เรื่องจริงอิงนิทานกับหลวงพ่อพระราชพรหมยาน ตอน ขุนช้างขุนแผนตำนานที่ถูกต่อเติม

ในห้อง 'หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ' ตั้งกระทู้โดย joni_buddhist, 2 มิถุนายน 2015.

  1. joni_buddhist

    joni_buddhist Legal returns ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กันยายน 2005
    โพสต์:
    13,552
    กระทู้เรื่องเด่น:
    203
    ค่าพลัง:
    +63,439
    เรื่องจริงอิงนิทานกับหลวงพ่อพระราชพรหมยาน ตอน ขุนช้างขุนแผนตำนานที่ถูกต่อเติม
    [​IMG]
    เรื่องราวอีกแง่มุมหนึ่งที่จะนำมาเสนอในที่นี้อาจมีความแตกต่างจากสิ่งที่ท่านเคยได้ยินมา แต่ถึงกระนั้นก็อย่าได้คิดว่าเรื่องนั้นถูกเรื่องนั้นผิดเลยเพราะมันคงจะไม่ได้มีผลเปลี่ยนแปลงประวัติศาสตร์อะไร ขอให้ท่านอ่านแล้วลองใช้วิจารณญาณ ของท่านพิจารณาดูก็แล้วกันว่าสมควรที่จะเปลี่ยนความรู้สึกลึกๆในใจท่านบ้างหรือเปล่า เรื่องราวนั้นก็มีอยู่ว่า
    เรื่องของขุนช้างขุนแผนนั้นเป็นเรื่องราวชีวิตจริงของบรรพบุรุตไทยสมัยอยุธยาช่วงราวๆปี พ.ศ. 1967 ถึง 1991 ในรัชสมัยของพระเจ้าพันวัสสาหรือ ที่เรียกกันว่า พระเจ้าสามพระยา ความจริงแล้วคำว่าขุนช้างและขุนแผนนั้นไม่มีในทำเนียบของราชการ เป็นคำเรียกที่ชาวบ้านเขาตั้งให้เท่านั้น ที่เรียกว่า ขุนช้างก็เพราะ คนตระกูลนี้เป็นมหาเศรษฐี เป็นคนหาช้างให้แก่พระราชา ตั้งแต่สมัยปู่ เป็นคนฝึกช้าง คุมช้าง หรือ เรียกได้ว่าเป็นหัวหน้ากองช้าง จึงเรียกว่า ขุนช้าง จริงๆขุนช้างมีชื่อจริงๆ ว่า “ศรี” แปลว่ามิ่งขวัญ เป็นคนมาดดี สง่าผ่าเผย ตาผ่องใส หน้ารูปไข่นิด ๆ แต่ว่า หน้าเป็นหน้าของผู้ชาย ไม่ใช่รูปไข่ของผู้หญิง ผิวค่อนข้างขาว ลักษณะ ท่าท่าง องอาจ สง่าผ่าเผย หัวก็ไม่ได้ล้านเลี่ยนดังที่มีคนเขียนไว้ เพียงแต่ หัวเถิกง่ามถ่อ ธรรมดาๆ เท่านั้น ขุนช้างอายุแก่กว่าขุนแผน 1 ปี สำหรับ ขุนแผน ก็เหมือนกัน จริงๆแล้ว ขุนแผนมีชื่อว่า “พลายแก้ว” พลายแก้ว คือ ช้างแก้ว ช้างที่มีกำลังใหญ่ ช้างตัวประเสริฐของพระเจ้าจักรพรรดิ ที่เขาให้ชื่อว่า พลายแก้ว ก็เพราะ เกิดมาฤกษ์ดี โหรพยากรณ์ว่า เด็กคนนี้จะมีอำนาจมาก สามารถจะปราบปราม ข้าศึกได้ทุกทิศ โดยที่จะใช้กำลังคน เข้าประชิดกับข้าศึก ด้วยกำลังไม่มาก ขุนแผน เป็นคนหน้าตาดี สวย สมส่วนสมสัด ท่าทางดี ทะมัดทะแมง ผิวขาว ขาวกว่าขุนช้างอีก อย่างที่ชาวบ้านเขาเรียกว่า เป็นคนขาว และที่เรียกว่า ขุนแผน ก็เพราะ เป็นคน ออกแบบออกแผน จู้จี้จุกจิก เห็นอะไรไม่ดี ก็จัดสรร กราบบังคมทูลพระเจ้าพันวัสสา พระองค์ก็เห็นด้วยทุก ประการ อาศัยที่เป็นคนวางแผน ชอบเปลี่ยนแปลง ชอบจัดระบบให้สมดุลอยู่เสมอ ชาวบ้านจึงเรียกว่า ขุนแผน ทั้งขุนช้างและขุนแผนเป็นเพื่อนที่รักกันมากขุนแผนเป็นลูกของขุนไกรซึ่งเป็นแม่ทัพ และตัวของขุนแผนเองก็เป็นแม่ทัพเช่นกัน เป็นคนอยู่ในระเบียบวินัย เป็นคนที่รวบรวมกำลังของคนไทย เพื่อต่อสู้กับข้าศึกศัตรู การที่นิยายเขาบอกว่าขุนช้างโกงเอาเมียขุนแผนและขุนแผนก็ไปขโมยเมียตัวเองมาจากขุนช้างนั้น เรื่องนี้มิได้เป็นความจริงดังนั้นเลย เพราะว่าทั้งสองท่านเป็นคนดี และในเวลานั้นเป็นสมัยราชาธิปไตย คนที่อยู่ในสมัยราชาธิปไตยต้องเป็นคนดีคน อยู่ในระเบียบ ประเพณี พระธรรมวินัย และพระราชาก็มีอำนาจสั่งตัดหัวได้สบายๆ ถ้าหากใครทำชั่วอะไรความจริงนั้นก็คือว่า ขุนช้างเป็นคนไม่มีลูก แต่ขุนแผนเป็นคนมีลูกมาก มีลูกมากเพราะว่ามีเมียมาก ที่มีเมียมากก็เพราะว่าเป็นคนมี คาถาอาคมดี รูปร่างหน้าตาดี สวย เก๋ มีเสน่ห์ ยิ้มแย้มแจ่มใส เป็นคนอ่อนโยน กตัญญูรู้คุณ มีจิตใจเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ไปที่ไหนก็มีแต่ความแช่มชื่น เป็นที่รักของคนทั่วไป ฉะนั้นเมื่อชาวบ้านรักได้ สาวๆก็รักได้ เมื่อสาวๆรักได้ พ่อแผนหนุ่มเมียเพลอก็รักได้เช่นกัน ฉะนั้นพ่อแผนจึงมิได้มีเมียเพียง 2 คน คือนางลาวทอง กับพิมพิลาไลย หรือมีเมีย 5 คนตามที่เข้าใจกัน แต่มีเมียมากกว่านั้น และขุนแผนเองก็ไม่ได้มีฐานนะยากจนเข็ญใจอย่างที่พูดกัน เงินทองพอมี แต่ที่ไม่ได้มีเงินอย่างเหลือล้นเท่านั้นเอง เพราะว่าขุนแผน ไม่ค่อยเก็บสตางค์ ไปที่ไหน ก็จ่าย ให้ลูกน้องดะ เห็นคนยากจนเข็ญใจ ก็สงเคราะห์ให้ตามสมควร มีอะไรพอที่จะช่วยเหลือได้ ก็ช่วยทุกอย่าง รวมทั้งการที่เป็นคนมีลูกน้องมาก นอกจากเบี้ยหวัดเงินปี ที่พระราชาให้ ขุนแผนก็ต้องล้วงเงินในกระเป๋าของตนเลี้ยงด้วย คนทั้งหลายที่มีกำลังดี ก็เก็บเอาไว้ต่อสู้กับข้าศึก ถ้าขุนแผนไม่จับจ่ายใช้สอยมากคงจะมีเงินมากเหมือนกับขุนช้างเช่นกัน แต่ทว่าที่เขาว่าจนก็ยังอยู่ในฐานะคหบดีระดับสูง และการที่ขุนช้างเป็นคนไม่มีลูกก็เลยถือว่าลูกของขุนแผนซึ่งเป็นเพื่อนรักกันเป็นเสมือนลูกของตัวเอง ดังนั้นทุกเช้าขุนช้างจะสั่งให้คนใช้หุงข้าวไว้มากๆ ทำกับข้าว ทำขนมไว้มากๆ เพื่อเวลาที่ลูกของขุนแผนมาจะได้กินกันได้อย่างเพียงพอ เวลาลูกของขุนแผนมาถึงบ้านขุนช้าง ก็เข้าไปหาขุนช้างและก็บอก คุณพ่อไอ้นี่ดี คุณพ่อไอ้นั่นดี อันไหนที่ว่าดีขุนช้างก็หาให้ ลูกของขุนแผนเรียกจะเรียกขุนช้าง ว่า พ่อทุกคน พวกเด็กๆรักขุนช้างเหมือนพ่อ ขุนช้างเองก็รักลูกขุนแผนเหมือนลูกเช่นกัน ลูกขุนแผนต้องการอะไร ขุนช้างหาให้ทั้งหมด นี่ก็แปลว่าทั้งสองคนเป็นคนดีกันจริงๆขุนแผนนั้นเป็นแม่ทัพที่มีความสามารถมาก เป็นคนรวบรวมกำลังพลของชนชาติไทยในสมัยนั้น ให้เป็นปึกแผ่น เป็นนักรบที่มีความเก่งกาจอย่างมาก รบที่ไหนชนะทั้งหมด เพราะอาศัยว่าเป็นคนมีวิชาอาคมมาก ล่องหนหายตัวได้ สะเดาะกลอนได้ สร้างหุ่นพยนต์ได้ ทำอะไรได้แปลกๆหลายอย่าง การรบทัพจับศึกก็ใช้คนไม่มาก ก็สามารถปราบข้าศึกได้ และด้วยเหตุนี้ ถ้าลองพิจารณาดูว่า เรื่องที่ขุนช้างจะไปแย่งเมียขุนแผนและขุนแผนก็ไปขโมยกลับมานั้น ดูไม่น่าจะเป็นไปได้เท่าไหร่ เพราะถ้าขุนช้างไปแย่งเมียขุนแผนจริง ขุนช้างคงจะไม่รอดแน่ๆ เพราะขุนแผนนี้ มีวิชาอาคม ร้ายกาจมาก ถ้าปรารถนา จะฆ่าคน สักคนนั้น มันไม่ยาก ไม่ต้อง ใช้อาวุธ เป็นแต่ เพียงหยิบเอาต้นหญ้าขึ้นมาต้นเดียว ต้องการให้ต้นหญ้านั้นเข่นฆ่าใคร คนนั้นก็ตายแล้ว ความจริงขุนแผนกับขุนช้างไม่มีเรื่องร้ายอะไรต่อกันเลย จะมีก็แต่ความเข้าใจผิดกันเล็กน้อย ตอนที่ขุนแผนไปตีเมืองจอมทอง มีคนเขามาแกล้ง แย่งความดีของขุนช้าง คิดจะให้ขุนช้างถูกขุนแผน ฆ่าตาย จึงเอากระดูกคนมาแสดงให้ขุนช้างเห็นว่า เวลานี้ขุนแผนตายแล้ว และขุนแผนก็สั่งว่า สำหรับวันทอง ซึ่งเป็นเมียเล็ก เห็นว่า ไม่คู่ควรกับใคร ขอมอบไว้กับขุนช้าง ปกครองด้วย ช่วยรักษาเธอให้มีความสุข แต่เรื่องนี้ก็ไม่มีอะไรทั้งสองคนก็เข้าใจกันในเวลาต่อมา และประกอบกับคนสมัยนั้นจิตเขา เป็นมหากุศล ทำบุญ ทำกุศล สวดมนต์ ใส่บาตรไหว้พระ เจริญสมถะวิปัสสนากันเป็นปกติ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กับขุนแผน ซึ่งก็จะเห็นว่าเรื่องราวต่าง ๆ ที่เขียนกันไปนั้น มันลอกเปลือกกันมาก จนคนเข้าใจกันผิดไปมาก
    ส่วนหนึ่งบทเสภาจากวรรณคดี ขุนช้าง-ขุนแผนที่แต่งขึ้น ซึ่งกล่าวถึงการเรียนวิชาอาคมของขุนแผน ที่ดูแล้วส่วนใหญ่ถูกต้องตามตำราของพระเวทอาคมและเป็นบทเสภาที่ไพเราะแสดงถึงพรสวรรค์และความชำนาญในการใช้คาถาอาคมของขุนแผน

    อันเรื่องราวกล่าวความพลายงามน้อย ค่อยเรียบร้อยเรียนรู้ครูทองประศรี

    ทั้งขอมไทยได้สิ้นก็ยินดี เรียนคัมภีร์พุทธเพทพระเวทมนต์

    ปัถมังตั้งตัวนะปัดตลอด แล้วถอนถอดถูกต้องเป็นล่องหน

    หัวใจกริดอิทธิเจเสน่ห์กล แล้วเล่ามนต์เสกขมิ้นกินน้ำมัน

    เข้าในห้องลองวิชาประสาเด็ก แทงจนเหล็กแหลมลู่ยู่ขยั้น

    มหาทะมื่นยืนยงคงกระพัน ทั้งเลขยันต์ลากเหมือนไม่เคลื่อนคลาย

    แล้วทำตัวหัวใจอิติปิโส สะเดาะโซ่ตรวนได้ดังใจหมาย

    สะกดคนมนต์จังงังกำบังกาย เมฆฉายสูรย์จันทร์ขยันดี

    ทั้งเรียนธรรมกรรมฐานนิพพานสูตร ร้องเรียกภูตพรายปราบกำราบผี

    ผูกพยนต์หุ่นหญ้าเข้าราวี ทองประศรีสอนหลานชำนาญมา
    และอีกเรื่องที่มีความเข้าใจกันผิดๆก็คือเรื่องของกุมารทอง หรือลูกกรอกของขุนแผน จริงๆแล้ว บัวคลี่ไม่ได้ตาย เพราะถูกขุนแผนผ่าท้องเอาลูกไปทำลูกกรอก ความจริงลูกกรอกเขาเกิดมา เพื่อให้คุณแก่พ่อแม่ และมีลักษณะพิเศษ คือ เวลาท้องนั้น ท้องโตได้ยุบได้ บัวคลี่คลอด ลูกออกมาเป็นลูกกรอก แล้วต่อมาอีก 3-4 เดือน จึงได้ตายด้วยโรคภัยธรรมดาในตอนท้าย ขุนช้าง ท่านมีราชทินนามหรือบรรดาศักดิ์ ก่อนที่ท่านจะตาย ว่า พระยาภานุมาศ สำหรับขุนแผนนั้น เป็นพระบำราบอรินทร์ และก็เป็น พระยากาญจน์บุรี แต่เนื้อแท้ จริง ๆ ท่านเป็น เจ้าพระยา แต่ทว่า ประวัติศาสตร์หายไปบางส่วน ทั้งสองคน เวลาที่รับราชการอยู่ก็ชอบทำบุญ ทำทาน ตอนพ้น จากราชการก็ไปจำศีลกันในป่าในเขา โดยเฉพาะอย่างยิ่งขุนแผน ไปอยู่ที่เขาชนไก่ จังหวัดกาญจนบุรี ส่วนขุนช้าง ปรากฏว่า หลบไปอยู่ทางเขาราวเทียน ซึ่งอยู่ทางหลังอำเภอหันคา ทั้งสองคนจำศีลภาวนาจนได้ ฌานสมาบัติ ตายจากความเป็นคน ขุนช้างไปเกิด เป็นเทวดาชั้นจาตุมหาราช แต่สำหรับขุนแผน เวลาตายก็เข้า ฌานตาย เพราะมีกำลังใจใหญ่ ตายแล้วไปเกิดเป็นพรหม และก็เป็นพรหมที่ขยันเกิดด้วย เพราะมีนิสัย ชอบยุ่ง ท่านถือว่า คนไทยที่มีน้ำใจดี เป็นคนของท่าน เป็นพี่เป็นน้องท่าน และท่าน ก็มาเกิดอีกครั้งในสมัย สมเด็จพระนารายณ์มหาราช มี นามว่า นายเหล็ก สมัยรัตนโกสินทร์ก็มาเกิดอีก แต่จะเป็นใครนั้นไม่รู้แล้วอย่างไรก็ดีขุนแผนหรือพยากาญจน์บุรี เป็นยอดวีรบุรุษของแผ่นดินสยามที่ลูกหลานคนไทยสมควรจะจดจำและน้อมรำลึกถึงวีรกรรมอันกล้าหาญและความเสียสละของท่านที่ทำหน้าที่ปกป้องบ้านเมืองไม่ให้ตกเป็นเมืองขึ้นของอริราชศัตรู ประกอบกับคุณงามความดีที่ท่านได้ปฏิบัติหน้าที่ราชการด้วยความสื่อสัตย์สุจริตเห็นแก่ประโยนชน์ของบ้านเมืองเหนือกว่าสิ่งอื่นใด ท่านเป็นทั้งนักรบที่เก่งกาจกล้าหาญ และเป็นนักรักที่น่าเคารพศรัทธา ใครที่เคยเข้าใจขุนแผนผิดได้อ่านบทความนี้แล้วแล้วก็ได้โปรดเข้าเสียใหม่ เพราะประวัติศาสตร์เรื่องจริง กับนิยายที่แต่งขึ้นภายหลังนั้นมันแต่งต่างกันมาก ให้ข้อสังเกตถึงบารมีของพ่อขุนแผนไว้อย่างหนึ่งคือ คำว่าขุนแผน ทุกคนที่เกิดมาเป็นคนไทยจะคุ้นหูกันดี ถึงแม้แต่คนที่ยังไม่รู้ข้อเท็จจริงว่าเรื่องราวของขุนแผนจริงๆเป็นอย่างไร หรือจะเข้าใจไปในแบบไหนก็ดี แต่ชื่อ “ขุนแผน” ก็ติดอยู่ในหัวใจคนใจคนไทย ตรงกับคำกล่าวที่ว่าคนไทยหัวใจขุนแผนยังไงละครับ รู้ความจริงแล้วหากใครศรัทธา ลองบูชาพ่อแผนด้วยความจริงใจ แล้วท่านจะพบกับสิ่งดีๆที่ท่านไม่เคยคิดมาก่อนเลยทีเดียว
    ที่มา http://palungjit.org/threads/เพียง๑๐๐บาทร่วมบุญปิดสมเด็จพระพุฒาจารย์โต๖๙นิ้ว.548123/
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 15 มิถุนายน 2015
  2. pongio

    pongio เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤษภาคม 2013
    โพสต์:
    843
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +6,850
    ขอแจมด้วยคน การชำระประวัติศาสตร์เป็นสิ่งดี

    บางระจัน ประวัติศาสตร์นอกคัมภีร์ -หลวงพ่อจรัญ ฐิตธัมโม

    อย่าให้เหมือนกรุงศรีอโยธยาราชธานี เมื่อ พ.ศ.๒๓๑๐ ประเทศไทยเข้ายุคนี้แล้ว เขายุค พ.ศ.๒๓๑๐ ก็ขอฝากข้อคิดเบื้องต้นไว้ ค่ายบางระจัน ๗-๘ ครั้ง ราษฎรสามัคคีกัน ชาวบ้านสามัคคีกันฆ่าแม่ทัพพม่าตายถึง ๗ คน โดยไม่มีฝีมือ แต่ใช้ฝีมือผู้หญิง ผู้หญิงเก่ง ต้องยกย่องผู้หญิง ผู้หญิงเป็นคนฆ่าแม่ทัพพม่าตายไม่ใช่นายจัน หนวดเขี้ยว ไม่ใช่หลวงสรรค์ พันเรือง แต่ต้องให้เกียรติผู้หญิง เพราะสามารถฆ่าแม่ทัพมีฝีมือของหงสาวดีได้ น่าจะตีความตรงนี้ ผู้หญิงทำงานสำเร็จได้เยอะ ทำไมดูถูกผู้หญิงนัก นี่จะเข้ายุคดูถูกผู้หญิง ทุกสิ่งจะไร้ความหมายขอฝากท่านไปคิดกันนะ

    อย่าดูถูกผู้หญิง คุณหญิงปล้อง อำเภอโคกทอง เรียกว่า อำเภอวิเศษไชยชาญหัวตะพานกบเจา พม่าฆ่าสามีเขาตาย สามีเป็นท่านขุนเป็นกำนัน ภรรยาผู้หญิงนุ่งผ้าตะเบงมานถือดาบ ๒ มือ รวมพลได้ ๔๐๐ สร้างวัดสี่ร้อยขึ้น อำเภอวิเศษไชยชาญหัวตะพานกบเจา อยากจะเรียนถามใครเป็นคนตั้ง จะให้รางวัล ๑๐๐ ล้าน จะยกโรงเรียนนี้ให้ ใครตอบได้ ใครเป็นคนตั้งอำเภอวิเศษไชยชาญ แต่ก่อนนี้ชื่ออำเภอโคกทอง ไม่ใช่อำเภอวิเศษไชยชาญ แต่คุณหญิงปล้องนำสมัครพรรคพวก ๔๐๐ คนตามพม่าไปค่ายบางระจัน ทำไมพม่าไปอยู่ค่ายบางระจันเพราะเหตุใด อย่าลืมนะคนไทยเป็นไส้ศึก ทูลเกล้าฯ พระเจ้าอยู่หัว ไม่ให้รบนะ นี่ไอ้พระยาพาล จะเข้ายุคพระยาพาลแล้วนะ อย่าพาลเชียวนะ เพราะจะเข้ายุคพระยาพาล ห้ามไม่ให้รบ พม่ายกมาบอกยังไม่พร้อม ให้ถอยหลังไปอยู่บางระจันก่อนจนกว่ากรุงศรีอยุธยาพร้อม แล้วให้เผากรุงศรีอยุธยาเสีย นี่คนไทยแท้ ๆ ก็ขอฝากไว้ในที่ประชุม

    เข้ายุคคนไทยเป็นอย่างนี้แล้ว อย่างลืมเศรษฐกิจตก นักบริหารโกงสะบัด แตกแยกกันเพราะดังกล่าวแล้ว วันนี้ต้องขอพูด วันนี้พูดไม่กลัวนะนี่เพราะมาพูดที่โรงเรียนของเราเอง เป็นอย่างนั้นนะกอบรัตน์ ผู้หญิงต้องเดินทางไปไม่ต้องใช้อะไรเลย นายจัน หนวดเขี้ยว หลวงสรรค์ พันเรือง เป็นผู้ใหญ่บ้าน กำนัน จะมีฝีมือรบหรือ ทำไมจะฆ่าแม่ทัพตายถึง ๗ ทัพ ครั้งที่ ๘ โดนเผาหมด ทำไมทหารสักคนออกมาช่วยไม่ได้ปืนกระบอกหนึ่งก็ไม่ให้ เพราะเหตุใด น่าจะตีความเพราะไอ้พระยาพาล อย่าให้มีพระยาพาลอยู่ได้ ปลูกเรือนอย่าคร่อมตอ จะเสียโอกาสและเวลา ทุกคนไม่รู้เลยหรือนี่ วันนี้มาแย้มพรายให้ฟังว่าตกยุคสมัยนั้น ๆ จะเข้ายุคนี้แล้ว ระวังนะอย่าแตกความสามัคคี จงรักสามัคคี สร้างความดีร่วมกัน อย่างแตกความสามัคคี ถ้าแตกแล้วโรงเรียนสร้างไม่ได้ มีเงินหมื่นล้านก็สร้างไม่ได้ อย่างลืมพี่น้องที่รัก ผู้หญิงหัวสมองใส แก้ไขปัญหาได้อย่างดี ผู้หญิงยกย่องกันบ้างไม่ได้หรือ ดีไม่ดีเดี๋ยวให้เป็นนายกไปเลยถ้าเขาตั้ง ทำไมเป็นไม่ได้ ผู้หญิงก็เป็นได้นี่ผู้หญิงหรือเปล่านี่ เห็นไหม ไม่เป็นหรือก็ดูมานานนะว่าผู้หญิงสามารถ ท่านนายกสมาคมว่าผู้หญิงสามารถไหม นั่นสามารถก็จริงปราดเปรื่องก็จริง แต่ใครเป็นผู้มีเมตตาสูงกว่านี้ตอบ ที่นั่งอยู่นี่ต้องตอบแบบนี้ อย่าตอบให้มันออกไปนอกทาง

    ขอฝากไว้ผู้หญิงก็มีพลังเหมือนกับผู้ชาย แต่แล้วคุณหญิงปล้องเดินตามไปสุพรรณบุรี ค่ายบางระจัน ทำไมฆ่าแม่ทัพได้ ใครฆ่าแม่ทัพตาย ๗ คน คำตอบคือผู้หญิง คือคุณหญิงปล้องไปบางระจันร้องเพลงอีแซว หัดเพลงอีแซว พวกคณาจารย์จำกันไว้บ้าง หัดเด็กร้องเพลงอีแซว พม่ายกมาเก่ง แต่แล้วผู้หญิงแต่งตัวสวย ๆ เอาเหล้า เห็ดเป็ดไก่เอาไปเลี้ยง เอามีดพกไว้ตรงนี้ แซว แซว ร้องเพลงอีแซว พม่าเขว พอพม่าเขวก็แทงคอ จึงเรียกเพลงพม่าเห่มาจนถึงทุกวันนี้ จำไว้เอาไปสอนกันบ้าง คนไทยอย่าหยิ่งโยโสแมลงป่อง เดี๋ยวนี้คนไทยเข้าสมัยกรุงศรีอยุธยาราชธานีแล้ว หยิ่งโยโสแมลงป่องด่ากันตลอด แตกความสามัคคีตลอด

    ท่านนายกสมาคมเชื่ออาตมา อาตมาคำนวณเก่ง แต่ไม่เก่ง องค์นี้เป็นลูกศิษย์ผู้คำนวณเก่ง แซวไปแซวมาฆ่าแม่ทัพตายกลับส่งมาใหม่อีกก็ตายอีก ร้องเพลงอีแซวเกิดขึ้นที่สิงห์บุรี บางระจัน คนแต่งเพลงอีแซวก็คืออำเภอโคกทอง ตาย ๗ คน แต่คนที่ ๘ ไม่ตาย ไอ้รามัญไปรับอาสาหงสาวดีมาทำลายค่ายบางระจัน ถ้าทำลายได้จะตั้งเป็นหัวหน้ากอง ทำลายได้ผู้หญิงมีจุดอ่อน ทำลายที่ผู้หญิง ผู้หญิงมีจุดอ่อน อย่าลืมขอฝากพวกโยมผู้หญิง นี่จุดอ่อนของลูกผู้หญิงคือหึงหวง แหย่ให้หึงหวงเขาเลิกเลยแหย่กลับไปเลย ผู้หญิงมีจุดอ่อนคืออารมณ์ไหวติง โยมผู้หญิงถ้าไม่ไหวติง เข้มแข็งอดทนรับรองเก่งกว่าผู้ชาย ผู้หญิงอ่อนไหวติง กระทบไม่ได้ โกรธ ถ้าผู้หญิงเข้มแข็งอดทนรับรองผู้ชายสู้ไม่ได้ เพลงอีแซวเกิดขึ้นบางระจัน จำไว้ด้วยดอกเตอร์จำไว้นะ จะได้ไปสอนนิสิต นักศึกษาได้สอนให้มันตรงเป้า

    เลยสรุปใจความเพื่อให้ไม่เสียเวลา พระเจ้ากรุงธนบุรี ก็กลับมากู้กรุงศรีอยุธยาได้จึงตั้งอำเภอโคกทองเป็นอำเภอวิเศษไชยชาญหัวตะพานกบเจา พระเจ้ากรุงธนบุรีผู้ตั้ง หลักฐานที่วัดมี ตอบไม่ได้หรือ ไม่รู้มีมานาน อำเภอโคกทองมีทองเยอะเลย พระเจ้ากรุงธนบุรีชนะทัพแล้วก็ว่าสำคัญที่สุดเป็นด่านพม่าเข้าสู่บางระจัน อำเภอวิเศษไชยชาญ ชาญชัยจากผู้หญิง อำเภอวิเศษไชยชาญหัวตะพานกบเจา ยังมีเรื่องอีกเยอะ เดี๋ยวจะเสียเวลา เราไม่ใช่มาพูดเรื่องนี้ แต่มาพูดน้อมให้นึกถึงอดีตว่าจะเป็นแบบกรุงศรีอยุธยาราชธานีแตกทัพ ประเทศจึงเศรษฐกิจตก ตกเพราะแตกความสามัคคี จำไว้เอาไปสอนอย่าแตกความสามัคคี รักกัน ผูกพันกันหน่อย.

    https://www.youtube.com/watch?v=DkubV5pj3h0
     

แชร์หน้านี้

Loading...