เหตุขัดแย้งพุทธ-มุสลิมในพม่ายังเครียด

เหตุขัดแย้งพุทธ-มุสลิมในพม่ายังเครียด

ข่าวไทยรัฐ ฉบับวันที่่ 27 มีนาคม 2556

สถานการณ์ความขัดแย้งรุนแรงระหว่างชาวพุทธและชาวมุสลิมในพม่าที่เริ่มจากเมืองมิถิลา ทางภาคกลางตั้งแต่วันที่ 20 มีนาคม ที่ผ่านมา ทำให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 32 ศพ บ้านเรือนประชาชนและศาสนสถานถูกเผาทำลายเสียหายจำนวนมาก ชาวบ้านต้องไร้ที่พักพิงมากเกือบ 10,000 คน เหตุการณ์ความตึงเครียดยังลุกลามสู่หลายเมืองตลอดช่วงสุดสัปดาห์ ทำให้รัฐบาลพม่าต้องประกาศภาวะฉุกเฉินและส่งทหารเข้ารักษาความสงบเรียบร้อย ทั้งมีการยิงปืนขึ้นฟ้าปรามผู้ก่อเหตุรุนแรง

ก่อนหน้านี้ ผู้แทนสหประชาชาติ (ยูเอ็น) เดินทางเข้าพื้นที่เกิดความขัดแย้งเพื่อรวบรวมข้อมูลแก้ปัญหา ทั้งเรียกร้องรัฐบาลพม่าให้นำตัวผู้ก่อความรุนแรงมาลงโทษตามกฏหมาย แต่ต้องหลีกเลี่ยงการใช้อาวุธยุติปัญหาและเกรงว่าเหตุรุนแรงอาจลุกลามสู่การฆ่าล้างเผ่าพันธ์แบบเดียวกับที่เคยเกิดขึ้นกับชนเผ่าฮูตูและทุตซี่ในนวันดา แม้ว่า ส.ส.พรรคฝ่ายค้านสันนิบาตชาติเพื่อประชาธิปไตย (เอ็นแอลดี) ระบุสถานการณ์เรื่มสงบ ไม่มีเหตุปะทะเกิดขึ้นแล้ว

 

อย่าว่าแต่มุสลิมเลยฮ่ะ พระ พม่าเขายังไม่เว้น

ต้นสายปลายเหตุเราไม่ทราบชัดเจนทั้งเบื้องตื้นเบื้องลึกจึงไม่ขอวิจารณ์

 

ความขัดแย้งระหว่างศาสนานี่ เป็นอะไรที่น่ากลัวมาก เพราะต่างฝ่ายต่างไม่มีเหตุผล

ผมเคยเจอเมื่อสัก 30 กว่าปี ที่เมืองรัตนปุระ ศรีลังกา ตอนนั้นเช่าบ้านพักอยู่กับเจ้าของที่เป็นชาวสิงหล อยู่ๆก็เกิดความขัดแย้งกับชาวทมิฬ (ชนส่วนน้อยในศรีลังกา ย้ายมาจากอินเดีย)

โห ไฟใหม้บ้านชาวทมิฬกันแบบหลังต่อหลัง ต่อสู้กัน ตีกันอย่างไม่มีเหตุผล บ้านหลังไหนของชาวสิงหลที่ติดกันกับบ้านชาวทมิฬที่ไฟใหม้ ชาวสิงหลก็นำน้ำ เอาน้ำมาสาด ไม่ให้ไฟลุกลาม

มีชาวทมิฬหนีตายมาขอซ่อนตัวในบ้านผม ผมก็ต้องรับ ทั้งๆที่อันตราย จนตำรวจ ทหารมาสลายเหตุการณ์ ก็ยุติลง

แปลกมากๆก็ตรงพอเรื่องจบ ทุกอย่างก็จบเหมือนไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้น

ต่างกับไฟใต้ ไม่รู้เมื่อไหร่จะยุติลงสักที่