แนวทางการปฏิบัติสำหรับพุทธภูมิ

ในห้อง 'พุทธภูมิ - พระโพธิสัตว์' ตั้งกระทู้โดย plaspirit, 3 กันยายน 2016.

  1. plaspirit

    plaspirit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2008
    โพสต์:
    367
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,118
    ★ตามรอยพระโพธิสัตว์★

    ถ้าพิจารณาดีๆ ได้ฝึกนิสัยตามรอยพระบรมโพธิสัตว์ ตั้งแต่ทานบารมี ศีลบารมี เนกขัมมบารมี ปัญญาบารมี วิริยบารมี ขันติบารมี สัจจบารมี อธิษฐานบารมี เมตตาบารมี และอุเบกขาบารมีทั้ง 10 ประการในแต่ละวัน ทำไปเรื่อยๆ จากวัน เป็นสัปดาห์ เป็นเดือน เป็นปี เป็นหลายๆปี จนตลอดชีวิต กลายเป็นนิสัยดีๆ หนาแน่นติดข้ามชาติไป ที่เรียกว่าสันดาน จะไปเกิดในสิ่งแวดล้อมใดๆนิสัยดีๆที่ฝังแน่นแล้ว ก็จะสอนตัวเองให้อยู่ในเส้นทางแห่งความดีไปทุกภพทุกชาติ ไม่พลัดไปอบายจนกระทั่งเข้าสู่พระนิพพาน

    นอกจากบุญ และนิสัยดีๆ ที่จะนำติดตัวไปภพชาติเบื้องหน้าแล้ว อีกประการหนึ่งที่จะทำให้เกิดความมั่นใจมากขึ้นว่า ชีวิตของเราจะปลอดภัยในวัฏสงสาร คือ มีสายบุญกับครูบาอาจารย์ที่มีบุญบารมีมากๆ

    เพราะรอยต่อระหว่างภพ คือเมื่อตายจากมนุษย์ก็ไปบังเกิดในเทวโลก พอกลับมาเกิดเป็นมนุษย์ก็ลืมความรู้ และมโนปณิธานเดิมที่ตั้งความปรารถนาไว้

    การมีครูบาอาจารย์ที่มีบุญบารมีมากๆจึงเป็นความจำเป็น เมื่อเวลามาเกิดจะได้ตามท่านลงมาสร้างบารมี จะผิดพลาดเพราะความไม่รู้ในวัยต้น เมื่อบุญได้ช่องส่งผลจะนำมาพบครูบาอาจารย์ มาสร้างบารมี ทำให้บุญคุ้มครองรักษา ให้ผลก่อนบาปอกุศลที่อาจผิดพลาดทำไป


    attachment.php?attachmentid=3720583&stc=1&d=1473081505.jpg

    "อิมินา ปุญญะกัมเมนะ พุทโธ โหมิ อะนาคะเต กาเล"
    จะมั่นคงในปณิธานจนกว่าจะถึงซึ่งพระอนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณ . . .


    270870_414731988566520_1015519392_n.jpg


    • จริยธรรม 10 ประการของพระโพธิสัตว์ ประกอบด้วย


    1. พระโพธิสัตว์ ไม่ปรารถนาเลยว่า ร่างกายจะไม่มีโรคภัยไข้เจ็บ (มีโรคภัยไข้เจ็บเป็นธรรมดา)
    2. พระโพธิสัตว์ ครองชีพโดยไม่ปรารถนาว่าจะไม่มีภัยอันตราย (มีภัยอันตรายเป็นธรรมดา)
    3. พระโพธิสัตว์ ไม่ปรารถนาเลยว่า จะไม่มีอุปสรรคในการชำระจิตใจให้บริสุทธิ์ (ย่อมมีอุปสรรคเป็นธรรมดา)
    4. พระโพธิสัตว์ ไม่ปรารถนาเลยว่า จะไม่มีมารขัดขวางการปฏิบัติภารกิจ (จะต้องมีมารมาขัดขวางการปฏิบัติโพธิจิตเป็นธรรมดา)
    5. พระโพธิสัตว์ ถือว่าทำงานให้นานที่สุด โดยไม่ปรารถนาจะให้สำเร็จผลเร็ว (ปล่อยวางเรื่องกาลเวลา ทำงานเพื่องาน)
    6. พระโพธิสัตว์ คบเพื่อน โดยไม่ปรารถนาจะได้รับผลประโยชน์จากเพื่อน (รักผู้อื่นด้วยความบริสุทธิ์ใจ)
    7. พระโพธิสัตว์ ไม่ปรารถนาว่า จะให้คนอื่นต้องตามใจตนเองเสมอไปทุกอย่าง (ไม่มีความเห็นแก่ตัว)
    8. พระโพธิสัตว์ ทำความดีกับคนอื่น โดยไม่ปรารถนาสิ่งตอบแทน (ต้องการให้คนอื่นพ้นทุกข์)
    9. พระโพธิสัตว์ เห็นลาภแล้ว ไม่ปรารถนาว่าจะได้รับ (ไม่ปรารถนาในลาภและสรรเสริญ)
    10. พระโพธิสัตว์ เมื่อถูกใส่ร้ายป้ายสี ติเตียนนินทาแล้ว ไม่ปรารถนาที่จะตอบโต้ (การใส่ร้ายป้ายสี ติเตียน นินทา เป็นธรรมดาของโลก)

    จริยธรรมทั้ง 10 ประการนี้ เป็นการปฏิบัติธรรมชั้นสูงของพระโพธิสัตว์ทุกพระองค์ เรียกว่า "มหาอุปสรรค" ซึ่งถ้าท่านผู้ปฏิบัติธรรมนำมาท่องทุกวัน จะช่วยขัดเกลาจิตใจให้ดีงาม ช่วยให้ง่ายต่อการบรรลุมรรคผล นิพพาน


    13912359_1173292182710493_3571556683660017813_n.jpg

    • คุณธรรมที่ประพฤติปฏิบัติอย่างยิ่งยวด ( บารมี 10 หรือ ทศบารมี )
    ปฏิปทาอันยวดยิ่ง , คุณธรรมที่ประพฤติปฏิบัติอย่างยิ่งยวด คือ ความดีที่บำเพ็ญอย่างพิเศษ เพื่อบรรลุซึ่งจุดหมายอันสูง เช่น ความเป็นพระพุทธเจ้าและความเป็นมหาสาวก เป็นต้น

    1. ทาน การให้ การเสียสละ

    2.ศีล การรักษากาย วาจาให้อยู่ในหลักความประพฤติที่เป็นแบบแผนแห่งภาวะของตน , ความประพฤติดีงามถูกต้องตามระเบียบวินัย

    3.เนกขัมมะ การออกบวช , ความปลีกตัวปลีกใจจากกาม

    4. ปัญญา ความรอบรู้ , ความหยั่งรู้เหตุผล เข้าใจสภาวะของสิ่งทั้งหลายตามความเป็นจริงและรู้จักแก้ไขปฏิบัติจัดการต่างๆ

    5.วิริยะ ความเพียร , ความแกล้วกล้า ไม่เกรงกลัวอุปสรรค พยายามบากบั่นอุตสาหะ ก้าวหน้าเรื่อยไป ไม่ทอดทิ้งธุระหน้าที่

    6.ขันติ ความอดทน , ความทนทานของจิตใจ สามารถใช้สติปัญญาควบคุมตนให้อยู่ในอำนาจเหตุผล และแนวทางความประพฤติหรือการปฏิบัติ ที่ตั้งไว้เพื่อจุดหมายอันชอบ ไม่ลุอำนาจกิเลส

    7.สัจจะ ความจริง คือ พูดจริง ทำจริง และจริงใจ

    8.อธิษฐาน ความตั้งมั่น , การตัดสินใจเด็ดเดี่ยว วางจุดหมายแห่งการกระทำของตนไว้แน่นอน และดำเนินตามนั้นแน่วแน่

    9.เมตตา ความรักใคร่ , ความปรารถนาดี มีไมตรี คิดเกื้อกูลให้ผู้อื่นและเพื่อนร่วมโลกทั้งปวงมีความสุขความเจริญ

    10.อุเบกขา ความวางใจเป็นกลาง , ความวางใจสงบราบเรียบสม่ำเสมอ เที่ยงธรรม และดำรงอยู่ในธรรม ไม่เอนเอียงหรือหวั่นไหวไปด้วยความยินดียินร้ายชอบชังหรือแรงเย้ายวนยั่วยุใดๆ


    13428523_1141745199198525_1269401050267091348_n.jpg

    • ทศภูมิของพระโพธิสัตว์
    ทศภูมิของพระโพธิสัตว์ คือภูมิจิตของพระโพธิสัตว์ มี ๑๐ ภูมิดังนี้

    ๑. มุทิตาภูมิ พระโพธิสัตว์มีความยินดีในความไร้ทุกข์ของสัตว์ (ภูมินี้บำเพ็ญหนักในทานบารมี)

    ๒. วิมลาภูมิ (ปราศจากมลทิน) พระโพธิสัตว์ละมิจฉาจริยาได้เด็ดขาด ปฏิบัติแต่ในสัมมาจริยา (ภูมินี้มีศีลบารมีเป็นใหญ่)

    ๓. ประภาการีภูมิ (มีความสว่าง) พระโพธิสัตว์ทำลายอวิชาได้เด็ดขาด มีความอดทนทุกประการ (ภูมินี้มีขันติบารมีเป็นใหญ่)

    ๔. อรรถจีสมดีภูมิ (รุ่งเรือง) พระโพธิสัตว์มีความเพียรในการบำเพ็ญธรรม (ภูมินี้มีวิริยะบารมีเป็นใหญ่)

    ๕. ทุรชยาภูมิ (ผู้อื่นชนะยาก) พระโพธิสัตว์ละสภาวะสาวกญาณ กับปัจเจกโพธิญาณ ซึ่งเป็นธรรมเครื่องกั้นพุทธภูมิ (ภูมินี้มีญาณบารมีเป็นใหญ่)

    ๖. อภิมุขีภูมิ (มุ่งหน้าต่อทางนิพพาน) พระโพธิสัตว์บำเพ็ญยิ่งในปัญญาบารมี เพื่อรู้แจ้งเห็นชัดในปฏิจจสมุปบาท (ภูมินี้มีปัญญาบารมีเป็นใหญ่)

    ๗. ทูรังคมาภูมิ (ไปไกล) พระโพธิสัตว์มีอุบายอันฉลาดแม้บำเพ็ญกุศลน้อย แต่ได้ผลแก่สรรพสัตว์มาก (ภูมินี้มีอุบายบารมีเป็นใหญ่)

    ๘. อจลาภูมิ (ไม่คลอนแคลน มั่นคง) พระโพธิสัตว์บำเพ็ญหนักในปณิธานบารมี

    ๙. สาธุบดีภูมิ พระโพธิสัตว์แตกฉานในอภิญญา และปฏิสัมภิทาญาณ (ภูมินี้บำเพ็ญหนักในพลบารมี)

    ๑๐. ธรรมเมฆภูมิ พระโพธิสัตว์บำเพ็ญหนักในญาณบารมีมีจิตอิสระ ไม่ติดในรูปธรรม นามธรรม (บำเพ็ญหนักญาณบารมี)


    hqdefault%20(1).jpg

    • กล่าวถึงพุทธภูมิธรรมของนิยตโพธิสัตว์ ในการเพิ่มพูนบารมีให้มากยิ่งขึ้น มีน้ำใจประกอบไปด้วย พุทธภูมิธรรม 4 ประการ คือ

    1. อุสสาโห คือประกอบไปด้วยพระอุตสาหะ มีความเพียรอันสลักติดแน่นในจิตใจอย่างมั่นคง
    2. อุมัตโต คือประกอบด้วยปัญญา มีปัญญาเชียวชาญเฉียบคม
    3. อวัตถานัง คือมีพระทัยอธิษฐานอันมั่นคง มิได้หวั่นไหวคลอนแคลน
    4. หิตจริยา คือประกอบไปด้วยพระเมตตา เจริญจิตอยู่ด้วยพรหมวิหารเป็นปกติ

    • อัธยาศัย ที่ทำให้พระโพธิญานของนิตยโพธิสัตว์แก่กล้ายิ่งขึ้น มี 6 ประการ


    1. เนกขัม พอใจในการรักษาศีล การบวช หรือบรรพชา
    2. วิเวก พอใจอยู่ในที่สงบ
    3. อโลภ พอใจในการบริจาคทาน
    4. อโทส พอใจในความไม่โกรธ เจริญเมตตา
    5. อโมห พอใจในการพิจารณาคุณและโทษ เจริญปัญญา
    6. นิพพาน พอใจที่ยกตนออกจากภพ ไม่ยินดีในการเวียนว่ายตายเกิด ประสงค์นิพพานเป็นอย่างยิ่ง

    • มหาปณิธาน 4 ประกอบด้วย


    1.เราจะละกิเลสให้หมด
    2.เราจะศึกษาสัจธรรมให้จบ
    3.เราจะช่วยโปรดสัตว์ทั้งหลายให้สิ้น
    4.เราจะบรรลุพระพุทธภูมิอันประเสริฐสุด


    first%20buddha.jpg

    • คุณสมบัติของพระโพธิสัตว์มีอยู่ 3 ข้อใหญ่

    1.มหาปรัชญาหรือปัญญาอันยิ่งใหญ่ หมายความว่าจะต้องเป็นผู้มีปัญญาเห็นแจ้งในสัจธรรม ไม่ตกเป็นทาสของกิเลส
    2.มหากรุณา หมายความว่าจะต้องเป็นผู้มีจิตกรุณาต่อสัตว์ทั้งหลายอย่างปราศจากขอบเขต พร้อมที่จะสละตนเองเพื่อช่วยสัตว์ให้พ้นทุกข์
    3.มหาอุปาย หมายความว่าพระโพธิสัตว์จะต้องมีวิธีการชาญฉลาดในการแนะนำ อบรมสั่งสอนผู้อื่นให้เข้าถึงสัจธรรม

    คุณสมบัติทั้งสามข้อนี้ เป็นหัวใจของพระพุทธศาสนาฝ่ายมหายาน
    ข้อแรกเป็นการบำเพ็ญประโยชน์ตนให้ถึงพร้อม ส่วนข้อหลัง 2 ข้อเป็นการบำเพ็ญประโยชน์เพื่อผู้อื่น

    • ปณิธาน ๘ ประการ ของพระโพธิสัตว์


    1. พระโพธิสัตว์จักต้องบำเพ็ญตนให้เป็นคุณประโยชน์ต่อปวงสัตว์ โดยไม่ปรารถนารับผลตอบแทนใดๆจากสัตว์ทั้งหลาย
    2. พระโพธิสัตว์สามารถเสวยสรรพทุกข์แทนสรรพสัตว์ได้โดยมิย่นย่อท้อถอย
    3. พระโพธิสัตว์สร้างคุณความดีไว้มีประมาณเท่าไร ก็สามารถอุทิศให้แก่สัตว์ทั้งหลายได้ ไม่หวงแหนตระหนี่ไว้
    4. พระโพธิสัตว์ตั้งจิตอยู่ในสมถธรรมอันสม่ำเสมอในปวงสัตว์ ไม่เลือกที่รักมักที่ชัง ถ่อมตนไว้ ไม่ลำพองโดยปราศจากความข้องขัดใดๆ
    5. พระโพธิสัตว์เห็นพระโพธิสัตว์ทุกๆพระองค์ ปานประหนึ่งเห็นพระพุทธองค์ อนึ่งพระสูตรใดที่ยังมิได้สดับตรับฟัง ครั้นได้มีโอกาสสดับตรับฟังแล้ว ก็ไม่บังเกิดความคลางแคลงกังขาอย่างไร ในพระสูตรนั้นๆ
    6. พระโพธิสัตว์ไม่หันปฤษฎางค์ให้แก่ธรรมะของพระอรหันตสาวก แต่สมัครสมานเข้ากันได้กับธรรมะดังกล่าวนั้นๆ
    7. พระโพธิสัตว์ไม่เกิดความริษยาในลาภสักการะอันบังเกิดแก่ผู้อื่น และไม่เกิดความหยิ่งทะนงในลาภสักการะ อันบังเกิดแก่ตนเอง สามารถควบคุมจิตของตนไว้ได้
    8. พระโพธิสัตว์จักต้องหมั่นพิจารณาโทษของตนอยู่เป็นนิจ ไม่เที่ยวเพ่งโทษ โพนทะนาโทษของผู้อื่น ตั้งจิตมั่นคงเด็ดเดี่ยวในการสร้างบารมีโกยสัตว์โลกให้พ้นทุกข์

    นี้แลชื่อว่าคุณธรรมอันเป็นคุณสมบัติ 8 ประการ ของพระโพธิสัตว์ ผู้ใดปฏิบัติได้ตามนี้ ผู้นั้นก็จักได้เป็นพระโพธิสัตว์

    *คัดลอกจากหนังสือ ::โอวาทจากดวงพระวิญญาณบริสุทธิ์ สมเด็จโต เล่ม 4


    _______________________________________________________________________________

    14457510_1650587838565645_1508312107450493622_n.jpg

    ★ พระสัมมาสัมพุทธเจ้า

    สำหรับพระพุทธสภาวะสุดท้ายเป็นสภาวะพุทธะที่สมบูรณ์ที่สุด คือ พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งหมายถึงบุคคลผู้อบรมตนพัฒนาภูมิปัญญา มาอย่างอุกฤษฏ์นับกาลเวลาไม่ถ้วน จนมีอำนาจใจกล้าด้วยคุณสมบัติสิบประการคือ

    1) อุทิศชีวิตเพื่อสละให้เป็นทานได้
    2) อุทิศชีวิตเพื่อการรักษาศีลได้
    3) อุทิศชีวิตเพื่อออกจากกามได้
    4) อุทิศชีวิตเพื่อพัฒนาภูมิปัญญาได้
    5) อุทิศชีวิตเพื่อความอดทนได้
    6) อุทิศชีวิตเพื่อความพยายามอันชอบได้
    7) อุทิศชีวิตเพื่อความตั้งใจอันแน่วแน่ได้
    8) อุทิศชีวิตเพื่อความสัตย์ได้
    9) อุทิศชีวิตเพื่อความเมตตาได้
    10) อุทิศชีวิตเพื่อความสงบมั่นคงและธำรงความเป็นธรรมอย่างเป็นกลางได้

    บุคคลผู้มีอุปนิสัยสิบประการนี้ครบถ้วนโดยบริบูรณ์ย่อมสามารถตรัสรู้สัจจะทุกประการในความมีอยู่ทั้งหมดได้โดยพระองค์เอง และเมื่อตรัสรู้แล้วย่อมสามารถสั่งสอนให้บุคคลอื่นเข้าใจตาม ปฏิบัติตาม และบรรลุธรรมบริสุทธิ์ตามพระองค์ได้ด้วยเพราะพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงรู้ทุกสิ่งจึงรู้แม้กระทั่งว่าควรสอนใครอย่างไรเท่าใดจึงจักสำเร็จผลพอดี จึงสามารถสอนบุคคลอื่นได้ผลสำเร็จด้วย ซึ่งสภาพรู้ทุกสิ่งของพระสัมมาสัมพุทธเจ้านี้เรียกว่าพระสัพพัญุตาญาณ


    พระสัมมาสัมพุทธเจ้ามีสามประเภทคือ

    พระปัญญาธิกสัมมาสัมพุทธเจ้า คือผู้ที่บำเพ็ญเพียรมาด้วยปัญญาเป็นตัวนำ นับเป็นเวลาสี่อสงไขยกับหนึ่งแสนมหากัปจึงได้ตรัสรู้ และจะมาตรัสรู้ในยุคที่มนุษย์มีอายุขัยพันปี (บวก - ลบ)


    พระศรัทธาธิกสัมมาสัมพุทธเจ้า คือผู้ที่บำเพ็ญเพียรมาด้วยศรัทธาเป็นตัวนำ นับเป็นเวลาแปดอสงไขยกับหนึ่งแสนมหากัปจึงได้ตรัสรู้ และจะมาตรัสรู้ในยุคที่มนุษย์อายุขัยหมื่นปี (บวก - ลบ)


    พระวิริยาธิกสัมมาสัมพุทธเจ้า คือผู้ที่บำเพ็ญเพียรมาด้วยวิริยะเป็นตัวนำ นับเป็นเวลาสิบหกอสงไขยกับหนึ่งแสนมหากัปจึงได้ตรัสรู้ และจะมาตรัสรู้ในยุคที่มนุษย์มีอายุขัยแสนปี (บวก - ลบ)


    พระสัมมาสัมพุทธเจ้าเมื่อละสังขารแล้วย่อมไปอยู่ในหมู่พระพุทธเจ้าด้วยกัน ณ พระนิพพานอันหมดจดไร้ขอบเขต เป็นประธานแห่งผู้บริสุทธิ์และเทพเจ้าทั้งปวง

    ที่มา: หนังสืออริยศาสตร์ คู่มือการเข้าอริยะภูมิ เขียนโดย อัคร ศุภเศรษฐ์ หน้า 264 - 265

    ______________________________________________________________________________
    "หากท่านไม่ละความเพียร จักสำเร็จพุทธะ อย่างแน่นอน"
    อนุโมทนากับพุทธภูมิทุกท่านด้วยครับ ที่อธิษฐานสละตนเพื่อช่วยเหลือสรรพสัตว์
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 กุมภาพันธ์ 2017
  2. ซี-วา

    ซี-วา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤษภาคม 2013
    โพสต์:
    281
    ค่าพลัง:
    +644
    ยากมากเลยอ่ะคับ
    ผมจะทำไหวหรอแบบนี้?:'(
     
  3. hydraxis

    hydraxis เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2012
    โพสต์:
    259
    ค่าพลัง:
    +529
    เป็นกำลังใจให้ครับ

    จะว่าเรื่องยาวหรือสั้น มันไม่มีกำหนดระยะได้หรอกครับ


    รูปนามเวลา สั้นยาว เรากำหนดมันขึ้นมาด้วยอำนาจของกิเลส วันเวลา คือกิเลส จะชำระกิเลสคือนิพพาน ไม่มีเวลา ครับ นั้นละจบกิจ พุทธภูมิ
     
  4. plaspirit

    plaspirit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2008
    โพสต์:
    367
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,118
    บุพกรรมตถาคต 1

    พระสัมมาสัมพุทธเจ้าผู้โคดมทรงสำราญพระอิริยาบถในละแวกป่าใกล้สระอโนดาตได้ตรัสบุพกรรมแด่ท่านพระอานนท์ว่า........


    " เราได้ถวายผ้าเก่าที่ใช้แล้ว แก่ ภิกษุผู้ทรงธุดงค์คุณ ถืออยู่ป่าเป็นวัตรรูปหนึ่ง

    ตังจิตอธิษฐานความเป็นพระสัพพัญญูพุทธเจ้าเป็นครั้งแรก บุพพกรรมนั้น ยังเราให้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในบัดนี้ "


    ที่มา: คุณนักรบเงา
     
  5. plaspirit

    plaspirit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2008
    โพสต์:
    367
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,118
    บุพกรรมตถาคต 2

    ทรงตรัสแด่พระอานนท์ว่า " เราเป็นนายโคบาลต้อนโคไปเลี้ยง ได้เห็นแม่โคดื่ม่น้ำขุ่นจึงไล่ ไม่ให้ดื่ม วิบากนั้นติดตามเราแม้บัดนี้ เรากระหาย ก็ไม่ได้ดื่มน้ำตามประสงค์"

    ที่มา: คุณนักรบเงา
     
  6. plaspirit

    plaspirit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2008
    โพสต์:
    367
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,118
    บุพกรรมตถาคต 3

    ทรงตรัสแด่พระอานนท์ว่า
    " เราเป็นนักเลงชื่อ ปุนาลิ ได้กล่าวร้ายต่อพระสุรภีผู้ปัจเจกพุทธเจ้า วิบากนั้นยังเราให้เข้าถึงนรกหลายพันปี --ผลกรรมที่เหลือคือ เราถูกนางสุนทริกากล่าวร้ายใส่ความในบัดนี้ "


    ที่มา: คุณนักรบเงา
     
  7. plaspirit

    plaspirit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2008
    โพสต์:
    367
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,118
    บุพกรรมตถาคต 4

    ทรงตรัสแด่พระอานนท์ว่า

    " เรากล่าว่ตู่พระเถระชื่อ นันทะ วิบากนั้นยังเราให้ตกนรกถึงหมื่นปี และในภพที่สุดนี้ ก็ถูกกล่าวตู่โดยนางจิญจมาณวิกาและหมู่ชน"


    ที่มา: คุณนักรบเงา
     
  8. plaspirit

    plaspirit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2008
    โพสต์:
    367
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,118
    บุพกรรมตถาคต 5

    ทรงตรัสแด่พระอานนท์ว่า

    "เราเป็นพราหมณ์นามว่า สุตวา สอนมนต์แก่มานพห้าร้อยคนในป่าใหญ่
    ได้กล่าวตู่ฤาษีผู้บรรลุอภิญญาห้าว่า ..แม้ฤาษีนี้ก็เสพกาม...มานพทั้งหมดเชื่อคำเรา แล้วแพร่ข่าวไป
    วิบากนั้นทำให้ภิกษุห้าร้อยนี้ ถูกกล่าวตู่เพราะนางสุนทริกา "


    ที่มา: คุณนักรบเงา
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 กันยายน 2016
  9. plaspirit

    plaspirit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2008
    โพสต์:
    367
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,118
    บุพกรรมตถาคต 6

    ทรงตรัสแด่พระอานนท์ว่า

    "เราฆ่าพี่ชาย น้องชาย ต่างมารดาเพราะเหตุแห่งทรัพย์ โดยจับโยนลงเหว กลิ้งหินทับ

    วิบากนั้น เทวฑัตจึงกลิ้งหินทำร้ายเรา สะเก็ดหินกระทบนิ้วแม่เท้าห้อโลหิต"



    ที่มา: คุณนักรบเงา
     
  10. plaspirit

    plaspirit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2008
    โพสต์:
    367
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,118
    บุพกรรมตถาคต 7

    ทรงตรัสแด่พระอานนท์ว่า

    "เราเป็นเด็ก เล่่นอยู่บนถนนใหญ่ เห็นพระปัจเจกพุทธเจ้าโคจรอยู่ จึงจุดไฟเผาไหม้ปิดหนทาง วิบากนั้น เทวฑัตจึงชักชวนนายขมังธนูดักฆ่าเรา"


    ที่มา: คุณนักรบเงา
     
  11. plaspirit

    plaspirit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2008
    โพสต์:
    367
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,118
    บุพกรรมตถาคต 8

    ทรงตรัสแด่พระอานนท์ว่า

    "เราเป็นนายควาญช้าง ใสช้างซับมัน วิ่งเข้าใส่พระปัจเจกพุทธเจ้าผู้กำลังภิกขาจาร วิบากนั้น ช้างนาฬาคีรี จึงวิ่งใส่เรา"

    ที่มา: คุณนักรบเงา
     
  12. plaspirit

    plaspirit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2008
    โพสต์:
    367
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,118
    บุพกรรมตถาคต 9

    ทรงตรัสแด่พระอานนท์ว่า

    "เราเป็นเด็กชาวประมงแห่งบ้านเกวัฏฏคาม เห็นเค้าฆ่าปลาแล้วยินดี

    วิบากนั้น ความทุกข์ที่ศีรษะจึงมีแก่เรา เมื่อพวกสากยะทั้งหลายถูกทำลายโดยพระเจ้าวิฑูฑภะ"


    ที่มา: คุณนักรบเงา
     
  13. plaspirit

    plaspirit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2008
    โพสต์:
    367
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,118
    บุพกรรมตถาคต 10

    ทรงตรัสแด่พระอานนท์ว่า

    "เราบริภาษพระสาวกในศาสนาพระผุสสะผู้สัมมาสัมพุทธเจ้าว่า พวกท่านจงกินแต่ข้าวแดง อย่ากินข้าวสาลีเลย

    วิบากนั้น พราหมณ์ผู้ครองนครเวรัญชานิมนต์จำพรรษาแล้วลืมไป เราพร้อมหมู่สงฆ์จึงบริโภคข้าวแดงตลอดสามเดือน"


    ที่มา: คุณนักรบเงา
     
  14. plaspirit

    plaspirit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2008
    โพสต์:
    367
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,118
    บุพกรรมตถาคต 11

    ทรงตรัสแด่พระอานนท์ว่า

    "เราเป็นกรรมการห้ามมวยปล้ำ ได้กันห้ามแต่เพียงฝ่ายเดียว
    วิบากนั้น ทำให้เราต้องเจ็บหลัง ปวดเอว ในปัจจุบัน"


    ที่มา: คุณนักรบเงา
     
  15. plaspirit

    plaspirit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2008
    โพสต์:
    367
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,118
    บุพกรรมตถาคต 12

    ทรงตรัสแด่พระอานนท์ว่า

    "เราเป็นนายแพท่ย์ รักษาโรคโดยประมาท
    ให้ยาถ่ายเกินขนาดแก่บุตรเศรษฐี
    วิบากนั้น โรคปักขันธิกาพาธจึงมีแก่เรา"


    ที่มา: คุณนักรบเงา
     
  16. plaspirit

    plaspirit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2008
    โพสต์:
    367
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,118
    บุพกรรมตถาคต 13

    ทรงตรัสแด่พระอานนท์ว่า

    "เราเป็น โชติปาลมานพ ได้กล่าวตู่พระกัสสปผู้สัมพุทธเจ้าว่า เปล่าจากพระสัมโพธิญาณ

    วิบากนั้น ทำให้เราต้อง่บำเพ็ญทุกรกิริยาตลอดหกพรรษา ก็มิได้บรรลุพระสัมโพธิญาณโดยทางนั้น เพราะบุพกรรมจึงแสวงโพธิญาณโดยทางผิด"


    ที่มา: คุณนักรบเงา
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 กันยายน 2016
  17. plaspirit

    plaspirit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2008
    โพสต์:
    367
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,118
    พุทธพจน์ 1

    การคบแต่คนดีนำแต่ความสุขมาให้
    To be friend only decent people brings happiness.


    อิทสมานโคตตชาดก / Itsamarnkoattajataka
     
  18. plaspirit

    plaspirit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2008
    โพสต์:
    367
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,118
    พุทธพจน์ 2

    ความกตัญญูไม่มีในคนใด การคบกับคนนั้นก็ไร้ประโยชน์
    There is no use in friendship with an ungrateful person.


    ชวสกุณชาดก / Javasakunajataka
     
  19. plaspirit

    plaspirit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2008
    โพสต์:
    367
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,118
    พุทธพจน์ 3

    ถ้าจะทำก็ควรทำให้จริง
    Whatever you do, do it with all your heart and soul.


    ตายนสูตร / Tayanasutra
     
  20. plaspirit

    plaspirit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2008
    โพสต์:
    367
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,118
    พุทธพจน์ 3

    เป็นคนควรพยายามไปจนกว่าจะสำเร็จ
    A human we must strive on until we reach our goal.


    วิโรจนอสุรินทสูตร / Virojana-asurindasutra
     

แชร์หน้านี้

Loading...