เปิดตำนานหลวงปู่ทิม อิสริโก วัดละหารไร่

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย แก้วสว่าง, 4 ธันวาคม 2014.

  1. แก้วสว่าง

    แก้วสว่าง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    3,232
    ค่าพลัง:
    +49,927
    เรื่องขุนแผนของวัดละหารไร่ที่เขียนกันมาทุกวันนี้ มันผิดพลาดหลายประการ ผมจึงย้อนให้ทุกท่านลองสังเกตจากแม่พิมพ์บล็อกที่กดสร้าง "บล็อกหินมีดโกน" กับ"บล็อกทองเหลือง"นั้น รูปแบบต่างกันอย่างไร บล็อกหินมีดโกนคือบล็อกที่ลุงสายแกะ ส่วนบล็อกทองเหลืองแกะจากช่างทางกรุงเทพ แต่ที่เล่นๆกันทุกวันนี้คือรูปแบบจากบล็อกทองเหลืองทั้งนั้นผมให้สังเกตุจากรูปทรงขององค์พระที่เรียวและยันต์หลังก็แกะอย่างเรียบร้อยสวยงามที่ระดับฝีมือชาวบ้านนั้นแกะไม่ได้เลย ส่วนบล็อกหินมีดโกนที่ลุงสายแกะจากมือ มีแต่ด้านหน้าด้านเดียวที่ทำได้ รูปแบบทรงแกะได้ก็เป็นอย่างหยาบเท่านั้น ให้ลองสังเกตุจากองค์พระพิมพ์พรายคู่ดู แล้วทีนี้ผมให้ลองสังเกตุดูดีๆว่าขุนแผนของหลวงปู่ทิมที่เล่นหาแยกบล็อกนั้นมันมีปัญหาและผิดพลาดกันยังงัย..............
    ทุกวันนี้ข้อเท็จจริงมันผิดพลาดกันอย่างมากกับการแยกบล็อกการเล่นในวงการ เพราะความแตกต่างระหว่างบล็อกทองเหลืองกับบล็อกหินมีดโกนนั้นต่างกันทั้งรูปแบบและทรง

    ขุนแผนบล็อกหินมีดโกนสร้างตามแบบงานสร้างของวัดที่นายสาย แก้วสว่างแกะแม่พิมพ์ไป โดยสร้างในปีเดียวกับที่อาจารย์ทวน เจ้าอาวาสวัดแม่น้ำคู้มาเอาพระเนื้อขาวจากวัดละหารไร่ไปออกในงานยกช่อฟ้าที่วัด ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวมีประจักษ์พยานที่เด่นชัด แต่จะยังไม่ขอกล่าวถึงในเวลานี้ ซึ่งเนื้อหาพิมพ์เป็นเช่นใดนั้นคนที่ทันยุคทันเหตุการณ์ เขาคงทราบกันดีล่ะ ทีนี้บทข้อพิสูจน์ความจริงที่เกิดขึ้นคงไม่ยาก คนที่ศึกษาข้อมูลความจริงแบบเชิงลึกจะมีความเข้าใจสูงกว่าคนที่เล่นแบบซื้อขายหรือพุทธพาณิชย์ เพราะข้อมูลที่ได้รับนั้นต่างแบบที่มากันซะมาก เพราะเป็นการมุ่งขายเชิงผลประโยชน์ความจริงจึงถูกปกปิดไป ทำให้ข้อเท็จจริงจึงมีการถกเถียงกันอย่างหาคำตอบที่แท้จริงไม่ได้
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 ธันวาคม 2014
  2. แก้วสว่าง

    แก้วสว่าง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    3,232
    ค่าพลัง:
    +49,927
    "สามเณรที่อยู่วัดในยุคที่ทำขุนแผนและพระเครื่องของวัดละหารไร่ที่นายสาย แก้วสว่างท่านเอ่ยกล่าวถึงบ่อยครั้งคือ สามเณรลาว(สามเณรที่ดูแลรับใช้หลวงปู่ทิม) ที่เป็นหัวเรี่ยวหัวแรงช่วยงานพระเครื่องและวัตถุมงคลกันในยุคต่างๆของวัด ส่วนสามเณรฉ่ำ(หลานหลวงปู่)และสามเณรเติ่มนั้นก็ได้มาช่วยกันในบางโอกาส"

    คนที่เคยไปวัดละหารไร่บ่อยครั้งเขาก็เคยบอกกล่าวเหมือนกันกับบุคคลผู้นี้คือสามเณรลาว มีผู้ใหญ่ท่านหนึ่งที่ผมคุ้นเคยกันดีปัจจุบันเกษียณอายุราชการไปแล้วเคยไปหาหลวงปู่ทิมบ่อยครั้งก็เจอแต่เณรองค์ที่ว่านี้ทุกครั้งเหมือนกัน เวลาหลวงปู่ทิมท่านจะมอบของท่านจะใช้ให้เณรไปหยิบของในห้องของท่านเสมอครับ
    เรื่องราวความจริงแท้ที่เกิดขึ้นทั้งเหล่าบุคคลในวัด ชาวบ้าน และลูกศิษย์ลูกหาที่ใกล้ชิดย่อมทราบกันดีและคงจะปฎิเสธกันไม่ได้ที่ใครๆจะไม่รู้จักเณรลาว เพราะถือเป็นบุคคลเดียวที่ดูแลรับใช้หลวงปู่ทิมเรื่อยมาและอยู่ในเหตุการณ์การสร้างพระเครื่องในวัดกันมาตั้งแต่ครั้นในยุคแรก

    นายสาย แก้วสว่างไวยาวัจกรท่านเคยเล่าว่าเณรลาวเป็นเณรองค์เดียวที่ได้รับการครอบครูประสิทธิ์ประสาทการลงอักขระ และวิชาต่างๆจากหลวงปู่ทิม เพราะในวัดละหารไร่ตอนนั้นก็มีพระเณรกันเพียงไม่กี่รูปที่จะทำได้ ที่เห็นก็มีหลวงตารอดอีกองค์ และบทบาทการสร้างวัตถุมงคลในวัดเณรลาวถือว่ามีประสบการณ์เรื่องราวและถูกเรียกใช้จากหลวงปู่ทิมและนายสายในกาลทุกเมื่อๆมีการสร้างวัตถุมงคลขึ้นมา

    นายสายท่านยังเล่าอีกว่าเณรลาวยังได้รับการครอบครูใหญ่ที่ทางลูกศิษย์ลูกหาจัดขึ้นเมื่อตอนไหว้ครูปีพ.ศ.2518 ด้วย และถือว่าเป็นบุคคลสำคัญในตำนานที่ถูกกล่าวขานจากบุคคลในวัดและลูกศิษย์ลูกหาหลวงปู่

    หลังจากที่หลวงปู่ทิมท่านมรณะภาพ เณรลาวก็ได้กลับไปอยู่ยังบ้านเกิดเมืองนอน ซึ่งอยู่ทางภาคอีสานภายหลังนั้นก็ได้บวชเป็นพระภิกษุและได้ไปรักษาการเจ้าอาวาสแห่งหนึ่งในวัดทางอีสานในเวลาต่อมา แต่ด้วยความที่คนในวัดละหารไร่นั้นเรียกแต่ชื่อแทนตัวกันว่า"เณรลาวหรือเณรเสี่ยว" จึงไม่ทราบชื่อเสียงเรียงนามกัน
     
  3. naygood

    naygood เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    1,082
    ค่าพลัง:
    +7,245
    เรื่องนี้น่าสนใจครับ
     
  4. ปลาช่อนนา

    ปลาช่อนนา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ตุลาคม 2013
    โพสต์:
    126
    ค่าพลัง:
    +744
    ติดตามกับเรื่องราวตำนานของหลวงปู่ทิมด้วยครับ
     
  5. Ov

    Ov เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 เมษายน 2012
    โพสต์:
    289
    ค่าพลัง:
    +1,417
    เป็นเรื่องที่น่าศึกษามากครับ และนับว่าเป็นมิติใหม่ในการศึกษาเรียนรู้ จะมองข้ามไม่ได้เลยครับ เพราะแม้กระทั่งศิษย์ใกล้ชิดที่เขียนหนังสือเชียร์วัตถุมงคลของหลวงปู่ทิม ยังไม่เคยเขียนแนวนี้หรืออ้างอิงความน่าจะเป็นเลย มักเขียนออกแนวอภินิหาร สรุปตรงขายของทุกที เรียกว่าเน้นการขายเอาไว้ก่อน
     
  6. FLUKE-NICE

    FLUKE-NICE เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กันยายน 2008
    โพสต์:
    968
    ค่าพลัง:
    +1,397
    น้อมกราบหลวงปู่ทิม และสวัสดีอาจารย์แก้วสว่าง ขอติดตามบทความเปิดตำนาน น่าจะรวบรวมจัดพิมพ์เป็นรูปเล่มมากเลยครับ เพื่อให้คนรุ่นหลัง รุ่นใหม่ได้ทราบตำนานความเป็นจริง ของหลวงปู่กัน
     
  7. ถาดทอง

    ถาดทอง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 พฤศจิกายน 2013
    โพสต์:
    98
    ค่าพลัง:
    +431
    เขาเล่าว่าเอาห้าหาร
    ผลลัพธ์ได้เท่าใดเอาไฟเผา
    สิ่งที่เห็นประจักษ์แก่ตาเรา
    คือขี้เถ้าแท้จริงสิ่งแน่นอน

    ความจริงก็คือความจริงครับ ไม่มีใครเปลี่ยนแปลงได้ แต่จะยอมรับความจริงหรือไม่นั่นต่างหากคือสิ่งสำคัญ

    นี่คือความจริงครับ แต่อยู่ที่การยอมรับหรือไม่เท่านั้น
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 5871.jpg
      5871.jpg
      ขนาดไฟล์:
      180.9 KB
      เปิดดู:
      220
    • 5872.jpg
      5872.jpg
      ขนาดไฟล์:
      363.3 KB
      เปิดดู:
      215
    • 5873.jpg
      5873.jpg
      ขนาดไฟล์:
      275.5 KB
      เปิดดู:
      186
  8. รักรังสิต

    รักรังสิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    2,418
    ค่าพลัง:
    +17,140
    ขอแจ้งเปลี่ยนแปลงเวลาการหล่อพระ

    ต้องขออนุญาติเปลี่ยนแปลงเวลาหล่อพระรูปหล่อหลวงปู่ทิมไปก่อนนะครับ
    เนื่องจากทางวัดได้ตั้งคณะกรรมการชุดใหม่และผมได้ไปชี้แจงเรื่องราวต่างๆกับพระปลัดอมรแล้ว
    วันที่ 18 ธค 2557นี้ จะมีประชุมใหญ่ที่วัดเนิน ชลบุรี
    เพื่อให้งานหล่อพระเป็นไปตามวัตถุประสงค์ ที่ตั้งไว้แต่แรก
    ต้องขอโทษญาติธรรมทุกท่าน ขอเปลี่ยนแปลงเวลาการหล่อพระรูปหล่อหลวงปู่ทิม
    ก่อน กำหนดเมื่อไหร่ หลังวันประชุมใหญ่ที่วัดเนิน ( วันที่ 18 ธ้นวาคม 2557 )
    มีมติออกมาแล้วจะแจ้งให้ทราบอีกครั้ง
    คงประมาณกุมภาพันธ์ครับ
    และจะได้ทำหนังสือขออนุญาติให้ถูกต้องจากวัดแทนฉบับเก่าด้วย
    ขออนุโมทนาบุญที่ร่วมแรงร่วมใจกันครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 ธันวาคม 2014
  9. naygood

    naygood เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    1,082
    ค่าพลัง:
    +7,245
    ขอเชิญชวนร่วมงานบุญหล่อหลวงปู่ทิม อิสริโก ครับมาหล่อพระกัน
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 36521.jpg
      36521.jpg
      ขนาดไฟล์:
      169.5 KB
      เปิดดู:
      135
  10. แก้วสว่าง

    แก้วสว่าง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    3,232
    ค่าพลัง:
    +49,927
    หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่

    เรื่องราวหลวงปู่ทิมโดยเนื้อหาความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย ถ้าเรารู้จักการวิเคราะห์และพิจารณากันด้วยเหตุผล ทุกวันนี้การซื้อขายแลกเปลี่ยนมือกันได้ถือว่าวงการยอมรับการเล่นหา ซึ่งอาจจะมีทั้งข้อเท็จจริงที่มีเหตุผลและการถูกหยิบยกขึ้นมา เมื่อความจริงที่เราประจักษ์จากบุคคลที่เป็นพยานที่ยอมรับกันถือว่าสมบูรณ์กับเหตุผลนั้น แต่เรื่องราวข้อเท็จจริงมีหลายเหตุการณ์ที่ประจักษ์ ผมจะยกเรื่องการสร้างพระเครื่องของวัดละหารไร่นั้น โดยความเป็นจริงนั้นทางวัดเขาสร้างกันในแบบการสร้างที่พัฒนาเนื้อหาและพิมพ์ทรงให้ชัดเจน จึงมีหลายเนื้อหาที่สร้างกัน

    พระเนื้อขาวคือโชนการสร้างที่เป็นเนื้อหาหลักในการทำ ที่มีการผสมสร้างพระเพื่อเป็นแบบหลักสูตรการทำและกดพิมพืขึ้นมา ไม่ว่าจะกดลองพิมพ์หรือลองเนื้อหรือถูกแบบก็จะใช้เนื้อหาสีขาวเป็นแกนมาตราฐานหลักกัน ส่วนเนื้อหาที่เปลี่ยนกันไปตามแบบฟอร์มเนื้อหา คือการผสมว่าน ที่มีสีเป็นเฉกธรรมชาติของตัวมันเอง เนื้อสีขาวที่ถูกผสมนั้นก็จะเปลี่ยนโทนสีไปตามแบบของตัวมัน และอีกแบบหนึ่งคือการใช้สีฝุ่นที่เอามาทำโบสถ์เข้ามาผสมกับเนื้อหาเพื่อให้ดูแปลกตากันไปอีกแบบ

    ฉะนั้นการศึกษารายละเอียดเนื้อหาจึงเป็นแบบที่เราควรศึกษาก่อน อย่าเพิ่งฟันธงกับสิ่งที่เราไม่เคยเรียนรู้มาก่อนเลย คนที่ทันต่อยุคการสร้างคือบุคคลที่อยู่ในวัดเขาจะเห็นชัดเจนเลยว่าทางวัดละหารไร่ในตอนนั้นความจริงเนื้อหาที่สร้างเขาสร้างกันแบบใ
     
  11. ekasit S

    ekasit S เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กุมภาพันธ์ 2014
    โพสต์:
    84
    ค่าพลัง:
    +256
    กราบหลวงปู่ทิม ,ลุงสาย และ ข้อมูลดีๆ จาก อ.แก้วสว่าง ครับ
     
  12. แก้วสว่าง

    แก้วสว่าง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    3,232
    ค่าพลัง:
    +49,927
    หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่

    หนทางการสร้างบารมี เป็นหนทางที่ไม่สะดวกสบาย แต่ปลายทางจะทำให้เราพ้นทุกข์อย่างถาวรเหมือนการสร้างบารมีของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งหลายชาติพระองค์ต้องเดิมพันด้วยชีวิต แต่สุดท้ายพระองค์ก็มีมรรค ผล นิพพาน เป็นแก่นสาร และไม่ต้องทนทุกข์ในวัฏสงสารอันยาวไกลอีกต่อไป

    ดังนั้น เป็นธรรมดาที่บนหนทางการสร้างบารมีจะต้องเจอกับอุปสรรค ซึ่งการฟันฝ่าอุปสรรคจะทำให้เราสามารถพัฒนาบารมีทั้ง 30 ทัศ ให้เต็มเปี่ยมบริบูรณ์ได้ง่ายขึ้น และหากเราตัดสินใจอย่างแน่วแน่ที่จะสร้างบารมีแล้ว ต่อให้มีอุปสรรคมากแค่ไหน ก็ไร้ความหมาย เพราะหากเทียบดูกับการหลงไปทำความชั่วและต้องตกนรกแล้วถือเป็นเรื่องใหญ่กว่าการฟันฝ่าอุปสรรคในการสร้างบารมีมากนัก

    ฉะนั้น เราต้องตัดสินใจ “สู้” ไปบนหนทางการสร้างบารมี เพราะหากเราสู้ เรื่องใหญ่ก็จะกลายเป็นเรื่องเล็กอุปสรรคก็จะไร้ความหมาย แต่ถ้าเราไม่สู้ แม้เรื่องเล็ก ๆก็จะกลายเป็นเรื่องใหญ่ และเรื่องที่ไม่ใช่อุปสรรค ก็จะเป็นอุปสรรคในที่สุด

    การสู้ในที่นี้ หมายถึง การสู้กับกิเลสในตัว เพื่อไม่ให้เราสูญเสียความดีในตัว และใช้ดวงปัญญาพัฒนาบารมี 30 ทัศ ให้แก่กล้ายิ่ง ๆ ขึ้นไป ซึ่งการจะฟันฝ่าอุปสรรคให้ได้อย่างตลอดรอดฝั่ง เราก็ต้องหมั่นทำใจใส ๆ โดยการปฏิบัติธรรมอยู่เสมอ เพราะ “เมื่อใจใสใจสบาย ทำอะไรก็สำเร็จ เมื่อใจมาอยู่ฐานที่ 7 ทำอะไรก็สำเร็จอย่างสบาย ๆ”..


    [​IMG]
     
  13. แก้วสว่าง

    แก้วสว่าง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    3,232
    ค่าพลัง:
    +49,927

    การสร้างวัตถุมงคลของวัดละหารไร่นั้นสร้างกันมาเนิ่นนานนับตั้งแต่หลังจากสร้างเหรียญรุ่นแรกเมื่อปีพ.ศ.2508มา โดยเฉพาะวัตถุมงคลประเภทเนื้อผงที่สร้างกันเรื่อยมา ไม่ว่าจะพระผงใบลานเผา ที่นายสายกับอาจารย์สาครและลูกศิษย์ลูกหาในยุคเก่าได้เอาใบลานเก่าที่ผุพังมาพลีเผาที่บริเวณโคนต้นโพธิ์ของวัด จากนั้นก็นำมาสร้างเป็นพระสมเด็จพิมพ์รัศมี และพิมพ์รูปเหมือนหลวงปู่ทิม ซึ่งก็สร้างได้มาจำนวนพอควร เล่ากันว่าสร้างได้ประมาณหนึ่งบาตรพระ แต่ส่วนใหญ่องค์พระจะชำรุดเสียหายกันเพราะเป็นใบลาน อาจจะแตกง่ายเพราะความเปราะตัวของเนื้อหา ซึ่งเป็นของดีรุ่นหนึ่งที่หลวงปู่ทิมท่านเสกด้วยอำนาจคุณพุทธานุภาพที่เกิดจากแรงของครูบาอาจารย์ที่ประสิทธ์ประสาทจากตำราใบลานเก่าแก่ของวัดที่ได้ทำพิธีพลีกันมา แต่ปัจจุบันพระชุดนี้ของจริงนั้นหายากมากเพราะส่วนใหญ่ของจริงจะชำรุดกันซะมาก ประกอบกับของเก๊นั้นจะสมบูรณ์เรียบร้อยและมีขายอยู่ดาษดื่นทั่วไปจึงไม่นิยมให้เล่นหา แต่ส่วนใหญ่เท่าที่เห็นของปลอมนั้นจะเอาสีมาเจือกับเนื้อหาซึ่งมันจะแตกต่างกว่าผงใบลานเผามากเมื่อถึงเวลาความเก่าที่ได้อายุกาลขององค์พระ แต่ก็ดูไม่ยากเลยถ้าได้ศึกษาเห็นรายละเอียดเนื้อหาจากของจริงกัน

    การสร้างพระเครื่องของวัดละหารไร่โดยพระเนื้อผงต่างๆลูกศิษย์ลูกหาในยุคเก่าเขาย่อมทราบดีว่าการทำพระในยุคนั้นเขาสร้างหรือทำกันอย่างไร ตามเนื้อหาความจริงที่ประกอบกันกับบทพิสูจน์ที่สามารถยืนยันได้กับคำถามที่สงสัยกันอย่างมากมาย เมื่อเรามองย้อนกันให้ดีว่าสิ่งเหล่านี้ที่เกิดขึ้นทุกสิ่งอย่างมันมีประจักษ์หลักฐานความชี้ชัดจากตัวบุคคลซึ่งถือว่าสำคัญอย่างยิ่งกว่าการกล่าวหาหรือการหยิบยกกันอย่างไม่มีหลักเลื่อนลอยใดๆ

    การสร้างพระเครื่องของวัดละหารไร่ในยุคแต่ก่อนจะเห็นว่าพระเครื่องเนื้อผงที่สร้างกันไว้โดยเฉพาะวัสดุเนื้อหานั้นต้องมีการเข้าใจในกระบวนการสร้างตามขั้นตอน เพื่อการพิจารณาความจริงแท้ที่เกิดขึ้นโดยเฉพาะรูปลักษณ์ของพิมพ์และส่วนผสมในการทำ ในปีพ.ศ.2513-2514 เป็นช่วงที่มีการสร้างพระเครื่องแบบสำคัญตามดำหริของหลวงปู่ที่ท่านมีเจตนาการสร้างตามเนื้อหาที่ต้องนำมาสร้างเป็นพระเครื่องเพื่อให้มีอานุภาพในหลายๆด้านและความหนุนนำที่ประจักษ์ต่อตัวเองให้พร้อมภักดิ์ไปในเรื่องที่ดี สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นการสร้างกำลังใจต่อการดำรงชีพเพื่อความมั่นคงอย่างมีคุณค่าในชีวิตกัน

    การสร้างพระเครื่องเนื้อผงชุดดังกล่าวถือว่าเป็นชุดมาตรฐานของทางวัดที่สร้างกันมาด้วยวัตถุประสงค์ที่ชี้นำไปในเรื่องวัสดุการสร้างอย่างชัดเจน ด้วยเพราะทางวัดคงนำออกบูชาในงานบุญหรือการนำมาแจกจ่ายกับผู้ร่วมศรัทธาทำบุญกันไปในหลากหลายท้องที่ที่มากัน เรื่องราวเหล่านี้ล้วนมีการประจักษ์แก่ชาวบ้านและลูกศิษย์ลูกหาในยุคเก่ากันทั้งสิ้น พระเครื่องดังกล่าวที่ว่านี้ก็คือพระพิมพ์ขุนแผน โดยใช้ส่วนผสมการทำจากเนื้อกระเบื้องโบสถ์ไม้เก่าของวัดละหารไร่ที่แขวนเรียงรายอยู่ตามชายคามาผสมกับผงของหลวงปู่ท่าน พระขุนแผนชุดนี้สร้างในช่วงประมาณต้นปีพ.ศ.2514 จากคำยืนยันของผู้ที่ทันต่อเหตุการณ์ คงเพราะด้วยความเห็นแก่คุณค่านิยมกันกับรูปลักษณ์ที่เห็นพ้องกันตลอดเรื่อยมา

    แม่พิมพ์การสร้างนั้นหลวงตารอดเป็นผู้การถอดแบบพิมพ์จากพระขุนแผนในยุคเก่าขึ้นมา โดยมีลูกศิษย์ลูกหาของหลวงปู่ท่านที่อยู่ทางจังหวัดสุพรรณบุรีเป็นคนนำพระเครื่องกรุเนื้อดินทางพื้นเพนั้นมาถวายให้กับหลวงปู่ทิมไว้จำนวนหนึ่ง บางองค์หลวงปู่ท่านก็ติดก้นย่ามไว้ซึ่งท่านคงมีจิตที่เห็นแก่พุทธศิลป์ที่มีอานุภาพเล่าขานกันมาจนเป็นตำนาน และต่อมาเมื่อมีดำหริการสร้างพระชุดนี้เกิดขึ้น หลวงปู่ทิมท่านได้หยิบเอาพระขุนแผนเนื้อดินกรุสุพรรณนี้ให้กับหลวงตารอดไป เพื่อนำไปถอดเป็นแบบพิมพ์พระเครื่องของวัดละหารไร่ตามเจตนาการสร้างทำ

    การสร้างพระขุนแผนชุดนี้ มวลสารสำคัญที่นำมาเป็นส่วนผสมในการทำนั้น หลวงปู่ท่านได้เอ่ยกล่าวกับนายสาย แก้วสว่างไวยาวัจกรของวัดและลูกศิษย์ลูกหาที่อยู่ในวัดกันขึ้นมาว่า ให้นำเอากระเบื้องดินเผาของโบสถ์ไม้เก่าที่พระภิกษุสงฆ์ได้สวดมนต์ทำสังฆกรรมกันมาแต่เนิ่นนานมาผสมทำพระเครื่องรุ่นนี้ด้วยความที่ว่า กระเบื้องโบสถ์นั้นเป็นของสูงและมีพุทธคุณหรือความศักดิ์สิทธิ์ในตัวเอง จากนั้นทางวัดจึงได้กดสร้างทำกัน เนื้อพระที่ทำจะออกสีแดงบ้างสีอิฐหรือสีขาวอมเรื่อๆบ้างตามแต่ส่วนผสมกันไป การสร้างพระเครื่องของวัดละหารไร่ในแต่ละยุคนั้นย่อมมีผู้รู้เห็นอยู่เสมอ นับกันตั้งแต่ลูกศิษย์ลูกหาที่อยู่ในวัดตั้งแต่รุ่นเก่าๆลงมา จึงเป็นสิ่งเสมอเหมือนที่ยืนหยัดและรับทราบกันมาได้ พระขุนแผนรุ่นที่สร้างนี้จึงเป็นชุดสำคัญที่มีอานุภาพสูงตามเจตนาการสร้างของหลวงปู่ทิม เพราะยึดเอาแบบทรงทางกรุเมืองสุพรรณมาเป็นแบบอย่างที่มีคุณค่า และต่อมาพระกรุทางสุพรรณจึงมีความหมายตามแบบทรงการสร้างพระเครื่องของวัดละหารไร่ที่มีพลังอันโดดเด่นในยุคถัดมา....


    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 ธันวาคม 2014
  14. แก้วสว่าง

    แก้วสว่าง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    3,232
    ค่าพลัง:
    +49,927
    ในบทข้อมูลเรื่องราวของหลวงปู่ทิมวัดละหารไร่ ซึ่งในปัจจุบัน จะเห็นว่าการนำเอาข้อมูลต่างๆมาเขียนเสนอนำกับเรื่องราวอันแท้จริงมาเล่าสู่ทอดกันฟังก็ดี หรือการยกนำข้อมูลหลักจากข้อเท็จจริงแล้วสร้างเสริมเติมเรื่องราวให้มีรสชาติเพื่อเกิดความอรรถรสแก่ผู้อ่านก็ดี หรือการบิดเบือนสร้างนำบทบาทเรื่องราวเองเพื่อสนองกับวัตถุสิ่งของต่างๆที่เป็นการขายแบบเชิงพาณิชย์ ไม่ว่าสิ่งนั้นจะเป็นของแท้ที่เกินเหตุมูลความจริงก็ดี ของเสริมที่ทำกันมาทีหลังก็ดีหรือของที่อุปโลกน์กันขึ้นมาก็ดี ทุกอย่างนั้นล้วนแต่ว่าอยู่กับความศรัทธาที่เป็นบ่อเกิดของทุกท่านทั้งสิ้นหลายที่นับถือหลวงปู่ทิม แห่งวัดละหารไร่ ไม่ว่าของสิ่งนั้นจะเป็นแบบจริงหรือแบบฉับฉนใดก็ตามที ด้วยจิตศรัทธาความบ่งบอกตัวเองที่สามารถใช้สื่อนั้นเป็นแรงศรัทธาความหนุนนำให้เกิดแรงแห่งอานุภาพได้ ด้วยแรงศรัทธาอันสื่อชักที่มีอยู่กันนั่นเอง จะมากหรือน้อยก็ขึ้นอยู่กับการมีจิตที่มั่นคงและเชื่อถือจริงจังกันอย่างเพียงไหน คือการยึดมั่นที่ถูกหลักสู่การปฏิบัติถือครองอย่างมีจุดหมายโดยให้มีความพร้อมคล้องคู่กันไปอย่างเป็นเหตุเป็นผล เพื่อดลให้เกิดความชอบธรรมที่ดีต่อจิตใจอย่างคงมั่น และวัตถุมงคลนั้นก็เป็นเพียงแค่อำนาจสื่อที่มีพลังหนุนนำทางจิตให้เกิดความมั่นใจในการกระทำเพื่อให้ประสบผลของความสำเร็จกันเท่านั้น

    จะเห็นว่าการคิดดี พูดดี ทำดีนั้นเป็นองค์ประกอบสำคัญเพื่อความสมบูรณ์และยืนยาวของชีวิตที่มีความคิดเป็นไฉน เมื่อเป็นเหตุผลดังเช่นนี้แล้ว การน้อมนำเอาสิ่งที่เรายึดมั่นทางจิตใจอย่างพึงประสงค์ได้ ดั่งเช่นการนำเอาคุณอำนาจของพระรัตนตรัยมาเป็นบทนำทางจิตของเราให้เกิดแรงศรัทธาความตั้งใจและยึดมั่นที่น้อมนำเข้ามาอย่างสันติสุข จึงเป็นอานุภาพจากแรงบันดาลใจให้เกิดเป็นพลังแห่งอำนาจของการคุ้มครอง ไม่ว่าจะทำสิ่งไหน ไม่ว่าจะทำอะไร ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น หรือการต้านจากอำนาจร้ายๆที่จะเข้ามา สิ่งเหล่านี้ล้วนเกิดขึ้นมาได้เสมอถ้าหากเราไม่รู้จักระวัง หรือการที่จักต้องมีสติอยู่เสมอแทบจะทุกลมหายใจทุกครั้งที่เข้าออก ถ้าจะกล่าวกันง่ายๆเราต้องมีสติที่ถือครองกันอยู่เสมอก็ว่าได้

    อำนาจคุณพระรัตนตรัยย่อมเกิดขึ้นได้หากจิตของคนเรานั้นมีใจศรัทธาอย่างแน่วแน่กับการใช้สติไปในแนวทางบวกคือมีการคิดดี พูดดี ทำดี เป็นองค์ประกอบสำคัญในการถือปฏิบัติตามหลักครองธรรม และเมื่อมีจิตตามดั่งปรารถนาแล้วสามารถมีปาฏิหาริย์หรืออานุภาพเกิดขึ้นได้ด้วยพลังอำนาจของความศรัทธา โดยพลังอำนาจของคุณพระรัตนตรัยนี้เป็นพลังอำนาจอันบริสุทธ์ไม่มีอำนาจใดที่จะเสมอเหมือนหรือเทียบชั้นได้เลยเพราะถือเป็นอำนาจที่ทรงคุณค่าแห่งพลังที่จักต้องมีได้สำหรับคนที่มีบารมีธรรมร่วมสะสมเท่านั้นถึงจะสามารถนำมาใช้ได้ โดยคุณค่าที่ดีที่จะเป็นบ่อเกิดได้นั้นสำคัญได้ก็อยู่กับตัวของเราเองในการปฏิบัติตน

    เราจักเห็นว่าการสร้างบารมีธรรมนั้นจะสำเร็จผลได้ก็อยู่ที่ตัวของเราเองเช่นกัน ก็เหมือนกับอำนาจคุณพระจะเกิดผลขึ้นได้ก็อยู่ที่ตัวของเราเองเหมือนกันจะมากหรือน้อยก็ขึ้นอยู่กับผลบุญผลกรรมของแต่ละคนที่ได้กระทำกันไป เพราะคนเรานั้นสร้างบุญสร้างกรรมมาไม่เท่ากัน จึงต้องเสวยผลบุญในสิ่งที่เราปรารถนาตามจิตที่ต้องการหรือการสนองของผลกรรมกับการกระทำที่เคยก่อไว้พร้อมกับการใช้เวรใช้กรรมกันไม่รู้จักต่อกี่ภพกี่ชาติกว่าจะสนองกันไปจนกว่าจะจบสิ้น สิ่งเหล่านี้ล้วนคือกฎแห่งกรรม ที่อำนาจคุณพระไม่สามารถล่วงล้ำได้เมื่อคนเรานั้นได้ก่อกรรมหรือการกระทำใดๆด้วยจิตที่เป็นอกุศล อย่างนี้เขาเรียกว่าผลกรรม เราจะเห็นว่าถึงแม้จะห้อยพระที่มีอำนาจพุทธคุณอันสูงส่งหรือขออำนาจจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ใดๆก็แล้วแต่มันไม่สามารถช่วยเหตุหรือลบเลือนกับการกระทำได้เลยเพราะ กรรมเป็นตัวกำหนดชี้ชัด

    เราจะเห็นว่าโดยตามประวัติของหลวงปู่ทิมที่แท้จริงนั้น จักเห็นได้ว่าเป็นเรื่องราวที่ถูกนำมาเผยแพร่จากความศรัทธาและอานุภาพความขลังที่พึงประเจิดกันในรูปแบบต่างๆ ทั้งจริยาวัตรอันถูกแบบลักษณะความถูกต้องตามหลักธรรม การสืบสานทางด้านวัฒนธรรมที่ถือนำปฏิบัติกันมาโดยเฉพาะการสร้างวัตถุมงคลในรูปแบบเชิงชิต ที่มีคุณค่าอันเลิศล้ำทางพุทธคุณหนุนนำไปสู่ความจริงที่เกิดขึ้น โดยมีหลักความยึดมั่นแห่งศรัทธาที่เป็นองค์ประกอบหลักสำคัญตามแบบลักษณะของการก้าวล้ำทางพุทธศาสนาที่กำเนิดขึ้นมาสู่แนวทางปฏิบัติให้เกิดความเชื่อถือกับพุทธศาสนิกชนทั้งหลายที่น้อมนำเข้ามาจนเกิดเป็นพลังแห่งศรัทธา และจุดบ่อเกิดนี้เองจะสามารถทำให้ก่อเกิดกับเรื่องราวแห่งความมหัศจรรย์หรืออานุภาพใดๆที่เป็นสื่อสายสัมพันธ์กับความรู้ชอบอย่างเป็นเหตุเป็นผลหรือความเป็นประเจตน์อย่างที่สุด

    พระเครื่องและวัตถุมงคลประการใดก็แล้วแต่ คุณค่าที่แท้นั้นอยู่ที่ความจริงของสัจธรรม คือเพียงให้จิตของเรามีความยึดมั่นและถือมั่นเป็นหนึ่งเดียวหรือเป็นศูนย์กลางแห่งจิตใจเท่านั้น ไม่ให้จิตของเราวอกแวกเลื่อนลอย ให้มีสติที่ระลึกอยู่เสมอ รวบรวมเอาคุณพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่งทางใจเพื่อความไม่ประมาทแห่งชีวิต มีจิตที่เป็นคุณธรรมให้น้อมนำกระทำแต่ความดีละเว้นความชั่ว กระทำสิ่งใดแล้วก็จะบังเกิดผลต่างๆได้

    ฉะนั้นวัตถุมงคลและพระเครื่องที่เป็นความเชื่ออย่างถูกหลักนั้นเขาไม่ได้วัดค่ากันที่ราคาถูกหรือราคาที่มันแพง เขาไม่ได้วัดค่ากันตามวัสดุการจัดสร้างที่หาง่ายหรือต้องหาแบบพลิกฟ้าพลิกแผ่นดินกัน เขาไม่ได้วัดค่ากันที่พุทธคุณว่าองค์ไหนมีมากมีน้อย หรือการเสกมากเสกน้อย เสกบ่อยเสกนาน เสกงานใหญ่หรืองานเล็ก เสกเดี่ยวหรือเสกหมู่ก็ตามที เขาไม่ได้วัดค่ากันที่ประสบการณ์การใช้อย่างเป็นเหตุสมบุกสมบันหรือการไม่เจอกับประสบการณ์ใดๆ เขาไม่ได้วัดค่ากันที่ความสวยงามของรูปทรงองค์ลักษณ์แบบหูตากระพริบหรือแบบขี้เหร่ปานใดที่เกินค่าจะมองเห็นกัน ถ้าเรามองแยกแยะกันให้ดีว่า เขาแขวนพระหรือยึดถือกับวัตถุมงคลสิ่งนั้นไปเพื่ออะไรกัน ทำไมเขาถึงต้องห้อยต้องแขวน !แขวนแล้วได้ประโยชน์หรือมองเห็นมีคุณค่าอะไรกันบ้าง สิ่งเหล่านี้มีใครเคยคิดกันบ้างไหม ถ้าพูดตามหลักความเป็นจริงที่พึงจะทราบกันได้นั้น เขาแขวนไว้เพื่อเตือนใจให้ระลึกคุณของพระรัตนตรัยที่สถิตอยู่ในจิตอยู่เสมอแม้กระทั่งวัตถุมงคลนั้นเป็นก้อนอิฐก้อนหินก็ตามทีถ้าได้เสกไว้แบบมีคุณค่าทางใจจากครูบาอาจารย์ที่เรานับถือ คนโบราณเขายึดถือกันมากในแง่จุดประสงค์ที่สำคัญนี้ จะเห็นว่าคนสมัยก่อนนั้นเขาย่อมมีสัจจะและมีจิตอย่างยึดมั่นอยู่เสมอจักทำอะไรที่มันเป็นสื่อสารสัมพันธ์อันเกี่ยวเนื่อง ย่อมต้องนึกถึงคุณพระรัตนตรัยและคุณครูบาอาจารย์อยู่เสมอเพื่อเป็นแรงบันดาลใจในการกระทำสามารถที่จะก่อเกิดผลอันเป็นสิ่งที่เหลือเชื่อได้เกินจิตที่เราคาดฝันได้ อย่างเช่นการเกิดอานุภาพดั่งแรงปาฏิหาริย์ต่างๆที่ก่อเกิดขึ้นไปอย่างประจักษ์ตาหรืออย่างประจักษ์แบบรอบตัว เราจะแลเห็นว่าสิ่งสำคัญที่สุดคือ การมีจิตที่มั่นคงและยึดมั่นอย่างเอนกอนันต์ โดยซึ่งอานุภาพที่ดีและสามารถย่อมเกิดขึ้นได้นั้นก็อยู่ที่ตัวของเราเป็นตัวกำหนดนั่นเอง...


    [​IMG]
     
  15. แก้วสว่าง

    แก้วสว่าง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    3,232
    ค่าพลัง:
    +49,927
    การสร้างวัตถุมงคลตามแบบฉบับของชาวบ้าน เราจะเห็นว่าวัตถุประสงค์ของการสร้างเพื่อนำมาใช้ด้วยความศรัทธาต่อครูบาอาจารย์ที่นับถือกัน ซึ่งโดยแต่ก่อนนั้นวัตถุมงคลในยุคแรกๆของหลวงปู่ทิมยังไม่มีมูลเหตุหรือจุดประสงค์สำคัญของการจำหน่ายเพื่อการร่วมทำบุญสร้างกุศลผลมูลใดๆกัน ชาวบ้านและลูกศิษย์ลูกหาที่ทันในยุคนั้นเขาย่อมทราบกันดีว่าหลวงปู่ทิมท่านเป็นพระที่ถือครองการปฏิบัติตามหลักธรรมอย่างเคร่งครัดและการช่วยเหลือรักษาผู้คนตามหลักวิชาอาคมและไสยศาสตร์ที่ได้เคยร่ำเรียนมา หลวงปู่ท่านไม่ค่อยที่จะเน้นเรื่องการสร้างวัตถุมงคลใดๆเป็นจุดสำคัญ แต่ด้วยอานุภาพความศรัทธาของชาวบ้านผู้คนที่ไม่อาจจะเหนี่ยวรั้งกันได้ ประกอบกับจิตใจของผู้คนนั้นเขามีความต้องการเครื่องยึดเหนี่ยวทางด้านจิตใจเพื่อเป็นเครื่องsupportจิตใจให้มีพลังหรือความเชื่อมั่นในตัวเองในการดำเนินชีวิตอย่างถูกต้องและการเตือนอารมณ์ตัวเองในสิ่งที่ไม่บังควรกระทำ

    บรรพบุรุษแต่ก่อนนี้เขาจะมีความเชื่อเรื่องตามหลักไสยศาสตร์กันมาก อาจเพราะจะเกี่ยวข้องกับอำนาจลึกลับที่แฝงมาในรูปแบบต่างๆอย่างเช่นการใช้อำนาจคุณไสยหรือมนต์ดำตามพิธีกรรมความเชื่อที่มีกันมา อย่างเช่นการเสกหนังควาย การฝังรูปฝังรอยหรือการทำเสน่ห์ยาแฝด ฯลฯ สมัยก่อนนี้เขาทำกันได้จริงเชื่อตามบุพบทที่เห็น ซึ่งการที่จะทำให้เกิดผลนั้นก็ต้องมีความรู้ทางด้านอาคมสามารถใช้พลังอำนาจจิตกระทำให้เกิดผลของสิ่งเหล่านั้นได้
    เมื่อกล่าวถึงการเป็นหมอแผนโบราณยิ่งโดยในยุคสมัยก่อนนั้นเพื่อให้มีความถูกต้องอย่างสมบูรณ์แบบตามหลักวิถีความเป็นอยู่ของมนุษย์ จำต้องเรียนรู้ให้ครบรอบด้าน ทั้งทางด้านอาคมและไสยศาสตร์หรือแม้กระทั่งการปลุกเสกให้เกิดผล สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นผลกระทบอย่างมากในการดำเนินชีวิตของคนเราที่ถือเป็นปัจจัยสำคัญอย่างยิ่ง

    เมื่อเรามาถึงมุมมองทางด้านความคิดความสำคัญตามหลักตรรกศาสตร์อย่างตรึกตรองนั้น การนำเอาบทธรรมะมาสื่อรวมกับการใช้วิชาอาคมและไสยศาสตร์ต่างๆเพื่อเป็นการกระทำที่สนองต่อสถานะการณ์ในช่วงเวลานั้น จะเห็นว่าศูนย์รวมแห่งจิตใจนั้นคือ ศาสนาโดยจะต้องยึดมั่นตามหลักคำสอนของพระพุทธเจ้า เพื่อสำหรับใช้ประกอบในการดำรงชีวิตประจำวันเพราะศาสนามีคุณค่ามากมายต่อ มนุษย์ในด้านจิตใจซึ่งถือว่าสูงกว่าคุณค่าทางวัตถุ เป็นที่พึ่งทางใจทำให้มนุษย์ไม่อ้างว้างเวลาประสบปัญหาในชีวิต ผู้มีปัญหาย่อมสามารถนำหลักธรรมคำสอนของศาสนาซึ่งตนนับถือและเลื่อมใสศรัทธา นำพาชีวิตให้ไปสู่เป้าหมาย ที่ตนได้ตั้งไว้ หรือเพื่อไม่ให้เป็นเครื่องมือของอำนาจใฝ่ต่ำ เพราะคำสอนทุกศาสนาสอนให้คนเป็นคนดี สอนให้มนุษย์ละเว้นจากความชั่วทั้งปวง เป็นเครื่องแยกมนุษย์ออกจากสัตว์ ศาสนาจึงเป็นเหมือนประทีปส่องโลกเราให้สว่างไสวด้วยความรู้แจ้ง และยังสอนให้มนุษย์มีความรักสามัคคี มีความยุติธรรมต้องการปฏิบัติแต่สิ่งที่ถูกต้อง รักความเมตตากรุณา ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ช่วยเหลือผู้ที่อ่อนแอกว่า ไม่อิจฉาริษยาพยาบาทต่อกัน

    จะเห็นว่าตามบทคำสอนของทุกศาสนาสอนให้มนุษย์เรานั้นมีความสามัคคี มีจิตใจที่มั่นคง กระทำแต่ความดี สิ่งเหล่านี้ล้วนแต่เป็นหลักธรรมที่ต้องนำมาปฎิบัติและสื่อสอนการใช้ให้เกิดผลประโยชน์ที่ดีต่อกัน จะเห็นว่าบทบาลีคำสอนของหลวงปู่ที่ท่านได้กล่าวให้ไว้กับลูกศิษย์ใกล้ชิดว่า” มะอะอุ ทุขขัง อนิจจัง อนัตตา พุธโธ พุธโธ” ซึ่งมันเป็นดั่งความหมายที่มันมีใจความลึกซึ้งที่ว่า มะ อะ อุ ความหมายตรงๆนั้นหมายถึง ศีล สมาธิ ปัญญา มะ อะ อุ เป็นคำใช้ภาวนา และเป็นอุบายธรรม อธิบายได้ว่า การภาวนานั้น ให้มีศีลเป็นมาตราฐานในข้างต้น มีผลทำให้เกิดสมาธิตั้งมั่นได้ดี(สมถกรรมฐาน) เมื่อมีสมาธิตั้งมั่นดีแล้วพิจารณาต่อไป(เข้าสู่วิปัสสนากรรมฐาน)ย่อมทำให้ เกิดปัญญาเห็นแจ้ง แล้วก็ยังเป็นคาถาที่ครูบาอาจารย์โบราณนิยมใช้ภาวนาในทางด้านอิทธิฤทธิ์กัน มากซึ่งมันเป็นคำภาวนาแทน พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ แปลอิงมาจากบทพุทธคุณ ธรรมคุณ สังฆคุณ นิยมภาวนาคาถาแม่บทคือ อิ สวา สุ ซึ่งเป็นบทย่อ เป็นการภาวนาจับ พุทธานุสติ ธัมมานุสติ สังฆานุสติ ได้ดี เป็นอิทธิฤทธิ์ด้วย เท่าที่ทราบกันคาถาบทนี้ของหลวงปู่ทิมให้เรานึกถึงปริศนาธรรมในคาถา ที่หลวงปู่สอนไว้เป็นขั้นตอนการพิจารณาคาถา และ ปริศนาธรรม ที่ท่านแฝงธรรมเรื่องหลักการภาวนาว่า
    มะ อะ อุ ให้มีศีลเป็นข้างต้น จะมีผลให้เกิดสมาธิตั้งมั่นดี สามารถใช้งานได้ ให้ใช้สมาธิตั้งมั่นดีแล้วนั้น พิจารณาเพื่อเกิดปัญญา ทุกขัง พิจารณาเห็นทุกสิ่งล้วนมีฐานเป็นทุกข์อยู่ตลอด อนิจจัง เบื้อง ต้นพิจารณาเห็นแจ้งถึงการเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไปของจิตอย่างไม่รู้จักจบสิ้น หาความเที่ยงแท้ไม่ได้ จนรู้ว่าสิ่งใดมีเกิด สิ่งนั้นย่อมมีดับไปเป็นธรรมดา อนัตตา เบื้องปลายพิจารณาเห็นแจ้งถึงความไม่เกิดไม่ดับของจิต จนรู้ว่าสิ่งใดไม่มีเกิด สิ่งนั้นย่อมไม่มีดับซึ่งจะอยู่ในช่วงพระอรหัตมรรค ถึง พระอรหัตผล พระอริยบุคคลขั้นสุดท้าย พุทโธ พุทโธ เมื่อเกิดปัญญารู้แจ้งได้ดังนี้แล้ว ย่อมเป็นผู้เห็นธรรม จบกิจพระพุทธศาสนาแล้ว และพระอรหันต์ก็ เป็นผู้รู้แล้ว ซึ่งจุดหมายที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสรู้และชี้ทางไว้ดีแล้วนั่นเอง

    วัตถุมงคลของหลวงปู่ทิมที่ท่านอธิษฐานเสกไว้นั้นมีอานุภาพที่จักแฝงด้วยคุณธรรมและจริยธรรมการบ่งชี้ เมื่อได้นำไปใช้โดยมีจิตศรัทธาที่มั่นคง เข้าใจความหมายของธรรมอย่างลึกซึ้ง การระลึกถึงคุณของพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ คุณบิดามารดาและครูบาอาจารย์ ถือว่าเป็นคุณอันประเสริฐสูงสุดที่เราจะต้องให้เข้าถึงหรือเกิดขึ้นในดวงจิตของเราให้เป็นสื่อเชื่อมถึงกันเพื่อให้เกิดความเป็นประสิทธิผลได้อย่างสมบูรณ์แบบที่ดี ตามความหมายของหลักพุทธศาสนาที่เรายึดถือกันตั้งแต่เมื่อครั้งพุทธกาลมา....
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  16. แก้วสว่าง

    แก้วสว่าง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    3,232
    ค่าพลัง:
    +49,927
    ในความมุ่งหมายโดยการสืบทอดเจตนารมณ์ของหลวงปู่ทิมวัดละหารไร่และครูบาอาจารย์ เพื่อให้มีความเชื่อถือและการยึดมั่นอย่างถูกหลัก สิ่งที่ดีๆที่มีคุณค่านี้สามารถนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์ได้ในชีวิตประจำวัน เราจะเห็นว่าสังคมทุกวันนี้การเข้าหลักถึงธรรมอย่างแท้จริงนั้นคงจะมีกันไม่มาก คนเรานั้นมักไม่ค่อยคิดถึงสิ่งที่ตนมีอยู่ แต่มักจะคิดในสิ่งที่ตนไม่มี เราแทบจะไม่เคยคิดเลยว่าเรามีอะไรกันบ้าง แต่เราคิดเพียงว่าเราขาดอะไรไปบ้างเท่านั้น การสร้างนิสัยให้เกิดความคิดมองหาแต่ด้านดีทุกสถานการณ์เป็นสิ่งที่มีค่ามากหลาย การสร้างกุศลอันประเสริฐสุดแก่ผู้หนึ่งผู้ใดนั้นมิใช่การเผื่อแผ่ความร่ำรวยไปให้เขาหรือไม่ แต่มันอยู่ที่การทำให้เขาเกิดตาสว่างมองเห็นขุมทรัพย์ที่เขามีอยู่ในตนต่างหาก ฉะนั้นสิ่งที่ล้ำค่าที่สุดของคนเราก็คือ ชีวิต เราจะเป็นเจ้าของชีวิตได้เพียงครั้งเดียวเท่านั้น จงอย่าปล่อยให้ชีวิตเป็นไปอย่างไร้จุดหมายขอให้ทุกท่านดำเนินชีวิตอย่างมีสติ ตลอดชีวิตของคนเราไม่มีทางเรียนจบ ชีวิตนั้นคือบทเรียนที่ต้องดำเนินการต่อไปจนกว่าจะสิ้นสุดลงเมื่อนั้น หลวงปูทิมท่านให้คติธรรมแก่ลูกศิษย์ไว้ว่าให้ยึดมั่นในคุณความดีเพื่อชีวิตนั้นจะได้มีคุณค่ายิ่ง ขอให้ทุกท่านถือหลักปฏิบัติธรรมกันอย่างถูกต้อง พระเครื่องที่ทางวัดสร้างสรรค์กันยุคแรกๆ โดยนายสาย แก้วสว่างอดีตไวยาวัจกรและลูกศิษย์ของท่านที่หลวงปู่ท่านได้ดำหริให้สร้างพระเครื่องขึ้นมา ซึ่งในสมัยแต่แรกนั้นวัตถุประสงค์จะสร้างขึ้นมาเพื่อแจกแก่ลูกศิษย์ลูกหาผู้ที่นับถือศรัทธากันอย่างมากมายและในยุคครั้นต่อมาวัตถุมงคลของวัด และลูกศิษย์ที่มาได้สร้างขึ้นเพื่อทะนุบำรุงศาสนะสถานต่างๆของวัดโดยมีทั้งสร้างโบสถ์ ศาลา หอสวดมนต์ รวมทั้งสร้างขึ้นเพื่อความศรัทธาในหมู่ลูกศิษย์ลูกหาที่นับถือกัน ซึ่งสิ่งเหล่านี้ย่อมมีความปรารถนาดีในความหมายของพุทธศาสนาเพื่อให้เกิดความคิด ความเข้าใจและการยอมรับนับถือเชื่อมั่นในสิ่งที่เป็นความเชื่อที่เป็นธรรมโดยอยู่คู่กับมนุษย์มาตั้งแต่ยุคโบราณ ฉะนั้นอำนาจของคุณพระพุทธ คุณพระธรรม คุณพระสงฆ์ คุณบิดามารดา และคุณครูบาอาจารย์จึงเป็นสิ่งที่เชื่อมั่นกันได้ ขอให้ทุกท่านมีจิตน้อมรำลึกกันอย่างเป็นปึกแผ่น
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  17. แก้วสว่าง

    แก้วสว่าง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    3,232
    ค่าพลัง:
    +49,927
    ผู้สวดมนต์ก็จะต้องทำจิตของตนให้นิ่งหรือสงบเพื่อให้จิตของตนเป็นสมาธิ และด้วยอำนาจของจิตที่เป็นสมาธินี้เองก็สามารถทำให้เกิดสิ่งที่ไม่น่าเชื่อต่างๆขึ้นได้ ซึ่งอำนาจจิตนี้ก็จะต้องได้รับการฝึกฝนเพื่อให้เกิดอำนาจของจิตนี้เป็นพลังซึ่งเราอาจจะรวมเรียกกันว่าพลังจิตก็ว่าได้ซึ่งสามารถทำให้เกิดฤทธิ์เดชหรืออิทธิปาฏิหารย์ต่างๆได้อย่างเหลือเชื่อและตัวพลังจิตนี้ถ้าวิเคราะห์ให้ดีน่าจะเป็นตัวสำคัญที่ทำให้เราได้เห็น ทำให้เราได้ยิน และทำให้เราเคลื่อนไหวในอิริยาบถต่างๆ ถ้าทำจิตหรือสมาธิไม่ถึงขั้นคาถาบทนั้นก็ยังใช้ไม่ได้ผล หรืออาจบางทีการที่จะเสกของหรือวัตถุสิ่งใดก็แล้วแต่เพื่อให้เกิดสัมฤทธิ์ผลขึ้นมาถ้าจิตหรือสมาธิของผู้เสกยังไม่ถึงระดับอภิญญาญาณก็ยังไม่สามารถทำได้ อภิญญา 6 คือสามารถแสดงฤทธิ์หรืออิทธิฤทธิ์ได้ เป็นทิพโสตมีหูทิพย์ ตาทิพย์ สามารถรู้การตายของคนและสัตว์สามารถรู้วาระจิตรู้ความคิดของคน สามารถระลึกชาติได้และสามารถหลุดพ้นจากการเวียนว่ายตายเกิดได้ ซึ่งสิ่งดังกล่าวนี้ถ้าจะให้บังเกิดผลได้ก็จะต้องทำปัญญาให้เห็นแจ้งซึ่งเรื่องของปัญญานี้ย่อมเป็นตัวสำคัญในการดำเนินชีวิตและเป็นตัวชี้นำในการแก้ปัญหาต่างๆในชีวิตประจำวัน และจะต้องมีความตั้งมั่นอยู่ในศีลในธรรมให้จิตเกิดความสงบได้ทั้งกายวาจาใจคือจะต้องมีการเจริญสมถะวิปัสสนากรรมฐาน เรียนรู้เรื่องการภาวนาต้องมีความเชื่อมั่นศรัทธาเชื่อมั่นในการบริกรรมภาวนาอันเป็นอารมณ์ของจิต การที่จะภาวนาแล้วจะต้องบังเกิดผลนั้น จะต้องมีใจที่แน่วแน่ มั่นคง ให้จิตอยู่กับพุทโธและให้พุทโธเข้าถึงจิต ซึ่งจะทำให้จิตนั้นกลายเป็นผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน ทำให้มีความรู้สึกผิดชอบชั่วดีและสิ่งสำคัญนี้ก็จะไม่เกิดในจิตของการภาวนาพุทโธนี้ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญในการฝึกฝนจิตและทำจิตให้สงบ เพื่อการเจริญกรรมฐานเพื่อที่จะขจัดนิวรณ์ทั้ง 5 คือ1. กามฉันทะคือความใคร่ในกาม 2.พยาปาทะคือความพยาบาทเคียดแค้น 3.ถีนะมิทธะคือความง่วงเหงาหาวนอน 4.อุทธัจจะกุกกุจจะคือความฟุ้งซ่านรำคาญ 5.วิจิกิจฉาคือความลังเลไม่ตกลงใจที่จะประพฤติปฏิบัติธรรมโดยเอาชีวิตเข้าแลก และการให้จิตภาวนาว่าพุทโธซึ่งการฝึกฝนจิตนั้นจะต้องตั้งมั่นอยู่ในคำบริกรรมพุทโธนี้และให้เอาสติไปควบคุมอยู่ในพุทโธเป็นอารมณ์เดียวและการภาวนาพุทโธไปเรื่อยๆจะทำให้ใจเป็นกลาง วางจิตให้เสมอ เอาสติไปกำหนดจิตและบริกรรมภาวนาพุทโธไปเรื่อยๆนี้จะทำให้กิเลสความยึดมั่นถือมั่นในสิ่งทั้งปวงมันจะค่อยๆหายไปเอง และขอให้เชื่อมั่นในพุทโธซึ่งคำว่าพุทโธนี้ก็เปรียบเสมือนการระลึกถึงพระพุทธเจ้า ซึ่งจะเห็นได้ว่าพระทิมท่านได้ยึดมั่นและถือมั่นในองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าโดยแท้จริง หลักปฏิบัติในพระพุทธศาสนาคือให้มีศีล สมาธิ ปัญญา ดั่งคำบาลีกล่าวไว้ว่าสีเล ปติฏฐายนโร สปญโญ จิตฺตํ ปัญญญ จ ภาวยํ อาตาปิ นีปโก ภิกขุ โสอิมํวิชฏเย ชฏํ “บุคคลใดตั้งอยู่ในศีล ทำสมาธิให้เกิด ยังวิปัสสนา ปัญญาให้แจ้ง บุคคลผู้นั้นก็จะสางความยุ่งเหยิงในโลกนี้ได้” ซึ่งความยุ่งเหยิงก็คือ กิเลส มี โลภะโทสะ โมหะ หรือความโลภ ความโกรธ ความหลง ที่มาวุ่นวายในจิตใจเราตลอดเวลา

    ไม่มีใครมาลิขิตชีวิตเราได้นอกจากตัวเราเอง
    อุปสรรคคือความแข็งแกร่ง
    ปัญหาคือการฝึกฝน
    ความผิดพลาดคือการเรียน
    เวลาไม่เคยหวนกลับ เราไม่สามารถกลับไปแก้ไขวันวานได้
    เก็บความผิดพลาดในอดีตมาเป็นบทเรียนสำหรับอนาคต
    อย่าปล่อยให้เวลาผ่านไปโดยไร้ประโยชน์ แล้วก็อย่าบอกว่าเวลาไม่เคยพอ
    ทำวันนี้ให้มีความสุขก็พอ
    อดีตไม่สำคัญ..ปัจจุบันทำให้ดีที่สุด
    สุดท้ายยย '' Nobody Perfect '' ไม่มีใครในโลกนี้สมบูรณ์....

    เพราะทุกคนมีความยึดมั่นและศรัทธาโดยแน่แท้ คนเรานั้นยึดมั่นทำดีก็ย่อมได้รับผลดีตอบแทน ซึ่งสิ่งต่างๆเหล่านี้ย่อมเป็นผลพวงที่ดีต่อไปในอนาคตทั้งตัวเราเองและครอบครัวและในหมู่สังคมที่ดีและมีแต่ความจริงใจอยู่เสมอก็เพราะการกระทำของตัวเราเอง ขอให้ทุกคนยึดมั่นในความดีอยู่เสมอ โดยยึดในหลักของ มะอะอุ ทุกขัง อนิจจัง อนัตตา ซึ่งเป็นคำสอนของหลวงปู่ทิมที่ได้กล่าวแก่ลูกศิษย์อยู่เสมอ และท่านยังได้กล่าวอีกว่าให้ระลึกถึงคุณบิดามารดาที่เลี้ยงดูเรามาจนเติบใหญ่ และครูบาอาจารย์ที่ได้สั่งสอนให้เราเป็นคนดีและมีความรู้ และสอนให้เรามีความกตัญญูกตเวทีต่อไปก็จะมีแต่ความเจริญก้าวหน้าในชีวิต และการงานต่างๆทั้งหลาย
    ...

    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 ธันวาคม 2014
  18. แก้วสว่าง

    แก้วสว่าง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    3,232
    ค่าพลัง:
    +49,927
    ครูบาอาจารย์..ผมเคยสอนว่า.. คนเราทำมัยถึงเกิดมาแล้วมีไม่เท่ากัน..มันเป็นเพราะเราสร้างบุญมาไม่เท่ากันนั้นเอง...ฉะนั้นในเมื่อเราได้เกิดมาเป็นมุนษ์...ก้อจงทำแต่ความดี...สร้างบุญบรมีให้เยอะ...เท่าที่ทำได้...แล้วผลบุญจะส่งเสริมให้เรา..มีความเจริญรุ่งเรื่องในภายหน้า...จงอย่าสร้างบุญด้วยจิตที่หวังผล...เพราะสร้างเท่าไหร่ผลบุญก้อไม่มากกว่ากำลังทรัพย์ที่เราลงทุนไป...ขอให้สร้างบุญด้วยจิตศัทธา...จิตที่มีเมตตาธรรมจริงๆ...ถึง..จำนวนเงินอันน้อยนิด...ก้อสามารถสร้างบุญได้มากมายเหลือคณา...นับ..
    ทุกอย่างล้วนสำคัญที่จิตใจ...ไม่ใช้กำลังทรัพย์...

    พระของหลวงปู่นั้น มีวิธีใช้ให้เกิดผลอย่างไร?
    คำตอบก็คือ ลุงสาย ท่านได้บอกเป็นแนวการใช้ไว้ว่า พระของหลวงปู่ไม่มี วิธีการใช้หรือคาถาใดๆ กันเป็นพิเศษ
    หลวงปู่ ท่านกล่าวไว้ว่า ท่านทำไว้สำเร็จแล้ว ใช้เพียงใจศรัทธาในการใช้ก็พอ

    พระของหลวงปู่นั้น แท้ที่จริงแล้ว ไม่จำเป็นต้องมีคาถาบทใดในการใช้ จากการที่ผมได้
    เก็บข้อมูลของสมาชิกหลายๆ ท่าน เขาเหล่านั้นมีแต่เพียงจิตศรัทธาต่อหลวงปู่ โดยไร้ข้อสงสัยใดๆ
    อาจกล่าวได้ว่าศรัทธาเกินร้อย ก็ไม่เกินความเป็นจริง ไม่เคยต้องใช้คาถาใดกำกับ

    แต่หลวงปู่เคยให้คาถาแก่ลุงสายมาบทหนึ่ง ซึ่งเราๆ ก็เคยได้ยิน ได้เห็น ผ่านหูผ่านตากันมาบ้าง
    นั่นก็คือ " มะอะอุ ทุกขัง อนิจจัง อนัตตา พุทโธ พุทโธ " มีเพียงเท่านี้ครับ ไม่ขาดไม่เกิน
    หากมองจากคำแปลแล้ว เหมือนเป็นบทสอนเราถึงความไม่เที่ยงแท้ของคนเรา ให้ระลึกไว้เสมอ

    สุดท้าย เคล็ดลับในการใช้พระของหลวงปู่ ก็เป็นดั่งสโลแกนที่ว่า " จงทำจิตให้นิ่ง" นั่นล่ะครับ เคล็ดลับ !

    หลวงปู่ทิมท่านสอนให้ลูกศิษย์
    หมั่นทำจิตให้นิ่ง ทิ้งสงสัย
    นึกถึงท่านทุกทีเมื่อมีภัย
    ให้อุ่นใจเรื่องร้ายกลายเป็นดี
    พระของท่านที่นี้ดีกว่าคิด
    คนมีจิตศรัทธาได้ดังฝัน
    อธิษฐานสำเร็จโดยเร็วพลัน
    ด้วยจิตนั้นที่ศรัทธาของจิตตน

    " หลักธรรมทางพระพุทธศาสนาเมื่อกล่าวถึงศรัทธา แล้วต้องมีปัญญากำกับอยู่ในหลักธรรมนั้นเสมอ ทั้งนี้ก็เพราะว่าเมื่อมีความเชื่ออย่างเดียวโดยไม่มีปัญญาก็จะเป็นความเชื่อที่งมงาย ปราศจากเหตุผล และการพิสูจน์ เพราะฉะนั้นความเชื่อจึงเป็นลักษณะความรู้แบบหยาบๆ โดยไม่ผ่านการเจียระไนทางความคิดหรือไม่ผ่านการไตร่ตรองด้วยโยนิโสมนสิการ พระพุทธเจ้าทรงตรัสสอนเรื่องศรัทธาไว้ที่ไหนก็จะมีปัญญามาพร้อมด้วยทั้งนี้ ก็เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้เชื่อเกิดความงมงาย "


    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 ธันวาคม 2014
  19. แก้วสว่าง

    แก้วสว่าง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    3,232
    ค่าพลัง:
    +49,927
    การทำความดีนั้น ไม่ใช่เราคิดทำเอง โดยไม่มีเหตุมีผล โดยไม่มีเยี่ยงอย่าง องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เป็นเนติแบบฉบับ เป็นบรมครูของเรา ที่ท่านได้เป็นพระศาสดาเอกในโลกได้ เพราะพระองค์ทำความดี ด้วยกาย ด้วย วาจา และด้วยจิตใจ เสมอตลอดมา ความดีจึงปรากฏขึ้นสมบูรณ์บริบูรณ์ในพระองค์ ตรงกันข้ามกับบุคคลที่ทำไม่ดี สร้างความทุกข์ใส่ตัวเอง แล้วก็สร้างความทุกข์ให้ผู้อื่น สร้างความไม่สงบ สร้างความเดือดร้อน สร้างความเสื่อมเสีย หลายอย่างด้วยกัน ทั้งหมดนี้ล้วนจากสิ่งไม่ดีทั้งนั้น ทำไมการทำอย่างนั้นจึงเป็นสิ่งที่ไม่ดี เพราะทุกคนไม่ชอบผลที่เกิดขึ้นจากการกระทำเช่นนั้น การกระทำเช่นนั้น จึงได้จัดในหมู่ ในหมวดในทางที่ไม่ดี ที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระองค์พยายามละ และแนะนำสั่งสอนให้สาวกละตามด้วย เราทั้งหลายปฏิบัติความดีด้วยจิตตภาวนานี้ ก็เพื่อให้ห่างจากสิ่งไม่ดีนั้นเอง เพราะเราคนเดียว กายก็มีกายอันเดียว เมื่อกายของเราทำความดีแล้ว เราก็เท่ากับเหินห่างจากสิ่งที่ไม่ดี วาจาของเรา

    การทำความดีในปัจจุบันย่อมได้รับความสุขในอนาคต และผู้ที่ทำบุญหรือกระทำความดีนั้นยังได้รับความสุข ได้รับผลดีตอบแทนในขณะที่ทำนั้นด้วยความปิติยินดี ความสุขใจสบายใจที่ได้กระทำความดี การได้รับคำยกย่องสรรเสริญว่าเป็นคนดีมีคุณธรรม การได้รับการปฏิบัติตอบที่ดี ความเป็นผู้มีบุญได้กระทำไว้ก่อน อุปมาด้วยการเรียนหนังสือจนสำเร็จ ได้ประกาศนียบัตรหรือปริญญาบัตร อันเป็นเครื่องแสดงคุณวุฒิให้เข้าทำงานได้ เมื่อทำงานเจริญก้าวหน้า มีตำแหน่งสูงขึ้น มีหลักฐานมั่นคง ก็ได้รับความสุขตามสมควรแก่อัตภาพ ความสุขนั้นเป็นผลของความดี คือการเรียนหนังสือที่ได้กระทำไว้ในอดีต สำหรับความสุขที่ได้รับนี้ เกิดจากการตั้งตนไว้ชอบมีความเกี่ยวเนื่องสัมพันธ์กัน การคบกับสัตบุรุษเป็นเหตุให้ได้ฟัง ได้ศึกษา รู้จักบาปบุญ และละบาปบำเพ็ญบุญเป็นการตั้งตนไว้ชอบ ซึ่งจะได้รับความสุขอันเป็นผลของบุญในกาลต่อมา ได้ชื่อว่าเป็นผู้ได้ทำบุญไว้แล้วในกาลก่อน

    ทำอย่างไรจึงจะเป็นคนดี.....
    มนุษย์ทุกรูปทุกนามมีความรักตนเองมากที่สุด รักตนเองยิ่งกว่าสิ่งใดในโลก แม้นว่าชายหญิงบางคนที่หวังแอบอิงกัน จะบรรยายกับคนรักของตนเองว่า ฉันรักเธอยิ่งกว่าชีวิตฉัน ฉันพร้อมที่จะสละทุกสิ่งแม้ชีวิตนี้เพื่อเธอได้ แต่ในความจริงนั้น เหตุที่ทุ่มเทความรักให้คนอื่นก็เพื่อมุ่งหวังให้เขารักตนนั่นเอง ยังมีความจริงอีกสิ่งหนึ่งที่พิสูจน์ได้คนเรารักและเข้าข้างตนเองก็คือ หาก ตนเองทำผิดในสิ่งที่รู้อยู่ว่าผิดเช่น ติดการพนัน ติดเที่ยวกลางคืน ติดสุรา ติดชู้ ก็มักจะมีความรู้สึกฝืนความผิดชอบชั่วดี มีแต่การให้อภัยตนเองอยู่ร่ำไป ไม่คิดจะแก้ไขในสิ่งผิด ใครที่คิดแต่จะทำสิ่งที่ผิดซ้ำซากอยู่อย่างนี้ ชื่อว่าไม่รักตัวเอง จึงสมควรที่จะต้องแก้ไขตนเองด้วยการงดเว้นจากสิ่งที่ไม่ดีทั้งปวง จึงจะชื่อว่าเป็นคนที่รักตัวเองอย่างแท้จริง
    เมื่อ รักตัวเองจึงจำเป็นต้องสร้างตนเองให้สามารถเป็นที่พึ่งของตนเองได้ ด้วยการขยันหมั่นเพียร ศึกษาหาความรู้ ขยันทำมาหากิน ประกอบอาชีพที่สุจริต คิดสร้างฐานะตนเองให้มั่นคงเพื่อดำรงตนให้เป็นที่พึ่งของตนเองได้ทุกเมื่อ ถ้า เราไม่ฝึกตนให้เป็นคนดี ไม่มีวิชาความรู้ ไม่มีความประพฤติดี ไม่มีความขยันหมั่นเพียร ไม่มีศีลธรรมประจำใจ ชีวิตก็ไปไม่รอด ช้างม้าวัวควายถ้าไม่ได้รับการฝึกก็ไม่สามารถนำมาใช้งานได้ คน เราถ้าพิจารณาเห็นตามที่กล่าวแล้วแล้วว่า ตัวเองยังขาดตกบกพร่องอยู่อย่างไร ก็ต้องรีบแก้ไขในสิ่งผิด ฝึกตนใหม่ให้ดีขึ้นตามลำดับ ก็จะสามารถนำชีวิตไปสู่ความสุขได้ความเจริญได้ อย่าอยู่ไปวันๆ โดยไม่มีความหมาย เกิดมาทั้งทีต้องเอาดีให้ได้
    การ ฝึกตนนั้นเป็นสิ่งยากเพราะคนเรามักตามใจตัวเอง เข้าข้างตนเองเสมอ อยากได้อะไรก็ต้องได้ อยากทำอะไรก็ต้องทำ ทั้งที่ตนเองก็รู้ว่าสิ่งนี้เป็นสิ่งผิด สิ่งนั้นชั่ว ทำไปแล้วตนเองจะเดือดร้อนแต่ก็ยังจะทำ คนประเภทนี้เรียกว่า คนมีกิเลสหนาปัญญาต่ำ ย่อมกระทำสิ่งที่ผิดทำนองคลองธรรมได้ทุกอย่าง บางครั้งทำผิดไปแล้วก็รู้ตัวว่าทำผิด แทนที่จะคิดแก้ไขลดละเลิกการกระทำนั้นก็ไม่ยอมทำเช่น คนติดยาเสพติด ติดสุรา ติดบุหรี่ ติดการพนัน เป็นต้นก็ยังไม่ยอมละลดเลิกสิ่งผิดอยู่ดีแล้วจะเป็นคนดีได้อย่างไร เหมือนคนเดินไปเหยียบอุจาระและอาจม ถ้าไม่ล้างออกเท้าจะสะอาดได้อย่างไร
    คนเรานั้นถ้าไม่หมั่นพิจารณาตนด้วยตนเอง ไม่คิดจะปรับปรุงตนเองให้อยู่ในศีลในธรรมในระเบียบวินัย อนาคตก็ไปไม่รอด
    1.หากรู้ว่าตนเองมีความรู้น้อยก็ต้องฝึกตนเองให้รักการศึกษา
    2.หากรู้ว่าตนเองเกียจคร้านก็ต้องบังคับตนเองให้ขยันขันแข็ง
    3. หากรู้ว่าตนเองโลเลก็ต้องปรับตนเองให้เป็นคนมั่นคงไม่อ่อนไหวง่าย
    4.หากรู้ว่าตนเองบกพร่องสิ่งใดก็ต้องพยายามแก้ไขปรับปรุงสิ่งที่บกพร่องนั้นให้หมดไป
    การ ปรับปรุงตนเองให้ก้าวหน้าอยู่เสมอ ก็จะสามารถนำพาชีวิตไปสู่ความสำเร็จได้ ถ้าไม่ฝึกตนปล่อยตนเองให้เป็นแบบเรือที่ปราศจากหางเสือก็เชื่อได้ว่า เกิดมาชาตินี้เอาดีไม่ได้ (อตฺตา หิ กิร ทุทฺทโม. การฝึกตนเองเป็นของยาก)
    หาก เราไม่สามารถเอาชนะกิเลสตัณหาที่ครอบงำจิตอยู่ได้ จิตใจก็จะใฝ่ต่ำชักนำไปในทางชั่วร้าย กล้าทำในสิ่งที่ผิดศีล ผิดธรรม ผิดกฎหมายบ้านเมืองได้ หากเราไม่สามารถบังคับควบคุมจิตใจให้ดีได้ก็จะมีแต่ความทุกข์ความลำบาก
    1. หากเอาชนะจิตใจที่โลภได้ ย่อมไม่อยากร่ำรวยในทางทุจริตผิดกฎหมาย
    2.หากเอาชนะใจที่โกรธได้ ก็จะไม่ก่อเหตุประทุษร้ายต่อใครให้บาดเจ็บล้มตาย
    3.หากเอาชนะจิตที่กำลังหลงงมงายได้ ก็จะไม่มัวเมาประมาท ทำผิดพลาดคิดผิดพลาดในกิจการทั้งปวง
    บุคคลที่สามารถชนะจิตใจได้แบบนี้ ย่อมไม่มีเวรมีภัยกับใคร ดีกว่าไปชนะคู่อริด้วยอาวุธ ชนะ ด้วยกฎหมายที่ไม่เป็นธรรม ทำให้ผู้อื่นได้รับได้รับความเสียหายเจ็บแค้น การชนะแบบนี้มีแต่จะนำความพ่ายแพ้มาให้กับตัวเราในที่สุด เป็นชัยชนะที่อาจกลับเป็นผู้พ่ายแพ้ในทีหลัง การชนะกิเลสที่เกิดขึ้นในจิตใจของเราได้เป็นการชนะที่ดี อตฺตา หเว ชิตํ เสยฺโย การชนะกิเลสที่เกิดขึ้นในจิตของตนเองได้เป็นความดี
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  20. แก้วสว่าง

    แก้วสว่าง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    3,232
    ค่าพลัง:
    +49,927
    เปิดตำนานหลวงปู่ทิมวัดละหารไร่ ด้วยแรงใจแรงศรัธาและตั้งมั่น
    ขอนอบน้อมวันทาแลอภิวัน จิตยึดมั่นคุณความดีมีศีลธรรม
    ใครก่อกรรมทำเข็ญไว้เช่นไร กรรมนั้นไซร์จะตอบชอบสนอง
    กงเกวียนกำเกวียนเวรเวียนจอง ดีชั่วต้องมีผลวนสู่เรา
    ถ้าคิดสร้างกุศลจะวนตอบ ตามระบอบวัฎฎะวงคงเฉลา
    ทำดี ดีสนองปองสู่เรา ทำชั่วเศร้าทรุดตำไม่คำคูณ
    สร้างกุศล กุศลส่งวนมาหา วันข้างหน้าจะดี มิมีสูญ
    มงคลเกิดมั่งมีทวีคูณ จะเพิ่มพูนแผ่ผลวนสู่เรา
    ขอแต่ให้ตั้งใจในกุศล จะส่งผลลำเลิศประเสริฐศรี
    แม้ทำน้อยทำมากหากยินดี จะทวีผลบุญจุนเจือเรา
    ถ้าทำบุญเอาหน้าเห็นว่ายาก บุญไม่มากเพราะอวดประกวดเขา
    ไม่ตั้งใจทำจริงเหมือนพิงเงา จะสูญเปล่าแม้ได้ก็ไม่ดี
    บุญคุ้มบาปไม่ได้ขอให้คิด บุญจะผลิตความดีทวีสำ
    บุญส่วนบุญบาปส่วนบาปจงทราบคำ แม้ใครทำใครได้ไม่เผื่อกัน
    ถ้าไม่ทำไม่ได้ขอให้คิด เหมือนชีวิตที่เห็นมิเบนผัน
    เราปลูกพืชได้ผลวนมาพลัน แต่เพื่อนกันมิขวายขวนผลไม่มี
    ถ้าสร้างเวรกรรมไว้ไปไม่พ้น จะตามวนวกเวียนไม่เปลี่ยนหนี
    หลวงปู่ทิมกล่าวอ้างตัวอย่างมี ทำความดีละความชั่วไม่หมองมัวเอย

    ศรัทธาเป็นความเชื่อของบุคคลต่อสิ่ง ต่างๆ สำหรับพุทธศาสนาจะกล่าวถึง "ศรัทธา 4" คือ เชื่่อกฏแห่งกรรม เชื่อผลแห่งกรรม เชื่อว่าสรรพสัตว์มีกรรมของตนเอง และความเชื่อในการตร้สรู้ของพระพุทธเจ้า ซึ่งศรัทธาที่เป็นคุณสมบัติประจำของชาวพุทธนี้เอง ก่อให้เกิดการปฏิบัติในการให้ทาน การรักษาศีล และการปฏิบัติภาวนา/สมาธิ เพื่อให้ตนพ้นทุกข์ก้าวสู่สายธารแห่งธรรม นำจิตวิญญานให้หลุดพ้นจากวัฏสงสาร

    สติความระลึกได้จักยังปุริสธรรม ธรรมของคนดีให้มีบริบูรณ์ทั้งความรู้จักเหตุ ความรู้จักผล ความรู้จักตน ความรู้จักประมาณ ความรู้จักกาล ความรู้จักประชุมชน ความรู้จักบุคคล ความมีสติระลึกอยู่ในเหตุผลทุกกาลเวลา ทั้งเหตุทั้งผลในอดีต ในปัจจุบัน และในอนาคต คือความมีสัปปุริสธรรม ธรรมของคนดี จักเป็นเหตุให้มีการงานสะอาด เพราะผู้มีสตินั้น ก่อนจะทำการใด จักใคร่ครวญด้วยดี เว้นการเป็นโทษ ทำแต่การเป็นคุณ และมีสติเตือนตนอยู่เสมอให้สำรวมทั้งกายวาจาใจในความดีงาม ความสงบเรียบร้อย และถูกต้อง จึงอาจกล่าวได้ว่าความมีสติจะทำให้เป็นผู้อยู่ในธรรม ไม่อยู่ในความประมาทอันเป็นทางแห่งความตาย


    [​IMG]
     

แชร์หน้านี้

Loading...