เรื่องเด่น เจอ “มนต์ดำ” สมเด็จโตให้สวดสามคำสั้นๆ ไม่ต้องกลัวอีกต่อไป

ในห้อง 'บทสวดมนต์ - คาถา' ตั้งกระทู้โดย ษิตา, 1 พฤศจิกายน 2018.

  1. ษิตา

    ษิตา ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    10,174
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,230
    ค่าพลัง:
    +34,647
    เจอ “มนต์ดำ” สมเด็จโตให้สวดสามคำสั้นๆ ไม่ต้องกลัวอีกต่อไป

    hqdefault-02-01.jpg




    ครั้งหนึ่ง "สมเด็จพระพุฒาจารย์" (โต พรหมรังสี) เคยบอกเล่าประสบการณ์เกี่ยวกับการได้เห็นพลานุภาพของ "การสวดมนต์" ต่อหน้าต่อตา


    เรื่องของเรื่องก็คือ สมัยที่สมเด็จโตเดินทางธุดงค์ไปในป่าเป็นเวลาสิบห้าปีตามลำพังนั้น ท่านได้ปักหลักปฏิบัติธรรมอยู่ในเขตดงพญาไฟอันเป็นอาณาบริเวณที่อยู่ใกล้ชายแดนประเทศเขมร ซึ่งในสมัยนั้นเต็มไปด้วยสิงสาราสัตว์ ภูตผีวิญญาณ ตลอดจนชาวบ้านที่มีวิชาอาคม รู้เรื่องเวทมนตร์คาถา และนิยมเล่นคุณไสย


    ตอนนั้นสมเด็จโตท่านยังไม่มีความรู้เรื่องวิชาอาคมใด ๆ เลย นอกจากบทสวดสามคำนี้ที่ท่านระลึกนึกถึงเพื่อเป็นที่พึ่งในจิตใจอยู่ตลอดเวลา นั่นก็คือ


    "พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ


    ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ


    สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ"


    ซึ่งมีความหมายว่า "ข้าพเจ้าขอยึดมั่นพระพุทธเจ้าเป็นที่พึ่ง... พระธรรมเป็นที่พึ่ง... พระสงฆ์เป็นที่พึ่ง"


    tobuddha3(1).jpg


    [สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี)]


    ระหว่างการปักหลักปฏิบัติธรรมอยู่ที่นั่น สมเด็จโตบังเอิญเจอหมู่บ้านแห่งหนึ่งที่อยู่ในละแวกนั้น ท่านจึงได้ปักกลดพำนักอยู่ที่ท้ายหมู่บ้าน เมื่อชาวบ้านเห็นว่ามีพระธุดงค์มาปักกลดในหมู่บ้านก็เลยพากันนำอาหารมาถวายตามกำลังที่พอจะทำได้


    และที่นี่เองที่สมเด็จโตได้พบกับคุณวิเศษแห่งการสวดมนต์


    %E0%B8%AA%E0%B8%A7%E0%B8%94%E0%B8%A1%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B9%8C2.jpg


    เรื่องมีอยู่ว่า มีชาวบ้านคนหนึ่งเข้ามาพูดคุยกับสมเด็จโตหลังจากถวายอาหารแล้ว ชาวบ้านคนนั้นทราบชื่อภายหลังว่า "ผล" นายผลเล่าให้สมเด็จโตฟังว่า เขาได้ฝึกฝนวิชาอาคมจนมีญาณแก่กล้า และมักจะทดสอบเวทมนตร์คาถาที่ได้ร่ำเรียนมากับพระธุดงค์ที่มาปักกลดแถวนี้อยู่เป็นประจำ


    คุยไปคุยมา นายผลก็สารภาพว่า เขาได้ทำการเสกอำนาจคุณไสยเข้าใส่สมเด็จโตทุกคืนโดยไม่ได้หวังทำร้าย (เพราะเกรงว่าจะเป็นบาปเป็นกรรม) เพียงแต่ต้องการทดสอบดูว่าท่านจะมีวิชาอาคมแก่กล้าสามารถพอที่จะต่อกรกับพลังคุณไสยของเขาได้หรือไม่


    นายผลเล่าว่า เขาทำคุณไสยใส่สมเด็จโตนานถึงเจ็ดวันเต็ม ๆ และทำแทบจะทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการเสกหนังควายเข้าท้อง ปล่อยควายธนู ปล่อยตะขาบ ตลอดจนภูตพราย เข้ามาทำร้ายท่าน แต่ปรากฏว่าสิ่งที่ปล่อยมานั้นไม่สามารถทำอะไรท่านได้เลย


    เหตุที่นายผลเข้ามาคุยกับสมเด็จโตในวันนั้นก็เพื่อสนทนาแลกเปลี่ยนวิชาความรู้กับท่าน ท่านจึงยอมรับว่าตัวท่านเองไม่เคยศึกษาเรื่องเวทมนตร์คาถาหรือวิชาอาคมใด ๆ แต่นายผลไม่ยอมเชื่อ หาว่าท่านโกหก เพราะถ้าหากไม่มีวิชาดีแล้วไซร้...ไฉนอำนาจคุณไสยดำมนตร์ดำที่เขาใช้จึงไม่สามารถทำอะไรท่านได้แม้แต่น้อย


    สมเด็จโตพยายามชี้แจงว่าท่านไม่มีวิชาเหล่านั้นจริง ๆ ก็ยิ่งทำให้นายผลสงสัยหนักเข้าไปอีก


    ในที่สุด สมเด็จโตก็เล่าให้นายผลฟังว่า ก่อนจำวัด ท่านจะสวดมนต์สั้น ๆ แค่สามคำว่า "พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ, ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ, สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ"

    %E0%B8%AA%E0%B8%A7%E0%B8%94%E0%B8%A1%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B9%8C3.jpg



    จนกระทั่งจิตมีความสงบนิ่งแล้วจึงได้แผ่ส่วนกุศลไปให้แก่สรรพสัตว์ทั้งหลายว่า "จงอย่าได้มีความทุกข์กายทุกข์ใจเลย อย่าได้มีเวรแก่กันและกันเลย อย่าได้เบียดเบียนซึ่งกันและกันเลย" จากนั้นท่านก็จำวัดตามปกติ


    นายผลเมื่อได้ฟังเช่นนั้นจึงพูดกับสมเด็จโตว่า


    "ข้าแต่ท่านอาจารย์... ถ้าเช่นนั้น ข้าพเจ้าขอร้องท่านในวันนี้...ก่อนที่ท่านจะจำวัด จงหยุดการสวดมนต์สักหนึ่งคืนได้หรือไม่? ข้าพเจ้าต้องการจะพิสูจน์ว่า การสวดมนต์ของท่านเช่นนี้จะเป็นเกราะคุ้มครองท่าน หรือจะเป็นเพราะอำนาจเวทมนตร์คาถาของข้าพเจ้าเสื่อมกันแน่ ข้าพเจ้าขอรับรองว่าจะไม่ทำอันตรายท่านอาจารย์อย่างเด็ดขาด ... เพียงแต่ต้องการที่จะทดสอบให้รู้แจ้งเห็นจริงว่าเกิดอะไรขึ้น"


    สมเด็จโตก็ตกลงรับปากว่าคืนนี้จะไม่สวดมนต์ นายผลจึงได้ลากลับไป


    tomom1(1).jpg


    ครั้นถึงเวลาพลบค่ำ สมเด็จโตก็จำวัดโดยมิได้ทำการสวดมนตร์ตามที่ได้ปฏิบัติเป็นกิจวัตร หลังจากนอนหลับไปแล้ว ท่านก็รู้สึกตัวเมื่อได้ยินเสียงกุกกัก ๆ ดังขึ้นมา ทันทีที่จุดเทียนจนสว่าง ท่านก็พบว่าเป็น "ตะขาบ" ตัวใหญ่ยาวเท่าขา กำลังเลื้อยเข้ามาใกล้ท่าน


    สมเด็จโตตกใจมาก และด้วยสัญชาตญาณจึงได้กล่าวคำสวดมนต์ว่า "พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ, ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ, สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ" ด้วยจิตที่ยึดเอาพระพุทธองค์เป็นที่พึ่ง


    เป็นเวลานานเท่าใดไม่ทราบได้... เสียงกุกกักและภาพตะขาบยักษ์ก็อันตรธานหายไป


    วันรุ่งขึ้น นายผลก็มาหาสมเด็จโตแล้วบอกว่า


    "เมื่อคืนนี้ข้าพเจ้าปล่อยตะขาบเข้าไปในกลดของท่าน"


    สมเด็จโตเล่าว่า


    "อาตมาตื่นมาและตกใจจึงได้สวดมนต์ภาวนา ตะขาบตัวนั้นก็หายไป"


    นายผลจึงได้ยกมือขึ้นพนมแล้วกล่าวว่า


    "บัดนี้ข้าพเจ้าเชื่อแล้วว่า เวทมนตร์คาถาและคุณไสยใด ๆ ของข้าพเจ้ามิอาจทำร้ายท่านได้ ก็เพราะอำนาจแห่งการสวดมนต์ของท่านเป็นเกราะคุ้มครองภัยอันตรายต่าง ๆ ได้"!!


    เรื่องราวทั้งหมดก็จบลงเพียงเท่านี้


    ------------------------------------------------------------------------------------------------------


    ที่มา : http://board.palungjit.org

     
  2. Piag Klongsam

    Piag Klongsam สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กรกฎาคม 2017
    โพสต์:
    11
    ค่าพลัง:
    +15
    สวดนำทุกครั้งก่อนสวดมนต์บทอื่นๆอยู่แล้ว
     

แชร์หน้านี้

Loading...