อาจารย์ชุม ไชยคีรี (พระรอด พิธีเสด็จกลับ น.6 , ขุนแผน น.7)

ในห้อง 'ร้องเรียนและปัญหา' ตั้งกระทู้โดย Supakiti, 16 สิงหาคม 2013.

  1. Supakiti

    Supakiti เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    5,926
    ค่าพลัง:
    +9,218
    [​IMG]


    ประวัติ อาจารย์ชุม ไชยคีรี

    เป็นศิษย์สำนักเขาอ้อสายตรง ท่านสนใจในวิชาไสยศาสตร์มาแต่เยาว์วัย เมื่ออายุได้เพียง 5 ขวบ ก็สามารถภาวนาคาถาแค่สองคำ สะกดงูพิษทุกชนิดไม่ให้อ้าปากขบกัดได้เป็นที่น่าอัศจรรย์ แม้สุนัขก็เช่นกัน อาจารย์ชุมได้เรียนวิชาอาคมจากพ่อของท่านตั้งแต่ยังเ ด็กๆ ท่านเรียนวิชาได้เร็ว ทำอะไรก็ขลัง มีความเชี่ยวชาญในวิชาอาคมจนได้รับความเชื่อถือจากชาวบ้าน เมื่ออายุได้ 7 ขวบ ก็เคยเอามือปิดปากกระบอกปืนของเพื่อนบิดาที่มาเยี่ยมบ้าน ท่องคาถาเพียง 11 ตัว ยังเป็นเหตุให้ปืนยาวเหล่านั้นถึงแตกระเบิดเมื่อนำไปยิง เกิดมาเพื่อ "เป็น" โดยแท้
    จนอายุครบบวชก็ได้ไปบวชที่วัดไชยมงคลกับพระอาจารย์คง อาจารย์ชุมหลังจากบวชแล้วก็ตั้งใจศึกษาพระธรรม จนต่อมาท่านได้ไปที่พัทลุง ท่านจึงไปขออยู่ร่วมสำนักเขาอ้อ ฝากตัวเป็นศิษย์อาจารย์เอียด วัดดอนศาลา โดยมีท่านขุนพันธรักษ์ราชเดช เป็นผู้รับรองความประพฤติ อาจารย์ชุมได้รวบรวมตำราเขาอ้อที่กระจัดกระจายไปอยู่ ยังที่ต่างๆ ในระหว่างบวชท่านได้รู้จักกับหลวงพ่อคง วัดบ้านสวนและมีความเคารพซึ่งกันและกัน ต่อมาอาจารย์ชุมบวชอยู่ 15 พรรษา ลาสิกขาบทเมื่ออายุ 35 ปี และได้แต่งงานมีครอบครัว แต่ก็ยังคงติดต่อกับหลวงพ่อคง วัดบ้านสวนอย่างสม่ำเสมอ อาจารย์ชุมมีความใฝ่รู้ในวิชาเวทมนต์คาถายิ่งนัก ครูบาอาจารย์ท่านใดในยุคเก่าก่อนที่ว่าเก่ง ท่านเป็นต้องไปขอเรียน ขอศึกษาเอาจนได้ และนำสรรพวิชาเหล่านั้นมาประยุกต์ใช้ได้เป็นอย่างดี

    โดยพื้นฐานของจริตนิสัยในแต่ละคน เมื่อจิตใจมีความเมตตาอยู่เป็นนิตย์ ก็มักทำของไปทางมหาเสน่ห์ได้ผลกว่าวิชาอื่นๆ หากจิตใจออกไปทางนักเลง กล้าสู้ กล้าลุย ของที่ทำออกมาจะหนักไปทางคงกระพันชาตรีเป็นส่วนมาก เรียกว่าถนัดอะไรก็เก่งไปอย่างหนึ่ง แต่ไม่ใช่อาจารย์ชุม
    ฆราวาสผู้แตกฉานท่านนี้ เมื่อต้องการให้เป็นทางคงกระพัน ท่านก็สามารถกำหนดจิตได้ทันที ขนาดทดสอบเชือดเนื้อ เถือหนัง พิสูจน์กันเห็นๆ ครั้นจะแสดงทางมหาอุด ก็สั่งศิษย์ลงนั่ง ให้ผู้มีอาวุธปืนทุกชนิด ทดลองยิงข้ามศีรษะได้เลยไม่ออกสักกระบอกเดียว
    เมื่อจะแสดงวิชามหานิยม ก็เสกน้ำมันงา ทาหนูกับแมว แล้วปล่อยเข้ากรงเดียวกัน ถ้าเป็นลูกหนูกับแม่แมว ลูกหนูทั้งหมดก็จะคลานเข้าไปดูดกินนมแม่แมว หน้าตาเฉย และแม่แมวก็ยอมนอนให้กินแต่โดยดี จะทำกี่ตัวกี่ครั้งก็มีผลเช่นเดียวกันหมด เป็นสุดยอดของมหานิยมจริงๆ
    พิสูจน์ได้ทุกเวลาทุกสถานที่นี้เอง เป็นเหตุให้อาจารย์ชุมปรากฏชื่อลือชาไปทั่ว ได้รับเชิญไปงานพุทธาภิเษกและสาธิตวิชาต่างๆ ไม่ว่างเว้น แลท่านก็สามารถแสดงจิตตานุภาพให้เป็นที่ตื่นตะลึงมาแล้วหลายต่อหลายพิธี ท่านได้มีส่วนร่วมในการสร้างวัตถุมงคลของเขาอ้อหลายครั้ง และได้รับการยกย่องว่าเป็นฆราวาสผู้มีอาคมขลังมากผู้หนึ่ง ในบั้นปลายชีวิตของท่าน ท่านย้ายครอบครัวมาอยู่กรุงเทพ และอยู่มาจนเสียชีวิตเมื่อปี พ.ศ. 2525

    บรรพบุรุษของอาจารย์ชุมสืบสาวราวเรื่องเริ่มต้นได้จาก "ขุนไชย์คีรี" ต้นสกุล "ไชยคีรี" ซึ่งเคยเป็นนายกองคนสำคัญของพระยาทุกขราษฎร์ (ช่วย) ในยุคที่พระยาแก้วโกรพพิชัยเป็นเจ้าเมืองพัทลุง มีส่วนสำคัญในการนำทัพออกไปต้านข้าศึกร่วมกับพระยาทุกขราษฎร์ (ช่วย)ในสมัยที่ท่านยัง พระมหาช่วย เจ้าอาวาสวัดป่าเลไลย์ และตอนนั้นขุน ไชยคีรี ก๊มีฐานะเป็นนายบ้านในหมู่บ้านแห่งหนึ่งในละแวกอำเภอชัยสน

    ขุนไชยคีรีผู้นี้เคยมาศึกษาเล่าเรียนอยู่ในสำนักเขาอ้อหลายปี สมัยที่ท่านปรมาจารย์จอมทองเป็นเจ้าสำนัก ได้วิชาความรู้จากสำนักเขาอ้อไปมาก ภายหลังได้ออกไปมีครอบครัว และได้รับยกย่องให้เป็นผู้นำชุมชนในตำแหน่งนายบ้านที่เขาชัยสน เมื่อเกิดสงครามพม่ารุกราน ก็ได้เข้าไปช่วยพระมหาช่วย จนได้รับชัยชนะและภายหลังได้รับปูนบำเน็จ บรรดาศักดิ์เป็นขุนในราชทินนาม "ขุนไชยคีรี" ในขณะที่พระมหาช่วยเกิดความละอายแก่ตัวเองที่คิดว่าแปดเปื้อนในการศึกสงคราม ตัดสินใจลาสิกขา ทางบ้านเมืองตอบแทนคุณงามความดีของท่านโดยแต่งตั้งให้เป็นผู้ช่วยราชการเมืองพัทลุง และได้รับพระกรุณาโปรดฯ พระราชทานบรรดาศักดิ์เป็น "พระยา" มีราชทินนามว่า "พระยาทุกขราษฎร์" ซึ่งปัจจุบันชาวเมืองพัทลุง พร้อมใจกัน ยกย่องให้เป็นวีรบุรุษประจำเมือง

    ขุนไชยคีรีมีบุตรธิดาหลายคน แต่ละคนล้วนได้รับวิชาไสยเวทย์ให้สืบทอดต่อ บางคนก็ได้เดินทางมาเรียนเพิ่มเติมที่สำนักเขาอ้อหนึ่งในนั้นคือ "หมื่นสิริพันธ์พิรุณ" หมื่นสิริพันธ์พิรุณได้รับถ่ายทอดวิชาไสยเวทมาจากขุนไชยคีรี และต่อมาได้เข้ามาเรียนต่อที่สำนักเขาอ้อจนเชี่ยวชาญ
    กลับไปอยู่บ้านเขาชัยสน ได้รับยกย่องจากชาวบ้านให้เป็นนายบ้านสืบต่อจากขุนไชยคีรีผู้เป็นบิดา ขณะที่นายบ้านหมื่นสิริพันธ์พิรุณก็ได้สืบทอดเจตนารม ณ์ของบิดาและอาจารย์แห่งสำนักเขาอ้อ โดยได้เข้าร่วมทัพต้านศึกทั้งพม่าและสลัดมลายู ไม่แน่ใจว่าในคราวพระยาพัทลุง (ทองขาว ณ พัทลุง) หรือว่าในคราวพระยาพัทลุง (จุ้ย จันทโรจนวงศ์)เป็นเจ้าเมืองพัทลุง แต่ได้มีวีรกรรมในการร่วมปกป้องบ้านเมืองแน่นอน จึงมีความดีความชอบได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์เป็นหมื่น มีราชทินนามว่า "หมื่นสิริพันธ์พิรุณ"

    หมื่นสิริพันธ์พิรุณ มีบุตรธิดาหลายคนทุกคนล้วยได้รับถ่ายทอดวิชาไสยเวทย์ บางคนต่อมาได้มาเรียนที่สำนักเขาอ้อจนเชี่ยวชาญเหมือนบรรพบุรุษ หนึ่งในจำนวนนั้นคือบิดาของอาจารย์ชุม ซึ่งเป็นที่น่าเสียดายอย่างยิ่งที่ไม่ทราบนาม พยายามสืบถามหาจากหลายคนก็ไม่มีใครทราบ แม้กระทั่งทายาทของอาจารย์ชุมเอง เพราะท่านผู้นี้เสียชีวิตไปนานแล้ว

    บิดาของอาจารย์ชุมได้ชื่อว่าเป็นอาจารย์ไสยเวทย์ผู้ที่มีความเข้มขลังผู้หนึ่ง เรียกได้ว่าสมัยนั้ยละแวกเขาชัยสน ไม่มีใครโด่งดังไปกว่าท่านผู้นี้ ท่านได้จัดตั้งเป็นสำนักเล็กๆ เพื่อถ่ายทอดวิชาให้กับผู้ที่สนใจ มีคนไปเรียนกันพอสมควร ลูกๆโดยเฉพาะลูกชายจึงได้รับอิทธิพลในเรื่องนี้ไปด้วย ตัวอาจารย์ชุมเองก็เป็นหนึ่งในนั้น

    บิดาของท่านอาจารย์ชุม เป็นอาจารย์ไสยเวทย์ที่มีชื่อเสียงมากสมัยนั้น มีพรรคพวกที่สนใจทางนี้อยู่มาก หนึ่งบรรดามิตรสหายของท่านก็คือ ท่านอาจารย์คง พระครูธรรมโฆษณ์เจ้าอาวาสวัดไชยมงคล จังหวัดสงขลา ซึ่งท่านผู้นี้ก็มีความรู้ในทางไสยเวทย์เป็นอย่างดี และเก่งในทางโหราศาสตร์เป็นพิเศษ มีอยู่ครั้งท่านเดินทางมาอำเภอเขาชัยสน ขณะที่วัดเขาชัยสนกำลังมีการประชุมกำนันนายบ้านและในวันนั้นเอง อาจารย์ชุมก็ได้ถือกำเนิดขึ้น ซึ่งตอนนั้นบิดาของท่านอาจารย์ชุมกำลังร่วมประชุมอยู่ พระอาจารย์คงจึงบอกว่าเด็กคนนี้มีบุญเกิดในขณะที่คนสำคัญกำลังประชุมกันพอดีให้ชื่อมันว่า"ชุม"ก็แล้วกัน

    [​IMG]

    ทารกคนนั้นจึงได้นามว่า "ชุม" ตั้งแต่บัดนั้นและพร้อมกันนั้นพระอาจารย์คง ก็ได้นพดวงชะตาทารกชุมมาตรวจดูพบว่า เด็กคนนี้มีบุญวาสนาสูงมาก ต่อไปภายหน้าจะมีชื่อเสียงจะเป็นที่เคารพนับถือของคนทั่วไป พระอาจารย์คงจึงสั่งว่าเมื่อเขามีอายุครบบวชก็ขอให้ไปบวชที่วัดของท่าน

    อาจารย์ชุมเองมีความสนใจเรื่องไสยศาสตร์เป็นนิสัย ทราบว่าพอฝึกเรียนเขียนได้อ่านออกก็ได้อยู่ใกล้ชิดบิดามาก จึงเห็นการประกอบพิธีกรรมต่างๆ และบิดาของท่านก็เริ่มสอนคาถาสอนอาคมให้ตั้งแต่ยังเล็กๆ ผู้ใหญ่ที่อยู่ในวงการไสยศาสตร์ที่รู้จักอาจารย์ชุมดี พูดกันว่าอาจารย์ชุมมีพรสวรรค์ในเรื่องนี้ เรียกว่าเรียนอะไรก็จำดี ทำอะไรก็ขึ้นเอาดีทางไสยเวทย์ได้อย่างน่าอัศจรรย์ ถึงแม้ว่าอาจารย์ชุมได้เรียนไสยเวทย์ขั้นพื้นฐษนกับบิดา แต่ท่านค่อนข้างที่จะเป็นคนรักการศึกษา เคารพในเหตุผลไม่เชื่ออะไรง่ายๆ แม้ในวัยเด็กบิดาของท่านได้สอนคาถาให้เพียงไม่กี่บท ซึ่งคาถาบทแรกที่สอนให้คือคาถาป้องกันพิษงู เพราะสมัยนั้นบ้านนอกมีสัตว์พวกนี้มาก ในวัยซนมักได้รับอันตรายจากสัตว์พวกนี้ บิดาอาจารย์ชุมจึงสอนคาถาให้ลูกชายไว้ป้องกันตัว อาจารย์ชุมเมื่อได้เรียนคาถานั้นแล้วก็อยากทดลองว่าเป็นอย่างที่พ่อพูดหรืแปล่า จึงไปจับงูกะปะมาตัวหนึ่งแล้วร่ายคาถาปรากฎว่างูกะปะทำอะไรไม่ได้จริง และต่อมาเมื่อท่านอายุได้ 7 ขวบบิดาก็ให้ท่องคาถากระสุนคดหรือที่รู้กันอีกนามว่ากรุสุนตก บิดาสอนให้แล้วก็สั่งห้ามไม่ให้แตะปืนของใคร เพราะอาจทำให้ปืนของเขาแตก เด็กชายชุมก็ไม่เชื่อเมื่อผู้ใหญ่เผลอ ก็ลองท่องแล้วเอามือไปลูบปืนของบิดาเพื่อนคนหนึ่งปรากฏเมื่อถึงเวลาใช้ปืนกระบอกแตกกระสุนตกแค่ปลายกระบอกเองเมื่อได้สัมผัสเหตุมหัศจรรย์เหล่านั้น


    อาจารย์ชุมเลยเกิดความเชื่อถือในวิชาไสยศาสตร์ตั้งแต่บัดนั้น ซึ่งตอนนั้นอายุยังไม่ถึง 10 ขวบภายหลังจากนั้นก็ตั้งใจเรียนเต็มที่ บิดาก็ถ่ายทอดให้อย่างไม่ปิดบัง เพียงอายุไม่มากนักอาจารย์ชุมก็มีความเชี่ยวชาญในเรื่องคาถาอาคมได้รับการนับถื อจากชาวบ้านตั้งแต่ยังหนุ่มถูกยกให้เป็นอาจารย์ตั้งแต่อายุยังไม่มากนัก

    เมื่อมีอายุครบอุปสมบทอาจารย์ชุมก็ได้ปฏิบัติตามสัญญา ที่ให้ไว้กับพระอาจารย์คงวัดไชยมงคลจังหวัดสงขลา จึงได้ไปอุปสมบทที่วัดนั้น ภายหลังจากอุปสมบทแล้ว อาจารย์เกิดชื่นชอบในชีวิตบรรพชิตขึ้นมา จึงไม่ได้ลาสิกขาตามที่ได้กำหนดไว้กล่าวคือแต่เดิมนั้นตั้งใจจะบวชเพียงพรรษาเดียว แต่ต่อมาเกิดเปลี่ยนใจอยู่ครองเพศบรรพชิตต่อไปโดยไม่มีกำหนดเมื่อุปสมบทเป็นพระแล้ว พระอาจารย์ชุมก็ได้รับความนับถือจากชาวบ้านเป็นอย่างมาก ทั้งนี้เพราะก่อนที่ท่านจะบวชก็มีคนเคารพนับถืออยู่มากแล้ว ในฐานะที่เป็นอาจารย์ทางไสยเวท เมื่อมาบวชเป็นพระจึงมาคนนับถือมากขึ้น



    [ame="http://www.youtube.com/watch?v=54OT0QikXVs"]http://www.youtube.com/watch?v=54OT0QikXVs[/ame]

    คลิปจาก Utube ครับ

    [​IMG] [​IMG] [​IMG] [​IMG] [​IMG] [​IMG] [​IMG] [​IMG]


    ภาพพระบูชา และวัตถุมงคลต่างๆที่บ้านอาจารย์ชุม ไชยคีรี


    [​IMG] [​IMG] [​IMG] [​IMG] [​IMG] [​IMG] [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 กันยายน 2013
  2. Supakiti

    Supakiti เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    5,926
    ค่าพลัง:
    +9,218
    ทุกรายการ รับประกันแท้ตลอดชีวิต ครับ



    รายการที่ 1

    หัวประคำ อาจารย์ชุม ไชยคีรี เป็นรูปเหมือนหลวงปู่คง ปรมาจารย์ขุนแผน พิธีเสด็จกลับ วัดสารอด กทม. ปี 2506 ( องค์นี้เจ้าของเดิมแกะออกมาจากสายประคำครับ )

    สร้างจากว่านยา , ดอกไม้ , เกษรดอกไม้ รวม 2,000 กว่าชนิด และน้ำพระพุทธมนต์จากสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ทั่วประเทศ และผงเก่าที่เหลือจากการสร้างพระเมื่อปี 2496 เนื้อเดียวกันกับพระยอดขุนพลครับ

    ดีทาง คล้วคลาด คงกระพัน กันอาวุธ กำบังตาศัตรู เมตตามหาเสน่ห์

    บูชา 900 บาท ค่าจัดส่งครั้งละ 50 บาท


    [​IMG] [​IMG] [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 กันยายน 2013
  3. Supakiti

    Supakiti เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    5,926
    ค่าพลัง:
    +9,218
    รายการที่ 2

    พระสิวลีขนาดบูชา อาจารย์ชุม ไชยคีรี เนื้อโลหะ สูง 9 นิ้ว ฐานดินไทย ปี 2497 หายากสุดๆครับ

    สุดยอดพิธี ณ วัดพระบรมธาตุ นครศรีธรรมราช เมื่อปี 2497 พระคณาจารย์ 108 รูป เข้าร่วมพิธี อาทิ พระอาจารย์นำ, หลวงพ่อท่านคล้าย, หลวงพ่อโอภาสี, หลวงพ่อทองศุข วัดโตนดหลวง, หลวงพ่อแดง วัดเขาบันไดอิฐ, หลวงพ่อเต๋ คงทอง วัดสามง่าม, หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม, พล.ต.ต.ขุนพันธรักษ์ราชเดชฯ การปลุกเสกแบ่งออกเป็นช่วง ช่วงละ 7 วัน อาทิ ด้านคงกระพันชาตรี 7 วัน มหาอุตม์ 7 วัน ป้องกันสัตว์ร้ายและโจรร้าย 7 วัน ป้องกันโรคภัยไข้เจ็บและภูตผีปีศาจ 7 วัน เมตตามหานิยม 7 วัน

    พระบูชาสิวลีของท่านอาจารย์ชุมนับเป็นหนึ่งในสุดยอดวัตถุมงคลที่หายากที่สุดอีกชนิดในของชุดปี 2497 โดยแจกให้กับลูกศิษย์คนสำคัญและคหบดีผู้ร่วมอุปถัมภ์เช่นเดียวกับเหรียญพระสิวลีครับ

    บูชา 19,500 บาท ค่าจัดส่ง 100 บาท

    [​IMG] [​IMG] [​IMG] [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 สิงหาคม 2013
  4. Supakiti

    Supakiti เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    5,926
    ค่าพลัง:
    +9,218
    รายการที่ 4


    พระผงเทพนิมิตร หลังยันต์ห้า อาจารย์ชุม ไชยคีรี ปี 2496


    ประวัติพระผงเทพนิมิตร อาจารย์ชุม ไชยคีรี ปี 2496

    ครั้งหนึ่งเคยมีคนสอบถามท่านอาจารย์ชุมว่า พระรุ่นไหนดีที่สุด? ท่านกล่าว ว่า พระเทพนิมิตร โดยให้เหตุผลว่าอัศจรรย์ตั้งแต่ก่อนสร้าง ระหว่างสร้าง และเมื่อสร้างเสร็จแล้ว ขนาดว่าตายแล้วเกิดอีกๆๆๆยังไม่แน่ว่าจะทำได้แบบ ครั้งนั้น จึงเป็นเหตุให้ศิษย์สายตรงต่างก็จะต้องมีพระรุ่นนี้ติดตัว หรือมีไว้ในครอบครองอย่างน้อยสักองค์หนึ่ง
    เหตุ ที่ให้ชื่อว่าเทพนิมิตร เพราะได้ตำราจากความฝัน ว่ามีอาจารย์ผู้เฒ่ารูปหนึ่งมาบอกว่า ต่อไปเมื่อหน้าความสุขความสบายจะไม่มีแก่มนุษย์ผู้ไร้ศีลธรรม จะประสพภัย อันเกิดจากศาสตราอาวุธนาๆชนิดซึ่งไม่เคยพบเห็น ภัยจากโจรผู้ร้ายที่มีใจดำ อำมหิตเยี่ยงสัตว์ป่า และภัยจากภูผีปีศาจ เพื่อให้พ้นจากภัยนี้ท่านบอกว่าให้หาดอกไม้ที่พระสงฆ์เถรานุเถระทำวัตรขอขมา โทษซึ่งกันและกันก่อนเข้าพรรษา และดอกไม้หน้าพระประธานวันเข้าพรรษาวันเดียวให้ได้ 108 วัด กับให้เอาตะไคร่พระเจดีย์ที่บรรจุพระบรมธาตุ ตะไคร่พระศรีมหาโพธิ์ มาทำเป็นรูปพระเข้าพิธีปลุกเสกแล้วแจกให้ทั่วถึงกัน พร้อมด้วยการขอร้องผู้ที่มาขอรับพระ ให้ละบาป บำเพ็ญบุญ มั่นอยู่ในศีลธรรมคำสั่งสอนของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า คุณพระจะรักษาให้พ้นภัยทั้งปวงดังกล่าวแล้ว
    ข้าพเจ้า (อ.ชุม) ตื่นขึ้นรู้สึกปลื้มใจ จึงประกาศให้บรรดาศิษย์ทั่วทุกจังหวัดช่วยกันจัดหา โดยกำหนดเอาดอกไม้บูชาพระจากพระอารามหลวง และอารามราษฎรที่ศักดิ์สิทธิ์ทั่วประเทศไทย อาศัยความพร้อมเพรียงของศิษย์ทั้งหลายจึงจัดหามาได้ตามปรารถนา ซ้ำยังได้ผงของอาจารย์ต่างๆ หลายสำนัก เช่น ผงวิเศษของอาจารย์คง อาจารย์ของขุนแผน ซึ่งมีศิษย์นำมามอบให้พร้อมด้วยประวัติ ปรากฎว่าผง ศักดิ์สิทธิ์นี้ ขุดพบจากโคกโบสถ์เก่าใต้ฐานพระเจดีย์ ณ บ้านศรีประจันต์ ตำบลศรีประจันต์ จังหวัดสุพรรณบุรี
    ด้วย ความร่วมมือร่วมใจของบรรดาศิษย์หลายร้อยคน พร้อมด้วยการเสียสละทั้งกำลังทรัพย์และกำลังกาย จึงได้สิ่งที่ต้องการมาครบ ตามปรารถนา ข้าพเจ้าจึงเข้าพิธีทำและปลุกเสกตลอด 3 เดือน พร้อมด้วยการทดลองคุณภาพ เห็นเป็นที่ไว้วางใจได้ และเริ่มแจกแก่บรรดาศิษยืที่เข้าพิธียกครูประจำปี 2496 แล้วเก็บไว้แจกผู้ที่สมัครเข้าเป็นศิษย์ใหม่เพื่อเป็นที่ระลึก พร้อมด้วยการขอร้องให้ละบาปบำเพ็ญบุญ ประพฤติตนเป็นพลเมืองดีของชาติ

    อาจารย์ชุมท่านว่าดีทางกันศาสตราวุธทุกชนิด ตลอดถึงกันโจรและสัตว์ร้าย หนักไปทางเมตตามหานิยม มหาเสน่ห์ ใช้ได้ทั้งหญิงชายเด็กผู้ใหญ่ พระรุ่นนี้ลูกศิษย์อาจารย์ชุมจึงนิยมบูชาติดตัวกันมากครับ
    พระเทพนิมิตร อาจารย์ชุม ไชยคีรี สร้างและปลุกเสกเมื่อปี 2496 มีพระ 6 พิมพ์ด้วยกัน

    1. พระนาคปรกเทพนิมิตร หลังยันต์ห้า (แทนตัวอ.ชุม ซึ่งเกิดวันเสาร์) สำหรับแจกผู้ชาย
    2. พระกลีบบัวเทพนิมิตร หรือเทพนิมิตรพิมพ์เล็ก (แทนตัวคุณแม่บุญสืบ ภรรยา อ.ชุม ซึ่งเกิดวันพฤหัสบดี) สำหรับแจกผู้หญิง
    3. พระสาม (พิมพ์พระลำพูน)
    4. พระโคนสมอ (พิมพ์พระอยุธยา)
    5. พระขุนแผนทรงพล (พิมพ์พระสุพรรณ)
    6. พระขุนแผนเทพนิมิตร พิมพ์ฐานบัว

    สองพิมพ์แรกจะเป็นพระพิมพ์ที่จัดสร้างและแจกจำหน่ายออกไปมาก จนคนรู้จักเล่นหากันจนเป็นมาตรฐานดีแล้ว แต่นอกจากนี้ยังมีพระพิมพ์พิเศษ ที่หาชมได้ยากอีกหลายๆพิมพ์ ซึ่งปัจจุบันเป็นที่หวงแหนของลูกศิษย์ลูกหาที่เก็บกันไว้ พระ พิมพ์พิเศษ โดยมากจะเป็นพิมพ์ที่ทำตามอย่างพระกรุโบราณ หรือพระเกจิรุ่นเก่าๆ มีทั้งแบบหลังปั๊มยันต์ห้าและหลังเรียบ เนื้อหาของพระพระเป็นแบบเดียวกับ พระนาคปรกเทพนิมิตรทุกประการ มีทั้งสีดำและแดง ขึ้นอยู่กับอุณหภูมิที่เผา

    องค์นี้ออกสีแดงหม้อดิน หายากครับ


    บูชา 2,800 บาท ค่าจัดส่งครั้งละ 50 บาท

    [​IMG]
    [​IMG] [​IMG] [​IMG] [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 กันยายน 2013
  5. Supakiti

    Supakiti เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    5,926
    ค่าพลัง:
    +9,218
    รายการที่ 5

    พระปิดตานอโม เนื้อว่านสบู่เลือด ปี 2511 ปิดทองมาแต่เดิม


    เมื่อปี พ.ศ. 2511 สมัยที่คอมมิวนิสต์รุกรานประเทศในแถบอินโดจีน ประเทศไทยในหลายจังหวัดได้รับความเดือดร้อนมาก เจ้าหน้าที่บ้านเมืองต้องบาดเจ็บล้มตายไปไม่น้อยเพราะการซุ่มโจมตีของ ผกค. (ผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์)

    ในปีนั้นเอง หลวงพ่อคง วัดบ้านสวน จ.พัทลุง ได้จัดสร้างพระปิดตาขึ้นมาชุดหนึ่ง มีจุดประสงคที่จะแจกเป็นขวัญและกำลังใจกับเจ้าหน้าที่บ้านเมือง

    หลวงพ่อคงได้นำผงวิเศษ 108 กรุ ว่าน 200 ชนิด น้ำพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์ทั่วประเทศและพระเนื้อดินชำรุดของกรุทางภาคใต้และที่อื่นๆที่ท่านรวบรวมมาได้เป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะผงวิเศษของท่านอาจารย์ทองเฒ่า วัดเขาอ้อที่มอบให้ไว้

    หลวงพ่อคงได้นำมวลสารที่ว่านี้ มาสร้างพระปิดตา นอโม เสร็จแล้วได้จัดพิธีปลุกเสกที่ใหญ่มาก โดยจัดทำพิธีพุทธาภิเษกขึ้นที่ ถ้ำ จปร. เป็นเวลา 7 วัน 7 คืน ติดต่อกัน

    พิธีพุทธาภิเษกในครั้งนี้ ถือเป็น การชุมนุมศิษย์สำนักเขาอ้อที่สำคัญอีกครั้งหนึ่ง เพราะเกจิอาจารย์ที่นิมนต์มาในครั้งนี้ ล้วนเป็นศิษย์ชั้นแนวหน้าที่คนทั่วไปยอมรับว่า เป็นสุดยอดพระเกจิอาจารย์แห่งภาคใต้ ในยุคกึ่งพุทธกาลทั้งสิ้น

    อาทิเช่น. พระอาจารย์นำ ชินวโร วัดดอนศาลา / พระครูพิพัฒน์สิริธร (หลวงพ่อคง) วัดบ้านสวน / พระอาจารย์ปาน วัดเขาอ้อ / หลวงพ่อหมุน วัดเขาแดงตะวันออก / พระครูปลัดพวง วัดประสาทนิกร หลังสวน จ.ชุมพร / พ่อท่านคล้อย วัดถ้ำเขาเงิน หลังสวน จ.ชุมพร และ อาจารย์ชุม ไชยคีรี

    หลังจากนั้น ได้นำไปจ่ายแจกแก่ ตำรวจ ทหาร อาสาสมัครและผู้ที่ทำหน้าที่ปกป้องอธิปไตยของชาติ

    เรื่องพุทธคุณของพระปิดตานอโมนี้....เรียกว่า หายห่วงไม่มีอะไรจะมาเปรียบเทียบ เจ้าหน้าที่และทหารที่ได้รับแจก ล้วนได้รับประสบการณ์มาหลายอย่างในเรื่องความปลอดภัยของชีวิตและร่างกาย สามารถเดินผ่านกับระเบิดได้โดยที่ระเบิดไม่ทำงาน หรือถูกแทง ถูกยิง เมื่อมีการปะทะกับผกค.โดยไม่เป็นอะไรบ้าง อีกทั้งยังแคล้วคลาดจากการลอบซุ่มโจมตีจากอาวุธนานาชนิด

    พระปิดตานอโม เป็นพระปิดตาที่สามารถแขวนเดี่ยว เพื่อ หวังพึ่งพุทธคุณได้แบบสบายใจครับ

    บูชา 800 บาท ค่าจัดส่งครั้งละ 50 บาท

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 กันยายน 2013
  6. Supakiti

    Supakiti เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    5,926
    ค่าพลัง:
    +9,218
    รายการที่ 6

    พระขุนแผนออกศึก อาจารย์ชุม ไชยคีรี ปี2513

    พระผงคงไชยชุม ปี 2513 มีด้วยกัน 3 พิมพ์ คือ พิมพ์ขุนแผนออกศึก, พิมพ์หน้า อ.คง หลัง อ.ทองเฒ่า และพิมพ์เทพนิมิต มวลสารประกอบด้วย ผงว่านยา อาทิ ว่านจำพวกเมตตามหานิยมและมหาลาภ ว่าน จำพวกการสิทธิ์เทวดารักษา ฯลฯ และผงพระกรุ 108 กรุทั่วประเทศ อาทิ ผงพระขุนแผนกรุวัดบ้านกร่าง , พระเนื้อดินกรุวัดมหาธาตุ , ผงพระกรุวัดนางพญา , ผงพระรอดมหาวัน ฯลฯ สำหรับน้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์ที่นำมาผสมว่านยาและมวลสารนั้น นำมาจากสถานที่ศักดิ์สิทธิ์หลายสถานที่ อาทิ น้ำพระพุทธมนต์ในพระราชวังหลวง 170 ปี , น้ำพระพุทธมนต์ทำสังคายนา 25 พุทธศตวรรษ โดยพระเถระทั่วโลก 2,500 รูป ประเทศพม่า, น้ำพระพุทธมนต์ 100 ปี วัดบวรนิเวศวิหาร , น้ำพระพุทธมนต์ 25 พุทธศตวรรษท้องสนามหลวง , น้ำพระพุทธมนต์วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร จังหวัดนครศรีธรรมราช , วัดพระปฐมเจดีย์ จังหวัดนครปฐม , วัดพระธาตุพนม จังหวัดนครพนม , วัดพระธาตุดอยสุเทพ จังหวัดเชียงใหม่ ,น้ำพระพุทธมนต์ในพระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม , น้ำในสระศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ ทั่วประเทศ มีสระแก้ว , สระคง , สระยมนา , สระเกตุ , สระจันทร์ , สระพังเงิน สระพังทอง, สระศักดิ์สิทธิ์จังหวัดเพชรบุรี ,น้ำมนต์หลวงพ่อเลื่อน วัดสามแก้ว จังหวัดชุมพร , พ่อท่านคล้าย วัดสวนขัน จังหวัดนครศรีธรรมราช , น้ำมนต์หลวงพ่อทวด วัดช้างให้ จังหวัดปัตตานี ,น้ำในมหานที 9 สาย , น้ำในแม่น้ำ 108 บาง ทั่วประเทศ

    สำหรับมวลสารทั้งหมดที่นำมาผสมนั้นเป็นมวลสารที่พระอาจารย์คง กับอาจารย์ชุมไชยคีรี ได้สะสมและทำพิธีปลุกเสกเรื่อยมามาตั้งแต่สมัยสงครามโลก นอกจากนี้ยังมีผงว่านยา 500 กว่าชนิด ผงยันต์วิเศษ เช่น ผงยันต์อิทธิเจ ผงยันต์ตรีนิสิงเห ผงยันต์นะปถมัง ผงยันต์นอโมพระอินทร์ โดยพระอาจารย์ไชย ปสญณจิตฺโต ผู้เชี่ยวชาญในเลขยันต์อักขระพิธีตามตำรา ได้ทำพิธีชักยันต์มาเป็นเวลา 3 เดือนเต็ม คณะศิษย์จึงถวายพระนามพระผงครั้งนี้ไว้เป็นอนุสรณ์มงคล นามว่า พระผงวิเศษ คงไชยชุม เพราะอาจารย์ทั้งสามร่วมกันทำด้วยความบริสุทธิ์ใจ เพื่อแจกให้แก่ผู้ร่วมการกุศลในการสร้างพระอุโบสถวัดบ้านสวน

    เริ่มทำพิธี ผสมผงโดยพระอาจารย์คง พระอาจารย์ของขุนแผนและขุนแผนเข้าประทับทรง กดพิมพ์พระโดยพระอาจารย์ทั้ง 3 ท่าน เมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2513 ได้อุดมฤกษ์พิมพ์พระผงคงไชยชุม มีประชาชนตลอดจนอาจารย์พราหมณ์นับร้อยมาประชุมในโรงพิธี ณ พระอุโบสถวัดบ้านสวน อ.ควนขนุน จ.พัทลุง ลงมือกดพิมพ์พระเวลาประมาณ 10.00 น. หลังจากพิมพ์พระได้ 20 กว่าองค์ ขุนแผนได้เข้าประทับทรงเด็กชายคนหนึ่ง สั่งให้เอาพระที่พิมพ์แล้วไปลองยิงให้ท่านดู ปรากฏว่าได้มีนายพุ่ม เสมาทอง กำนันตำบลมะกอกเหนือ รับเอาพระที่ยังเปียกอยู่องค์หนึ่งไปติดที่ต้นมะพร้าวหลังพระอุโบสถ แล้วให้นายเนื่อง เพชรสุวรรณ ยิงด้วยปืนรีวอลเวอร์ขนาด .32 มม. ต่อหน้าประชาชนที่มามุงดูกันอย่างแน่นขนัด ปรากฎว่ายิง 3 นัด กระสุนไม่ระเบิดแม้แต่นัดเดียว จากนั้นจึงได้นำพระที่กดพิมพ์เรียบร้อยแล้วทั้งหมดเข้าพิธีพุทธาภิเษก ในวันศุกร์ที่ 1 ถึงวันเสาร์ที่ 9 พฤษภาคม 2513 รวม 9 วัน

    วัตถุมงคลชุดนี้จึงเปี่ยมไปด้วยพุทธคุณคงกระพัน แคล้วคลาด เมตตา มหาอุตม์

    *** ปิดรายการ ***


    [​IMG] [​IMG] [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 ตุลาคม 2013
  7. Supakiti

    Supakiti เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    5,926
    ค่าพลัง:
    +9,218
    รายการที่ 8

    ขุนแผนออกศึก ( องค์ที่ 2 ) อาจารย์ชุม ไชยคีรี ปี 2513

    พุทธคุณคงกระพัน แคล้วคลาด เมตตา มหาอุตม์


    *** ปิดรายการ ***

    [​IMG] [​IMG] [​IMG] [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 ตุลาคม 2013
  8. Supakiti

    Supakiti เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    5,926
    ค่าพลัง:
    +9,218
    รายการที่ 12

    ไม้เท้ากายสิทธิ์ ( ไม้ครู ) อาจารย์ชุม ไชยคีรี เนื้อไม้มะค่าตายพราย ขนาดยาว 12 นิ้ว

    ไม้มงคลนามที่เอามาทำไม้เท้ากายสิทธิ์ เช่นไม้มะค่าตายพราย ไม้มะค่าฟ้าผ่า ไม้ประดู่ทรงธรรม ไม้ราชพฤกษ์ ไม้ชัยพฤกษ์ ไม้มหาพรหม ไม้กรรมจัด ไม้กรรมจาย

    1. ผงเลขยันต์และดวงยันต์ ที่บรรจุในหัวไม้กายสิทธิ์ เป็นไปในทางอิทธิฤทธิ์ทางมหาอำนาจ ปราบศัตรู ทำให้ศัตรูเกรงกลัว ไม่คิดต่อสู้ ฆ่าศัตรูให้ตาย โดยไม่ต้องใช้อาวุธด้วย การอธิษฐานระลึกถึงพระแม่ธรณี ให้มาช่วยกำจัดอริราชศัตรู ที่เข้ามาเบียดเบียนมนษย์เบียดเบียนพระศาสนา หรือองค์พระมหากษัตริย์ หากว่าศัตรูผู้รุกรานล่วงล้ำเขตแดนเข้ามาขอให้พ่ายแพ้ ให้เจ็บ ให้ตาย หรือมีอันเป็นไปต่างๆ นานา นอกจากนั้นสามารถกำจัด ขับไล่ภูตผีปีศาจ กันและแก้คุณไสย ตามตำราว่า ชี้ต้นตาย คือถ้าหากชี้ด้วย ต้นไม้เท้าทำให้ข้าศึกตาย ฉิบหาย หรือมีอันเป็นไป (ว่าตามตำรา) เป็นมหาอำนาจข่มนาม

    2. ผงเลขยันต์ที่บรรจุในปลายไม้เท้ากายสิทธิ์ วิเศษทางเมตตา ความสุข ความเจริญ แก้ถอดถอน ให้พรให้มีอายุมั่นขวัญยืน มีโชคลาภ ชี้อธิษฐานรักษาโรคภัย ที่เบียดเบียนมนุษย์ ตำราจึงว่า ชี้ด้วยปลายเป็น หมายถึงใช้ถอดถอนคำอธิษฐานที่สาปแช่งได้

    3. รวมพระอาจารย์และอาจารย์สำนักกุญแจไสยศาสตร์ ที่มีความรู้ได้รับการศึกษาแนวเดียวกันรู้ตำราพิชัยสงคราม

    วิธีสร้างไม้เท้ากายสิทธิ์ตามตำราท่านอาจารย์ผู้เฒ่าปรมาจารย์แห่งเมือง พัทลุง 20 กว่าอาจารย์ มีอาจารย์ชุม ไชยคีรี เป็นประธาน ได้อุดมฤกษ์ เขียนดวงยันต์ในแผ่นตะกั่ว วันพฤหัสบดีที่ 20 พฤศจิกายน 2523 เวลา 19.00 น. ใช้เวลาเขียนยันต์ และชักยันต์ลบผง ณ สำนักกุญแจไสยาศาสตร์ 70 วัน ครบถ้วนตามตำรา วันพุทธที่ 11 กุมภาพันธ์ 2524

    คณะพระอาจารย์ทุกท่านนำไม้เท้าเข้าไปทำพิธีในถ้ำแฝด วัดถ้ำแฝด อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี บริกรรมบรรจุตระกรุด และผงวิเศษเข้าไปในหัวและปลายไม้เท้า วันอังคารที่ 17 กุมภาพันธ์ 2524 ตรงกับเดือน 3 ขึ้น 13 ค่ำ ได้อุดมฤกษ์จุดเทียนชัย เวลา 23.19 น. เป็นเสร็จพิธีนำกลับไปสำนักกุญแจไสยศาสตร์ เริ่มแจกและส่งให้กับท่านที่สั่งจอง


    *** ปิดรายการ ***
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 กันยายน 2013
  9. Supakiti

    Supakiti เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    5,926
    ค่าพลัง:
    +9,218
    รายการที่ 13

    ไม้เท้ากายสิทธิ์ อาจารย์ชุม ไชยคีรี เนื้อไม้มหาพรหม ขนาดยาว 5 นิ้ว พร้อมสมุดคู่มือการใช้

    ไม้มงคลนามที่เอามาทำไม้เท้ากายสิทธิ์ เช่นไม้มะค่าตายพราย ไม้มะค่าฟ้าผ่า ไม้ประดู่ทรงธรรม ไม้ราชพฤกษ์ ไม้ชัยพฤกษ์ ไม้มหาพรหม ไม้กรรมจัด ไม้กรรมจาย

    1. ผงเลขยันต์และดวงยันต์ ที่บรรจุในหัวไม้กายสิทธิ์ เป็นไปในทางอิทธิฤทธิ์ทางมหาอำนาจ ปราบศัตรู ทำให้ศัตรูเกรงกลัว ไม่คิดต่อสู้ ฆ่าศัตรูให้ตาย โดยไม่ต้องใช้อาวุธด้วย การอธิษฐานระลึกถึงพระแม่ธรณี ให้มาช่วยกำจัดอริราชศัตรู ที่เข้ามาเบียดเบียนมนษย์เบียดเบียนพระศาสนา หรือองค์พระมหากษัตริย์ หากว่าศัตรูผู้รุกรานล่วงล้ำเขตแดนเข้ามาขอให้พ่ายแพ้ ให้เจ็บ ให้ตาย หรือมีอันเป็นไปต่างๆ นานา นอกจากนั้นสามารถกำจัด ขับไล่ภูตผีปีศาจ กันและแก้คุณไสย ตามตำราว่า ชี้ต้นตาย คือถ้าหากชี้ด้วย ต้นไม้เท้าทำให้ข้าศึกตาย ฉิบหาย หรือมีอันเป็นไป (ว่าตามตำรา) เป็นมหาอำนาจข่มนาม

    2. ผงเลขยันต์ที่บรรจุในปลายไม้เท้ากายสิทธิ์ วิเศษทางเมตตา ความสุข ความเจริญ แก้ถอดถอน ให้พรให้มีอายุมั่นขวัญยืน มีโชคลาภ ชี้อธิษฐานรักษาโรคภัย ที่เบียดเบียนมนุษย์ ตำราจึงว่า ชี้ด้วยปลายเป็น หมายถึงใช้ถอดถอนคำอธิษฐานที่สาปแช่งได้

    3. รวมพระอาจารย์และอาจารย์สำนักกุญแจไสยศาสตร์ ที่มีความรู้ได้รับการศึกษาแนวเดียวกันรู้ตำราพิชัยสงคราม

    วิธีสร้างไม้เท้ากายสิทธิ์ตามตำราท่านอาจารย์ผู้เฒ่าปรมาจารย์แห่งเมือง พัทลุง 20 กว่าอาจารย์ มีอาจารย์ชุม ไชยคีรี เป็นประธาน ได้อุดมฤกษ์ เขียนดวงยันต์ในแผ่นตะกั่ว วันพฤหัสบดีที่ 20 พฤศจิกายน 2523 เวลา 19.00 น. ใช้เวลาเขียนยันต์ และชักยันต์ลบผง ณ สำนักกุญแจไสยาศาสตร์ 70 วัน ครบถ้วนตามตำรา วันพุทธที่ 11 กุมภาพันธ์ 2524

    คณะพระอาจารย์ทุกท่านนำไม้เท้าเข้าไปทำพิธีในถ้ำแฝด วัดถ้ำแฝด อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี บริกรรมบรรจุตระกรุด และผงวิเศษเข้าไปในหัวและปลายไม้เท้า วันอังคารที่ 17 กุมภาพันธ์ 2524 ตรงกับเดือน 3 ขึ้น 13 ค่ำ ได้อุดมฤกษ์จุดเทียนชัย เวลา 23.19 น. เป็นเสร็จพิธีนำกลับไปสำนักกุญแจไสยศาสตร์ เริ่มแจกและส่งให้กับท่านที่สั่งจอง

    บูชา 3,500 บาท ค่าจัดส่งครั้งละ 50 บาท

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 กันยายน 2013
  10. Supakiti

    Supakiti เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    5,926
    ค่าพลัง:
    +9,218
    รายการที่ 16

    ไม้เท้ากายสิทธิ์ อาจารย์ชุม ไชยคีรี เนื้อไม้คณฑีดำ ยาว 4 นิ้ว พร้อมสมุดคู่มือการใช้

    ไม้มงคลนามที่เอามาทำไม้เท้ากายสิทธิ์ เช่นไม้มะค่าตายพราย ไม้มะค่าฟ้าผ่า ไม้ประดู่ทรงธรรม ไม้ราชพฤกษ์ ไม้ชัยพฤกษ์ ไม้มหาพรหม ไม้กรรมจัด ไม้กรรมจาย

    1. ผงเลขยันต์และดวงยันต์ ที่บรรจุในหัวไม้กายสิทธิ์ เป็นไปในทางอิทธิฤทธิ์ทางมหาอำนาจ ปราบศัตรู ทำให้ศัตรูเกรงกลัว ไม่คิดต่อสู้ ฆ่าศัตรูให้ตาย โดยไม่ต้องใช้อาวุธด้วย การอธิษฐานระลึกถึงพระแม่ธรณี ให้มาช่วยกำจัดอริราชศัตรู ที่เข้ามาเบียดเบียนมนษย์เบียดเบียนพระศาสนา หรือองค์พระมหากษัตริย์ หากว่าศัตรูผู้รุกรานล่วงล้ำเขตแดนเข้ามาขอให้พ่ายแพ้ ให้เจ็บ ให้ตาย หรือมีอันเป็นไปต่างๆ นานา นอกจากนั้นสามารถกำจัด ขับไล่ภูตผีปีศาจ กันและแก้คุณไสย ตามตำราว่า ชี้ต้นตาย คือถ้าหากชี้ด้วย ต้นไม้เท้าทำให้ข้าศึกตาย ฉิบหาย หรือมีอันเป็นไป (ว่าตามตำรา) เป็นมหาอำนาจข่มนาม

    2. ผงเลขยันต์ที่บรรจุในปลายไม้เท้ากายสิทธิ์ วิเศษทางเมตตา ความสุข ความเจริญ แก้ถอดถอน ให้พรให้มีอายุมั่นขวัญยืน มีโชคลาภ ชี้อธิษฐานรักษาโรคภัย ที่เบียดเบียนมนุษย์ ตำราจึงว่า ชี้ด้วยปลายเป็น หมายถึงใช้ถอดถอนคำอธิษฐานที่สาปแช่งได้

    3. รวมพระอาจารย์และอาจารย์สำนักกุญแจไสยศาสตร์ ที่มีความรู้ได้รับการศึกษาแนวเดียวกันรู้ตำราพิชัยสงคราม

    วิธีสร้างไม้เท้ากายสิทธิ์ตามตำราท่านอาจารย์ผู้เฒ่าปรมาจารย์แห่งเมือง พัทลุง 20 กว่าอาจารย์ มีอาจารย์ชุม ไชยคีรี เป็นประธาน ได้อุดมฤกษ์ เขียนดวงยันต์ในแผ่นตะกั่ว วันพฤหัสบดีที่ 20 พฤศจิกายน 2523 เวลา 19.00 น. ใช้เวลาเขียนยันต์ และชักยันต์ลบผง ณ สำนักกุญแจไสยาศาสตร์ 70 วัน ครบถ้วนตามตำรา วันพุทธที่ 11 กุมภาพันธ์ 2524

    คณะพระอาจารย์ทุกท่านนำไม้เท้าเข้าไปทำพิธีในถ้ำแฝด วัดถ้ำแฝด อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี บริกรรมบรรจุตระกรุด และผงวิเศษเข้าไปในหัวและปลายไม้เท้า วันอังคารที่ 17 กุมภาพันธ์ 2524 ตรงกับเดือน 3 ขึ้น 13 ค่ำ ได้อุดมฤกษ์จุดเทียนชัย เวลา 23.19 น. เป็นเสร็จพิธีนำกลับไปสำนักกุญแจไสยศาสตร์ เริ่มแจกและส่งให้กับท่านที่สั่งจอง



    บูชา 5,900 บาท ค่าจัดส่งครั้งละ 50 บาท

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 สิงหาคม 2013
  11. Supakiti

    Supakiti เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    5,926
    ค่าพลัง:
    +9,218
    รายการที่ 17

    นางกวักหลวงพ่อปลอด วัดหัวป่า จ.สงขลา เนื้อผงผสมว่าน ยุคแรก

    บูชา 3,900 บาท ค่าจัดส่งครั้งละ 50 บาท

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 กันยายน 2013
  12. Supakiti

    Supakiti เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    5,926
    ค่าพลัง:
    +9,218
    รายการที่ 18

    นางกวักหลวงพ่อปลอด วัดหัวป่า จ.สงขลา เนื้อผงว่านผสมชันนะโรง ยุคแรก

    บูชา 4,000 บาท ค่าจัดส่งครั้งละ 50 บาท

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]
     
  13. Supakiti

    Supakiti เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    5,926
    ค่าพลัง:
    +9,218
    รายการที่ 20

    พระลีลากำแพงนิ้ว อาจารย์ชุม ไชยคีรี ปี 2511 เกจิสายเขาอ้อ และอาจารย์ชุม ไชยคีรี ปลุกเสก ณ.วัดถ้ำเขาเงิน จ.ชุมพร ดีทางโชคลาภ เงินทองไม่ขาดมือ

    *** ปิดรายการ ***
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 กันยายน 2013
  14. Supakiti

    Supakiti เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    5,926
    ค่าพลัง:
    +9,218
    รายการที่ 21

    ผ้ายันต์หลวงพ่อปลอด วัดหัวป่า จ.สงขลา ขนาด 6 X 8 นิ้ว

    บูชา 1,400 บาท ค่าจัดส่งครั้งละ 50 บาท

    [​IMG] [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 กันยายน 2013
  15. Supakiti

    Supakiti เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    5,926
    ค่าพลัง:
    +9,218
    รายการที่ 22

    เหรียญรุ่นแรก อาจารย์ชุม ไชยคีรี เลี่ยมเงิน ปี 2517

    *** ปิดรายการ ***
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 กันยายน 2013
  16. Supakiti

    Supakiti เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    5,926
    ค่าพลัง:
    +9,218
    รายการที่ 25

    กุมารทองไม้แกะ ลงรักดำ อาจารย์ชุม ไชยคีรี ปี 2511 ใต้ฐานฝังตะกรุดเรียกวิญญาณ ( มีซ่อมมาแต่เดิม ตรงรอยแตกใต้ฐานครับ ) หายากสุดๆครับ


    คาถาบูชากุมารทองให้เกิดอิทธืฤทธิ

    ตั้งนะโม 3 จบ แล้วว่า " มหากุมารา อิทธิฤทธิ์ อิทธิฤทธิ์ สัจจะวาจัง อฐิษฐามิ " 3 จบ

    คาถาบูชารับเครื่องเซ่นสังเวย

    ตั้งนะโม 3 จบ แล้วว่า " โอม สัมปันนัง มหากุมารา สัพพะพัยญชะนัง สาลีนัง โภชนานัง อุทะกัง วะรัง มหากุมารา ปริพุนชันตุ สวหะ " 3 จบ



    *** ปิดรายการ ***
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 กันยายน 2013
  17. Supakiti

    Supakiti เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    5,926
    ค่าพลัง:
    +9,218
    รายการที่ 26

    กุมารทองไม้แกะ ลงรักดำ อาจารย์ชุม ไชยคีรี ปี 2511

    *** ปิดรายการ ***
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 กันยายน 2013
  18. Supakiti

    Supakiti เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    5,926
    ค่าพลัง:
    +9,218
    รายการที่ 27

    เหรียญพระคันธารราษฎร์ วัดเขาปฐวี อ.ทัพทัน จ.อุทัยธานี ปี2516 เนื้อทองแดงรมดํา สภาพสวย ไม่ผ่านการใช้ ประสบการณ์ดีเยี่ยม

    โดยเมื่อปี พ.ศ.2516 ตรงกับวันเสาร์ที่ 5 ขึ้น 5 ค่ำ เดือน 5 โบราณถือว่าเป็นวันฤกษ์แข็ง เหมาะสำหรับการประกอบพิธีปลุกเสกวัตถุมงคลและเครื่องรางของขลัง ในครั้งนั้น นายอำเภอทัพทัน ได้มาขอให้หลวงพ่อโฉม เจ้าอาวาสวัดเขาปฐวี ประกอบพิธีปลุกเสกวัตถุมงคลในวันดังกล่าว โดยเชิญนายไพฑูรย์ เก่งสกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดอุทัยธานี ในสมัยนั้น เป็นประธานในพิธี

    พระคณาจารย์ที่ร่วมนั่งปรกปลุกเสก อาทิ พระอาจารย์นำ วัดดอนศาลา, พระอาจารย์ปาน วัดเขาอ้อ, หลวงพ่อคง วัดบ้านสวน, อาจารย์ขาว วัดเขาอ้อ และอีกมากมาย ประกอบพิธีปลุกเสกในอุโบสถวัดเขาปฐวี ภายในถ้ำเขาปฐวี พิธีเริ่มตั้งแต่เวลา 18.00 น. ไปจนถึงเวลา 06.00 น. ของวันรุ่งขึ้น

    วัตถุมงคลรุ่นนี้ เรียกว่า "พระคันธารราษฎร์" เป็นพระศิลปะแบบอินเดีย จีวรริ้ว ยกพระหัตถ์ประทานพร ทำจากเนื้อทองเหลือง รมดำ มี 2 แบบ เป็นรูปลอยองค์มีกริ่ง สร้าง 8,000 องค์ และเป็นเหรียญรูปไข่ 30,000 เหรียญ สำหรับเหรียญพระคันธารราษฎร์ วัดเขาปฐวี ปี 2516 ลักษณะเป็นเหรียญรูปไข่ เนื้อทองวรรณะเหลืองรมดำ ขนาด 1.5x2.6 เซนติเมตร ด้านหน้าเหรียญ มีขอบรอบวง ยกซุ้มห่วง มีพระคันธารราษฎร์ ยกพระหัตถ์ประทานพร นั่งอยู่กลางเหรียญ ด้านซ้ายมือขององค์พระ มีพระอาทิตย์กำลังส่องแสงมีเมฆลอยอยู่ด้านข้าง ด้านหลังเหรียญ มีขอบเพียงเล็กน้อย กลางเหรียญเป็นยันต์ห้า มีอักขระขอม "นะโม พุท ธายะ" กำกับด้วย อุณาโลม 3 ยอด ด้านล่างของยันต์ มีอักขระขอม "นะ อุ อะ มะ" อยู่ในกรอบสี่เหลี่ยมผืนผ้า ล่างสุดมีตัวหนังสือเขียนว่า "พุทธาภิเศก วัดเขาปฐวี ๒๕๑๖"

    สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม ก็คือการปลุกเสกครั้งแรกเป็นเวลาหลายวันเลยครับ ปลุกเสกครบรอบด้าน แต่เนื่องจากจะมีวัยรุ่นเป็นจำนวนมาก จะเข้ามาลองของเพราะในสมัยนั้นสายเขาอ้อเป็นที่เลื่องลือด้านคงกระพันชาตรีเป็นอย่างมาก อาจารย์ชุมได้ยินอย่างนั้น จึงได้ขอให้พระอาจารย์ทุก ๆ องค์ที่อยู่ในพิธีนั้น ปลุกเสกอัดพลังใหม่ เนื่องจากว่าถ้าเกิดมีการลองขึ้นมา แล้วมีการยิงก็ดี การฟันก็ดี เกิดเข้าขึ้นมา ชื่อเสียงสายเขาอ้อก็จะไม่เป็นที่เชื่อถือ ดังนั้นอาจารย์ชุมจึงขอให้มีการปลุกเสกที่หนักไปด้านคงกระพันชาตรี และ มหาอุดม์ เป็นเลิศอย่างเดียว ได้ปลุกเสกใหม่ตั้งแต่หกโมงเย็นจนถึงหกโมงเช้าในวันต่อมา ซึ่งตลอดระยะเวลาที่มีงาน ผลการทดสอบของวัยรุ่นในอุทัยธานีเป็นที่น่าพอใจเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะฟันก็ดี จะยิงก็ดี ล้วนทำอะไรกับเหรียญหรือกับผู้ที่มีเหรียญติดตัวไม่ได้ และที่สำคัญตอนแจกเหรียญอาจารย์ชุมได้ประกาศว่า ใครอยากได้เหรียญนี้ ต้องให้ท่านเอามีดมาฟันหนึ่งที จึงจะได้รับแจกเหรียญนี้ไป นับว่าเป็นเหรียญที่ศักดิ์สิทธิ์มากเหรียญนึง และเป็นที่ต้องการของวัยรุ่นมาก ในยุคสมัยนั้นมีเหรียญนี้ติดตัวนับว่าไม่อายใครเลยครับ ป้องกันตัวได้เป็นอย่างดี อีกอย่างถือเป็นเหรียญที่เสกโดยสายเขาอ้อโดยตรง ซึ่งปกติสายเขาอ้อในยุคนั้นจะไม่ไปออกนอกพื้นที่ เพื่อไปปลุกเสกเป็นอันขาด นับว่าเป็นเหรียญแรก ๆ ที่ออกนอกพื้นที่เพื่อปลุกเสกครับ



    *** ปิดรายการ ***
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 กันยายน 2013
  19. Supakiti

    Supakiti เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    5,926
    ค่าพลัง:
    +9,218
    รายการที่ 29

    เหรียญเรา หยุดแล้ว ด้านหน้าเป็นพระพุทธรูปปางห้ามญาติหลังรูปหลวงพ่อคง วัดบ้านสวน เนื้อกะไหล่ทอง แจกกรรมการ ปี 2520

    สร้างจากมงคลแร่ที่พระเกจิทั่วประเทศอธิฐานจิตแล้วส่งมาให้เช่นแผ่นทองคำ , นาค , เงิน , ทองแดง , ทองเหลือง , ทองสัมฤทธิ์ , เงินโบราณตั้งแต่สมัยศรีวิชัยจนถึง สมัยรัตนโกสินทร์ , ชนวนทองที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเป็นองค์ประธานหล่อพระพุทธรูป และพระบรมรูปทั่วประเทศ , เหรียญพระเกจิอาจารย์ทุกท่านทุกรุ่นที่ทำพิธีปลุกเสกแล้วมีอภินิหารผู้บูชาเคยพบประสพการณ์มาแล้วจำนวนหลายพันเหรียญ

    แร่โสฬสธาตุธาตุ16 อย่างจากชนวนพระโสฬสมงคลของวัดแหลมทรายจ.สงขลา , แผ่นยันต์ของพระเกจิอาจารย์ผู้ทรง คุณทั่วประเทศ , เนื้อทอง สัมฤทธิ์จากพระพุทธรูปมงคลนาม 3 สมัยจากกรุอู่ทอง , เชียงแสน , สุโขทัย , แร่โลหะธาตุวิเศษของอาจารย์ชุมที่ผสมแล้วเหลือจากการหล่อพระทั้ง หมด

    พิธีพุทธาภิเษก ณ.วัดบ้านสวน อ.ควนขนุน จ.พัทลุง เมื่อวันที่ 27 - 28 เมษายน 2520 โดยอาจารย์ชุม ไชยคีรี และศิษย์สายเขาอ้อมีพระอาจารย์ ปาน ปาลธัมโม วัดเขาอ้อเป็นประธานในพิธี

    คณะ อาจารย์และอาจารย์ผู้ทรงคุณทั่วประเทศ ได้ตรวจสอบคุณวิเศษเหรียญ " เราหยุดแล้ว " ต่อหน้าประชาชนนับพันคน ปรากฏว่ามีความขลัง มีความศักดิ์สิทธิ์ และมีอภินิหาร สามารถกำจัดภัยได้จริง ( คัดลอกบางตอนมาจากหนังสือ " เราหยุดแล้ว "

    *** ปิดรายการ ***
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 ตุลาคม 2013
  20. Supakiti

    Supakiti เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    5,926
    ค่าพลัง:
    +9,218
    รายการที่ 30

    เหรียญเรา หยุดแล้วด้าน หน้าพระพุทธรูปปางห้ามญาติหลังรูปหลวงพ่อคง วัดบ้านสวน เนื้อทองแดงรมดำ ปี 2520

    สร้างจากมงคลแร่ที่พระเกจิทั่วประเทศอธิฐานจิตแล้วส่งมาให้เช่นแผ่นทองคำ , นาค , เงิน , ทองแดง , ทองเหลือง , ทองสัมฤทธิ์ , เงินโบราณตั้งแต่สมัยศรีวิชัยจนถึง สมัยรัตนโกสินทร์ , ชนวนทองที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเป็นองค์ประธานหล่อพระพุทธรูป และพระบรมรูปทั่วประเทศ , เหรียญพระเกจิอาจารย์ทุกท่านทุกรุ่นที่ทำพิธีปลุกเสกแล้วมีอภินิหารผู้บูชาเคยพบประสพการณ์มาแล้วจำนวนหลายพันเหรียญ

    แร่โสฬสธาตุธาตุ16 อย่างจากชนวนพระโสฬสมงคลของวัดแหลมทรายจ.สงขลา , แผ่นยันต์ของพระเกจิอาจารย์ผู้ทรง คุณทั่วประเทศ , เนื้อทอง สัมฤทธิ์จากพระพุทธรูปมงคลนาม 3 สมัยจากกรุอู่ทอง , เชียงแสน , สุโขทัย , แร่โลหะธาตุวิเศษของอาจารย์ชุมที่ผสมแล้วเหลือจากการหล่อพระทั้ง หมด

    พิธีพุทธาภิเษก ณ.วัดบ้านสวน อ.ควนขนุน จ.พัทลุง เมื่อวันที่ 27 - 28 เมษายน 2520 โดยอาจารย์ชุม ไชยคีรี และศิษย์สายเขาอ้อมีพระอาจารย์ ปาน ปาลธัมโม วัดเขาอ้อเป็นประธานในพิธี

    คณะ อาจารย์และอาจารย์ผู้ทรงคุณทั่วประเทศ ได้ตรวจสอบคุณวิเศษเหรียญ " เราหยุดแล้ว " ต่อหน้าประชาชนนับพันคน ปรากฏว่ามีความขลัง มีความศักดิ์สิทธิ์ และมีอภินิหาร สามารถกำจัดภัยได้จริง ( คัดลอกบางตอนมาจากหนังสือ " เราหยุดแล้ว " )


    *** ปิดรายการ ***
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 ตุลาคม 2013

แชร์หน้านี้

Loading...