อัศวินผู้พิทักษ์จักรวาล (Knight Galax)

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย สิงห์อาชา, 12 กันยายน 2017.

  1. สิงห์อาชา

    สิงห์อาชา Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ธันวาคม 2013
    โพสต์:
    87
    ค่าพลัง:
    +38
    ก่อนอื่นเลยนะครับทุกท่าน ฝากกดไลค์เพจเฟสบุ๊คของนักเขียนด้วยเน้ออ!
    https://www.facebook.com/LAKornkumphan/
    เมื่อกด Like เป็นกำลังใจให้เรียบร้อยกันแล้ว มาฟังเรื่องเล่าจากแดนอวกาศกันครับ

    "เสรีภาพ จะไม่มีความหมายเลย หากปราศจากความปลอดภัยในบ้านและท้องถนน" เนลสัน แมนเดลา อดีตประธานาธิบดีแอฟริกาใต้ - กล่าว

    image-3F55_59B6C3CA.jpg
    พาเทย์ วาเรียอาโน่

    - หนุ่มวัยผู้ใหญ่แรกเริ่ม ที่มีจิตใจเต็มเปี่ยมไปด้วยคุณธรรม ชอบช่วยเหลือคนอื่นที่โดนรังแกจากพวกนักเลงอันธพาล จวบจนชีวิตผันแปรกลายเป็นสมาชิกหนึ่งในภาคีลึกลับ

    เชิญมารู้จักกับพาเทย์กับเหล่าอัศวินกาแลคให้มากกว่านี้และลึกซึ้งกว่านี้กันเถอะครับ!!! ลุย...


     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 กันยายน 2017
  2. สิงห์อาชา

    สิงห์อาชา Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ธันวาคม 2013
    โพสต์:
    87
    ค่าพลัง:
    +38
    image-2331_59B6C3CA.jpg

    ไม่มีลมหายใจใดบริสุทธิ์เท่าลมหายใจโลก
    ไม่มีกลิ่นใดสดชื่นเท่ากลิ่นไอฝน
    ไม่มีแสงใดสว่างกว่าดวงอาทิตย์
    แลจะมีสักกี่ใจที่กว้างเหมือนท้องฟ้า...​

    แต่ทั้งหมดทั้งมวลนี้นั้น เป็นเพียงส่วนหนึ่งของจักรวาลอันมหาศาลที่กว้างใหญ่!

    สงคราม...

    อำนาจ...

    และความตาย... คือสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นปกติของทุกสรรพชีวิต เมื่อใดที่คนเราเกิดกิเลสขึ้นมาในจิตใจ ความคิดที่จะทำสิ่งเลวร้ายก็ย่อมเกิดได้โดยง่าย ด้วยอำนาจอกุศลของจิตที่ชักจูงคนผู้นั้นให้ทำตามประสงค์ของมัน ความป่าเถื่อนโหดร้ายในเบื้องลึกของจิตใต้สำนึก ถูกปลุกขึ้นจากสิ่งยั่วยุภายนอก สิ่งเหล่านี้ทำให้มีสงคราม การสูญเสีย ซึ่งปัญหาการสู้รบทำสงครามกันนั้น เป็นปัญหาระดับจักรวาล ที่ซึ่งทุกดวงดาวจะต้องมีค่านิยมผิดๆ คิดว่าสงครามคือเส้นทางแห่งผู้กล้า ผู้แข็งแกร่ง สร้างความสูญเสียมหาศาล แต่ด้วยเพราะเหตุอันใดก็มิสามารถหาคำอธิบายถึงเรื่องสำคัญนี้ได้ เรื่องที่ว่าในอวกาศสิ่งมีชีวิตทั้งหลายสามารถหายใจได้ โดยจะมีแกนพลังงานแสงสว่างลึกลับอยู่ตรงแกนกลางจักรวาล ส่องสว่างประกายแสงเด่นเป็นสง่า ซึ่งแกนแสงพลังงานลึกลับนี้ถูกตั้งนามให้ว่า “ผลึกแสงแห่งชีวิต” เป็นเสมือนแกนพลังงานอากาศที่แทรกซึมไปทั่วทุกอณูทุกสิ่งอย่าง ในเครือเอกภพอันกว้างใหญ่ทั้งหลาย บางทีการที่สิ่งมีชีวิตสามารถหายใจกันได้ในอวกาศนี้เอง จึงทำให้การสู้รบทำสงคราม รุกรานกันไปถึงดาวดวงอื่นได้โดยง่าย มิหนำซ้ำยังมีสิ่งมีชีวิตเก่าแก่ที่ถูกยกยอว่าเป็นพาหนะท่องอวกาศที่ดีที่สุดอย่าง “มังกร” ลักษณะเหมือนงูใหญ่ มีใบหน้าเหมือนสิงโต มีแผงขนที่คอ มีขาหน้าสองข้าง และขาหลังอีกสองอยู่ตรงเกือบจะปลายหางของมัน ตัวใหญ่ประมาณช้างตัวเต็มวัย 2 ตัว พูดสื่อสารภาษามนุษย์ได้ มาถึงจุดนี้ก็เป็นเรื่องที่น่าแปลกอย่างหนึ่งเช่นกันที่ทุกดวงดาวจะพูดคุยภาษาเดียวกันหมด แต่สิ่งที่แตกต่างคือสำเนียงการพูด ซึ่งนับว่าเป็นเรื่องที่แปลกมากๆ แต่ชาวจักรวาลทั้งหลายอ้างว่านี่เป็นพระประสงค์ของพระเจ้าที่พวกเขาเชื่อถือกันมาแต่เนิ่นนาน! กลับมาที่มังกร สิ่งที่ทำให้มันกลายเป็นพาหนะท่องอวกาศที่ดีที่สุด อยู่ตรงที่ความสามารถที่แสนจะวิเศษของมัน ด้วยมังกรนี้นั้นไม่ได้มีดีแค่พ่นเปลวเพลิงอันร้อนระอุได้แต่เพียงอย่างเดียว สิ่งที่ล้ำค่าที่สุดของมันคือความสามารถในการพ่นกระแสพลังงานออกมาจากช่องปากเหมือนกับเปลวไฟได้ กระแสพลังงานนี้จะเป็นคล้ายๆกับประตูมิติ ที่จะทำให้มังกรสามารถไปได้ทุกที่ ที่ไกลๆ ด้วยทักษะในการจำกลิ่นของดวงดาวแต่ละดวงที่มันเคยเลื้อยบินชมมา เพียงมันนึกและพ่นกระแสพลังงานออกมาเท่านั้น แค่เลื้อยเข้าไปในมวลหมู่หมอกพลังงานกระแสที่มันพ่นขึ้น ก็จะไปโผล่ดังที่ที่ตั้งใจไว้อย่างทันที และเหตุนี้เองมังกรจึงไม่ได้เป็นเพียงแค่สัตว์เลี้ยงที่นำมาใช้เที่ยวเล่นชมความงามของอวกาศอีกต่อไป มันกลายเป็นเครื่องมือหนึ่งของการทำสงคราม ความซื่อสัตย์ของมังกรที่มีต่อเจ้านายของมัน ทำให้การบุกรุกดวงดาวและการขยายอำนาจเป็นไปได้โดยง่ายและรวดเร็ว จักรวาลไม่เคยอยู่กันอย่างสงบเลยมาเป็นเวลานานหลายพันปี แต่ความหวังเล็กๆก็ได้บังเกิดขึ้น เมื่อมีกลุ่มคนผู้มีใจต้องการสร้างสันติ สร้างความสงบ สร้างอิสรภาพ ได้มารวมตัวพบกันโดยบังเอิญแต่ละหมู่ดวงดาว รูปร่างลักษณะมนุษย์แต่ละคนก็ไม่ค่อยแตกต่างกัน ครบ 32 ทุกประการ ซึ่งเป็นการรวมตัวของผู้กล้า มีความสามารถ โอกาสที่จะเกิดแบบนี้ขึ้นนั้นหาได้ยากยิ่ง พวกเขาเหล่านั้นได้ประชุมกันอย่างลับๆ และก่อตั้งภาคีอัศวินขึ้นมา เป้าหมายหลักสำคัญมีเพียงอย่างเดียว คือ”การพิทักษ์จักรวาล” พวกเขาสร้างกฎเกณฑ์อันศักดิ์สิทธิ์ กฎเกณฑ์ที่ต่อมาเป็นหัวใจหลักสำคัญของอัศวินแห่งจักรวาลนี้ พวกเขาเป็นกลุ่มคนที่ทำตัวลับๆล่อๆ ไม่เปิดเผยตน ไม่เปิดเผยถึงการก่อตั้งขึ้นของกลุ่มอัศวิน พวกเขาไม่ขึ้นต่อพระราชาองค์ใด ไม่ขึ้นต่อผู้มีอำนาจคนไหน พวกเขาเป็นอิสระจากทุกสิ่ง แล้วถ้าหากจำเป็นต้องมีสิ่งหนึ่งที่พวกเขาต้องขึ้นตรงด้วย สิ่งนั้นก็คงจะเป็นสิ่งที่ถูกเรียกกันว่า “คุณธรรม” ยามใดที่เกิดเหตุความไม่สงบขึ้นบนดาวดวงใด หรือที่ใด จะมีการปรากฏขึ้นของอัศวินลึกลับทุกครั้งไป แม้จะเป็นเพียงชนกลุ่มน้อย แต่พละกำลัง ทักษะความสามารถ ที่ถูกรวบรวมผสานจากผู้เป็นหนึ่งแต่ละดวงดาวแต่ละดินแดน ทำให้กลุ่มภาคีอัศวินนี้มีฝีมือเป็นเหนือนักรบใต้บังคับบัญชาของกษัตริย์แต่ละดวงดาวทั้งปวง เก่งกาจ กล้าหาญ ดำเนินเป้าหมายด้วยหลักแห่งคุณธรรม หัวหน้าใหญ่ของกลุ่มอัศวินก็คือผู้ที่เอ่ยปากชวนคนแรก พวกเขาจะเรียกกันว่า”แกรนด์มาสเตอร์” ซึ่งท่านผู้นี้ได้ตั้งชื่อกลุ่มอย่างเป็นทางการว่า “อัศวินกาแลค” หรือหมายถึง อัศวินผู้พิทักษ์จักรวาลให้เกิดความสงบสุขนั่นเอง ถึงกระนั้นพวกเขาก็จำต้องเสาะแสวงหามังกรมาเป็นของตน ซึ่งการมีมังกรขี่นั้นไม่ได้เป็นข้อบังคับของอัศวินที่ทุกคนต้องมี แต่มันจำเป็นสำหรับการเดินทางไกล อัศวินที่ถูกแต่งตั้งขึ้นมาใหม่ ต่อให้เป็นอัศวินเต็มตัวมีฝีมือสุดยอดก็ตาม ก็มิสามารถขาดมังกรคู่ใจไปได้เลย...
     
  3. สิงห์อาชา

    สิงห์อาชา Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ธันวาคม 2013
    โพสต์:
    87
    ค่าพลัง:
    +38
    image-8B0E_59B6C3CA.jpg

    บทนำและวิถีแห่งอัศวิน

    “อัศวินกาแลค” คือการรวมตัวของเหล่าสุภาพบุรุษ ที่มีจิตใจดีมีคุณธรรมและความสามารถ มีใจที่ต้องการช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ทุกคนบนโลกและจักรวาลนี้ให้อยู่กันอย่างสงบร่มเย็น สืบทอดต่อกันมายาวนานจากรุ่นสู่รุ่นอย่างลับๆ ภาคีอัศวินกาแลคส่วนใหญ่จะเป็นบุรุษ ไม่มีสตรี เหตุเพราะแกรนด์มาสเตอร์ต้องการให้มีเพียงแต่ผู้ชายเท่านั้น ด้วยปัจจัยหลายๆอย่างพร้อมกับอันตรายมากมายที่บางครั้งถึงขั้นต้องเสี่ยงด้วยชีวิต ภาคีอัศวินนี้จึงไม่มีการรับสตรีเข้ามาเป็นสมาชิกในกลุ่มเลยตั้งแต่ก่อตั้งมาจนถึงปัจจุบัน แต่ในอนาคตภายภาคหน้าก็อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงได้ หน้าที่หลักๆของอัศวินก็อย่างที่เกริ่นไว้ คือคอยดูแลปกป้องเพื่อให้เกิดความสงบสุข โดยคำสั่งจะถูกส่งลงมาจากแกรนด์มาสเตอร์อีกที แล้วยามสงบไม่มีภัยอันตรายใดๆ เหล่าอัศวินก็จะกลับไปใช้ชีวิตตามปกติของตนเอง บางคนเป็นนักเขียน บางคนทำสวน ทำการค้า ทำธุรกิจ และอื่นๆอีกมากมายที่อัศวินกาแลคจะพึงกระทำได้ ส่วนการรับเข้ามาเป็นสมาชิกของภาคีนั้นไม่ได้รับเข้ามาง่ายๆ ส่วนมากอัศวินที่เป็นสมาชิกของภาคีจะเป็นคนไปเชิญชวนมาเองเสียมากกว่า เพราะคนภายนอกไม่รู้ถึงการมีอยู่ของกลุ่มอัศวินแห่งจักรวาลนี้เลยแม้แต่นิดเดียว โดยผู้ถูกเชิญชวนอย่างแรกจะถูกสอบถามและทดสอบถึงจิตใจ ว่ามีใจที่มีคุณธรรมจริงๆหรือไม่ หากผ่านสายตาของเหล่าอัศวินชั้นผู้ใหญ่ในภาคี ด่านต่อไปก็จะถูกเข้ารับการฝึกฝนศิลปะการต่อสู้ การควบคุมอารมณ์ของตนเอง การวางตัวและมารยาทต่างๆเพื่อให้สามารถเติบโตเป็นบุคคลที่มีคุณภาพ และสิ่งที่สำคัญที่เป็นเสมือนหัวใจสำคัญของอัศวินกาแลคนี้ก็คือความเป็น “สุภาพบุรุษ” สมาชิกใหม่ที่ถูกคัดเลือกให้เข้ารับการฝึกเพื่อเป็นอัศวินในวันหน้านั้น จำต้องมีคุณสมบัตินี้กันทุกคน ถึงแม้คนภายนอกจะคิดว่ายุคนี้สุภาพบุรุษในตำนานอาจจะไม่หลงเหลืออยู่อีกแล้วก็ตาม แต่สิ่งนี้ก็ยังถือว่าเป็นหัวใจหลักสำคัญอยู่ดีสำหรับอัศวินกาแลค ถ้าประพฤติไม่ได้ก็มิอาจที่จะได้รับการแต่งตั้งเป็นหนึ่งในอัศวินแห่งจักรวาล บางครั้งถึงขั้นถอดถอนออกจากภาคีเลยก็มี...



    วิถีความเป็นสุภาพบุรุษของเหล่าอัศวินกาแลค 13 ข้อ

    1.รักษาสุขอนามัยที่ดี - สุภาพบุรุษต้องดูดีและมีกลิ่นกายน่ารื่นรมย์ทุกครั้ง เมื่ออยู่ในที่สาธารณะ การมีเหงื่อออกตัวเหม็นเวลาออกกำลังกาย เป็นเรื่องที่ยอมรับได้ แต่ไม่ใช่ในเวลาอื่นๆ พยายามดูแลร่างกาย และรักษาความสะอาดเรียบร้อยส่วนตัว

    2.สวมเสื้อผ้าที่ดูดี - พยายามสวมชุดพอดีตัว ใส่ชุดสีดำ เทา น้ำเงิน และน้ำตาล โทนต่างๆ เอาไว้เป็นหลัก สุภาพบุรุษสามารถสวมชุดสีอะไรก็ได้ ที่ดูพอดีๆ แต่สีที่ไม่ฉูดฉาดจะเหมาะที่สุด อัศวินกาแลคจะนิยมใส่ชุดโค้ทงามสง่าทอดยาวเลยเข่า มีกระดุมเม็ดกลมตามชายเสื้อ ด้านในก็ใส่เสื้อซับไว้อีกชั้น กับหมวกปีกกว้าง กางเกงที่ทำให้เคลื่อนไหวได้สะดวกดูเหมาะสมกับตัวเสื้อ สวมรองเท้าบูท พร้อมกับดาบเหน็บพาดไว้ที่หลังหรือสะเอว และปืนคาบศิลาก็เหน็บไว้ที่สะเอวเช่นกัน มองรวมๆแล้วเป็นชุดเครื่องแบบที่สง่าผ่าเผยอย่างมาก

    3.แต่งองค์ทรงเครื่องให้เนี้ยบ - การเป็นสุภาพบุรุษเต็มตัว จำเป็นต้องคอยหวีผมให้เรียบร้อย และเลือกเอาสักอย่างระหว่างการไว้หนวดสวยๆ หรือจะโกนให้เกลี้ยงเนียนพยายามโกนทุกเช้า อย่าปล่อยให้มีหนวดหร็อมแหร็ม มันจะทำให้ดูโทรม พกหวีติดตัวเอาไว้ เพื่อที่จะได้ (แอบ) หวีผม กรณีที่ถูกลมกระแทกหรือผมเสียทรงระหว่างวัน

    4.จับมืออย่างหนักแน่น - สุภาพบุรุษตัวจริงย่อมรู้วิธีการจับมืออย่างถูกต้อง ไม่ว่าจะไปพบหัวหน้าคนใหม่ ไปสังสรรค์กับมิตรสหาย ควรจะจับมือพวกเขาอย่างหนักแน่น พร้อมสบตาอีกฝ่าย เพื่อแสดงความจริงใจ แต่อย่าจับให้แน่นเกินไป เอาแค่พอให้อีกฝ่ายรู้ว่า ไม่ได้จับแบบขอไปที และคุณเป็นสุภาพบุรุษเพียงพอในการเอาใจใส่อีกฝ่าย

    5.หลีกเลี่ยงพฤติกรรมก้าวร้าวในที่สาธารณะ - หากอยู่ในที่สาธารณะ พยายามอย่าผายลม เรอ เอะอะโวยวาย เรียกร้องนั่นนี่ เอามือกุมเป้า หรือปล่อยให้ตัวเองเมาหัวราน้ำ การรู้จักควบคุมตนเอง คือ กุญแจสำคัญของการเป็นสุภาพบุรุษ พยายามตระหนักว่าผู้อื่นมองคุณแบบไหน และคอยระวังว่าการกระทำใดที่อาจดูก้าวร้าว

    6.ช่วยเหลือคนรอบข้าง - พยายามมองหาและหยิบยื่นความช่วยเหลือเสมอ เช่น ดันประตูค้างไว้เผื่อคนข้างหลังด้วย ช่วยคนถือของพะรุงพะรังไปส่งที่บ้าน แต่อย่าทำอะไรเกินกำลังจนอาจส่งผลให้ตัวเองบาดเจ็บ คอยพยายามสังเกตคนที่อาจต้องการความช่วยเหลือ แต่ไม่กล้าบอกกล่าว เขาอาจไม่เอ่ยปากร้องขอเพราะเกรงใจ

    7.สนทนาด้วยถ้อยคำสุภาพ - ความสามารถในการสนทนากับผู้อื่น เป็นสัญลักษณ์ของรสนิยมและการมีวุฒิภาวะ ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการเป็นสุภาพบุรุษ

    8.ห้ามด่าด้วยประการทั้งปวง - หากมันยากที่จะยับยั้งตัวเอง ก็พยายามใช้คำพูดและน้ำเสียงที่นุ่มนวลลงนิดหนึ่ง อย่าสบถ อย่าหยาบ อย่าเถื่อน พฤติกรรมดังกล่าวไม่ใช่วิถีของสุภาพบุรุษ หากเผลอทำลงไปแล้ว ก็ควรขอโทษและพยายามป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นอีก และควรระวังคำพูดลามกหยาบคายต่างๆด้วย

    9.อย่าพูดถึงตัวเองมากเกินไป - คุณสามารถบอกเล่าเกี่ยวกับตัวเองพอหอมปากหอมคอ เพื่อให้อีกฝ่ายรู้จักคุณ แต่ก็ควรชั่งใจในการเล่าเรื่องราวเชิงลึกของตัวเอง

    10.หลีกเลี่ยงการพูดเรื่องที่ทำให้อึดอัด - จำไว้เสมอว่า คุณต้องรู้จักอีกฝ่ายพอสมควร เรื่องที่ดูตลกสำหรับคนชั้นกลาง อาจจะกร่อยเมื่อคุณเล่าให้คนชั้นสูงฟัง พยายามใส่ใจต่อความต้องการและความสนใจของผู้อื่น

    11.ปฏิบัติต่อทุกคนอย่างให้เกียรติ - สุภาพบุรุษไม่ใช่แค่ทำดีและสุภาพกับผู้หญิงเท่านั้น แต่ยังต้องให้เกียรติผู้ชายด้วยกัน คนแก่ รวมถึงเด็กด้วย สุภาพบุรุษตัวจริงต้องไม่เลือกที่รักมักที่ชัง แต่ต้องให้เกียรติและทำดีต่อทุกคนที่คู่ควร

    12.อย่ารุกล้ำร่างกายผู้อื่น - สถานการณ์บางอย่างเช่น การป้องกันตัวหรือการปกป้องผู้อื่น อาจจะพออนุโลมได้ เทคนิคการป้องกันตัว (หรือศิลปะการป้องกันตัว) มักย้ำเสมอว่า ให้การใช้กำลังเป็นทางออกสุดท้าย แต่สำหรับผู้ร้ายคร่าชีวิตผู้บริสุทธิ์และก่อความไม่สงบ อัศวินกาแลคจะไม่มีให้แม้แต่ความเมตตา

    13.ผู้หญิงคู่ควรต่อการให้เกียรติ - พฤติกรรมแย่ที่สุดที่คุณจะปฏิบัติต่อพวกเธอได้ ก็คือการมองหัวจรดเท้าขึ้นลง เหมือนเป็นเนื้ออันโอชะ ผู้หญิงก็เป็นมนุษย์ที่มีความคิดจิตใจ มีความหวังและเป้าหมายเช่นกัน ดังนั้น สุภาพบุรุษควรตระหนักว่าผู้หญิงควรได้รับการให้เกียรติ และจะไม่เอาแต่จีบด้วยคารมเลี่ยนๆ แต่จีบอย่างมีรสนิยมด้วยความอ่อนโยนต่างหาก



    หากสามารถกระทำดังนี้ได้ เมื่อผ่านการฝึกร่างกายจนครบศาสตร์วิชาทั้งมวลแล้ว ก็จะถูกเรียกตัวไปเพื่อทำการแต่งตั้งเป็นอัศวินกาแลคผู้พิทักษ์แห่งจักรวาล โดยแกรนด์มาสเตอร์จะเป็นผู้มาทำพิธีโดยมีสมาชิกอัศวินยืนรายล้อม และหนุ่มว่าที่อัศวินมีหน้าที่เพียงแค่ปฏิญาณสาบานตน ตามการกล่าวนำของแกรนด์มาสเตอร์ หลังจากนั้นจะได้ดาบประจำตัวด้ามจับสีทองลวดลายสวยงามมาเป็นของตน พร้อมปืนคาบศิลาและชุดเครื่องแบบที่แสนจะสง่างาม เมื่อครบขั้นตอนทั้งหมด หนุ่มว่าที่อัศวินก็จะถูกขนานนามว่าเป็นอัศวินเต็มตัว เป็นผู้ที่พร้อมแล้วสำหรับการเป็นผู้พิทักษ์จักรวาลในนามของ “อัศวินกาแลค”
     

แชร์หน้านี้

Loading...