แค่มีสติสักกะว่ารู้สิ้นทุกข์ได้ไหม?

นั้นยังจะมาคุยฟุ้งอีก มาคุยระดับกิริยาจิต ไม่มีผัสสะอะไรๆมันก็ไม่มีหรอกครับ

 

ไม่มีผัสสะทางตาหู จมูก ลิ้น กายใจ
แต่โผล่ออกมาจากความคิดให้มาโกรธ
ให้มารักมาหลงก็ได้หน่า

 

มันก็มีผัสสะทางความคิดไง ไม่มีผัสสะ มันจะโกรธใครได้อะ

 

โถไอ้ส้นTEEN..รู้ตามธรรมชาติ.. อย่างนั้นคุณจะฝึกสติไปเพื่ออะไรใช้เวลาทั้งชีวิต-รอสติ ตามธรรมชาติไม่ดีรึ ไม่ต้องเหนื่อย..ไอ้กะบือ
ไอ้กะบือ ไปเอาผลการปฏิบัติ แถมไม่รู้ด้วยว่ามีจริงรึไม่-มาคุย-เหมือนอจ.มึงไม่มีผิด ดูจิตผิดๆนี่แหละ กะบือตัวพ่อเลย..

 

เอาอะไรไปรู้ฮับ แต่แทบ 100 ทั้ง 100 เอาตัว
เรา(ที่เป็นสังขาร)ไปรู้สิ่งที่ปรุงแต่ง

 

ไอ้กะบือ-ผัสสะ กับ กริยาจิต ก็อันเดียวกันนั่นแหละ เพราะอายตนะ6 กระทบจิตแล้ว จึงจะถูกเวทนาครอบงำ..ผัสสะเกิด-เราเรียกกริยาจิต ..ไอ้กะบือ เล่นแต่คำไม่เข้าใจธรรมเลยสักนิด..น่าเบื่อหน่ายมาก

 

หึแสยะยิ้มนิดๆ
แต่ใจแค่รู้วาตัวเรารู้ว่าสัตว์โลกตัวนี้ยังไม่รู้

 

โถ..ไอ้กะบือขี้โม้นี่นะ ถุยส์-ลงใจ-ลงธรรมในขันธ์5..คืออะไรไอ้กะบือเล่นแต่สำนวนอธิบายไม่ได้ อิอิ

 

ยิ้มมุมปาก

 

แค่รู้ เฉยๆ ว่าตัวเรารู้ว่าสัตว์โลกยังไปไม่ถึง

 

ไอ้ไบโพลา KENNY2 -รู้จักอาการตึง-หย่อน ด้วยรึ ยังงั้นมึงรักษา อารมณ์ตึงๆๆๆ-ตัวเองนะไอ้ส้นTEEN..แดกยาให้ครบโด๊สซะจะได้ไม่ปรี๊ดบ่อย-ไปด่าใครเขา..

 

เห็นยังว่า ความรู้ที่เกิดด้วยธาตุรู้ มันไม่มีอารมย์
เพราะมันปรุงแต่งอะไรไม่ได้
มันจึงไม่ทุกข์อีกต่อไป
แต่จะใช้ขันธ์ 5 นี้คุยต่อไปได้เรื่อยๆฮับ

 

โถไอ้กะบือKENNY2 -เกิด-ดับ-เขาดูที่วิญญาณไปกระทบ ผัสสะ อะไร...(ฉาก) เสพอะไรเป็นอารมณ์ เขาจึงต้องตัดผัสสะไง เพื่อไม่ให้จิตเกิด-ดับ..ไอ้ไบโพลา..ไปแดกยาไป เรียนจนตายมึงก็วนเวียนอยู่นี่แหละ ..

 

NEOWORLD..โถ..ไอ้ควายยยยไปกันใหญ่เลย ถุยยส์..(เขาเรียกผัสสะทางใจ-โมน-วิญญาณ)
เฮ้อ..นอนดีกว่าเว๊ยไอ้บ้านี่เผยแพร่ธรรมผิดๆตลอด.

 

กราบลูกสิ
กราบสิพ่อบือจะชี้แนะให้ตามสมควร
กราบหลุกสิเพ่อะ

 

ก็รู้ไปสิว่า "ตัวเองเห็นคนอื่นพูดไม่ถูกใจตนเอง"
มันก็ไม่ทุกข์แระเอ้อ....

 

ก็ที่บอกไงถ้าทำได้ ก็ตามนั้น ที่ทำไม่ได้อยู่ก็ให้ว่าต้องพยามต่อไง

 

ไม่ใช่ส่วนปลายอย่างเดียวหรอกครับ

มันเป็นตั้งแต่ส่วนต้นไปจนส่วนปลาย
ใช้ตัวเดียวทั้งนั้น

การฝึก สักแต่ว่ารู้ ก้เพียง เพื่อสร้างสติให้เกิดขึ้น

อาศัย ผัสสะที่มากระทบจิต ด้วยอายตนะ 12

ตัวนี้มันก็กิริยาจิตล้วนๆ เทียบลงพระไตร เรียก เจตสิก
คิดคำใหม่ปวดกะบาลเปล่าๆ

เมื่อเกิดผัสสะ ต้องฝึก กำหนดรู้ไปเรื่อยๆ รู้แบบสักกะว่ารู้ สักแต่ว่าเห็น
เรียกว่ารู้แบบซื่อๆ เพื่อ ให้จิตได้จดจำสภาวะ
เมื่อคล่องเมื่อแม่น สัญญาเกิดก่อน ญาณเกิดตามตามมา
สติปัญญาจะสัมปยุติ รวมเป็นหนึ่ง เอกายโน มรรคโค

มรรคในส่วนที่พ้นการตบแต่งจึงจะเริ่มเกิดขึ้น
รูปนามปริเฉทจะเริ่มปรากฎ
ปัญญาอ่อนๆจะเริ่มแจ้งขึ้นกับใจ

เรียก ฐีติธรรมญาณ

ปอลิง ....ตอบลุงแมวไปด้วยอีกโพส

 

ถ้าฟังเข้าใจแล้ว
ก็ไม่ต้องมีใครพยายามจะทำไร
เพื่อจะได้อะไร
และไม่ต้องไปใช้เวลาเพื่อค้นหาวิธีการอะไรอีก
เข้าใจเดี๋ยวนี้ เห็นความรู้ได้เดี๋ยวนี้... เอ้อ
ตามที่เขาสอนกันว่าเป็นปัจจุบันธรรมงั้นเเหล่ะ

 

รู้ตามธรรมชาติโดยธาตุรู้จะเห็นธรรมชาติ
ของความรู้สึกนึกคิดของขันธ์5
จะพบธรรมจริง
ถ้าเอาตัวเราไปรู้ความรู้สึกนึกคิดของขันธ์5
จะเห็นธรรมปลอม
เพราะเอาสิ่งปรุงแต่งไปเห็นสิ่งปรุงแต่ง
จึงรู้แต่สิ่งปรุงแต่ง