อะไรเกิดขึ้นตอนชีวิตสิ้นลง? โดย ท่านอ. โกเอนก้า (แปลไทย)

อะไรเกิดขึ้นตอนชีวิตสิ้นลง?<O</O​

โดย ท่านอาจารย์ เอส เอน โกเอนก้า​

<O</O​

(ต้นฉบับของบทความต่อไปนี้ได้ถูกตีพิมพ์ในนิตยสาร Sayagyi U Ba Khin)​

เพื่อที่จะทำความเข้าใจว่าอะไรเกิดขึ้นเมื่อตอนสิ้นชีวิต เรามาทำความเข้าใจกันก่อนว่าความตายคืออะไร ความตายเปรียบเสมือนกับทางโค้งของแม่น้ำที่มีการกระแสการไหลของการเกิดอย่างต่อเนื่อง เห็นได้ชัดว่าความตายคือจุดหมายปลายทางของกระบวนการเกิดและแน่นอนนี่มันอาจจะเป็นในกรณีของพระอรหันต์ (ผู้ที่ซึ่งละกิเลสได้ทั้งปวง) หรือ พระพุทธเจ้า แต่สำหรับบุคคลทั่วไปแล้ว กระแสการไหลของการเกิดนี้เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องแม้กระทั้งหลังจากสิ้นใจแล้วก็ตาม ความตายคือจุดจบของเหตุการณ์ของหนึ่งชีวิตและในเวลาชั่วขณะเดี๋ยวนั้นก็เป็นจุดเริ่มต้นละครของอีกชีวิตหนึ่ง ในด้านหนึ่งก็ความตายคือชั่วขณะจุดจบของชีวิตหนึ่งและในอีกด้านก็คือชั่วขณะของจุดเริ่มต้นของอีกชีวิตหนึ่ง ความตายเป็นเหมือนราวกับว่าพระอาทิตย์ขึ้นในทันทีที่พระอาทิตย์ตกโดยไม่มีช่องว่างของความมืดมิดในระหว่างนั้น หรือว่าชั่วขณะของความตายเปรียบเสมือนจุดจบของหนึ่งบทหนังสือและในบทต่อไปก็คือชั่วขณะของจุดเริ่มต้นของบทถัดไป
<O</O

ถึงแม้ว่าไม่มีการการเปรียบเทียบที่สามารถแสดงให้เห็นถึงกระบวนการนี้อย่างแท้จริง เรายังอาจจะบอกได้ว่ากระแสของการเกิดขึ้นก็คล้าย ๆ กับรถไฟที่วิ่งอยู่บนราง มันวิ่งถึงสถานีของความตายและที่นั่นก็มีการลดความเร็วลงทีละน้อยในชั่วขณะนั้น และก็วิ่งต่อไปด้วยความเร็วเท่าเดิมโดยที่รถไฟไม่ได้หยุดที่สถานีแม้กระทั่งวินาทีเดียว สำหรับคนที่ไม่ใช่พระอรหันต์ สถานีของความตายไม่ใช่จุดหมายปลายทางแต่มันเป็นชุมทางที่ซึ่งวิ่งต่อไปในทางต่าง ๆ กันอีกถึง ๓๑ เส้นทาง ทันทีที่รถไฟมาถึงสถานี มันก็จะเคลื่อนต่อไปตามเส้นทางเหล่านี้และก็ดำเนินต่อไป ความเร็วของ

 

<TABLE id=HB_Mail_Container height="100%" cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0 UNSELECTABLE="on"><TBODY><TR height="100%" UNSELECTABLE="on" width="100%"><TD id=HB_Focus_Element vAlign=top width="100%" background="" height=250 UNSELECTABLE="off">อนุโมทนาสาธุ กับบทความดี ๆ ค่ะ เป็นศิษย์เก่า (ที่ยังไม่เอาไหน) ของท่านคนนึงค่ะ
บุญรักษาค่ะ
เบญญาภา

</TD></TR><TR UNSELECTABLE="on" hb_tag="1"><TD style="FONT-SIZE: 1pt" height=1 UNSELECTABLE="on">

</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

สาธุๆ....

เป็นศิษย์เก่า ที่เคยปฏิบัติ หลักสูตร 10 วันที่ ปราจีนฯ ..

คอส ดีมากๆ .. ทานเจ ศีล 8 งดคุย เคร่งมากๆ ...

 

สาธุ สาธุ สาธุ กำลังเตรียมตัวอยู่พอดี ถึงเวลาจริงๆจะได้ไปอย่างสงบอยู่ในบุญที่สั่งสมมา

 

ก่อนอื่นต้องขออภัยที่แปลผิดไปนะครับ ตอนแปลก็คิดเหมือนกันว่าจะต้องผิดแน่ เราอ่านก็พอเข้าใจได้แต่พอไปแปล เอ มันจะแปลไว้ว่าอย่างไรน่ะ

////////////////////////////////////////////////////////////////////////

คุณ จี จี แห่งเวปลานธรรมช่วยแก้ให้ครับ

อนุโมทนาค่ะ <!--emo&:09:--><!--endemo-->
เป็นบทความที่ดีเหมาะกับสาธุชนเป็นอย่างยิ่ง <!--emo&:09:-->

ด้วยความเคารพ <!--emo&:09:--><!--endemo-->
ขออนุญาตแก้ไขบางส่วนนะคะ
เท่าที่อ่านคร่าวๆ ได้เห็นการแปลศัพท์บาลีที่ผิด เช่น
- คำว่า "bhava" แปลว่า "ภพ" หมายถึง การมีชีวิตอยู่/ การดำรงชีวิต
[ภพ (Bhava) = becoming; existence; process of becoming; state of existence]
ดังนั้น ต้องเปลี่ยนเป็น ภพกรรม ภพโลก ภพสังขาร

- "bhavanga" แปลว่า "ภวังค์" หมายถึง ช่วงต่อของจิต/ จิตใต้สำนึก
[ภวังค์ (Bhavanga) = life-continuum; the subliminal consciousness; constituent of becoming; the passive state of mind]

- "loka" แปลว่า "โลก" = world; plane of existence
ดังนั้น kama lokas คือ กามโลก หรืออีกนัยหนึ่งคือ กามาวจรภูมิ (ภพภูมิของผู้ที่ท่องเที่ยวอยู่ในกามารมณ์)
rupa-brahma lokas คือ รูปพรหมโลก (ภพภูมิของรูปพรหม) หรืออีกนัยหนึ่งคือ รูปาวจรภูมิ (ภพภูมิของผู้ที่ท่องเที่ยวอยู่ในรูปารมณ์)
arupa-brahma lokas คือ อรูปพรหมโลก (ภพภูมิของอรูปพรหม) หรืออีกนัยหนึ่งคือ อรูปาวจรภูมิ (ภพภูมิของผู้ที่ท่องเที่ยวอยู่ในอรูปารมณ์)

gati-nimitta คตินิมิต
kamma-nimitta กรรมนิมิต

(source: Dictionary of Buddhism by P.A. Payutto)


อ้างอิง
<!--QuoteEBegin-->"กรรมหลาย ๆ อย่างที่เป็นกรรมหนัก (bhava-kammas) หรือ สังขารหนัก (bhava-sankharas) ที่ทำให้เกิดภพชาติ กรรมเหล่านี้ (การกระทำที่ส่งผลทำให้เกิดกระบวนการเกิดภพชาติ) มีพลังงานแม่เหล็กไฟ้ฟ้าซึ่งปรับเข้ากับกระแสสั่นสะเทือนของแนวระดับ (bhava-loka) ของชีวิตใหม่ กระแสสั่นสะเทือนของกรรมนั้นๆ จะเชื่อมต่อกับกระแสสั่นสะเทือนของโลกที่มีความรุนแรงเท่ากันและทั้งสองจะดึงดูดซึ่งกันและกันตามกฏสากล ตามแรงของกรรม"<!--QuoteEnd-->
<!--QuoteEEnd-->

version ภาษาอังกฤษจาก http://www.vri.dhamma.org/newsletters/nl0003.html

Many kammas however, are bhava-kammas, or bhava-sankharas, those that give a new birth, a new life. Each one of these bhava-kammas (actions that give rise to the process of becoming) carries a magnetic force that is in tune with the vibrations of a particular plane of existence. The vibrations of a particular bhava-kamma will unite with the vibrations of the bhava-loka (world, plane) that has the same intensity, and the two will attract each other according to the universal laws pertaining to forces of kamma.

จากเนื้อหาท่อนนี้ ขออนุญาต edit บางส่วนนะคะ น่าจะอ่านเข้าใจมากกว่า <!--emo&:09:--><!--endemo-->
"กรรมส่วนใหญ่จัดเป็นภพกรรม (bhava-kammas) หรือ ภพสังขาร (bhava-sankharas) คือกรรมที่ทำให้เกิดภพชาติ
ภพกรรม (การกระทำที่ส่งผลทำให้เกิดกระบวนการเกิดภพชาติ) เหล่านี้ มีกระแสคล้ายพลังคลื่นแม่เหล็กไฟ้ฟ้า ซึ่งเข้ากันได้กับกระแสสั่นสะเทือนของภพต่างๆ ดังนั้น กระแสของภพกรรมจะเข้าไปรวมกับภพโลกหรือภพภูมิที่มีกระแสคลื่นความถี่เดียวกัน ทั้งสองจะดึงดูดซึ่งกันและกันตามกฏสากล ตามแรงของกรรม"