อนุสรณ์สถานสุขนิรันดร์

ในห้อง 'ดูดวง และ ทำนายฝัน' ตั้งกระทู้โดย โอ่วจื่อโหยว, 19 ธันวาคม 2019.

  1. โอ่วจื่อโหยว

    โอ่วจื่อโหยว สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กรกฎาคม 2017
    โพสต์:
    19
    ค่าพลัง:
    +17
    อนุสรณ์สถานสุขนิรันดร์ดีอย่างไร

    การเผากับการฝังทั้งร่างมีผลต่อความร่ำรวยหรือยากจนต่างกันอย่างไร?
    ท่านผู้อ่าน ท่านเคยสังเกต ระหว่าง คนเชื้อสายจีน ที่มีประเพณี การนำร่างของบรรพชนมาฝังทั้งร่างในฮวงซุ้ย กับคนไทยที่มีประเพณี การเผาร่างอันไร้วิญญาณแล้วเก็บอัฐิมาบูชาไหมครับว่า วัฒนธรรมและประเพณี ที่แตกต่างกันทั้งสองประเพณีนี้ รวยจนต่างกันอย่างไร
    ประเพณีจีนนิยม ฝังทั้งร่าง เพื่อให้ร่างอันไร้วิญญาณกลับสู่ดิน ซึ่งวิญญาณ จะมีพลังในการช่วยเหลือ ลูก-หลาน ให้เจริญเติบโต และที่สำคัญ คือเป็นศูนย์รวม ของลูกหลานในวันไหว้บรรพชน ทำให้มีการช่วยเหลือ ส่งเสริมซึ่งกันและกัน
    ส่วนประเพณีที่เผาร่างอันไร้วิญญาณ แล้วเก็บอัฐิของผู้วายชนม์ มาบูชาไว้ที่บ้านหรือสุสาน ที่บ้านเป็นที่อยู่ของคนเป็น ไม่เหมาะที่จะนำอัฐิของผู้วายชนม์มาไว้ เพราะกระดูกหรืออัฐิของท่าน ไม่ได้กลับสู่ดิน จึงไม่มีพลังในการช่วยเหลือส่งเสริมให้กับลูกหลาน ที่บ้านจึงมีเพียงรูปภาพของผู้ล่วงลับไปแล้วเท่านั้น อัฐิจึงสมควรนำไปไว้ที่สุสาน ให้อัฐิกลับสู่ดินเพื่อวิญญาณท่านจะได้มีพลัง ในการส่งเสริมให้บุตร-หลานเจริญรุ่งเรือง ( ตามความเชื่อ ส่วนบุคคล )
    ตัวผมเอง ได้วางแผนระยะยาวที่ผมวางไว้ให้ร่ำรวย ส่งผลไปถึง ลูก - หลาน - เหลน ให้ร่ำรวยต่อไปอีก คือ เมื่อผมเสียชีวิตไปแล้ว ต้องนำร่างของผมไปฝังเท่านั้น ทำไมผมจึงมีแนวคิดเช่นนั้น เพราะผมเชื่อว่าการเผากับการฝังนั้น มีผลต่อลูก –หลาน – เหลน ต่างกัน โดยผมจะขอยกตัวอย่างการเผากับการฝังนั้น มีประโยชน์ต่างกันอย่างไร โดยเอาวิทยาศาสตร์เข้ามาจับ มิใช่ไสยศาสตร์เอามาพูดกัน เพราะเชื่อถือในตัวซินแส ผมขอสมมุติฐานว่าผมมีลูกชาย – ลูกสาวอยู่ 5 คน แต่ละคนแต่งงานมีครอบครัวกันไปหมดแล้ว และแยกย้ายกันไปอยู่คนละภาคของประเทศ คือ เหนือ ใต้ ออก ตก และภาคกลาง เมื่อวันหนึ่งเมื่อผมเสียชีวิตลงลูกหลานและครอบครัว ทั้ง 5 ก็มาร่วมงานศพ สมมุติฐานว่าผมอยู่ภาคกลาง เขาทั้งสี่ก็มารวมกันที่ภาคกลาง เมือดำเนินการพิธีทางศาสนาครบ 3 – 7 วัน ก็นำร่างอันไร้วิญญาณไปเผา เมื่อเผาเสร็จ ลูกหลานทั้งห้าก็แบ่งเถ้าอัฐิไปคนละหน่อย เพื่อเอาไปบูชา เมื่อถึงปี ลูกหลานกตัญญูทั้งห้าก็นำเถ้าอัฐิของผมมากราบไหว้บูชา ทั้งในวันขึ้นปีใหม่ สงกรานต์ และเนื่องในวันครบรอบวันตายของผมเองอีกด้วย ผู้อ่านคงเห็นตามผมว่า ก็ทำได้ดีแล้วนี่ แต่ผมเห็นว่าเขายังขาดอะไรไปอีกอย่างหนึ่งคือ การรวมของพี่น้อง ซึ่งผมเห็นว่าเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด ในการที่ตระกูลนี้จะร่ำรวยต่อไปถึง 3 –5 ชั่วคนหรือไม่ เพราะเหตุใดจึงกล่าวเช่นนี้ เมื่อลูกหลานแต่ละคนมีเถ้าอัฐิของผู้บังเกิดเกล้าแล้ว ต่างคนต่างไหว้ โดยไม่ต้องมารวมกัน เดี๋ยวก่อนถ้าท่านมีแนวคิดที่จะนาอัฐิของคนที่เรารักไปลอยอังคาร ลองเสียเวลาอ่านข้อมูลที่ผมค้นคว้ามาหลายปี แล้วค่อยตัดสินใจก่อนก็ยัง ไม่สาย
    สิ่งที่ผมจะบอกเล่านั้น มันมีความหมายกับการที่ครอบครัวของท่านจะรวยหรือจน อยู่ที่การตัดสินใจของท่านในครั้งนี้ด้วยส่วนหนึ่ง ผมเที่ยวศึกษาประวัติศาสตร์ และเดินทางไปดูงานที่ประเทศจีน อียิปต์ ฝรั่งเศส อังกฤษ เพื่อศึกษาชีวิตหลังความตาย จนมาลงทุนสร้างสุสานของตัวเอง และต้องการหาเพื่อนที่มีบุญกุศลที่เคยร่วมสร้างกันมาอยู่ด้วยกัน ผมเองนั้นตอนมีชีวิตอยู่ ณ ปัจจุบันนี้ นับว่าเป็นนักคิดและนักประดิษฐ์คนหนึ่งของไทย ที่สามารถสร้างเนื้อสร้างตัวด้วย เริ่มต้นเพียง 940 บาทเท่านั้น จากการเป็น นักคิดและนักประดิษฐ์นี่เอง จึงอยากถ่ายทอดไปให้กับบุคคลต่างๆ ที่ได้อยู่ร่วมโลก เมื่อภพปัจจุบันมีความสุข สมหวังร่ำรวยแล้ว ยังสามารถรารวยไปถึงลูกหลานหรือไม่ อยู่ที่ตัวท่านว่าจะวางแผนต่อไปหรือไม่ ส่วนผมเองนั้น วางแผนแม้กระทังเมื่อแก่ตัวแล้ว ทำกันไม่ไหว ใครจะเลี้ยงเรา ผมมีลูกอยู่ 2 คน ปัจจุบันทั้งสองคนเป็นคนดีของสังคม แต่ต่อไปในภายภาคหน้าเมื่อเขาทั้งสองแต่งงานมีครอบครัวไปแล้วนั้น เขาจะกลับมาดูแลเราอีกหรือเปล่าก็ยังไม่รู้ ฉะนั้นผมจึงหาลูกคนที่ 3 – 4 เพื่อให้ลูกคนที่ 3 – 4 สามารถเลี้ยงผมได้ตลอดไป เช่น ที่ดินให้เช่าอพาร์ตเม้นต์ ที่กินค่าเช่าเป็นรายเดือน หรืองานอะไรก็ได้ที่สามารถมีค่าเช่าที่เราสามารถเก็บเกี่ยวได้ทุกเดือนตลอดไป เจ้าสิ่งนี้แหละคือลูกคนที่ 3 – 4 ที่ผมกล่าวถึง ครอบครัวใคร ครอบครัวมัน ฉะนั้นยิ่งนานปีไป ความห่วงของญาติพี่น้องก็จะห่างกันออกไป ทำให้ ไม่สามารถช่วยเหลือซึ่งกันและกันได้ส่วนการฝังศพ ซึ่งมีพิธีการที่ละเอียดอ่อน มีค่าใช้จ่ายสูงพอประมาณ แต่ให้ผลที่คุ้มค่ากับลูกหลาน เหตุใดจึงกล่าวเช่นนี้ ผมสมมุติฐานว่ามีลูก 5 คนเหมือนกัน และ แต่ละคนต่างแต่งงานมีครอบครัวแล้ว แล้วแยกย้ายกันไปอยู่คนละภาค

    เช่นกัน เมื่อร่างไม่มี การเผา โดยมีการเก็บไว้ที่ฮวงซุ้ย เมื่อถึงเทศกาลหรือ วันเช็งเม้ง ลูกหลานทุกคนต่างมารวมกันเพื่อกราบไหว้ที่หลุมฝังศพ ฉะนั้น หากมีอะไร ย่อมได้รับความช่วยเหลือซึ่งกันและกัน เพราะต่างมีบรรพชนคนเดียวกัน แยกแตกหน่อมาจากบรรพชนคนเดียวกัน ผมจะลำดับเหตุการณ์ให้ท่านเห็นเป็นรูปธรรม โดยสมมุติฐานจำลองภาพเหตุการณ์ให้ท่านผู้อ่านได้ติดตามคือเมื่อวันเช็งเม้งปีหนึ่ง พี่น้องร่วมตระกูลได้นาพาลูกหลานของตนมากราบไหว้บรรพชนของตนที่หน้าหลุมศพ เมื่อมาพร้อมหน้าพร้อมตาก็มีการสวัสดีทักทายกันตามประสาผู้น้อยเคารพผู้ใหญ่ส่วนผู้ใหญ่ย่อมมีการกล่าวทักทายถึงความเป็นอยู่ของลูกหลาน ในช่วงแรกๆ ต่างคนต่างสร้างตัว ยังคงไม่มีอะไรที่จะช่วยเหลือกันมากนัก เพียงแต่แนะนำ ชี้แนะ ข้อคิดในการสร้างเนื้อสร้างตัวกันมากกว่า แต่เมื่อนานไป บางคนทำแล้วรวย บางคนทำแล้วขาดทุน ส่งผลแม้กระทั่งลูกหลานตัวเองยังไม่มีปัญญาส่งเรียน แต่เมื่อมากราบไหว้บรรพบุรุษในปีต่อมา พบญาติผู้ใหญ่มีฐานะพอที่จะช่วยเหลือเรื่องการเรียน ซึ่งการขอต่อหน้าหลุมศพบรรพชนย่อมได้รับการช่วยเหลืออย่าง ไม่มีเหตุผลใดๆ มาเป็นข้ออ้างได้ คนเราเมื่อได้ร่ำเรียน ท่านผู้อ่านคงทราบดีว่า การทำอะไรย่อมได้ดีกว่าคนที่ไม่ได้เรียน ผมยังมีคำอธิบายต่อไปอีกด้วยว่า เมื่อเรียนจบมาแล้ว ยังสามารถช่วยงานญาติผู้ใหญ่ที่มีฐานะดีกว่า โดยสามารถช่วยงานสตาร์ทเบื้องต้นก็เป็นผู้ช่วยผู้จัดการแล้ว แต่ถ้าไม่ใช่ญาติก็คงสตาร์ทที่เสมียน การเป็นผู้ช่วยผู้จัดการกับเสมียนมันต่างกันตรงไหน คุณพอทราบไหมครับผู้ช่วยผู้จัดการสามารถรับรู้ข้อมูลจากทุกฝ่ายของโรงงาน ส่วนเสมียนไม่จาเป็นต้องรับรู้ การรับมอบหมายงาน ผู้ช่วยผู้จัดการย่อมได้รับมอบหมายงานที่สำคัญๆ และยังคงได้รับคำชี้แนะในการที่จะต้องไปปฏิบัติงานให้เกิดผลสำเร็จอีกด้วย เห็นแล้วหรือยังว่า 2 คนนี้ใครได้เปรียบเสียเปรียบ เสมียนทำผิดโดนไล่ออก แต่ผู้ช่วยผู้จัดการทำผิด อาจได้รับการอภัย เพราะยังไงก็เป็นญาติ เมื่อสองคนนี้ทำงานไปพร้อมๆ กัน แต่อีกคนหนึ่งมีหน้าที่ส่งข้อมูลของตนให้ผู้ช่วยผู้จัดการ ท่านลองคิดดูว่า ใครจะฉลาดกว่ากัน แล้วท่านลองคิดต่อว่า ทั้งสองคนนี้เมื่ออยู่เป็นลูกจ้างไปได้ระยะหนึ่ง ออกไปตั้งร้านหรือเปิดบริษัทของตัวเอง ใครจะได้ดีกว่ากันเห็นประโยชน์ของการฝังหรือยัง นี่เป็นเพียงตัวอย่างเดียวที่ผมยกมาให้เห็นยังมีอีกมาก ผมยังไม่ได้ยกตัวอย่างอีก ถึง ห้าพี่น้องถึงจะรวยทุกคน โดยไม่มีลูกหลานคนไหนที่ต้องขอความช่วยเหลือ แต่ลูกหลานห้าพี่น้องนี้อาจลงขันหุ้นส่วนกันทาโรงงานที่เกินตัว ซึ่งลูกหลานห้าพี่นองก็สามารถทาได้อีกเช่นกัน เมื่อทำงานใหญ่ ผลตอบแทนย่อมสูงเป็นธรรมดา ความร่ำรวยและยั่งยืนย่อมคู่ตระกูลไม่น้อยกว่า 5 ชั่วคน บางท่านอาจกล่าวโต้แย้งผมก็เป็นได้ว่า บ้านผมทำฮวงซุ้ยเหมือน ที่ผมกล่าวมาตั้งแต่ต้น ทำไมไม่ร่ำรวยหรือมีการช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ผมต้องขอถามกลับไปว่า เมื่อท่านไหว้บรรพบุรุษท่านเสร็จแล้ว ต่างคนต่างรีบกลับบ้านใครบ้านมันเลยหรือไม่ เพราะประเทศไทยนั้น เดือนเมษายนนั้นโคตรร้อนเลยก็ว่าได้ ส่วนของตระกูลว่องไวกลยุทธ์ของผมแล้วนั้น เมื่อไหว้เสร็จ ผมในฐานะพี่ชายคนโต สั่งห้าลูกหลานไปไหนทั้งหมด ต้องไปกินโต๊ะร่วมกันทั้งหมดก่อน จึงค่อยแยกย้ายกันไป ซึ่งในระหว่างกินโต๊ะจีนนั้น ก็มีการพูดคุย ถามสารทุกข์สุขดิบกัน มีการแจกของรางวัลให้กับลูกหลาน ทุกคนที่มาร่วมกิจกรรม เพราะเตี่ยผมสร้างกองทุนไว้ให้เรียบร้อย โดยมีที่ดินให้เช่าปลูกอ้อย แต่ทุกคนไม่มีใครสนใจด้านการเกษตร จึงให้เขาเช่าปลูกอ้อย แล้วนาเงินค่าเช่านี้เป็นกองทุนให้แก่ลูกหลานว่องไวกลยุทธ์ ทำกิจกรรมกัน ทุกปี ณ ตอนนี้พี่น้องของผมร่ำรวยกันทุกคนจากการช่วยเหลือซึ่งกันและกันตัวผมเองในฐานะผู้เขียน ได้เห็นประโยชน์ของการฝังศพ โดยใช้หลักวิทยาศาสตร์มาจับ ก็ยังเห็นว่าดีหลายอย่าง จึงลงทุนไปศึกษาการฝังศพของประเทศจีนและอียิปต์ ซึ่งแต่เดิมนั้น เขาทำกันยิ่งใหญ่มาก การฝังศพของจีนเมื่อ 1,000 ปีที่แล้ว และทางการจีนสามารถขุดพบ ทำให้เราสามารถทราบประวัติศาสตร์ของคนโบราณได้เป็นอย่างดี ส่วนของอียิปต์นั้น การขุดพบว่าเขาเหล่านั้นเสียชีวิตมาเมื่อ 3,000 ปีที่แล้ว โดยมีการห่อหุ้มด้วยการทำมัมมี่ แล้วยังมีคำทำนายไว้อีกว่า อีก 4,000 ปี เขาจะกลับมาเกิดใหม่ ซึ่งคำทำนายนั้นอาจเป็นจริงก็เป็นได้ เพราะตอนนี้วิทยาศาสตร์เราสามารถโคลนนิ่งได้แล้ว เพียงมีเนื้อเยื่อปลูกถ่าย ความเจริญทางวิทยาศาสตร์จะสามารถทำอะไรได้หลายอย่างที่เราคาดไม่ถึงท่านผู้อ่านที่เคารพ ปัจจุบันผมได้ค้นพบวิธีทำให้ศพไม่เน่าเปื่อย อย่างน้อย5 ปี คือตอนที่แม่ยายผมเสียชีวิต ตอนนั้นมาอยู่และเสียชีวิตที่บ้านของผม ผมจึง
    เป็นคนจัดงานศพของท่าน โดยหมอบอกว่าท่านไม่ไหวแล้ว ให้เอากลับบ้าน เมื่อท่านกลับมาถึงบ้านไม่เท่าไหร่ ท่านก็จากไปอย่างสงบ บรรดาลูกหลานก็หาข้อสรุปได้ว่าจะให้ฝังหรือเผา ผมในฐานะลูกเขย เลยตัดสินใจบอกให้เก็บไว้ก่อน แล้วค่อย

    ตัดสินใจภายหลัง หลังจากที่สัปเหร่อจะมาฉีดศพกันศพเน่า โดยไปซื้อฟอร์มาลีนที่ร้านขายยามา 3 ขวดสัปเหร่อมาบอกผมว่าฉีดไป 2 ขวด ครบทั่วร่างกายแล้ว เขาถามผมว่าเหลืออีก 1 ขวด ให้เขาเอาไปคืนหรืออย่างไร ผมเลยบอกว่าเอามาแล้วฉีดให้หมดไป สมัยนั้นเพิ่งมีโลงเย็นเข้ามาใหม่ๆ เมื่อฉีดยาครบทั้ง 3 ขวดแล้ว ก็นำร่างอันไร้วิญญาณใส่ไว้ในโลงเย็นโดยไม่คิดอะไร งานศพผ่านไปด้วยดี ศพไม่มีกลิ่นเหม็นออกมาเลย จนนำร่างของท่านพร้อมโรงไม้ไปเก็บไว้ในโกดังอิฐที่ วัดอู่ยา จังหวัดสุพรรณบุรี จนเวลาผ่านไป 5 ปี ลูกหลานก็มีมติให้นำร่างของท่านขึ้นมาเผา
    ซึ่งสมัยนั้นก็ยังหาสุสานที่ดีไม่ได้ จึงตามใจบรรดาลูกๆ หลานๆ ของท่าน ซึ่งผมเป็นแค่ลูกเขย จึงไม่ออกความคิดเห็น และทำตามมติที่เขาตกลงกัน ผมจึงจัดงานพิธีเผาศพของท่านขึ้นมาอีกครั้ง และเป็นที่น่าแปลกใจคือ โลงไม้นั้นผุไปทั้งหมด แต่รางกายของทานไม่เนาเปื่อยเลย แม้แต่เส้นผม ดวงตาของท่านอยู่ครบ ยกเว้นเสื้อผ้าของท่านเก่ามากเลย ซึ่งตอนนั้นผมก็ยังไม่ได้คิดอะไรมาก จนกระทั่งไปศึกษาที่ประเทศอียิปต์ ที่มีการทำมัมมี่ เขามีพิธีกรรมอันยิ่งใหญ่ จึงฉุกคิดวิธีรักษาศพให้เป็นอมตะด้วยวิธีนี้ และยังคิดถึงวิธีทาโลงศพไม่ให้ผุง่ายซึ่งของอียิปต์เขาเป็นโลหะ สาหรับคนรวยสมัยนั้น ส่วนกษัตริย์เขาใช้โลงทองคำ แต่ของเราถ้าจะให้โลงไม่ผุง่าย เขาใช้โลงไม้จริง เช่น โลงไม้มะค่า หรือไม้ประดู่ ซึ่งเป็นไม้เนื้อแข็ง แต่ปัจจุบันจะหาไม้เนื้อแข็งได้ที่ไหน คือต้องหามาทั้งต้นแล้วนำมาขุด จึงจะได้โลงที่แข็งแรงทนทาน ปัจจุบันผมเห็นเขาทาโลงศพชนิดฝัง ก่อนพ่นสี เขาเอาไม้จามจุรีมาประกอบ แล้วเอาสีโป๊มาเก็บรอย ผมเชื่อว่าฝังดินไม่กี่ปีก็ผุหมดแล้ว แต่ถ้าเราต้องการให้โลงศพนี้ไม่ผุเป็นร้อยปี ผมจึงคิดว่าวัสดุไฟเบอร์กลาส สามารถเอามาทำเป็นโลงศพได้ และสามารถมีความคงทนได้หลายร้อยปียิ่งฝังอยู่ ใต้ดิน ยิ่งอยู่นานเคล็ดลับของโลง คือ ด้านล่างของโลงต้องเป็นไม้ที่มีความหนาไม่น้อยกว่า 2 นิ้ว ท่านผู้อ่านที่เคารพ ผมคนหนึ่งที่มองเห็นการฝังกับการเผาต่างกันราวฟ้ากับเหว
    จึงได้ลงทุนในการทาสุสานเพื่ออยู่อย่างถาวรตลอดไป ที่หมู่บ้านลำอีซู ตำบลหนองรีอำเภอบ่อพลอยจังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งทำเลที่ผมหาให้นั้น ต้องบอกว่าเป็นสุดยอดทำเลฮวงจุ้ยเลยก็ว่าได้ คือด้านหลังทิศใต้ มีภูเขา 3 ลูกเรียงเป็นหน้ากระดาน หรือที่ตำราจีนเรียกว่า เต่าดำ ด้านหน้าติดอ่างเก็บน้ำลำอีซู ซึ่งเป็นพี้นที่ลาดเอียงไปจนถึงอ่างเก็บน้ำ ส่วนด้านตรงข้ามกับอ่างเก็บนาอีกฝั่งหนึ่งนั้นก็เป็นพื้นที่ลาดเอียงกลับเข้ามาที่อ่างเก็บน้ำอีกเช่นกัน ตามตำราจีนเรียกว่า เนินหงส์แดง ส่วนด้านขวามือมีภูเขาใหญ่อีกหนึ่งลูก ที่ตำราเรียกว่าทิศ เสือขาว ด้านซ้ายมือ มีภูเขาเรียงทอดยาวไปกว่า 10 กิโลเมตร ที่ตำราเรียกว่าทิศ มังกรเขียว การจะหาที่ดินได้ตามลักษณะฮวงจุ้ยนี้ นับว่ายากมากๆ เพราะบางคน หาที่มีน้ำ ก็ไม่มีภูเขา บางที่ก็มีภูเขาแต่ไม่มีน้ำ หาที่ได้ทั้งน้ำและภูเขาก็เป็นที่ดินอุทยาน ไม่มีโฉนด แต่ที่ผมหาได้ในจำนวน 365 ไร่นี้ มีทั้งน้ำ ทั้งภูเขา และ นส. 3 ให้คนที่มีมีวาสนามากเพียงใด ได้ที่ดิน ทำเลแบบที่ผมกล่าวมาข้างต้นนี้ ก็ยังคงผ่านด่านการขออนุญาตประกอบกิจการสุสานอีก ซึ่งทางราชการไม่ยอมออก ใบอนุญาตสุสานมาเกือบ 20 ปี แล้ว แต่ผมมีใบอนุญาตเพื่อประกอบกิจการสุสานได้ ซึ่งทาให้ที่ดินแปลงนี้สมบูรณ์ที่สุด ผมจะขอเล่าประวัติที่ดินของผมทั้ง 4 แปลงนี้ ว่ามีความเป็นมาอย่างไร แปลงที่ 1 คือ ภรรยากำนันหยิบ ยิ้มใหญ่หลวง ซึ่งเป็นผู้กว้างขวาง ในเขตลำอีซู สมัยนั้น ผมได้มาเพราะท่านแก่มากแล้ว ต้องการเงินไปใช้สอยยามแก่ แปลงที่ 2 คือ หมอพงษ์ (นายแพทย์สุรพงษ์ ตันธนศรีสกุล) หรือ สว.เลือกตั้งจังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งผมเองไม่กล้าไปขอซื้อที่ดินของท่านอย่างแน่นอน แต่ท่านบอกนายหน้ามาหาผมว่าจะขายที่ให้ผม เพราะใกล้เลือกตั้ง บางทีต้องใช้เงินค่าป้ายโฆษณาหาเสียง ผมเลยได้ที่ดินแปลงนี้มา โดยไม่คาดฝัน แปลงที่ 3 เจ้าของอยู่อเมริกา พอดีกลับมาเที่ยวเมืองไทย ผมเลย ขอซื้อท่านก็ให้ผมแบบง่ายๆ เช่น แปลงที่ 4 อดีตแม่ทัพภาค 9 คือ ท่านพลโทรวมศักดิ์ ไชยโกมินทร์ ไม่รู้เป็นอย่างไร มาถูกชะตากับผมบอกที่ดินของท่านขายให้ผม โดยให้ผ่อนอีก 3 ปีท่านเห็นที่มาของที่ดินทั้ง 4 แปลง นี่คือผู้มีบุญหนักศักดิ์ใหญ่กันทั้งนั้น ผมคิดว่าที่ดินผืนนี้จะเป็นที่อยู่แห่งสุดท้ายของผมตลอดไป
    ทำไมผู้รู้ หรือซินแส ต้องหาที่ดินด้านหลังเป็นภูเขา ด้านหน้ามีน้ำ และต้องมีภูเขาเป็นแขนทั้งสองข้าง ที่ตำราเรียกว่า เสือขวา กับมังกรเขียว ผมขออธิบายความเชื่อที่มีกันมาเป็น 1,000 ปี ดังนี้ครับ
    ภูเขาด้านพิง หมายถึง ผู้มีอำนาจ และบารมี
    ด้านหน้าที่มีแหล่งน้ำ หมายถึง ทรัพย์สิน เงินทอง
    ภูเขา ซ้าย ขวา สมมุติว่า เรานั่งเก้าอี้ที่มีแขนกับเก้าอี้ไม่มีแขน แบบไหนนั่งสบายกว่ากัน และมีความสง่า-ราศี มากกว่ากัน
    ฮวงซุ้ยส่วนใหญ่ ที่เราเห็นทั่วไป จะติดที่มีน้ำแต่ไม่มีภูเขา ท่านลองสังเกตจะเห็นว่า ลูก หลาน เหล่านั้น จะเป็นผู้มีอันจะกิน ส่วนฮวงซุ้ยที่บรรพชน ไปฝังไว้กับบริเวณที่มีภูเขาจะสังเกตได้ว่า ลูก หลาน จะรับราชการ ฉะนั้นจะเห็นจากข้อสังเกต พ่อค้าจะมีเงินแต่ไม่มีอำนาจ ข้าราชการมีอำนาจแต่ไม่มีเงิน แต่ถ้าท่านสังเกตต่อไปกับบุคคลที่นำร่างบรรพชนไปฝังไว้ที่มีภูเขาและแหล่งน้ำ ลูกหลานกลุ่มนี้ จะเป็นนักการเมืองปกครองประเทศ จึงมีทั้งอำนาจและเงิน ควบคู่กันไปทั้งสองอย่าง ซึ่งผมกว่าจะได้ที่แปลงนี้มา ผมเสาะหาอยู่หลายปี ถึงผม และดำเนินการขออนุญาตจัดตั้งและดำเนินการสุสาน จนได้รับใบอนุญาตมาเรียบร้อย จึงอยากเชิญชวน ผู้มีวาสนา – บารมี มาอยู่ร่วมกัน ณ สถานที่แห่งนี้ ในวาระสุดท้ายของชีวิต

    สนใจปรึกษา หรือ สมัครตัวแทน inbox หรือ 090-9959945

    จองก่อนเลือกทำเลดีๆก่อน
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  2. บวก ลบ คูณ หาร

    บวก ลบ คูณ หาร สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2018
    โพสต์:
    6
    ค่าพลัง:
    +5
  3. Artwork

    Artwork สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 พฤษภาคม 2018
    โพสต์:
    1
    ค่าพลัง:
    +3
    เยี่ยม...!!!
     

แชร์หน้านี้

Loading...