อย่าส่งเสริม 'สังคมชูชก'

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย ไม้บรรทัด, 25 กุมภาพันธ์ 2010.

  1. ไม้บรรทัด

    ไม้บรรทัด เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2008
    โพสต์:
    116
    ค่าพลัง:
    +293
    ข่าวหน้าหนึ่ง "ไทยรัฐ" รายงานว่ามีหลายวัดจัดทำวัตถุมงคลหลากหลายรูปแบบ รวมทั้งรูปชูชก ให้คนเช่าบูชา ไม่ทราบว่าได้รับความนิยมแพร่หลายแค่ไหน แต่สมบัติ เมทะนี "พระเอกตลอดกาล" เล่าว่าเมื่อปลายเดือนมกราคมที่ผ่านมา ได้ไปรวมพิธีปลุกเสกชูชก ที่วัดแห่งหนึ่ง พร้อมกับสุรชัย สมบัติเจริญ นักร้องลูกทุ่งชื่อดัง และทางวัดได้เอาบทสวดมาให้สวด และตั้งจิตอธิษฐานแผ่บุญบารมี

    สมบัติ เมทะนี เปิดเผยว่า มีการสร้างชูชกกันมานานแล้ว แต่เพิ่งจะมานิยมกันในตอนนี้ มีหลายวัดทำออกมาให้บูชา เพราะเชื่อว่าดีในเรื่องโชคลาภ ของ่ายได้เร็ว เป็นเหตุผลที่ตรงกันกับคำบอกเล่าของเจ้าอาวาสวัดหนึ่ง ซึ่งจัดทำรูปชูชกให้คนเช่าบูชา เนื่องจากมี
    คนนำมาถวาย เพราะเชื่อว่าจะมีโชคลาภ ค้าขายดี ทำมาหากินคล่อง ตรงข้ามกับท่าน ว.วชิรเมธี ที่เห็นว่า "บูชาชูชกเท่ากับบูชาความโลภ"

    ชูชก เป็นตัวละครสำคัญในเวสสันดรชาดก เป็นคนขอทานที่มีความละโมบโลภมาก จนท้องแตกตาย เพราะกินอาหารอย่างตะกละตะกลาม ความโลภเป็น 1 ใน "อกุศลมูล" 3 ประการ ซึ่งได้แก่ โลภ โกรธ หลง หรือโลภะ โทสะ โมหะ พระพุทธศาสนาถือว่าเป็นรากเหง้าของความชั่วทั้งปวง ถ้าโลภมากเกินไป ถ้าไม่ สามารถหาได้โดยสุจริต ก็อาจต้องขโมย หรือปล้นจี้หรือฉ้อโกง

    การที่หลายวัดจัดทำรูปชูชกเป็นวัตถุมงคล เพื่อให้ชาวพุทธเช่าบูชา เป็นภาพสะท้อนอีกภาพหนึ่ง ของสังคมไทยในปัจจุบัน ที่กำลังเผชิญกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย การทำมาหากินฝืดเคือง ผู้คนไม่ใช่น้อยจึงต้องหันไปพึ่งโหราศาสตร์ และไสยศาสตร์ เพื่อให้มีโชคลาภ หลายคนหันไปเล่นการพนัน เล่นหวยบนดินหรือใต้ดิน เป็นส่วนหนึ่งของความโลภ ถ้าโลภมากอาจถึงหมดตัว เดือดร้อนทั้งตัวเองและผู้อื่น

    พระพุทธศาสนามุ่งสอนให้คนกำจัด หรืออย่างน้อยต้องลดความโลภ โกรธ และหลง ให้เหลือน้อยที่สุด ความโลภที่ไม่มากจนเกินไปถึงขนาดชูชก อาจไม่เป็นพิษเป็นภัย ทั้งแก่ตัวเองและผู้อื่น ตรงกันข้าม จะทำให้คนขยันทำมาหากิน และด้วยความซื่อสัตย์สุจริต แต่ ถ้าละโมบโลภมากเกินไป จะทำให้ตนเองและสังคมเดือดร้อน เพราะสังคมจะเต็มไปด้วยการปล้นจี้ หรือการฉ้อโกง

    ความโลภที่มากเกินไป เป็นรากเหง้า ของการทุจริตประพฤติมิชอบ ทั้งในวงข้าราชการ นักการเมือง การเอารัดเอาเปรียบ และการเบียดเบียนกันในสังคม เรื่องที่น่าเศร้าก็คือชาวพุทธในไทยบางส่วน นอกจากจะเคารพบูชาชูชก ซึ่งเป็นตัวแทนของความละโมบโลภมากแล้ว จากการสำรวจความเห็นของกลุ่มตัวแทนประชาชนหลายครั้ง ยังพบว่าคนส่วนใหญ่ไม่รังเกียจการโกงกิน

    การจัดทำรูปชูชกเพื่อให้คนเช่าบูชา หรือการบูชารูปของชูชก เป็นเสรีภาพในการนับถือศาสนา และเสรีภาพในการปฏิบัติพิธีกรรมตามความเชื่อถือของตน จึงไม่ผิดกฎหมาย เพราะมีรัฐธรรมนูญรับรองอยู่ เว้นแต่ จะเป็นการกระทำที่ขัดต่อศีลธรรมอันดีของประชาชน แต่ถึงจะเป็นเสรีภาพ วัดหรือพระก็ไม่ควรส่งเสริมชาวพุทธ ให้ปฏิบัติในแนวทางที่สวนทางกับคำสอนพระพุทธองค์.
    :mad::mad::cool::cool:
     
  2. ๙๙๙๙๙๙๙๙๙

    ๙๙๙๙๙๙๙๙๙ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    1,752
    ค่าพลัง:
    +2,808
    ชูชก คือ พระเทวทัต

    [​IMG] [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 25 กุมภาพันธ์ 2010
  3. Premsuda (May)

    Premsuda (May) เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    181
    ค่าพลัง:
    +646
    [​IMG] [​IMG] [​IMG] [​IMG] [​IMG]
     
  4. LnWLnW

    LnWLnW เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    194
    ค่าพลัง:
    +936
    เห็นด้วยกับท่าน จขกท. อย่างแรงคะ
     
  5. รพินทร์ไพรวัลย์

    รพินทร์ไพรวัลย์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    669
    ค่าพลัง:
    +1,122
    คิดเล่นๆ ถ้าไม่มีชูชก พระเวสสันดรจะสามารถ บำเพ็ญทานบารมี เพื่อสละละกิเลสให้บรรลุพระโพธิญาณ ได้หรือไม่ ชูชกอาจเป็นกุญแจสำคัญ ตัวทดสอบ ข้อสอบบทสุดท้าย ของพระเวสสันดร
    แม้เมื่อเป็นพระพุทธองค์แล้ว พระเทวทัต ก็เปรียบได้เช่นเดียวกัน แค่มองโลกในแง่ดี อะไรก็ดูดีได้
    ทีไหว้หมู ไหว้เสือ ทำมัยทำกันได้นิยมกันจัง ไหนจะปีชง...?????
     
  6. namprighom

    namprighom เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มกราคม 2008
    โพสต์:
    190
    ค่าพลัง:
    +373
    ไม่มีดำ ก็ไม่มีขาว

    สิ่งใดๆล้วนเกิดมาเพื่อกันและกันครับ

    มันขึ้นอยู่กับคนถือด้วย ถ้าคนมาบูชาแล้วตั้งใจทำมาหากิน แล้วร่ำรวยขึ้นมา ก็เอาเงินมาาทำบุญก็ดีไป แต่ถ้าบูชาแล้วหน้ามืด ร้อนรนเร่งค้า จนไปโกง ไปปล้นเค้า ก็น่าคิดอยู่เหมือนกัน..

    ทำไมไม่สร้างพระอุปคุตรล่ะครับ พระสิวลี ท่านก็มีคุณทางด้านโชคลาภไม่ใช่หรือ...
     
  7. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    จุดจบของ ท่านชูชก คือ ท้องแตกตาย
    อยากบูชาอะไร อยากได้อะไร อยากเหมือนใคร ก็ต้องพิจารณาด้วยสติ
    ว่าปลายทาง มันนำไปสู่อะไร
    อยากได้ไฟสำหรับให้ไออุ่น แต่ก็ต้องรู้โทษของไฟด้วย ไม่งั้นมีสิทธิ์ไหม้เป็นตอตะโก
    พระเทวทัติ เพราะสำนึกความผิดในการกระทำได้ก่อนถึงวาระสุดท้ายของชีวิต
    จึงได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระพุทธองค์ทรงพยากรณ์ว่า
    จะได้บรรลุพระปัจเจกพุทธเจ้าในสมัยกาลข้างหน้า
    (ถ้าพระเทวทัตสำนึกผิดไม่ได้ ผลจะเป็นไงต่อคิดแล้วก็สยองมิใช่น้อย)

    โบราณว่าคบบัณฑิต บัณฑิตพาไปหาผล
    แม้จะเป็นแรงพยาบาทอาฆาต แต่เพราะพระโพธิสัตว์เป็นบัณฑิตผู้เลิศ
    แม้ผู้ที่ตั้งตัวเป็นศัตรูจะตามอาฆาตพยาบาทมาทุกภพทุกชาติ ก็ยังอภัยไม่ถือโทษ
    และเมื่อผู้ที่ตั้งตัวเป็นศัตรูสำนึกผิดได้ด้วยตนเองยังได้รับอานิสงค์จากพุทธพยากรณ์
    ได้เป็นผู้เที่ยงในการตรัสรู้ในภายหน้า ถ้าจะบูชาชูชก เราว่า บูชาพระเทวทัตปางถวายกระดูก
    คางและศรีษะสำนึกในความผิดของตนเองต่อพระพุทธเจ้า น่าจะเวิร์คกว่านะ

    สาเหตุที่พระเทวทัตต์อาฆาตพระพุทธเจ้า
    พระพุทธเจ้าได้ตรัสแสดงเรื่องราวที่พระเทวทัตเริ่มต้นจองเวรกับพระพุทธเจ้าไว้ใน เสรีววาณิชชาดก
    ย้อนหลังไป 5 ภัทรกัป ได้มีพ่อค้าเร่เพื่อนกันสองคนชาวแคว้นเสริวรัฐ มีชื่อเดียวกันว่าเสรีวะ คนหนึ่งเป็นพระโพธิสัตว์ (พระพุทธเจ้าในปัจจุบัน) อีกคนหนึ่งเป็นพระเทวทัตต์ในปัจจุบัน ทั้งสองได้ทำการค้าขายเร่ รับซื้อและขายของไปตามหัวเมืองต่าง ๆ

    จนวันหนึ่งทั้งสองได้ไปค้าขายเครื่องประดับในเมืองอริฏฐปุระ โดยตกลงแบ่งให้เข้าไปคนละทาง เพื่อไม่ไปค้าขายแข่งกัน

    พ่อค้าคนแรก (พระเทวทัตต์) ได้ตะโกนเร่ขายของตามถนนในเมืองไปเรื่อย ๆ จนไปถึงบ้านอดีตเศรษฐีผู้ดีเก่าตกยากหลังหนึ่ง ที่เหลืออยู่แต่เพียงยายกับหลานสาวในบ้านซ่อมซ่อไม่มีฐานะ เมื่อหลานสาวได้ยินเสียงพ่อค้าหาบเร่ จึงได้วิ่งออกมาดู เลยอยากได้เครื่องประดับ จึงไปขอร้องให้ยายซื้อให้ ยายจึงเรียกพ่อค้าเข้ามานั่งในบ้านและนำถาดเก่า ๆ สมบัติของตระกูลใบหนึ่งมาให้พ่อค้าดูเพื่อแลกซื้อเครื่องประดับให้หลาน

    ปรากฏว่าพ่อค้าจับดูจึงรู้ว่าเป็นถาดโลหะ เมื่อแอบเอาเข็มกรีดหลังถาด จึงเห็นว่าเป็นถาดทองคำ มีราคาถึงแสนกหาปณะ แต่ด้วยความที่พ่อค้าละโมภ อยากได้ถาดทองคำ โดยจะกดราคาให้ถึงที่สุด จึงทำทีเป็นไม่สนใจโวยวายว่าเป็นถาดไม่มีราคา แล้วก็โยนถาดทิ้งและก็ลุกเดินออกจากบ้านไป โดยหวังว่าสักพักจะเข้ามาใหม่เพื่อให้ยายแก่เปลี่ยนใจยอมแลกถาดกับของขายเล็ก ๆ น้อย ๆ เพื่อคว้าถาดทองกำไรงามถาดนั้น

    คล้อยหลังไปไดสักพัก พ่อค้าพระโพธิสัตว์ผ่านมา เห็นพ่อค้าคนแรกออกจากซอยนั้นไปแล้ว จึงแวะเข้ามาขายเครื่องประดับอีก ซึ่งคราวนี้ หลานของยายอดีตตระกูลมหาเศรษฐีเมื่อกี้ก็ร้องอยากได้เครื่องประดับอีก ยายจึงเรียกให้พ่อค้าเข้ามาเพื่อขอแลกถาดเก่า ๆ สนิมเขรอะกับเครื่องประดับที่พ่อค้านำมาขาย

    เมื่อพ่อค้าจับถาดเก่าก็รู้ได้ทันทีว่าเป็นถาดทองคำ มีราคาตั้งแสนกหาปณะ พ่อค้าพระโพธิสัตว์จึงบอกยายแก่ว่า "ถาดนี้เป็นถาดทองมีราคามหาศาล ของที่ฉันนำมาเร่ขายทั้งหมดนี่ก็สู้ราถาถาดของยายไม่ได้หรอกจ๊ะ"

    ยายแก่เห็นความซื่อสัตย์ของพ่อค้าจึงบอกว่า "ถาดนี้ เมื่อกี้พ่อค้าอีกคนโยนลงพื้นดูถูกว่าของไม่มีราคา แต่คราวนี้พ่อมาบอกว่ามีราคาตั้งแสน พ่อนี่ช่างตาถึงมีบุญเหลือเกิน เอาอย่างนี้ ฉันให้ถาดนี้แก่ท่าน เอาไปเถิด ส่วนท่านจะให้ของขายอะไรแก่ฉันกะหลานก็ได้ตามใจเถิด"

    พ่อค้าพระโพธิสัตว์ได้ฟังดังนั้นจึงบอกว่า "เอาอย่างนี้นะยาย ฉันยกของที่ฉันเอามาขายและเงินที่ติดตัวมาให้ยายหมดเลยก็แล้วกัน ฉันขอแค่ตาชั่งเอาไว้ทำมาหากินและเงินสัก 8 กหาปณะพอค่าเดินทางก็พอจ๊ะ"

    เมื่อพ่อค้าได้ถาดทองแล้ว จึงเดินทางไปที่ที่เรือเพื่อเดินทางกลับ ปรากฏว่า หลังจากพ่อค้าคนแรกเดินไปได้สักพักใหญ่ จึงย้อนมาหายายแก่เพื่อขอซื้อถาดใบนั้น แต่เมื่อยายเห็นพ่อค้าเข้ามาก็ตะเพิดไปว่า "ไอ้พ่อค้าจัญไร! ท่านทำให้ถาดทองคำเราเป็นของไร้ค่า ชิชะ! มาตอนนี้จะมาขอซื้อ ไป จะไปไหนก็ไป เมื้อกี้ ฉันยกถาดที่แกอยากได้ให้เป็นบุญแก่พ่อค้าตาถึงไปแล้ว แถมได้ตังค์กับของมาตั้งพันกหาปณะ"

    เมื่อพ่อค้าคนแรกได้ฟังดังนั้นถึงกับตกใจแค้นถึงสิ้นสติสลบฟุบไป พอฟื้นขึ้นก็เกิดความเสียดายอย่างเป็นกำลัง ถึงกับโปรยเงินและข้าวของที่นำมาเร่ขายทิ้งไว้หน้าบ้านยายแก่ แล้วก็ถือคันชั่งวิ่งตามรอยเท้าพระโพธิสัตว์ หวังจะแย่งถาดทองคืนไปถึงฝั่งแม่นํ้านั้น เห็นพระโพธิสัตว์กำลังขึ้นเรือไปอยู่ จึงกล่าวว่า "นายเรือโว้ย! เอาเรือกลับเข้าฝั่งเดี๋ยวนี้ ๆ" พระโพธิสัตว์ห้ามนายเรือว่า "อย่ากลับ ๆ" และแล่นเรือลับไป

    เมื่อพ่อค้าพาล เห็นพระโพธิสัตว์นั่งเรือหายวับไป จึงเกิดความโศกเศร้าเสียดายมีกำลัง หัวใจเต้นแรง เลือดพุ่งออกจากปาก และตั้งอธิษฐานผูกอาฆาตพระโพธิสัตว์ว่าจะจองเวรไปจนกว่าจะหาไม่ และถึงกับสิ้นชีวิตลง ณ ที่นั้นนั่นเอง.

    — 'อรรถกถาพระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๙ ขุททกนิกาย ชาดก ภาค ๑ อรรถกถา เสรีววาณิชชาดก'


    ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา พระเทวทัตต์จึงได้คอยตามมาเกิดเพื่อจองเวรกับพระพุทธเจ้าตลอดมาจนแม้กระทั่งชาติสุดท้ายที่พระเทวทัตต์เกิดเป็นชูชกและเกิดเป็นเจ้าชายเทวทัตต์ ซึ่งเป็นพระญาติกับพระพุทธเจ้าในชาติปัจจุบัน ก่อนที่จะก่ออนันตริยกรรมและสำนึกผิดในภายหลัง

    พระเทวทัตต์

    พระเทวทัตต์ เป็นพระสงฆ์ในสมัยพุทธกาล พระเทวทัตเป็นพระญาติและมีชีวิตร่วมสมัยกับพระพุทธเจ้า พระเทวทัตต์เป็นพระโอรสของพระเจ้าสุปปพุทธะผู้ครองกรุงเทวทหะแห่งแคว้นโกลิยะ ซึ่งมีศักดิ์เป็นลูกพี่ลูกน้องกับพระพุทธองค์ พระเทวทัตต์เป็นที่รู้จักกันดีจากเรื่องราวในคัมภีร์พระพุทธศาสนา ว่าเป็นผู้ที่มีความอิจฉาพระพุทธเจ้าแต่ครั้งยังเป็นพระโพธิสัตว์ และคอยจองล้างจองผลาญกับพระพุทธองค์มาแต่อดีตชาติ และในปัจจุบันชาติพระเทวทัตต์ยังได้เป็นพระสงฆ์ที่ก่ออนันตริยกรรมคือพยายามลอบปลงพระชนม์พระพุทธเจ้าและก่อการสังฆเภท ทำให้คณะสงฆ์แตกแยกกัน<SUP class=reference id=cite_ref-0>[1]</SUP>
    ในคัมภีร์พระพุทธศาสนาระบุว่า เดิมนั้นท่านออกบวชด้วยความบริสุทธิ์ใจ แต่ทว่าในที่สุดพระเทวทัตต์ได้สำนึกผิดเมื่อช้าไป โดยท่านได้ถูกธรณีสูบลงสู่อเวจีมหานรกหน้าวัดพระเชตวัน จากคัมภีร์อรรถกถากล่าวว่า แม้ท่านจะตกมหาอวจีนรก<SUP class=reference id=cite_ref-1>[2]</SUP> แต่ด้วยการที่ท่านเคยบำเพ็ญบารมีมาบ้างในอดีต และการสำนึกผิดด้วยการถวายคางเป็นพทธบูชาในขณะถูกแผ่นดินสูบ ทำให้พระพุทธเจ้าทรงพยากรณ์ว่า เมื่อพระเทวทัตต์ชดใช้กรรมในนรกหมดสิ้นแล้ว จะมาเกิดเป็นพระอัฏฐิสระปัจเจกพุทธเจ้าในอนาคต<SUP class=reference id=cite_ref-2>[3]</SUP> หรือกล่าวอีกนัยหนึ่ง พระเทวทัตต์เป็นพระโพธิสัตว์ผู้ได้รับพยากรณ์แล้วนั่นเอง (พระนิยตปัจเจกโพธิสัตว์)


    พระเทวทัตต์ - วิกิพีเดีย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 กุมภาพันธ์ 2010
  8. พงศ์830

    พงศ์830 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กันยายน 2008
    โพสต์:
    1,172
    ค่าพลัง:
    +1,196
    อนุโมทนาสาธุครับท่าน ว. วชิรเมธี ให้ความรู้มากเลยครับ
     
  9. Tossaporn K.

    Tossaporn K. เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,565
    ค่าพลัง:
    +7,747
    ท่าน ว.วัชรเมธี ก็เข้่ามาโพสท์ในเว็บนี้ด้วยหรือครับ แฮ่ะๆขอกราบนมัสการครับ
     
  10. guaregod

    guaregod เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    962
    ค่าพลัง:
    +1,009
    หากินกับความเชื่อ รวยเร็วดีครับ ดู gt200 เป็นตัวอย่าง
     
  11. chura

    chura เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    688
    ค่าพลัง:
    +1,971
    บูชาคนที่ควรบูชา สำหรับผมแล้วคงบูชาชูชกไม่ลงหรอกครับ!
     
  12. B5234T5

    B5234T5 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 เมษายน 2005
    โพสต์:
    143
    ค่าพลัง:
    +210
    อย่ายกย่องคนชั่ว

    แต่ก็เห็นทำกันเยอะแยะ เส็งเคร็ง
     
  13. pornsak

    pornsak เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    163
    ค่าพลัง:
    +272
    อืม..ถ้าช่วยให้บรรลุพระโพธิญาณด้วยจริงใจนะดีครับ น่ายกย่อง เพราะ เจตตนาตั้งต้นแหละเป็นตัวชี้วัด

    ในสมัยพระพุทธเจ้าเราเสวยพระชาติเป็นพระเวสสันดร... พระอินทร์ในยุคนั้น (คือพระอนุรุทธอรหันตสาวก) ยังแปลงองค์มารับนางมัทรีไปดูแลให้แทน ซึ่งช่วยให้พระโพธิสัตว์สำเร็จทานบารมีได้ และ พร้อมกันนั้น ก็ไม่ทำให้เหล่าสัตว์ใดเดือดร้อนด้วย อันนี้ น่ายกย่องนับถือ

    ส่วน ..ชูชกนั้น...อืม...เจตนาตั้งต้น เขาเริ่มด้วยอะไรละ ..คงไม่ต้องแจกแจงกันมาก เพราะพระไตรปิฏกสาธยายไว้แล้ว...สรุปว่า ทานบารมีส่วนนั้น ชูชก ช่วยจริงหรือ หรือว่าเป็นเพราะพระโพธิสัตว์ท่านพร้อมจะสำเร็จได้ทุกเมื่ออย่างสุขงอมอยู่แล้ว... ลองคิดดูเล่นๆแบบพี่พรานใหญ่ ว่าก็ได้ ว่าหากผู้มาขอเป็นคนอื่นที่ไม่ใช่ ผู้โลภ+โหดร้าย อย่างชูชก ..พระเวสสันดรท่านก็สละให้อยู่ดี ...ว่ามั๊ยครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 กุมภาพันธ์ 2010
  14. วิถีคนจร

    วิถีคนจร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    696
    ค่าพลัง:
    +226
    เห็นด้วยอย่างแรง..................................
    อยากรวยต้อง อย่าขี้เกียจครับ
     
  15. หนองสะลาบ

    หนองสะลาบ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    334
    ค่าพลัง:
    +564
    ดีนะที่ไม่ใด้บูชาชูชกกับเค้า แต่ผมบูชาขุนช้างจ้าวทรัพย์คร้าบบบบ
     
  16. boriphat

    boriphat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มกราคม 2006
    โพสต์:
    542
    ค่าพลัง:
    +2,124
    บูชา พระในบ้าน ดีที่สุดครับ
     
  17. kiatti1234

    kiatti1234 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มกราคม 2009
    โพสต์:
    1,839
    ค่าพลัง:
    +811
    มันคือพุทธพาณิชย์ครับ การที่จุดกระแสชูชกน่าจะสะท้อนถึงสังคมไทยยุคนี้มากกว่า
     
  18. ถิ่นธรรม

    ถิ่นธรรม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    1,824
    ค่าพลัง:
    +5,398
    ชูชกเป็นขอทาน มีทรัพย์ก็ถูกโกง พอได้สมบัติใหญ่กลายเป็นมหาเศรษฐีก็ได้กินแค่มื้อเดียวก็ท้องแตกตาย ตลอดชีวิตมีแต่ความอัตคัตขัดสน
    พิลึกดี ใครอยากเป็นขอทานก็จงบูชาชูชกเถิด
     
  19. lagunaram

    lagunaram เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    368
    ค่าพลัง:
    +697
    ตอนนี้ศาสนาพุทธกำลังโดนกลุ่มคนไม่หวังดีเปลี่ยนแปลงโดยพวกหมอดูสำนักต่างๆ จากที่เราเกิดและโตมามีแต่ให้บูชาพระ ตอนนี้มาบูชาตัวอะไรไม่รู้ที่ตัวของเค้าเองยังอยู่อเวจีมหานรก ไม่รู้ว่าบูชาเพื่ออะไร เราอยู่ต่างจังหวัดคนที่นี่ถ้ามีใครมาพูดให้บูชาก็จะทำตามกันเยอะค่ะ เราเห็นครั้งแรกก็ยี้แล้ว พระมีตั้งมาทำไมไม่บูชไปบูชาชูชกแต่เราก็ไม่ได้บอกอะไรใครมากเพราะความเชื่อมันครอบงำคนไปแล้วค่ะ เราถามป้าคนหนึ่งว่า ป้าๆทำไมบูชาชูชกล่ะป้าเค้าตอบว่าเอ้า...ก็เห็นคนอื่นเค้าบูชากันป้าก็เอามั่งเผื่อรวย
    เราเลยอธิบายให้ป้าคนนั้นฟังเกี่ยวกับชูชกนะ ป้าแกก็เหมือนจะไม่ค่อยเชื่อเราก็จนใจ
    เวลาไปวัดก็พูดว่า พุทธัง ธรรมมัง สังฆัง สาระนังคัจฉามิ แต่เอาชูชกไปบูชาเฮ้อ
     
  20. tumkuk

    tumkuk เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    586
    ค่าพลัง:
    +1,851
    ถ้าไม่มีขาวก็ไม่มีดำสองส่วนนี้ค้ำจุนกันอยู่ไม่มีอธรรมก็ไม่มีธรรมไม่มีโจรก็ไม่มีตำรวจ

    ทุกสิ่งล้วนถูกกำหนดเอาไว้แล้วด้วยบุญและผลกรรมที่แต่ล่ะคนได้กระทำมาทั้งอดีตและปัจจุบัน

    จริงหรือไม่โปรดไตร่ตองดูเอาเถิด...
     

แชร์หน้านี้

Loading...