หุ่นยนต์สังหาร

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย th258258, 16 ธันวาคม 2019.

  1. th258258

    th258258 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    101
    ค่าพลัง:
    +119
    #นี่คือสาสน์เบื้องบนในการเตรียมพร้อม

    #แม้นไม่เกิดแต่เบื้องบนอาจจะให้ทุกคนที่ครั้งนึงได้เกิดเป็นมนุษย์สะสมบุญให้มากยิ่ง

    ขอให้ทุกคนฝึกสมาธิสักนิดนึงหมั่นสวดมนให้มากๆใครที่มีของเก่าติดตัวจะแรงหรือไม่ดีไม่ดีแต่พวกท่านเคยฝึกสมาธิในจิตเดิมที่กำลังหลับใหลขอให้หมั่นฝึกให้มากขึ้นสิ่งที่เจอกันสิ่งต่างๆในต่างภพที่มาเตือนมาให้เห็นทั้งนิมิตหรือฝันอื่นๆเป็นต้น ท่านต้องการให้เราทุกคนเร่งสะสมสะเบียงบุญ และคนที่มีภารกิจต่างๆตอนนี้มักจะถูกเหล่าสิ่งไม่ดีพยายามหยุดไม่ให้หลายคนไม่กล้าทำดี

    นี่คือข้อความที่จะมาเตือน ก่อนที่ทุกอย่างสายไป กล้าทำดีมากขึ้นกล้ากราบเท้าพ่อแม่จะแอบกราบหรือกราบให้รู้กราบทุกสิ่งที่มีบุญคุณแค่ยกมือไหว้ก่อนไปทำงานในทุกๆวันแม้จะมีท่านหรือไม่มีแค่จิตระลึกถึงพวกท่านท่านก็รับรู้แล้ว

    ทำสมาธิแค่หลับตาพุทโธยาวๆช้าๆหรือทำแบบของคุณที่เคยทำทำให้มากขึ้นสวดมนให้มากขึ้นจะนั่งนอนยืนเดินสามารถทำได้จะในใจรึออกเสียงได้หมดแค่คำว่านะโมพุทธายะหรือคำสั้นๆหรือบทนะโมบทอื่นๆได้หมด และแผ่ให้สิ่งที่คุ้มครองคุณให้พวกท่านช่วยยามคุณเจอภัยต่างๆ

    และโปรดใช้วิจรณญานในการอ่านข้อความต่อไปนี้ถึงแม้ไม่เกิดอย่างน้อยเป็นวิธีสร้างบุญไปในตัวดีกว่าตื่นตระหนกเหมือนเหตุการณ์โลกแตกสุดท้ายของที่ตุนก็เสียบ้านที่ขายเพราะตระหนก

    จงมีสติ ทุกภัยพิบัติมีทางบรรเทา

    ปัจจุบันการผลิตและพัฒนาaiและหุ่นยนต์มีประโยชน์อย่างมากในทางการแพทย์เช่นหุ่นยนต์มือจะนิ่งกว่าคนในการส่องกล้องเพื่อผ่าตัดเป็นต้น แต่ถึงกระนั้น ถ้าทุกสิ่งคือหยินหยางงั้นมักมีดาบ2คม เพราะมีข่าวว่ามีทางการทหารพัฒนาอาธุวอิสระแบบใหม่อย่างหุ่นยนต์สังหารแต่ทางการกำลังสกัดทำลายแบบแผนและโครงการที่กำลังจะสร้าง

    นี่คือชุดจิ๊กซอที่ผมต่อ ชุดนี้ชื่อ สัมภเวสีสิงหุ่นยนต์

    ถ้ามันได้ถูกสร้างหุ่นยนต์เปรียบเสมือนหุ่นเจ้าพ่อเจ้าแม่ที่เห็นตามศาลแต่มันขยับได้เพราะคือหุ่นยนต์และในตัวหุ่นยนต์มีวงจรไฟฟ้าสายไฟและสิ่งต่่งๆเพราะมีนักพลังจิตหรือพิธีต่างๆเช่นการรวมตัวหมู่ต่างๆเพื่อส่งกระแสพลังจิตพุ่งตรงไปยังมหาจักวาลแต่ต้องมีทองแดงผสมเช่นคณะกลุ่มอาจารย์บูรพาที่นำนักพลังจิต108คนเพื่อส่งพลังกระแสไปจักวาลแต่ในลานต้องมีทองแดง ค้นหาเพิ่มเติมได้ในgoigleท่านชื่ออ.บูรพาผดุงไทย หนังสือชื่อประตูเวลา

    และพระเกจิบางท่านใช้จิตที่ถูกฝึกในการหยุดเครื่องยนต์หรือทำให้รวนได้ถ้าหุ่นยนต์เหล่านั้นลุกมาสังหารการฝึกจิตบ่อยๆอาจทำให้วงจรหรือไฟฟ้าเครื่องยนต์ในตัวหุ่นยนต์นั้นๆรวนชั่วขณะได้ และลองสังเกตรถมักดับดื้อๆตามวาระหรือไฟดับๆติดๆขณะคุณรู้สึกนั้นที่แรงบางคนรู้ตัวหรือไม่รู้ตัว

    ถ้าทั้งพีระมิดที่วงกว้างค่อยๆบีบสูงแต่คือยอดหรือเรียกฐานสู่ยอด พีร์ อามอุส คือพลังพุ่งตรงส่งไปบนฟ้า แสดงว่าคนเราเช่นกันรวบรวมพลังธาตุทั้ง4เพื่อส่งสู่ฟ้าหรือการทำดีพลังบุญจะพุ่งหรือทำชั่วออร่าความชั่วจะออก

    (ผมขอไม่เรียงตัวจิ๊กซอ)

    #ต่อไปนี้คือข่าวต่่างๆ ทั้ง๓แหล่ง ว่ามันสามารถเกี่ยวข้องกันได้และแหล่งที่ว่าพลังจิตหยุดเครื่องยนต์ทำให้รวนก็คือทาวบรรเทาในอีกทางแม้ไม่เกิดกับรุ่นเราแต่ถ้าให้ลูกค้ากล้าทำดีสร้างบุญพลังบุญจะส่งให้จิตมีพลังบุญและอาจขับไล่สิ่งที่ไม่ดีแก่แผ่นดินได้

    แหล่งข่าวที่๑อันนี้เข้าไปอ่านลิงค์เอาเอง(จิ๊กซอหุ่นยนต์สังหาร)ถ้าผีสามารถสิงได้ทุกอย่างนับประสาอะไรกับหุ่นยนต์ถ้ามนุษย์ใช้ในการฆ่าวิญญานคนถูกฆ่าอาจแค้นและสิงหุ่นยนต์และอาจเป็นแผนการพวกมารปีศาจที่ไม่ให้เราสร้างบุญเพราะคนมีพลังบุญจะน้อยลงพวกมันสามารถทำอะไรได้สะดวกมากขึ้น

    ลิงค์ข่าวหุ่นยนต์ครับ
    https://www.khundee.com/การพัฒนาอาวุธ-ai/

    ##

    การฝึกพลังจิต

    การฝึกใช้พลังจิตเล่นฤทธิมีมานานตั้งแต่อดีตนับพันปี เป็นเรื่องจริงที่ไม่ต้องสงสัยจากอดีตนักบวชฤาษีโยคีจนถึงปัจจุบันนักจิตวิทยาและนักวิทยาศาสตร์ ศึกษาเรื่องพลังจิต โดยเฉพาะการนำพลังจิตมาใช้ บันทึกคัมภีร์ทางพุทธศาสนา่เขียนวิธีการฝึกจิตให้มีฤทธิ นึกคิดเป็นไปตามความต้องการ เรียกว่ามโนมยิทธิ อิทธิวิธี ดังเช่นตำราจิตตานุภาพ ,ทิพยอำนาจ,วิสุทธิมรรค,ไตรปิฎก อธิบาย วิธีการฝึกจิตอย่างละเอียดเป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นอย่างมีเหตุผล

    จิตเป็นกระบวนการทำงานของสมอง ที่รับรู้สิ่งต่างๆทั้งภายในและภายนอกร่างกาย มีกระบวนการ รู้ จำ คิด รู้สึก ซึ่งใช้พลังงานไฟฟ้าขนาดต่ำ หรืออาจกล่าวได้ว่าจิตเป็นพลังงานนั้นเอง การฝึกจิตจึงเป็นกระบวนการฝึกใช้สมองควบคุมกระบวนการทำงานของสมอง พลังจิต เป็นพลังสมองที่ฝึกให้เกิดผลขึ้น เช่น การฝึกเพื่อมีพลังจิตคุ้มครองตนและสิ่งที่ต้องการ(วัตถุมงคล,บุคคล), การฝึกเพื่อสำแดงฤทธิผลาดแผลงสยบศัตรู และให้เกิดความเลื่อมใสศรัทธา,การสะกดจิตควบคุมความคิดบำบัดอาการและรักษาโรค

    พลังจิตที่สำคัญที่สุดคือการฝึกเพื่อให้เกิดความฉลาดรู้แจ้งเห็นจริง(ปัญญา:ญาณทัสนะ)รอบรู้ทุกสรรพสิ่งจนถึงขั้นพ้นความทุกข์อยู่เหนือโลกแห่งการเวียนว่ายตายเกิดเป็นอมตะซึ่งจะเรียกว่าอยู่กับพระเจ้า หรือ นิพพาน สงบเย็นก็ได
    การใช้พลังจิตในทางที่ผิดจะก่อเภทภัยแก่ตนเอง การใช้พลังทำลายล้างก่อเวรกรรมดังเช่นผู้ใช้ไสยเวทในทางที่ผิดมักประสบเคราะห์กรรมไม่ตายดี ไสยเวทย์เป็นการใช้พลังจิตผ่านคาถาอาคมหรือเวทย์มนตร์ การท่องคาถานั้นจัดเป็นการรวบรวมพลังจิตเพื่อใช้ให้เกิดผลที่ตนต้องการมักเป็นไปในทางไม่ดีเนื่องจากไม่ทราบเหตุผลแห่งการกระทำที่แท้จริงจึงเรียกเวทมนต์ของผู้ไม่รู้หรือผู้หลับไหล ส่วนพุทธมนต์เป็นคำสอนของผู้รู้ผู้ตื่น บทสวดเพื่อท่องจำวิธีปฏิบัติและคำสอนที่ช่วยให้ผู้สวดเข้าใจวิธีปฏิบัติเพื่อพ้นทุกข์และสามารถถ่ายทอดยังคนรุ่นต่อไป ดังนั้นผู้ฝึกพลังจิตควรมีความปกติ(ศีล)ไม่เบียดเบียนทำร้ายผู้อื่นเพื่อคุ้มครองตนและทำให้การฝึกจิตได้ง่ายหรือเกิดความฉลาดรอบรู้ วิธีการเอาชนะโดยไม่ใช้กำลังและการฆ่าฟันเบียดเบียนผู้อื่น รวมทั้งเข้าสู่ความเป็นอมตะเหนือการเวียนว่ายตายเกิด
    จิต(สมอง)ที่ฝึกแล้วมีพลังที่สามารถควบคุมทุกสรรพสิ่งทั้งภายในและภายนอกร่างกาย ทั้งมวลสารและพลังงาน ควบคุมการ เปลี่ยนแปลงพลังงานและมวลสารตามความต้องการ เป็นได้ดังใจนึกคิด(มโนมยิทธิ) และสามารถแสดงฤทธิ (อิทธิวิธี)

    ขั้นตอนการฝึก
    1.ควบคุมความคิดให้สงบจากเคลื่อนไหวของร่างกายและจิตใจที่ไม่หยุดนิ่ง มีสติรู้เท่าทันต่อความคิดต่างๆที่เกิดขึ้น หยุดการคิดปรุงแต่งที่ต้องใช้พลังงาน ด้วยการนั่ง นอนหรืออิริยาบถที่สะดวก ฝึกในสถานที่สงบเหมาะสมกับตนเอง การฝึกสมาธิ(Meditation)มีสติรู้สึกตัว รู้ว่าคิดเรื่องอะไรหรือไม่คิด
    2.ทำจิต(สมอง)ให้ปรอดโปร่งจากสิ่งดึงรั้งคืออารมณ์ต่างๆที่ไม่น่าปราถนา
    แก้ไขอารมณ์ที่ทำให้สูญเสียพลังไปกับการคิดต่างๆที่ไม่เกิดประโยชน์ โดยคิดในทางตรงข้าม
    แก้ความโกรธด้วยความรัก
    แก้ความสงสัยด้วยศรัทธาความเชื่อที่ดีและถูกต้อง
    แก้ราคะสุภะด้วยวิราคะ อสุภะ
    แก้ความง่วงด้วยการตื่น(เพ่งแสงสว่าง)
    แก้ความฟุ้งซ่านด้วยความสงบ
    สรรพสิ่งมีสองด้านหากด้านใดมากไปก็แก้โดยเพิ่มด้านตรงข้าม เพื่อเข้าสู่สมดุลสภาวะปกติที่จิตสงบปรอดโปร่ง เย็นสบาย ไม่ร้อนรนด้วยสิ่งผูกรัดดังกล่าว จึงสามารถใช้จิตสร้างพลังงานที่ก่อให้เกิดฤทธิต่างๆได้โดยง่าย
    3.รวบรวมพลังจิต เมื่อทำจิตให้เกิดสมาธินิ่งสงบจากความคิดต่างๆสร้างภาพในใจ(มโนภาพ)โดย
    กำหนดให้จิตคิดติดอยู่กับฐานที่กำหนด :ลมหายใจ ร่างกาย หรือวัตถุ
    เพ่ง วัตถุธาติ ดิน,น้ำ,ลม,ไฟ ,สีเขียวแดงเหลืองขาว ,อากาศ ,ความสว่าง
    4.สร้างพลังจิตให้แรงกล้า ด้วยการฝึกดังกล่าวจนมีสมาธิโดยไม่ต้องนั่งหลับตา มีจิตสงบนิ่งเข้มแข็งในทุกอิริยาบถของการเคลื่อนไหว ร่างกายเคลื่อนไหวแต่จิตหยุดนิ่งอยู่กับมโนภาพ(วัตถุ รูป)ที่เพ่ง เช่น เพ่งจนไม่ต้องเพ่งวัตถุอีกต่อไป ก็สามารถกำหนด ให้เห็นดิน น้ำ ลม ไฟ สีต่าง อากาศ แสงสว่าง แม้ในเวลาหลับตาหรือลืมตาทุกอิริยาบถ การเพ่งกสิณ ทำให้เล่นฤทธิต่างๆ เช่น กำหนดให้เกิดน้ำ ฝนตกมีสีแดง(ฝนโบกขรณี) เกิดจากการเพ่งน้ำและสีแดง จนมีพลังควบคุมวัตถุธาตุให้เกิดน้ำสีแดงในอากาศ ดังเช่นที่พระพุทธเจ้าทรงทำให้ญาติเกิดศรัทธาจากการเล่นฤทธิ
    5.การใช้พลังจิต(สำแดงฤทธิ) พลังจิต(การใช้พลังไฟฟ้าสมอง)กำหนดและควบคุมสรรพสิ่งให้เป็นไปตามที่ต้องการ การปล่อยคลื่นกระแสไฟฟ้าจากสมองผ่านหน้าผากสุ่ภายนอกเพื่อเกิดการเปลี่ยนแปลงตามที่ต้องการ เช่น

    ๑.เกิดความฉลาดรู้แจ้งทุกสรรพสิ่ง ฝึกคิดอย่างมีเหตุผล แก้ไขปัญหาคือความไม่รู้ด้วยการแสวงหาความรู้จริง เมื่อฝึกคิดมากขึ้นจะเกิดความชำนาญในการใช้ความคิดแก้ปัญหาเกิดความรอบรู้

    ลิงค์ข้อความเต็มๆครับ
    http://www.ebrain1.com/braintraining psychopower.html

    #####
    http://www.baanjompra.com/webboard/thread-2673-1-1.html
     

แชร์หน้านี้

Loading...