"หวานอมขมกลืน"

ชาวไทยบางกลุ่มที่ถูกซื้อตัวโดยภายนอก เพียงเพื่อให้เขาใช้เป็นเครื่องมือในการบั่นทอนบ้านเกิดเมืองนอนของตนอย่างทุกวันนี้ บางทีเราก็จะไปโทษพวกเขาทั้งหมดก็คงไม่ถูก การเกิดปัญหาดังกล่าว มันเริ่มมาจากพวกผู้ใหญ่บางกลุ่มที่มักใหญ่ใฝ่สูง เน้นว่าเพียงบางคนบางกลุ่ม โดยเฉพาะคนที่มีกำลังทรัพย์กำลังพล ในขั้นที่สามารถก่อเหตุได้ พวกผู้ใหญ่กลุ่มดังกล่าว ได้ขายตัวขายวิญญาณให้แก่พวกนอกประเทศที่เป็นชนชาติอื่น เพียงเพื่อผลประโยชน์ของตน การขายชาติบ้านเมืองจึงเกิด ทุกวันนี้นอกจากสงครามในแบบ ที่ใช้อาวุธยุทโธปกรณ์ในการสู้รบกันแล้ว ก็ยังมีสงครามนอกแบบต่างๆ อย่างสงครามเศรษฐกิจ ที่พวกล่าอาณานิคมมักใช้กันในปัจจุบัน(เพราะการล่าอาณานิคมแบบเก่าที่ใช้กำลังนั้นทำได้ยากแล้วในทุกวันนี้) พวกเขาเน้นการถือหุ้น เป็นเจ้าของบริษัท เจ้าของบ้าน เจ้าของที่ดิน ในดินแดนอื่น รวมไปถึงการแทรกแซงสนับสนุนองกรณ์กลุ่มต่างๆในพื้นที่เป้าหมาย เพื่อให้พวกเขาได้ผลประโยชน์ตามที่ต้องการ รวมไปถึงการซื้อตัวคนในพื้นที่เป้าหมายไปเป็นพวกลิ่วล้อพวกเขาด้วยเช่นกัน แนวคิดปัจจุบันของยุคโลกเสรี เราไม่สามารถที่จะปฏิเสธได้ว่า บางกลุ่มบางคนนั้น เขาไม่ได้ยึดถือสัญชาติความเป็นชนชาติใดชนชาติหนึ่ง หากแต่พวกเขาถือชนชาติ "ชาวโลก" และถืออิสระว่าจะพำนักพักพิงที่ไหนที่ใดในโลกก็ได้ โดยตัดการยึดถือสัญชาติไปด้วยเช่นกัน แต่ถึงกระนั้น ก็ควรมีความกตัญญูต่อบ้านเกิดเมืองนอนที่เป็นแผ่นดินเกิดของตนด้วย(ความกตัญญูเป็นคุณสมบัติของคนดี) แน่นอนว่าบางคนบางกลุ่ม ได้เข้าร่วมกลุ่มกับกลุ่มชนที่ยึดถือแนวคิดดังกล่าว(ถือสัญชาติชาวโลก) โดยมีอุดมการณ์มุ่งเน้นไปที่ผลประโยชน์ของกลุ่ม แน่นอนว่ากลุ่มดังกล่าวโดยส่วนใหญ่หาใช่คนไทยไม่ และอุดมการณ์การถือสัญชาติชาวโลกนั้น ก็อาจเป็นเพียงหน้าฉากที่สร้างขึ้นเพียงเพื่อให้แลดูดีเท่านั้น เพราะพวกเข้าเหล่านั้น ต่างก็เน้นการกระทำเพื่อช่วยเหลือค้ำจุนประเทศบ้านเกิดเมืองนอนของตนเป็นหลัก แต่หาใช่กับคนฝั่งเราที่ไปเข้ากับพวกเขาไม่ เพราะคนฝั่งเรานั้น เขามีความฝันที่ยิ่งใหญ่ที่เป็นฝันที่ดูอย่างไรก็เป็นความเพ้อฝันที่เพ้อเจ้อ และไม่มีความเป็นไปได้ ฝันนั้นคือการได้เป็นใหญ่(อันดับ 1)ของเมืองไทย นั่นคือการล้มล้างระบบของไทย(ที่เป็นอยู่) ซึ่งเขาต้องการที่จะเปลี่ยนรูปแบบระบบเดิม(ที่ดีอยู่แล้ว) ให้เป็นไปตามที่เขาฝัน นั่นคือการใช้รูปแบบแบบอเมริกา "ประธานาธิบดี" คือสิ่งที่เขาวาดฝันไว้ และด้วยการตกลงกับกลุ่มที่เขาไปเข้าร่วม เช่น การรับความช่วยเหลือสนับสนุนจากกลุ่มดังกล่าว เพื่อสานฝันของเขา โดยการแลกเปลี่ยนกันว่า หากแผนการสำเร็จ เขาจะให้สัมปทานทรัพยากรณ์ธรรมชาติให้แก่พวกเขา รวมไปถึงการยอมให้กลุ่มดังกล่าวแทรกแซงระบบเศรษฐกิจ ให้กลุ่มดังกล่าวสามารถถือหุ้นบริษัทใหญ่ๆ พร้อมทั้งอนุญาตให้กลุ่มดังกล่าวสามารถถือครองที่ดินในดินแดนได้ง่าย (พวกมันล่าอาณานิคมด้วยสงครามเศรษฐกิจชัดๆ) แน่นอนว่าในกลุ่มดังกล่าวที่ซึ่งเขาได้ไปเข้าร่วมนั้น ในภายในกลุ่มนั้นแล้วก็ได้มีกลุ่มแยกย่อย ที่ซึ่งเป็นพันธมิตรที่ดีกันกับบางกลุ่มในประเทศไทย ที่ซเขาได้รายงานความเคลื่อนไหวของคนขายชาติให้ทางเราทราบอยู่อย่างต่อเนื่อง ในปัจจุบันนี้ เห็นได้อย่างชัดเจนแล้วว่า โครงการฮุบแผ่นดินของกลุ่มคนดังกล่าวได้ปรากฏแล้วว่า้มเหลว และไม่วี่แววว่าจะสำเร็จ พร้อมทั้งผู้นำสูงสุดของกลุ่มดังกล่าวก็ต้องเร่ร่อนขอเขาอยู่อาศัยโดยการจ่ายค่าเช่าค่าคุ้มครองเพื่อให้ตนเงมีที่อยู่ในราคาที่แพงหูฉี่
# แล้วกลุ่มที่คนฝั่งเราไปขอเข้าร่วมเขาจะเก็บเอาไว้หรือ??? ในเมื่อบุคคลดังกล่าว ได้แสดงอย่างแจ่มชัดแล้วว่า หักหลังได้แม้แต่แผ่นดินเกิดของตน พวกเขาจะกล้าให้เข้าไปมีความสำคัญในกลุ่มพวกเขาหรือ??? คนมีประวัติอกตัญญู ใครเขาจะกล้าเลี้ยงไว้ ขนาดบ้านเิดเมืองนอนของตนเขายังหักหลังได้ แล้วต่อไปจะไม่มีโอกาสหักหลังกลุ่มที่เขาไปเขอเข้าร่วมหรือ???
ตอนนี้เขาเลยกลายเป็นเบี้ยตัวหนึ่งที่ไม่มีมูลค่าของพวกกลุ่มที่ต้องการล่าอาณานิคมประเทศไทย เพราะภารกิจของเขาได้เห็นอย่างแจ่มชัดแล้วว่า "ล้มเหลว" ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องที่แปลกที่เขาจะถูกลอยแพไม่ได้รับความเหลียวแลจากกลุ่มที่เขาไปขอเข้าร่วม เพราะ "หมดประโยชน์" แล๊วว
#เดี๋ยวกรวดน้ำไปให้นะ
# กลุ่มที่เขาไปขอเข้าร่วมนั้น มีแผนกกลุ่มย่อยหลายแผนก ที่ซึ่งมีเป้าหมายเฉพาะแผนก เช่น แผนกคุมระบบเศรษฐกิจ ที่ซึ่งรวมระบดับหัวกะทิที่เป็นพันธมิตรสำหรับช่วยกันเกื้อหนุนซึ่งกันและกัน โดยมีเป้าหมายคือ ร่วมกันสร้างทรัพย์สินของสมาชิกให้ร่ำรวยยิ่งขึ้นๆ ทั้งยังมีบางแผนก ที่ซึ่งมีแผนการควบคุมจำนวนประชากรชาวโลก ให้อยู่ในระดับที่ต้องการ เพื่อที่ทรัพยากรณ์จะได้มีเพียงพอสำหรับชนชาติพวกเขา โดยลดจำนวนผู้หารแบ่งการใช้ทรัพยากรณ์ที่มีอย่างจำกัด ลูกหลานพวกเขาจะได้มีกินมีใช้อย่างไม่ขัดสน โดยกลุ่มดังกล่าวเมื่ออดีตนั้น ได้มีนโยบายหนึ่ง ที่จะลดประชากรชาวโลก จาก 100 ให้เหลือ 5-15 โดย 5 คือชนชาติพวกเขาที่เป็นพันธ์แท้ , 5 คือลูกผสมของพวกเขากับชนชาติอื่น (ลูกผสมอัฟริกา,เอเชีย,ยุโรป) และอีก 5 คือฝั่งเขย-สะใภ้ จากชนชาติอื่น ที่บังเอิญว่ามีประโยชน์
ส่วนอื่นๆที่เหลือนั้น "ทำปุ๋ย" บำรุงพืชบำรุงดิน
#Bio Organic Weapon อาวุธชีวภาพ ที่เป็นตอนนี้ก็แค่เริ่มต้น เพราะมันมีที่หนักกว่านี้ไว้ในครอบครอง มีแม้กระทั่ง เชื้อที่ทำให้คนเป็นผีดิบ (วันพิพากษา) *BSE ( Bovine Spongiform Encephalopathy เมื่อ พ.ศ.2529 ได้รับบาดหนักในอังกฤษ และไม่มียารักษา ผู้ป่วยจะตายเองใน 3,4เดือน สำหรับอาการ คือ ไม่มีสติไม่รู้ตัว เดินโซเซ มีแผลเปื่อยตามตัว และคลุ้มคลั่งทำร้ายคนอื่น ) รุ่นที่พัฒนาเสริมสมรรถนะแล้ว ฮิซบุลเลาะฮ์แห่งเลบานอนรู้ดี ทางอาหรับจะเรียกผู้ติดเชื้อว่า "กูล" โชคดีที่รัสเซียทำวัคซีนสำหรับเตรียมรับมือได้แล้ว พร้อมกับแฝงการแจกจ่ายได้ดีพอสมควร แต่ปัญหาคือ??? พวกคุณได้รับวัคซีนแล้วหรือยัง แน่นอนว่า 5-15% ที่ถูกเลือกให้รอดโดยพวกนั้น พวกเขาได้รับวัคซีนเฉพาะกันแล้ว แล้วพวกคุณล่ะ???
พร้อมที่จะเผชิญหน้ากับเกมส์ดังกล่าว(วันพิพากษา) แล้วหรือยัง???
# แต่ก็มีวิธีช่วยให้รอดโดยไม่ต้องพึ่งพาวัคซีน หากพวกคุณรู้อยู่แก่ใจ ว่ามีบาปกรรมอะไรที่เคยก่อเคยทำไว้ เพียงแค่พวกคุณสำนึกผิดในบาปนั้นอย่างจริงใจ มันก็จะทำให้เกิดการสลาย "ตะกอนบาปกรรม" ที่มันถ่วงจิตวิญญาณพวกคุณ ซึ่งส่งผลให้พวกคุณ ไหลลงไปยังภพภูมิ(มิติช่องความถี่)ต่ำๆ ที่มีเหตุการณ์ไม่ดี ภัยพิบัติ หายนะต่างๆ กระจายอยู่อย่างเกลื่อนกลาด ที่ซึ่งตะกอนบาปกรรมนี้อง ที่มันได้ถ่วงจิตวิญญาณพวกคุณให้ลงไปในภพต่ำจนต้องพบเจอ/เผชิญเหตุการณ์บ้าบอเหล่านั้น เพียงแค่สำนึกบาปกรรมอย่างจริงใจ ก็สามารถสลายตะกอนบาปกรรมที่มันถ่วงพวกคุณอยู่ให้หายไปได้ เพื่อที่จิตวิญญาณของพวกคุณ จะได้เบาและลอยขึ้นสูงไปได้ จะได้ไปอยู่ภพมิติช่องความถี่ที่สภาพแวดล้อมมันและปลอดภัยกว่าได้
# สำหรับผู้ที่ไม่เลือก(เชื่อ)ศาสนาก็จะได้แคลนสายวิทยศาสตร์ ซึ่งธรรมชาติจะปรับสมดุลพลังงานบวก-ลบที่เจ้าตัวสะสมไว้(f<=f> #กฏฟิสิกส์พื้นฐานเรื่องแรง ถอดความภาษาศาสนา ได้ว่า "กรรมใดใครก่อ กรรมนั้นคืนสนอง) เช่น ได้ตกอยู่ในสภาวะได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติ โรคระบาด ปรากฏการณ์ต่างๆ ได้ทุกรูปแบบทุกจินตนาการ ผีดิบซอมบี้ เอเลี่ยนบุก มีสิทธิได้เจอหมด(ตามแต่ความเชื่อของใครของมัน *ตามกฏแรงดึงดูด) สุดแล้วแต่กรรม ถ้าสามัญๆธรรมดาๆ ก็อาจแจคพอร์ตแค่ประสบภัยพิบัติหรือโรคระบาดด้วยตัวเอง แต่ผู้ไม่เชื่อศาสนาและไม่เคารพธรรมชาติ ก็มักปลอบใจตัวเองประมาณว่ามันเพราะ "ความบังเอิญ"