แผ่เมตตา อุทิศบุญ เบิกบุญ

อุทิศบุญ - เบิกบุญบรรเทากรรม ​

(16/7/2559)​

อุทิศบุญ เบิกบุญ กัลยาณมิตรคงได้ยินมาบ้างแล้ว ถามว่าสองสิ่งนี้เป็นอย่างเดียวกับการแผ่เมตตาหรือเปล่าหละ ก่อนจะมาพูดเรื่องนี้ขอเริ่มที่กระแสบุญก่อนนะคะ กระแสบุญ เป็นคลื่นพลังงานในระบบจักรวาลอย่างหนึ่ง เหมือนคลื่นจากเตาอบไมโครเวฟที่เรามองไม่เห็นด้วยตาเปล่าแต่คลื่นเหล่านี้มี อยู่จริง กระแสบุญแบ่งออกไปตามระดับคลื่นต่างๆ อีกมากมายตามที่จิตเรา ย้ำ จิตเรา ในขณะแบ่งปันบุญนั้นรู้สึกอย่างไร เช่น ขณะนั้นจิตท่านเต็มไปด้วยกุศลความสุข กระแสจะเป็นสีขาวชื่นเย็นดั่งสายฝนโปรยปราย ขณะที่ท่านภาวนาแบบถืออุกฤต์มอบกายถวายชีวิตต่อพระผู้มีพระภาคเจ้า หากท่านทำได้อย่างจิตที่ตั้งไว้ กระแสบุญนีัแรงกว่ากระแสใดๆ คลื่นที่ส่งออกไปรอบกายหยาบจะเป็นแสงสีทองหรือส้มตามกำลังจิตในขณะนั้น ผู้ด้อยเช้นสัมภเวสีทั้วไปรับไม่ได้คะพอกระทบคลื่นนี้กระเด็นหมด จึงควรมีการเปิดบุญก่อนภาวนา ขณะภาวนาคลื่นกระแสพลังงานจะเริ่มออกจากกายเนื้อกระจายรัศมีออกไปเป็นออร่า เท่าไหร่ขึ้นอยู่กับความเพียรที่สร้างสมกันมาต่างกัน พอคลื่นพลังงานค่อยๆไหลออกสัมพเวสีที่เขาลำบากก็ประมาณมีขันเล็กๆไว้ใส่น้ำ ก็พอรับได้ หากไม่เปิดบุญ พอภาวนาเสร็จอุทิศบุญทีนี้ พวกขันเล็กขันน้อยรับไม่ได้คะบุญภาวนายิ่่งใหญ่มากมาทีเหมือนท่อน้ำการประปา ส่วนภูมิภาคแตก ขันเล็กขันน้อยกระเด็นหมด รับได้เฉพาะเทวดาประจำตัวและสู้ขึ้นไป ตัวอย่างคำอุทิศบุญก่อนนั่งสมาธิภาวนา "ขออำนาจคุณพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ได้โปรดบันดาลให้กุศลผลบุญภาวนาที่จะเกิดนับจากเวลานี้ไปของข้าพเจ้า ส่งถึง บิดามารดาผุ้ให้กำเนิด เหล่าเทพเทวาที่ปกปักรักษากายสังขารของข้าพเจ้าและบุคคลในครอบครัว บุตร บริวาร และญาติทั้งหลายของข้าพเจ้า นายเวรที่มาถึงตัวข้าพเจ้าและนายเวรทั้งหลายของข้าพเจ้า สัมภเวสี เปรต อสุรกาย สัตว์นรกและทุกดวงจิตที่ต้องการกุศลผลบุญ ขอท่านทั้งหลายรับบุญนี้ได้ด้วยเถิด เพื่อประโยชน์และความสุข" แล้วท่านเริ่มสมาธิภาวนา ขณะนั้นกระแสบุญจะไหลออกมาเรื่อยๆ ทำให้ผู้ลำบากรับบุญได้ง่ายขึ้นเป็นทานบารมีที่ไม่ต้องใช้ทรัพย์ พอท่านภาวนาเสร็จ คราวนี้แผ่เมตตา สัพพา สัตตา ธรรมดาก็พอคะ ใครๆก็โมทนาได้ทั้งนั้นเป็นกระแสบุญในวงกลว้าง
คราวนี้มาเข้าเรื่องการแผ่เมตตา อุทิศบุญ เบิกบุญ จากประสบการณ์ของตนเอง 3อย่างนี้คนละเรื่องเดียวกันเลยคะ
การแผ่เมตตา คือ การส่งกระแสความสุข ความรัก ความหวังดีไปยังผู้ที่ท่านต้องการแบ่งปันให้ได้รับผลเช่นเดียวกับที่ท่านได้ รับ ขณะแผ่เมตตา จึงควรรักษาระดับจิตให้อยู่ในระดับความสุขธรรม หรือความสุขใจจากการสร้างกุศล ใช้คำแผ่เมตตาธรรมดาที่ท่องกันโดยทั่วไป
การอุทิศบุญ คือ การให้โดยจำเพาะเจาะจง ท่านต้องมีบุญก่อนถึงจะอุทิศบุญให้ได้คะ เช่นว่า จะไปทำสังฆทานสเดาะห์เคราะห์ช่วงนี้มักมีเรื่อง เตรียมสิ่งของที่ไปทำบุญให้พร้อม ไปถึงวัดขณะที่พระท่านวางผ้ารับเคนหยิบของวางทีละอย่างให้นึกในใจขณะนั้นว่า บุญนี้อุทิศให้นายเวรที่มาถึงตัวข้าพเจ้า บุตร บริวารและญาติทั้งหลายของข้าพเจ้า" ถึงปับเดี๋ยวนั้นเลยคะ นี่คือ การอุทิศบุญ ได้รับแน่นอน ก่อนภาวนาจึงขอให้ท่านเปิดบุญภาวนาก่อนตามตัวอย่างข้างต้น ใช้คำว่า ขอบุญนี้ส่งถึง....คำว่าส่งถึง คือ การอุทิศให้เฉพาะเจาะจงเหมือนส่งจดหมายจะให้ไปรษณีย์ไปแจกใครก็ไปตามที่อยู่ คือ ขอบุญนี้ส่งถึง หรือ บุญนี้อุทิศให้
คำว่าเบิกบุญ คำนี้สำคัญมากนะคะไม่จำเป็นอย่าเบิกบุญ ต้นทุนบุญกุศลนี้จะเป็นอริยทรัพย์ข้ามภพชาติไปกับดวงจิตเราได้ หากชีวิตไม่ตกต่ำถึงที่สุดก็ไม่ต้องเบิก คิดว่าว่าอุทิศบุญ ทำบุญใช้กรรมเอา หากแต่ว่าท่านต้องการเบิกเพราะต้องการต่อยอดเพื่อกิจในพระศาสนา เพื่อมุ่งหวังทางนิพพาน เพื่อให้เปิดทางได้เจอพ่อแม่ครูบาจารย์ เพื่อความสุขความเจริญของตนเองเฉพาะเรื่องก็เบิกได้คะแต่ไม่พร่ำเพรื่อหมด เปลืองโดยใช่เหตุ คนเราต้องมีความเพียร อดทน จึงจะเป็นบารมีได้ แล้วจะเบิกอย่างไร เบิกเหมือนเราไปธนาคารเลยคะ บุญก็อยู่ในสมุดบัญชีเหมือนกัน ยังไม่ตายก็ต้องอาศัย พระรัตนตรัยเป็นพยานในการเบิก จะเบิกใช้หนี้กรรมก็ต้องดูให้สมน้ำสมเนื้อกันด้วยนะคะ เช่นว่า ทำมาหากินลำบากเหลือเกิน ชาตินี้ทำไมมีแต่คนมาโกงความดีฉันก็ทำยังเจอแต่คนโกงซ้ำเติมชีวิตเรื่อง เงิน ให้คิดไว้เลยว่าทุกอย่างย่อมมีเหตุและผลทั้งหมด อย่าโทษแต่คนอื่น ขอให้คิดว่าจะชาตินี้ชาติไหนหากเคยเบียดเบียนทรัพย์ผู้ใดไว้ก็ขอให้จบกัน เท่านี้นะอย่าได้ตกถึงลูกถึงหลาน
การเบิกบุญบรรเทากรรมเรื่องเงินเพื่อความอยู่รอดนี้ กรรมเรื่องการโกงทรัพย์นี่ผิดมหันต์หนทางจะแก้ยากมาก แก้ไม่ได้คะค่อยผ่อนชำระเอา การลักขโมยพระศาสนาดถึงได้กำหนดไว้ในศีล 5 ให้ละเว้นเพราะเป็นกรรมหนัก วิธีบรรเทากรรมเรื่องหนี้สินเงินทอง ท่านไปซื้อแบ็งก๊งเต๊กหรือแบ็งกาโม่ปลอม มาสักปึกสองปึก นำมาเผากลางแจ้ง เริ่มเวลา 18.00 น. เท่านั้นคะเป็นเวลาที่ประตูผีเปิด เขาจะออกมารับได้ ขณะเผาไฟให้อุทิศบุญให้ทุกท่านที่่ข้าพเจ้าเคยคดโกง ฉ้อโกงทรัพย์สินเงินทองที่ดินทุกอย่างอันเป้นทรัพย์ไว้ไม่ว่าจะภพใดชาติใด ขอเงินนี้ส่งถึงทุกท่านเพื่อพอได้บรรเทาความลำบากและเปิดทางให้แก่ข้าพเจ้า ได้มีเงินมีทองเพื่อสร้างกุศลผลบุญส่งใช้หนี้กรรมให้แก่ท่านทั้งหลายด้วย เถิด จากนั้นสวดมนต์ภาวนาแล้วทีนี้สามารถเบิกบุญมาส่งให้ตัวเองได้ ตัวอย่างนะคะ "ขออำนาจคุณพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ บิดามารดาพ่อแม่ครูบาจารย์ ได้โปรดบันดาลให้กุศลผลบุญทั้งหลายที่ข้าพเจ้าได้สร้างสมไว้ดีแล้วจากทุกภพ ชาติจนถึงปัจจุบันขณะนี้ ส่งถึงเทพเทวาที่ปกปักรักษาตัวข้าพเจ้า นายเวรที่มาถึงตัวข้าพเจ้า ส่งถึงตัวข้าพเจ้า ดวงจิต ดวงวิญญาณของข้าพเจ้าที่ติดอยู่ในทุกภพภูมิ ขอกุศลผลบุญนี้เปิดทางให้ข้าพเจ้าพ้นวิบากกรรมเรื่องเงิน งาน ความรัก ความเจริญ ขอความไม่มีอย่าได้เกิดแก่ข้าพเจ้านับจากเวลานี้ไปถึงตราบซึ่งพระนิพพาน สาธุ"
ลองเอาไปปรับใช้ดูนะคะ แล้วไม่ต้องสงสัยว่า เอส่งให้เขาจะได้รับหรือเปล่าหนอ ไม่ต้องเอามาคิดให้รกใจนะคะ ขอเพียงตั้งใจคะ จิตที่ต้ังไว้ดีแล้วมีกำลังมหาศาลกว่าที่ท่านคิด ตั้งใจทำดีไปข้างหน้า คนทำดีลำบากกว่าคนอื่นก็ต้องสู้นะคะ เพราะภพชาตินั้นสั้นลงกว่าคนทั่วไป ยิ่งทำดีบางทียิ่งลำบากก็ขอให้อดทนเป็นกำลังใจให้กันและกันดั่งคำว่า กัลยาณมิตร ยิ่งทุกข์ภพชาติยิ่งสั้น ท่านจะเหนื่อยวันนี้หรือเหนื่อยไปอีกมากมายหลายอสงไขยปีนับไม่ถ้วน ขอให้คิดว่าเป็นธรรมดาของชีวิต ทำบุญอย่าหวังผล ให้อะไรอย่าหวังผลแม้แต่คำว่าอโหสิกรรม ผู้รับจะกล่าวคำนี้เองเมื่อเขารับรู้ได้ว่าท่านตั้งใจให้มิใช่ค่าราคาสิ่ง ของ กรรมนั้นส่งผลไว้แล้วบางส่วนคือชาติกำเนิดเราเอง คนเราถึงเกิดมาไม่เท่ากันไปตามบุญกรรมจัดสรรนั่นเอง
ปล. ขอให้ท่านที่ปกติแล้วแผ่เมตตาหรืออุทิศบุญ แล้วเรียกเจ้ากรรมนายเวรมาเอาบุญจากทุกภพชาติ ไม่ต้องนะคะ เวรกรรมมาตามคิวคะ กรรมใหม่ชาตินี้ที่เป็นการฆ่าแซงกรรมเก่าตกขอบหมด ทุกอย่างมีคิวมีวาระ ให้อุทิศบุญสั้นๆแค่ว่า อุทิศให้นายเวรที่มาถึงตัวข้าพเจ้า ก็เพียงพอแล้วกับสังฆทาน 1 ชุด ข้าวใส่บาตร 1 ขัน ท่านเรียกมาสะทุกภพทุกชาติก็นะคะ มาแล้วมีข้าวขันเดียว สังฆทาน 1 ถุง จะแบ่งกันยังงัยละทีนี้ ก็ตืนเราสิ ทำบุญหน้าดำหน้าแดงเพราะเขามาแล้วไม่ได้อะไร เป็นเราๆก็โมโห ลูกหนี้เรียกมาดันมีเงินให้แค่ 10 บาทไม่พอแบ่งกันก็ขอกินโต๊ะตืบลูกหนี้สักทีก่อนกลับ
ธรรมะสวัสดีคะ เข้าพรรษาปีนี้ 2559 เป็นกำลังให้กัลยาณมิตรได้ตั้งจิตตั้งใจกันนะคะ ได้แค่ไหนเอาแค่นั้น ขอเพียงตั้งใจและมีความเพียร การตรัสรู้ หรือรู้สิ่งใดๆ คือ การรู้จักตัวสูเอง

ว.บุญแสงทอง
สนใจอ่านบทความเก่าๆได้ที่ http://wantanees.lnwshop.com/​