เรื่องเด่น อย่าลืมจุดประสงค์ที่แท้จริงของการเรียน

ในห้อง 'หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน' ตั้งกระทู้โดย Komodo, 22 เมษายน 2019.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. Komodo

    Komodo หัวหน้าศูนย์ประชาสัมพันธ์ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    11,612
    กระทู้เรื่องเด่น:
    145
    ค่าพลัง:
    +104,605
    44549818_1916537318432054_7994789215835521024_n.jpg

    พระอาจารย์กล่าวว่า "ปีนี้พระวัดท่าขนุนได้ประโยค ๕ ไป ๒ รูป ประโยค ๓ ติดซ่อมวิชาแปล แล้วก็ได้ประโยค ๑-๒ มาอีก ๓ รูป ก็เหลืออย่างเดียวคือประโยค ๔ ตกไป ๑ รูป ถ้าประโยค ๓ ซ่อมติดก็แล้วไป แต่ถ้าซ่อมไม่ติดเดี๋ยวปีหน้าก็สอบประโยค ๓-๔ เป็นเพื่อนกันไปเลย

    พระของผมเรียนสหบาลีศึกษาที่นครปฐม ประเภทที่เรียกว่าเรียนกันชนิดหัวทิ่มหัวตำ แล้วพระของเราไปแต่ละรูปนี่ไว้ใจได้เลย...ไม่มีอู้ ทุ่มเทเต็มที่ สวดมนต์ ทำวัตร บิณฑบาต กรรมฐานทุกวัน จนปัจจุบันนี้เขาลือว่าคณะ ๒ ที่วัดพระปฐมเจดีย์อย่าเข้าไป...เคร่งเกิน เคร่งเกินตรงไหน ? ที่วัดเราก็ทำอย่างนี้ทุกวัน ก็แค่เอาวิธีการที่วัดเราไปใช้เท่านั้นเอง"


    ถาม : ทำจนชินแล้ว ?
    ตอบ : ชินแล้วจะไม่รู้สึกว่าลำบาก ถึงเวลาตี ๓ ก็ตื่น สวดมนต์ ทำวัตร กรรมฐานเสร็จ นั่งท่องหนังสือรอเวลาบิณฑบาต บิณฑบาตฉันเสร็จ นั่งท่องหนังสือรอเวลาเรียน ตอนนี้เป็นหน้าเป็นตาของเขาเพราะว่าคณะนี้สอบได้ทุกปี ไม่ว่าประโยคไหนประโยคหนึ่งก็ต้องได้ ตอนแรกพระท่านก็บอกว่าจะพอแล้ว ผมขอให้ไปเรื่อย ๆ ไปจนสุดกำลัง คนส่งยังไม่ท้อเลย คนเรียนจะมาท้ออะไรวะ ?
     
  2. Komodo

    Komodo หัวหน้าศูนย์ประชาสัมพันธ์ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    11,612
    กระทู้เรื่องเด่น:
    145
    ค่าพลัง:
    +104,605
    "ผมบอกกับพระท่านว่า ไม่ว่าจะเรียนบาลี เรียนนักธรรม หรือว่าเรียนสายสามัญ อย่าลืมจุดประสงค์ที่แท้จริงของการเรียน

    การเรียนบาลี เราเรียนเพื่อให้แปลธรรมะในพระไตรปิฎกได้อย่างถูกต้อง ไม่ใช่เรียนเพื่อให้ได้ประโยคสูง ๆ แล้วไปเอายศเอาตำแหน่งกัน ประโยคหรือความรู้ที่ได้ หรือว่าเรื่องของยศตำแหน่งเป็นแค่ของแถม แต่ปัจจุบันนี้เขาเห็นของแถมเป็นสินค้าหลัก เป้าหมายก็เลยเพี้ยนไป


    ถ้าเราไปค้นคว้าพระไตรปิฎกแล้วไม่แน่ใจว่าเขาแปลถูกหรือเปล่า เราก็ไปเอาพระไตรปิฎกบาลีมาดู แล้วก็มาแปลของเราเอง อย่างหลวงปู่ปานท่านไปตั้งใจเรียนเพื่อที่จะแปลวิสุทธิมรรค ว่าท่านสอนลูกศิษย์ถูกหรือเปล่า ก็ต้องดูตามภาษาบาลี

    คราวนี้การเรียนนักธรรมก็คือ ให้รู้หลักข้อธรรมเพื่อนำไปปฏิบัติทั้งขณะที่เป็นพระ หรือตอนสึกไปเป็นฆราวาส เรียนปริยัติสามัญเพื่อให้มีความรู้ ได้ศึกษาหาความรู้ในระดับที่สูง ๆ ขึ้นไป ปริญญาตรี ปริญญาโท ปริญญาเอก เพื่ออะไร ? เพื่อให้มีความสามารถในการเผยแผ่พระพุทธศาสนาให้ได้ดียิ่งขึ้น


    ปัจจุบันกลายเป็นเรียนแข่งกันเอายศเอาตำแหน่ง พอถึงเวลาสอบตกก็เหี่ยว ถ้าเรียนแล้วรู้จริง จะตกไม่ตกเราก็มีความรู้ แปลบาลีได้อยู่แล้ว ถึงได้เตือนพระท่านว่า ดูด้วยว่าเราเรียนไปเพื่ออะไร ?

    การเรียน..ให้เราเรียนเพื่อเตรียมตัวของเราให้พร้อมที่สุดที่จะได้รับใช้พระพุทธศาสนา เพราะว่าปัจจุบันนี้ไม่ว่าจะตำแหน่งหน้าที่อะไรเขาต้องการวุฒิการศึกษา ในเมื่อเขาต้องการ เรามีไว้ ถึงเวลาเราก็จะทำงานของเราได้ดี เพราะว่ามีความพร้อมกว่าคนอื่นเขา


    เพราะฉะนั้น..ในเรื่องของการเรียนอย่าหลงประเด็น หลงประเด็นเมื่อไรแทนที่จะเรียนเพื่อศึกษาหาความรู้จากพระไตรปิฎก ก็จะกลายเป็นเรียนไปแย่งยศแย่งตำแหน่งกัน ส่วนใหญ่ลืมกันหมด ผมบอกกับท่านว่า คุณเห็นไหม..ผมเรียนจนจบปริญญาเอกแล้วผมมีอะไรแปลกไปจากเดิมบ้างไหม ? เรียนเพราะว่าโลกเขาต้องการความรู้แบบนี้ เราก็มีให้เขา เอ็งจะมาดูถูกว่าพระโง่...เรียนน้อยกว่าเอ็งก็ไม่ได้ เพราะว่าข้าเรียนมา ๒ ทางด้วย"

    เก็บตกจากบ้านเติมบุญ ต้นเดือนเมษายน ๒๕๖๒

    ที่มา : เว็บวัดท่าขนุนดอทคอม
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...