อุทิศบุญหรือโอนบุญให้คนเป็นที่ยังมีชีวิตอยู่ได้หรือไม่???

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย natty36, 15 มีนาคม 2014.

  1. natty36

    natty36 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    14
    ค่าพลัง:
    +45
    อุทิศบุญหรือโอนบุญให้คนเป็นที่ยังมีชีวิตอยู่ได้หรือไม่??
    ที่ถามตรงนี้เพราะอยากทราบค่ะ ว่าเราทำบุญ หรือสวดมนต์ หรือภาวนา
    เราสามารถส่งผลบุญเหล่านั้นให้คนเป็น โดยที่เขาไม่ทราบ ไม่ได้มาอนุโมทนาบุญกับเรา เค้าจะได้รับบุญตรงนี้หรือไม่ เนื่องจากว่า เราเคยให้ผู้มีญาณ 2-3 ท่านตรวจกรรมให้ ท่านบอกเหมือนกันว่าเราทำกรรมกับคนๆนี้ไว้ ทำให้เขาเสียใจทุกข์ใจมากๆ พอมาชาตินี้ เขากลับทำให้เราทุกข์ใจ เสียใจแทน แต่เรากับเค้ายังไม่สามารถพูดคุยกันได้ ยังเก็บความรู้สึกเอาไว้ และอยู่คนละจังหวัดด้วย
    ตัวเราเองอยากให้เค้าได้รับบุญตรงนี้ เพราะเรารู้สึกผิดที่ทำกับเค้าในอดีตชาติ
    อยากให้เค้าอโหสิกรรม หรือรับบุญหรือความรู้สึกดีๆที่เราแผ่ไปให้ด้วยการอุทิศบุญ จะทำได้มั๊ยคะ

    ส่วนคนที่จะมาบอกว่าอดีตมันผ่านไปแล้วให้ปล่อยวาง เราไม่ต้องการคำตอบนี้นะคะ เพราะการที่เรารู้อดีตชาติ ทำให้เราสงสารเค้า ที่เราได้ทำผิดกับเค้าไป อยากทดแทนที่เราทำไม่ดีกับเขาคนนั้นไว้
    อย่าหาว่าเรางมงายเลย การที่เราได้รู้อดีตชาติมันทำให้เรารู้ว่าเราทำผิดตรงไหน จะได้แก้ไขให้ถูกจุด ไม่ใช่ว่ารู้แล้วจะเอามาทุกข์หรือเป็นกังวลหรอกนะคะ

    ขอบพระคุณทุกความคิดเห็นคะ
     
  2. โมทนาman

    โมทนาman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    5,665
    ค่าพลัง:
    +6,165
    อุทิศไปเถอะ เดี๋ยวพอเขาตายหรือถึงเวลาที่รับได้ก็ได้เอง
     
  3. Malaiteva

    Malaiteva เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กุมภาพันธ์ 2014
    โพสต์:
    75
    ค่าพลัง:
    +192
    ได้สิ
    .แต่จะถึงขั้นเขารับรู้หรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับกำลังบุญของท่าน หรือกำลังจิตของท่านแหละ
    เช่น บางท่านปฏิบัติถึงขั้นมีพลังจิต และอานุภาพ เช่นครูบาอาจารย์ที่ปฏิบัติดี แผ่กุศลจิต หรือที่เรียกว่าแผ่เมตผานั่นแหละ อารมณ์ผู้รับเป็นสุขได้โดยที่ไม่ต้องรู้ด้วยว่าใครแผ่ให้
     
  4. AYACOOSHA

    AYACOOSHA เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    368
    ค่าพลัง:
    +2,253
    ตอบตามความเห็นส่วนตัวนะครับ....ถ้าเขาไม่ได้อนุโมทนากับผลบุญที่เราได้กระทำก็คงจะไม่ได้ อย่าเรียกว่ารับจะดีกว่า...ขอใช้คำว่า " มีส่วนร่วม" ในผลบุญของเรา ... อ้างอิงจากบุญที่ได้จากการอนุโมทนาบุญที่ผู้อื่นกระทำ...ซึ่งเป็นวิธีที่ง่ายและไม่เสียค่าใช้จ่ายใด ๆทั้งสิ้น.... แต่คงจะมีผลไปในแง่ของการปลอบโยนใจของเขาที่มีแต่ความขุ่นแค้น(ฝังหุ่น)กับตัวเราไปได้ ไม่มากก็น้อย....จากไม่พูดกันอาจจะเป็นพูดสัก 2 - 3 คำ จากไม่ทักทายเป็นทักทาย.... จากไม่ยิ้มให้กันก็เป็นยิ้มให้กัน...อย่างนี้เป็นต้น แต่พูดมาถึงตอนนี้ก็นึกขึ้นมาได้ว่า คุณเจ้าของกระทู้นั้นควรที่จะแผ่เมตตาดีกว่า เจาะจงบุคคลนั้น ๆ ไปเลย.... การอุทิศนั้นมันขึ้นอยู่กับผู้รับว่าจะรู้หรือไม่รู้ แต่การแผ่เมตตานั้นไม่ว่าบุคคลนั้นจะรู้หรือไม่เขาต้องได้รับมันอย่างแน่นอน... สวัสดี
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 มีนาคม 2014
  5. นางสาวอยู่จ้ะ

    นางสาวอยู่จ้ะ ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    1,041
    ค่าพลัง:
    +3,865
    อยากเล่าจากประสบการณ์ส่วนตัว (ของเราสลับข้างกับคุณ)

    เราแค้นผู้ชายคนนึงมาก ไม่รู้ว่าเพราะอะไร เราพยายามให้อภัย
    แต่มันทำไม่ได้ อยู่มาวันนึง อยู่ๆใจเรานั้นแสนเบาสบาย
    เรารู้ได้ทันทีว่า ผู้ชายคนนั้น แผ่บุญมา + แผ่เมตตา มาให้
    ใจเราจึงสบายในช่วงระยะสั้นๆ แต่ก็กลับมาเป็นเหมือนเดิม
    คือ โกรธเหมือนเดิม คงเพราะ "วาระที่อกุศลกรรมแทรก"
    มันก็เลยทำได้แค่นี้

    เลยอยากจะบอกคุณว่า มันสามารถแผ่บุญให้คนเป็นได้
    แต่ผลตอบรับกลับมา ขึ้นกับวาระกรรมด้วย ซึ่งอาจจะกิน
    เวลาเป็น สิบปี หรือตลอดชีวิตก็ได้ แต่มันก็ไม่เสียเปล่า
    เสียทีเดียว คุณก็จะได้ ขันติ วิริยะ พรหมวิหาร ด้วย
    ก็ขอให้คุณโชคดีค่ะ
     
  6. Saber

    Saber เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    5,941
    กระทู้เรื่องเด่น:
    19
    ค่าพลัง:
    +11,819
    ใครทำ คนนั้นได้ครับ บุญ กุศลทำแทนกันไม่ได้

    ถ้าต้องการให้บุคคลอื่น ได้รับบุญด้วย ต้องไปบอกบุญ แล้วให้ บุคคลนั้น อนุโมทนาบุญนั้นๆ

    ถ้าเราบอกแล้ว เค้าไม่อนุโมทนาบุญ ไม่รับ ก็ไม่ได้ครับ


    อยากให้เค้าอโหสิกรรม ก็เหมือนกัน

    ต้องบุคคล 2 คน เอ่ยปาก ยกโทษให้นะครับ ถ้าคิดไปเองคนเดียว อีกฝ่ายไม่ได้เอ่ยปากอโหสิกรรมให้ ก็ไม่มีทางตัดกรรม ได้ครับ


    .
     
  7. teww

    teww เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2011
    โพสต์:
    604
    ค่าพลัง:
    +1,534
    อุทิศบุญให้ เขาไม่รู้ เขาไม่รับ ให้ไปก็ไม่มีผล
    หรือรับได้ แต่เขายังไม่ให้อภัยเราก็ได้ อันนี้ให้ไป ก็เสียของเปล่า

    ลองทำแบบนี้ดู
    นั่งสมาธิ แล้วนึกถึงภาพเขาผู้นั้น มานั่งอยู่ตรงหน้าเรา
    แล้วขอขมากรรมกับเขาซะ
    อาจพูดถึงความจำเป็นของเราในชาติก่อน ที่ทำให้เราต้องทำแบบนั้นกับเขา
    ขอให้เขาเข้าใจและอโหสิกรรมแก่เราด้วย

    บางคนก็อาจอโหสิกรรมให้โดยดี
    แต่บางคนก็อาจมีข้อต่อรอง เช่น ต้องให้คุณทำอะไรให้เขาสักอย่างที่เขาพอใจ
    แล้วเขาจึงจะอโหสิกรรมให้

    ก็ลองดูนะ
    หากสำเร็จ คือเขาอโหสิกรรมให้คุณ
    ท่าทีของเขาในกายมนุษย์ จะดีขึ้นกับเรา
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 มีนาคม 2014
  8. บุญยง โคกกระทา

    บุญยง โคกกระทา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    2,709
    ค่าพลัง:
    +3,235
    เคยทดสอบด้วยตัวเอง
    มาเป็นปีๆ อุทิศกุศลให้คนมีชีวิตอยู่ทำได้
    แต่ต้องภาวนาจนจิตสงบสงัด ลึกๆหน่อยใแต่จะคาดหวังให้เค้าดีกับเราแบบ ชัดๆเลยอันนี้ไม่ชัดหรอก

    ถ้าเป็นนักภาวนา เค้าจะทราบว่ามีคนอุทิศกุศลให้ แต่อาจจะไม่ทราบว่าใคร
    เพราะขึ้นอยู่กัยกำลัวภาวนาของคนรับ

    อย่าใช้กำลังใจส่วนตัวอุทิศให้ใช้ยารมีพระรัตนตรัย
    เช่นเราพิจารณาธรรม ข้อใดข้อหนึ่ง เกิดธรรมวิจายะ
    ก็ให้ขอบารมี ข้อธรรมนี้ ที่ข้าพเจ้ากำลังพิจารณาอยู่นี่
    โปรดเมตตา ให้การอุทิศกุศล อันได้จากการ อะไร อะไร อะไร
    ก็อฐิษฐานตามใจ จงสำเร็จแก่ คนนี้ๆๆ นั้นๆ ด้วยเถิด
    อย่าใช้กำลัง ขอวตัวเองแม้แต่แผ่เมตตา
    เพราะถ้าปลายทางใช้วัตถุอาถรรพ์ คนแผ่เมตตาจะโดนอานุภาพจองวัตถุนั้นๆ เล่นงาน
    อันนี้ประสพการณ์หลายปี
    เจ็บจริงไม่มีสลิง
     
  9. บุญยง โคกกระทา

    บุญยง โคกกระทา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    2,709
    ค่าพลัง:
    +3,235
    หรือถ้าไม่ถนัดแบบ พระธรรมรัตนะ
    ก็อาจจะถนัดขอพร แบบหลวงพ่อ โสธร หลวงพ่อพระพุทธชินราช
    สมเด็จพุทธาจารย์โต หลวงปู่ทวด ให้ขอพรท่าน
    บุญที่ข้าพเจ้าอุทิศนี้จงสำเร็จแก่บุคคลนี้ๆ นั้นๆ
    ด้วยยารมีของหลวงปู่หลวงพ่อ ที่คนอุทิศนับถือ

    เข่นถ้าอุทิศอะไรมาหาผม
    วันนั้รผมดันพกวัตถุอาถรรพ์ แบบของต่ำ มันไม่เลือกเหยื่อ
    ใครแผ่เมตตามาหาผม โดนของ เหอๆ
     
  10. neung xcm

    neung xcm เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มีนาคม 2013
    โพสต์:
    102
    ค่าพลัง:
    +874
    การโอนผลบุญเป็นการอุปทานหรือจิตปรุงแต่งกันไปเองนะครับ บาปและบุญไม่สามารถโอนกันได้ครับ ใครทำอะไรไว้ย่อมได้รับผลของกรรมนั้นๆ ทำบุญได้บุญ ทำบาปได้บาป แต่เราสามารถยุติบาปเพื่อเพิ่มบุญได้ด้วยการตัดกิเลสโลภ โกรธ หลง ทุกครั้งที่เรากระทำกรรมออกไปน่ะครับ ทุกครั้งที่เรากระทำกรรมไป ไม่ว่าจะเป็นทางวจีกรรมหรือกายกรรมหรือมโนกรรม และจิตของเรามีความบริสุทธิ์ปราศจากซึ่งอาสวะกิเลสทั้งปวง เราย่อมไม่ได้รับผลของอกุศลกรรมเลยน่ะครับ ;)

    ปล.ทุกวันนี้คนเราทำบุญและบาปปะปนกันไปน่ะครับ บางคนทำบาปแต่กลับได้บุญ บางคนทำบุญแต่กลับได้บาป เรื่องการทำบุญของจริงๆผมได้เขียนเอาไว้ในบล๊อกของผมแล้วน่ะครับ ลองเข้าไปอ่านดูได้ครับ ^^
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 มีนาคม 2014
  11. neung xcm

    neung xcm เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มีนาคม 2013
    โพสต์:
    102
    ค่าพลัง:
    +874
    อ่ะ..ผมเอามาให้อ่านกันครับ เชื่อในสัจธรรมที่ผมตรัสรู้นี้นะครับ ผมคือพระอรหันต์ครับ ผมคือพระเมตไตรยพุทธเจ้าต่อจากพระศากยมุนีพุทธเจ้าครับ ;)

    พระไตรปิฏก หน้าที่ 3 โดย "พระเมตไตรยพุทธเจ้า" (ฉบับยุคที่ 5)

    ดูก่อนท่านทั้งหลาย สิ่งใดคือบ่อเกิดแห่งอกุศลกรรม เราจักกล่าวสิ่งเหล่านั้นคือ "โลภะ โทสะ โมหะ" หากสิ่งใดก็ตามที่ท่านทั้งหลายกระทำกรรมต่อสัตว์โลกด้วยจิตที่บริสุทธิ์โดยปราศจากซึ่งอาสวะกิเลสทั้งปวง เราจักกล่าวว่าบุคคลเหล่านั้นจักไม่ได้รับผลของอกุศลกรรมนั้นเลย แต่หากท่านทั้งหลายกระทำกรรมดีที่ปราศจากซึ่งอาสวะกิเลสทั้งปวงไปตามที่เราตรัสไปแล้วนั้น และมันไปส่งผลไม่ดีแก่สัตว์โลกตัวนั้น ให้ท่านทั้งหลายคิดเสียว่าสัตว์โลกตัวนั้นในอดีตเคยได้สร้างอกุศลกรรมเอาไว้ ธรรมชาติก็เลยตอบสนองผลกรรมแก่สัตว์โลกตัวนั้นผ่านทางท่านอย่างยุติธรรมที่สุด และวิบากอกุศลกรรมก็จักไม่เกิดขึ้นแก่ท่านทั้งหลายเลย
     
  12. บุญยง โคกกระทา

    บุญยง โคกกระทา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    2,709
    ค่าพลัง:
    +3,235
    ถ้าเล่นอุทิศกันสดๆ แนะนำให้หาวัถุมงคลที่คนอุทิศ
    มันใจในอานุภาพ สบายใจพกแล้วอาราถนาด้วย ปลุกของไปเลย
    เคยมีเคสที่ผมอุทิศกุศลจากการภาวนาให้คนเล่นของต่ำ
    พอเราอุทิศกุศลเค้าคิดว่าเราคัดของเค้า
    ครูผีเค้าทำอาคมสวนมาเลย สั่นสะท้านกนาวเหน็บหัวใจหยุดแทบหยุดเต้นหายใจไม่ออก
    เค้ากำลัง ปะทะไสยเวทย์กันอยู่เราโผล่ไป อารุภาพของอาคมต่ำโดยกุศลเรา ระงับไปซักสองสามนาทีเอง
    โดนเลย
     
  13. pp2

    pp2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    564
    ค่าพลัง:
    +1,434
    โมทนาบุญอย่างเดียวตายจากคนไปเกิดเป็นนางฟ้าบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์เทวโลก permalink




    (เรื่องที่ 61) โมทนาบุญอย่างเดียวตายจากคนไปเกิดเป็นนางฟ้าบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์เทวโลก
    จากหนังสือตายไม่สูญ...แล้วไปไหน โดยหลวงพ่อพระราชพรหมยาน(หลวงพ่อฤาษีลิงดำ)หน้า 157
    “..วันที่ 14 กันยายน พ.ศ.2531 อาตมาขอเหาะตาม พระอนุรุทธ ท่านขึ้นไปสวรรค์ชั้นดาวดึงส์(ตามพระไตรปิฏก ให้ชื่อเรื่องนี้ว่า “นางฟ้าขี้เหนียว” เรื่องมีอยู่ว่าวันหนึ่ง พระอนุรุทธ ท่านเข้าฌานเหาะไปสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ ท่านไปพบวิมานหลังหนึ่งสวยสดงดงามมากและเจ้าของวิมานก็สวยมาก เป็นเทพธิดาที่มีรูปสวยมาก ผิวผรรณผ่องใสคล้ายเงินผสมแก้ว เวลาขยับเขยื้อนก็แพรวพราวไปทั้งร่าง แสงสว่างที่ออกจากกายก็สว่างไสวไปทั่วทิศ สว่างมากกว่าดาวประกายพรึกเป็นไหนๆ เวลาที่ท่านฟ้อนอยู่ การขับร้องเสียงที่เป็นทิพย์ก็ไพเราะมาก ช่างชื่นใจในน้ำเสียงของท่านเหลือเกิน กลิ่นที่เป็นทิพย์ก็หอมหวนยวนใจ เสียงเครื่องประดับเวลากระทบกันก็ไพเราะมาก

    ถามท่านว่า “เมื่อเป็นมนุษย์ทำบุญอะไรไว้จึงสวยและเสียงไพเราะจับใจอย่างนี้” ท่านตอบว่า“เมื่อเป็นมนุษย์ฉันเป็นเพื่อนกับ พระนางวิสาขามหาอุบาสิกา ท่านวิสาขาทำบุญไว้มากมหาศาลแต่ดิฉันบ๋อต๋อไม่ได้ทำเลย อยู่เฉยๆก็ได้บุญ คอยเก็บบุญคือโมทนาอย่างเดียวก็พอ นี่แหละจึงเขียนว่า“นางฟ้าขี้เหนียว” ไม่ทำบุญด้วยตนเองเอาแต่โมทนาอย่างเดียว ท่านวิสาขาได้สร้างวิหารถวายสงฆ์ เห็นวิหารนั้นมีใจเลื่อมใสก็เลยโมทนา วิมานที่สวยสดงดงามที่เห็นอยู่นี้ก็เป็นผลบุญที่ฉันโมทนา วิมานนี้เป็นวิมานอัศจรรย์สวยสดงดงามมากเลื่อนลอยไปในอากาศได้ตามที่ฉันต้องการ มุมหนึ่งของวิมานมีสระโบกขรณีเป็นที่อาศัยของปลาสวยๆ ทุกประเภท มีน้ำใสสะอาด มีทางลาดด้วยทรายทองคำเพื่อเดินเล่น มีบัวสวยๆทุกชนิด เกสรบัวหอมฟุ้งไปทั่วทิศ มีต้นไม้รอบวิมานหลายชนิด เช่น มะพร้าว ไม้หว้า ขนุน ต้นตาล เป็นต้น มีเสียงดนตรีบรรเลงมิได้ขาด มีนางเทพอัปสรที่เป็นบริวารมากมาย”

    สรุปผลที่ท่านได้รับทั้งหมดนี้ เพราะอาศัยท่านโมทนาบุญของท่านวิสาขามหาอุบาสิกาอย่างเดียว เป็นอันว่าคนฉลาดจะไม่มีโอกาสปราศจากบุญได้เลย ในเมื่อเราไม่มีทุนทำเองเราก็โมทนาด้วยจิตบริสุทธิ์ ถ้าทำเองด้วยและโมทนาด้วย ก็จะช่วยให้มีความสุขยิ่งขึ้น ท่านพระอนุรุทธท่านถามโฉมงามว่า“เวลานี้พระนางวิสาขามหาอุบาสิกา ผู้ถวายวิหารท่านไปอยู่ที่ไหน” ท่านตอบว่า “พระนางวิสาขามหาอุบาสิกาผู้ประเสริฐ มีทั้งทาน มีทั้งศีล จิตเจริญด้วยภาวนา เวลานี้เกิดที่สวรรค์ชั้นนิมมานรดี เป็นชายาของท่านสุนิมมาตวดี” ..”
     
  14. ddman

    ddman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    2,046
    ค่าพลัง:
    +11,941
    อนุโมทนาคำตอบของท่านAYACOOSHAด้วยครับ . :cool::cool:

    หากท่านจขกท เพียงโทรหรือ sms หรือ line, email, fax, telex..etc. แจ้งว่าท่านทำบุญเช่นนั้นนี้ เมื่อวันนั้นนี้...ที่โน่นนี่ ให้เขาผู้ทำความทุกข์ใจให้ท่านทราบ ให้เขานึกอนุโมทนาหรือร่วมยินดีปรีดาปราโมทย์ในบุญทั้งหลายที่ท่านจขกท ทำแล้ว ถ้าเขานึกยินดีปลื้มใจด้วย ก็เป็นอันความปรารถนาของท่านจขกท ย่อมสำเร็จ....

    ...แต่ถึงแม้เขาไม่ยินดี ไม่อนุโมทนา บุญนั้นก็ไม่เสียหายไปใหนเสีย ความเดือดร้อนเสียใจจากการปฏิเสธของเขาก็ไม่ใช่สาระเพื่อความกังวลใจของท่านจขกท หรอกนะครับ...ท่านพึงยังใจของตนให้โสมนัสเนืองๆในบุญที่ทำแล้วเถิด ย่อมเป็นปัจจัยให้บุญนั้นมีผลมากมีอานิสงค์มากเพิ่มขึ้นโดยส่วนเดียว...

    เวลานี้ ท่านจขกท พึงพิจารณาตามจริงว่า ที่ท่านกำลังทุกข์อยู่นี้ เป็นเพราะเขาคนนั้นผู้อยู่คนละจังหวัดหรือจิตใจท่านผูกทุกข์ไว้เองแบบไม่ยอมปล่อยกันแน่..?..ตรวจสอบเงียบๆดู ไม่ต้องนำมาตอบในที่นี้นะครับ...

    คนบางคนในโลก แม้ถูกกระทำจนถึงทุกข์ แต่เหตุการณ์แย่ๆนั้นผ่านพ้นไปแล้ว นานแล้ว ตนก็ยังแบกหรือกอดรัดทุกข์นั้นไว้ไม่เลิกรา จึงควรแต่จะสงสารตนเอง เจริญกุศลให้ตนให้มาก โดยเฉพาะกุศลที่เป็นปัจจัยแก่ปัญญา อันเป็นเครื่องแก้ทุกข์ได้อย่างแท้จริงด้วยการสดับศึกษาพระธรรมของพระผู้มีพระภาคให้มาก ย่อมเป็นคุณเครื่องรักษาตนไว้ได้ในความเกษมสวัสดี ทุกเมื่อ...
     
  15. pp2

    pp2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    564
    ค่าพลัง:
    +1,434
    การอุทิศส่วนกุศล permalink

    การอุทิศส่วนกุศล
    ผู้ถาม : หลวงพ่อคะ ลูกทำสังฆทานให้สัมภเวสี ถ้ากลับไปแล้วจะ กรวดน้ำ ให้ได้ไหมคะ....?

    หลวงพ่อ : คือว่าการอุทิศส่วนกุศล ให้พระพุทธศาสนานี้ไม่มีน้ำ แต่ว่าที่พระเจ้าพิมพิสารทำเป็นองค์แรก เพราะว่า ศาสนาพราหมณ์ เขาถือว่า ถ้าจะให้อะไรกับใคร ให้คนนั้นแบมือแล้วเอาน้ำราดลงไป แล้วตอนที่พระเจ้าพิมพิสารทำ พระพุทธเจ้าท่านก็ไม่ได้ห้าม เพราะเป็นประเพณีนิยม

    เวลาที่พระเจ้าพิมพิสารอุทิศส่วนกุศลต้องใช้น้ำ เพราะว่าท่านเพิ่มพบพระพุทธเจ้า ประเพณีของพราหมณ์ยังชินอยู่ แต่ว่าใจท่านตั้งตรง เวลาอุทิศส่วนกุศลจริง ๆ ในพระพุทธศาสนาไม่ต้องใช้น้ำผีกับเปรตต้องรีบวิ่งกลับ เพราะไม่ได้กินแน่เพราะฉันเคยพบมาแล้ว แต่ไม่มีน้ำนะว่า"อิมินา" เพลินไปยังไม่ทันเลย


    ผู้ถาม : มีบางคนเขาบอกว่า "กรวดน้ำแบบแห้ง" ตายไปชาติหน้าจะแห้งแล้งเพราะไม่มีน้ำ โบราณพูดอย่างนี้จะจริงหรือเปล่าคะ...?

    หลวงพ่อ : เขาพูดได้ยินหรือเปล่า คนที่พูดมาได้ยินหรือเปล่า...คนโบราณพูดอย่างนี้ คนโบราณพูดหรือเปล่า...ถ้าได้ยินแสดงว่าเขาพูดจริง แต่ก็ไม่ได้แห้งแล้งจริง การอุทิศส่วนกุศล พระพุทธเจ้าไม่ได้สอนให้ใช้น้ำ ฉันใช้น้ำวันเดียว วันบวช ว่าไม่ถูกเลย ต้องระวังน้ำหยดอีก ผีไม่ได้กินน้ำ ตั้งแต่วันนั้นเป็รต้นมาฉันไม่เคยใช้น้ำเลย ก็เห็นผีได้รับ แต่ชาติหน้าถ้าจะทำอย่างนั้น ถ้าฉันยังไม่ตายก็ไม่ได้เหมือนกัน แต่ไม่เป็นไรนะกินน้ำเกลือเผื่ออยู่แล้ว เผื่อชาติหน้าอด

    ผู้ถาม : อ้อ....มอน่าล่ะ หลวงพ่อถึงให้น้ำเกลือบ่อยๆ

    หลวงพ่อ : ใช่มีทั้งน้ำสะอาด น้ำเกลือ น้ำหวาน เผื่อไว้ตลอด
    รวมความว่าเวลาจะอุทิศส่วนกุศล ให้ใช้ภาษาไทยสั้นๆอย่างทำบุญสังฆทานเราก็ตั้งใจว่า
    "การบำเพ็ญกุศลในวันนี้ ผลนี้จะมีแก่ข้าพเจ้าเพียงใด ขออุทิศส่วนกุศลให้แก่....(บอกชื่อ)..... ขอให้มาโมทนารับผลเช่นเดียวกับข้าพเจ้า"

    และตอนที่พระสงฆ์ให้พร นี้ก็ขอเจ้าภาพและทุกท่านที่บำเพ็ญกุศลแล้ว ตั้งจิตปรารถนาเอาตามประสงค์ สมมติว่าท่านทั้งหลายตั้งใจเพื่อ พระนิพพาน อันนี้ต้องเผื่อไว้ด้วยว่า หากสมมติว่าเราตายจากชาติ นี้แล้วยังไม่ถึงซึ่งพระนิพพานเพียงไร สมมติว่าเราตายถ้าหากไม่เผื่อไว้ละก็มันจะขลุกขลัก ฉะนั้นการอธิษฐานจิต คือ ตั้งอธิษฐาน เขาเรียกว่า อธิษฐานบารมี พระกรรมฐานก็ดี ถวายสังฆทานก็ดี อธิษฐานว่า

    "ขอผลบุญนี้จงเป็นปัจจัยให้ข้าพเจ้าเข้าถึงพระนิพพานในชาติปัจจุบันนี้ แต่ทว่าถ้าหากข้าพเจ้า ยังไม่เข้าถึงพระนิพพานเพียงใดจะเกิดใหม่ไปในชาติใดก็ตาม ขอคำว่าไม่มีจงอย่างปรากฏแก่ข้าพเจ้า"

    ถ้าเราต้องการอะไรให้มันมีทุกอย่าง จะไม่รวยมากก็ช่าง เท่านี้ก็พอแล้ว"


    ผู้ถาม : เมื่อทำบุญแล้ว ถ้าจะอุทิศส่วนกุศลภายหลังจะได้ไหมคะ...........?
    หลวงพ่อ การทำบุญไปแล้วครั้งหนึ่งสักกี่ปี ๆ บุญก็ยังมีอยู่ถ้าทำไปแล้วสัก ๓๐ ปี ก็ยังอุทิศส่วนกุศลได้ บุญมันไม่หาย ไม่ใช่เราทำบุญแล้ว เดี๋ยวเดียวมันหายไปไม่ใช่อย่างนั้นนะ

    ผู้ถาม : แล้วถ้าเผื่อทำบุญแล้ว ไม่ได้อุทิศส่วนกุศลจะได้บุญเต็มที่ไหมคะ...?

    หลวงพ่อ : ก็ได้เต็มที่อยู่แล้ว เราเป็นผู้ได้สมบูรณ์แบบ แต่อยู่ที่ว่าเราจะให้เขาหรือไม่ให้ การอุทิศส่วนกุศล นี่นะ ถ้าเราไม่ให้ เราก็กินคนเดียวใช่ไหม..... ทีนี้ถ้าเราให้เขาของเราก็ไม่หมดอีก ส่วนที่เราให้ไปไม่ได้ยุบไปจากของเดิม
    อย่างเรื่องของ พระอนุรุทธ สมัยที่ท่านเกิดเป็นคนเกี่ยวหญ้าช้างของมหาเศรษฐี เวลาที่ท่านทำบุญแล้ว เจ้านายขอแบ่งบุญ ท่านก็สงสัยว่าการแบ่งบุญน่ะจะแบ่งได้ไหม จึงไปถามพระปัจเจกพุทธเจ้า ที่ท่านรับบาตรนะ ท่านก็เปรียบเทียบให้ฟังว่า

    "สมมุติว่าโยมมีคบ แล้วก็มีไฟด้วย คนอื่นเขามีแต่คบ ไม่มีไฟ ทุกคนต้องการแสงสว่าง ก็มาขอต่อไฟที่คบของโยมแล้วคบทุกคนสว่างไสวหมด อยากทราบว่าไฟของคุณโยมจะยุบไปไหม....?

    ท่านอนุรุทก็บอกว่า ไม่ยุบ แล้วท่านก็บอกว่า "การอุทิศส่วนกุศลก็เหมือนกัน ให้เขา เขาโมทนา แต่บุญของเราเต็ม ๑๐๐ เปอร์เซ็นต์"

    ผู้ถาม : การแผ่ส่วนบุญกุศลไปให้แก่บิดามารดา ท่านจะได้รับผลไหมคะ....?
    หลวงพ่อ การได้รับส่วนกุศลนี่ ถ้าหากท่านมีโอกาสโมทนาท่านก็ได้รับ ถ้าท่านไม่มีโอกาสโมทนาก็ไม่ ได้รับเหมือนเราเอาสิ่งของไปให้แต่ผู้รับเขาไม่รับ เขาจะได้ไหม..... ถ้าพวกเขาอยู่ในนรก ไฟไหม้ทั้งวัน ถูกสรรพวุธสับฟันทั้งวัน ถ้าเราเอาขนมไปให้กิน เขากินได้ไหม..?

    ผู้ถาม : ไม่ได้ค่ะ

    หลวงพ่อ : อยู่ในแดนเปรต ๑๑ จำพวกไม่ได้รับ แต่ถ้าเป็นพวกที่ ๑๒ คือปรัตทัตตูปชีวีเปรต พวกนี้มี โอกาสได้โมทนา

    ผู้ถาม แล้วผู้สร้างจะได้ไหมคะ...?

    หลวงพ่อ ไม่แน่ ถ้าสร้างดีก็ได้บุญ ถ้าสร้างไม่ดีก็ได้บาป

    ผู้ถาม : เป็นไงคะ.......?

    หลวงพ่อ : คือก่อนจะทำบุญ ก็กินเหล้ากันก่อน พอพระไปก็กินเหล้ากันแล้ว ถ้าหากมีเจตนาบริสุทธิ์ ไม่มี บาป มีต่บุญ ผู้สร้างได้ ๑๐๐% คือบุญนี่จะได้แก่ผู้สร้างก่อน แล้วผู้สร้างอุทิศส่วนกุศลให้ผู้อื่น ถ้าเขามีโอกาสโมทนาก็ได้รับ
    ผู้ถาม หลวงพ่อครับ คำว่า เจ้ากรรมนายเวร นี่หมายถึงใครบ้างครับ...?
    หลวงพ่อ เจ้ากรรมนายเวร นี้ตัวตนมันไม่มีหรอก มันเป็นเรื่องของกรรมที่เป็น อกุศลกรรม ถ้าบอกว่า เจ้ากรรมนายเวร ก็หมายถึงบาปที่เป็นอกุศลที่เราทำไว้ ตัวจริงที่เราเคยทำ เขาไม่มายุ่งกับเรา หรอก อย่างเราฆ่าปลาตาย ปลาเขาก็ไม่มายุ่งกับเรา แต่ว่ากฏของกรรมมันเล่นงานเรา ถ้าปลามานั่งจองเวรคอยลงโทษเรา แกก็ไม่ต้องไปเกิดละ
    คำว่า เจ้ากรรมนายเวร นี่นะถ้าพูดตามส่วนจะว่าไม่มีก็ไม่ได้ ถ้าหากเราปฏิบัติถึงขั้นสุกขวิปัสสโก เราจะบอกว่าไม่มีตัว เพราะไม่เคยเห็น แต่ว่าตั้งแต่เตวิชโช ขึ้นไปเขาเห็น ต้อง พูดตามขั้นนะ ถ้าเราว่ากันตามหนังสือก็คิดว่าจะไม่มี

    ผู้ถาม : แล้วถ้าเราบอกอุทิศส่วนกุศล ให้แก่เจ้ากรรมนายเวร เขาจะได้รับไหมคะ....?

    หลวงพ่อ : คือว่าอุทิศไปให้เขาจะได้รับหรือไม่ได้รับก็ตาม บุญที่เราทำเป็นผลให้เกิดความสุข ไอ้กรรมต่าง ๆ ที่เป็นอกุศลที่เราทำไปแล้วเราไปยั้งมันไม่ได้ แต่ทว่าถ้าเราทำกรรมดีมีกำลังเหนือ มันก็กวดไม่ทันเหมือกัน

    สำหรับคำอุทิศส่วนกุศลที่ใช้อยู่เดี๋ยวนี้ก็ยาวเหมือนกัน แต่ยาวตามท่านบอก บทอุทิศส่วนกุศลท่อนแรก ให้แก่เจ้ากรรมนายเวร นั่นหลวงปู่โตมาบอกแล้วก็บทอุทิศส่วนกุศลอีก ๓ ท่อนพญายมราชมาบอก
    สำหรับตอนที่สองที่ให้เทวดาโมทนา ท่านบอกว่า "เวลาอุทิศส่วนกุศลน่ะ ขอบอกให้ผมเป็นพยานด้วย" ท่านบอกว่า "ลูกหลานของท่านก็คือลูกหลานของผมและมันก็ไม่แน่นักหรอก บางทีไปอยู่สำนักผมมันอาจจะลืมก็ได้เขาอาจจะนึกถึงบุญไม่ออก ถ้านึกถึงบุญไม่ออก ฉันก็จะได้บอกว่า เขาสั่งให้เป็นพยาน"

    "มันเป็นธรรมดา ถ้าทำทั้งบุญทั้งบาป บางทีกรรมบางอย่างมันปกปิดเวลาถามเรื่องบุญนี่มันนึกไม่ออกถ้านึกไม่ออกก็มีความจำเป็นอย่างยิ่งจะต้องปล่อยให้ตกนรก หากว่าถาม ๓ เที่ยวนึกไม่ออก ผมจะได้ ประกาศว่า "นี่เขาเคยบอกฉันไว้เวลาทำบุญเขาบอกให้ฉันเป็นพยาน แล้วก็ประกาศกุศลนั้น ก็ได้ไปสวรรค์"


    ผู้ถาม : ทีนี้การอุทิศส่วนกุศลแก่บุคคลต่างๆ ที่ตายไปแล้ว จำเป็นไหมครับว่าต้องออกชื่อ รู้สึกว่ามีมากเหลือเกิน

    หลวงพ่อ : ถ้านึกได้ก็ออกชื่อเขาก็ได้ ถ้าออกชื่อน่ะดีอยู่อย่าง ถ้ากรรมหนาอยู่นิด ถ้าออกชื่อเจาะจงเขาได้เลยนะ ถ้านึกไม่ออกก็ว่ารวมๆ "ญาติก็ดี ไม่ใช่ญาติก็ดี"เอายังงี้ดีกว่า ถ้าขืนไปไล่ชื่อน่ากลัวจะไม่จบ

    มันมีอยู่คราวหนึ่ง นานแล้ว ไปเทศน์กัน 3 องค์ บังเอิญที่ไปก็มีอารมณ์จิตคล้ายคลึงกัน เวลาเพลเขาก็ถวายอาหาร ก็มีพระอื่นๆด้วยรวมแล้ว 5 องค์
    ทีนี้ตาทายกเขาอุทิศส่วนกุศลในวั้นนั้น แกก็ออกชื่อคนตาย แล้วก็บรรดาญาติทั้งหลายที่ตายไปแล้ว บอกเท่านั้นแหละ พวกผีก็เข้ามาเป็นหมื่นล้อมรอบศาลาอยู่ ไอ้คนที่เป็นญาติรับโมทนาแล้งผิวพรรณดีขึ้น ไอ้พวกที่มิใช่ญาติก็เดินร้องไห้กลับ

    พอเขานิมนต์ขึ้นเทศน์ ตอนลงท้ายเขาถามกันถึงว่า การอุทิศส่วนกุศลทำยังไง องค์ที่มีปากร้ายอยู่สักหน่อย บอกว่า

    "ญาติโยมที่นำอุทฺศส่วนกุศล อย่าให้ใจแคบเกินไปนักซิ อย่าลืมว่าการทำบุญแต่ละคราวพวก ปรทัตตูปชีวีเปรตก็ดี พวกสัมภเวสีก็ดี จะมายืนล้อมรอบ อย่างสวดมนต์ "อยัญจะโข" น่ะ พวกบรรดาผีทั้งหลายทั่วบริเวณจะคอยโมทนา แต่ถ้าเราให้แต่ญาติ ญาติก็จะได้ แต่บุคคลอื่นไม่ใช่ญาติจะไม่ได้ ฉะนั้นก็ควรจะให้ต่อๆกันไปคือว่าให้ทั้งหมด "ทั้งญาติและไม่ใช่ญาติ"
     
  16. tsukino2012

    tsukino2012 หยุดจึงพบ สงบจึงเกิด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    1,311
    ค่าพลัง:
    +3,090

    ที่เขาว่าให้ปล่อยวางนั่น ไม่ได้หมายว่าให้เลิกใส่ใจเรื่องพวกนี้
    แต่หมายถึงว่า ให้ตัวคุณปล่อยวางจากความยึดมั่นในบุคคลนั้น เขาทำให้เราทุกข์ได้อย่างไร ทำไมเราจึงทุกข์เพราะเขา ให้หาเหตุปัจจัยที่ทำให้เกิดทุกข์ที่เราไปยึุดมั่นไว้ให้เจอ สมมติเราคาดหวังให้เขาเป็นอย่างนั้นอย่างนี้แล้วเขาเป็นให้ไม่ได้ก็หงุดหงิดเป็นทุกข์ เราก็เลิกคิดที่จะให้เขาเป็นอย่างที่เราต้องการเสียก็เลิกทุกข์ได้ คนเรานั้นทุกข์ก็เพราะไม่ได้อย่างใจ ทุกข์เพราะไปคาดหวังเข้าแล้ว การปล่อยวางก็คือเลิกคาดหวัง ถ้าเขาไม่สำคัญกับคุณเพราะคุณไม่คาดหวังอะไรจากเขาแล้ว ไม่มีทางที่เขาจะทำให้คุณทุกข์ได้
    เรื่องกรรมเก่ามันก็เป็นผ้เรื่องที่ผ่านมา ในเมื่อเรามีตัวตน เขาก็มีตัวตน เลิกแล้วต่อกันมันก็จบ
    อย่าคิดว่าการที่หมอดูญาณทั้งหลายพูดเหมือนกันนั้นจะเป็นความจริง
    เขาก็แค่อ่านจากความคิดในจิตของเราเท่านั้น
    เมื่อจิตใต้สำนึกเราคิดว่ามันต้องเกี่ยวกับอดีตชาติกรรม
    คนมีญาณก็ดีพวกร่างทรงก็ดี พวกนี้เขาสะท้อนจิต ไม่ได้ย้อนไปดูอดีตได้จริง
    เขาแค่อนุมานจากผลในปัจจุบัน เหมือนเราเห็นบ้านหลังหนึ่ง แน่นอนเรารู้อดีต ว่าต้องมีคนมาปลูกบ้านนี้ไว้แน่นอน บ้านไม่งอกเอง ทุกคนที่มองบ้านนี้คิดได้อย่างนี้หมด แต่ไม่มีใครเลยที่รู้ว่า ใครที่เป็นคนปลูกบ้านนี้
    การระลึกอดีตก็ดูจากจิตปัจจุบันแล้วก็อนุมานเอา ไม่แม่นถึงกับร้อยเปอร์เซ็นหรอก
    ถ้าคุณไปบอกว่าชายคนนี้ทำให้คุณลำบากมาก ก็ตอบได้หมดว่าเพราะกรรมเก่าที่ไปทำเขาไว้ ใครก็พูดได้ ผมก็พูดได้
    ทำปัจจุบันให้ดีเถิด อดีตปล่อยมันไป เรามีความเชื่อได้ แต่จะต้องไม่งมงาย
     
  17. Saber

    Saber เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    5,941
    กระทู้เรื่องเด่น:
    19
    ค่าพลัง:
    +11,819
    ผีเทศน์ในงานศพ
    โดย หลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง
     
  18. Saber

    Saber เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    5,941
    กระทู้เรื่องเด่น:
    19
    ค่าพลัง:
    +11,819
    ถาม : แม่สุขภาพไม่ดี เป็นเบาหวาน ความดัน โรคหัวใจ ไม่สามารถไปวัดได้ ลูกเอาเงินของคุณแม่ไปทำบุญให้ท่านแทน โดยขออนุญาตส่วนตัวแล้ว แต่ท่านไม่ได้โมทนา ไม่ทราบว่าท่านจะได้บุญเต็มที่ไหมครับ ?

    ตอบ : ถ้าท่านไม่ห้าม ท่านก็ได้อยู่แล้ว

    ถาม : ลูกๆ ทำบุญ สมาทานศีล ทำกรรมฐานแล้วแผ่ส่วนกุศลให้พ่อแม่ทุกวัน แต่ท่านไม่ได้อนุโมทนา ท่านจะได้บุญที่ลูกปฏิบัติธรรมหรือไม่ ?

    ตอบ : ใครทำใครได้ ถ้าเป็นอย่างที่ว่ามา ต้องให้ท่านโมทนาก่อน

    ถาม : แผ่ให้เจ้ากรรมนายเวรของพ่อแม่ด้วย ไม่ทราบว่าเจ้ากรรมนายเวรของพ่อแม่จะได้รับหรือไม่ ถ้าแผ่ให้ไปเรื่อยๆ เขาอโหสิกรรมให้กับพ่อแม่เราหรือไม่ อย่างไรครับ ?

    ตอบ : เขารับได้อยู่แล้ว ส่วนจะอโหสิหรือไม่เป็นสิทธิ์ของเขา


    สนทนากับพระครูวิลาศกาญจนธรรม (พระอาจารย์เล็ก สุธมฺมปญฺโญ)
    ณ บ้านวิริยบารมี ต้นเดือนกุมภาพันธ์ พุทธศักราช ๒๕๕๗

    ที่มา : http://www.watthakhanun.com/webboard...?t=3991&page=2
     
  19. sirigul

    sirigul เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2012
    โพสต์:
    805
    ค่าพลัง:
    +2,515
    ยังไม่ตาย จะใช้อุทิศได้อย่างไง ใช้คำว่าแผ่เมตตาถึงจะถูก ยุ่งยากนัก ทุกข์ใจหนัก ก็ถือดอกไม้ธูปเทียน นัดเจอกันแล้วก็กล่าวคำอโหสิกรรมกัน แบบนี้ดีที่สุด กระจ่างไปเลย
     
  20. Onarmol

    Onarmol เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 พฤศจิกายน 2013
    โพสต์:
    111
    ค่าพลัง:
    +964
    หลังจากสวดมนต์และเจริญพระกรรมฐานให้แผ่เมตตาส่งความปรารถนาดีให้คนๆนั้นได้ค่ะ เคยอ่านหนังสือกฏแห่งกรรม ธรรมปฏิบัติ ของหลวงพ่อวัดอัมพวัน ซึ่งมีหลายเรื่องที่ได้รวบรวมเกี่ยวกับการแผ่เมตตาให้ผู้ที่ยังมีชีวิตและได้ผลค่ะ

    สำหรับเราหากมีความปรารถนาดีให้แก่ผู้ที่ยังมีชีวิตอยู่จะแผ่เมตตาให้เขามีความสุข บลา บลา บลา... ว่ากันไป (ในทางสัมมาทิฐิ) แล้วจะอุทิศกุศลผลบุญให้เทวดาประจำตัวท่านผู้นั้นร่วมกันไปด้วยค่ะ

    อดีตผ่านมาแก้ไขไม่ได้ แต่ปรับปรุงแก้ไขด้วยกรรมดีใหม่ในปัจจุบัน
    ดีที่สุดแล้วค่า

    ทำได้เท่าที่ทำได้และอย่าไปเศร้าหมองกับเรื่องที่ผ่านมาค่ะ เป็นกำลังใจให้และขออนุโมทนาบุญด้วยนะคะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 มีนาคม 2014

แชร์หน้านี้

Loading...