โลกคือจุดศูนย์กลางจักวาลของธรรมชาตินับอนันตะดาราจักรวาล

คนที่จะตอบกระทู้ กรุณาอ่านทุกข้อความให้จบก่อนที่ท่านจะตอบสิ่งใดๆนะครับกลัวติดกรรมถ้าท่านไม่เข้าใจในสิ่งที่ผมทำอย่างน้อยอ่านให้ได้สัก3หน้าขึ้นไปนะครับ

ผมเจ้าของกระทู้มองพระอาทิตย์ด้วยตาเปล่าและประทานให้ใครก็ได้ ตอนนี้ได้มีอะไรที่มากกว่านั้นมากมายเลยจะมาเล่าสิ่งที่สัมผัสด้วยจิตให้ฟังกันครับ ใช้ปัญญาในการตัดสินใจเชื่อนะครับอย่าเชื่อที่ผมเล่านี้เกิดจากจิตผมเป็นปัจตังครับ
มาเริ่มที่จุดกำเนิดธรรมชาติ ก่อนจะมีธรรมชาติที่มีนี้จุดกำเนิดของผู้สร้างที่อยู่สูงสุดและสูงไปเรื่อยๆเป็นอินฟินิตี้หรืออนันต์ไม่มีที่สิ้นสุด ท่านสร้างจุดหนึ่งจุดขึ้นมาในที่นี้เรียกว่าศาสดาผู้สร้างธรรมชาติ จุดหนึ่งนั้นเป็นศูนย์กลางของธรรมชาติทั้งปวงอยู่กึ่งกลางพื้นที่กว้างใหญ่อนันต์ และได้สร้างจิตตัวเองขึ้นมาพัฒนาตัวเองด้วยการสร้างพลังจินตนาการ ได้กำหนด อดีต ปัจจุบันและอนาคตขึ้นมา และสร้างจินตนาการในอนาคต หรือการมองเห็นอนาคตเป็นรูปแบบสิ่งมีชีวิตเริ่มต้น ทีืมีพลังงานระดับต่างๆ และมีสองสิ่งในกาย คือเทพกับมาร ภายในกายของสิ่งมีชีวิตแต่ละดวงดาว
ท่านได้คิดทุกอย่างไว้เรียกจินตนาการและจะเกิดในอนาคตทุกอย่างที่ควรจะมี เช่นสวรรค์ นรก ธาตุ4 ขัน5 องค์ประกอบระดับโลก ระบบสุริยะ จักรวาล กาแล็คซี่ อจินไตยดาราจักร และสิ่งที่สูงกว่าอจินไตย คือ ศิดาราจัก อนันตะดาราจักร จิตตะดาราจักและอื่นๆ วางแผนโครงสร้างเป็นระบบ เปรียบเสมือนการจะสร้างสินค้าชนิดหนึ่ง ต้องมีการออกแบบบต่างๆตั้งแต่ตัวผลิตภัณ ชนิด ขนาด ซองบรรจุ ยังไปสร้างเกี่ยวกับ โรงงาน ขนาด และสิ่งที่จะสร้าง คือจะสร้างอะไรสักชิ้นต้องมีการวางระบบต่างๆ ท่านนได้วิจัยสิ่งนี้เป็นเวลานานมาก จนมั่นใจว่าจะสร้างอะไร ยังไง มีกลไกอะไรที่เชื่อมโยงแบ่งแยก แบ่งระดับออกเป็นชั้นๆ จนสำเร็จ ท่านก็ได้สร้าง ทุกอย่างขึ้นมา

วิธีการสร้างคือท่านเป็นเพียงจุดกลมหนึ่งจุด ที่ถูกผู้สูงกว่าสร้างทิ้งไว้ ท่านได้อาศัยพลังจิตตะในการแผ่กระจายแสงในจุดกลมๆคล้ายน้ำกระพรื้มออกไปไกลเท่าที่จะไกลได้เพื่อสัมผัสสสิ่งที่อยู่รอบระยะขอบเขตคืออินฟินิตี้และก็ได้ดูดสิ่งเรานั้นรวมกันเข้ามาในจุดกลมๆ คล้ายๆแบล็คโฮลดูดสิ่งต่างๆรอบกายเข้'ามาหาตัวหลังจากที่ไปสัมผัส โดยระยะทางที่สัมผัสได้จะดูดเข้าหาตัวหมด และเกิดการระเบิดหรือที่พวกวิทยาศาสตร์เรียกว่าบิ๊กแบง เกิดเป็นอจินไตยดาราหรือสูงกว่านั่น ไล่ลงมา กาแล็คซี่ จักรวาล ระบบสุริยะ และ ดวงดาวต่างๆที่นับไม่ถ้วน สิ่งมีชีวืตที่เกิดขึ้นจากพลังการแตกตัว จะมีพลังงานความร้อน และมีธาตุทั้งสี่เป็นองค์ประกอบ แต่ละดวงที่แตกออกก็จะเป็นจุดกลมเหมือนที่ผู้สร้างธรรมชาติได้เกิดมา และรวมความร้อนเข้าเป็นดวงจิตบริสุทธิ์แต่ก็มีสีดำหรือมารอยู่ในตัวด้วย แต่ละดวงทำเหมือนกันกับผู้สร้างธรรมชาติ แต่เป็นระดับเล็กน้อยแตกต่างกันไปแต่ละดวงดาว จักรวาลกาแล็คซี่ และอื่นๆ พลังความร้อนจะลดลงเมื่อถูกดูดรวมกันจุดเดียวและแตกกระจายออกเป็นจิตทิพย์นับล้านกระจายทั่วไป สร้างพลังงานแลวิฝัฒนาการตัวเองตามแบบทีทผู้สร้างธรรมชาติได้วางโครงร่างไว้
พอก่อนจะมาต่ออีกนะถ้ามีคนสนใจติดตามอาจจะคิดว่าเป็นนิยายก็ได้ นะครับอย่าคิดมากหรือวิทยาศาสตร์จ๋ามาแย้งนะครับ ขอบคุณครับที่ติดตาม

 

ดีครับ อจิณไตรบรรเทิงธรรมดีครับ ยังงัยก็ตามตำราก่อนครับ เพราะผ่านยุคสมัยแห่งการรุ้เรื่องราวยังไม่เคยเปลี่ยนแปลง ดวงอาทิตย์เป็นใจแกนกลางของจักวาลโดยมีเขาสุเมรุบ่งชี้ตำแหน่งชั้นต่างๆของภูมิที่เป็นทิพย์อยู่

 

มาต่อครับ
เมื่อเริ่มเกิดสิ่งมีชีวิต จริงๆแล้วดาวแต่ละดวงจะมีสิ่งมีชีวิตที่เป็นวิญญานชนิดเดียว คือ ดาวดวงนั้นจะมีมดก็มดอย่างเดียว มีสุนัขก็สุนัขอย่างเดียวพันธุ์เดียวด้วย เพราะธรรมชาติกำหนดให้ในตอนเริ่มแรกมีการพัฒนาโครงร่าง แต่ละส่วนในระดับเริ่มต้น จนมีวิวัฒนาการล้ำไปเรื่อย ตามแต่ระดับของจิตวิญญานในดาวนั้นพึงจะมีพลังในการสร้างสรรมากน้อยเพียงใด แต่พอเวลาผ่านไปได้มีจิตวิญญานที่ดีได้สร้างบุญบารมีขึ้น ยกระดับจิตวิญญานทำให้มีวิญญานเป็นเทพมากขึ้น ซึ่งมารก็มีเช่นกัน โดยทุกคนจะมีมารและเทพในกาย มารเกิดขึ้นมาเพื่อทดสอบความดี เป็นอุปสรรคที่จะทำให้วิญญานแต่ละตนมีระดับความดีที่ต่างกัน เป็นบททดสอบที่ธรรมชาติสร้างขึ้น ไม่ว่าจะเป็นกิเลส หรืออะไรก็ตามที่เราเห็นในโลกใบนี้ หลังจากนั้นก็เริ่มมีสิ่งมีชีวิตอื่นเกิดขึ้น การเกิดขึ้นนั้นเป็นการเชื่อมต่อระหว่างดวงดาวต่างๆ คือมีการแลกเปลี่ยนจิตวิญญานในแต่ละดวงดาวทำให้เกิดสิ่งมีชีวิตใหม่ๆตามระดับบุญญาบารมีของดาวนั้นๆ มาพูดถึงโลกมนุษย์ทำไมถึงเรียกว่าจุดศูนย์กลางของธรรมชาติ เพราะจะสังเกตุว่าสิ่งมีชีวิตในโลกมนุษย์นี้มีหลากหลายมากมายนับไม่ถ้วน นั่นก็คือโลกเรารวมมนุษย์ต่างดาวในแต่ละดวง รวมกันกลายเป็นสิ่งมีชีวิตในโลกนี้ และเมื่อย้อนไปในอดีต มนุษย์มีวิวัฒนาการต่ำ บ้างเกิดมีทฤษฎีว่ามนุษย์วิวัฒนาการมาจากลิง จริงแล้วไม่ใช่ลิงก็คือลิงคนก็คือคน แต่เพียงแค่เราไม่ได้อยู่ในโลกใบนี้มาตั้งแต่กำเนิดดวงดาว เรามาไกลมาก และจะสังเกตุว่ามนุษย์จะมีการพัฒนาทางด้านจิตวิญญาน ปัญญา แต่ไม่มีวิวัฒนาการในด้านร่างกายหรืออาจมีแต่น้อย เช่นที่เห็นในด้านร่างกายคือคนเรา มีรอยหยักสมองมากขึ้น และตัวใหญ่ขึ้น ซึ่งมันเป็นวิวัฒนาการในด้านร่างกายซึ่งธรรมชาติให้เปลี่ยนแปลงได้ในระดับหนึ่งๆ แต่ด้านปัญญามนุษย์พัฒนามากกว่าเพื่อน คือไม่ใช้มนุษย์โลกมีความรู้ด้วยตนเองแต่มนุษย์โลกเอาความสามารถนี้มาจากมนุษย์ต่างดาว จึงมีนักวิทยาศาสตร์ดังๆของโลกสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ เพิ่มพูนความรู้มากมายกว่าในอดีตแบบก้าวกระโดด เช่น ไอสไตล์เป็นมนุษย์โลกแต่มีดวงจิตของมนุษย์ต่างดาวมารวมแบบแยกไม่ได้ จึงมีความสามารถคิดในสิ่งที่คนธรรมดาไม่สามารถคิดได้ หลักวิทยาศาสตร์ แพทย์ศาสตร์ และอื่นๆ เป็นสิ่งที่มีมาแล้วจากต่างดาว มาเล่าถึง จินตนาการกัน คือจินตนาการที่มีจะเกิดขึ้นได้มันต้องมีจริงในต่างดาว ไม่ว่าจะการ์ตูน นิยาย หนัง ภาพต่างๆที่สร้างขึ้นมามีจริงแต่ไม่มีในโลกนี้เท่านั้น กล่าวว่าในเรามีสองแบบคือนามธรรมและรูปธรรม ในรูปธรรมนั้นธรรมชาติสร้างให้โลกเป็นจุดศูนย์กลางจึงไม่ให้มีใครที่จะสามารถสร้างความอัศจรรย์ได้มากมาย หรืออาจจะได้แต่ก็ติดกรรมไปเช่น การสร้างวัตถุจากสิ่งว่างเปล่า ปล่อยพลังแบบการ์ตูนดราก้อนบอล การเปลี่ยนวัตถุในรูปแบบต่างๆที่ไม่เป็นไปตามหลักธรรมชาติเช่นเปลี่ยนไฟเป็นน้ำ เพราะถ้าโลกเรามีรูปธรรมแบบที่มีในจินตนาการโลกจะวุ่ยวายมาก โลกอาจแตกสลายถ้าเรามีพลังอย่างในดราก้อนบอล ปล่อยทีเดียวระเบิดไปครึ่งโลก แต่เราจะมีนามธรรมในด้านจิตที่สามารถไปที่ไหนในจักรวาลนี้ สำเร็จในด้านปัญญา ฤทธา แต่ด้านฤทธิ์ สำเร็จแล้วไม่สามารถใช้ได้ทั้งหมดในโลกใบนี้ ถ้าทำหรือสร้างจะเกิดติดกรรมทันที ยกตัวอย่างพระโมคลานะใช้ฤทธิ์จนติดกรรมเกิดกรรมกับตัวเองจนต้องตายไป แต่พระพุทธเจ้าท่านเน้นปัญญาแต่ท่านก็มีฤทธิ์แต่ไม่แสดงออกมาเท่านั้นเพราะท่านรู้ทุกอย่างในระดับจักรวาลอาจินไตยดารานี้ และเราจะเห็นสิ่งก่อสร้างในอดีตที่มนุษย์ในปัจจุบันยังไม่มีความสามารถในการสร้างหรือสร้างได้แต่ยากมาก เช่น พีระมิด สวนลอยฟ้าบาบิโลน และอื่นๆ นั่นคือมนุษย์ต่างดาวได้มาที่โลกและสร้างทิ้งไว้
คอมเม้นด้วยนะครับว่าสนุกไหมครับ นิยายที่เกิดจากจิตตัวรู้ของผมเขียนขึ้นเองไม่ได้ไปอ่านและลอกใครมา อิอิ มันเป็นปัจตังครับเดี๋ยวมาต่อนะ อ่านและคอมเม้นด้วยนะครับว่าน่าติดตามเปล่า

 

http://palungjit.org/threads/วิเครา...l-fantasy-13-หน่อยครับ-ใช่รึเปล่าหว่า.495329/

ระวังตัวมั่งนะจ๊ะเหล่าผู้มีตาวิเศษ

 

จักรวาลเกิดจากบิ๊กแบ๊ง บิ๊กแบ๊งมาจากความว่างเปล่า ก่อนหน้านี้จะมีอะไรอีกมั้ยเนี่ย

 

ควางเปล่าคือไม่มีตัวตน มันคล้ายห้องว่างที่ไม่มีอะไร แต่ระดับชั้นสูงกว่าว่างเปล่าคือความเป็นทิพย์ซึ่งมันจะอาศัยอยู่เหนือมิติความว่างเปล่า เหมือนมิติชั้นแรกคือความว่างเปล่าสูงขึ้นก็จะมีทิพย์แต่ละชั้น ซึ่งจะมีความบริสุทธิ์ต่างกันไปเป็นระบบวงกลมขยายขนาดเหมือนยกกำลังอินฟินิตี้กว้างใหญ่ไพศาลและเป็นชั้นมิติไปเรื่อยไม่มีที่สิ้นสุด จุดสุดท้ายก็จะวกกลับมาที่จุดเดิมคือความว่างเปล่าเบื้องต้นครับ

 

ติดตามอยู่ครับ

 

มาต่อรอบดึกครับ
เมื่อมีสิ่งมีชีวิตที่หลากหลายมากมาย ก่อนจะมีนั้น ศาสดาผู้สร้างก็กำหนดหลักเกณฑ์ความดีคววามชั่ว มีนรก สวรรค์ไว้แล้ว ย้อนไปก่อนเกิดวิญญานที่แตกจากอนูของพลังความร้อนของแต่ละดาวที่เกิดจากการระเบิดบิ๊กแบง ได้สร้างสรรค์สวรรค์และนรกและมิติพร้อมรับวิญญานบริสุทธิ์ที่ถือกำเนิดมา ก่อนจะมีเทพกะมารนั้นใครอยู่ควบคุมสวรรค์นรกเมืองมารและมิติต่างๆ คำตอบคือพลังเสมือนของศาสดาได้สร้างตัวแทนและตำแหน่งไว้ เพื่อสอนคนดีให้ได้ตำแหน่งต่างๆ ไม่ว่าจะผู้คัดเลือกพระเจ้า ศาสดาแต่ละศาสนา ผู้ควบคุมนรก ต่างก็มีทิพย์ของผู้สร้างธรรมชาติกำกับเป็นร่างทิพย์ขึ้นมาและเสาะแสวงหาวิญญานที่ทำความดีได้แข่งขันกันเป็นพระพุทธเจ้าและตำแหน่งชั้นเทพต่างๆตามลำดับ เมืองมารก็เช่นเดียวกันเมื่อถึงยุคที่พลังที่ท่านทิ้งไว้หมดวาระ พลังนั้นจะเป็นแหล่งข้อมูลขนาดใหญ่เอาไว้สอนเทพต่างๆ เหมือนกลายร่างเป็นแทปเล็ทหรือไอแพ็ดที่มียูเซอร์กะพาสเวิส สำหรับคนที่เป็นผู้นำในแต่ละชั้น ข้อมูลก็ให้เซิสหาเอา มีแอปต่างๆรองรับและสอนการสร้างแอพิเคชั่นต่างๆให้ผู้ที่เรียนรู้ทีหลังได้ทำเป็นทุกระบบ ในแทปเล็ทก็มีความสามารถในการเก็บข้อมูล ประมวนผลที่แตกต่างกันตามระดับตำแหน่งที่เราได้รับ จนเราสามารถสร้างสรรตามเจตนารมของผู้สร้างธรรมชาติ จนเกิดเป็นสิ่งต่างๆที่เราเห็นและเรียนรู้ในปัจจุบัน
มาว่าด้วยพลังทิพย์ที่เชื่อมต่อระหว่างดวงดาวด้วยจิตตะ ทำให้มีการเชื่อมต่อระหว่างดวงดาวและมีการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้กันตามระบบสุริยะ จักรวาล กาแล็คซี่ อจินไตยดารา และสูงขึ้นไป มีการทดลองเอาสิ่งมีชีวิตแต่ละดวงดาวมาแลกเปลี่ยนสร้างร่างเพื่อดำรงค์ชีวิตอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ต่างออกไป และมีการมารวมจิตกะกายของคนในแต่ละดวงดาวเพื่อพัฒนาศักยภาพให้สูงขึ้นไปตามลำดับขั้น ซึ้งโลกมนุษย์นี่แหละคือจุดศูนย์กลางในการสร้างบุญญาบารมี จะมีคำถามว่าทำไมมีมนุดต่างดาวมาที่โลก มาจับคนไปทดสอบทดลอง โดยเกิดสามเหลี่ยมเมอร์บิวด้า นั่นคือ มนุดต่างดาวที่เขาได้ส่งจิตวิญญานเขามารวมกับมนุดโลกนั้นมีวิวัฒนาการไปแค่ไหนเขาจึงต้องจับเอาตัวไป และใช้เครื่องมืออันทันสมัยวิเคาราะห์กายและจิตมนุษย์คนที่ถูกรวมร่างกะมนุดต่างดาวนั้นๆ เพื่อเป็นแนวทางในการพัฒนาดาวเขาให้ก้าวผ่านขั้นระดับต่างๆ

หุ้ยยะ มันก็เป็นประมานฉะนี้น้อจะมีต่อมาเรื่อยๆ ใครมีคำถามใดคาใจเกี่ยวกับระดับเรื่องราวมนุดต่างดาวมาโพสถามได้นะครับหรือถ้าไม่เข้าใจตรงไหนที่เล่าให้ฟังก็ถามได้ครับผม

 

ถ้าใครสนใจในเรื่องเหล่านี้ อยากคุยส่วนตัวเพื่อจะได้ถามในเรื่องที่อยากรู้แบบละเอียด แอดไลท์มาได้line id : snakejoke หรือสไกด์ jokesmall@hotmail.com (มันขึ้นสามอันก้อแอดหมดนะครับผมจำมะได้ว่าอันไหน) ส่วนเบอร์โทรก้อ pm มาว่าจะคุยโทรสะดวกมี สามเครือข่ายครับบอกเครือข่ายที่คุณมีมาด้วยจะเป็นการประหยัด เออลืมอีกอัน facebook : snake_joke@hotmail.com ในนั้นจะมีการรักษาคนด้วยพลังจิตจักรวาลเป็นคลิปครับสนใจเข้าไปดูได้เลย ยินดีช่วยเหลือทุกคนครับ บอกไว้ก่อนว่าฟรีครับไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ(ยกเว้นค่าโทรสับ อิอิ )

 

มีคนถามในเฟสว่าทำไมโลกเป็นจุดศูนย์กลางของจักรวาลของธรรมชาติทั้งที่บอกว่ามันเป็นอินฟินิตี้และจักรวาลไม่มีจุดอ้างอิง
ตอบว่า โลกเราไม่ได้มีตำแหน่งอยู่จุดศูนย์กลางธรรมชาติ แต่เป็นจุดศูนย์กลางของแหล่งการปฎิบัติธรรมสร้างบารมี เปรียบเสมือนในร่างกายมนุดมีส่วนสำคัญที่สมองกะหัวใจ แต่อาการที่เกิดขึ้นคือความคันจะเกิดหลายจุดทั่วกายถ้าเป็นผื่นแพ้ แต่จุดที่คันมากที่สุดคือที่ปลายมือ นั่นคือ ทุกส่วนที่คันคือสนามสร้างบุญบารมีแต่ที่สำคัญที่สุดและดีที่สุดกลับอยู่ที่ปลายมือซึ่งไม่ได้เป็นตำแหน่งที่สำคัญ จึงอธิบายครอบคลุมกระทู้แรกที่ว่าดวงอาทิตย์คือจุดศูนย์กลาง แต่เขาไม่ใช่จุดสนามสร้างบุญไงสำคัญต่างหน้าที่กันครับ เก็ทเนอะเปรียบเทียบแบบนี้

 

มาต่อครับ แต่แอบน้อยใจ ไม่มีใครมาโพสว่าอยากอ่านต่อ น่าสนใจ หรือคำถามที่ต้องการคำตอบ ถามได้นะ ไม่กัด ตอบตามจิตรู้
จะมีคำถามว่าทำไม่ดวงดาวในจักรวาลถึงมีทรงกลม จะบอกว่าในธรรมชาติของเราจะมีรูปแบบที่ศาสดาผู้สร้างธรรมชาติกำหนดให้เป็นวงกลม แต่ธรรมชาติอื่นหรือจะเรียกว่าพี่น้อง เพื่อนพ้องของศาสดาผู้สร้างธรรมชาติอื่นนั้นจะมีรูปทรงต่างกันไป ตามเรขาคณิตที่เรารู้จัก สิ่งที่ว่านี้มันไกลไปจะไม่อธิบาย มาสนใจในธรรมชาติเราดีกว่า เราได้รับรูปลักษณะในรูปร่างของวงกลม จึงสร้างระดับต่างๆเป็นชั้นวงกลมครอบวงกลมเป็นชั้นๆไป เป็นไม่มีจำนวนจำกัดหรืออินฟินิตี้แต่จุดที่ไม่จำกัดก็จะวกมาที่จุดวงกลมจุดแรกตามเดิมนั่นเอง ว่าด้วยการส่งจิตจะเป็นรัศมีวงกลมกระจายคล้ายเราโยนหินลงในน้ำแรงกระพรื้มน้ำจะเป็นรัศมีกว้่างไปเรื่อย การส่งจิตจะใช้ลักษณะเดียวกันการเคลื่อนจิตก็เป็นเหมือนกัน เลยเดินทางได้ไกลมาก อินฟินิตี้เลย สามารถไปดูธรรมชาติอื่นได้(พอดีพาสิทหลายคนไปดูมาละ) แต่ข้อจำกัดของจิตที่เป็นรัศมีคือพลังงานในจิตสะสมในกายที่ก้านสมองที่สามารถรองรับพลังได้มากมายแต่ก็มีขีดจำกัด ดังนั้นใครที่จะไปธรรมชาติอื่นนั้นต้องมีขนาดของพลังเก็บไว้จำนวนมาก เหมือนเราจะไปเมืองนอกโดยรถยนนำ้มันถังเดียว จะไปได้ไหมถ้าไกลเกินที่น้ำมันจะสามารถให้พลังงานกับรถ ดังนั้นเราต้องมีรถคันใหม่ที่กินน้ำมันน้อย สามารถบรรจุน้ำมันได้มาก จึงจะสามารถเดินทางไปที่ต่างๆได้ตามความต้องการ กฎธรรมชาติไม่ได้ห้ามเรื่องพัฒนาจิตดังนั้นเราจะไปไหนจะไม่มีข้อห้ามแต่เราจะเผชิญกับมารที่มีในกายหรือในพื้นที่ที่เราไป นั่นแหละสำคัญต้องระวัง เพราะถ้าจิตเราโดนทำร้ายกายเราก็จะโดนไปด้วย พระพุทธเจ้าท่านจึงห้ามให้ใครที่ไม่มีพลังมากพอไปทดสอบสิ่งที่สูงเกินตัว คือในระบบอจินไตยท่านจะไม่นำมาสอนกลุ่มคนที่เพิ่งสำเร็จใหม่ๆ เพราะจะเป็นอันตรายถึงบ้าได้ ซึ่งสิ่งเหล่านี้พวกเราน่าจะได้ยินกัน คนที่ไปได้คือคนที่ผ่านการทดสอบเป็นระดับอรหันต์ และต้องระดับที่เด่นถึงไปได้ สัมผัสได้กับอจินไตยดาราจักร ถ้าขั้นเริ่มต้นอรหันต์ไป บ้าได้เลยนะ แต่ระดับของมนุษย์ที่ไม่ได้เป็นอรหันต์ก้อไปได้ เพราะในมนุษย์โลกมีหลายศาสนาในต่างดาวก็เหมือนกัน ตำราที่สำเร็จระดับต่างๆในธรรมชาติมี ล้านล้าน เล่มพระพุทธเจ้าเอามาหนึ่งเล่มในการตรัสรู้ สร้างไตรปิฎกขึ้นมา คนที่ไม่สำเร็จอรหันต์ใช่ว่าเขาจะไม่สำเร็จตำราเล่มอื่นดังนั้นบางคนที่ไม่สำเร็จอรหันต์ก้อสามารถไปอจินไตยดาราและเข้าใจในจุดนั้นได้ซึ่งก็ไม่แปลก และเหล่าบุคคลในโลกหรือในไทยนี้ที่ว่าติดต่อกับมนุษย์ต่างดาว แก้วิบัติ มหันตภัยต่างๆ จึงอยู่แค่ขั้นจักรวาลเท่านั้น ยังไปไม่ถึงกาแล็คซี่และเข้าถึงอจินไตยดาราได้
พอก่อน อิอิ หวังว่าจะสร้างความสนใจให้คนไม่เป็นสมาชิกในบอร์ดได้สมัครและโพสตอบ กับสมาชิกคงสร้างคำถามให้พวกท่านได้เพราะหลายคนก็มีความรู้ แต่ในระดับนี้คงจะไม่เคยได้ยินมาจากไหนมาก่อน สร้างคำถามความอยากรู้ไว้นะครับจะมาตอบให้

 

ขอบคุณครับ

 

มาต่อครับ รอบดึก
ว่าด้วยเมื่อกำเนิดสรรพสิ่งแล้วมีสรรพสัตว์มารวมกันในโลกใบนี้ที่เป็นจุดศูนย์กลางการสร้างบารมี มนุดต่างดาวในคราบสัตว์ทั้งหลายที่เป็นมนุษย์ก็มีบุญกับกรรมติดมา สัตว์ทั้งหลายได้มีการเสวนาว่าสัตว์แต่ละชนิดมีหน้าที่ แต่ไม่สามารถสร้างบุญได้เหมือนกับมนุด คือมนุดถูกสร้างหลังจากสัตว์เป็นสัตว์ประเสริฐที่มีความรู้ปัญญา มีสติมีความใฝ่ดีเลว ตามกรรมต่างๆ ได้มีการคัดเลือกวิญญานของสรรพสัตว์ต่างๆทั้วจักรวาลว่าใครมีโอกาสที่จะได้เกิดเป็นมนุด และเป็นไปตามกฎธรรมชาติว่าด้วยการที่สัตว์เคยสร้างบุญญาบารมีมามากน้อยแค่ไหน ถึงจะมีโอกาสเป็นมนุดและตั้งกฎธรรมชาติต่อไปว่า สัตว์ใดทำดีได้เป็นมนุดแล้วถ้าสร้างกรรมจะเกิดมาเป็นอะไร ตามที่เราได้เรียนรู้จากหลายศาสนาในปัจจุบัน นั่นคือจุดกำเนิดวิญญานมนุด จะถามว่าแล้วเทพละคืออะไรเกิดจากมนุดหรือไม่ ตอบว่า เทพในยุคแรกคือกลุ่มพลังงานความร้อนที่แตกมาจากบิ๊กแบงการสร้างธรรมชาิ แต่พอมีวิญญานที่แตกอนูออกไป เทพก้อจะถือกำเนิดจากสรรพสัตว์ที่สร้างความดี เพราะจริงๆแล้วอนูที่แตกออกเป็นวิญญานก้อคือเทพและมารนั่นเอง และที่ได้กล่าวไว้ก่อนหน้านี้ว่าก่อนเกิดเทพเทพก้อมาจากผู้สร้างทิ้งพลังไว้ให้หาวิญญานที่บริสุทธิ์ทำกรรมดีเยอะมาแทนตำแหน่ง
มาดูสังคมมนุดที่ผ่านมาเป็นแบบไหนกันบ้าง แต่ละยุดสมัยจะมีการแก่งแย่งชิงดีชิงเด่นแต่ก็มีศาสนามาคอยคุมคนไว้ในกรอบตั้งแต่ยุคสมัยต่างๆที่ผ่านมา แล้วถามว่าก่อนมีศาสนาคนนับถืออะไร ก็ตอบว่า มีทั้งดวงอาทิตย์ เจ้าป่า เจ้าเขา ภูติผีปีศาจ จนถึงยุคที่คนสร้างความดีมากล้นเกิดเป็นทุกสรรพสัตว์ก่อนที่จะเอาตำรา1ในล้านล้านเล่มมาตรัสรู้และเป็นพระพุทธเจ้า แล้วโปรดสัตว์ จะบอกก่อนว่าแต่ก่อนคนนับถือพระอาทิตย์นั้นก็ทำให้คนอยู่ดีมีสุข แต่พระอาทิตย์ไม่ใช่วิญญานสรรพสัตว์แต่เป็นดาวที่แตกจากบิ๊กแบงและไม่ยอมรวมจุดพลังสร้างวิญญานเก็บพลังไว้ในดวงดาว เพื่อเอาพลังงานนี้ไปให้กับสรรพสัตว์ต่างๆ คนนับถือในแต่ละยุคจะมีมารเกิดไม่มากเท่ายุคปัจจุบัน เนื่องมาจากศาสดาของเขาคือพระอาทิตย์ พอมนุดอยากเป็นศาสดาบ้างสร้างหลักธรรมมะมา แต่ทำให้คนทุกคนเป็นคนดีไม่ได้เพราะมันอาจจะยากเกินไปสำหรับคนที่มีมารเยอะ กิเลสหนา จึงเริ่มส่งผลให้มารในกายเติบโตมากขึ้นตามยุคตามสมัย สังเกตุสมัยก่อนคนจะไม่เห็นแก่ตัวเท่าปัจจุบัน และถ้าไปเทียบกับสมัยก่อนที่จะมีศาสนาแล้วนั้น คนดีมีเยอะกว่า ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อมจิตใฝ่ต่ำเหมือนปัจจุบัน คนอาจแย้งว่าสมัยก่อนไม่มีอุปกรณ์ทันสมัย คนมีน้อยไม่แย่งอาหาร แต่จะตอบว่าถ้าเอาคนสมัยก่อนมาอยู่ในยุคปัจจุบัน(สมัยนับถือดวงอาทิตย์) จะไม่มีมาโกงบ้านเมือง เล่นมั่วเซ็กส์ ค้ายาบ้า เผาบ้านเมือง ทำสงครามหรอก เพราะแสงอาทิตย์จะขัดเกลาจิตใจให้ใสเสมอถ้านับถือและร้องขอ

จะมาต่ออีกนะครับอ่านให้เพลินๆอย่าคิดมากนะครับปัจตังครับหรือจะคิดว่าเป็นนิยายธรรมก็ได้ครับ

 

มาให้กำลังใจครับ อยากอ่าน 555

 

ต่อยามเช้า อรุณสวัสดิยามสายๆนะครับ
คุยแต่ดาวเราไปสนใจต่างดาวบ้าง ที่บอกไปว่าแหล่งสร้างบุญคือความคุนชองการเป็นผื่นแพ้ทั้งตัว ดังนั้นส่วนต่างๆในกายหรือธรรมชาติ จุดที่คันตามส่วนต่างๆก็เป็นสนามสร้างบุญเช่นกัน แต่ความคุนมันมากที่มือไงคือจุดไม่สำคัญแต่สำคัญที่มีการสร้างบารมีมากที่สุดในธรรมชาตินี้ ถามว่าทำไมไม่เลือกจุดสำคัญเช่นสมองหรือหัวใจ ตอบว่าจุดสำคัญจะทำหน้าที่เป็นแหล่งก่อเกิดพลังงาน เช่นดวงอาทิตย์ไม่มีวิญญานที่มีชีวิตอยู่แต่จะเป็นที่อยู่ของอรหันต์สร้างพลังให้ดาวต่างๆ และจุดสำคัญใช่ว่ามีแค่ที่กล่าวมามีนับล้านมากไปจนถึงอินฟินิตี้เลยล่ะ จุดสำคัญในำายมีไรบ้างละถ้าขาดก็ตาย นั่นแหละคือแหล่งพลังงานที่ดวงดาวจะขาดมิได้ สนามสร้างบุญจึงไม่จำเป็นต้องเป็นศูนย์กลางตามที่เข้าใจกัน จุดคันหรือสนามสร้างบุญมีมากมาย แต่ที่โลกสำคัญที่สุดอาจเกิดจากการมีคาบเวลาที่สั้นเหมาะสมแก่การสร้างบุญ แต่ที่อื่นคาบเวลาการมีชีวิตเป็นหมื่นเป็นแสนปีมันยาวนานเกิดไป อีกทั้งโลกเป็นที่ไม่มีใครสามารถแสดงฤทธิ์ได้ตามความต้องการเหมือนดาวดวงอื่น แต่ใช้จิตในการสร้างบารมี ใช้จิตทำหน้าที่ต่างๆโดยไม่จำไปใช้ในการเปลี่ยนแปลงทางกายภาพ โลกจึงอยู่ได้นาน การทำลายร้างจึงน้อย(แต่ปัจจุบันมันทำลายกันจัง) เมื่อต่างดาวก็มีสนามสร้างบุญดังนั้นคำว่าอรหันต์ก้อต้องมีมากมายนับไม่ถ้วนเหมือนจำนวนพระอาทิตย์แต่ตำราล้านล้านเล่มดาวดวงอื่นไม่ได้เอาตำราของพระพุทธเจ้ามาเผยแพร่สั่งสอน ก็อาจจะไม่เรียกว่าอรหันต์มีทั้งต่ำกว่าอรหันต์และสูงกว่าอรหัตน์ ตามพลังที่ดวงดาวแต่ละดวงมีมา และจะมีคำถามว่าทำไมโลกเป็นศูนย์กลางในการปฎิบัติธรรมสร้างบารมีของจักรวาล อรหันต์ก้อต้องสูงที่สุด ตอบว่าที่โลกได้รับคัดเลือกไปนั้นเพราะมีหลายปัจจัยที่ทำให้โลกสามรรถสร้างบุญได้เค็วแต่โลกเพิ่งกำเนิดได้ไม่นานเท่าดาวดวงอื่นวิวัฒนาการยังล้าหลังถ้าเทียบกับมนุษย์ต่างดาว การสร้างบารมีของพระพุทธเจ้าก็ยังนานไม่สู้พระพุทธเจ้าของต่างดาว เหมือนเด็กมหวิทยาลัยมาเรียนอังกฤษแข่งกะอนุบาลซึ่งมันเปรียบกันไม่ได้ ถ้าจะเทียบต้องอาศัยเวลาที่เท่ากันว่าใครสามารถสอบได้คะแนนมากกว่า สิ่งที่ถือกำเนิดทีหลังยังไงก็จะเก่งกว่าเพราะมีการพัฒนาและเรียนรู้สิ่งเก่า และสิ่งใหม่ควบคู่กันไป ดังจะเห็นเด็กสมัย20ปีก่อนกะตอนนี้ต่างกันแค่ไหน และอีกยี่สิบปีขัางหน้าก็ต้องต่างจากปัจจุบัน และจะมีคำถามว่าอรหันต์อืมเรียกศาสดาของแต่ละดาวดีกว่า เขาไปอยู่ไหนบ้าง มาดูที่อจินไตยดาราเรา พูดสูงกว่านี้จะไม่เข้าใจมันละเอียนเกินไป จะมีสหพันธ์มนุด่างดาวหรือศาสดาแต่ละดวงดาว108ท่าน หนึ่งในนั้นมีองค์สี่ด้วยองค์1-3 ก้ออยู่ใน108ท่าน เหมือนเป็นกลุ่มตัดสินความเป็นไปของอจินไตยดาราไล่ลงมาคือ กาแล็คซี่ จักรวาล ระบบสุริยะ และดวงดาว เขากำหนดแบบแผน กำหนดการสร้างบารมี กำหนดการเลื่อนชั้นของแต่ละจิตวิญญาน และระดับดวงดาว ทำหน้าที่ตัดสินใจแก้ไขปัญหาเหมือนสส.นี่แหละแต่ต่างตรงที่ไม่มีคนที่เป็นนายกคือมีระดับเท่ากัน108คน ตัดสินโดยการโหวต สภานี้จะทำหน้าที่ร่วมกับสภาของมารและรวมคะแนนตัดสิน มารจิงๆก็ไม่ได้เลวร้ายเขาก็มีกฎของเขา เพื่อเป็นอุปสรรคทำให้ความดีต่างกันตามแต่ละบุคคล เมื่อมีผลโหวตออกมา เทพกะมารต้องทำตาม และก็เป็นคำสั่งไปเบื้องล่างให้ทัั้งเทพและมารที่อยู่ดวงดาวต่างๆได้ปฎิบัติกัน มารนอกรีตก็มีซึ่งตอนนี้ในโลกเรามีมากซะด้วย หวังว่าจะมีคนดีมีพลังช่วยยับยั้งสิ่งไม่ดีให้ได้พลังเทพที่สามารถกดมารทำให้คนในโลกคิดดีทำดีมากกว่าคนเลวนะครับ หวังจิงๆๆเหอๆๆๆ
เริ่มมาเป็นฉากๆแล้วครับใครสนใจใคร่รู้เรื่องไหนถามได้นะครับจะัข้ามาตอบให้ ขอบคุณครับที่ติดตาม

 

ยิ่งอ่ายยิ่งมึน ท่านกำลังเมารังสีจากพระอาทิตย์บ้างรึเปล่าครับ ตอนนี้ยังมองอยู่รึเปล่าอะ
แล้วพวกหนังรึเกมในปัจจุบันนี่เขาไปเอาวิชาความรู้มาจากไหนทำกันเนี่ย จะให้ผมเริ่มนี่มืดแปดด้านเลย พระอาทิตย์นี่ทำได้แค่ให้พลังงานเองแค่นั้นไม่ใช่เหรอ ก็อยู่ที่ฮาร์ดแวร์ในตัวเรา(ร่างกาย)จะดูดซับไปใช้ทำอะไรแค่นั้นละมั้ง ผมตอนเด็กๆดูดซับพลังมากไปหน่อยจะเบลอเอา พึ่งรู้ตัวตอนโตเนี่ยแหละว่าสู้กับมันมาตั้งแต่เด็กแล้ว จากสารพัดโรคเอย คนเลวในสังคม ความฝัน ความหวังในอนาคต ทำไมต้องมาฝากไว้ที่ผมคนเดียวด้วย เครียดเลย

 

ยังตามอ่านอยู่ครับคุณงูโจ๊ก ลงเรื่อยๆ เลยครับ ผมอ่านแล้วผมเข้าใจ ไม่ต้องกลัวมึน เดี๋ยวผมสงสัยตรงไหนจะแอบถามเองครับ

 

ตอบคุณสวอตนะ ไม่ได้มองมานานแล้งนานๆกว่าจะมองครับ ที่ประทานให้คนเพราะการมองพระอาทิตย์แล้วร้องขออะไรจะได้มาตามนั้นซึ่งสิ่งที่ได้มาคือการไปเร่งบุญเก่าให้สำฤทธิ์ผล ดังนั้นไม่ว่าจะโรคภัย โภคทรัพย์ การงาน ความรักจะปรับทิศทางให้ดีขึ้นตามเราร้องขอและบุญเก่าที่สัมพันธ์กันครับ
ส่วนที่ว่าหนังการ์ตูน เกมส์ เขาเอาพลังมาจากไหนหรืออะไรนั้น มันเป็นจินตนาการของเขาที่เกิดขึ้นในดาวนั้นๆที่เขาอยู่ครับ ถ้าไม่มีเรื่องราวเกิดขึ้นก็จะไม่มีจินตนาการพวกคนคิดเกมส์ก็ดี การ์ตูนหนังก็ดี คือบุคคลที่มาจากต่างดาวมารวมจิตกะคนในโลกนี้ครับหรืออาจจะมีบุญมากพอแล้วขอถ่ายโอมมาเกิดเป็นวิญญานมนุษย์โลก สุดท้าย ถ้าทำดีก้อทำไปสร้างบารมี เพื่อตัวเองจะได้เป็นอริยะบุคคล ช่วยสรรพสัตว์ดีออก อย่าท้อถอยเลย ส่วนที่เขียนไปผมว่าผมก็อ่านนะแต่ละอเนอ่านและไม่เบื่อหลายรอบด้วย ไม่เห็นจะมึนเลย เข้าใจง่ายซะมากกว่า ว่างั้นไหมทุกท่าน ติดตามและมาเป็นกำลังใจให้ผมด้วยนะครับโพสให้ชื่นใจจะดีมากมายครับ

 

มาต่ออีกสักหน่อย
มาว่าจุดกำเนิดของโลกกันทุกคนอาจจะเคยสงสัยว่าก่อนมีสิ่งมีชีวิตโลกเราเป็นยังไงมาก่อน คือเมื่อเกิดบิ๊กแบงแตกออกมาเป็นโลก จะกล่าวว่าบิ๊กแบงเกิดครั้งแรกคือเกิดธรรมชาติตามที่กล่าวมา แต่ไม่ได้เกิดครั้งเดียวเพราะธรรมชาติมันกว้างมาก จะมีบิ๊กแบงของอจินไตยดารา หรือสูงกว่านั้นต่ำลงมาก้อกาแล็คซี่ จักรวาล ระบบสุริยะ และกำเนิดดวงดาวต่างๆ โลกที่เกิดมาก็มีความร้อนในตัว และรวมความร้อนเข้าตัวด้วยมีธาตุทั้งสี่และควบคุมด้วยพลังแม่เหล็ก แตกกระจายอนูวิญญานเกิดเป็นสิ่งมีชีวิตระดับเริ่มต้น อาจะเป็นพวก อะมีบา หรือสิ่งมีชีวิตชั้นต่ำที่เรารู้จักกันค่อยวิวัฒนาสร้างบุญกรรมกลายเป็นสิ่งมีชีวิตอื่นแต่มีน้อยอ่ะที่เกิดเป็นสิ่งมีชีวิตอื่นส่วนมากจะมาจากต่างดาวที่นำโครงร่างและจิตวิญญานมาผสานกะสิ่งมีชีวิตเริ่มต้นและพัฒนาเป็นสรรพสัตว์ต่างๆที่เราเห็นในปัจจุบัน มากล่าวถึงยุคไดโนเสาร์ คือเจ้าโลกในยุคหนึ่งเมื่อล้านปีก่อน ไดโนเสาร์ก้อคือสิ่งมีชีวิตในต่างดาวที่วิวัฒนาการมาเกิดที่โลก คำถามทุกคนมักจะถามคือทำไมไดโนเสาร์ศูนย์พันธุ์ คือระบบธรรมชาติในโลกได้มีความเห็นว่าการที่ไดโนเสาร์ตัวใหญ่ มีปัญญาไม่ได้มากพอที่จะเป็นแหล่งสนามของคนสร้างบุญ ไอ้ตัวใหญ่มันเปลืองพื้นที่โลกถ้ามีจำนวนมากอาหารสำหรับทุกสรรพสัตว์คงมีไม่พอเพราะไม่สามารถสร้างอาหารเหมือนกับคนได้ ธรรมชาติคงไม่สามารถสร้างอาหารได้ทันตามความต้องการเมื่อมันมีจำนวนประชากรเพิ่มมากขึ้นและอีกหลายปัจจัยที่ไดโนเสาร์ไม่เหมาะเป็นสัตว์ประเสริฐครอบคลุมโลกนี้จึงจัดการสร้างสภาพแวดล้อมที่ไม่เหมาะสมอาจเกิดดาวเคราะห์มาชนทำให้เกิดกลุ่มหมอกควันบรรยากาศที่ไม่เมหาะสมแก่การดำรงชีวิต เกิดแผ่นดินไหว ยุบตัว ภูเขาไฟระเบิดจึงสตาฟให้เกิดโครงกระดูกไดโนเสาร์ที่เห็นในปัจจุบัน จนเวลาล่วงมาสิ่งมีชีวิตต่างดาวก็ทยอยมาเกิดในโลกนี้มากขึ้นจนธรรมชาติได้คัดเลือกดาวที่มีรูปร่างลักษณะที่เหมาะสมที่จะเป็นสัตว์ประเสริฐที่จะเป็นคนที่สามารถสร้างบุญบารมีในโลกที่เป็นศูนย์กลางบุญบารมีแห่งนี้โดยศึกษาสรรพสัตว์ต่างๆที่กำเนิดมาในโลกตั้งแต่ยุคอดีตซึ่งแม่แบบจิงๆคงจะเป็นลิงที่มีลักษณะคล้ายมนุดมากที่สุด แต่ลิงคือลิงไมืได้วิวัฒนาการมาเป็นมนุดธรรมชาติกำหนดและสร้างมาให้เป็นแบบนี้ทั่วจักรวาลของธรรมชาติ ถ้าใครมีจิตบริสุทธิ์สามารถถอดจิตไปที่ไหนก็ได้จะเห็นมนุดต่างดาวมีร่างกายคล้ายคนมากๆๆ นั่นคือต้นแบบของมนุษย์ครับ เมื่อเกิดมนุดยุคแรกก้อเริ่มมีการพัฒนาทางด้านปัญญาตลอดๆโดยจะมีมนุดต่างดาวนำสื่อมาให้มนุดโลกได้พัฒนาสร้างนั่นนี่ โดยนับถือพระอาทิตย์ตั้งแต่มีมนุดเกิดขึ้นมา คนเป็นคนดีซะส่วนใหญ่รังสียูวีจะทำการล้างความเลวสร้างความดีและทำให้มนุดอยู่อย่างสงบสุขสร้างบุญเก็บผักผลไม้เป็นอาหารไม่ได้ฆ่าสัตว์เหมือนทุกวันนี้ แต่มันก็มีเหตุเปลี่ยนเพราะมารก็วิวัฒนาการเหมือนเทพ ได้สร้างกิเลสในใจมนุดขึ้นมา สร้างความเลวต่างๆสู้กับเทพจนถึงกาลปัจจุบันที่เราเห็นทั้งสิ่งดีและไม่ดีในโลกมนุดนี้ การเกิดศาสนานั้นอาจจะดีแง่หนึ่งที่พัฒนาคนได้ แต่มันไม่สมบูรณ์เลยเกิดช่องว่างให้มารมาทำลายและสร้างกรรมเวรต่างๆ ดังนั้นจึงมีหลากหลายศาสนา และมีการวิวัฒนาการด้านศาสนา เช่นองค์สี่อีก2500ปีจะหมดยุคท่านก็มีขององค์5มาจุลต่อ โดยไม่ได้ทำลายศาสนาเดิมแต่มาต่อยอดให้คนปฎิบัติให้ไปถึงพระนิพพานเป็นอรหัตน์เร็วขึ้น

จะมาต่อนะครับขอคอมเม้นด้วยนะเป็นกำลังใจให้ผู้เผยแพร่ความลับที่มีคนรู้น้อยมาก หรือจะมากก้อไม่รู้เนอะ แต่คิดว่าไม่เคยมีใครบรรยายแบบผมมาก่อนนะ เพราะคิดจากจิตมันออกมาเองไม่ได้วางโครงร่างไรเลยเขียนตามจิตบอกครับ

 

สู้ต่อไปท่านโจ๊ก ติดตามอ่านอยู่ก๊าบบบบบ