"อภิญญา"

ขนาดไม่มียังโม้เรือหาย ว่าได้อภิญญาอิอิ พระอ่ะโชว์ได้ ไว้ช่วยคน แต่จะไม่โม้ ฆราวาสบอกได้ถ้าเห็นจริง ถ้าไม่แทรกแซงกฎแห่งกรรมชาวบ้าน ก็เห็นได้เรื่อยๆ ไม่เสื่อม รุ้ยัง

 

รู้เกิดขึ้นทางไหนวิญญาณ(จิต)ก็เกิด
ขึ้นทางนั้นแหล่ะ
เช่นเกิดรู้ขึ้น จากทางตา วิญญาณ(จิต)ก็เกิดขึ้น
จากการกระทบสิ่งที่ถูกเห็น
เกิดรู้ขึ้น จากทางหู วิญญาณ(จิต)ก็เกิดขึ้นจากการกระทบเสียง
เป็นต้น
ถ้าเข้าใจสิ่งเหล่านี้ถูกต้อง จะเห็นว่าไม่มี
"เรา"เข้าไปเกี่ยวข้องกับสภาพรู้เหล่านั้น
โดยไม่ต้องไปพยายามปล่อยวางอะไร
เพียงแค่เข้าใจสภาพธรรมะ
ตามความเป็นจริง ว่าไม่ใช่"เรา"แต่เป็น
ธรรมะทั้งสิ้น
จึงจะค่อยๆพ้นจากความหลง ได้
ทีละน้อยค่อยๆไปหาโดยสิ้นเชิง

 

เนื้อคู่ท่านโดดเข้ามาร่วมวงสนทนาอีกแล้ว..

ท่านต้อนรับ เองนะ..

ไม่เกี่ยวกะเรา..

 

อธิบายแบบนี้ ยังสอนคนอื่นให้เข้าใจตามไม่ได้ เห็นตามไม่ได้ หรือ เข้าใจยาก..

ไปปรับปรุงวิธีการสอนมาใหม่..

แล้วจะได้ทำงานทางธรรม ถ้าสอน ถ้าแนะนำได้แค่นี้ ยังไม่ผ่าน เป็นครูอาจารย์ คน ยังไม่ได้..

เข้าจ๊าย!!!

 

นี่ก้อเปนเจตสิกมโนอีกตัว ที่ผู้ไม่รุ้ออกไปกระทบนะ ..อย่าลืมตามให้ทันดั้ว เสียชื่อคนปล่อยตัวรุ้หมด งุงิงุงิ

 

555 เค้ามาโปรดท่านแหล่ะ

 

เด็กเมื่อวานซืน นั่นนะจะมาโปรดเรา..

เณรน้อย คิดจะสอน อุปปัชฌาย์..

บอกให้เค้า สำเหนียกตัวเอง นั่นแหละ..

พวกปรารถนาเป็นพระปัจเจก ไปไกลๆตีนเรา..

 

ยิ่งอยากนิพพาน เขาให้หน่วงเหนี่ยวมาเป็น อารมณ์
พอ ถึงนิพพาน ความอยากมันจะดับ เหมือน คนหิว
ก็ต้องกิน กินพอดีๆ ความหิวก็ดับ อาศัยเห็นความ
ดับของความหิว เพื่ออาศัยระลึก สรรพสังขารมีที่สุด
รอบตรงไหน ...จึงทราบชัดว่า เกิดตรงไหน ก็ดับตรงนั้น

ความสมเหตุ สมผล เพราะ ได้สัมผัส สุดขอบของโลก
สุดขอบของสังขาร อยู่ตรงไหน ตามจริง ...แล้ว จุดๆ
นั้นเอง ก็จะมี สภาพธรรมบางประการ พ้นจากสังขาร
ทั้งปวงปรากฏ

แต่ที่ไป กล่าวว่า "ยิ่งอยาก ยิ่งยึด" อันนี้มันเป็น การตีความ
เอาด้วยทิฏฐิ แล้ว ทำสมาธิ ปั้นหน้าว่า ว่างๆ ประกอบลีลา
แท้จริง ทิฏฐิเห็นว่า ปล่อย มันหลอกก่อนลงมือปฏิบัติ
ไม่ได้เอา รสไปตามความเป็นจริง เป็นเพียง เล่นละคร
หลอกตัวเอง เอาทิฏฐินำหน้า ปั้นกรรมฐานทำมาแชตต
ตามหลัง ประภัสสร ย้ำคิดย้ำทำ สะกดจิตหมู่( เพราะ
จะมี อาการ คนอื่นเขาทำมาก่อน เขาว่าใช่ อะ )


ปล. ลิง อารมณ์นิพพาน ที่ใช้หน่วงเหนี่ยว ต้องเป็น
อาการ สิ้นภพ สิ้นชาติ สิ้นกิเลส ดับฝุ้งซ่าน ไม่เอา
ที่เป็น แก้ว ขวด

ปล 2 : กรณีใช้ แก้ว ใช้ ขวด เป็นอุบาย ก็ต้องไป
เน้นอีกที ตอนกลับว่า ดับ หรือ ฝุ้ง ...ถ้า ฝุ้งก็ไม่เอา
แต่ถ้า เออะทำได้แระ แล้วพอใจแระ ความอยาก
เกาะแก้ว เกาะขวด ดับ ..อันนี้ อนุโลม

 

ขออนุญาต
ก้อไม่ผิดค่ะ แต่อย่าลืมเอาสติตาม ผู้รุ้ (ส่วนตัวเรียกตัวแสบ) ด้วยนะคะ เพราะเรายึดผุ้รุ้อยุ่ ไปรุ้นี่นั่น จะมีผุ้ดูผุ้รุ้อีกตัว ผุ้ดูสุดท้ายนั่นแหล่ะ คือจิตพุทธะของจริง

 

ไม่ได้สอนใคร? ให้ใครเป็นอะไร? มันสอนไม่ได้?
แค่พูดไปตามเหตุปัจจัย
จะเกิดอะไ หรือไม่เกิดอะไร
บังคับควบคุมไม่ได้... ดังนั้น
กุศลกรรมบ้าง อกุศลกรรมบ้าง
ย่อมเกิดสลับกันตลอดเวลา จนกว่าจะมี"อภิญญา"

 

ฮิ้ววส์ ..คนปล่อยผู้รุ้ ...อ่อนเอ้ย ดีแต่พูดกว้างๆ

 

คนในกลุ่มของท่านมี5-6คน..

ที่เคยคุยเคยสนทนากันมาในห้องอภิญญา นี้แหละ ไปพิจารณาดูเอาเอง ว่ามีใครบ้าง..

เมื่อก่อนเห็นส่งจิตมาหาเราเรื่อย กระแสจิตส่งมาถึงเราเรื่อย..

 

อยากให้อภิญญาเกิด ก็ ปรารภความเพียร สิ..

ปฏิบัติขั้นอุกกฤติ ดูสิ..

ไม่ใช่มาลูบๆคลำๆ คุยสนุกไปวันๆ..

ลองดูซักตั้ง ตายเป็นตาย ถวายชีวิตเป็นพุทธบูชา..

 

ทำไงนะ อยากมีอภิญญาจุงเบย ปรารภความเพี้ยนไปทางไหนดีลุงเณรแอร์กี่

 

ขอโฮกปี๊ป ( โฮกปี๊ป เคยกล่าวไปแล้วว่าเป็น อาการของ ส ... )

ไม่ใช่ ผู้รู้สุดท้าย

หาก ยังมี สุดท้าย มีลำดับการเคลื่อน
เป็นอาการของ สัญญาขันธ์ ยังทำงาน
จึงเกิด ทิฏฐิว่า มีลำดับ มีขั้น

"ตัวแสบดับ" ก็ทราบชัดว่า ตัวแสบดับ

มีความรู้ชัด ตัวแสบดับ จบลงตรงนี้

อย่าไป คว้า ใครรู้ตัวแสบดับ

ถ้า ยังมีอาการ คว้าใครรู้ตัวแสบดับ นักกรรม
ฐานจะรู้ว่า ไม่ได้ เอารสจากการปฏิบัติ
แต่ยังเป็น การเอาทิฏฐิไป ปะผุ กลัวหาย
กลัวไม่เหลือ อายเวลาใครทักว่า นิพพาน
แล้วสูญหรอ ( นักปฏิบัติ จะเน้นกิเลส
หายหรือเปล่า ถ้ากิเลสหาย ก็ พอแล้ว )

 

ส่วนแม่หญิงที่สนทนากับท่าน ไม่ใช่คนในกลุ่มของท่าน ไม่ใช่คนในกลุ่มของเรา..

ใครส่งมาเกอะก็ม่ายรู้ สงสัย นาหญ้าขึ้นรกส่งมาเกอะ


ขออนุญาตใช้ภาษาท่านเล่าปัง

 

มันเป็นภาษาเขียนเว้ย มันรุ้ตัวผุ้รุ้ แต่จิตตัวนั้น ไม่มีปรุงไปอนาคต อดีต ปัจจุบัน

 

เขาไม่ฟังท่านหรอก เขาไม่ฟังเราหรอก เราเคยชี้บอกทางเขาแล้ว แต่เขาก็ยังดันทุรัง ไม่ยอมปล่อยผู้รู้ กลัวผู้รู้หาย กลัวไม่มีที่เกาะเกี่ยว..

ชี้บอกอีกสักรอบ..

"ผู้รู้แท้" คือ ความว่าง..

ปล. สอนพวกปรารถนาเป็นพระปัจเจก มันต้องสอนให้เข้าถึงความว่าง หรือ สุญญตา..

 

นั่นดิลุง อ่านเผินๆ ก้อพอจะเดาได้ ว่าใครมันนรกส่งมาเกิด ตอนเปนฆราวาสงานไม่หาทำ เกาะพ่อแม่กินไปวันๆ จะบวชก้อโม้ คือคนมันไม่คิดจะบวชหรอก ไปดูหมอบอกบวชพ่อแม่จะตาย

สุดท้ายน้ำใจแม่ ส่งลูกไว้ในศาสนาก่อนตาย ให้ฆราวาสเลี้ยง เพราะมันไม่มีสำนึก แต่พออยุ่ในคราบผ้าเหลือง ดูบอล ฟังเพลง ดูคลิป r 18 บวก โกหกไปวัน ๆ

 

ไม่ว่างฮับ มันรุ้ทุกอย่าง แต่ไม่เสพเจตสิก ไตรลักษณ์ทำงานปกติครับ ไม่มีอดีต ปัจจุบัน อนาคต