เผย...ดินแดนกุมความลับ

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย พระวิชช, 17 สิงหาคม 2012.

  1. พระวิชช

    พระวิชช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    7
    ค่าพลัง:
    +121
    ธรรมสวัสดี...อาตมาเข้ามาอ่านพลังจิตนานแล้วตั้งแต่ยังเป็นวัยรุ่นนักศึกษา อยากแบ่งปันเรื่องราวที่บางท่านยังไม่รู้...แผ่นดินธรรมที่​เลตองคุ​

    ​ป่าทุ่ง​ใหญ่​นเรศวร​ ​ป่าห้วยขา​แข้ง​ ​และ​ป่าอุ้มผาง​เป็น​ผืนป่าขนาด​ใหญ่​ติดต่อ​กัน​ ​ที่​ใหญ่​ที่สุด​ ​และ​อุดมสมบูรณ์ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก​
    ​มี​ความ​ลี้ลับน่าพิศวงมากมายซ่อนตัว​อยู่​ภาย​ใน​ป่าทึบผืน​ใหญ่​แห่งนี้​
    ​ยิ่ง​ส่วน​ใน​สุดของผืนป่า​ใหญ่​ที่ติดชายแดนประ​เทศพม่านับ​เป็น​ดินแดนที่ห่าง​ไกล​จาก​ความ​เจริญ​หรือ​ไกล​ปืนเที่ยงมากที่สุดของประ​เทศ​
    ​พืชพรรณ​และ​สัตว์ป่าหลากชนิดหลายพันธุ์ที่มนุษย์​ไม่​เคยพบเห็น​ ​ดำ​รงชีพ​อยู่​สงบสุข​ใน​ป่า​ใหญ่​
    ​เช่นเดียว​กับ​คนที่นี่​ซึ่ง​เป็น​คนป่า​เขา​ที่อาศัย​อยู่​บริ​เวณนี้มาหลายร้อยพันปี​แล้ว​ ​พวก​เขา​เป็น​ชาว​เขา​เผ่ากะ​เหรี่ยงที่มีวิถีชีวิต​ ​ความ​เป็น​อยู่​และ​ความ​เชื่อ​ ​แตกต่าง​จาก​สังคมภายนอก​เป็น​ลักษณะ​เฉพาะของตนเองที่บริสุทธิ์ปราศ​จาก​การแต่งเติมของอารยธรรม​ ​ความ​เจริญ​จาก​นอกชุมชน​

    ​ที่นี่คือบ้าน​ ​เลตองคุ​ ​อำ​เภออุ้มผาง​ ​จังหวัดตาก​

    ​ดินแดนลี้ลับสุดแดนสนธยา​ ​เล่า​กัน​มาว่า​ความ​เป็น​อยู่​ผิดแปลก​จาก​ชนเผ่า​อื่น​ ​เพราะ​ปกครอง​โดย​ฤาษี​
    ​เรา​เดินทะลุป่าทุ่ง​ใหญ่​นเรศวร​ ​ข้ามทิว​เขา​ลูก​แล้ว​ลูกเล่าพักแรมตามหมู่บ้านกะ​เหรี่ยงบ้าง​ ​พักแรมกลางป่าบ้าง​ ​เพื่อไปรู้จักชีวิตกลางป่าที่บ้าน​ ​เลตองคุ​
    ​บ้านเลตองคุ​ ​เป็น​หมู่บ้านขนาดกลาง​ ​มี​ 100 ​กว่าหลังคา​เรือน​ ​ประชากรประมาณ​ 500 ​คน​ ​แยก​เป็น​กลุ่มบ้าน​เล็ก​ ​ๆ​ ​ได้​ 8 ​กลุ่ม​
    ​ชาวบ้าน​ทั้ง​หมด​เป็น​ชาวกะ​เหรี่ยง​ ​มี​ทั้ง​กะ​เหรี่ยงสะกอ​ ​ที่​เรียกตนเองว่า​ "ปกา​เกอะญอ" ​และ​กะ​เหรี่ยงโปที่​เรียกตนเองว่า​ "​โผล่ว" ​อยู่​ปะปน​กัน​
    ​ชาวบ้านพูด​ได้​ทั้ง​ภาษากะ​เหรึ่ยงสะกอ​และ​กะ​เหรี่ยงโป​ ​น้อยคนนักที่พูดภาษา​ไทย​ได้​
    ​ผู้​ชาย​ไว้​ผมยาว​ ​แล้ว​มัด​เป็น​มวย​ไว้​เหนือศีรษะ​ ​ด้านหน้า​ ​ส่วน​ผู้​หญิงมัด​เป็น​มวย​ไว้​ที่ศีรษะด้านหลัง​
    ​ผมที่​ไว้​ยาว​แล้ว​มัด​เป็น​มวย​ ​เป็น​เสมือนศรัทธามั่นคงเหนือเกล้า​เหนือกระหม่อม​ ​ต่อ​ความ​เชื่อที่มี​แต่ยืดยาวออกไป​ ​โดย​ไม่​มีการบั่นทอน​ให้​ลดน้อย​หรือ​สั้นลง​
    ​ผู้​หญิงนุ่งชุดกะ​เหรี่ยง​ ​หาก​เป็น​หญิงสาว​จะ​นุ่งชุดทรงกระสอบยาวสีขาว​ ​หากแต่งงาน​แล้ว​จะ​นุ่งผ้าถุง​และ​เสื้อกะ​เหรี่ยง​ ​ซึ่ง​โดย​มาก​เป็น​สี​แดง​ ​ส่วน​ผู้​ชายนุ่งผ้าผืนแบบผ้าขาวม้าสี​เขียว​ ​เสื้อ​เป็น​แบบผ่าอกตลอดแบบเสื้อเชิ้ต​
    ​เสื้อผ้า​ไม่​ใช่​เพียงเครื่องห่อหุ้มร่างกาย​ ​หากหมายรวม​ถึง​สัญลักษณ์อัน​เป็น​เอกลักษณ์ของชายเลตองคุ​ ​ที่มี​ความ​เชื่อแน่วแน่มั่นคงเช่นเดียว​กัน​ ​ผู้​ถือปฎิบัติ​ใน​ลัทธิฤาษี​ ​จะ​แต่งกาย​ให้​ถูก​ต้อง​ตามธรรมเนียมประ​เพณี​

    ....คนกะเหรี่ยงในทุ่งใหญ่รู้ว่าวันหนึ่ง ทุ่งใหญ่จะมีเหตุการณ์สงครามมากระทบ เพราะเกิดภัยพิบัติ และดินแดนทุ่งใหญ่จะกลายเป็นเมือง...ในตำนานชาวป่ากะเหรี่ยงกล่าวไว้ วันข้างหน้า พญานกยูงจะกางปีกแผ่ขยายยังแดนส้งปะไต(สัมปัตติปริเวณ)คือทุ่งใหญ่ นายพรานจะยิงธนูที่สามารถยิงได้ครั้งละมากๆเป็นดั่งฝน และน้องคนสุดท้องผิวขาว จะกลับมาหาพี่ชาย(กะเหรี่ยง)เพื่อคืนหนังสือแผ่นสีทองให้... ตำนานหรือเรื่องจริงคนในทุ่งใหญ่เท่านั้นที่พิสูจน์ถึงความลี้ลับได้
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  2. Allymcbe222

    Allymcbe222 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    547
    ค่าพลัง:
    +1,445
    ผมชอบป่าครับ
     
  3. tippawanJr

    tippawanJr เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    45
    ค่าพลัง:
    +165
    เป็นเรื่องที่น่าสนใจมาก อยากขอความกรุณาท่านเล่าต่อค่ะ
     
  4. baimaingam

    baimaingam เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    634
    ค่าพลัง:
    +880
    ป่ามีสิ่งที่ให้เรียนรู้มากมายครับ...
     
  5. หนูนะ

    หนูนะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    41
    ค่าพลัง:
    +199
    เชื่อว่าในป่ามีสิ่งเร้นลับมากมายค่ะ แต่ไม่เข้าใจความหมายตอนท้ายแปลว่าอะไรคะ
     
  6. Prophecy

    Prophecy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 เมษายน 2012
    โพสต์:
    1,221
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +7,605
    สาธุ ที่ชนบทๆ เงี่ยบสงบ ดีแล้ว เดี๋ยวนี้หายาก เกรงว่าดังเมื่อไหร่ คนจะแห่เข้าไป แล้วจะเละเทะในเวลาอันรวดเร็ว เหมือนหลายๆ ที่ๆ เคยสงบ
     
  7. deelek

    deelek เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    6,696
    ค่าพลัง:
    +16,254

    [​IMG]

    สั่งบูรณะด่วน'พระปรางค์วัดอรุณ'<!-- google_ad_section_end -->
    ทั้งนี้หากประชาชนอยากที่จะมีส่วนร่วมบูรณะโบราณสถาน
    สามารถสมทบทุนเข้า กองทุนเพื่อการบูรณะโบราณสถาน
    เลขที่บัญชี 081-0-09603-6 ธนาคารกรุงไทย สาขาราชดำเนินได้"
    <!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- / message --><!-- sig -->__________________
    <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->
     
  8. Nat Simon

    Nat Simon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 เมษายน 2010
    โพสต์:
    128
    ค่าพลัง:
    +172
    Interesting place...
     
  9. a5g1aeka

    a5g1aeka เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    728
    ค่าพลัง:
    +1,578
    ขอบคุณ จขกท.ครับ น่าจะมีรูปให้ชมเกี่ยวกับเผ่ากะเหรี่ยง เพราะที่บรรยายมา คล้ายกับเผ่ามงโกล เรื่องทรงผมชาย เคยคุยกับชาวจีนที่มาจากมณฑลยูนาน ว่ากะเหรี่ยงเป็นชนเดียวกับเผ่ามงโกล ที่อพยพมาอยู่แดนสุวรรณภูมิส่วนหนึ่ง เพื่อหนีสงคราม เผ่าย่อยพวกนี้เขารักสงบ จากที่บอกมีฤาษีปกครอง น่าจะจริง จึงแสดงความเห็นที่ทราบมาครับ...จะคอยติดตามครับ...
     
  10. singhol

    singhol เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    1,376
    ค่าพลัง:
    +1,940
    แปลกแต่จริงนะครับ.....
     
  11. Gearknight

    Gearknight เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มกราคม 2008
    โพสต์:
    107
    ค่าพลัง:
    +234
    อย่าเล่าต่อเลย บอกตรงๆ ถ้ามีคนต้องการไปจะยุ่งกันใหญ่
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 สิงหาคม 2012
  12. Delio

    Delio เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    175
    ค่าพลัง:
    +211
    นกยูง = สัญลักษณ์ของพม่า
    น้องคนสุดท้องผิวขาว = อเมริกา / นางอองซานซูจี เป็นลูกคนเล็กของนายพลอองซาน
    นายพราน = ทหาร / นักการเมือง
    ธนูมากมาย = กระสุน จรวด / เงินซื้อเสียง
    แผ่นทอง = รางวัลโนเบลที่นางอองซานซูจีได้รับ / อิสรภาพ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 สิงหาคม 2012
  13. Delio

    Delio เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    175
    ค่าพลัง:
    +211
    นกยูง = พม่า
    น้องคนสุดท้องผิวขาว = อเมริกาทิ้งบอมที่ญี่ปุ่น อังกฤษคืนดินแดนให้หลังจากสงครามโลกครั้งที่ 2
    นายพราน = ทหารญี่ปุ่น
    ธนูมากมาย = ระเบิดนิวเคลียที่ฮิโรชิม่า
    แผ่นทอง = อิสรภาพที่อังกฤษคืนให้
     
  14. nikorn99

    nikorn99 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2012
    โพสต์:
    36
    ค่าพลัง:
    +100
    โอ้ววว แค่นี้เองเหรอครับ ผมตั้งใจอ่านมาก มาสะดุดหัวทิ่มเลยครับ
     
  15. ติงติง

    ติงติง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    38,272
    ค่าพลัง:
    +82,730
    น่าสนใจมากเจ้าค่ะ ยังกะนวนิยายที่เคยอ่านสมัยยังเด็ก
    คิดว่าประเทศเรายังมีดินแดนที่ลึกลับอยู่อีก....
     
  16. Moderator6

    Moderator6 ทีมผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    1,354
    ค่าพลัง:
    +3,721
    [​IMG]

    โดยธงชัย เปาอินทร์ เรื่อง-ภาพ​
    จาก http://thongthailand.igetweb.com/articles/41984552/ฤาษีแห่งเลตองคุ7.ฤาษี ตำนานที่เป็นจริง .html

    ผมพาพี่น้องวนเวียนเพื่อให้รู้จักหมู่บ้านเลตองคุ โรงเรียนตำรวจตระเวณชายแดน ผู้คนที่แตกต่างและคล้ายคลึง วัฒนธรรมการแต่งกายของกะเหรี่ยงเลตองคุ แม้แต่อาชีพที่เป็นเอกลักษณ์สำคัญของกะเหรี่ยง ชนเผ่าที่ทำกินบนผืนดินในรูปแบบ ไร่หมุนเวียน และสวนผสม แต่ใครที่ติดตามอ่านก็คงอยากจะรู้ว่า ฤาษี มีจริงๆไหม ทำไมยังไม่เปิดตัวตนสักที เลี้ยงไข้อยู่ได้
    แต่ผู้อ่านของทองไทยแลนด์ [Engine by iGetWeb.com] มารยาทเยี่ยมเลย เงียบ รออ่านอย่างสงบ จนผมรู้สึกว่า น่าจะต้องถึงตอนพระฤาษีเสียที ทั้งนี้ก็ด้วยว่าอยากให้รู้จักหมู่บ้านนี้อย่างแจ่มแจ้งแดงแจ๋ครับ
    [​IMG]
    ฤาษีองค์ปัจจุบันต้องสละชีวิตอยู่เป็นโสดไปจนตาย​
    เราทราบกันแล้วนะครับว่า พี่น้องกะหรี่ยงบ้านเลตองคุ ตำบลแม่จัน อำเภออุ้มผาง เป็นกะเหรี่ยงที่นับถือ "ลัทธิฤาษี" มีสำนักฤาษีเปรียบเสมือนวัดในพุทธศาสนา ถือปฏิบัติตามคำสอนของฤาษี อันประกอบด้วยบัญญัติ 10 ประการเป็นหลักชัย ดุจเดียวกับที่พุทธศาสนิกชนถือเอาพระไตรปิฎกเป็นสรณะ
    [​IMG]
    บัญญัติ 10 ประการของลัทธิฤาษี​
    ศาสดาของฤาษีไม่มีตัวตน การสืบทอดตำแหน่งของฤาษีเป็นนิมิตของฤาษีองค์ก่อนเป็นผู้กำหนดและจะบอกเมื่อ ถึงเวลาเหมาะสม ฤาษีแห่งเลตองคุสืบทอดต่อๆกันมา 9-10 องค์ แต่ก็ไม่มีบันทึกเป็นลายลักษณ์อักษรที่ชัดเจน เคยมีองค์ฤาษีพยายามที่จะส่งเยาวชนไปเรียนหนังสือไทยเพื่อจดบันทึกและสื่อ สารกับคนไทยได้แต่กลับผิดหวังด้วยว่าถูกรังเกียจ จึงสาบานว่าจะไม่ส่งไปเรียนภาษาไทยอีก
    แต่ได้หันไปเรียนถึงพม่าๆปฏิเสธอีก จึงได้พระมอญรับสอนหนังสือให้ กะเหรี่ยง 3 คนนั้นจึงได้บวชเป็นสามเณรห่มเหลือง และเมื่อกลับไปยังเลตองคุก็ทำให้ฤาษีคิดจะห่มเหลืองตามไปด้วย แต่ว่า เมื่อไม่มีนิมิตก็เปลี่ยนไม่ได้ จึงนุ่งห่มด้วยชุดเชวาสีขาวขลิบสีชมพูตราบเท่าทุกวันนี้
    [​IMG]
    อาศรมองค์ฤาษี​
    ฤาษี ตรงกับภาษาบาลีว่า อิสิ แปลว่าผู้แสวงธรรม ซึ่งเป็นผู้นำจิตวิญญาณและความเชื่อ
    ฤาษี ในความหมายของคนไทยเข้าใจว่าเป็นนักบวชนอกศาสนาผู้ที่นิยมห่มเหลืองลายเสือชอบอยู่บำเพ็ญเพียรในป่าดงพงไพร
    ฤาษี ในพาราณสี ประเทศอินเดีย เป็นนักบวชที่ห่มผ้าอย่างชาวอินเดีย แต้มหน้าผากด้วยสีแดง ถือขันรับบริจาคจากผู้ใจบุญ ยืนให้ถ่ายรูปเพื่อแลกกับเศษเงินตอบแทนตามบันไดทางขึ้นท่าเรือแม่น้ำคงคา บำเพ็ญเพียรด้วยการนั่งสมาธิ ฯลฯ
    [​IMG]
    จุดไหว้ที่2.​
    ตำนานฤาษีแห่งเลตองคุ เป็นเพียงการเล่าขานสืบต่อกันมา จึงอาจไม่ชัดเจนและสับสน อ่านเพื่อรู้มิได้ทำการศึกษาพฤติกรรมความเชื่อของลัทธิฤาษี ก็ขอให้ทำใจสักนิดนะครับ เรื่องเล่าขานสืบต่อกันมาคือ กะเหรี่ยงแห่งเลตองคุเรียกฤาษีด้วยคำนำหน้าว่า พืออิสิ............ตามด้วยชื่อของท่าน
    [​IMG]
    จุดไหว้ที่1​
    เรียงลำดับตามที่ค้นหาได้คือ ฤาษีองค์ที่ 1. พืออิสิ กว่อแว ถูกพม่าฆ่าตาย องค์ที่2. พืออิสิโจ่วยุ องค์นี้ต่อสู้กับพม่าจนในที่สุดกระโดดเข้ากองไฟฆ่าตัวตายประท้วงผู้รุกราน องค์ที่ 3. พืออิสิ แจเบอะ องค์ที่4. พืออิสิ เสาะเจี้ยะ
    [​IMG]
    เครื่องเซ่นไหว้​
    องค์ที่5. พืออิสิ แจะแป๊ะ องค์นี้ที่เคยส่งลูกศิษย์ไปเรียนภาษาไทยแล้วถูกรังเกียจจึงส่งไปพม่า แต่ได้เรียนกับพระมอญ เพื่อให้กลับมาจดบันทึกเรื่องราว องค์ที่ 6.พืออิสิ เจ๊ะเคาะ ตามรูปร่างของท่านที่ขาเป๋ องค์นี้มีช้างแสนรู้อยู่ที่สำนัก เมื่อตายลงจึงได้ส่งงาช้างไปแกะสลักรูปพระพุทธรูปทั้งงา
    [​IMG]
    สะพานสวรรค์​
    องค์ที่ 7. พืออิสิ เสาะเทีย นิมิตว่าชุดเสื้อผ้าที่พวกเราชาวกะหรี่ยงสวมใส่กันอยู่นี้ไม่ใช่ของเรา เขาจะมาเอาคืน จึงห้ามใส่เสื้อที่ถักทอเป็นตาตารางเหมือนทุ่งนา ได้สวมใส่ชุดขาวเชวาเหมือนปัจจุบันนี้
    องค์ที่ 8. พืออิสิ แจะยะ ซึ่งมาจากบ้านหม่องกั๊วะแต่เด็กโดยได้เข้ามาเป็นลูกศิษย์ของพืออิสิ เสาะเทีย ก่อนตายได้สั่งว่า แจะยะ จะสืบทอดต่อ สมัยแจะยะมีคนล้มตายมาก จึงขอสึกไปมีเมียและลูก
    [​IMG]
    องค์ที่ 9. พืออิสิ มอแน่(มุเจ) สมัยนี้ได้นิมิตให้ทุกคนกินมังสวิรัติ(กินเจ) ทุกวันนี้มีชาวกะเหรี่ยงบ้านเลตองคุกินมังสวิรัติ 140 หลังคาเรือน ไม่กินมังสวิรัติ 40 ครอบครัว
    ตำนานพืออิสิของลัทธิฤาษีสับสน มีชื่อพืออิสิอีก 2 รายที่ไม่รู้ว่ามาจากไหน พืออิสิเลอช่วย พืออิสิ เผอแตะ ดังนั้นตำนานก็คือตำนาน มีทั้งเรื่องจริงและเรื่องเล่าขานกันมา อาจผิดถูกได้ทั้งสองอย่าง
    [​IMG]
    ศาลางาช้างแกะสลักรูปพระพุทธเจ้าทั้งงา ​
    ประเพณีที่ลัทธิฤาษีถือปฏิบัติก็มีมากมายหลายประการ อาทิเช่น ประเพณีสรงน้ำองค์ฤาษีในวันสงกรานต์ วันนั้น พี่น้องชาวกะเหรี่ยงบ้านเลตองคุได้แต่งตัวงดงามตามวัฒนธรรมของชนเผ่า อุ้มลูกจูงหลานเดินกันไปที่สำนักฤาษี เครื่องบูชาก็มีจำพวกอาหารมังสวิรัติ ขนมหวานใส่สีสวยงาม เด็กๆผู้หญิงจะเทินหัวเพื่อไปถวายให้องค์ฤาษีและสามเณร
    [​IMG]
    เครื่องเซ่นบนศาลางาช้าง​
    ฤาษีจะนุ่งห่มด้วยชุดเชวาสีขาวขลิบชมพู คาบไปป์สูบบุหรี่ตลอดเวลา นั่งอยู่บนสำนักนิ่งสงบ มองสาวกไปทั่วๆ สามเณรนั่งหลบๆอยู่ในสำนัก สวมเสื้อเชิ้ตแขนยาวก็มี ไม่สวมเสื้อเลยก็มี แต่ขมวดมวยผมไว้บนกระหม่อมด้านหน้าเรียบร้อย สวมโสร่งสีพื้นๆตามชอบ
    [​IMG]
    องค์ฤาษีและมรรคนายก นั่งกินหมากกันเพลิน​
    ต่ำลงมาอีกนิดเป็นสาวกใกล้ชิด เหมือนมรรคนายกของวัดพุทธ ผู้ใหญ่บ้านนั่งรวมอยู่ในกลุ่มนี้ด้วย ถือเป็นสภาผู้แทนของสำนักเช่นนั้น แต่ละคนมีหมากให้กินกันไม่ขาดปาก กลุ่มมรรคนายกจะมีอยู่ราวๆ 10-15 คน
    [​IMG]
    สาวกในศาลาโรงทาน คณุต.ช.ด.และบก.เสียงตาก​
    ถัดลงมาเป็นสาวกอีกระดับหนึ่ง ทุกคนเป็นผู้ชายทั้งสิ้น มีร่องกั้นระหว่างสาวกชายและสาวกหญิง เหล่าหญิงสาวทั้งแม่บ้านแม่เรือน และเด็กสาวเด็กหนุ่ม นั่งปะปนกันด้วยท่าทีสงบ เรียบร้อย เหมือนเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้าของเขา
    [​IMG]
    ตรงกลางศาลาโรงทาน มีโต๊ะกลมวางอาหารหวานคาวไว้ให้ทุกคนนำมาถวายและตักกินได้ตลอดเวลา เป็นทานอย่างหนึ่งที่ร่วมใจกันสร้างให้เป็นกติกาของชุมชน รอบนอกหนุ่มสาวนั่งกันบ้างยืนกันบ้าง
    เหล่ามรรคนายกได้นำทำพิธีไหว้ 7 สถานศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งประกอบด้วยศาลางาช้างซึ่งเป็นศูนย์กลางของพิธีทำบุญและสวดมนต์
    จุดไหว้ที่ 1. สัญลักษณ์ของการเกิด เป็นจุดที่ปักไม้ไผ่ลำเล็กๆไว้โดยมีหินล้อมรอบ
    [​IMG]
    กล่มฤาษีหนุ่ม ไม่สวมเสื้อ​
    จุดไหว้ที่ 2. เรือนบริสุทธิ์ อันเป็นที่นอนขององค์ฤาษีตอนกลางคืน โดยก่อนนอนจะหวีผมเรียบร้อยพร้อมกับล้างหน้าล้างเท้าก่อนเข้าเรือน มีลูกศิษย์นอนอยู่ด้วย4-5 คน กลางเรือนมีกองไฟก่อไว้ตลอดเวลาไม่มีการปล่อยให้ดับ
    จุดไหว้ที่ 3. เสาไม้ติดแผ่นไม้สำแดงตัวตนแห่งพระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์
    จุดไหว้ที่ 4. เป็นเสาไม้แทนพระรัตนตรัย
    [​IMG]
    อาหารหวานคาวในโรงทาน​
    จุดไหว้ที่ 5. เรือนงาช้าง พระพุทธรูป ศูนย์รวมสำคัญของสำนักฤาษี
    จุดไหว้ที่ 6. เป็นหีบเก็บพระไตรปิฎกกราบไหว้ขอพรและสิ่งที่ดีงาม
    จุดไหว้ที่ 7. เป็นประตูเทวดา ทำด้วยไม้ท่อน 2 ท่อนวางเรียงกัน แต่ไม่ติดกัน เพื่อให้ดักคนเลวลงนรกไป ณ จุดนี้ถือว่าเป็นสะพานเชื่อมต่อที่เทวดาจะมารับคนดีสู่สวรรค์
    [​IMG]
    ก่อนเข้าเขตสำนักฤาษีต้องถอดรองเท้าออก ล้างเท้าแล้วเดินเข้าไปตามร่มศาลาทางเดิน ได้ผ่านเรือนบริสุทธิ์อันเป็นที่พักของฤาษีตอนกลางคืนเรือนเก็บอุปกรณ์ของ การเกษตรกรรมและอุปกรณ์ของช้างของสำนัก ระหว่างปากทางเข้าเขตสำนักจะมีทางเดินมุงหลังคา ราดปูนซีเมนต์ไปจนถึงศาลาหน้าอาศรมฤาษี
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 สิงหาคม 2012
  17. Moderator6

    Moderator6 ทีมผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    1,354
    ค่าพลัง:
    +3,721
    [​IMG]
    กล้วยคือผลไม้หลักที่นิยมนำมาถวาย​
    เมื่อถึงเวลาสรงน้ำองค์ฤาษี ๆจะเดินไปที่ส่วนปลายของท่อไม้ไผ่ รองน้ำที่หยาดมาจากต้นรางไม้ไผ่ด้วยน้ำสะอาดของสาวก ถือเป็นการสรงน้ำองค์ฤาษีในวันสงกรานต์ หลังจากนั้นชาวกะเหรี่ยงฤาษีก็จะรดน้ำดำหัวขอพรกันตามธรรมเนียมปฏิบัติ เป็นที่สนุกสนาน
    [​IMG]
    สาวน้อยเทินหม้อขนมไปถวายฤาษี​
    ส่วนงานบุญตามประเพณีอื่นๆก็เช่นบุญเข้าพรรษา บุญออกพรรษา บุญบูชาไฟเพื่อรำลึกถึง พืออิสิ โจ่วยุ ผู้กระโดดเข้ากองไฟฆ่าตัวตายประท้วงพม่า ในชุมชนคนกะเหรี่ยงลัทธิฤาษีเหล่านี้ ส่วนวัฒนธรรมประเพณีการสู่ขวัญข้าว สู่ขวัญไร่สวน และเรือนที่อยู่อาสัยนั้นไม่มีโอกาสได้เห็น จึงไม่มีเรื่องราวมาเล่าสู่กันอ่าน
    [​IMG]
    สรงน้ำองค์ฤาษี​
    เช่นเดียวกับวัฒนธรรมประเพณีเกี่ยวกับการแต่งงาน การคลอดลูก การทำบุญบ้าน การแสดงความเคารพผู้ตาย หากมีโอกาสคงได้นำมาเล่ากันอ่านต่อไป ขึ้นอยู่กับว่าจะได้เดินทางเข้าไปที่เลตองคุอีกไหม กะเหรี่ยงที่อื่นๆจะเหมือนกันไหม แต่ที่แน่นอนเลย ตั้งแต่เข้าไปในหมู่บ้านเลตองคุไม่เห็นสัตว์เลี้ยงใดๆเลย มีแต่หมา
    [​IMG]
    ไม่ได้เห็นเป็ดไก่หมู เลี้ยงหรือปล่อยใดๆ อันน่าจะเป็นผลพวงมาจากบัญญัติข้อที่1. แต่น่าแปลกที่อนุญาตให้กินสัตว์เหล่านี้จากป่าดงพงไพรได้ ตื่นขึ้นมาฟ้าแจ้งจางปางจึงไม่มีเสียงไก่ป่าหรือไก่บ้านขานขันแต่อย่างใดเลย อาหารประเภทเนื้อสัตว์ที่ได้รับอนุญาตให้กินได้ก็เป็นปลาไม่มีเกล็ด เช่นปลาดุก ปลาเทโพ ปลาสวาย ในลำห้วยที่ไหลผ่านหมู่บ้านไม่มีร่องรอยการใช้อุปกรณ์ดักเช่นลอบหรือตาข่าย
    [​IMG]
    กะเหรี่ยงเลตองคุสาวกกำลังเดินมาสำนักฤาษี​
    แม้แต่นก หนู ไน่ กระรอก กระแต เก้ง กวาง ฯลฯ ก็ไม่ได้พบเห็นเลย เป็นป่าดงพงไพรพิสดารที่ปราศจากสรรพชีวิต มีแต่ต้นหมาก ต้นมะพร้าว มะไฟ มะปริงต้น แม้กระทั่งบุคคลภายนอกหากนำเนื้อสัตว์เข้าไปในหมู่บ้านก็ไม่ได้ ต้องแยกไปกินกันที่โรงเรียนแค่นั้น เป็นกติกาที่ชนกะเหรี่ยงเชื่อมั่นตามลัทธิบัญญัติ “เคร่ง” อ้อ ฤาษีแห่งเลตองคุทำมาหาหกินเหมือนสาวกทุกคนเช่น ทำนา ปลูกผัก ผลไม้ ไว้รับประทานเอง ไม่ได้รอแต่การตักบาตรอย่างพระสงฆ์
    [​IMG]
    หนุ่มๆเข้าสำนักฤาษีต้องใส่ชุดเชวาสีขาว​
    [​IMG]
    หญิงสาวและแต่งงานแล้วเข้าเฝ้าในอาศรม​
    [​IMG]
    โรงเรือนอุปกรณ์การเกษตรและช้าง​
    [​IMG]
    เหล่าฤาษีหนุ่มแห่งบ้านเลตองคุ​
    [​IMG]
    พิธีกรรมไหว้จุดต่างๆ​

     
  18. ลี้ท่ำฮวย

    ลี้ท่ำฮวย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    53
    ค่าพลัง:
    +178
    แปลกใจ ที่บัญญัติของฤาษี เหตุใดจึงเขียนเป็นภาษาไทย ทั้งที่ชาวบ้านส่วนใหญ่อ่าน พูดภาษาไทยไม่ได้?
     
  19. ทามาก็อต

    ทามาก็อต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2012
    โพสต์:
    78
    ค่าพลัง:
    +359
    แม้วัตถุไม่เจริญ แต่จิตใจของคนกลุ่มนี้เจริญกว่าเรามาก สาธุด้วยครับ
     
  20. ตาลเดี่ยว

    ตาลเดี่ยว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    195
    ค่าพลัง:
    +425
    ขอขอบคุณทุกๆท่านที่ได้นำความรู้ใหม่ๆมาบอกให้ได้ทราบ ทำให้รู้ว่าแม้ในป่าใหญ่ก็ยังมีหมู่บ้านและชุมชนที่รักสงบ ยังใสซื่อ ไม่มีเลห์เหลี่ยมมากเหมือนคนในเมืองบางคนครับ:cool:
     

แชร์หน้านี้

Loading...