เปิด4วัน-รุดสักการะ 8หมื่นคน! เผยพิธีปัณรสมวาร

ในห้อง 'ข่าวทั่วไป' ตั้งกระทู้โดย สังขารไม่เที่ยง, 14 มกราคม 2008.

  1. สังขารไม่เที่ยง

    สังขารไม่เที่ยง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    5,943
    ค่าพลัง:
    +24,697
    เปิด4วัน-รุดสักการะ 8หมื่นคน! เผยพิธีปัณรสมวาร

    ในหลวงเสด็จวันที่16มค. ทำบุญ15วัน-พระพี่นางฯ




    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]
    กราบพระศพ- พสกนิกรรอเข้าถวายสักการะพระศพสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท เมื่อวันที่ 13 ม.ค. อย่างเนืองแน่นเป็นพิเศษ โดยมีจำนวนถึงกว่า 2 หมื่นคน


    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    ประชาชนชาวไทยยังคงเข้าคิวต่อแถวเข้าถวายสักการะพระศพสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ อย่างเนืองแน่นตลอดทั้งวัน จนเจ้าหน้าที่สำนักพระราชวังต้องเปิดให้เข้าพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาทเร็วขึ้นชั่วโมงครึ่ง เผยยอดเข้าสักการะพระศพเฉพาะวันที่ 13 มิ.ย. วันเดียวรวม 2.6 หมื่นคน รวม 4 วันเกือบ 8 หมื่นคน แพทย์หลวงเตือนผู้ที่จะมาสักการะพระศพควรเตรียมร่างกายให้พร้อม เพราะจะต้องเข้าแถวรอท่ามกลางอากาศร้อนเป็นชั่วโมง ด้านสำนักพระราชวังแจ้งหมายกำหนดการพระราชพิธีพระศพครบ 15 วันหลังสิ้นพระชนม์ เผย"ในหลวง-พระราชินี"เสด็จฯพิธีปัณรสมวารวันที่ 16 ม.ค.นี้

    -"พระบรมฯ"เสด็จบำเพ็ญพระกุศล

    เมื่อเวลา 06.57 น. วันที่ 13 ม.ค. สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราช ดำเนิน ยังพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลถวายภัตตาหารเช้าแด่พระภิกษุสงฆ์ วัด สุทัศนเทพวราราม และวัดประยุรวงศาวาส ในพระพิธีธรรมสวดพระอภิธรรมพระศพ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์

    เวลา 11.00 น. สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วย พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา ยังพระ ที่นั่ง ดุสิตมหาปราสาท เพื่อทรงบำเพ็ญพระราชกุศลถวายภัตตาหารเพลแด่พระภิกษุสงฆ์วัดอนงคาราม และวัดระฆังโฆสิตาราม ในพระพิธีธรรมสวดพระอภิธรรมพระศพ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์

    ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสำหรับบรรยากาศการเดินทางเข้าสักการะพระศพ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ที่พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ภายในพระบรมมหาราชวัง ยังคงมีพสกนิกรจากทั่วประเทศ หลั่งไหลเข้าร่วมถวายสักการะพระศพเป็นจำนวนมาก เนื่องจากเป็นวันหยุดราชการ โดยในวันนี้เจ้าหน้าที่สำนักพระราช วัง ได้จัดระเบียบการเข้าถวายสักการะโดยให้ประชา ชนทยอยเข้าประตูวิเศษไชยศรี และรอเข้าแถวหน้ากระดานเรียง 4 เป็นลำดับ บริเวณสนามหญ้าด้านหน้าศาลาสหทัยสมาคม ก่อนเคลื่อนย้ายแถวผ่านประตูพิมานไชยศรี และเข้าสู่พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาทตามลำดับ อย่างไรก็ตาม ในช่วงเช้าที่ผ่านมามีพสกนิกรจำนวนมากเดินทางมาถวายสักการะพระศพ ทำให้บริเวณสนามหญ้าด้านหน้าศาลาสหทัยสมาคมคลาคล่ำไปด้วยประชาชนที่มาเข้าแถวรอเข้าถวายสักการะ

    -เลื่อนเปิดพระที่นั่งดุสิตตั้งแต่07.30น.

    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันเดียวกันนี้ สำนักพระราชวังได้เลื่อนเปิดการเข้าถวายสักการะจากเดิมเวลา 09.00 น. เป็นเวลา 07.30 น. เนื่องจากเป็นวันหยุดและมีประชาชนจำนวนมากมายืนรอด้านหน้าประตูวิเศษไชยศรี พระบรมมหาราชวัง เพื่อเข้าถวายสักการะ โดยบริเวณท้องสนามหลวงที่กทม.เปิดให้จอดรถได้นั้น มีรถตู้ รถบัสโดยสารและรถยนต์ส่วนตัวจำนวนมากมาจอดตั้งแต่เช้ามืด

    นางอรทัย จะทอ ชาวเขาเผ่าลาหู่ จากต.แม่นาวัง อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ แต่งกายด้วยชุดชาวเขา พร้อมด้วยชาวเขาเผ่าลาหู่อีก 30 คน ออกเดินทางจากอ.แม่ อาย ในเวลา 03.00 น. เพื่อมาถวายสักการะพระศพ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ โดยนางอรทัย กล่าวว่า อาลัยต่อการสิ้นพระชนม์ และดีใจที่ได้มาถวายสักการะพระศพในวันนี้ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ มีพระกรุณาธิคุณล้นพ้น ทำให้ชาวเขาอย่างพวกตนมีที่อยู่อาศัยในประเทศไทย

    ด้านนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าฯ กทม. ได้เดินทางมาพร้อมครอบครัว ขึ้นถวายสักการะพระศพ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ โดยนายอภิรักษ์กล่าวว่า ขอให้ประชาชนที่เดินทางมาถวายสักการะสัญจรโดยรถโดยสารประจำทาง เพื่อลดการจราจรที่หนาแน่น โดยกรุงเทพมหานคร (กทม.) ได้จัดเตรียมสถานที่ไว้สำหรับจอดรถสำหรับผู้ที่มาถวายสักการะไว้ที่ท้องสนามหลวง และยังจัดโรงทานไว้สำหรับรับประทานอาหารฟรีด้วย

    นางแก้ว ลุงฮวบ อายุ 83 ปี แต่งกายด้วยโจงกระเบนโบราณ เดินทางมาพร้อมกับหลานๆ จาก จ.ราชบุรี กล่าวว่า รู้สึกปลื้มใจและตื้นตันใจที่ได้ถวายสักการะพระศพ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ และเป็นครั้งแรกที่ได้เข้ามาภายในพระบรมมหาราชวัง ตนขอให้หลานพามาหาพระองค์ตั้งแต่ทรงประชวร รู้สึกประทับใจในพระกรณียกิจของพระองค์ด้านการแพทย์และการศึกษา โดยเฉพาะที่พระองค์เป็นพระอาจารย์ให้กับลูกศิษย์จำนวนมาก เสียใจต่อการสิ้นพระชนม์ของพระองค์ อยากให้อยู่กับคนไทยนานๆ ภาพพระโกศสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ ที่ได้รับมา จะนำเก็บไว้อย่างดีเพื่อเป็นที่ระลึกถึงพระองค์

    -มั่วนิ่มขายหนังสือ"สถิต ณ ดวงใจ"

    น.ส.แสงเดือน ตรีนันทวัน อาจารย์โรงเรียนโสตศึกษาเทพรัตน์ จ.ประจวบคีรีขันธ์ นำตัวแทนคณะนักเรียน ซึ่งพิการทางหู มาถวายสักการะพระศพ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ โดยน.ส.แสงเดือน กล่าวว่า นักเรียนส่วนใหญ่ซึ่งเป็นนักเรียนพิการทางหู รู้สึกซาบซึ้งในพระกรุณาธิคุณของพระองค์ท่าน โดยเฉพาะพระกรณียกิจที่ทรงทำเพื่อประชาชนมากมาย เมื่อทราบข่าวการสิ้นพระชนม์เด็กๆ ก็อยากมีโอกาส มาร่วมถวายสักการะพระศพ เพื่อรำลึกถึงพระกรุณา ธิคุณ โดยเป็นตัวแทนของนักเรียนพิการทั้งหมด เดินทางมาตั้งแต่วันที่ 11 ม.ค.ที่ผ่านมา โดยมาพัก อยู่ที่โรงเรียนเศรษฐเสถียรก่อนจะเดินทางมาในวันเดียวกันนี้
    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=right border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]
    ร่วมฟังสวด- ประชาชนจำนวนมากเข้าร่วมฟังพระพิธีธรรมสวดพระอภิธรรมพระศพ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท เมื่อค่ำวันที่ 13 ม.ค.


    </TD></TR></TBODY></TABLE>


    นายสุทธิสรรค์ ศิวพิทักษ์ ผู้ช่วยเลขานุการผู้ว่าฯ กทม. กล่าวว่า อยากขอความร่วมมือประชาชนไม่สนับสนุนหรือซื้อหนังสือ "สถิต ณ ดวงใจ" ที่ผู้ค้านำมาขายตามย่านต่างๆ หลังพบมีกลุ่มคนบางกลุ่มเวียนเข้ารับหนังสือ "สถิต ณ ดวงใจ" ภายในงานนิทรรศการ สถิต ณ ดวงใจ ถวายอาลัยแด่สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ณ ลานคนเมือง และนำไปตั้งขายเล่มละ 170-200 บาท ทั้งนี้ หากประชาชน ต้องการหนังสือดังกล่าว ขอให้เดินทางมาร่วมถวายสักการะและชมนิทรรศการเทิดพระเกียรติ ณ ลาน คนเมือง ซึ่งกทม.ได้จัดเตรียมหนังสือไว้ถึง 1 แสนเล่ม สำหรับประชาชนที่เข้ามาร่วมงาน หากประชาชนรายใดพบผู้ค้านำหนังสือดังกล่าวมาขายขอให้แจ้งไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจทันที เนื่องจาก กทม.ได้ประสานไปยัง สน.ท้องที่แล้วว่าหนังสือดังกล่าวจะทำขึ้นเพื่อเทิดพระเกียรติ ไม่ได้จัดทำขึ้นมาเพื่อซื้อขาย

    -แพทย์หลวงเป็นห่วงผู้เข้าสักการะ

    วันเดียวกัน น.พ.ปริญญา พลังวชิรา หัวหน้ากองแพทย์หลวงพระบรมมหาราชวัง กล่าวว่า ตลอดวันที่ผ่านมา ซึ่งมีประชาชนเดินทางเข้ามาเพื่อถวายสักการะพระศพท่ามกลางแสงแดดจัดเป็นจำนวนมาก ทำให้หลายคนที่ทนต่อสภาพอากาศร้อนไม่ไหว และบางรายมีโรคประจำตัว เจ็บป่วยเป็นลมแดด เข้ามารับการรักษาที่แผนกกองแพทย์หลวงพระบรมมหาราชวังหลายราย โดยส่วนใหญ่เป็นประชาชนที่เดินทางมาจากต่างจังหวัด โดยออกเดินทางตั้งแต่ช่วงกลางคืน และตรงมาสักการะพระศพในตอนเช้า ทำให้หลายคนมีเวลาพักผ่อนไม่เพียงพอ และไม่ได้รับประทานอาหารเช้า เมื่อมาเจอแดดจัดในช่วงเวลา 10.00-12.00 น. ซึ่งเป็นช่วงที่แดดแรงมาก ทำให้เกิดอาการเจ็บป่วย และเป็นลมได้ ดังนั้น แพทย์จึงมีขอแนะนำสำหรับ ผู้ที่ต้องการจะเดินทางเข้ามาถวายสักการะพระศพว่า 1.สำหรับผู้ที่ตั้งใจจะมาร่วมสักการะพระศพ ขอให้เตรียมตัวโดยขอให้พักผ่อนอย่างเพียงพอเต็มที่ 2. การแต่งกายขอให้แต่งกายถูกต้องตามระเบียบปฏิบัติของสำนักพระราชวัง แต่ขอให้เป็นเสื้อผ้าที่แต่งแล้วสบาย ไม่เป็นชุดที่ทำให้อึดอัด หรือคับแน่นเกินไป 3.สำหรับผู้ที่มีโรคประจำตัว หากจะเดินทางมาร่วมสักการะพระศพ ขอให้มีญาติพี่น้องมาด้วย และ 4.ในส่วนของผู้สูงอายุ อยากแนะนำให้เดินทางมาในช่วงบ่ายแก่ๆ เช่นตั้งแต่ 15.00 น.เป็นต้นไป เนื่องจากแสงแดดจะอ่อนลงแล้ว และช่วงเวลาดังกล่าวจำนวนคนที่เดินทางมาก็ลดน้อยลงมาก ซึ่งจะเป็นการช่วย ให้ไม่เสี่ยงต่ออาการเจ็บป่วย

    -แนะวิธีปฏิบัติหากป่วยฉุกเฉิน

    น.พ.ปริญญา กล่าวต่อว่า นอกจากนี้สำหรับผู้ที่ มารอเข้าแถวเพื่อเข้าสักการะพระศพ หากรู้สึกกระหายน้ำก็สามารถดื่มได้เป็นปกติในจำนวนเท่าที่ต้องการ ซึ่งทางสำนักพระราชวังได้ประสานงาน กับการประปานครหลวง จัดน้ำดื่มมาบริการให้กับประชาชนตามจุดต่างๆ แต่สำหรับผู้ที่เจ็บป่วยเป็นลม ในขณะที่แพทย์ยังไปไม่ถึง ขอให้นอนราบลงกับพื้น และให้ญาตินำน้ำให้จิบ รวมทั้งใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดหน้าเพื่อให้รู้สึกสดชื่นขึ้น

    "ในส่วนของการดูแลความเจ็บป่วยของประชาชน ที่เดินทางมาสักการะพระศพนั้น ได้รับความร่วมมือจาก 4 หน่วยงานด้วยกัน คือ กองแพทย์หลวงพระ บรมมหาราชวัง, กองแพทย์หลวงสวนจิตรลดา, กองบรรเทาทุกข์สภากาชาดไทย และโรงพยาบาลตำรวจ ซึ่งได้จัดเจ้าหน้าที่จำนวนร้อยกว่าคนเพื่อให้การดูแลสุขภาพของประชาชนที่เดินทางมาสักการะพระศพ อย่างเต็มที่ ตามพระประสงค์ของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ที่ทรงห่วงใย และทรงกำชับให้คณะแพทย์ดูแลประชาชนอย่างเต็มที่" น.พ. ปริญญากล่าว

    -เผยรถตู้ตจว.เก็บรายหัวแพงลิ่ว

    ด้านนางลักขณา พรมสุข สมาชิกชมรมผู้สูงอายุเพชรทองคำ เขตบางขุนเทียน ซึ่งเดินทางมาร่วมสักการะพระศพสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยา ณิวัฒนาฯ พร้อมกับเพื่อนสมาชิกชมรม แต่เกิดอาการหน้ามืดเป็นลม ระหว่างเข้าแถวรอเข้าถวายสักการะพระศพ กล่าวว่า ตนป่วยเป็นโรคหัวใจ และเดินทางมาตั้งแต่เช้า แต่เมื่อมาเจอแดดแรงทำให้รู้สึกหายใจ ไม่ออก อึดอัด และเป็นลม จนเจ้าหน้าที่สำนักพระราชวังได้นำตัวมาพักภายในกองแพทย์หลวงพระบรมมหาราชวัง และมีคณะแพทย์ พยาบาลให้การดูแลอย่างดี จนอาการดีขึ้นและสามารถเดิน ทางกลับบ้านได้ อย่างไรก็ตาม รู้สึกดีใจที่มีโอกาสได้เข้ามาสักการะพระศพในวันนี้

    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ประชาชนที่เดินทางมาถวายสักการะพระศพสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยา ณิวัฒนาฯ ในวันที่ 13 ม.ค. มีจำนวนมากกว่าทุกวันที่ผ่านมา เนื่องจากตรงกับวันหยุดสุดสัปดาห์และยัง เป็นสุดสัปดาห์แรกของการเปิดให้เข้าถวายสักการะ ทำให้ผู้คนล้นหลาม โดยส่วนใหญ่เดินทางมาจากต่างจังหวัด นอกจากนี้ยังมีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติจำนวนมากที่เข้ามาภายในพระบรมมหาราชวัง เพื่อไหว้พระแก้วมรกตและเที่ยวชมพระบรมมหาราชวัง นำกล้องถ่ายภาพมาบันทึกภาพประชาชนที่เข้าแถวรอเข้าถวายสักการะพระศพ

    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีประชาชนที่เดินทางมาจากต่างจังหวัด โดยรถตู้โดยสารและรถบัสโดยสาร ซึ่งเจ้าของรถโดยสารดังกล่าวใช้วิธีเรียกเก็บค่าเดินทาง รายหัว นำมาส่งที่ท้องสนามหลวงและรับกลับจังหวัดต้นทาง ในราคาสูงเกินความเป็นจริง เช่น จ.สุรินทร์ เรียกเก็บค่าหัวในราคา 700 บาท จ.กำแพงเพชร ราคาหัวละ 500 บาท ทั้งนี้ ราคาค่าโดยสารดังกล่าวไม่มีบริการน้ำดื่มหรืออาหารใดๆ ทั้งสิ้น โดยไม่ได้แจ้งให้ ผู้โดยสารทราบมาก่อน ทำให้ผู้โดยสารหลายรายไม่ได้เตรียมตัวมาก่อนและเกิดอาการหน้ามืดเป็นลมได้ง่าย

    -ชาวบุรีรัมย์ประทับใจพระอิริยาบถ

    นางเสนาะ ตันติรักษ์ อายุ 65 ปี ชาวจ.สิงห์บุรี เดินทางมาพร้อมญาติ 5 คน กล่าวว่า เคยรับเสด็จสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ เมื่อครั้งเสด็จยังวัดพระนอนจักรสีห์ จ.สิงห์บุรี เมื่อ 4-5 ปีก่อน ครั้งนั้นพระองค์ยังแข็งแรง เมื่อทราบข่าวรู้สึกใจหายวาบ อยากมาถวายสักการะพระศพทันที

    นางชวนพิศ พัชนี อายุ 62 ปี ชาวอ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ นำผู้สูงอายุในชุมชนจำนวน 10 คน ออกเดินทางจากอ.นางรอง ในเวลา 02.00 น. มาถึงท้องสนามหลวงในเวลา 08.00 น. และได้เข้าถวายสักการะพระศพในช่วงบ่าย โดยนางชวนพิศ กล่าวว่า เมื่อเกือบ 40 ปีก่อน สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี และสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ เคยเสด็จ ไปที่ต.นางรอง อ.นางรอง และตนได้เข้าเฝ้า ครั้งนั้นทั้งสองพระองค์เสด็จเยี่ยมคนแก่ ประทานยาตำราหลวงและประทานเกมสำหรับเด็กอนุบาล และในครั้งนั้นสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ ทรงสอนเด็กอนุบาลด้วยพระองค์เอง จึงเก็บพระองค์ไว้ในดวงใจตลอดมา

    ด้านนางกิมเลียง เสาวโร อายุ 77 ปี ชาว อ.นาง รอง จ.บุรีรัมย์ เช่นเดียวกัน กล่าวว่า รู้สึกเสียใจ ที่พระองค์อยู่กับประชาชนน้อย ประทับใจที่พระ องค์ตรงต่อเวลา ประทานแต่สิ่งดีๆ ให้กับประชาชนและเด็กเล็ก โดยเฉพาะด้านการศึกษา และจะนำ ภาพพระฉายาลักษณ์และภาพพระโกศ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ ที่ได้รับเป็นที่ระลึกไปบูชาที่บ้านอย่างดีที่สุด

    -"นีโน่"เผยทรงงานหนักเพื่อชาติ

    นางมยุรี กฤดากร ณ อยุธยา เปิดเผยว่า ตนเคยรับใช้เบื้องพระยุคลบาท สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี และสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ประทับใจที่พระองค์มีพระจริยวัตรเรียบง่าย เป็นกันเอง และเป็นห่วงคอยถามไถ่สารทุกข์สุกดิบกับข้าราชบริพารอยู่เสมอ แม้กระทั่งตนมีปัญหาด้านสุขภาพขา สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ ก็ยังทรงรับสั่งถามไถ่เป็นประจำ

    ด้านนายเมทนี บุรณศิริ พิธีกรชื่อดัง เดินทาง มาถวายสักการะพระศพ พร้อมด้วยภรรยา กล่าวว่า การสูญเสียครั้งนี้ถือเป็นความสูญเสียของประเทศ เพราะพระองค์ทรงงานหนักเพื่อประเทศชาติตลอดเวลา โดยตนเคยเข้าเฝ้าสมัยเด็ก แต่เพราะความเป็นเด็กจึงรู้สึกตื่นเต้นเท่านั้น แม้ว่าตอนนี้เป็นผู้ใหญ่แล้วแต่ก็ทำงานหนักไม่ได้เศษเสี้ยวของพระองค์ท่านที่ปฏิบัติพระกรณียกิจไว้ หลังจากนี้ตนจะส่งเสริมด้านการศึกษาเด็กและเยาวชนที่ด้อยโอกาส และช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาสทางสังคม และหากคนไทยเราปฏิบัติตนได้แม้เพียงเศษเสี้ยวของพระองค์ เชื่อว่าประเทศไทยจะน่าอยู่มากขึ้นอีก

    สำหรับบุคคลสำคัญที่อัญเชิญพวงมาลามาถวายสักการะพระศพ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ ได้แก่ นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าฯ กทม. พร้อมครอบ ครัว สมาคมศิษย์เก่าโรงเรียนเศรษฐเสถียรในพระบรมราชูปถัมภ์ มูลนิธิคุ้มครองสัตว์ป่าและพรรณพืชแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ อัญเชิญโดยนายพิสิษฐ์ ณ พัทลุง และน.ส.พิตต้า ณ พัทลุง สมาคมสโมสรลูกเสือวิสามัญแห่งประเทศไทย ในพระอุปถัมภ์ พล.ต.อ.ประชา-คุณหญิงวารุณี พรหมนอก เป็นต้น

    -ต่อแถวยาวเหยียด-เป็นลมไม่ย่อท้อ

    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศในช่วงบ่ายของการถวายสักการะพระศพ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้า ฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ประชาชนมีจำนวนหนาแน่นมาก แม้เจ้าหน้าที่สำนักพระราชวังจะจัดระเบียบให้เข้าถวายสักการะพระศพ ได้ครั้งละประมาณ 100 คนก็ตาม แต่ความยาวของแถวก็ยังมีความยาวกว่า 1 กิโลเมตร จากประตูกำแพงแก้ว พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ยาวตามแนวถนนด้านหน้าพระที่นั่งจักรีมหาปราสาท โค้งอ้อมผ่านด้านหน้าพระที่นั่งจักรีมหาปราสาท แล้วโค้งผ่านประตูพิมานไชยศรี โค้งผ่านด้านหน้าศาลาสหทัยสมาคม โดยก่อนจะเรียงแถวด้านหน้าศาลาสหทัยสมาคม จะต้องเข้าแถวบนสนามหญ้าด้านหน้าศาลาสหทัยสมาคมก่อน อย่างไรก็ตาม สภาพอากาศที่ร้อนอบอ้าวตลอดทั้งวัน ทำให้ประชาชนเกิดอาการหน้ามืดเป็นลม เจ้าหน้าที่แพทย์และพยาบาลได้กระจายกำลังนำแอมโมเนียออกแจกจ่ายรายแถว เพื่อบรรเทาอาการดังกล่าวด้วย

    ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า เจ้าหน้าที่สำนักพระราชวัง ได้นำพานวางบริเวณทางลงหน้ามุขทิศเหนือ ของพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท สำหรับให้ประชาชนที่ต้องการสมทบทุนเข้ามูลนิธิสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ รวมทั้งส่วนที่ต้องการถวายพวงมาลัย ให้วางในพาน ดังกล่าว นอกจากนี้ภาพพระฉายาลักษณ์ฉลองพระ องค์ไทยเรือนต้นสีแดงสด ซึ่งแจกให้ประชาชนเก็บเป็นที่ระลึกตั้งแต่วันที่ 10-11 ม.ค.ที่ผ่านมา หมดลง จึงเหลือเพียงภาพพระโกศ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ เพียงภาพเดียว

    -เสด็จบำเพ็ญกุศลปัณรสมวาร

    เมื่อเวลา 14 .30 น. ฝ่ายประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ สำนักพระราชวังได้เผยแพร่ข่าวแก่สื่อมวลชนโดยมีรายละเอียดดังนี้ "ตามที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้พระราช วงศ์ ราชสกุลทุกมหาสาขาและหน่วยงานของรัฐร่วมเป็นเจ้าภาพในการบำเพ็ญพระราชกุศล บำเพ็ญพระกุศลและบำเพ็ญกุศลพระราชกุศลสัตตมวาร (ทักษิณานุปทาน 7 วัน) จนถึงการพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลสตมวาร (ทักษิณานุปทาน 100 วัน) ในวันศุกร์ที่ 11 เมษายน พุทธศักราช 2551 นั้น

    สัตตมวารที่ 2 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถเสด็จพระราช ดำเนิน ไปทรงบำเพ็ญพระราชกุศลปัณรสมวาร พระราชทานพระศพ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยา ณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ณ พระ ที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง

    ในวันพุธที่ 16 มกราคม 2551 เวลา 17.00 น. พระสงฆ์ 10 รูปสวดพระพุทธมนต์จบ มีพระธรรมเทศนากัณฑ์ 1 พระ 4 รูปสวดธรรมคาถา พระพิธีธรรมสวดพระอภิธรรม, วันพฤหัสบดีที่ 17 มกราคม 2551 เวลา 10.30 น. พระสงฆ์ 10 รูป ที่สวดพระ พุทธมนต์แต่วันก่อนถวายพรพระ รับพระราชทานฉัน พระสงฆ์ 84 รูป สดับปกรณ์ เป็นเสร็จการ วันนี้แต่งกายเครื่องแบบปกติขาว ไว้ทุกข์ ประดับเหรียญ

    -กำหนดบำเพ็ญกุศล50วัน-100วัน

    วันพฤหัสบดีที่ 17 มกราคม 2551 สำนักพระราช วังเปิดให้ประชาชนเข้าถวายสักการะบนพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ได้ในเวลา 14.00-16.00 น.

    สัตตมวารที่ 3 วันพุธที่ 23 มกราคม พระราช โอรสและพระราชธิดา, สัตตมวารที่ 4 วันพุธที่ 30 มกราคม สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี, สัตตมวารที่ 5 วันพุธที่ 6 กุมภาพันธ์ ท่านผู้หญิงทัศนาวลัย ศรสงครามและครอบครัว, สัตตมวารที่ 6 วันพุธที่ 13 กุมภาพันธ์ สมาชิกราชสกุลทุกมหาสาขาและราชนิกุล, สัตตมวารที่ 7 วันพุธที่ 20 กุมภาพันธ์และวันพฤหัสบดีที่ 21 กุมภาพันธ์ พระราชกุศลปัญญาสมวาร ทักษิณานุ ปทาน 50 วัน, สัตตมวารที่ 8 วันพุธที่ 27 กุมภา พันธ์ ราชสกุลกิติยากร, สัตตมวารที่ 9 วันพุธที่ 5 มีนาคม คณะองคมนตรี, สัตตมวารที่ 10 วันที่พุธที่ 12 มีนาคม คณะรัฐมนตรี, สัตตมวารที่ 11 วันพุธที่ 19 มีนาคม สมาชิกรัฐสภา, สัตตมวารที่ 12 วันพุธที่ 26 มีนาคม ข้าราชการตุลาการ, สัตตมวารที่ 13 วันพุธที่ 2 เมษายน ข้าราชการทหาร, สัตตมวารที่ 14 วันพุธที่ 9 เมษายน ข้าราชการตำรวจ, วันพฤหัสบดีที่ 10 เมษายนและวันศุกร์ที่ 11 เมษายน พระราชกุศลสตมวาร (ทักษิณานุปทาน 100 วัน)

    ผู้สื่อข่าวรายงานสำหรับความหมายของคำว่า "สัตตมวาร" เป็นคำเรียก วันทำบุญครบรอบ 7 วันของผู้วายชนม์, ส่วน "สตมวาร" เป็นคำเรียกวันทำบุญครบ 100 วันของผู้วายชนม์

    -ยอดสักการะพระศพรวม8หมื่นคน

    เวลา 19.00 น. สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี พร้อมด้วยทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณ วดี เสด็จยังพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาทในพระบรมมหาราชวัง ในการพระพิธีธรรมสวดพระอภิธรรมพระศพสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ โดยมีคณะจากสำนักงานศาลยุติธรรมร่วมฟังพระพิธีธรรมสวดอภิธรรมพระศพสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยา ณิวัฒนาฯ ด้วย

    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันเดียวกันนี้มีประชาชนเดินทางมาสักการะพระศพสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ทั้งสิ้น 25,974 คน รวม 4 วัน มียอดทั้งสิ้น 78,866 คน และมียอดเงินบริจาคเข้าบัญชีทุน "สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์" ในวันนี้ทั้งสิ้น 989,743.50 บาท รวมยอดเงินบริจาคทั้งสิ้น 5,794,065.75 บาท

    -84ศิลปินร้องประสานเสียงอาลัย

    วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คณะกรรมการจัดทำบทเพลงเทิดพระเกียรติฯ ร่วมกับสมาคมนักร้องแห่งประเทศไทย จะจัดให้มีการขับร้องประสานเสียงครั้งประวัติศาสตร์ เพื่อถวายความอาลัยสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ โดย 84 ศิลปินทั้งบรรดาศิลปินแห่งชาติ ศิลปินนักร้องแผ่นเสียงทองคำพระราชทาน ศิลปินรางวัลพระราชทาน ลูกกรุง ลูกทุ่ง สุนทราภรณ์ ป๊อป สตริง ดารานักแสดงทุกสังกัด และดีเจ. ผู้จัดรายการวิทยุชื่อดัง อาทิ สุเทพ วงศ์กำแหง สวลี ผกาพันธ์ จินตนา สุขสถิตย์ ดาวใจ ไพจิตร รุ่งฤดี แพ่งผ่องใส อุมาพร บัวพึ่ง วินัย พันธุรักษ์ โฉมฉาย อรุณฉาน สุนารี ราชสีมา โจนัส แอนเดอร์สัน คริสตี้ กิ๊บสัน อธิชาติ ชุมนานนท์ ศักดิ์สิทธิ์ เวชสุภาพร เป็นต้น โดยขับร้องประสานเสียงกับวงออร์เคสตราวงใหญ่ ทั้งนี้จะ บันทึกเทปโทรทัศน์ เนื่องในวันครบรอบ 15 วันแห่งการสิ้นพระชนม์ ในวันที่ 17 ม.ค. เวลา 09.00 น. ณ ห้องส่ง สถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก ช่อง 5 จากนั้นคณะกรรมการจะนำออกเผยแพร่ทางสถานีวิทยุและโทรทัศน์ทุกช่อง

    [FONT=Tahoma,]หน้า 1[/FONT]


    http://matichon.co.th/khaosod/view_...ionid=TURNd01RPT0=&day=TWpBd09DMHdNUzB4TkE9PQ==
     
  2. เฮียปอ ตำมะลัง

    เฮียปอ ตำมะลัง ทุกสิ่งจบสิ้นลงด้วยความตาย วุ่นวายทำไม ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    24,969
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +91,129
    สาธุ สาธุ สาธุ

    ขอบคุณข่าวสารดีมีสาระครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...