอวังเหนือ จังหวัดลำปาง ก็ยิ่งมั่นใจมากว่าเหตุการณ์ยังไม่จบ จึงได้เขียนบันทึกเตือนตัวเองให้สะกิดเรื่องแผ่นดินไหวว่าจะเกิดซ้ำอีก จึงได้เขียนเตือนไว้อีก 2 ครั้ง คือ

1.บางส่วนของคำทำนายในแม่หมอสมัครเล่น ตอนที่ 263 ชื่อตอนหัวหน้าเทวดาประจำเมืองมารอบแรก ความว่า…จับตาแผ่นดินไหวประหลาดอาจจะเกิดอีกในช่วงนี้ เขียนไว้ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2562

ผลคือ ต่อมาวันที่ 18 ตุลาคม 2562 แผ่นดินไหวที่ดอยสะเก็ดจังหวัดเชียงใหม่ ความแรงสูงสุด 4.1

2.ในแม่หมอสมัครเล่น ตอนที่ 297 ชื่อตอน สู่วาระหัวหน้าเทวดาประจำเมืองหายป่วย-เข้มแข็ง-สิริมงคล ที่เขียนไว้ตั้งแต่ 25 ตุลาคม 2562 บอกว่า…แผ่นดินไหวประหลาดยังจะเกิดให้เห็น (ก่อนหน้านี้ที่ดอยสะเก็ดเชียงใหม่ขนาด 4.1…)

ผลคือเกิดแผ่นดินไหวที่ สปป.ลาว เมื่อวันที่ 21พฤศจิกายน 2562 เวลา 06.50 น. ตามเวลาในประเทศไทย ขนาดสูงสุด 6.4 ศูนย์กลางห่างจากบ้านน้ำช้าง ตำบลขุนน่าน อำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดน่านไป 20 กิโลเมตร เกิดอาการสั่นไหวในหลายพื้นที่ภาคเหนือ อีสาน รวมทั้งกรุงเทพฯ และปริณฑล เพราะความไหวไม่มีพรมแดน ไม่แยกประเทศ

ก่อนอื่นหลายคนอาจจะแย้งว่า แผ่นดินมันก็ไหวตลอด ทำนายอย่างไรก็ต้องถูกเหมือนกำปั้นทุบดิน เพราะมันเกิดตลอดเวลา

อธิบายว่า คำทำนายทั้งหลายเหล่านี้ไม่ได้ให้ไว้กับเหตุการณ์แผ่นดินไหวธรรมดาที่เกิดขึ้นทั่วไป ที่กรมอุตุนิยมวิทยารายงานบ่อยๆ แต่ จะต้องเป็นแผ่นดินไหวประหลาด ชนิดที่ยิ่งกว่ารู้สึกกันได้ คือต้องกระทบใจอย่างแรง เช่น บ้านเรามีด้วยรึ?

สำคัญคือ นักวิทยาศาสตร์ยังไม่สามารถทำนายการจะเกิดแผ่นดินไหวได้ เช่นที่ กรมอุตุนิยมวิทยาก็ไม่เคยทำนายว่าให้ระวังแผ่นดินไหว แต่วิชาโหราศาสตร์พอบอกแนวโน้มล่วงหน้าก่อน เพื่อที่อย่างน้อยคนที่อ่านพบก็จะได้ สะกิดใจ แม้จะไม่สามารถบอกรายละเอียด-วัน-เวลา-สถานที่-ขนาดที่จะเกิดได้ก็ตาม เพราะหากจะบอกขนาดนั้น ก็ต้องระดับพระยาโหราธิบดี ไม่ใช่โหรงมโข่งอย่างผู้เขียน

คำถามคือ หลักอะไรที่นำมาทำนายเรื่องแผ่นดินไหว

คำตอบคือ เอาหลักมาจากหนังสือโหราศาสตร์ไทยในวรรณคดี ที่เขียนโดย อ.เทพย์ สาริกบุตร อ้าง คัมภีร์โลกธาตุความว่า…บางตำราว่า พระพฤหัสบดี (๕) กับพระเสาร์ (๗) เป็นคู่อริกัน ถ้าร่วม (ราศี) หรือเล็งกันก็เกิดยุ่ง โลกก็ยุ่ง เช่น แผ่นดินไหวผิดประหลาด หรือเกิดอัตคัดขาดแคลนโดยทั่วไป…

อธิบายเพิ่มเติมหลัก คือ พฤหัสบดี (๕) เป็นหัวหน้าดาวดีหรือศุภเคราะห์ดวงสำคัญที่สุด ขณะที่ พระเสาร์ (๗) เป็นหัวหน้าบาปเคราะห์หรือดาวร้าย เมื่อหัวหน้าดาวดี-ร้ายมีอยู่ในที่เดียวกัน คือร่วมราศีเดียวกัน หรืออยู่ตรงกันข้ามคือเล็งกัน หรือแม้แต่อยู่คนละราศี แต่องศาใกล้กัน ก็พอจะทำนายได้ว่าระยะนั้นจะเกิดแผ่นดินไหวประหลาด

คราวแผ่นดินไหวที่ในทะเลอินโดนีเซียระดับ 9 ขึ้นไป จนเกิดสึนามิเมื่อ 26 ธันวาคม 2547 อาจไม่ชัดเจนนัก เพราะหัวหน้าดาวดีและหัวหน้าดาวร้ายเพียงแต่ส่งกระแสถึงกันได้องศา (หลักฤทธิโยค) แต่ครั้งวันที่ 11 มีนาคม 2554 ที่เกิดแผ่นดินไหวขนาดใหญ่ที่ญี่ปุ่น-เกิดสึนามิ-โรงไฟฟ้านิวเคลียร์เสียหายนั้น ชัดยิ่งกว่าชัด คือพฤหัสบดีจรเดินอยู่ในราศีมีน เล็งใส่พระเสาร์จรที่เดินอยู่ในราศีตรงกันข้ามคือราศีกันย์ แล้วองศาก็ใกล้กันด้วย

แล้วที่ราศีมีนที่พฤหัสบดีจรเดินอยู่นั้นก็เป็นที่ตั้งของเกาะ-เมืองชายทะเลของโลกอีกต่างหาก

ทีนี้มาว่ากันที่เมืองไทย

1.แผ่นดินไหวเป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติ ไม่ใช่อาถรรพ์อะไรทั้งสิ้น เพราะพอเกิดขึ้นแล้วผู้เขียนก็ถูกถามด้วยคำถามดรามาบ่อยๆ

2.เมืองไทยสุดแสนจะโชคดีที่บรรพบุรุษของพวกเราที่ไม่รู้ว่าอพยพมาจากเทือกเอาอัลไตหรือไม่ เลือกทำเลที่ตั้งเมืองค่อนข้างดี เช่น อย่างน้อยก็ไม่อยู่ในแถบวงแหวนแห่งไฟที่จะเกิดแผ่นดินไหวรุนแรง โดยที่เราเจอก็ระดับยอดเจดีย์หัก หรือต้องซ่อมแซมวัดร่องขุ่น หรือชาวบ้านไม่กล้ากลับเข้าบ้านหลายวันเพราะกลัวพังใส่ ฯลฯ

3.ปรากฏการณ์แผ่นดินไหวถี่ๆ รอบนี้ ที่มีเกิดแบบแปลกประหลาดในไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน ก็เป็นเพราะพระพฤหัสบดีจรหัวหน้าดาวดี และพระเสาร์จรหัวหน้าดาวร้ายเริ่มเดินคลอเคลียนัวเนียกันกันในราศีธนูมาตั้งแต่ต้นปี 2562 แล้ว จะข้ามไปพัวพันกันต่อในราศีมังกร ก่อนที่พฤหัสบดีจรจะแยกจากพระเสาร์จรจริงจังก็ประมาณพฤศจิกายน 2564

สรุปคือ ต้องให้ผ่านพ้นพฤศจิกายน 2564 ไปแล้ว ปรากฏการณ์แผ่นดินไหวที่จะเกิดจึงจะปกติ แต่ก่อนหน้านั้นสามารถเกิดประหลาดแบบตื่นตกใจกันทั้งเมือง หรือเกิดเพื่อนบ้านกระทบบ้านเราเป็นอาทิ.

ขอบคุณที่มา
https://www.thaipost.net/main/detail/50951

 

GET