เรื่องด่วน รีบมาบอก

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย นักรบธรรม, 2 พฤศจิกายน 2020.

  1. นักรบธรรม

    นักรบธรรม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    971
    ค่าพลัง:
    +1,174
  2. นักรบธรรม

    นักรบธรรม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    971
    ค่าพลัง:
    +1,174
  3. นักรบธรรม

    นักรบธรรม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    971
    ค่าพลัง:
    +1,174
  4. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,710
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    สาสน์ สัญญาณเตือน หายนะภัยพิบัติ คำทำนาย ปู่ฤาษี เปิดโลก


    3 ต.ค.2020

    #คำทำนายปู่ฤาษีเปิดโลก #


    คำทำนายดวงชะตาประเทศไทยดวงชะตาโลก
    (อย่าเพิ่งเชื่อคำทำนาย โปรดใช้วิจารณญาณของตนเอง เพื่อความสบายใจและไม่กระทบต่อผู้ใด)

    #สังเกตุสัญญาน ภัยพิบัติโลก ดังต่อไปนี้

    #ไฟไหม้เกิดแล้ว ออสเตเลียและหลายมุมทั่วโลก

    #สงครามโลก เกิดแล้ว Usa & Arian เหมือนการจุดชนวน แต่ระเบิดยังไม่ระเบิดเพียงแค่รอเวลา.และจะจุดชนวนความตึงเครียดอีกรอบ ช่วงปลายปี 2563

    #โรคระบาด เกิดแล้ว ทั่วโลกเกิดโรคไวรัสสายพันธุ์ใหม่ที่เรียกว่า corona 2019 คาดว่าจะเกิดต่อเนื่องทั้งปี 2563 และมีการกลายพันธุ์ไปหลากหลายรูปแบบซึ่งจะยากแก่การรักษา

    #ลมหมุน ทอนาโด เกิด แล้วหลายพื้นที่ทั่วทุกมุมโลกและจะเกิดอีกครั้งใหญ่เมื่อเข้าหน้าฝนในกลางปีและปลายปี

    #เขื่อนแตก...พัง.... ลาว...และ...อุบลน้ำท่วม เกิดแล้วเมื่อช่วงกลางปีและปลายปี 2562 เป็นสัญญาณเตือนและในปี 2563 ช่วงกลางปีไปจนถึงปลายปีก็จะเกิดหนักขึ้นยิ่งกว่าเดิม.

    #สึนามิ น้ำท่วม ภาคใต้. และ อ่าวไทย.......รอ...

    #สงครามขีปนาวุธนิวเคลียร์ล้างโลก มหาอำนาจ 2 ซีกโลกของเอเชียและยุโรป ที่ครอบครองขีปนาวุธนิวเคลียร์ จะมีเรื่องบาดหมางกันจนกระทั่งตกลงกันไม่ได้.เกาหลีเหนือและสหรัฐอเมริกา จึงทำการยิงขีปนาวุธทำให้ไปตกในเขตของอาหรับประเทศอิหร่าน จึงทำให้เกิดสงครามแบบยุ่งเหยิงระวัง 3 ประเทศ จึงเรียกว่าสงครามโลกครั้งที่ 3 นั่นเองผลที่เกิดขึ้นนิวเคลียร์สารกัมมันตรังสีและอองฝนตก ทำให้สารเหล่านั้นกระจายไปทั่วทั้งเอเชียตะวันออกกลางอาหรับและสหรัฐอเมริกา โลกใบนี้ตกอยู่ในความเลวร้ายอีกครั้ง ซึ่งมากกว่าโรคระบาดไวรัสโคโรน่า.

    #ดาวหางพุ่งชนโลก....รอ...กระทบทั่วโลกเรื่องใหญ่ที่สุดเกินจะควบคุม นาซ่า ไม่สามารถควบคุมได้

    #ที่เราทุกคนกำลังรอ คือ นิบิรุ ดาวหางพุ่งชนโลก เกิดเปลือกโลกพลิกขั้วเปลี่ยนแปลง กระทันหัน ควันพิษ กัมมันตรังสี จาก นิวเคลียร์ ระเบิดเอง หลายแห่ง ปล่อยก้าชพิษเอง เทคโนโลยีล่ม 3g 4g ล่ม/ใช่ได้แค่คลื่น 800 โทร 2g และวิทยุคลื่น 2kgw.คนจะสูดก้าสพิษเข้าไปตายจำนวนมาก.พื้นที่ลุ่มหมอกควันพิษ ปกคลุม ตายเกลื่อน. คนพยายามหนีขึ้นที่สูง แต่สุดท้าย รอด แต่อยู่อยู่ไม่นาน ขาดอาหารตาย แต่คนที่ฝึกพลังจิตอภิญญา เข้าฌานสมาบัติได้ อาจรอด

    #ปี 2563 )มกราคม กุมภาพันธ์ มีนาคม ) เริ่มต้นโรคระบาด

    #ปี 2563 (เมษายน พฤษภาคม มิถุนายน) วิกฤตโรคระบาดมีความทวีรุนแรง ทำให้ต้องปิดประเทศปิด จังหวัดมีการสูญเสียมากเป็นประวัติศาสตร์คนตายหลักหมื่น คนป่วยหลักแสน หลักล้านล้าน รวมถึงจำนวนที่ไม่เปิดเผยด้วย.ประเทศเหมือนจะดีแต่รัฐบาลอุ้มนายทุนและผลประโยชน์ ไม่ให้ความใส่ใจผู้น้อยรากหญ้า และประชาชนต้องรอคอยอย่างไร้ความหวัง เมื่อรอคอยไม่ได้ จึงเกิดกองทัพประชาชน ที่ชื่อว่ากองทัพปลดแอกเพื่อประชาชนโดยประชาชน.ด้านภัยธรรมชาติจะเกิดลมหมุนทอร์นาโด อย่างที่ไม่เคยเกิดมาก่อนในทุกหัวระแหง โดยเฉพาะเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคกลาง.แผ่นดินยุบตัว เหตุการณ์แผ่นดินยุบตัว slide เกิดจากรอยเลื่อนของเปลือกโลก เริ่มขยายตัวชัดเจนที่ภาคเหนือ ลงมาสู่ภาคกลางและที่ภาคตะวันออก ภาคตะวันตก และภาคใต้ จะมีประกาศข่าวแผ่นดินไหวดินเคลื่อนตัว.ไฟไหม้อัคคีเพลิง เกิดจราจลเผาบ้านเผาเมือง การเมืองฆ่ากัน แย่งชิงอำนาจ มีการสูญเสียเกิดขึ้น ในเมืองใหญ่มีอันตรายอยู่ยาก.ผู้ที่มีอำนาจในบ้านเมืองถูกสังหารคนแล้วคนเล่า การแย่งชิงอำนาจทางการเมืองทหารจะฆ่าผู้บริสุทธิ์ เพื่อผลประโยชน์ของตนเอง.ในเมืองใหญ่และเมืองรอง เงียบเชียบ ผู้คนอยู่แต่ในบ้าน ออกมาเดินข้างทางข้างถนนและขับรถ รัฐบาลประกาศเคอร์ฟิว มีการแบ่งฝักแบ่งฝ่ายอย่างชัดเจน ของกองทัพทหารและกองทัพประชาชน ประชาชนไม่มีตัวเลือกต้องสู้เพื่อแย่งชิงความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น.

    #ปี 2563 (กรกฎาคม สิงหาคม กันยายน) ยักษ์ที่หลับมานาน ได้ตื่นขึ้นสร้างความเกรี้ยวโกรธ คือภูเขาไฟใต้ท้องทะเล ภูเขาไฟใต้ท้องทะเลระเบิด ดันตัวขึ้นทางตอนใต้ของประเทศเพื่อนบ้าน และลุกลามเป็นแนวมาสู่ภาคใต้ของประเทศไทย ได้รับผลกระทบและเกิดคลื่นยักษ์ เกิดสึนามิที่ภาคใต้ฝั่งทะเลอันดามัน ในฝั่งอ่าวไทย ทั้ง 2 ฝั่งได้ผลกระทบ ดินโคลนถล่ม.เกิดการสูญเสีย เกินกว่าจะบรรยาย ถึงชีวิตว่าเท่าไหร่.

    #ปี 2563 ตุลาคม พฤศจิกายน ธันวาคม โรคระบาดรอบที่ 2 เกิดจากการกลายพันธุ์ในรอบแรกหนักขึ้น ทางรัฐบาลปวดหัวหาการแก้ไขไม่เจอ บ้านเมืองวุ่นวายและเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ด้านการเมืองและอำนาจเกิดความแตกสามัคคีอย่างเห็นได้ชัด ชนชั้นสูงผู้ยึดของอำนาจฝ่ายรัฐบาลกับชนชั้นล่างคือประชาชน เกิดการแตกหักกันในที่สุด. แต่ที่ช็อคประเทศไทย และช็อคโลกมากกว่านั้น ก็คือภัยพิบัติจากนอกโลก คือฝนเหล็กที่ร่วงหล่น อุกกาบาตนอกโลก ทำให้ทุกสิ่งพลิกหน้ามือเป็นหลังมือกระทั่งเปลี่ยนโฉมโลกทั้งใบ.และมีการเริ่มต้นการเกิดสงครามอาวุธนิวเคลียร์ เกิดจากความเข้าใจผิดอันบาดหมางกันของ 3 ประเทศ ประเทศสหรัฐอเมริกา เกาหลีเหนือ และประเทศอิหร่าน ทั้ง 3 ประเทศเกิดสงครามกัน โดยความไม่เข้าใจกัน เรื่องผลประโยชน์และความอยากยึดครองโลกจึงเกิดสงครามครั้งที่ 3

    #อย่าเพิ่งเชื่อในสิ่งที่พูดให้ฟังทั้งหมดและจงติดตามถ้าว่าในปี 2563 ไม่เกิดทั้งหมด แต่มันจะขยายเวลาออกไปภายใน 3 ปี ปี 2563 ปี 2564 ปี 2565 จะเก็บเรียบกวาดเรียบทุกอย่างที่พูดมาแน่นอน.

    #การเตรียมพร้อมรับมือกับภัยพิบัติโลก

    ข้อที่ 1. ตั้งสติอย่าตกใจอย่าตื่นตระหนกใดใด ให้ทำความรู้สึกว่าเราอยู่บนฟ้ามองลงมายังพื้นโลก เป็นเรื่องปกติที่คนเกิดมาจะต้องตาย. เมื่อเรารู้ตัวแล้วว่าทุกอย่างพื้นโลกต้องตายไม่ช้าก็เร็ว เราต้องทำใจฝึกจิตตายก่อนตาย เพื่อให้จิตยกระดับ ไม่ว่าอย่างไร อย่าให้จิตสุดท้ายต้องไปไม่ดี.

    ข้อที่ 2. ฝึกจิตด้วยการทำสมาธิ แรงปรารถนากรรมฐาน วิปัสสนาการปล่อยวางขันธ์ 5 ธาตุ 4 ดินน้ำลมไฟของตัวเอง ปล่อยวางผัวเมียลูกเต้าครอบครัวญาติวงศ์พงษ์พันธ์ ทุกคนเกิดมาร่วมกันจะต้องตายจากกันไม่ช้าก็เร็ว ทำใจให้ได้ตายก่อนตาย แล้วจะสบายใจใช้ชีวิตแต่ละวันให้คุ้มค่าที่สุด มีความสุขแบบมีสติสัมปชัญญะอยู่ตลอดรอดตัว อย่าเผลอสติ หมั่นสร้างความดีบุญกุศลไว้ให้มาก มีหิริโอตัปปะละอายความชั่ว หวังไว้ว่าชาติหน้าได้เกิดมาขอให้ได้เกิดในที่ที่ดี

    ที่มา https://www.youtube.com/results?search_query=#คำทำนายปู่ฤาษีเปิดโลก
     
  5. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,710
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    นิทานบิรูนิ ตอนที่ 5

    image-jpg.jpg

    ทางออกของปัญหา ของดาวเคราะห์โลก

    ทุกอย่างเริ่มเข้าสู่ทางตัน ทุกวิธีที่มีอยู่ได้ถูกนำเอาใช้และไม่ได้ผล
    ดวงจิตที่อาสาลงมาเกิด ทั้งแบ่งภาคมา ทั้งเอาหลายส่วนของหลายภาคมาปนเปกันเกิดเป็นดวงจิตใหม่บ้างก็มี ทุกดวงจิตก็ไปติดอยู่กับกฏแห่งกรรมอันเป็นกฏสูงสุด ของการปกครองในระบอบโลก

    พอลงมาเกิดปั๊ป ก็จะมีเจ้ากรรมนายเวรรออยู่กันสลอน ก็จะต้องประสบปัญหาและอุปสรรคนานาประการ ยิ่งเป็นดวงจิตของผู้ยิ่งใหญ่ทั้งหลาย ก็ยิ่งต้องมาพบกันสารพัดเรื่องราว และไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้เลย เพราะข้อมูลของกรรม หรือการกระทำที่ผ่านมา ได้ถูกบันทึกไว้ในดีเอ็นเอที่อยู่ในยีนของแต่ละคน

    พูดง่ายๆตามภาษาชาวบ้านก็คือ เหมือนนักมวยลงเวที ร้องอุแว้ๆ ปั๊ป ก็เหมือนมีเสียงกรรมการบอกว่า ชก ถ้าเจอคู่ชกรุ่นใหญ่กว่า ก็ตุปัดตุเป๋เมาหมัดอยู่บนเวที ทีนี้ เวลาชีวิตนี้นะมันไม่มีหมดยก และไม่มีสิทธิ์เลือกคู่ชก แถมคู่ชกอาจมาทีเป็นฝูง ส่วนกรรมการสั่งชก แล้วก็เดินหนีทิ้งเราอยู่บนเวทีแต่ผู้เดียว

    พี่เลี้ยงของเรา ก็คือเหล่าดวงจิตเดิมที่แบ่งมานะแหละ รอลุ้นกันอยู่ข้างเวที บางทีก็ทะเลาะกันเองถึงวิธีแก้ปัญหาให้เรา ทีนี้มาติดปัญหาอีกอันหนึ่งคือเราผู้อยู่บนเวที จะได้ยินเสียงตะโกนบอกของท่านพี่เลี้ยงหรือเปล่า?เช่นท่านบอกว่าซ้ายๆ ให้เราหลบกำปั้น เราได้ยินก็หลบทัน ไม่ได้ยินก็อ่วม นี่คือเวทีชีวิตจริงๆ

    แต่เบื้องบนก็มิได้ทอดทิ้งเรา ให้ผจญภัยแบบไม่มีพักยกหรอก
    วิธีเดียวที่จะได้พัก และหยุดจากเหล่าเจ้ากรรมนายเวรทั้งหลาย คือการให้เราบวชจิต เช่นไปเข้าวิปัสสนากรรมฐาน นั่นคือช่วงเวลาเดียวเท่านั้นที่จะได้พักยก เมื่อจิตวิญญาณทั้งหลาย ตกอยู่ในเงื่อนไขของกฏแห่งกรรมที่บันทึกอยู่ในดีเอ็นเอ บวกกับมารที่สยายปีกใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ มาชักจูงให้มนุษย์เลิกล้มความตั้งใจเดิม ที่จะมาเพาะเมล็ดพันธุ์แห่งความดีงาม

    ทุกหนทุกแห่ง จึงเต็มไปด้วยปัญหา แม้กระทั่งจิตวิญญาณของผู้ปฏิบัติในระดับอนาคามี อีกก้าวเดียวก็จะถึงซึ่งความหลุดพ้น ก็ยังถูกมารลากเอาไปกินตลอด ดังที่เห็นเป็นข่าวมากมาย และที่ยังไม่เป็นข่าวอีกเท่าไหร่ละ นับไม่ถ้วนทีเดียว

    บางท่านได้เลื่อนระดับ ไปถึงขั้นที่สามารถเชื่อมจิตวิญญาณกับพี่เลี้ยงระดับสูงสุดแล้ว ก็ยังไม่วายถูกมารมาหลอกอีกจนได้ แม้กระทั่งมนุษย์บางคน ที่ผ่านการกลั่นกรองคัดเลือก ให้เตรียมรับพระญาณบารมีของพระเจ้าจักรพรรดิ ที่จะมาปรากฏกับมนุษย์สามคน ก็ยังมีอันผิดเพี้ยน พระองค์ท่านได้เสด็จมาโปรดและก็ต้องล่าถอยไป และมีการเปลี่ยนตัวบุคคลไปเรื่อยๆ

    ซึ่งตรงนี้ก็พอจะเข้าใจอยู่ว่า ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น ยิ่งญาณบารมีสูงเท่าไหร่ กองทัพมารระดับอภิมหาพญามาร ก็จะเข้ามา ระดมห่ากระสุนอาวุธทุกชนิด นางพญามาร ก็จะเข้าปฏิบัติการด้านมารยาสาไถย ตอแหล เอาอ่วมไปตามๆกัน ดังนั้นจะหวังพึ่งมนุษย์ ที่มีพี่เลี้ยงองค์ใหญ่องค์โตมาช่วยเหลือมนุษยชาติ ก็ยิ่งมีอุปสรรค

    ที่สำคัญคือผู้ที่มีศักยภาพมากมายเหล่านี้ มีจุดอ่อนชนิดเดียวกันหมด นั่นก็คืออัตตาตัวตน และอัตตาที่สำคัญตนว่าเป็นผู้ยิ่งใหญ่ เป็นคนเก่ง ก็จะเริ่มหยิ่งยะโส ลำพองไปกับสิ่งลวงตาทั้งหลาย เกิดการแข่งขันกันและกันแทน ก็เสร็จเรียบร้อยโรงเรียนมารไปอีก นี่แหละคือปัญหาที่เราทั้งหลายต่างประสบกันอยู่ในเวลานี้ จะไปหาครูบาอาจารย์ดีๆ ก็ยิ่งเหมือนงมเข็มในมหาสมุทร ดีได้แต่เด่นไม่ได้ แล้วถ้าไม่เด่นก็ไม่รู้สิว่ามีดีและอยู่ที่ไหน?

    เดอะวันนั่งกุมขมับอยู่ จนกระทั่งใกล้เวลาที่ดาวบิรูนิจะมาถึงวงโคจรชั้นในของระบบสุริยะ ท่านได้คำนวณดูแล้วว่า เที่ยวนี้คงจะเหลือแค่โนอาห์กระมัง ท่านจึงเตรียมการคัดเลือกโนอาร์ ไว้สำหรับสืบเผ่าพันธุ์มนุษย์ ในประเทศไทยนี้ ก็ได้คัดเลือกสถานที่และคณะบุคคลไว้รองรับเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

    ส่วนในต่างประเทศ ก็เช่นเดียวกัน ได้มีการจัดเตรียมโนอาร์ไว้รองรับในแต่เขตแต่ละโซนไป และแล้วจู่ๆ ท่านก็ตัดสินใจเปลี่ยนแปลงแผนงานเดิมที่เคยมีมากับโลก ครั้งนี้เป็นการตัดสินใจครั้งสำคัญมาก และจะเปลี่ยนแปลงดาวเคราะห์โลกนี้ไปอย่างสิ้นเชิง

    แผนงานของท่านมีดังนี้

    1.เข้ายึดระบบบิรูนิทั้งหมด และเลื่อนเวลาโคจรของบิรูนิออกไปก่อนสองถึงสามปี ซึ่งงานนี้ก็เป็นงานหินพอสมควร ต้องใช้กองกำลังของหลายๆฝ่าย ในเครือจักรภพแห่งสมาพันธ์จักรวาล เข้ามาช่วย

    ถ้าท่านสังเกตดูภาพถ่ายของดาวในระบบ จะเห็นว่าเป็นดาวทึบๆ แต่มีแสงสว่างเกาะเป็นจุดๆ นี่ก็คือการใช้ยานหลายๆ ลำเข้าควบคุมวงโคจรของดาวแต่ละดวงในระบบ ซึ่งทั้งระบบมีดาวอยู่ 7 ดวง บางดวงก็ใหญ่กว่าโลกหลายเท่า งานนี้ถูกปิดเป็นความลับขั้นสูงสุด จะให้ใครรู้ไม่ได้เลยเพราะต้องการ ลวงกลุ่มผู้ยึดครองโลกอยู่ตอนนี้ ซึ่งเป็นศัตรูตัวฉกาจของมนุษยชาติ และเป็นฝ่ายตรงกันข้ามกับท่านให้หลงทาง

    นี่คือเหตุผล ที่การทำนายเรื่องบิรูนิ และการล่มสลายของโลกจึงผิดพลาดไป และทำให้หลายๆท่าน ต้องเสียหน้าและเสียท่า ถูกโจมตีอย่างหนัก สร้างความปวดร้าวและสั่นคลอนศรัทธา ให้กับผู้หวังดีต่อมนุษยชาติไปหลายท่านเหมือนกัน เดอะวันก็คงได้แต่ขอโทษลูกหลานอยู่ในใจ ความลับนี้ไม่อาจแพร่งพรายได้จริงๆ

    เพราะนี่พอจะเป็นแต้มต่อ ให้เดอะวันสามารถเผด็จศึกลูกหลานฝั่งตะวันตก ที่กลายเป็นเครื่องมือมาร หรือกลายเป็นมารตัวพ่อตัวแม่ ออกทำลายล้างพี่น้องร่วมโลกอยู่ในทุกวันนี้ แต้มต่อตัวนี้ยังประโยชน์กับเดอะวันในการต่อกรกับพวกนี้ ในเวลานี้พวกเขาระส่ำระส่าย และจับต้นชนปลายไม่ถูก ดูๆไปก็คงไม่ต่างจากอดีตผู้นำชาติท่านหนึ่ง ที่ได้รับรายงานผิดพลาดจากเหล่าบริวาร และโดนลับลวงพรางจากนายทหารเอก ของเมืองสุวรรณภูมิไปหมาดๆ นี้แหละ เอาซะเสียศูนย์ไปเลย

    2.การคัดแยกมนุษย์ออกจากกันโดยสิ้นเชิง ด้วยการจัดหาดาวอีกสองดวง ให้เข้ามาเป็นสมาชิกใหม่ของระะบบสุริยะ เพื่อใช้เป็นที่อยู่ของมนุษย์ ที่เราจะใช้คำเรียกเข้าใจง่ายๆ ก็คือพวกบัวใต้น้ำกับบัวกลางน้ำ

    พวกบัวใต้น้ำ จะถูกนำไปอยู่บนดาวดวงใหม่ ที่มีความคล้ายคลึงกับโลกด้านกายภาพ แต่ด้อยในเรื่องของพัฒนาการและความเป็นอยู่ เหมือนกับให้พวกเขาเหล่านี้เจริญเติบโต และเรียนรู้ในสภาพแวดล้อมของโลกยุคสามพันปีที่แล้ว คือต้องลำบากและต้องมีการรบราฆ่าฟันกัน ซึ่งก็คงจะเหมาะสมกับมนุษย์หลายๆ คนที่เราต่างรู้จักอยู่ในหน้าหนังสือพิมพ์ พวกที่มีความโหดร้าย ก็คงต้องให้ไปอยู่ในที่เขาชอบ และเอาไปไว้ด้วยกัน

    พวกบัวกลางน้ำ จะถูกนำไปอยู่บนดาวดวงใหม่ ที่มีความคล้ายคลึงกันกับโลกด้านกายภาพ และมีพัฒนาการที่ถอยหลังไปเพียงสามร้อยปี คือไม่สบายมากแต่ก็ไม่ลำบากมาก และก็ให้ไปเรียนรู้อยู่ด้วยกัน กับกลุ่มคนที่นิสัยใจคอคล้ายๆกัน ซึ่งคาดว่ากลุ่มคนชุดนี้ น่าจะเป็นพวกที่เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัว มากกว่าประโยชน์ส่วนรวม

    ถ้าติดตามข่าว ก็จะทราบว่ามีการค้นพบดาวที่ลักษณะคล้ายโลกอยู่ใกล้ๆ หลายดวง และล่าสุดที่มีการกล่าวถึงมาก ก็คือดาวที่มีชื่อว่าเซเรสที่แปลเป็นไทยว่าแม่โพสพนั่นเอง หรือบอกให้ละเอียดไปเลยก็ได้ว่า งานนี้พระแม่โพสพ อาสามาทำหน้าที่เป็นดาวเคราะห์ ให้มนุษย์ได้อยู่อาศัยเพาะปลูก ทำการกสิกรรมและพัฒนาจิตวิญญาณต่อไป

    3.ทำการปรับแต่งดาวเคราะห์ในปัจจุบัน ให้มีการสั่นสะเทือนของระดับพลังงานที่สูงขึ้น เพื่อรองรับจิตวิญญาณของมนุษย์ ที่ถูกเลือกให้ดำรงอยู่ต่อไปบนโลกใบนี้ ซึ่งจะเป็นการสั่นสะเทือนในระดับที่สูงมากเหมาะกับคนที่มีจิตใจ คิดถึงผู้อื่นหรือส่วนรวมมาก่อน

    พูดง่ายๆก็คือ โลกจะได้รับการชำระล้างใหม่ ผ่านการเข้ามาของระบบบิรูนิ และรอดจากการถูกทำลาย โดยแรงดึงดูดและสะเก็ดอุกาบาตส่วนหางของบิรูนิ ตอนเคลื่อนห่างออกไปจากโลก

    วิธีการที่จะทำให้โลกรอดก็คือ

    3.1 เก็บขยะมนุษย์ออกไปก่อน ค่อยๆทยอยลดจำนวนมนุษย์ลง ด้วยการเปิดมิติและให้พลังงานที่บันทึกกรรมได้ปลดปล่อยกรรม ให้เจ้ากรรมนายเวร ได้มาคิดบัญชีกรรม และจบลงด้วยการเสียชีวิต ทั้งเดี่ยวๆและตายหมู่ครั้งละมากๆ ที่เหลือก็คือ จิตวิญญาณที่จะถูกนำไปไว้ที่โลกใบใหม่ที่เหมาะสม จะเห็นได้ว่าปฏิบัติการนี้ได้เกิดขึ้นมาโดยตลอด และจะยิ่งทวีความรุนแรงและถี่ขึ้นเรื่อยๆ จนกว่าจะครบตามจำนวนที่จะต้องถูกย้ายไป เท่าที่ทราบตอนนี้โลกใบใหม่ที่ว่านี้ ก็ได้มีคนอยู่กันสำราญดีและก็กำลังอยู่ในระหว่างการพัฒนา

    ท่านฝากประกาศหาอาสาสมัคร ไปช่วยพัฒนาโลกใบที่ว่านี้ด้วยค่ะ ใครสนใจก็จะถูกรับตัวไปอยู่ที่นั่น และท่านก็จะไปเป็นพวกอัฉริยะเป็นผู้นำชุมชน(เพราะท่านก้าวหน้ากว่าคนที่นั่นไปสามร้อยปีไงคะ หรือจะเอาแบบสามพันปีก็ได้นะ(คริ คริ) ในการตายหมู่บางครั้ง ก็มีการพลาดพลั้งได้ดวงจิตที่ดีงามติดไปด้วย ท่านที่มีญาติที่ท่านคิดว่าเขาเหมาะสมกับโลกใบนี้ ก็จงอย่าได้วิตกกังวล เพราะเขาเหล่านั้น จะได้รับโอกาสให้มาเกิดใหม่อีกครั้งในทันที บนโลกใบเดิมนี้แหละ

    3.2 ปรับแต่งพลังงานของโลก ด้วยการปฏิวัติระบบเส้นแรงแม่เหล็ก ไปเป็นระบบแก้วผลึกคริสตัล เรื่องนี้จะดูซับซ้อนแต่จะไม่ขอลงไปในรายละเอียดเพราะได้ลงโพสต์ข้อมูล เกี่ยวกับเรื่องนี้ไปเยอะแล้ว ในเฟสบุ๊คนี้เอาเป็นว่าอีกไม่นานเส้นแรงแม่เหล็กโลกจะหมดไปเลย และจะมีโครงข่ายคริสตัลมาปกป้องโลกแทน จะมีการเปิดรหัสแก้วผลึกสีเงินยวง ที่อยู่ในใต้พื้นผิวโลก ให้มาทำปฏิกิริยากับเส้นแสงพลังงานสีทองที่ขอบฟ้า เราจะได้เห็นเส้นขอบฟ้าสีใหม่ในอีกไม่ช้านี้

    3.3 การสร้างแกนโลกใหม่ เพื่อแก้ไขมิให้แกนโลกเอียงตามระบบบิรูนิในช่วงขาออกจากระบบสุริยะ โดยทางเดอะวัน ได้มอบหมายให้ปู่อินทร์ตาทิพย์แหงเขาภูตำแย เป็นผู้รับผิดชอบดำเนินการสร้าง

    รายละเอียดจะลงให้ในตอนต่อไปค่ะ

    สงสัยนิยายเราต้องขายดีแน่ ก่อนหน้านี้มีการเจอแสงเป็นดวงๆ ที่ดาวเซเรส/ดาวพระแม่โพสพ คิดว่าเป็นยานยูเอฟโอ ตอนนี้สงสัยว่าจะมีสิ่งปลูกสร้างอยู่ที่นั่นด้วย และมีมนุษย์ต่างดาวตัวเขียวๆด้วยล่ะ (ท่านเหล่านี้มาเยี่ยมพวกเรากันอยู่บ่อยๆ ภูมิธรรมสูงมาก น่าจะไปเยี่ยมสำนักสงฆ์ที่ถ่ายภาพทะลุมิติได้เช่นกันค่ะ ชอบทานขนมกรุปกรอบซะด้วย อิอิ)

    แน่นอน ก็นิยายของเราบอกหมดแล้วนี่นาว่า คนที่เราไม่คบด้วย ตอนนี้เริ่มทยอยกันย้ายไปอยู่ที่นี่กันเรื่อยๆ ปู่อินทร์บอกว่าจะเก็บกวาดไปให้หมด น่าจะอีก 2-3 ปี ใครอยากไปเร็วๆ ก็รีบแสดงตัวออกมาในหน้าเฟซนี้ก็ได้ ฝ่ายเก็บกวาด ท่านเข้ามาอ่านและตรวจจากในนี้ด้วย

    ที่มา https://sites.google.com/site/jantimema/nithan-ni-buru-khun-nopp/bi-ru-ni-txn-thi-5
     
  6. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,710
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    มนุษย์สายพันธุ์ใหม่ #พลังความรัก


    28 มิ.ย. 2020
    การคัดแยกมนุษย์ออกจากกันโดยสิ้นเชิง ด้วยการจัดหาดาวอีกสองดวง ให้เข้ามาเป็นสมาชิกใหม่ของระะบบสุริยะ เพื่อใช้เป็นที่อยู่ของมนุษย์ ที่เราจะใช้คำเรียกเข้าใจง่ายๆ ก็คือพวกบัวใต้น้ำกับบัวกลางน้ำ

    พวกบัวใต้น้ำ จะถูกนำไปอยู่บนดาวดวงใหม่ ที่มีความคล้ายคลึงกับโลกด้านกายภาพ แต่ด้อยในเรื่องของพัฒนาการและความเป็นอยู่ เหมือนกับให้พวกเขาเหล่านี้เจริญเติบโต และเรียนรู้ในสภาพแวดล้อมของโลกยุคสามพันปีที่แล้ว คือต้องลำบากและต้องมีการรบราฆ่าฟันกัน ซึ่งก็คงจะเหมาะสมกับมนุษย์หลายๆ คนที่เราต่างรู้จักอยู่ในหน้าหนังสือพิมพ์ พวกที่มีความโหดร้าย ก็คงต้องให้ไปอยู่ในที่เขาชอบ และเอาไปไว้ด้วยกัน

    พวกบัวกลางน้ำ จะถูกนำไปอยู่บนดาวดวงใหม่ ที่มีความคล้ายคลึงกันกับโลกด้านกายภาพ และมีพัฒนาการที่ถอยหลังไปเพียงสามร้อยปี คือไม่สบายมากแต่ก็ไม่ลำบากมาก และก็ให้ไปเรียนรู้อยู่ด้วยกัน กับกลุ่มคนที่นิสัยใจคอคล้ายๆกัน ซึ่งคาดว่ากลุ่มคนชุดนี้ น่าจะเป็นพวกที่เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัว มากกว่าประโยชน์ส่วนรวม
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 พฤศจิกายน 2020
  7. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,710
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    ที่อยู่ของพวก มิติที่ 4

    11412310_10203269574899346_5891010380125486781_n.jpg

    ผมรู้ว่ามันเป็นไปได้ยาก...ที่จะบอกว่าโลกเรากลวง แต่ภาพที่จานดาวเทียมเราจับได้...เหมือนมันมีอากาศอยู่ข้างใน ยังไม่มีใครเคยลงไปดูแกนกลางโลกสักที่ แต่ท่านมั่นใจรึว่า มันจะไม่ใช่ดวงอาทิตย์อีกดวง เคยมีคนบางคนบอกว่าข้างล่างเรามีสิ่งมีชีวิตทรงภูมิ อะไรก็อาจเป็นไปได้ ถ้าโลกใบนี้ยังถูกสำรวจไม่หมดครับ

    เป็นทางเข้าออกของยานยูเอฟโอ เข้าไปข้างในเป็นโพรง เป็นที่อยู่ของพวกมิติที่ 4 ผ่านมิติได้จะเจอเมืองแบบข้างบนนี้
    มีแสงสว่างแต่ไม่ใช่แสงแบบดวงอาทิตย์ เป็นแสงสีออกฟ้าๆ เย็นๆ ชาวดาวเรียกผู้ที่อยู่ที่นี่ว่า The Blue Being หรือเหล่าเทพเทวา นาคานาคี ฯลฯ

    อีกไม่นานจะได้พบกันหมด ท่านคือผู้มาอยู่ก่อน ราว 26,000 ปีมาแล้ว มีหลายกลุ่ม เช่น เลอมูเรีย ถือว่าเป็นบรรพบุรุษของเราก็ว่าได้ ยังไม่ต้องเชื่อตอนนี้ค่ะ รับรองอีกไม่นานจะเริ่มมีข้อมูลออกมาเรื่อยๆ ตอนนี้เส้นแบ่งระหว่างมิติมันบาง ผ้าม่านบางๆ ไม่หนาทึบเหมือนแต่ก่อน ได้พบได้เห็นกันและกันมากขึ้นเรื่อยๆอย่างแน่นอน

    ถ้าเป็นมิติที่ห้า จะอยู่นอกระบบของเรา แต่ตอนนี้ ชูมานน์ เรสโซแนนซ์ ของเราได้เปลี่ยนแปลงไปแล้ว จาก 7.83 ไปเป็น 11 กว่าๆ และจะไปต่ออีกที่ประมาณ 16
    ตรงนี้แหละ ที่ทำให้กายภาพของโลก ได้เลื่อนระดับความถี่ของการสั่นสะเทือนของคลื่นมวลรวม ไปเป็นมิติที่ห้ากันแล้ว เหลือแต่มนุษย์ จึงจำเป็นที่จะต้อง

    1.คัดแยกคนที่ไม่สามารถขยับขึ้นได้ ให้ออกไปจากระบบเลย
    2.คนที่พอจะเข็นให้ขึ้นชั้นได้ก็กำลังถูกชักนำให้เร่งปฏิบัติ
    3.พวกมิติที่สี่ก็จะต้องเร่งปฏิบัติเพื่อเลื่อนระดับเช่นกัน

    เราจึงจะเห็นว่าคนที่มีเชื้อสายเทพเทวานาคานาคี ต่างก็ถูกต้นสังกัดมาตามมาดันให้เร่งปฏิบัติเช่นกัน ใครขึ้นชั้นก่อนก็จะเอาพลังงานนั้นมาช่วยดึงกันและกันให้ขึ้นให้จงได้
    เพราะไม่มีใครอยากจะไปอยู่ร่วมกันกับพวก บัวกลางน้ำ และ บัวใต้น้ำ นี่นา แต่ป้าว่าพวกมิติที่ห้านะ ที่บินเข้าบินออกกันเป็นว่าเล่นอยู่ในตอนนี้

    ที่มา https://sites.google.com/site/jantimema/miti-thi-4
     
  8. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,710
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    โลกต่างดาว ในมิติที่ 5

    10978521_790936910996699_3098831199778974232_n-jpg.jpg

    #เรื่องราวของคุก และบุคคลที่ต้องโทษสถานเบาในมิตินี้ ตามที่สัญญามาฝากจ้ะ (อ่านเหมือนอ่านนิยาย นิทาน ตามจินตนาการกันนะจ้ะ อย่าคิดมาก โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน) ทิวทัศน์งามนอกโลกต้องโศลกชวนเคลิบเคลิ้มผู้ท่องเที่ยวดังไฟเฉลิม เร่งลุกเหิมสร้างกรรมดี มีโดมแก้วยานลอยฟ้า พสุธาทองเปล่งศรีเพชรนิลจิลในวารี ผู้คนมีอารยธรรม สื่อสารใช้โทรจิต นิ่งสนิทอากาศขัณฑ์บริสุทธิ์เย็นทุกวี่วัน มหัศจรรย์มิติไกล

    บรรยากาศโดยรวม ของมิติที่ 5

    ท้องฟ้าที่นั่นจะเป็นสีม่วงผสมน้ำเงิน มีแสงออโรล่าหรือแสงเหนือสีเขียว มีดวงดาวดวงใหญ่ๆ มากมายอยู่ทั่วท้องฟ้า ซึ่งดวงมหึมา ใหญ่มากๆ ไม่ใช่มองเห็นเป็นดวงเล็กๆ เหมือนของพวกเรานะ

    มีรถไฟลอยฟ้า ย้ำว่าลอยฟ้าไม่มีเพราะว่ามันไม่ต้องใช้รางเลย มีตึกรูปร่างแปลกประหลาดที่ไม่มีในโลกของเรา และโลกของเราก็ไม่สามารถสร้างขึ้นได้ มีอยู่มากมาย

    การเป็นอยู่จะอยู่ร่วมกันกับธรรมชาติ บ้านเมืองเขายิ่งเจริญเท่าไหร่ เขายิ่งรักษาสภาพแวดล้อมมากเท่านั้น มีทั้งภูเขา น้ำตก ทะเล คนและสัตว์อยู่ร่วมกันได้อย่างดี

    วิวัฒนาการทันสมัยแต่กลับอยู่รวมกับธรรมชาติ โดยไม่มีปัญหา ผู้คนส่วนมากมักจะใส่ชุดสีขาว มีแขน มีปก กันซะส่วนใหญ่ การเดินทางจะใช้การเดินทางแบบยาน

    แต่ละคนจะมียานของตน ซึ่งไม่สามารถขโมยกันได้ ยานจะเล็กใหญ่ สวยไม่สวยขึ้นอยู่กับกำลังการบำเพ็ญของแต่ละคน เวลาจอดยาน เสร็จแล้วเขาจะกดนาฬิกา(แต่มันไม่เหมือนนาฬิกา เป็นตัวอักษรอะไรก็ไม่รู้คล้ายสัญลักษณ์มากกว่า) ตรงข้อมือแล้วยานก็จะหายไป เวลาจะเรียกใช้ยานก็ทำแบบเดียวกัน

    น้ำทะเลเวลาโดนแสงจะกลายเป็นสีรุ้งสะท้อนขึ้นมา สวยงามมาก เวลาคลื่นทะเลซัดฟองคลื่นเข้ามา จะกลายเป็นเม็ดเพชรเล็กๆ เต็มชายหาดเลย เวลาเดินย่ำไปกลับไม่บาดเท้า แต่ถ้าหยิบขึ้นมาก็เป็นก้อนเพชรปกติ ส่องแสงประกายงดงาม

    ส่วนหาดทรายจะเป็นสีทองเหลืองอร่าม เพราะว่าทรายนั้นเป็นผงทอง ย้ำว่าผงทองแท้ๆ นะ ทองในโลกอื่นนี่สวยกว่าทองในโลกเรามาก แต่คนที่นั่นไม่มีใครสนใจของพวกนี้กันเลย

    เพราะว่ามันใช้ประโยชน์อะไรไม่ได้ เขามองเป็นเหมือนของที่ไม่มีค่าอะไร มองเหมือนเป็นก้อนหินธรรมดา

    ใครอยากจะนั่งสมาธิตรงไหนก็ได้ แค่ไม่ขวางทางก็พอ ผู้คนหน้าตายิ้มแย้มแจ่มใส อัธยาศัยดีมากเลยจ้ะ

    บ้านเมืองเขาสงบมากๆ เพราะเขาพูดคุยกันทางกระแสจิต เลยไม่มีเสียงอึกทึกครึกโครม จากที่เมย์ใช้กระแสจิตไม่เป็น แต่ไปถึงที่นู่นกลับใช้ได้แฮะ คิดอะไรอยู่คนรอบข้างรู้หมดเลย 555

    อากาศก็บริสุทธิ์เบาสบาย รวมๆแล้วบรรยากาศสวยมาก ไม่อยากกลับมาโลกเราเลยจ้ะ ห้างสรรพสินค้าทุกห้าง ด้านบนจะมีโดมแก้วใส 2 ชั้น ที่สวยงามมากๆ ประดับด้วยเพชรนิลจินดามากมาย

    ภายในบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ โดยภายในโดมชั้นแรกจะให้รถไฟวิ่งเข้าไปรับส่งผู้โดยสารด้านใน เพื่อให้คนเข้าไปสักการะ

    การจะขึ้นโดมแก้วต้องขึ้นรถไฟลอยฟ้าเท่านั้น เพราะมีกฏห้ามนำยานของตนขึ้นไป บ้านเขาไม่มีพระเดินบิณฑบาตร แต่สามารถสร้างบุญกุศลได้จากการสวดมนต์นั่งสมาธิคล้ายๆ บนสวรรค์เลยจ้ะ

    จะบรรลุธรรมได้ก็ต้องลงมาเกิดในโลกของเราเท่านั้น แต่เมย์ไม่เคยขึ้นไปเลย คิดว่าจะขึ้นไป แต่ก็มัวแต่ท่องเที่ยวดูบ้านเมืองเขาเพลินก่อน

    ถนนหนทางจะแบ่งเป็นสามเส้น เรียงเป็นสามชั้น ชั้นบนสุดคือเลนที่วิ่งไวสุด เลนกลางก็วิ่งระดับกลาง เลนล่างสุดก็วิ่งช้าสุด ช้าสุดของที่นู่นถ้าเทียบกับโลกเราก็ 1000 กม./ชั่วโมง ซึ่งมันไวมากกก

    เมย์ยังได้มีโอกาสไปดูโรงจอดยานของตำรวจบ้านเขาด้วย ใหญ่มากเลย ลักษณะยานจะเหมือนกับที่เราเคยเห็นกันคล้ายๆ UFO.และมีบางลำที่มีลักษณะเหมือนเครื่องบินรบบ้านเรา

    แต่สมรรถภาพเหนือกว่าเราเยอะจ้ะ เพราะมันแค่กระพริบตาเราจะไม่เห็นยานอยู่ตรงนั้นแล้ว และมองหาไม่เจอด้วยว่าอยู่ตรงไหน เพราะยานทุกลำสามารถพรางตาได้ด้วย สุดยอดมั้ยจ้ะ

    และก็มีเรือลำเภาลำยักษ์พอๆ กับไทยทานิกเลย ลอยฟ้า ไว้รับส่งผู้โดยสารที่จะข้ามฟากแม่น้ำบางช่วงที่มีพลังแม่เหล็กดึงดูดสูง ซึ่งยานธรรมดาของผู้คนก็ไม่สามารถข้ามได้ เพราะสมรรถภาพความต้านแรงโน้มถ่วงไม่พอ ส่วนเรื่องคุกนี้เมย์เข้าไปได้

    ในส่วนรอบนอกของที่คุมความประพฤติ ของผู้ที่ทำผิดกฏสถานเบาเท่านั้น คือที่เมย์เห็นจะเป็นตึกสีขาวล้วน รูปทรงเลขาคณิตแบบว่าเอาหลายๆอย่างมารวมกันอ่ะจ้ะ มีบางส่วนกลม บางส่วนสามเหลี่ยม บางส่วนเป็นสี่เหลี่ยมบางส่วนเป็นครึ่งวงกลม เป็นแนวนอนบ้าง แนวตั้งบ้าง เป็นรูปหกแฉกบ้าง เป็นตึกที่ค่อนข้างแปลกประหลาดมากๆ และก็ดูเก๋ไปอีกแบบนะ

    ซึ่งโลกเราคงไม่สามารถสร้างแบบเขาได้ เพราะว่าฐานของตึกนี้เป็นรูปสามเหลี่ยมหัวกลับที่เอาด้านยอดแหลมๆทิ่มลงมา แล้วตรงยอดแหลมก็จะต่อเชื่อมกับลิฟท์แก้ว ที่ไม่ใช้สลิง

    ต่อจากนั้นก็มีศิษย์พี่ชาย-หญิง ที่เป็นไกค์พาเมย์เที่ยวเหมือนทุกครั้งที่มา พาเมย์เดินไปตรงประตูทางเข้าที่มีเจ้าหน้าที่หน้าตาหล่อเหลายืนอยู่สองนาย ที่ยืนยิ้มให้ ศิษย์พี่ทั้งสองอยู่

    (แอบสงสัยนะจ้ะว่าผู้คนในมิตินี้น่าตาดีกันทุกคนเลย แต่ละคนก็มีหน้าตาออกแนวคล้ายๆพวกลูกครึ่งกันซะส่วนใหญ่ และมี แสงออร่าออกมาแต่ไม่เยอะเท่าไหร่อะจ้ะ)

    เจ้าหน้าที่ถามศิษย์พี่ทั้งสองคนว่า วันนี้พาใครมา ขอดูบัตรผ่านด้วย ศิษย์พี่เลยกดอะไรไม่รู้ตรงนาฬิกาข้อมือ ก็มีบัตรคล้ายๆ สมาร์ทการ์ดบ้านเราปรากฏขึ้น ลอยอยู่บนหน้าปัดนาฬิกา ศิษย์พี่ก็เอาบัตรนั้นสแกนเข้าเครื่อง แล้วประตูแก้วก็เปิดออก แล้วพาเมย์ไปจุดที่ขึ้นลิฟท์

    ในความคิดเมย์ตอนนั้น ก็คิดว่าจะได้ขึ้นลิฟท์แก้วอย่างที่เห็นก่อนเข้ามา คือลิฟท์แทนที่จะค่อยลอยขึ้น แต่ศิษย์พี่กลับพาเมย์มายืนตรงสัญลักษณ์ข้างในวงกลมๆ

    แล้วก็มีเสียงโอเปอร์เรเตอร์เตือนว่าให้จับราวที่ค่อยๆโผล่ขึ้นมาจากพื้นแน่นๆ แล้วพอหมดเสียงเตือนก็มีไฟสีแดงกระพริบสามครั้ง และหลังจากนั้น เมย์รู้สึกเหมือนตัวเองกำลังเล่นเครื่องเล่น "ทิ้งดิ่ง" ในสวนสยาม ยังไงยังงั้นเลย

    เมย์งี้กรี๊ดลั่นกำจนแทบที่เกาะแทบจะหักเลยจ้ะ หัวใจเกือบวายตายไปแล้ว ทิ้งลงมาด้วยความเร็วสูงได้สักพัก ลิฟท์ก็ค่อยๆ ชะลอตัว และลงจอดปกติ ราบเรียบไปกับพื้นกลายเป็นสัญลักษณ์วงกลมเหมือนเดิม ศิษย์พี่ทั้งสองหัวเราะเยาะขำเมย์กันใหญ่เลย แล้วยังมีหน้ามาบอกอีกว่าเดี๋ยวก็ชิน

    (คนในโลกนี้อุปกรณ์เขาไฮเทคและรวดเร็วมากจริงๆ ย้ำว่าเร็วมากกกก เร็วจนมองอะไรไม่ทันไม่เห็นเลยด้วยซ้ำ แต่สายตาพวกเขากลับดีมาก)

    พอออกมายืนนอกวงกลมแล้วเดินมาตามทางลูกศรก็จะเจอกับกำแพงแก้วขนาดใหญ่ มีเจ้าหน้าที่มากมาย ทำงานกันอยู่ในนั้น มองๆ ดูก็คล้ายๆ แล็บ หรือที่ทำงานในห้องวิทยาศาสตร์อ่ะจ้ะ

    รออยู่หน้าประตูสักพักแล้วเจ้าหน้าที่คนสวยก็เดินมาต้อนรับและขอดูบัตรของศิษย์พี่รวมทั้งสแกนอะไรบางอย่าง คล้ายๆ ว่าย้ำกฏข้อห้ามนะ เข้าไปแล้วห้ามทำผิดกฏนะ

    พอเดินไปตามทางสักพักเลี้ยวซ้าย เลี้ยวขวาจนเวียนหัว ก็เข้ามาเจอประตูบานสีขาวทึบๆ ตรงกลางบานประตู มีกระจกใสๆ อยู่ตรงกลาง แล้วเจ้าหน้าที่ก็เอาบัตรแสกนแล้วก็กดอะไรไม่รู้จึ๊กๆ แล้วประตูก็เปิดออก

    โหยเมย์งี้ตะลึงเลยจ้ะ เอาเมย์มาขังไว้ก็ได้นะ สวยมาก ด้านในยาวเข้าไปสองข้างทางเป็นเหมือนแคบซูล มากมายเรียงราย ด้านในแค็บซูลพื้นที่กว้างมากไม่เหมือนด้านนอกเลย

    ตรงประตูแค็บซูลทุกบานจะเป็นกระจกหนา และมีปุ่มกดรหัสทุกแค็บซูล 1แค็บซูลจะมีผู้ทำผิดคนที่โดนกักบริเวนหรือพูดง่ายๆ ว่าถูกควบคุมความประพฤติอยู่ 1 คน

    ให้นั่งสมาธิสำนึกผิดอยู่ในนั้น ในนั้นจะมีเครื่องอำนวยความสะดวกครบทุกอย่างเลย มีโฮมเทียเตอร์ ที่ไฮเทศมากจะพูดไงดีนะ เพราะว่ามันไม่มีในโลกเราเลย

    กำแพงของแคบซูลสามารถเปลี่ยนสีได้ตามอารมณ์ของผู้ที่อยู่ด้านใน และเปลี่ยนเป็นภาพวิวสวยๆ ได้ตามแต่อารมณ์ของคนๆ นั้นว่าอยากจะให้เป็นยังไง ระยะเวลาก็ขึ้นอยู่กับว่าทำผิดบ่อยแค่ไหน

    พวกเขาเคารพกฏเกณฑ์ของสังคมมากเลยจ้ะ ถ้ามาสายไม่ตรงต่อเวลา 3 ครั้ง จะถูกคุมตัวมากักบริเวณควบคุมความประพฤติที่นี่ เป็นระยะเวลา 1 ปี โกหก 3 ครั้ง ก็โดนกักบริเวณ 1 ปี แต่ถ้าเคยถูกขังมาที่นี่แล้วครั้งนึง ครั้งต่อไปถ้าทำอีกจะโดนขัง 10 ปี ถ้าครั้งที่สามยังทำผิดได้มาอีกจะโดนขัง 30 ปี ระยะเวลาจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ตามจำนวนครั้งที่ทำผิด

    (แต่คนที่นี่แทบจะไม่โกหกกันเลย เพราะถ้าโกหกอีกฝ่ายนึงจะรู้ทันทีเลย เป็นเรื่องน่าละอายสำหรับพวกเขามาก ดังนั้นเขาจึงไม่กล้าโกหกกัน)

    ถึงคุกที่นี่จะสวยงามแค่ไหน แต่คนที่นี่ถือว่า มันเป็นความอัปยศอดสูมาก มันทำให้เสื่อมเสียเกียรติของตนเองและครอบครัว มิน่าคนที่นี่เวลาว่างเขาถึงได้นั่งสมาธิกันทุกที่เลย (โห นี่ขนาดมาสายแค่ 3 ครั้ง) ยังโดนขังตั้ง 1 ปีขนาดนี้ ถ้าทำผิดหนักมากก็จะโดนกักขังในห้องมืดตลอดชีวิต(แต่เป็นห้องมืดที่มีควันเย็นๆสีดำลอยอบอวลอยู่ในนั้นตลอดเวลาอ่ะจ้ะ)ไม่มีสิทธิ์ออกมาเห็นเดือนเห็นตะวันอีกเลย ฟังดูก็น่ากลัวนะจ้ะ

    แต่เมย์ว่าศิษย์พี่เมย์ยังบอกไม่หมดแน่ๆ ต้องน่ากลัวกว่านี้แน่ๆ เลย หลังจากดูคุกเสร็จแล้วเจ้าหน้าที่ก็พาออกมา แต่ครั้งนี้ศิษย์พี่รู้ใจพาขึ้นลิฟท์แก้วออกมา ค่อยยังชั่ว วิวคุกที่นี่สวยมากเลยจ้ะ

    แต่ถึงจะสวยยังไงก็เป็นสถานที่ๆคนที่นี่ส่วนใหญ่ ไม่อยากมากัน ศิษย์พี่เคยพูดบอกว่าที่แห่งนี้ เป็นโลกของคนที่มีใจใฝ่สันติมาอยู่กัน บางคนอยากหลุดพ้นก็ต้องลงมาเกิดในโลกเรา

    เพราะโลกของเขาสบายกันเกินไป จากคนดีๆใจบริสุทธิ์ในโลกเขาพอลงมาเกิดในโลกเรา ส่วนใหญ่ก็พากันหลงโลกเหมือนพวกเรานี่แหละจ้ะ ลืมจนหมดสิ้นว่าเราจะลงมาทำอะไร มีจุดมุ่งหมายอะไร

    บางคนจากโลกเขาลงมาเกิด เพื่อถ่ายทอดวิทยาการที่ก้าวหน้าที่โลกเราพอจะทำได้ให้ ใครอยากไปก็ฝึกจิตกันนะจ้ะ แล้วแต่ว่าเราจะได้เจอได้เห็นกับอะไร ตามวาระจิตของแต่ละคนน่ะจ้ะ #

    แต่อย่างแรกที่ต้องฝึกกันเลยคือเลิกพูดโกหกและฝึกจิตให้เป็นผู้มีใจใฝ่สันติ #ไม่มุทะลุ #โมโห #ท้าตีท้าต่อยกับใครทั้งสิ้น

    โลกของเขาถ้าเทียบกับโลกของเรา มิติที่ทับซ้อน หรือมิติคู่ขนาน เมืองหลวงของเขา ตั้งอยู่แถบทางภาคมหาสมุทรเมดิเตอร์เรเนียนของโลกเราจ้ะ แล้วเมย์ก็กลับมาในโลกเดิมในตอนเช้า โดยมีศิษย์พี่ทั้งสองคนมาส่งเหมือนเดิม

    เมย์ ธิดาพรหม


    ที่มา https://sites.google.com/site/jantimema/mey-thida-phrhm/brryakas-lok-tang-daw-ni-miti-thi5
     
  9. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,710
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    น้องเมย์ พาท่องโลกมิติที่ 6 ของดาวอังคาร
    10400803_794912887265768_8326900015255496741_n-jpg.jpg
    มิติที่6 สมาพันธ์แห่งจักรวาล และหน่วยบัญชาการรบพิเศษระหว่างดวงดาว (สังกัดดาวอังคาร) Confederation of the Universe And Special force army interstellar 5/2/2015

    สวัสดีจ้ะ วันนี้เมย์จะพาท่องโลกมิติที่ 6 ของดาวอังคารกัน ดาวเพื่อนบ้านเรานี่เอง ไม่ไกลจากโลกเราเลย แต่พวกเรามองไม่เห็นเขาง่ายๆหรอกจ้ะ ถ้าเขาไม่อนุญาติให้เห็นก็จะไม่เห็น แล้วก็อยู่กันคนละมิติและคลื่นความถี่ไม่ตรงกันกับของเราด้วย

    จริงๆในมิตินี้ เมย์เคยไปมาแล้วเมื่อ 2 ปีก่อนอ่ะจ้ะ แต่ไม่รู้ว่าที่ไหนจนเมื่อวันที่ 5 และวันที่ 7 ที่ผ่านมา ได้ไปอีกทุกอย่างจึงกระจ่างชัด คืนนั้นศิษย์พี่ทั้งสองพานั่งบัวอาสน์วาร์ป ออกมานอกโลกก่อน (วาร์ป คือการหายตัว) เห็นโลกของเราลอยคว้างอยู่ในห้วงจักรวาล ดวงเบ่อเริ่มเทิ่ม ดูงดงามน่าอยู่มาก

    แต่ศิษย์พี่เจียหลงบอกว่า "โลกของเรากำลังป่วย รอเวลาทำการชำระล้างและรีเซ็ทใหม่ เหล่าผู้พิทักษ์หรือผู้มีหน้าที่ ต่างก็กำลังถูกฝึกฝนอย่างหนัก โดยเพื่อนต่างกาแลคซี่อย่างมนุษย์ต่างดาวเป็นผู้ฝึกให้ เพื่อที่จะคอยช่วยเหลือเหล่ามนุษยชาติ ในตอนที่เกิดมหาภัยพิบัติ เพื่อมนุษย์ที่เหลือรอดน้อยนิดนั้นให้สามารถดำรงเผ่าพันธ์อยู่ต่อไปได้"เมย์ไม่ได้ถามอะไรท่านต่อ

    เพราะรู้ดีอยู่แก่ใจอยู่แล้วว่า เพราะอะไรถึงเป็นเช่นนี้ ศิษย์พี่เหมยฮวาก็พูดต่อว่า "งั้นวันนี้เราไปดูเหล่าผู้พิทักษ์แห่งจักรวาลระหว่างดวงดาว ของดาวอังคาร เขาฝึกซ้อมกันดีหรือไม่ เผื่อจะเป็นประโยชน์อะไรกับทุกคนได้" เมย์รีบตอบตกลงทันที ดี๊ด๊ามาก ดีใจออกนอกหน้า เพราะชอบอะไรที่มันไซน์ไฟร์ 555 ศิษย์พี่พาวาร์ปเข้ามาลอยอยู่ในเขตของดาวอังคาร ที่นี่มีท้องฟ้าสีน้ำเงินเข้มเกือบดำ ดวงดาวดวงใหญ่ๆเต็มท้องฟ้าเลย ดูงดงามมาก แต่พื้นดินนั้นดูแห้งแล้ง ไม่มีต้นไม้เลย

    แล้วก็มียานรูปทรงต่างๆบินเข้าบินออกในดาวดวงนี้ตลอดเวลาเลย ในตอนนี้มีมนุษย์ต่างดาวทั้งหญิงและชายรูปร่างเหมือนพวกเราเลยจ้ะ ใส่ชุดรัดติ้ว สีเงินมีเข็มขัดตรงเอว เดินขวักไขว่เต็มไปหมด (เมย์เห็นเขาใส่ชุดแบบนี้กันเมย์งี้หัวเราะก๊ากเลยจ้ะ ในหัวคิดพิเรนอาหารตาเลยนะนี่ ว๊าว รัดติ้วขนาดนี้ เห็นพี่เรียบๆ พี่หื่นเงียบนะจ๊ะ ศิษย์พี่เจียหลงเลยส่งกระแสจิตมาเตือนว่า คิดอะไรอยู่ชาวบ้านชาวช่องเขารู้หมด เลิกคิดอกุศลได้แล้ว พร้อมโยนมะเหงกมาใส่หัวเมย์หนึ่งลูก อย่างเจ็บอ่ะ)

    บางคนเดินทะลุสิ่งของ บ้างหายตัวได้ บางยืดตัวยาวๆได้ ดูวุ่นวายไปหมดเลย แล้วศิษย์พี่ทั้งสองรวมถึงเมย์ด้วยก็เปลี่ยนมาใส่ชุดรัดติ้วเหมือนพวกเขาตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้เรื่องเลย แต่เนื้อผ้าโอเคเลยนะ กันร้อนกันหนาวได้ดีมาก และสะดวกคล่องแคล่วมากเวลาขยับกาย ไม่อึดอัดสักนิดเลย ศิษย์พี่เจียหลงนำพวกเราไปพบกับ มนุษย์ต่างดาวหญิงท่านหนึ่ง หน้าตาน่ารักเหมือนตุ๊กตาผมสีแดง ที่อยู่ด้านในตึกหน้าตาประหลาดๆ สีดำทะมึน ที่เห็นอยู่ตรงหน้า

    ท่านทั้งสามพูดอะไรกันไม่รู้จ้ะ แล้วมนุษย์ต่างดาวหญิงก็เอามือวางทาบหน้าอกตัวเอง ศิษย์พี่ทั้งสองก็ทำแบบเดียวกันตอบ แล้วศิษย์พี่เจียหลงก็บอกให้เมย์ทำความเคารพมนุษย์ต่างดาวท่านนั้น แต่เมย์ไม่รู้ธรรมเนียมการทำความเคารพของที่นี่ เมย์เลยย่อถอนสายบัวใส่ซะเลย ศิษย์พี่ทั้งสองกับมนุษย์ต่างดาวหญิงท่านนั้นหัวเราะลั่นเลยจ้ะ (เมย์คิดในใจสงสัยเมย์ทำอะไรเอ๋อๆอีกแล้วแน่ๆเลย)

    มนุษย์ต่างดาวหญิงท่านนั้น เลยเอ่ยออกมาว่า ท่านหญิงราเมนด้าร์ เรามีนามว่า เรย์น่า ชาวดาวอังคารยินดีต้อนรับ (เมย์คิดในใจว่า พูดภาษาเดียวกันได้ทำไมไม่พูดตั้งแต่แรก ให้เมย์เด๋อทำไมอยู่ได้คนเดียว แล้วท่านหญิงราเมนด้าร์นี่ใครหว่า?) เขารู้ความคิดเมย์ ท่านเรย์น่า เลยตอบมาทางจิตว่า ก็นามของท่านนั่นแหละคือ ราเมนด้าร์

    เย๊ย !!! เราเปลี่ยนชื่อตอนไหนหว่าไม่เห็นรู้เรื่องเลยอ่ะ !!! งง พี่ งง !!! ท่านได้แต่พากันยิ้ม ท่านเรย์น่าไม่ได้ตอบอะไรเมย์อีก แต่หันไปพูดกับศิษย์พี่ทั้งสองด้วยภาษาต่างดาวอีกครั้งแทน เมย์รู้สึกเหมือนเป็นส่วนเกินเลย ทำไมไม่ให้เมย์ฟังรู้เรื่องด้วยอ่ะ!!! แล้วท่านเรย์น่า ก็หันมาพูดกับเมย์ว่า วันนี้เราจะพาท่านราเมนด้าร์ ดู 2 โซนก่อน (ระหว่างที่ท่านเรย์น่ากำลังอธิบายเราก็ไหลไปเรื่อยๆตามเส้นทางที่แสงสีฟ้ากำลังนำทางไป)

    โซนแรกเราจะดูการฝึกซ้อม ของเหล่าผู้พิทักษ์จักรวาลระหว่างดวงดาวก่อน โซนที่สอง เราจะพาท่านดูไปดูโรงเก็บรักษาและจอดยานของเรา เมย์ก็พยักหน้าหงึกๆ เป็นอันว่าเข้าใจ แต่สายตาก็มองสองข้างทางตามไปด้วย น่าตื่นตาตื่นใจมากๆ ในตึกบัญชาการนี้ มีจอยักษ์แบบไร้มวลสาร ในนั้นมีภาษาอะไรก็ไม่รู้ และพิกัดต่างๆเต็มไปหมดเลย ระหว่างทางที่เลื่อนไป หากเจอมนุษย์ต่างดาวท่านต่างๆที่กำลังทำงานอยู่ พวกเราก็จะทำความเคารพกัน โดยเอามือแตะหน้าอกตัวเอง อีกฝ่ายก็จะทำแบบนี้ตอบกลับมาเช่นกัน

    ระหว่างที่เลื่อนมาเรื่อยๆจนถึงโค้งท่านเรย์น่า เอ่ยสั่งระบบด้วยเสียงว่า โซนหน่วยฝึกพิเศษแห่งจักรวาลและดวงดาว แล้วระบบก็ทำการตอบรับก่อนที่พวกเราจะวาร์ปเข้ามาในห้องๆ หนึ่ง ใหญ่โตมโหราฬมาก ล้อมรอบด้วยกระจกสามารถมองเห็นด้านนอกได้ แต่ก็มีจอแสดงผลยักษ์แบบไร้รูปลักษณ์เช่นเดิม อยู่เต็มห้องนี้ไปหมด พอพวกเราเข้ามาถึงปุ๊บ มนุษย์ต่างดาวทั้งชายหญิงที่ทำงานกันอยู่ในห้องนี้ก็หันมาทำความเคารพพวกเรา เสร็จแล้วพวกเขาก็ทำงานกันต่อ

    ทันทีที่มาถึงเมย์ตะลึงกับภาพด้านนอกกระจกนั่น นั่นมันสงครามสตาร์วอร์ชัดๆ ไม่สิต้องเรียกว่า โคตรอภิมหาสงครามสิ ถึงจะถูก เพราะมันน่ากลัวมากๆๆๆๆ มีทั้งภูเขาไฟระเบิด ยานลอยอยู่ด้านบนคอยยิงแสงเลเซอร์ และระเบิดแสง หลุมยักษ์อีกเยอะแยะตามพื้น สัตว์ประหลาดต่างดาวที่โหดร้ายคล้ายเอเลี่ยนหน้าตาหน้ากลัว บางตัวก็มีปีกบินได้ ที่เหมือนในหนังอีกนับไม่ถ้วน

    เหล่าผู้พิทักษ์ทั้งชายหญิงนับพัน กำลังต่อสู้เอาตัวรอดแบบสุดๆ บ้างยกดาบเลเซอร์ฟาดฟันกับสัตว์ประหลาด บ้างมีแสงไฟสีฟ้าเกิดขึ้นที่ฝ่ามือคล้ายกงจักร สำหรับปาออกไปฆ่าสัตว์ประหลาดหรือป้องกันตัว บ้างพยายามหายตัวหนีเอาตัวรอด ในระหว่างที่เมย์กำลังดูภาพสงครามการฝึกโหดอย่างตกใจนั้น ก็ได้ยินเสียงท่านเรย์น่า สั่งการทางจิตว่า เพิ่มเป็นสถานการณ์ระดับ 7 (เป็นระดับสูงสุด)

    พอสิ้นสุดเสียงสั่งการ ก็มีอุกกาบาตยักษ์มาจากไหนไม่รู้ ล่วงลงมาจากฟ้า ใส่เหล่าผู้พิทักษ์ ยานยิงแสงเลเซอร์ และปล่อยระเบิดแสง ลงมาอีกนับไม่ถ้วน แล้วภูเขาไฟก็ระเบิดออกลาวามากมายทะลักออกมา แล้วพื้นก็แตกออกเป็นเสี่ยงๆ มองยังไงก็รู้ว่า ไม่ว่าจะสู้ยังไงก็ไม่มีทางรอด แม้เหล่าผู้พิทักษ์จะมีพลังวิกัน ทั้งตาเลเซ่อร์ เชือกเลเซ่อร์ไร้มวลสาร หายตัวเดินทะลุสิ่งกีดขวางต่างๆได้ก็ตาม แต่เหล่าผู้พิทักษ์ต่างก็บาดเจ็บล้มตายเป็นจำนวนมาก

    ท่านใดสภาพร่างกายทนไม่ไหว เสื้อเกราะที่สวมอยู่จะส่งสัญญาณเข้ามาในห้องบัญชาการนี้ทันที แล้วก็จะถูกวาร์ปตัวออกมาจากสนามรบจำลอง แล้วถูกส่งเข้าแคปซูล เข้าห้องแล็ปฟื้นฟูร่างกายต่อไป (ไม่ต้องกลัวว่าจะมีใครเสียชีวิต เพราะเขารักษาให้กลับมาเหมือนเดิมได้จ้ะ) เมื่อหายดีแล้วก็จะถูกส่งลงสนามฝึกอีก เป็นแบบนี้นับครั้งไม่ถ้วนเลย เมย์งี้สยอง (ดีที่ว่าชุดที่เขาใส่กันนี้ มีชุดเกราะทับอีกที ป้องกันร่างกายฉีกขาดสองท่อนเวลาโดนแรงระเบิด หรือ เวลาโดนเลเซอร์ยิง แต่ก็ผิวไหม้นะจ้ะ สภาพยับเยินมากทีเดียว)

    เมย์งี้สั่นเลยสะท้านเลย เพราะท่านเรย์น่าบอกกับเมย์ว่า "เดี๋ยวท่านก็ต้องโดนฝึกคล้ายๆ แบบนี้เช่นกัน" เมย์รีบหันหน้าไปมองศิษย์พี่ทั้งสองเป็นเชิงถามว่าไม่จริงใช่ไหม? ศิษย์พี่ทั้งสองเพียงส่ายหน้าให้ช้าๆ ว่า เรื่องนี้ท่านช่วยไม่ได้จริงๆ เมย์งี้เข่าอ่อนทรุดลงไปกับพื้นเลยจ้ะ กลัวมาก ยอมรับเลยว่ากลัว ถ้าส่งเมย์ลงไปฝึกก็เท่ากับว่าส่งเมย์ลงไปตายเท่านั้น จะไปสู้อะไรใครเขาได้โหดซะขนาดนี้ (เมย์จะเล่าเรื่องการฝึกโหดนี้ให้ฟังในตอนหน้าจ้ะ)

    แล้วท่านเรย์น่าก็แตะแขนให้เมย์ลุกขึ้น พร้อมยิ้มเจ้าเล่ห์ใส่ เมย์รับรู้ได้ถึงความไม่ชอบมาพากลเลยจริงๆ กับสิ่งที่รออยู่ในวันข้างหน้า แล้วท่านก็บอกเมย์ว่า "งั้นเรารีบไปต่อกันที่โซนจอดยานสำหรับภารกิจต่างๆ ของเราดีกว่านะ เพราะท่านหญิงใกล้จะหมดเวลาแล้ว" ครั้งนี้เราไม่ได้ลอยมาเรื่อยๆ ตามทาง แต่ท่านเรย์น่าพาเราหายตัวมายืนหน้าโรงจอดยานเลย โอ้ว มาย กอต มันใหญ่มากกกกกกกกก (เมย์รู้สึกเหมือนตัวเองนี้เป็นบ้านนอกเข้ากรุงเลย)

    นี่มันยิ่งกว่าในหนังอีกนะ ในหนังที่สร้างมาไม่สามารถมาเทียบกับที่นี่ได้เลย ใหญ่อลังการจนไม่รู้ว่ามันจะสิ้นสุดตรงไหน ตามผนังของโรงจอดมีจอแสดงผลเกี่ยวกับยานแต่ละลำเต็มไปหมดเลย ยานบางลำก็มีคนขับบางคนกำลังขึ้นเตรียมการบิน มีผู้พิทักษ์หนุ่มๆ ดูแลโซนนี้เยอะมาก ยานแต่ละลำใหญ่ขนาดมหึมามาก รูปทรงเยอะมากมาย มีหลายขนาดมากๆ (เมย์ไม่สามารถอธิบายลายละเอียดได้เลย รู้แค่ว่ามันไฮเทคมาก เกินกว่าที่เมย์จะใช้คำถูกและทุกคนจะจินตนาการกันได้ อย่างที่เมย์ลงรูปยานต่างบางส่วนให้ดูในรูปอ่ะจ้ะ)

    ท่านเรย์น่าบอกว่า ที่พวกเราต้องมีสมาพันธ์แห่งจักรวาลและหน่วยบัญชาการรบพิเศษระหว่างดวงดาวนี้ขึ้นมา เพราะว่าในจักรวาลแห่งนี้ มีดวงดาวต่างๆและเผ่าพันธ์ต่างๆอาศัยอยู่มากมายนับไม่ถ้วน มีทั้งดีและร้าย ทางเราตึงต้องมีจุดศูนย์กลางไว้ประสานงานด้านต่างๆ เพื่อป้องกันการเกิดสงครามระหว่างดวงดาว ที่เคยเกิดขึ้นในอดีตมาแล้ว และก็มีไว้เพื่อประสานงานช่วยเหลือในดวงดาวต่างๆ ที่เดือดร้อนกำลังประสบภัย

    ดังเช่นโลกของท่านในเวลานี้ด้วยเช่นกัน ทางเราหวังอย่างยิ่งว่าเรื่องราวนี้จะพอเป็นประโยชน์ให้แก่ท่านและชาวโลกทุกคน ให้มีสติและเตรียมความพร้อมอยู่ทุกขณะ อย่าได้ประมาท ทางเราไม่สามารถก้าวก่ายกรรมและ วัฏจักรความเป็นไปของมนุษย์ได้ ถึงแม้ว่าเราจะช่วยได้ "แต่มนุษย์อย่างพวกท่านก็ต้องช่วยเหลือกันเองก่อน" ที่จะให้เราชาวต่างดาวช่วย แม้เรื่องราวนี้อาจจะดูน่าเหลือเชื่อในสายตามนุษย์ชาวโลกอย่างพวกท่าน

    แต่สำหรับพวกเราแล้วเป็นเรื่องที่ธรรมดามาก ที่เหลือเป็นหน้าที่ของท่านแล้ว ท่านราเมนด้าร์ ว่าท่านจะมีความสามรถบอกกล่าวให้ผู้คนเชื่อท่านได้อย่างไร โดยไม่โดนกล่าวหาว่าแต่งนิยายหรือเพ้อเจ้อ ไร้สาระ หลอกลวง หรือบ้า" เมย์ได้แต่ฟังจ๋อยๆ ในหัวไม่รู้จะเรียบเรียงคำพูดอย่างไรเหมือนกัน เวลาวันนี้ของเมย์ไม่พอจึงดูได้แค่ไม่ถึงสิบลำเท่านั้น แล้วศิษย์พี่ทั้งสองก็พาเมย์ร่ำลากับท่านเรย์น่า ทำความเคารพแบบเดิม พร้อมคุยภาษาต่างดาวที่เมย์ไม่เข้าใจอีกนิดหน่อย แล้วท่านเรย์น่าก็หันมามองเมย์ ก่อนศิษย์พี่เหมยฮวาและศิษย์พี่เจียหลงจะเปลี่ยนเป็นชุดเต็มยศของตัวเอง แต่ปล่อยให้เมย์ใส่ชุดรัดติ้วเหมือนเดิมมันน่าน้อยใจนัก แล้วพาซิ่งบัวอาสน์พาเมย์กลับมาถึงบ้านในที่สุด

    คืนนั้นเมย์นอนทำสมาธิเป็นปกติเหมือนทุกครั้งจนผลอยหลับไป จนมาตื่นเอาตอนดึกสงัด เพราะได้ยินเสียงผู้หญิงเรียกท่านราเมนด้าร์ เมย์ก็งัวเงียขี้ตา พยายามเอาผ้าห่มคลุมโปงเพื่อจะนอนต่อ( พร้อมหงุดหงิดในใจด้วยว่าใครวะ ราเมนด้าร์ ไม่รู้จักไปเรียกที่อื่นนู่นคนจะนอน เสียงดัง รำคาญ !!! ) แต่เสียงเรียกก็ยังไม่ยอมหยุดกลับยิ่งดังก้องเข้าไปในหูเมย์มากกว่าเดิมอีก เมย์เลยต้องลืมตาตื่นขึ้นมา แต่แสงแยงตามาก เลยต้องค่อยๆลืมตามอง ตอนนี้เมย์กำลังกึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่บนเตียงที่ลอยได้ รูปวงรีสีขาวๆกลางห้อง ในห้องนี้สว่างมากแต่สว่างแบบนวลๆมันไม่ได้ใช้ไฟฟ้าเหมือนโลกเรา แต่มันสว่างได้ไงนั้นเมย์ไม่รู้ ในห้องนี้มีหน้าจอไร้รูปลักษณ์และภาษาแปลกประหลาดเต็มจอ

    เมย์มองไปรอบๆห้อง ก็เจอกับท่านเรย์น่า และมนุษย์ต่างดาวหนุ่มอีกสองท่าน ที่นั่งอยู่บนเก้าอี้กลมๆคนละตัวลอยเหนือพื้น แต่ละท่านกำลังมองจ้องเมย์มาอยู่แล้ว เมย์ก็มองอย่าง งงๆว่ามาโผล่ที่นี่ได้ไง แล้วศิษย์พี่ทั้งสองอยู่ไหนล่ะ เมย์ค่อยๆเรียบเรียงข้อมูลทุกอย่างประมวลผลในหัว พอเมย์เริ่มตั้งสติได้ โอ้ว คุณพระช่วย !!! ไม่นะ !!! พาเมย์กลับบ้านเดี๋ยวนี้นะ !!! ท่านเรย์น่าที่คงรอให้เมย์ตื่นนานแล้ว เลยรีบพูดมาทางจิตว่า ตื่นมาก็โวยวายเลยนะท่านราเมนด้าร์!!! ฟังพวกเราสักหน่อยสิท่าน สงบสติอารมณ์ลงสักครู่

    เมย์เลยพยักหน้าพร้อมเอามือแตะหน้าอกแล้วก้มหัวทำความเคารพกลับไป ท่านเรย์น่าก็ทำแบบเดียวกันตอบกลับมา พร้อมแนะนำมนุษย์ชาวดาวอังคารหนุ่มทั้งสองท่านให้รู้จัก ท่านนึงมีผมสีแดงอีกท่านมีผมสีทองแต่หน้าตาเหมือนกัน ท่านเรย์น่าแนะนำว่าท่านที่มีผมสีแดงนามว่าท่านจีฟาร์ และผมสีทองนามว่าท่านยานาร์ ทั้งสองท่านจะคอยเป็นพี่เลี้ยงให้ท่าน

    แทนศิษย์พี่ทั้งสองของท่านราเมนด้าร์ ในระหว่างที่ท่านต้องมาฝึกอยู่ที่นี่ชั่วคราว พอท่านเรย์น่าแนะนำสร็จเมย์ก็แทบจะร้องไห้ (เพราะภาพในหัวจำได้ดีถึงครั้งก่อนที่ได้เห็นเหล่าผู้พิทักษ์เขาฝึกกันว่ามันน่ากลัวขนาดไหน) เมย์ก็ได้แต่ทำความเคารพท่านจีฟาร์และท่านยานาร์กลับไป แล้วท่านเรย์น่าก็ขอตัวไปทำภารกิจของท่าน ปล่อยให้เมย์อยู่กับหนุ่มๆต่างดาวรูปหล่อทั้งสองคน ท่านจีฟาร์ผมแดงเป็นผู้เอ่ยขึ้นมาทางจิตก่อนว่า ท่านราเมนด้าร์มีอะไรจะถามพวกเราก่อนหรือไม่?

    เมย์เลยถามท่านไปว่า บัวอาสน์ของข้าพเจ้านี้หายไปไหน แล้วทำไมข้าพเจ้าไม่มีกายทิพย์เหมือนตอนอยู่กับศิษย์พี่ แต่มาในรูปแบบวิญญาณไม่มีฤทธิ์อะไรเลยแบบนี้? ท่านยานาร์เป็นผู้ตอบกลับมาแทนว่า "เพราะเวลาที่ท่านต้องช่วยผู้คนจริงๆท่านต้องใช้กายเนื้อช่วยน่ะสิ กายเนื้อกับวิญญาณต้องอยู่ด้วยกัน หากกายเนื้อไม่มีวิญญาณท่านก็จะกลายเป็นเพียงซากศพธรรมดา เราจึงดึงจิตหรือนำวิญญาณของท่านมาฝึกแทน เพราะการช่วยเหลือผู้คนบนโลกมนุษย์นั้น ท่านก็ยังต้องใช้กายเนื้อเพราะสองสิ่งนี้คู่กัน ส่วนกายทิพย์นั้นใช้สำหรับเทพ หรือใช้เมื่อเวลาท่านละกายสังขารจากโลกนี้ไปแล้ว แล้วท่านได้กลับคืนสู่อริยฐานะเดิมของท่าน ท่านถึงจะใช้กายทิพย์ของท่านได้ เราอธิบายเพียงเท่านี้ท่านพอจะเข้าใจหรือไม่"

    เมย์ก็พยักหน้าและบอกว่าข้าพเจ้าเข้าใจแล้ว พร้อมคิดในใจว่า นั่นแสดงว่าเราต้องเริ่มฝึกใหม่หมดเลย ไม่ต่างจากเด็กหัดเขียน ก.ไก่ ซึ่งวิญญาณนี้ไม่มีฤทธิ์อะไรเลย ท่านจีฟาร์ก็พยักหน้าให้เมย์ว่าสิ่งที่เมย์คิดนั้นถูกต้องแล้ว เมย์เลยถามท่านทั้งสองไปอีกว่า แล้วเหตุใดท่านทั้งสองจึงมีหน้าตาเหมือนกันเล่า? ท่านจีฟาร์เมตตาตอบกลับมาว่า เพราะเราคือ"มนุษย์ต่างดาวโคลนนิ่ง ออกมาจากยีนส์ของท่านยานาร์น่ะสิท่าน" เมย์มองเขาตาโตเลย "มนุษย์โคลนนิ่ง" ท่านทั้งสองก็พยักหน้า แล้วท่านจีฟาร์ก็พูดต่อว่า

    "เพราะในช่วงเวลานี้เกิดการเปลี่ยนแปลงระหว่างดวงดาวมากมาย ไม่ใช่เฉพาะดวงดาวของท่านเท่านั้น เราจึงต้องมีการโคลนนิ่งเข้ามาช่วย เพื่อเพิ่มกำลังพล ในการออกไปปฏิบัติหน้าที่ เพื่อช่วยเหลือและป้องกันตามดวงดาวและจักรวาลต่างๆ รวมถึงโลกของท่านด้วย และเหตุภัยพิบัติที่กำลังจะเกิดขึ้นนี้มันก็เป็นความผิดพลาดของมนุษย์โลกเอง แต่จักรวาลก็อ่อนโยนเสมอกับทุกชีวิต เผ่าพันธุ์ของท่านนี้ยังไร้เดียงสานัก ยังมีโอกาพัฒนาได้อีก ท่านจงตั้งใจฝึกเถิดอย่าได้มีความหวาดกลัว เพื่อทุกคนที่ท่านรักและโลกของท่านเอง" เมย์ก็ได้แต่พยักหน้า

    แล้วท่านยานาร์ก็ดีดนิ้วมือ ผนังห้องก็ละลายออก กลายเป็นเมย์มาอยู่ในห้องบังคับยานแทน ในห้องนี้มีคนกำลังวุ่นวายกับจอหลายท่านเลย ทุกท่านพอเห็นว่าท่านจีฟาร์และท่านยานาร์เข้ามา ก็พากันทำความเคารพให้ เมย์ก็ทำความเคารพพวกเขากลับเช่นกัน ท่านยานาร์ หันไปสนใจจอแล้วพูดภาษาต่างดาวสั่งการต่างๆ เมย์ก็ส่งสายตามองนู่นมองนี่ไปรอบๆ เขาบังคับยานกันยังไงหว่า ไม่มีคันเร่งสักอัน ท่านจีฟาร์เลยตอบว่า เราใช้จิตบังคับกัน ยานลำนี้ท่านยานาร์เป็นผู้บังคับการหรือกัปตันนั่นเอง ท่านยานาร์จะใช้จิตลิงค์กับระบบของยาน

    แล้วยานจะตอบสนองด้วยคำสั่งของท่านทั้งทางจิตและทางเสียง เมย์ร้องอ๋อเลยจ้ะ แล้วท่านก็บอกว่ายานลงจอดเรียบร้อยแล้วเราออกไปกันเถอะ ห๊ะ !!! อะไรนะ ลงจอดแล้วหรอ ทำไมเมย์ยังไม่รู้สึกอะไรเลย? แล้วท่านยานาร์ก็เดินยิ้มมาทางที่เมย์กับท่านจีฟาร์ยืนอยู่ เชิงใช้สายตาบอกให้เมย์มองที่พื้น อุ๊ต๊ะ!!! ขาไม่ติดพื้น !!! ทำไมเมย์พึ่งจะสังเกตุเห็นว่ามนุษย์ต่างดาวทุกท่านขาไม่ได้ติดพื้นเหมือนมนุษย์อย่างเรา แล้วท่านก็ยักคิ้วให้ เมย์คิดในใจ น่าหมั่นไส้มาก ท่านเลยตอบกลับมาว่าขอบคุณ !!! อ๊ากกกก เมย์ลืมไปเลยว่า ในมิติพวกนี้เราคิดอะไรคนรู้กันหมด

    แล้วท่านยานาร์ก็บอกต่อว่า "เตรียมตัวเตรียมใจนะท่านราเมนด้าร์ เมื่อท่านก้าวเท้าออกจากยานนี้ไปแล้ว ทางเราจะถือว่าท่านคือมนุษย์ดาวอังคารไม่ต่างจากชาวเรา เราจะฝึกท่านเหมือนดังที่นักรบผู้พิทักษ์ชาวดาวอังคารฝึกกันทุกอย่าง ไม่แบ่งแยก ขอท่านโปรดเตรียมตัวเตรียมใจยอมรับในกฏทุกข้อของทางเราด้วย" เมย์ไม่ทันได้คิดหรือตอบอะไร ท่านยานาร์ก็ดีดนิ้วอีกครั้งพาเมย์มายืนอยู่ในห้องกระจกที่สามารถมองเห็นการฝึกข้างนอกได้ ห้องเดิมที่เมย์เคยเห็นในครั้งที่แล้วที่เคยมา !!! เมย์พูดได้คำเดียวว่าใจเมย์สั่นมาก ขาสั่นด้วย !!!

    เมย์พยายามก้าวเท้าถอยออกไปข้างหลัง แต่สายตาก็ยังจ้องมองออกไปยังกระจกเบื้องหน้าอยู่ ไม่อยากเข้าไปในสนามฝึกนั่นเลย ไม่อยากเลยสักนิด พาเมย์กลับบ้านเถอะ !!! แต่ท่านจีฟาร์ กลับตอบมาทางจิตว่า #ท่านราเมนด้าร์ท่านต้องทำตามปณิธานของท่าน ท่านตั้งปณิธานไว้เช่นไรท่านลืมแล้วหรือ? #การจะเป็นหนึ่งในพันพระเนตร #พันพระกรขององค์พระมหาโพธิสัตว์อวโลกิเตศวรนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย #แม้แต่พระองค์เองนั้นก็ยังเคยต้องฝึกบำเพ็ญ ถูกกดดันและเสียสละมามากมายเช่นกัน #ดังนั้นตอนนี้จึงเป็นหน้าที่ของโพธิสัตว์น้อย เช่นท่านต้องพิสูจน์ตนแล้ว #ว่าท่านจะรักทุกสรรพชีวิตจริงจริงหรือท่านจะเอาตัวรอดไปเพียงคนเดียวเท่านั้น เมย์ยืนนิ่งน้ำตาไหลอาบสองแก้ม ความรักตัวกลัวตายก็ยังมีมาก แต่อีกใจก็รักทุกชีวิตเช่นกัน ใจตีกันมั่วไปหมด

    เมย์จึงตัดสินใจเข้มแข็งเลิกร้องไห้ ปาดน้ำตาทิ้ง ถามท่านยานาร์ไปด้วยใจและเสียงที่สั่นๆว่า แล้วข้าพเจ้าจะต้องทำอย่างไรบ้าง ในเมื่อตอนนี้ข้าพเจ้าไม่ต่างจากเด็กน้อยพึ่งฝึกหัดเลย ขอท่านเมตตาแนะนำข้าพเจ้าด้วย ท่านจีฟาร์เลยเดินมาใกล้ๆเมย์ แล้วเอานิ้วชี้ของท่านชี้มาทางเมย์ แล้วชุดที่เมย์ใส่ก็กลายเป็นชุดแบบเดียวกับคนที่ดาวดวงนี้เขาใส่กัน แล้วท่านก็พูดต่อไปด้วยระหว่างที่เอามือวาดบนอากาศ เป็นภาษาที่เมย์ไม่เข้าใจ

    แล้วก็เกิดเป็นสัญลักษณ์อะไรไม่รู้ขึ้นมา แล้วก็มีแสงสีฟ้าออกมาจากสัญลักษณ์นั้น ก่อนจะกลายเป็นชุดเกราะสีเงินเหมือนที่เหล่าผู้พิทักษ์เขาสวมกันมีแสงสีฟ้าออกมาจากชุดนี้ด้วยตลอดเวลา รวมถึงหมวกที่มีกระจกดำปิดหน้าด้วย ลอยอยู่บนอากาศตรงหน้าเมย์ แล้วท่านก็พูดต่อว่า ท่านราเมนด้าร์ชุดนี้เป็นของท่านแล้ว ท่านสามารถเรียกสวมได้ทุกเมื่อ เมื่อท่านมาถึงดาวดวงนี้ แล้วท่านก็ชี้นิ้วมาที่เมย์ ชุดเกราะก็มาสวมใส่ร่างกายให้พร้อมใส่หมวกให้ทันทีอีกด้วย

    ทันทีที่ชุดถูกสวมใส่เข้ามา ระบบต่างๆในชุดก็ทำงาน จิตใจสามารถเชื่อมกับชุดได้อย่างน่าประหลาด ไม่ว่าจะคิดอะไร ชุดเกราะจะตอบสนองระบบป้องกันออกมาทุกอย่าง ส่วนหมวกที่เมย์เห็นว่าเป็นกระจกสีดำ กลับยิ่งทำให้เมย์มองเห็นทุกอย่างได้ชัดเจนมากขึ้น มองทะลุสิ่งของได้และสามารถมองเห็นทุกอย่างได้ไกลหลายร้อยกิโลเมตรด้วย. ร่างกายและจิตใจสามารถเชื่อมรวมเป็นหนึ่งเดียวกันกับชุดได้อย่างน่าประหลาด เสมือนเป็นส่วนหนึ่งในร่างกายของเมย์

    แล้วท่านยานาร์ก็บอกว่า ท่านสามารถดึงศักยภาพของชุดเกราะนี้มาใช้ได้ก็ต่อเมื่อจิตท่านนิ่ง #จิตที่นิ่งคือจิตที่มีพลัง หากท่านจิตไม่นิ่งศักยภาพที่ออกมาจากชุดจะได้ไม่ถึงครึ่ง ดังนั้นท่านจงมีสติต่อทุกสถานการณ์ต่อไปนี้ ในสถานการณ์ที่ท่านเห็นอยู่นี้นี่แค่สถานการณ์ระดับ 3 ในโลกของท่านเท่านั้น และทุกคนที่เห็นในโซนนี้ไม่ใช่ผู้พิทักษ์ แต่คือเหล่าผู้มีหน้าที่ ที่ถูกดึงจิตมาฝึกเช่นท่าน เหล่าผู้พิทักษ์จะอยู่อีกโซนนึง เตรียมตัว เตรียมใจให้พร้อมทุกอย่างจะเริ่มนับแต่นี้

    5..4..3..2..1..ตู้ม!!!! เสียงดังกัมปนาทภูเขาไฟระเบิด แล้วแผ่นดินก็ไหวสั่นอย่างรุนแรงจนเมย์ไม่สามารถยืนทรงตัวได้ ต้องนั่งลง ตอนนี้เมย์มาอยู่ในสนามฝึกนี้แล้ว และกำลังจับต้นชนปลายอะไรไม่ถูก นั่งนิ่งอยู่กับที่ ในสมองสั่งตัวเองว่าคิดสิ คิด จะทำยังไงเมย์ คิดสิ เสียงศิษย์พี่เจียหลงบอกเข้ามาในจิตว่า มีสติน้องหญิงอย่ารนราน สนใจกับสถานการณ์รอบข้าง และตัดสินใจให้เด็ดขาดฉับไว เมย์เถียงกลับไปว่า สถานการณ์แบบนี้ใครจะมีสติสมาธิได้ แล้วศิษย์พี่ก็ไม่ได้ตอบอะไรกลับมาอีกเลย

    แต่ท่านยานาร์กลับสั่งการณ์ลงมาว่า เพิ่มระดับสถานการณ์เป็นระดับ 5 !!!! อ๊ากกกกก ตู้ม !!! ไม่นะแค่ระดับ 3 เมย์ก็จะไม่รอดแล้ว แต่ไม่มีเวลาให้เมย์ตั้งตัวแล้วเพราะบนท้องฟ้ากำลังมีอุกกาบาตลูกยักษ์พุ่งลงมาทางเมย์ เมย์ลืมวิธีการบังคับด้วยจิตทุกอย่างจนหมดสิ้นในเวลานั้น ได้แต่วิ่งหนี สติแตกเหมือนคนบ้า จนระบบของชุดเกราะลิงค์ข้อมูลเข้ามาในหัวเมย์ จนทำให้เมย์สามารถจำวิธีการใช้ได้อีกครั้ง ทีนี้เมย์ลองตั้งสมาธิเรียกสติตัวเองกลับมาอีกครั้ง ตั้งใจใช้จิต"วาร์ป"พาตัวเองหนีรอดอุกกาบาตมาอย่างหวุดหวิด แต่พอเท่านั้นแผ่นดินเริ่มแยก ของลาวาสีส้มพุ่งทะลักขึ้นมาตามแนวแยกของแผ่น

    เมย์มองดูรอบๆทุกคนพยายามเอาตัวรอด และช่วยเหลือผู้คนกันอย่างเต็มที่ ไม่มีเวลาที่ใครจะมาสนใจเมย์ ตึกต่างๆพากันถล่มลงมา แผ่นดินเริ่มยุบลงไป เมย์เริ่มใช้จิตบังคับกระโดนขึ้นเหยียบซากตึก ที่กำลังจะจมกองลาวา เพื่อช่วยลูกหมา 3 ตัว ที่ติดอยู่ตรงนั้น พอไปถึงก็อุ้มลูกหมาทั้งสามตัวขึ้นมา แล้วใช้จิตนึกถึงทุ่งหญ้า แล้วส่งลูกหมาทั้งสามตัวผ่านลำแสงสีฟ้าไปที่นั่นแทน ในขณะที่เมย์กำลังจะวาร์ปตัวเองนั้น ก็ได้ยินเสียงร้องของเด็กที่ติดอยู่ใต้ตึกนี้ แต่ไม่รู้อยู่ตรงไหน อีกอย่างตึกจะจมลาวาแล้ว จะทันไหม เมย์ลังเลมากว่าจะช่วยเด็กได้ยังไง เลยใช้จิตลิงค์กับชุดเกราะมองทุลุลงไปใต้ตึก ก็เห็นเด็กอ่อนไม่กี่เดือน นอนร้องไห้จ้า อยู่ในอ้อมกอดของผู้เป็นแม่ แต่ผู้เป็นแม่นั้นน่าจะเสียชีวิตแล้ว !!!

    จิตเมย์ในตอนนั้นคือจะยกซากตึกพวกนี้ ออกไปให้พ้นยังไง เลยตัดสินใจในวินาทีสุดท้ายที่ตึกจมลงพอดี ใช้วิธีเดียวกันนึกถึงสองแม่ลูกแล้วนึกถึงทุ่งหญ้า แล้วขนส่งผ่านลำแสงสีฟ้าไปเช่นกัน แล้วเมย์ก็วาร์ปตัวออกมาได้ทันอย่างหวุดหวิด แต่เหมือนโชคจะไม่เข้าข้างเมย์ เพราะแผ่นดินที่ตัวเมย์วาร์ปออกมาได้เกิดรอยร้าว ที่เตรียมจะยุบลงไปในไม่กี่วินาทีนี่แล้ว เมย์วาร์ปตัวเองอีกรอบไปยืนในจุดที่เป็นภูเขาแต่แผ่นดินก็ยังไม่หยุดไหว แต่แล้วจู่ๆแผ่นดินก็หยุดไหวซะดื้อๆ

    เมย์คิดในใจตอนนั้นว่ามันต้องมีอะไรอีกแน่ๆ คงไม่ง่ายแค่นี้ ไม่ทันขาดคำ ภูเขาที่เมย์กำลังยืนอยู่กับผู้มีหน้าที่คนอื่นอีกสามคนก็ระเบิดลาวาออกมา #ด้วยแรงอัดและแรงระเบิดนี้ทำให้ตัวเมย์และเหล่าผู้มีหน้าที่ #กระเด็นไปคนละทางตัวเมย์ไปอัดกระแทกกับก้อนหินยักษ์ เจ็บ เจ็บ เจ็บมาก #จนไม่สามารถขยับตัวได้ เมย์คิดในใจว่า ร่างกายต้องแตกหักแน่ๆถึงรวดร้าวขนาดนี้ ในระหว่างที่พยายามจะกำหนดจิตจะรักษาตัวเองอยู่นั้น ก็เกิดลาวาถล่มไหลลงมาอีกรอบ #เมย์พยายามใช้จิตวาร์ปตัวเองแต่ไม่ทันแล้ว เพราะลาวาได้ไหลมาทับเมย์ #ความรู้สึกสุดท้ายคือร้อนมากทรมานมากเจ็บปวดสุดบรรยาก่อนดับมืดไป

    เมย์ลืมตาตื่นขึ้นมามีของเหลวสีฟ้าเหมือนเยลลี่ ที่ห่อหุ้มตัวเมย์อยู่ ห่อตั้งแต่ปลายเท้าจนมิดหน้ามิดหัวเมย์เลย จนไม่สามารถขยับตัวได้ แล้วก็มีแสงสว่างขึ้นมาเหมือนแสงไฟของเครื่องถ่ายเอกสาร แล้วเยลลี่นั้นก็ค่อยๆละลายจนหายหมดไปในที่สุด แต่สิ่งที่เห็นตอนนี้คือเหมือนเมย์นอนอยู่ในแคปซูล แล้วก็เป็นอย่างที่คิดจริงๆแคปซูลค่อยๆเปลี่ยนเป็นแนวตั้ง เมื่อฝาแคปซูลถูกเปิดออกก็เจอท่านเรย์น่า ยืนส่งยิ้มให้ เมย์มองสำรวจตัวเมย์เอง อุ๊ต๊ะ !!!! ไม่ได้ใส่เสื้อผ้าเลยสักชิ้น เมย์อายมากรีบเอามือปิดร่างกายตัวเองเป็นพัลวันเลย พร้อมใช้จิตนึกถึงชุดและชุดเกราะ แล้วเมย์ก็กลับมาอยู่ในชุดพร้อมรบเหมือนเดิม ท่านเรย์น่าเลยพูดขึ้นว่า ทำได้ดีนี่ท่านในครั้งแรก แต่ยังไม่ดีพอ จิตท่านยังไม่นิ่งศักยภาพของชุดจึงมาได้แค่ 20% เท่านั้น

    แต่ดูจากท่าทางของท่านคงไม่เป็นอะไรแล้ว คงพร้อมที่จะลงสนามอีกรอบแล้วสินะ !!!!! ห๊าาาา !!! ต้องลงอีกรอบหรือนี่ พึ่งจะรอดตายมานะ!!! ท่านเรย์น่าเลยพูดว่า ท่านหายดีแล้วนี่ สมควรฝึกต่อได้แล้ว !!! พอจบคำของท่านเรย์น่า เมย์ก็มาอยู่ในสนามฝึกอีกครั้ง !!! ท่านเรย์น่าสั่งการณ์ลงมาในสนามฝึกให้ทุกคนรับรู้อีกครั้งว่า เพิ่มเป็นสถานการณ์ระดับ 7 เมย์ร้อย เฮ้ย เสียงหลงออกมาเลยจ้ะ จบคำท่านเรย์น่าปุ๊บ #พวกเราทุกคนรวมถึงวัตถุต่างๆก็ลอยขึ้นเหนือพื้น แล้วล่วงกระแทกลงมาที่พื้นอย่างแรง

    เสียงร้องระงมของผู้คนที่เจ็บปวดขอความช่วยเหลือดังไปหมด ยังไมทันที่พวกเราจะลุกขึ้น แผ่นดินก็สั่นสะเทือนอีกครั้ง พร้อมรังสีบางอย่างที่แสบตามากสามารถทำให้ทุกคนตาบอดได้ เมย์และผู้มีหน้าที่ทุกคนพยายามตะโกนบอกทุกคนให้หลับตา ยังไม่ทันที่เราจะตั้งตัวก็มีเสียงหวีดแหลมดังแหวกอากาศเข้ามา มันปวดแก้วหูมาก ปวดหัวสุดๆ เหมือนเยื่อแก้วหูจะฉีกขาดออกจากกัน หัวสมองจะระเบิดให้ได้ ในจิตตอนนั้นคิดว่า ตายแน่แล้วจะทำยังไงดีล่ะนี่

    ระบบทำการตอบกลับมาว่า ให้ท่านสั่ง Earplugs (ที่อุดหู) มาอุดหูไว้ เมย์เลยนึกให้มีที่อุดหูมากันเสียง แต่เพราะมีหมวกเกราะอยู่แล้วจึงสมารถลืมตาได้ เมย์เห็นผู้คนนอนเสียชีวิตเลือดออกจากทวารทั้งห้า เกลื่อนเป็นแถวเลย เหล่าผู้มีหน้าที่ทุกคนพยายามช่วยเหลือคนเจ็บลำเรียงไปกับแสงส่งขึ้นยาน ในระหว่างที่พวกเรากำลังช่วยลำเรียงคนเจ็บที่รอดชีวิตอยู่นั้น แผ่นดินก็สะเทือนพื้นแตกออกจากกันอีกครั้ง เมย์ที่กำลังพยายามใช้พลังขนย้ายผู้คนอยู่นั้น ก็ได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือ หลังจากขนย้ายพวกเขาผ่านลำแสงขึ้นยานไปแล้ว

    เมย์ก็หันไปตามเสียงเรียกนั้น รู้สึกตะหงิดๆว่าเสียงนี้ทำไมคุ้นๆ เมย์พยามใช้ระบบของหมวกมองหาต้นเสียง เมย์ถึงได้เจอ แม่ !!! ที่อยู่ห่างออกไปอีกหนึ่งกิโล กำลังยืนอยู่ข้างๆตึกที่ปรักหักพัง ตรงหัวและจมูกของแม่มีเลือดไหลออกมา !!! ด้วยความตกใจเมย์ตะโกนเสียงดังเรียกแม่ออกมา ใจหายมาก รู้สึกเหมือนจะขาดใจให้ได้ ณ ตอนนั้น เป็นห่วงแม่มาก เมย์รีบวาร์ปไปหาแม่ทันที

    เพราะอุกกาบาตและลูกเห็บยักษ์ มันล่วงลงมาอีกแล้ว พอมาถึงตัวแม่เมย์รีบจับมือแม่เตรียมพาแม่วิ่งหนี แต่ก็มีเสียงเด็กผู้หญิงกับเด็กผู้ชาย ร้องไห้เรียกเมย์ไว้ก่อน ฮ่ือๆพี่สาวช่วยพวกเราด้วย แม่ก็พูดขึ้นว่า เมย์ไปช่วยคนอื่นเถอะลูกแม่ไม่รู้จะอยู่อีกได้นานแค่ไหน เมย์รีบตอบแม่กลับว่า ไม่ !!! ในโลกนี้เมย์เหลือแม่แค่คนเดียว เมย์ไม่มีใครอีกแล้ว ถ้าไม่มีแม่เมย์ก็ไม่ขออยู่เหมือนกัน แม่รีบพูดสวนขึ้นมาว่าคนเราเกิดมาก็ต้องตายทุกคนอยู่แล้วอยู่ที่ว่าจะตายช้ายตายเร็วเท่านั้นเอง รีบไปช่วยคนอื่นก่อนก่อนเถอะลูกแม่จะรออยู่นี่ เมย์เลยบอกให้แม่ยืนรอตรงนี้นะ แม่อย่าไปไหนนะ เมย์รีบวาร์ปไปรวบตัวน้องทั้งสองคน พร้อมวาร์ปกลับมาหาแม่อีกครั้ง

    พร้อมพาแม่และเด็กๆวาร์ปไปยืนในที่ปลอดภัย ในหว่างที่เมย์กำลังจะส่งแม่และเด็กทั้งสองผ่านลำแสงขึ้นยาน ได้เกิดหลุมยุบขึ้นพาเอาแม่และเด็กทั้งสองล่วงลงไปในลาวาร้อนๆในวินาทีนั้น โดยที่เมย์คว้าไว้ไม่ทัน เมย์ใจสลายสติแตกเลยตอนนั้น ตะโกนเรียกแม่อย่างสุดเสียง แม่ !!!! น้ำตาไหลนองหน้า ฮื่อๆๆๆ ไหนแม่เคยบอกว่ารักเมย์ไง ทำไมทิ้งเมย์ไว้แบบนี้ ในชีวิตนี้เมย์ไม่เหลือใครอีกแล้วนะ เมย์มีแม่แค่คนเดียว ทำไมทิ้งเมย์ไปแบบนี้ แล้วเมย์จะอยู่ยังไง จะอยู่ต่อไปทำไม ฮื่อๆๆ หากแม่คนเดียวเมย์ยังรักษาชีวิตไว้ไม่ได้ เมย์ก็ไม่สมควรที่จะไปช่วยใครทั้งสิ้น !!! จะตายก็ช่างมัน เมย์ไม่ขอมีชีวิตอยู่อีกแล้ว!!! ฮื่อๆๆๆ จะไม่ขอช่วยใครอีกต่อไปแล้ว!!! ในระหว่างที่เมย์กำลังเสียสติ ก็ได้มีอภิมหาคลื่นยักษ์ คลื่นนี้ใหญ่มากๆๆๆๆ สูงยิ่งกว่าตึก 50 ชั้น

    กวาดต้อนกลืนกินชีวิตผู้คนอย่างบ้าคลั่ง ไม่มีความปราณีใดๆทั้งสิ้น เมย์ไม่แม้แต่จะทำอะไร ไม่แม้แต่จะสู้หรือลุกหนี้ แล้วก่อนที่ความความรู้สึกของเมย์ก็ดับวูบลง คำสอนของแม่ได้แว๊บเข้ามาในหัวว่า "ตอนเด็กๆแม่เคยสอนให้เมย์เข้มแข็งอยู่เสมอ หกล้มแม่ก็ให้ลุกเองแล้วแม่ก็บอกว่าทีหลังก็ระวังให้มากกว่านี้นะต่อไปจะได้ไม่เจ็บอีกและตอนนี้แม่ก็หวังว่าเมย์จะเข้มแข็งแล้วเดินหน้าต่อไปอย่าย่อท้อสู้ต่อไปนะแม่จะเป็นกำลังใจให้ตลอดไปแม่ขอให้เมย์อย่าได้เจ็บอีกต่อไปเลยเพราะคนที่เจ็บกว่าเมย์ก็คือแม่นะลูก..."

    เมย์มารู้สึกตัวอีกครั้ง ในแคปซูลเหมือนเดิม ก่อนที่แคปซูลจะเปิดเมย์ก็ใช้จิตนึกถึงชุด ชุดแบบชาวดาวอังคารก็มาปรากฏบนเรือนร่างเมย์อีกครั้ง พอแคปซูลเปิดออก เมย์ก็ได้พบกับท่านเรย์น่า ท่านจีฟาร์และท่านยานาร์ ที่นั่งอยู่บนเก้าอี้กลมๆสีเงินลอยได้ อยู่กันคนละมุม เมย์ไม่มีอะไรจะพูดกับพวกท่านทั้งสาม ตาสองข้างของเมย์ยังคงแดงก่ำและเต็มไปด้วยน้ำตา สถานการณ์ที่เมย์เจอมันเกินกว่าที่เมย์จะคาดคิดและรับไหว ท่านเรย์น่าจึงเอ่ยขึ้น เราเข้าใจความรู้สึกของท่านนะ ท่านราเมนด้าร์ แต่เราจำเป็นต้องให้ผู้มีหน้าที่ทุกท่านเตรียมตัวเตรียมใจรับให้ได้

    เพราะในสถานการณ์นั้น เราอาจจะต้องสูญเสียผู้คนที่เรารักทุกคนไป ต้องอยู่ให้ได้ในทุกสถานการณ์ ไม่ว่าจะเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นในวันข้างหน้าก็ตาม ท่านยานาร์จึงเสริมสติให้เมย์ได้คิดต่อว่า นี่แค่บทเริ่มต้นเท่านั้น "หากท่านต้องการจะอยู่เพื่อฉุดช่วยทุกสรรพชีวิตจนกว่านรกจะว่างนั้น ท่านยังจะต้องพอเจออะไรอีกเยอะ ยังจะต้องเจอเรื่องบีบคั้นหัวใจอีกมาก ต้องเสียสละในทุกอย่างในชีวิตที่ท่านมี แม้แต่ชีวิตของท่านเอง และต้องยอมสูญเสียคนที่ท่านรักทุกคนในทุกชาติภพ ตราบจนกว่าจะท่านบรรลุปณิธาน

    นี่แค่บททดสอบเท่านั้น หากท่านต้องเจอเหตุการณ์แบบนี้ ในสถานการณ์จริง ท่านจะทำอย่างไร" เอาล่ะทางเราจะผนึกความทรงจำท่านไว้ ให้ท่านจำได้เพียงเท่านี้ แล้วท่านเรย์น่าก็เอามือมาแตะที่หัวของเมย์ เสร็จแล้วเมย์ก็กลับมาบ้านในตอนเช้า

    ***บทส่งท้ายคัดจากบทความของพี่เต้ยบางส่วน***

    บางสิ่งบางอย่างนั้นไม่ได้รู้ไว้เพื่อตัวเราเอง แต่รู้ไว้เพื่อคนอื่น ทุกอย่างมาจากแหล่งเดียวกัน เป็นสิ่งเดียวกัน แค่ก่อรูปไม่เหมือนกันเท่านั้น ทั้งๆที่มีพลังงานสะอาดและไม่เบียดเบียนโลกแต่ทำไมไม่ค้นคว้าหาทางนำมันมาใช้ มนุษย์ทำให้โลกอ่อนแอ..โลกจึงจำเป็นต้องปรับตัวเองด้วยการกำจัดเชื้อร้าย!!! ธรรมชาติให้เวลามนุษย์มามากพอแล้ว ในการกลับตัวกลับใจ หันมาใส่ใจโลก แต่แล้วมนุษย์กลับเพิกเฉยในโอกาสนั้น ทางสมาพันธ์ทราบดีว่าจะเกิดอะไร แต่ถูกสั่งห้ามไม่ให้แก้ไขใดๆทั้งสิ้น..งานที่เหลือคือ รอช่วย และรอฟื้นฟูเท่านั้น

    คนที่ถูกเลือกนั้นจะไม่ได้ถูกอพยพในช่วงเกิดวิกฤติ..เหล่าคนที่ถูกเลือกจะ ต้องวิ่งเข้าใส่ในพื้นที่เกิดเหตุในขณะที่คนอื่นนั้นหนีออก คนที่ถูกเลือก จะมีหน้าที่ช่วยคน รักษาคน และส่งคน แต่จะได้ขึ้นยานหรือถูกส่งตัวไปยังที่ปลอดภัยก็ต่อเมื่อไม่มีใครเหลือให้ช่วยแล้ว (สรุปคือพวกคนที่มีหน้าที่ ต้องลุยกับมหาเหตุการณ์วิบัติ จนกว่าทุกชีวิตที่รอด จะได้รับการช่วยเหลือจนหมด เมย์และผู้มีหน้าที่ถึงจะได้รับการช่วยเหลือให้ไปอยู่ในที่ปลอดภัยต่อไป

    เป็นสิทธิพิเศษที่เพอร์เฟ็คมาก ไม่รับตอนนี้ทันมั้ย อยากจะร้องไห้) คนที่มีหน้าที่ช่วยคนนั้น จะมีบางคน ที่ไม่ได้ขึ้นยานไปในตอนเกิดเหตุ จะต้องมีบางคนอยู่ที่ภาคพื้นดิน ต้องคอยตามหา และตระเวนช่วยคนเท่าที่สามารถ จะทำได้เพียงเคลื่อนย้ายคนขึ้นยานเท่านั้น โดยใช้ลำแสงขนส่ง แต่ตัวเองขึ้นไม่ได้..จะเป็นคนที่ต้องทนอยู่กับทุกสภาวะ ทั้งทางกาย และทางจิต มันจำเป็นต้องเกิด มันเป็นระบบของจักรวาล มันเป็นวงจร หรือวัฏฏะจักร โลกใบนี้เกิดแบบนี้มาหลายครั้งแล้ว และเมื่อสิ้นสุดกระบวนการ มนุษย์ก็จะวิวัฒนาการไปอีกขั้น และทุกครั้งก็จะมีเหล่าเพื่อนร่วมแกแลคซี่คอยช่วยเหลือดูแลเสมอ..ครั้งนี้ก็เช่นกัน

    เมย์ ธิดาพรหม


    ที่มา https://sites.google.com/site/jantimema/mey-thida-phrhm/miti-thi-6-txn-thi-1
     
  10. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,710
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    โลกอนาคตของคนในมิติที่ 5 ยุคอควาเรียส ยุคศิวิไล


    22 มี.ค. 2020
     
  11. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,710
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    เหล่า BE-ING ข้อมูลเผ่าพันธ์มนุษย์ต่างดาว


    27 ก.พ. 2020
     
  12. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,710
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    สงครามโลกครั้งที่ 3 จะจบลงอย่างรวดเร็ว เพราะได้รับการช่วยเหลือจากมนุษย์ต่างดาว !!!

    a-jpg-jpg-jpg-jpg.jpg

    >_<.ST.>_< สมาชิก


    "กองกำลัง" อาจมาจากบนฟ้า หรือจากบนดิน ภัยอาจจะมาในหลายรูปแบบ ซึ่งเป็นเรื่องละเอียดอ่อนที่มนุษย์ยากเกินจะเข้าใจ เหมือนกับความลับและแผนการของจักรวาล ซึ่งไม่มีใครล่วงรู้ รู้เพียงว่า ทุกอย่างที่เกิดขึ้นย่อมส่งผลดีต่อเราในอนาคต "สิ่งที่เกิดขึ้นหรือกระทำในปัจจุบัน สามารถกำหนดอนาคตให้เปลี่ยนแปลง" และพวกเขาพร้อมให้ความช่วยเหลือพวกเรา พวกเขารักเรา เราคือหนึ่งเดียวกัน

    ส่วนสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น คือผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงโลกไปในทางที่ดีขึ้น เป็นการกวาดล้างครั้งใหญ่ของภาพมายาและความมืด ให้สะอาด หมดจด เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการสร้างโลกใหม่ และเพื่อปลุกให้ทุกคนตื่นจากภาพมายา,กิเลส,ความหลงผิด แล้วเราจะได้อยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข และสร้างโลกใหม่ที่สมบูรณ์ด้วยกัน

    เรื่องราวเหล่านี้ที่กำลังเกิด เป็นเรื่องที่ผิดไปจากคำทำนายเก่าๆ เพราะอนาคตได้เปลี่ยนไป แต่อาจจะมีบางหรือสิ่งเกิดขึ้นตามคำทำนายเก่าๆแต่ไม่รุนแรงถึงขั้นนั้น เเต่ข้อมูลบางอย่างเช่นการเตรียมพร้อม สามารถใช้ประโยชน์จากคำทำนายเก่าเหล่านั้นได้

    เพราะตอนนี้ไม่มีใครรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง และไม่สามารถคาดการณ์อนาคตได้ รู้แต่เพียงจะเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในเร็ววันนี้ หลังจากนั้นสันติสุขจะบังเกิดขึ้นตลอดกาล และทุกฝ่ายเตรียมพร้อมให้ความช่วยเหลือเรา ซึ่งไม่อาจกำหนดเวลาได้ ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย แล้วแต่จักรวาลจะตัดสิน แต่มาแน่นอน จึ่งให้เตรียมพร้อมไว้ก่อน โดยเฉพาะสติ

    ดังนั้นขอให้เรามีสติ เตรียมพร้อมรับมือในสิ่งที่จะเกิด(เบื้องต้น) เพราะพวกเขาคงช่วยเราทั้งหมดในทันทีไม่ได้ เราต้องช่วยตัวเองในเบื้องต้น

    ทุกอย่างไม่น่ากลัว น่ากลัวตรงที่ไม่มีสติ หากวินาทีนั้นมาถึง คนจะตายเพราะขาดสติ มากกว่าภัยที่กำลังเกิด ขอให้เชื่อและฟังตนเอง มากกว่าสื่อหลอกลวงที่เสนอ ให้ตัวเองเป็นคนตัดสินใจ และยอมรับในสิ่งที่เกิด อย่างสงบ และมีสติ

    ขอให้ทุกคนปลอดภัย


    ที่มา https://palungjit.org/threads/เตรียมตัวให้พร้อม-มันกำลังมา.627051/
     
  13. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,710
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    The Day the Earth Stood Still (2008)

    reeves_day460-jpg.jpg

    ช่วงต้นหนังเริ่มจับใจผมตั้งแต่การดำเนินเรื่องที่กระชับใช้ได้ เล่าแบบตรงประเด็น ก่อนจะนำเรามาพบกับกลาตู มนุษย์ต่างดาวที่มีร่างกายภายนอกเป็นมนุษย์ และเมื่อเขาเปิดปากเอ่ยบทสนทนาชุดแรกระหว่างเขากับรัฐมนตรีเรจิน่า ผมก็เจอหมัดเด็ดหมัดแรกที่กระแทกรอยหยักในสมองของเรจิน่าและคนดูแบบผมอย่างจัง


    เรจิน่าพยายามถามว่า กลาตูมาทำอะไรที่นี่ คุณต้องการอะไรจากโลกของเรา... พอได้ยินดังนั้น กลาตูก็รีบถามกลับทันทีว่า "โลกของคุณงั้นเหรอ?"... คำง่ายๆ แต่ได้ใจความทีเดียว

    จากนั้นช่วงถัดมาเราก็ได้ทราบถึงเหตุผลว่า กลาตูมายังโลกเพื่ออะไร... เขามาเพื่อช่วยโลก ตอนแรกพอนางเอกได้ยินก็เลยไม่คิดอะไร แต่พอเวลาผ่านไปเธอเริ่มสงสัยว่าอะไรกันแน่คือความหมายของคำว่า "มาช่วยโลก" จนกลาตูเฉลยแบบชัดถ้อยชัดคำว่า ช่วยโลกให้พ้นจากมือมนุษย์ กล่าวออกมาว่าถ้าโลกตายมนุษย์ก็จะตาย... แต่ถ้ามนุษย์ตาย โลกนี้ก็จะพ้นภัย

    น่าคิดดีไหมครับ "ถ้ามนุษย์ยังอยู่ โลกนี้จะต้องตาย... แต่หากพวกคุณตาย โลกนี้จะรอด"

    คุณรู้สึกอย่างไรกับคำตอบตรรกะอันนี้บ้างครับ... คิดว่ากลาตูช่างโหดร้าย หรือ ไอ้นี่มันหาเรื่องชัดๆ หรือมองว่ามันเป็นเหตุผลที่ไร้สาระเสียเหลือเกิน... งั้นเราลองมาคิดตามหน่อยดีไหมครับ

    กลาตูนั้นคือมนุษย์ต่างดาวที่เดินทางมาสำรวจตรวจสอบและได้ข้อมูลว่า โลกนี้กำลังถูกทำลายด้วยมือของสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่า มนุษย์ ... มนุษย์ทำลายธรรมชาติทั้งป่าไม้ ลำน้ำ อากาศ แม้แต่โอโซนหรือชั้นบรรยากาศที่รักษาโลกไว้ อยูห่างไกลจากพวกมนุษย์ตั้งไม่รู้กี่ร้อยกิโลเมตรก็ยังโดนกัดกินจนเกือบพรุนไปหมด...

    มนุษย์ทำลายสิ่งมีชีวิตอื่นๆ ไม่ว่าจะฆ่าสัตว์เพื่อเอามากิน ฆ่าสัตว์เพื่อการกีฬา ฆ่าสัตว์เพื่อความสนุก ฆ่าเพื่อเอาชิ้นส่วนมาประดับบ้าน ฆ่าสัตว์โดยการทำลายวงจรธรรมชาติ ฆ่า ฆ่า ฆ่า ฆ่า ฆ่า!... ฆ่าจนสิ่งมีชีวิตหลายชนิดสูญพันธุ์ไป หรือที่ไม่ฆ่าก็จับมันมากักขังในสารพัดวิธี

    และที่ร้ายที่สุด มนุษย์ทำลายกันเอง ฆ่ากันเพื่อผลประโยชน์ พอมีเรื่องขัดแย้งกันนิดหน่อยก็แทบจะควักปืนมายิงกัน ไหนจะการทำสงครามสารพัดรูปแบบทั้งใช้อาวุธรุนแรง หรือการใช้อาวุธรุ่นใหม่ ได้แก่การใช้ระบบเศรษฐกิจเป็นอาวุธทำลายซึ่งกันและกัน

    สำหรับกลาตูและพรรคพวกแล้ว มนุษย์คือผู้ทำลายที่สมควรถูกกำจัด...

    หากผมกล่าวเช่นนี้แล้วยังไม่เห็นภาพ ก็คงต้องขอยกตัวอย่างนี้สักหน่อย... สมมติคุณเป็นโรคผิวหนัง มีเชื้อรามาเกาะกินเนื้อของคุณ... มันทำลายคุณ คุณจะทำอย่างไร... แน่นอนคุณต้องจัดการล้างบาง กำจัดเชื้อโรคให้สะอาด เพื่อรักษาร่างกายให้หายสนิท สมดุลย์ในร่างจะได้กลับมาอีกครั้ง...

    ในที่นี้ ร่างกายคือโลก... เชื้อร้ายคือคน คนที่คอยเกาะกินทำลายโลก ดังนั้นกลาตูก็ทำเหมือนคนเป็นโรคผิวหนัง... เขาต้องฆ่าเชื้อโรคนั่นเพื่อยุติการทำลายทั้งหมด และรักษาให้ผิวหนัง (หรือผิวโลก) กลับมางดงามดังเดิม

    ถ้าคิดตามตรรกะนี้ ก็อดไม่ได้ที่จะเข้าใจการตัดสินใจของกลาตูและมนุษย์ต่างดาวที่ไม่ได้มาเพื่อครองโลก แต่มาเพื่อรักษาโลก รักษาเผ่าพันธุ์อื่นๆ อีกหมื่นแสน

    แล้วก็มองมาสู่โลกแห่งความจริง... แม้เวลานี้จะยังไม่มีใครมาล้างโลกแบบเป็นตัวตน แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าผลแห่งการกระทำของเรานั้นกำลังย้อนมาเป็นหอกปักอกมนุษย์อย่างเราๆ ไม่ว่าจะภัยธรรมชาติสารพัดที่กลืนชีวิตคน โรคร้ายที่ทวีความร้ายกาจมากขึ้นจนถึงขั้นรักษาไม่ได้ และสุขภาพของมนุษย์ก็เริ่มเจ็บออดแอดไม่แข็งแรงมีกำลังเท่าคนสมัยก่อน เพราะอากาศมันสกปรก อาหารมันมีสิ่งปนเปื้อนเต็มไปหมดแล้ว...

    ว่ากันโดยอุปมา... กลาตูมาถึงโลกนานแล้วครับ เขากำลังทำหน้าที่ล้างโลกอย่างช้าๆ จนเราอาจไม่สังเกตเห็น...

    แม้หนังเรื่องนี้จะไม่ได้สร้างจากเรื่องจริง แต่ก็น่าจะใช้คำว่า "ได้แรงบันดาลใจจากเรื่องจริง" อยู่เหมือนกัน


    • จากคุณ : หมื่นทิพ

      • [ 11 ธ.ค. 51 13:44:30 ]
    ที่มา https://topicstock.pantip.com/chalermthai/topicstock/2008/12/A7309705/A7309705.html
     
  14. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,710
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    แยกมนุษย์มิติที่ 3 ออกจากมนุษย์มิติที่ 5 ไม่อยู่ปนกัน เมื่อโลกเข้า 5D


    25 ก.ย. 2020
     
  15. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,710
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    สัญญาณเตือน!! นอกโลก ถึงพลังงาน! เตือนภัยสิ่งนี้!! สามารถ ทำลายล้าง สิ่งมีชีวิตบนโลก


    5 ต.ค.2020​
     
  16. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,710
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    มิติแห่งกาลเวลา คุณเชื่อหรือไม่ อดีต ปัจจุบัน อนาคต คือเวลาเดียวกัน


    24 มิ.ย. 2020​
     
  17. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,710
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    Nibiru Planet x Anunnaki เป็นอย่างไร เกี่ยวข้องกันอย่างไร


    7 พ.ย. 2019
     
  18. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,710
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    คุณสมบัติของ Pleiadian starseed

    17 พ.ย. 2019
     
  19. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,710
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    จะเกิดอะไรขึ้น เมื่อโลกเลื่อนระดับ #Matthew Ward

    25 มิ.ย. 2020
     
  20. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,710
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    วันนี้- สิ้นปี 2020 จะเกิดอะไรขึ้นบ้าง


    13 ก.ย. 2020
     

แชร์หน้านี้

Loading...