ปิดรับบริจาค อานิสงส์สีทอง!!!ถวายผอบ108คู่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุองค์ปฐมได้ครบแล้วสาธุ

ในห้อง 'พระพุทธรูป - วิหารทาน - สิ่งก่อสร้าง' ตั้งกระทู้โดย เก๋ณัฐา, 13 กุมภาพันธ์ 2012.

  1. เก๋ณัฐา

    เก๋ณัฐา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    5,680
    ค่าพลัง:
    +57,773
    สุดยอดอานิสงส์สีทองสร้างคู่แท้
    อานิสงส์ให้ผู้คนได้สมหวังในความรัก
    user214880_pic12163_1225247780[1].jpg
    เชิญร่วมถวายผอบคู่บรรจุ
    พระบรมสารีริกธาตุองค์ปฐมบรมศาสดา 108 คู่
    เจ้าภาพคู่ละ 1500 บาท
    หรือเชิญร่วมบุญตามศรัทธา
    [​IMG]
    อานิสงส์สีทองแก้กรรมด้านความรัก
    เปลี่ยนจากคู่กรรมเป็นคู่บุญ
    อธิษฐานจิตขอมหาบารมีอันเนื่องจากสมเด็จองค์ปฐมในครั้งนี้แก้กรรมด้านความรักให้แก่ผู้คนทั้งหลายจากคู่กรรมขอให้ดลเปลี่ยนเป็นคู่บุญให้ได้สมปรารถนาได้ครองคู่กันในฉับพลันตั้งแต่ชาติพบนี้ไปด้วยเถิดสาธุ...

    วัดป่าโนนจ่าหอม 13 หมู่ 13 หมู่บ้านโพนเมือง ต.โพนเมือง อ.เหล่าเสือโก้ก จ. อุบลราชธานี34000 โทร 080-167-5445
    ประธานฝ่ายฆารวาส (คุณเก๋ณัฐา) ตั้งแต่หกโมงเย็น-สี่ทุ่ม : 080-772-1000


    รับใบอนุโมทนาบัตร แจ้งรายละเอียดการโอนและที่อยู่ที่ e-mail : watnonjahom@gmail.com


    การร่วมบุญสามารโอนผ่านเอทีเอ็มหรือธนาคารเข้าบัญชีเจ้าอาวาสตามรายละเอียดด้านล่าง
    บัญชีธนาคาร: กรุงไทย ชื่อบัญชี: พระชยางกูร โชติช่วง
    เลขที่บัญชี: 313-048-6607 สาขา: อุบลราชธานี ประเภทบัญชี: ออมทรัพย์


    Account Name: Pra Chayangkool Chotchuang, Account Number: 313-048-6607 KRUNG THAI BANK PCL,UBON RATCHATHANI BRANCH Address: 633 Moo 18, Chayangkul Rd., Nai Mueang, Mueang Ubon Ratchathani, Ubon Ratchathani 34000 ,THAILAND
    SWIFT Code สำหรับโอนเงินจากต่างประเทศ : KRTHTHBK
    (ข้อมูลหลวงพ่ออ้างอิงจากสำนักงานวัฒนธรรมจ.อุบลราชธานีคลิ๊กเลยคะ )


    การรับใบอนุโมทนาบัตร: ในกรณีที่ร่วมบุญตั้งแต่ 1000 บาทขึ้นไปและต้องการรับใบอนุโมทนาบัตรโดยเขียน ชื่อ นามสกุล ที่อยู่ พร้อมแนบหลักฐานการโอนเงิน ใส่ซองจดหมายส่งแบบลงทะเบียนหรือEMS ถึงพระชยางกูร โชติช่วง วัดป่าโนนจ่าหอม 13 หมู่ 13 หมู่บ้านโพนเมือง ต.โพนเมือง อ.เหล่าเสือโก้ก จ. อุบลราชธานี 34000
    หรือแจ้ง
    1.ชื่อ-นามสุกล 2.จำนวนเงินที่โอน 3.ที่อยู่ในการจัดส่งใบอนุโมทนา 4.วัน เวลา และเลขที่บัญชีของวัดที่โอนเงินเงินเข้ามา
    e-mail : <A href="mailto:watnonjahom@gmail.com"><A href="mailto:watnonjahom@gmail.com">watnonjahom@gmail.com

    ปรึกษาเรื่องทำบุญส่งอีเมลไปที่ nattha999@gmail.com
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSC09309.JPG
      DSC09309.JPG
      ขนาดไฟล์:
      47.6 KB
      เปิดดู:
      10,328
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 31 ตุลาคม 2012
  2. ธรรมสถิต

    ธรรมสถิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    2,261
    ค่าพลัง:
    +15,736
    [​IMG]



    จิตเกาะเกี่ยวพระพุทธเจ้าอยู่เสมอ
    ท่านจะบังคับกระแสจิตเราไม่ให้ทำความชั่ว


    คิดดี พูดดี ทำดี
    ตั้งมั่นในพรหมวิหาร 4 และศีล 5
    ละวางความโกรธ อภัยทาน
    ถวายบุญแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
    และพระสยามเทวาธิราชเจ้า
    ขอพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
    ทรงมีพระพลานามัย แข็งแรงในทันที

     
  3. เก๋ณัฐา

    เก๋ณัฐา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    5,680
    ค่าพลัง:
    +57,773
    คำถอนคำอธิษฐาน

    ตั้งจิตอธิษฐานต่อหน้าพระพุทธรูป หรือ ตามพิธีบวงสรวง สถานศักดิ์สิทธิ์วัดวาอารามต่างๆ จุดธูป เทียน และกล่าวคำถอนคำอธิษฐานในใจดังนี้



    "อิมัง อะธิฏฐานัง ปัจจุทธะรามิ
    ทุติยัมปิ อิมังอะธิฏฐานัง ปัจจุทธะรามิ
    ตติยัมปิ อิมังอะธิฏฐานัง ปัจจุทธะรามิ
    ข้าพเจ้าขอถอนคำอธิษฐาน ถอนคำสาป
    ถอนคำแช่ง ที่ข้าพเจ้าได้ตั้งขึ้นถึงพร้อมแล้ว
    ด้วยกิเลส ด้วยตัณหา ด้วยอุปทาน
    ด้วยราคะ ด้วยโทสะ ด้วยโมหะ ด้วยมานะ
    ด้วยมิจฉาทิฐิ เป็นไปเพื่อความพยาบาท
    เบียดเบียน สร้างเวรสร้างกรรม
    ไม่ประกอบด้วยกุศล ไม่ประกอบด้วยปัญญา
    ไม่ประกอบด้วยบารมี ที่ข้าพเจ้าได้อธิษฐานไว้
    สาปไว้ แช่งไว้ ในอดีตชาติก็ดี ปัจจุบันชาติก็ดี
    ระลึกได้ก็ดี ระลึกไม่ได้ก็ดี ทั้งหมดทั้งสิ้น
    ข้าพเจ้าขออ้างเอาพระพุทธเจ้า พระธรรมเจ้า พระสังฆเจ้า
    แม่พระธรณี แม่พระคงคา แม่พระเพลิง แม่พระพาย
    และเทวดาทั้งหลายทั้งปวง มาเป็นพยาน ว่าข้าพเจ้า
    ขอถอนคำอธิษฐานเหล่านั้น ถอนคำสาปเหล่านั้น
    ถอนคำแช่งเหล่านั้นร้อยหน พันหน หมื่นหน
    แสนหน ล้านหน โกฎิหน ณ กาลบัดเดี๋ยวนี้เทอญ"



    "นะถอน โมถอน พุทถอน ธาถอน
    ยะคลอน โมคลอน พุทคลอน ธาคลอน
    ยะคลอน ถอนด้วยนะโม พุทธายะ"



    ข้าพเจ้าขอถอนคำอธิษฐานที่ว่า
    จะขออยู่เป็นโสดไปตลอดชีวิตนั้น ณ บัดเดี๋ยวนี้



    ข้าพเจ้าขอถอน ขอเพิกขอเบิกขอถอน
    ถอนออกด้วยนะโมพุทธายะ



    ข้าพเจ้าจะขอใช้ชีวิตคู่กับสามีที่จะบังเกิดกับข้า
    ขอจงได้ตามคำขอนี้เถิด โปรดอโหสิกรรม
    และให้อภัยในความบกพร่อง ผิดพลาดของสรรพสัตว์
    ทั้งหลายทั้งปวง ทุกชีวิต ทุกจิตวิญญาน
    ในทุกที่สถาน ในกาลทุกเมื่อเทอญ

    ขอให้อานิสงส์นี้จงดลให้ข้าพเจ้าและผู้ร่วมบุญทุกท่านจงสำเร็จตามที่อธิษฐานในฉับพลันทันใด ณ กลาบัดเดี๋ยวนี้เทอญ สาธุ สาธุ สาธุ<!-- google_ad_section_end -->
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 เมษายน 2012
  4. เก๋ณัฐา

    เก๋ณัฐา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    5,680
    ค่าพลัง:
    +57,773
    เหตุแห่งความรัก

    เหตุแห่งความรัก

    ปุถุชนผู้ยังละกิเลสไม่ได้ เกิดมาก็ย่อมต้องมีความรักทั้งหญิงและชาย พระพุทธเจ้าทรงแสดงเหตุที่ทำให้หญิงชายรู้สึกรักกันไว้ใน สาเกตชาดก พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๙ ดังนี้

    “ ข้าแต่พระผู้มีพระภาค เหตุไรหนอ เมื่อบุคคลบางคนในโลกนี้พอเห็นกันเข้าก็เฉย ๆ หัวใจก็เฉย บางคนพอเห็นกันเข้า จิตก็เลื่อมใส ”

    “ ความรักนั้น ย่อมเกิดขึ้นด้วยเหตุ ๒ ประการ คือ ด้วยการอยู่ร่วมกัน ในกาลก่อน ๑ ด้วยความเกื้อกูลต่อกันในปัจจุบัน ๑ ”

    เหมือนดอกอุบลและชลชาติ เมื่อเกิดในน้ำ ย่อมเกิดเพราะอาศัยเหตุ ๒ประการ คือน้ำและเปือกตม ฉะนั้น

    จึงจะเห็นว่าการที่หญิงชายมารักกัน ชอบกัน และอาจได้อยู่ร่วมกันนั้นไม่ใช่เหตุบังเอิญ แต่มีปัจจัยมาจาก ๒ ประการดังที่พระพุทธองค์ทรงแสดงเหตุให้รู้ แต่ก็ยังมีข้อสงสัยที่เกี่ยวเนื่องกับความรัก คู่ครอง เนื้อคู่ ฯลฯ อีกมากมาย

    คู่
    บุพเพสันนิวาส คือ การได้เคยอยู่ร่วมกันในอดีตชาติ จนส่งผลให้ได้มาเป็นคู่ครองกันในปัจจุบัน ซึ่งส่วนใหญ่จะคิดว่าเคยอยู่ร่วมกันเป็นสามีภรรยาเท่านั้น แต่แท้จริงแล้วบุพเพสันนิวาสหมายถึงการที่อาจจะได้อยู่ร่วมกันในฐานะอื่นก็ได้ เช่น พี่กับน้อง พ่อกับลูก แม่กับลูก เพื่อครูกับศิษย์ นายกับบ่าว เป็นต้น การที่มีบุพเพสันนิวาสร่วมกันนี้เมื่อเกิดมาร่วมกัน ก็มักจะสร้างบุญสร้างกุศลร่วมกันมา ทำอะไรตามกัน มีความเห็นสอดคล้องกัน ทำให้อยู่ด้วยกันแล้วมีความสุข

    เนื้อคู่ คือ หญิงและชายที่เคยได้ใช้ชีวิตร่วมกัน เป็นสามีภรรยากันมาก่อนในอดีตชาติ

    คู่ครอง คือ หญิงและชายที่ใช้ชีวิตร่วมกัน เป็นสามีภรรยากันในชาติปัจจุบัน

    คู่กรรม คือ หญิงและชายที่ใช้ชีวิตร่วมกันเป็นสามีภรรยา แต่มักไม่มีความสุข เนื่องจากการมาอยู่ร่วมกันนั้นเกิดจากวิบากของกรรมที่ทำร่วมกันหรือวิบากกรรมที่มีต่อกันมาส่งผล เช่น อาจเคยทำบาปร่วมกัน หรือเคยเป็นศัตรูกันมาก่อนเป็นต้น

    คู่บารมี คือ เนื้อคู่ที่ได้ติดตามกันมา ส่งเสริมกันและกันในทางที่ดี ได้ใช้ชีวิตร่วมกันในฐานะสามีภรรยาร่วมกันนับชาติไม่ถ้วน และจะติดตามกันต่อไปจนกว่าจะสามารถหลุดพ้นจากวัฏสงสารได้ มักใช้คำนี้กับพระโพธิสัตว์ที่บำเพ็ญบารมีกับเนื้อคู่ลำดับ ๑ ที่จะได้เป็นคู่ครองกับในชาติสุดท้าย

    เหตุแห่งการได้อยู่ร่วมกัน

    ดังที่พระพุทธองค์ได้แสดงเหตุที่หญิงชายได้รักและได้เป็นสามีภรรยากันนั้นมี ๒ ปัจจัย คือ

    • การได้อยู่ร่วมกันในกาลก่อน

    • การได้เกื้อหนุนกันในชาติปัจจุบัน

    เนื่องจากวัฎสงสารยาวไกลจนหาจุดเริ่มต้นและที่สุดไม่ได้ หญิงชายแต่ละคนจึงมีเนื้อคู่มากมายเป็นแสนคน แต่ละชาติที่เกิดมาก็อาจได้พบเจอเนื้อคู่ได้หลาย ๆ คนพร้อมกัน หรืออาจไม่ได้เจอเนื้อคู่เลยสักคนก็เป็นได้ กรณีที่ไม่เจอเนื้อคู่เลยนั้น หญิงชายนั้นก็อาจมีคู่ได้กับบุคคลใกล้ชิดที่ได้เกื้อหนุนกันในปัจจุบัน ซึ่งเมื่อได้เป็นคู่กันในปัจจุบันแล้วหญิงชายนั้นก็จะได้เป็นเนื้อคู่กันต่อไป

    ลำดับของเนื้อคู่

    เพราะเหตุที่แต่ละคนมีเนื้อคู่จำนวนมากมาย จึงเป็นที่น่าสงสัยว่าแล้วใครกันเล่าที่สมควรจะได้อยู่เป็นคู่ครองกันมากที่สุด และจะมีวิธีการเลือกอย่างไร แม้จะมีเนื้อคู่จำนวนมากมาย แต่จะมีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่เมื่ออยู่ร่วมกันแล้วมีความสุขที่สุด เมื่อพบหน้ากันแล้วไม่อาจตัดใจรักให้ขาดจากกันได้ บุคคลนี้คือเนื้อคู่ที่ได้อยู่ร่วมกันมามากที่สุดเป็นแสนเป็นล้านชาติ เป็นเนื้อคู่ลำดับที่ ๑

    กฎแห่งกรรมจะจัดสรรการมีคู่ไว้ให้เราเรียบร้อย คือ หากเรามีเนื้อคู่เกิดมาพร้อมกัน ใจเราจะเป็นผู้เลือกเนื้อคู่ลำดับต้นเสมอ เมื่อเลือกแล้วคู่ลำดับอื่นเขาจะหลีกทางและไปหาคู่ของเขาต่อไป แต่กฎแห่งกรรมอีกเช่นกัน ที่บางชาติ กลับทำให้คู่ลำดับต้น ๆ ได้มาพบกันทีหลังหลังจากที่อีกฝ่ายได้เลือกคู่ครองไปแล้วซึ่งแม้จะได้พบกันทีหลัง แต่เพราะเป็นคู่ลำดับต้น จิตใจของทั้งคู่ก็จะร้อนรนทนไม่ไหว จึงต้องรักกันอีกครั้งซึ่งความรักครั้งนี้ต้องหัก ต้องบังคับฝืนใจกันอย่างเต็มกำลัง กล่าวกันว่าแม้พระภิกษุผู้มั่นคงในศีล เมื่อได้เจอเนื้อคู่ลำดับต้น ๆ ยังทนไม่ได้ ต้องสึกหาลาเพศมาอยู่กับเนื้อคู่ของตนจนได้

    เหตุที่เนื้อคู่ลำดับต้นมาเกิดในชาติภพเดียวกัน แต่กลับไม่สมกันนั้น มีเหตุเดียว คือ กรรมพลัดพรากได้มาส่งผลเป็นวิบากแก่ทั้งคู่อย่างร้ายแรง หากกรรมนั้นใกล้จะหมดผลเขาทั้งสองก็อาจได้เป็นคู่ครองกันในชาตินั้น แต่หากกรรมนั้นยังรุนแรงอยู่ทั้งสองก็ต้องทนทุกข์ทรมานชดใช้กรรมนั้นให้หมด แล้วจึงจะได้มีวาสนาอยู่ร่วมกันในชาติต่อ ๆ ไป

    เหตุที่อกหักผิดหวังในความรัก

    นอกจากการผิดหวังจากเนื้อคู่ลำดับต้น ๆ ซึ่งเกิดจากกรรมพลัดพรากแล้ว บางครั้งคนเราก็อาจต้องผิดหวังในความรัก โดยมีเหตุมาจากกรรมทั้งสิ้น คืออยู่กับคู่ครองไม่มีความสุข ทะเลาะเบาะแว้งกันเป็นประจำหรือมีปัญหาให้ทุกข์ใจตลอด เหตุที่เป็นดังนี้ แสดงว่าคู่ครองนั้นไม่ใช่เนื้อคู่ลำดับที่ ๑-๕ เนื่องจากกรรมจากการเป็นคนไม่ดี ไม่มีศีลธรรมส่งผลให้ไม่ได้พบเนื้อคู่ลำดับต้น ๆ

    หรืออาจเป็นเพราะทั้งสองไม่ใช่เนื้อคู่กัน แต่ทั้งคู่เป็นศัตรูคู่อาฆาต ได้เคยผูกใจเจ็บกันมา ชาตินี้จึงต้องมาแก้แค้นกันเอง และแรงอาฆาตได้ผลักดันให้ทั้งสองมาอยู่ร่วมกัน และแก้แค้นกันเองตามแรงอาฆาตนั้น
    <O:p
    หรือบางคนรักเขาข้างเดียว อกหักบ่อยครั้ง โดยที่อีกฝ่ายไม่ได้สนใจด้วยเลย เหตุนี้เกิดขึ้นเนื่องจากอดีตชาติเคยอาฆาตเขาไว้ แต่เขาไม่ได้อาฆาตตอบและไม่ได้ถือโกรธด้วย ชาตินี้จึงต้องทนทุกข์ทรมานเพราะเขาอยู่เพียงฝ่ายเดียว อย่างนี้ไม่ได้เป็นเนื้อคู่ เป็นเพียงคู่กรรมเท่านั้น
    <O:p
    <O:pการแก้ปัญหาเรื่องอธิษฐาน

    หากแน่ใจว่าเนื้อคู่ที่อธิษฐานกันไว้คงไม่ได้พบเจอกันแน่แล้ว หรืออยากจะปล่อยวางเพื่อมีโอกาสได้ตัดสินใจกับเนื้อคู่ลำดับอื่น สามารถทำได้ง่าย ๆ เพียงอธิษฐานขออนุญาตเนื้อคู่ว่า ขอละคำอธิษฐานนั้น ขอให้ชีวิตได้พบเนื้อคู่ที่สมกัน และได้ใช้ชีวิตคู่อย่างปกติและมีความสุข

    คู่บารมี

    สุดท้ายคือเรื่องของคู่บารมี เป็นคู่สำคัญ เป็นคู่ที่ยาวนาน เพราะต้องร่วมกันสร้างบารมีขณะที่ฝ่ายหนึ่งเป็นพระโพธิสัตว์ และอีกฝ่ายหนึ่งเป็นเนื้อคู่ที่จะเคียงข้างกันไป การเป็นพระโพธิสัตว์นั้นต้องการกำลังใจที่เข้มแข็ง มั่นคง และเสียสละความสุขทั้งปวงเพื่อประโยชน์ของสัตว์โลก พระโพธิสัตว์นั้นต้องใช้เวลายาวนานมากในการสร้างบุญบารมีกว่าที่จะสามารถตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ อย่างเร็วที่สุดก็ต้องใช้เวลาถึง ๒๐ อสงไขยกับเศษแสนมหากัป และอย่างช้าก็เนิ่นนานจนถึง ๘๐ อสงไขยกับเศษแสนมหากัปเลยทีเดียว

    คนที่ตั้งใจเป็นคู่บารมีจึงต้องมีความเสียสละและเด็ดเดี่ยวไม่แพ้กันบุคคลผู้ปรารถนาเป็นคู่บารมีนั้น จะเป็นผู้ที่ได้ช่วยเหลือเกื้อกูลกันมากที่สุดได้เป็นคู่ครองกันมากที่สุด และเป็นเนื้อคู่ลำดับ ๑ อย่างเที่ยงแท้

    การเป็นคู่บารมีนั้นลำบากมากยิ่งนัก เพราะคนเป็นคู่บารมีนั้นจะต้องพบกับสิ่งต่อไปนี้ คือ ต้องเกิดเป็นผู้หญิง ไม่ได้เกิดเป็นผู้ชาย ต้องช่วยพระโพธิสัตว์ทำงานอย่างเต็มกำลัง ในบางชาติอาจต้องร่วมสร้างบารมีกับพระโพธิสัตว์ เช่น ต้องสละชีวิตร่วมกัน ต้องถูกบริจาคลูก หรือตัวเองเพื่อเสริมบารมีให้พระโพธิสัตว์ เป็นต้น ตราบใดที่พระโพธิสัตว์ยังไม่ได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า คู่บารมีนั้นก็ยังไม่มีโอกาสบรรลุโลกุตรธรรมได้ ..

    อ้างอิง
    บทความจากธรรมะเดลิเวอรี่ โดยคุณอังคาร
    http://palungjit.org/threads/เหตุแห่งความรัก.326262/
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 กุมภาพันธ์ 2012
  5. เก๋ณัฐา

    เก๋ณัฐา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    5,680
    ค่าพลัง:
    +57,773
    มาสร้างเหตุให้เกิดความรักที่ยั่งยืนอย่างแท้จริงกันเถอะคะ
    กรรมเรื่องรักแก้ได้ยาก แต่เราจะแก้กันด้วยมหาอนิสงส์ในครั้งนี้เชิญตั้งจิตอธิษฐานร่วมบุญเปลี่ยนจากคู่กรรมเป้ฯคู่บุญไปด้วยกันเถิดคะ เจ้าภาพท่านแรกเข้ามาแล้วในเช้นแห่งวันแห่งความรักนี้วันวาเลนไทน์ ณ เวลา 8.18 น. คุณพี่ผู้ท่านหนึ่งแจ้งเป็นเจ้าภาพผอบคู่บรรจะพระบรมสารีริกธาตุองค์ปฐมมาแล้วคะ 1 คู่ 1500 บาท ขอร่วมมหาอนุโมทนาสาธุด้วยคะ ขอให้กรรมนี้จงดลบัลดาลให้ทุกท่านสมหวังในความรัก ในคำอธิษฐานสามารถเปลี่ยนคู่กรรมเป็นคู่บุญกันได้หากมีจิตปรารถนาที่จะหาเค้าผู้นั้นสร้างส่งข้ามสะพานนิพพาน ก็ขอให้อานิสงส์ผลบุญและสัญญานี้ส่งให้บังเกิดเป็นคู่แท้ได้เป้นคู่บุญกันตั้งแต่ชาติภพนี้ไปโดยฉับพลันด้วยเถิดตราบถึงพระนิพพานด้วยเถิดสาธุ​
     
  6. ธรรมวิวัฒน์

    ธรรมวิวัฒน์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    26,329
    กระทู้เรื่องเด่น:
    82
    ค่าพลัง:
    +115,269
    ผมจองเป็นเจ้าภาพ 1 คู่ นะครับ
    ไว้สิ้นเดือนจะโอนเงินไปให้นะครับ อนุโมทนาบุญกับทุกท่านด้วยนะครับ สาธุ สาธุ
     
  7. ธรรมสถิต

    ธรรมสถิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    2,261
    ค่าพลัง:
    +15,736
    [​IMG]
    อนุโมทนาบุญกับทุกท่านครับ

    จิตเกาะเกี่ยวพระพุทธเจ้าอยู่เสมอ
    ท่านจะบังคับกระแสจิตเราไม่ให้ทำความชั่ว


    คิดดี พูดดี ทำดี
    ตั้งมั่นในพรหมวิหาร 4 และศีล 5
    ละวางความโกรธ อภัยทาน
    ถวายบุญแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
    และพระสยามเทวาธิราชเจ้า
    ขอพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
    ทรงมีพระพลานามัย แข็งแรงในทันที

    ---------------------------------------------------------------------------------------------------
    ร่วมกันอธิฐานถวายอายุขัยแด่องค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
    http://palungjit.org/threads/บุญพระพุทธรูปองค์ปฐมหน้าตัก4ศอกชำระหนี้สงฆ์เจ้าภาพองค์ละ5000บ-วัดป่าโนนจ่าหอมโทร080-1675445-a.277256/page-14
    http://www.baansuanpyramid.com
     
  8. เก๋ณัฐา

    เก๋ณัฐา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    5,680
    ค่าพลัง:
    +57,773
    ทำอย่างไรจึงจะได้อยู่ร่วมกัน

    เมื่อความรักหวานชื่น คู่ครองทั้งหลายย่อมต้องอยากเกิดมาเป็นเนื้อคู่กันอีก ซึ่งผลกรรมก็ได้จัดสรรการเกิดมาเป็นคู่ครองกันอีกตามที่ได้กล่าวมาแล้ว แต่นอกจากการรอให้กรรมเป็นตัวจัดสรรแล้ว เรายังสามารถเลือกที่จะได้พบและอยู่เป็นคู่ครองกับเนื้อคู่ของเราได้ในอนาคต โดยการอธิษฐาน แต่แม้จะมีอธิษฐานร่วมกัน สุดท้ายการได้อยู่ร่วมกันก็ยังต้องขึ้นอยู่กับกฎแห่งกรรมอยู่ดี

    การอธิษฐานนั้นมีทั้งประโยชน์และโทษคือ ในด้านประโยชน์ ทำให้เนื้อคู่ทั้งสองมีโอกาสกลับมาเป็นคู่ครองกันในชาติต่อ ๆไป ได้ง่าย แต่ในแง่ของโทษ บางครั้งก็ทำให้การใช้ชีวิตไม่เป็นปกติสุข เช่น หากเนื้อคู่ที่อธิษฐานกันไว้ไม่ได้มาเกิด หรือมาเกิดแล้วแต่ยังไม่ได้พบกัน ฝ่ายที่รออยู่จะไม่สามารถมีคู่ได้ จิตใจไม่รักใคร หรือแม้จะได้พบเนื้อคู่ลำดับต้น ๆ แต่ก็มีเหตุให้ไม่สมหวังทุกครั้งไป เนื่องจากแรงอธิษฐานนั้นฉุดรั้งไว้ หรือบางครั้งจิตใจมีสังหรณ์อยู่เสมอว่ารอคอยใครอยู่ ทั้งที่ไม่รู้ว่ารอคอยใคร
     
  9. เก๋ณัฐา

    เก๋ณัฐา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    5,680
    ค่าพลัง:
    +57,773
    อานิสงส์สร้างคูแท้ถวายผอบคู่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุองค์ปฐมเพื่อประดิษฐานบนเศียรพระพุทธรูปองค์ปฐมให้ผู้คนได้กราบสักการะบูชา
    ทุกครั้งมีผู้คนมากราบไว้บูชาอานิสงส์สีทองเกิดและจะส่งหนุนให้เจ้ากรรมนายเวรด้านความรัก แก้กรรมด้านคู่ครอง ตามคำอธิษฐาน จากคู่กรรมก็จะบังเกิดเป็นคู่บุญ ผูกกันเอาไว้ด้วยบุญคะอนุโมทนาสาธุ...
     
  10. chansit

    chansit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    80
    ค่าพลัง:
    +636
    ร่วมทำบุญ200 บาทครับ โอนเรียบร้อยครับ 14/2/2555
     
  11. ธรรมสถิต

    ธรรมสถิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    2,261
    ค่าพลัง:
    +15,736

    [​IMG]

    ขออนุโมทนาบุญด้วยครับ

    ด้วยอำนาจแห่งสมเด็จองค์ปฐมบรมศาสดา
    ขอให้มีที่อยู่ มีกิน มีใช้ ไม่เจ็บ ไม่จน ไม่ฝืดเคือง

    เราทุกคนมาช่วยกันทำความดี เพื่อประเทศชาติ
    ทำบุญตามกำลังศรัทธา ไม่เบียดเบียนตัวเอง
    ทำบุญทุกอย่างตั้งใจถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
    ขอให้ทรงมีพระราชหฤทัยแข็งแรง ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน

    บุญ เท่านั้น ศีลเท่านั้น
    ที่จะช่วยตนเราทุกคนและครอบครัวได้


    ---------------------------------------------------------------------------------------------------
    พลาดไม่ได้!!!อานิสงส์=ได้ไปติดเม็ดพรศกบนเศียรองค์ปฐมเองกับมือเราเอง<!-- google_ad_section_end -->
     
  12. moopanda_kae

    moopanda_kae เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2009
    โพสต์:
    546
    ค่าพลัง:
    +1,107
    คนโสดทำบุญนี้ด้วยได้ไหมคะคุณเก๋ณัฐา ^ ^

    เก๋โอนเงินไปร่วมทำบุญแล้วค่ะ วันนี้ 15/02/55 เวลา 06:21 น. จำนวน 200 บาท
    และก็ขอร่วมโมทนาบุญกับสหายธรรมทุกๆ ท่าน ที่ร่วมทำบุญในครั้งนี้ด้วยนะคะ สาธุ สาธุ _/|\_
     
  13. เก๋ณัฐา

    เก๋ณัฐา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    5,680
    ค่าพลัง:
    +57,773
    อนุโมทนาสาธุการเช่นกันคะ ขอให้เจริญๆคะ คนโสดคนมีคู่มำได้หมดคะ สร้างอานิสงส์ไว้รอก่อนคะ สาธุ....
     
  14. moopanda_kae

    moopanda_kae เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2009
    โพสต์:
    546
    ค่าพลัง:
    +1,107
    เก๋เปิดกระทู้นี้ให้เพื่อนดูค่ะคุณเก๋ณัฐา เพื่อนชอบมากก็เลยฝากเงินมาทำบุญด้วยตามรายละเอียดด้านล่างนี้นะคะ

    ชื่อเล็ก กนกวรรณ

    โอนเงินไปร่วมทำบุญแล้ววันนี้ 15/02/55 เวลา 09:53 น. จำนวน 200 บาท
    เก๋และเพื่อน ขอร่วมโมทนาบุญกับสหายธรรมทุกๆ ท่าน ที่ร่วมทำบุญในครั้งนี้ด้วยนะคะ สาธุ สาธุ _/|\_

     
  15. เก๋ณัฐา

    เก๋ณัฐา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    5,680
    ค่าพลัง:
    +57,773
    นำภาพการสร้างพระใหญ่มาฝากค่ะ

    ผอบคู่บรรจุพระธาตุองค์ปฐมจะนำไปประดิษฐานในพระพุทธรูปองค์ปฐมหน้าตัก 4 ศอก ที่สร้างคะ สามารถร่วมบุญได้ทั้งเดือนกุมภาพันธ์คะอนุโมทสาธุ....


    [​IMG]


    [​IMG]


    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSC01940.JPG
      DSC01940.JPG
      ขนาดไฟล์:
      132.7 KB
      เปิดดู:
      8,599
    • DSC01937.JPG
      DSC01937.JPG
      ขนาดไฟล์:
      131.2 KB
      เปิดดู:
      8,511
    • DSC01936.JPG
      DSC01936.JPG
      ขนาดไฟล์:
      137.7 KB
      เปิดดู:
      8,465
  16. ooic

    ooic Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    46
    ค่าพลัง:
    +46
    ขอร่วมบุญด้วยนะคะ 200 บาท
    โอนแล้ววันที่ 15/2/55 เวลา 11.47

    ขอร่วมโมทนากับผู้สร้างผู้จัดทำและทุกๆบุญที่ร่วมกันนะคะ สาธุๆๆๆ
     
  17. ธรรมวิวัฒน์

    ธรรมวิวัฒน์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    26,329
    กระทู้เรื่องเด่น:
    82
    ค่าพลัง:
    +115,269
    ผอบนี่เป็นอย่างในรูปหรือเปล่าครับ พี่เก๋
    ถ้าอยากจะส่งแผ่นทองไปร่วมบรรจุกับผอบ
    จะได้เปล่าครับ พี่เก๋
     
  18. เก๋ณัฐา

    เก๋ณัฐา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    5,680
    ค่าพลัง:
    +57,773
    ผอบในรูปเป็นแบบอ้างอิงเท่านั้นจ้า แต่เป็นผอบแก้วลักษณะคล้ายกัน สามารถส่งแผ่นทองและวัตถุมงคลส่งไปได้หมด เพระาสร้างเรื่อยๆสร้างตลอดก็ถยอยบรรจุ ส่งได้ทั้งปีจ้าสำหรับแผ่นทองและวัตถุมงคลต่างๆ
     
  19. เก๋ณัฐา

    เก๋ณัฐา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    5,680
    ค่าพลัง:
    +57,773
    ความรักในทางพุทธศาสนา

    <O:pโดย พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ. ปยุตฺโต)

    <O:p

    ถาม: จึงใคร่ขอกราบเรียนถามท่านเจ้าคุณว่า มีความเห็นอย่างไรเกี่ยวกับเรื่องของความรัก และในทางพุทธศาสนาให้คติหรือแนวความคิดอย่างไรบ้างเกี่ยวกับเรื่องนี้

    ตอบ: พระพุทธศาสนายอมรับธรรมชาติของมนุษย์ปุถุชนเป็นอันดับที่หนึ่งก่อน แต่ไม่ได้หยุดอยู่แค่นั้น คือ มีการพิจารณาต่อไปว่าในกรณีที่ธรรมชาติของปุถุชนนั้นมีข้อบกพร่องหรือมีโทษ ก็จะสอนถึงการปรับปรุงแก้ไข หรือทำให้ดียิ่งขึ้น เรียกว่า การศึกษา หรือ การพัฒนาชีวิต<O:pอันนี้ก็ไปสอดคล้องกับธรรมชาติของมนุษย์อีกประการหนึ่งที่ว่ามนุษย์นั้นเป็นสัตว์ที่ฝึกได้ หรือพัฒนาได้ หรือพูดอีกอย่างหนึ่งว่าต้องพัฒนา และศักยภาพสูงสุดที่จะพัฒนาได้จนเป็นผู้ที่ประเสริฐอย่างยิ่ง

    ทีนี้ เราก็เอาหลักการสองอย่างนี้มาใช้ โดยวางวิธีการว่าทำอย่างไรจะให้เกิดผลดี ในกรณีที่มีความรักแบบที่ว่าตามธรรมชาติของปุถุชนที่จะมีครอบครัวอะไรนี่ก็กำหนดว่าทำอย่างไรจะให้เป็นไปในลักษณะที่ไม่เกิดโทษแก่ผู้อื่น แก่สังคม แต่ให้ดำเนินไปในทางที่ดีงาม ที่เป็นประโยชน์เกื้อกูลแก่ชีวิตและแก่สังคมนั้น อย่างน้อยก็แก่ทั้งสองคนนั้นแหละให้เขาอยู่กันด้วยดีมีสุข อันนี้เป็นขั้นที่หนึ่ง

    สำหรับขั้นนี้เราก็มีคำแนะนำให้ว่าเขาควรจะพัฒนาจิตใจของเขาอย่างไร พร้อมทั้งหลักการในการดำเนินชีวิตและในการปฏิบัติต่อกันเพื่อให้มีผลดีทั้งต่อระหว่างสองคน และในแง่ของแต่ละคน โดยคำนึงถึงจิตใจของแต่ละคน โดยเฉพาะความสุขของแต่ละฝ่าย ตลอดจนประโยชน์ที่จะขยายออกไปสู่สังคมวงกว้างด้วย รวมทั้งถ้าเขามีบุตรก็ให้เป็นประโยชน์แต่บุตรหลานของเขาต่อไปด้วย

    ทีนี้ต่อไปก็คือ เหนือกว่านั้น ทำอย่างไรจะพัฒนาเขาขึ้นไปให้เขาสามารถมีความสุขที่สูงขึ้นไปอีก ให้มีความรู้สึกที่ประณีตดีงามชนิดที่เป็นคุณธรรมซื่งคล้ายๆ ว่าเข้ามาเสริมคุณค่าของความรักแบบแรกนี้ซึ่งอาจจะเรียกว่าเป็น ความรักแบบที่สอง และเมื่อความรักแบบที่สองนี้เจริญงอกงามมากขึ้น ก็จะช่วยให้ความรักประเภทที่หนึ่งประณีตงดงาม จนกระทั่งแม้เมื่อเขาไม่สามารถอาศัยความรักประเภทที่หนึ่งต่อไปได้เขาก็ยังมีความรักประเภทที่สองหล่อเลี้ยงชีวิตร่วมกันอยู่ตลอดไป

    เป็นอันว่า สำหรับความรักประเภทที่หนึ่งนี้ ท่านก็ยอมรับแต่จะต้องให้อยู่ในกรอบ หรือในขอบเขตที่ดีงาม แล้วก็ใช้ให้เป็นประโยชน์ แต่ก็ว่ายังมีส่วนที่เป็นโทษ จึงต้องปรับปรุงพัฒนาต่อไป

    ในทางพุทธศาสนา ท่านพิจารณาทุกสิ่งทุกอย่างทั้งในแง่ข้อดีหรือคุณ และข้อเสียหรือโทษ คือข้อบกพร่อง แล้วก็บอกทางออก หรือทางแก้ไขให้ด้วย อันนี้เป็นหลักในการพิจารณาทุกอย่าง เพื่อให้เราปฎิบัติต่อทุกสิ่งที่เกี่ยวข้องด้วยสติและปัญญาอย่างรอบคอบ ที่จะแก้ปัญหาได้และเข้าถึงประโยชน์สุขที่แท้จริง

    ถาม: อยากจะขอให้ท่านแยกให้เห็นชัดว่า ความรักแบบที่หนึ่งเป็นอย่างไร และความรักแบบที่สองเป็นอย่างไร

    ตอบ: ก็มาดูเรื่องของความรักประเภทที่หนึ่งก่อน ความรักประเภทที่หนึ่งที่คนทั่วไปรู้เข้าใจกันว่าเป็น ความรักระหว่างเพศ หรือ ความรักทางเพศ มีจุดเด่นอยู่ที่ความชื่นชมติดใจ หรือความปรารถนาในรูป เสียง กลิ่น รส และสัมผัสกายของผู้ที่ตนรัก อันนี้เป็นความรักสามัญของปุถุชนซึ่งมีลักษณะสำคัญคือความต้องการหาความสุขให้แก่ตนเอง หมายความว่า ที่รักเขานั้นก็เพื่อเอาเขามาเป็นเครื่องบำเรอความสุขแก่ตน ต้องการเอาความสุขเพื่อตนเอง

    ความรักแบบที่หนึ่งนี้ ที่แท้แล้วก็คือการคิดจะเอาจากผู้อื่น ในเมื่อมันมีลักษณะอย่างนี้ มันจึงมีข้อเสียที่สำคัญติดมาด้วย คือถ้าหากว่าเราผู้นั้นไม่อยู่ในภาวะที่จะสนองความปรารถนาให้เรามีความสุขได้ เราก็จะเบื่อหน่าย แล้วก็อาจจะรังเกียจ จึงเห็นได้ว่าไม่ยั่งยืน อันนี้เป็นข้อบกพร่องที่สำคัญประการแรก

    นอกจากนั้น เนื่องจากความรักแบบที่หนึ่งนี้มุ่งจะเอาความสุขให้แก่ตัว หรือจะเอาผู้อื่นมาบำเรอความสุขหรือให้ความสุขแก่ตัว ความรักแบบนี้จึงมีลักษณะจำเพาะเจาะจง โดยมีบุคคลที่ชอบใจถูกใจเป็นเป้าเป็นความยึดติดผูกพันเฉพาะตัว

    เมื่อลักษณะสองอย่างนี้มาผนวกกันเข้า ก็ทำให้เกิดปัญหาตามมาคือความหึงหวง ความรักแบบนี้จึงมาคู่กับความหึง มีอารยึดถือเป็นของตัว ต้องการครอบครองเป็นเจ้าของแต่ผู้เดียว ไม่ต้องการให้ใครอื่นมายุ่งเกี่ยวหรือแม้แต่ได้รับความเอาใจใส่

    ความหวงแหนผูกพันเฉพาะตัว และต้องการให้เขาหรือเธอให้ความสุขแก่ตัวผู้เดียวนี้ แสดงออกได้ทั้งทางกายและทางใจ

    ทางกายก็ต้องการให้เป็นของตนผู้เดียว ไม่ให้ใครอื่นมายุ่งเกี่ยวอย่างที่เรียกว่า หวงผัสสะ

    ส่วนทางด้านจิตใจ ก็ต้องการความเอาใจใส่ความมีใจภักดีให้ฉันคนเดียวเป็นผู้ครองหัวใจเธอ หรือให้ใจเธออยู่กับฉัน อย่าปันใจให้คนอี่น
    <O:p</O:p
    เนื่องจากความรักแบบที่หนึ่งนี้ มักจะมาด้วยกันกับความหวงแหนเห็นแก่ตัว หรือความหึงหวง จึงอาจจะทำให้เกิดการแย่งชิง ทะเลาะเบาะแว้ง แม้จะไม่ได้แย่งชิงทะเลาะเบาะแว้งกับใครก็มักจะเกิดความมัวเมาหมกมุ่น จนกระทั่งบางทีก็ถึงกับละทิ้งกิจหน้าที่หรือความดีงามที่ควรจะทำ หรือไม่เช่นนั้นก็จะเป็นไปในอีกลักษณะหนึ่ง คือ ทำให้ยิ่งโลภแล้วพยายามแสวงหาอะไรต่าง ๆ มุ่งแต่จะกอบโอยเอามาเพื่อตัวเองและเพื่อคนที่ตนรักเท่านั้น โดยไม่เห็นแก่ผู้อื่นเลย จึงอาจทำให้เกิดการเบียดเบียนกันได้มาก

    ที่ว่ามานี้คือโทษประการต่างๆ ของความรักแบบที่หนึ่ง ซึ่งในที่สุดแล้วจุดจบของมันก็คือความไม่ยั่งยืน เพราะว่าแท้จริงแล้วมันเป็นเรื่องของการหาความสุขให้แก่ตัวเอง แม้จะเป็นคู่ครองอยู่ร่วมกันก็เห็นเขาเป็นสิ่งสนองความสุข เป็นที่สนองความต้องการของตนเองเท่านั้น

    ถ้าหากว่าเขาหรือเธอไม่สามารถสนองความต้องการของเราลองถามตัวเองซิว่าเราจะยังรักเขาไหม

    ต้องถามตรง ๆ อย่างนี้ ถ้าเขาไม่สามารถสนองความต้องการของเรา ไม่สามารถให้ความสุขแก่เรา ถ้าเรามีความซื่อสัตย์ต่อตนเองลองตอบดู เราจะรักเขาไหม หรือว่าเราจะกลายเป็นเบื่อหน่ายรังเกียจ นี่คือปัญหาที่เกิดขึ้น ซึ่งเป็นโทษหรือข้อเสียของความรัก แบบที่หนึ่ง

    ถาม:สำหรับความรักแบบที่หนึ่ง คิดว่าชัดเจนแล้ว อยากจะทราบถึงความรักแบบที่สองว่าเป็นอย่างไร

    ตอบ:ความรักแบบที่สอง คือ ความรักที่อยากให้เรามีความสุขหรืออยากเห็นเขามีความสุข อย่างที่เรียกว่าเป็นความปรารถนาดี เรารักใคร เราก็อยากให้คนนั้นมีความสุข อยากทำให้เขามีความสุข และอยากทำอะไรๆ เพื่อให้เขามีความสุข

    ลองถามตัวเองก่อน เวลารักใครลองถามตัวเองว่า เราต้องการความสุขเพื่อตัวเรา หรือเราอยากให้เขามีความสุข ถ้าเป็นความรักที่แท้ก็ต้องอยากให้เขามีความสุข

    เมื่ออยากให้เขามีความสุข ก็ต้องการทำให้เขามีความสุข หรือทำอะไรๆ เพื่อให้เขามีความสุขการที่จะทำให้คนอื่นมีความสุขนั้น การกระทำที่สำคัญก็คือการให้

    การให้เป็นปฎิบัติการที่ชัดเจนและต้องใช้มากที่สุดในการทำให้ผู้อื่นมีความสุข ดังนั้น ผู้ที่มีความรักแบบที่สองจึงมีความสุขในการให้และให้ด้วยความสุข ความรักแบบที่สองจึงทำให้การให้กลายเป็นความสุขแต่ต้องพูดกันไว้ก่อนด้วยว่า การให้ที่ว่านี้ไม่ใช่เป็นการให้แบบล่อเหยื่อหรือเอาอกเอาใจ ถ้าให้แบบนั้น พอไม่ได้เขามาก็จะเสียใจ เสียดายและแค้นใจ เพราะเป็นการให้เพื่อจะเอา ไม่ใช่ปรารถนาดีแก่เราจริง
    <O:p</O:p
    ในขณะที่ ความรักแบบที่หนึ่ง เป็นความต้องการที่จะเอาความสุขจากผู้อี่น หรือต้องการความสุขจากการเอา ความรักแบบที่สอง เป็นความต้องการที่จะให้ความสุขแก่ผู้อื่น และเป็นการทำให้เกิดความสุขจากการให้

    ในแบบที่หนึ่ง การได้จึงจะเป็นความสุข แต่ในแบบหลัง การให้ก็เป็นความสุข พูดสั้นๆ ว่า ความรักที่เป็นการเอา กับความรักที่เป็นการให้
    <O:p</O:p
    ถ้าเรารักเขาโดยอยากให้เขามีความสุขแล้วมันก็มีความยั่งยืนมั่นคงเมื่อเขามีความทุกข์ความเดือดร้อน แม้ว่าเขาจะไม่สามารถสนองความต้องการของเราได้ เราก็ยังรักเขา

    และเราจะเกิดความสงสาร ตอนแรกเรามีความรักความปรารถนาดีอยากให้เขามีความสุข พอเขาเกิดความทุกข์ มีความเดือดร้อนขึ้นมาความรักของเราก็จะกลายเป็นความสงสาร อยากจะช่วยเหลือเขาให้พ้นจากความทุกข์ เราจะไม่เบื่อหน่ายรังเกียจ ซึ่งต่างกันชัดเจนกับความรักแบบที่หนึ่ง

    ความรักแบบที่หนึ่งเป็นความต้องการที่จะหาความสุขให้แก่ตนเอง ชึ่งค็คือความเห็นแก่ตัวแบบหนึ่งนั่นเอง พอเขามีความทุกข์ลำบากเดือดร้อน หรืออยู่ในภาวะที่ไม่สามารถสนองความต้องการของเราได้เราก็เบื่อหน่ายรังเกียจ แต่ความรักแบบที่สองนี่ต้องการให้เขามีความสุขพอเขามีความทุกข์เดือดร้อน เราก็สงสารอยากจะช่วยปลดเปลื้องความทุกข์ให้เขาพ้นจากความลำบากเดือดร้อน

    ความรักแบบที่หนึ่งนั้นทางพระท่านเรียกว่า “ราคะ” หรือ “เสน่หา” ส่วนความรักแบบที่สองทางพระท่านเรียกว่า “เมตตา” รวมทั้ง “ไมตรี”

    ทีนี้ ถ้าหากว่าคนที่เรารักนั้น เขาเกิดเปลี่ยนเป็นมีความทุกข์ลำบากเดือดร้อน เมตตานั้นก็เปลี่ยนไปเป็น “กรุณา” คือ ความสงสาร คิดหาทางช่วยเหลือปลดเปลื้องทุกข์ จึงมี เมตตา - กรุณา เป็นคู่กัน

    นี่คือ ลักษณะของความรักสองแบบ รักแบบอยากให้เขามีความสุข กับรักแบบจะหาความสุขจากเขา หรือเอาเขามาทำให้เรามีความสุข เรียกเป็นคำศัพท์ว่า รักแบบเมตตา กับรักแบบราคะ/เสน่หา

    <O:p


    ธรรมกถานันมาฆบูชาปี 2544 ความรักจากวาเลนไทน์สู่ความเป็นไทย<O:p</O:p
    (�����ѡ㹷ҧ�ط���ʹ�)
    <!-- google_ad_section_end -->
     
  20. เก๋ณัฐา

    เก๋ณัฐา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    5,680
    ค่าพลัง:
    +57,773
    หลวงปู่มั่นวิสัจชนาความต่างระหว่าง ความรัก กับ เมตตา<!-- google_ad_section_end -->
    <HR style="BACKGROUND-COLOR: #ffffff; COLOR: #ffffff" SIZE=1>​
    <!-- google_ad_section_start -->
    [​IMG]
    ภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต

    ถาม เมตตา กรุณา กับรัก นั้นเหมือนกันหรืองกัน

    ตอบ ต่างกันมาก อย่างละอริยสัจทีเดียว ความรักนั้นเป็นสมุทัย เมตตานั้นเป็นมรรค

    ถาม เช่นรักบุตรหลาน ญาติมิตร คิดให้เป็นสุขและให้พ้นทุกข์หรือสงสารจะว่าเป็นสมุทัยได้อย่างไร รู้สึกรสชาติของใจประกอบด้วยความเอ็นดูปราณี

    ตอบ ความรักและความสงสารบุตรหลานญาติมิตร ประกอบด้วยฉันทราคะอาลัยห่วงใยกังวลพัวพันยึดถือ หนักใจไม่โปร่ง เมื่อคนรักเหล่านั้นวิบัติไป เช่น ตาย เป็นต้นก็เกิดทุกข์โทมนัสเศร้าโศกเสียใจอาลัยคิดถึง ถ้ารักมาก็โศกมาก สมด้วยพระพุทธสุภาษิตคาถาธรรมบทปิยวรรคที่ ๑๖ ว่า

    เปมโต ชายเต โสโก ความโศกย่อมเกิดแต่ความรัก
    เปมโต ชายเต ภยํ ภัยย่อมเกิดแต่ความรัก
    เปมโต วิปฺปมุตฺตสฺส ความโศกไม่มีแก่ผู้พ้นแล้ว
    นตฺถิ โสโก กุโต ภยํ จากความรัก ภัยจะมีมาแต่ที่ไหน

    เพราะฉะนั้น จึงผิดกับเมตตากรุณา ส่วนรักนั้นมีความชอบ และสงสารบุตรหลานญาติมิตร ไม่ทั่วไปในสัตว์ทั้งหลายทั้งปวง เป็นแต่พรหมวิหาร ส่วนเมตตากรุณาที่เป็นอัปปมัญญานั้นทั่วไปในสัตว์ไม่มีประมาณและไม่ประกอบด้วยความห่วงใยอาลัยพัวพันยึดถือ มีความโปร่งและเบาใจไม่หนัก มีจิตเย็นเป็นสุขและเป็นข้าศึกแก่พยาบาทโดยตรง และได้รับอานิสงส์ ๑๑ ประการด้วย ตามแบบที่ท่านแสดงไว้ในเมตตานิสังสสูตรว่า

    ๑. สขํ สุปติ หลับก็เป็นสุข
    ๒. สุขํ ปฏิพุชฺฌติ ตื่นก็เป็นสุข
    ๓. น ปาปกํ สุปินํ ปสฺสติ ย่อมไม่ฝันเห็นลามก
    ๔. มนิสฺสานํ ปิโย โหติ ย่อมเป็นที่ชอบใจของมนุษย์ทั้งหลาย
    ๕. อมนุสฺสานํ ปิโย โหติ ย่อมเป็นที่ชอบใจของอมนุษย์ทั้งหลาย
    ๖. เทวตา รกฺขนฺติ เทวดาทั้งหลายย่อมรักษา
    ๗. นาสฺส อคฺคิ วา วิสํ ไฟหรือยาพิษหรือศัสตรา
    วา สตฺถํ วา กมต ย่อมไม่ต้องผู้เจริญเมตตานั้น
    ๘. ตุวฏํ จิตฺตํ สมาธิยติ จิตของผู้เจริญเมตตาย่อมมั่นเป็นสมาธิเร็ว
    ๙. มุขวณฺโณ วิปฺปสีทติ สีหน้าของผู้เจริญเมตตาย่อมผ่องใส
    ๑๐. อสมฺมูโฬฺห กาลํ กโรติ ย่อมไม่มีสติหลงตาย
    ๑๑. อุตฺตริ อปฺปฏิวิชฺณนฺโต เมื่อยังไม่สำเร็จพระอรหันต์อันยิ่ง
    พฺรหฺมโลกุปฺโค โหติ ย่อมไปเกิดในพรหมโลก

    ที่มา : ตัดตอนมาจาก ปฏิปัตติวิภังค์ จากหนังสือ ธัมมานุธัมมปฏิบัติ โดย พระอาจารย์มั่น ภูริทัตตเถร จัดพิมพ์โดย ชมรมพุทธศาสน์ การไฟฟ้าแห่งประเทศไทย
    <!-- google_ad_section_end -->
    http://palungjit.org/threads/หลวงปู่มั่นวิสัจชนาความต่างระหว่าง-ความรัก-กับ-เมตตา.299421/
     

แชร์หน้านี้

Loading...