อานิสงค์ ในการถวายเงิน โดยเสด็จพระราชกุศล

ในห้อง 'บุญ-อานิสงส์การทำบุญ' ตั้งกระทู้โดย chaokhun, 11 มิถุนายน 2013.

  1. chaokhun

    chaokhun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    696
    ค่าพลัง:
    +5,701
    การถวายเงินแด่ในหลวงและพระราชินี พระเทพ ฟ้าชาย และพระบรมวงศานุวงศ์ จะมีอานิสงค์อย่างไรบ้าง แตกต่างหรือเหมือนกับการถวายปัจจัยให้กับพระภิกษุสงฆ์บ้าง
     
  2. pongio

    pongio เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤษภาคม 2013
    โพสต์:
    843
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +6,850
    หลวงพ่อพระราชพรหมยาน(หลวงพ่อฤาษีลิงดำ) เทศน์เรื่อง " โดยเสด็จพระราชกุศล "

    แล้วหันมาถาม ว่าฤาษี มีความสงสัยอะไรบ้าง เมื่อสองสามวันที่แล้วมาคิดอะไร ถามฉันก็ได้นะ ถ้าสงสัย ก็ตอบว่า มีความรู้สึกว่าอาจจะบอกบุญ ให้บรรดาญาติพุทธบริษัททั้งหลาย ที่ตั้งใจบำเพ็ญบารมี เข้มข้นใกล้นิพพานขึ้นมาให้มานิพพานเร็วๆ เพราะทุกคนตั้งใจดีบุญอย่างอื่นก็ทำกันหมด ขาดอยู่อย่างหนึ่งคือ โดยเสด็จพระราชกุศล แต่การโดยพระราชกุศลพระบรมราชินาถ ก็ไปปล่อยปลา ถ้าปล่อยปลา ถ้าปลา

    ที่ตั้งใจให้คนกินมันจะบาปไหม ท่านบอกว่าอย่าเพิ่งตัดสินใจตามนั้นซี มันอยู่เจตนาของคนปล่อย ถ้าผู้ปล่อยคิดว่า ปลาทั้งหมดนี่ เราต้องการให้คนจับไปกินเมื่อเราก็บาปตามเขา แต่ถ้าปล่อยไว้เพื่ออนุรักษ์ ของที่มีอยู่เคยมีอยู่แล้มันหมดไป อย่าปลานี่ เป็นเครื่องประดับน้ำ มันไม่มีความชุ่มชื่นใจ เราเห็นแต่น้ำใสมีความสดชื่นใจจริง ถ้ามีปลาว่ายมา เราจะรู้สึกว่ามันเป็นสุขมาก จิตใจเราจะสบายมากเพราะว่า ปลาเป็นเครื่องประดับน้ำ ถ้าผู้ปล่อยมีความรู้สึกว่า ๑ เรา เลี้ยงปลาให้ชีวิต นี่เราเป็นบุญ ประการที่ ๒ เวลาปล่อย ปล่อยต้องการให้ปลาเป็นอิสระภาพอยู่ในที่คับแคบย่อมไม่มีความสุข ถ้าอยู่ในที่กว้างจะมีความสุขมาก ถ้าเป็นอิสรภาพ หากินสบาย จะไปไหนมาไหนก็ไปได้ตามอัธยาศัย นี่เป็นบุญ การปล่อยปลาเขาถือว่าเป็นบุญมาก แต่ถ้าไปนึกว่าปลานี้จงเป็นเหยื่อของคนอย่างนี้บาป มันอยู่เจตนา เข้าใจว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวก็ดี พระบรมราชินาถ ไม่คิดว่าเป็นอาหารของคนต้องการเพียงว่า อนุรักษ์ให้ปลามันมีอยู่ในแม่น้ำ แม่น้ำสายนี้เคยมีปลา แต่เวลานี้ไม่มีปลา ก็ปล่อยปลาลงไป ให้ปลาเป็นอิสรภาพ ในเมื่อเราทำบุญกับท่าน ปลาทั้งหลายเป็นอิสรภาพจากนรกฉันนั้น คือไม่ลงนรก ประการที่ ๓ ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว กับสมเด็จพระบรมราชินาถสงเคราะห์คนทั่วประเทศ จะทรงมีความลำบากอย่างไรก็ตามทีเสด็จตามเสมอ ไปด้วยกันเสมอ ช่วยทุกอย่างให้คนทีอาชีพ คือช่วยอย่างถาวร

    ให้คนมีอาชีพดีขึ้น ไม่ใช่ให้กินให้หมด อย่างนี้ คนทุกคนที่ได้รับการช่วยเหลือมีความสุขขึ้น ก็มีภาพหลายภาพที่เขาแสดงทางโทรทัศน์ ว่าเมื่อก่อนนี้มีความยากเข็ญใจ ไม่มีอะไรจะกิน แต่เวลานี้ ได้อาศัยพระมหาการุณาธิคุณของท่าน กระทั้งมีกินมีใช้ มีรายได้ปีละเป็นหมื่นๆ บาท เงินหมื่นบาท แม้จะไม่มากแต่ก็มากสำหรับคนจน คนที่ไม่เคยมี

    รวมความว่า ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวก็ดี สมเด็จพระบรมราชินีนาถก็ดี ทำร่วมกับท่าน จะมีเงินมากหรือเงินน้อยก็ตามไม่สำคัญ หลายๆ คนรวมกัน ก็มากขึ้นเองจะเป็นเหตุให้มีบารมีใกล้พระนิพพานยิ่งขึ้น จะมีบารมีเต็มเร็วและสามารถจะไปนิพพานได้โดยง่ายตรงนี้สิบรรดาท่านพุทธบริษัท จับใจเหลือเกิน เพราะที่คนพูดนั้น ก็มองนิพพาน อยู่ใสแจ๋ว

    เพราะพระนิพพาน เป็นแดนสุข เทวดานางฟ้าและพรหมทั้งหมด ก็สนับสนุน ท่านสหัมบดีพรหมท่านเข้ามาใกล้ ท่านบอกว่าคุณลงไปบอกบุญเขาได้เลยนะ
    http://www.siammongkol.com/smf/index.php?topic=950.0#.UphnWhzztYc


    ผู้ถาม :- "ดิฉันมีลูกชายอยู่คนหนึ่ง ก็อยากจะให้บวช แต่เมื่อได้ฟังหลวงพ่อพูดถึงพระไปนรกกันเยอะ เลยคิดว่าไม่ต้องบวชก็ได้ เอาแค่เจริญพระกรรมฐานดีกว่า แต่อีกใจหนึ่งก็เสียดายที่ไม่ได้เป็นญาติของพระศาสนา"

    หลวงพ่อ :- "โอ้ย.....อย่า อย่า ถ้าไม่ได้บวช เป็นญาติของพระศาสนาง่ายกว่า ถ้าบวชเป็นญาติกับนรกง่าย

    คำว่า "บวช" บวชนี่มันหนัก พระพุทธเจ้าบอกว่า "บรรพชาเป็นของหนัก" พระโผล่ปุ๊บ เข้ามาแล้ว อันดับแรก ศีล สมาธิ ปัญญา เริ่มต้นเลย จะไปรออีก ๓ วันน่ะ มันไม่ได้ เขาเรียก ปูชนียบุคคล เป็นบุคคลที่ชาวบ้านต้องบูชาต้องกราบไหว้

    ไอ้ลูกเวลาไม่ได้บวช ก็ไหว้พ่อ ไหว้แม่ ไหว้ปู่ ย่า ตา ยาย ใช่ไหม... พอบวชวันนั้น พ่อ แม่ ปู่ ย่า ตา ยาย มาไหว้ทันที นี่มันจะตกนรกกันก็ตรงนี้และ ที่หนักกว่ากันก็ตรงนี้แหละ เห็นชัด ๆ พระพุทธเจ้าเรียก "สามัญผล" ฉะนั้นนักบวชสมัยนี้ลงนรกง่ายกว่าสมัยก่อน

    และอีกประการหนึ่ง พระนี่กินข้าวง่ายเมื่อไรล่ะ ต้องพิจารณาอาหาเรปฏิกูลสัญญาก่อน ไม่กินเพื่อติดในรส ติดในกลิ่น ติดในสี จะไม่กินเพื่อความอ้วนพี จะไม่กินเพื่อความผ่องใส จะกินเพื่อทรงชีวิตอยู่เท่านั้นเอง ต้องปฏิบัติตามนี้นะ"

    ผู้ถาม :- "ถ้าพระทำแบบนี้กันมาก ๆ ก็ตกนรกเยอะซิคะ..."

    หลวงพ่อ :- "พระนี่ลงนรก ๙๙% ท่านมีบุญมากกว่าฆราวาส โดยเฉพาะอย่างยิ่ง อาหาเรปฏิกูลสัญญา สมภารก็ไม่รู้ อุปัชฌาย์ก็ไม่รู้ ลูกศิษย์รู้มากก็ซวย ก็ลงด้วยกันทั้งนั้น
    พระพุทธเจ้าท่านตรัสไว้ว่า "ภิกษุผู้บริโภคอาหาร อันมีผู้ถวายด้วยความเลื่อมใส แล้วไม่พิจารณาเสียก่อน เมาในรสอาหารนั้น สู้กินก้อนเหล็กที่เขาเผาแดงจนลุกโชนเสียดีกว่า เพราะกินถึงปากปากพัง ถึงคอก็คอพัง ถึงท้องก็ท้องพัง มันร้อนก็ตาย พอตายแล้วก็เลิกร้อน ส่วนภิกษุที่ฉันอาหารโดยไม่พิจารณาเป็นอาหาเรปฏิกูลสัญญา ตายแล้วลงนรก มันร้อนนานแสนนานกว่า"

    การบวชนี่ไม่แน่นักว่าจะไปสวรรค์ ส่วนใหญ่ลงนรกหมด ดีไม่ดีชวนพ่อแม่ลงไปด้วย ถ้าปฏิบัติไม่ดีตามพระวินัย ครูบาอาจารย์ตักเตือนเข้าก็โกรธ ไปบอกพ่อแม่พี่น้อง ไม่ได้เอาเรื่องที่ถูกทำโทษไปบอก เอาแต่ความดีไปบอก พ่อแม่พี่น้องก็พากันโกรธว่าพระด่าพระ
    http://www.bloggang.com/viewblog.php?id=zeedhama&date=21-06-2013&group=33&gblog=7
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 พฤศจิกายน 2013

แชร์หน้านี้

Loading...