หลวงปู่บุดดาพยากรณ์หลวงปู่ดู่ และเรื่องราวของ

ในห้อง 'หลวงปู่ดู่ และ หลวงตาม้า' ตั้งกระทู้โดย Wisdom, 10 พฤศจิกายน 2006.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. Wisdom

    Wisdom ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    1,669
    กระทู้เรื่องเด่น:
    11
    ค่าพลัง:
    +26,542
    [​IMG]
    กระแสแห่งโพธิญาณ

    [​IMG]
    หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ
    (คาถาบูชานะโมโพธิสัตโต พรหมปัญโญ)

    [​IMG]
    หลวงปู่ดู่กับหลวงปู่บุดดา

    ครั้งหลวงปู่บุดดาไปเยี่ยมอาการอาพาธหลวงปู่ดู่

    ครั้งหนึ่งเมื่อหลวงปู่บุดดาท่านไปเยี่ยมอาการอาพาธของหลวงปู่ดู่
    หลวงปู่บุดดา ถาวโร วัดกลางชูศรีเจริญสุข จ.สิงห์บุรีได้กล่าวกับท่านไว้ว่า


     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 17 ธันวาคม 2006
  2. Wisdom

    Wisdom ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    1,669
    กระทู้เรื่องเด่น:
    11
    ค่าพลัง:
    +26,542
    เสียงธรรม เสียงนำสวดมนต์หลวงพ่อดู่และบทสวด

    [VDO]http://palungjit.org/attachments/a.116906/[/VDO]

    [music]http://palungjit.org/attachments/a.115747/[/music]

    (f)

    [​IMG]

    ณ โอกาสนี้ขอนำบทสวดของหลวงปู่ดู่ ที่หลวงตาม้าท่านนำลูกศิษย์ทั้งหลายมาสวดร่วมกันตอน20.30น ของทุกวันไม่มีวันหยุดเป็นเวลาหลายปีแล้ว และสามารถนำบทสวดนี้มาใช้
    เพื่อการภาวนาได้ด้วยเมื่อท่านว่าง

    นอกจากนั้นยังมีพุทธคุณเข้มสำหรับการเจริญภาวนาโดยการเอามาสวดก่อนนั่งสมาธิแล้วกำหนดจิตไปกับบทสวดและจับภาพองค์พระไปด้วยจะทำให้ภาวนาได้ง่ายขึ้นเพราะมีพลังงานจากองค์พระมาเสริมที่ดวงจิตด้วยจากนั้นจึงไปทำสมาธิในแบบที่ท่านถนัดโดยเป็นวิธีการที่นิยมกันในหมู่ลูกศิษย์ของหลวงปู่ดู่เรื่อยมาจนถึงหลวงตาม้าในปัจจุบัน

    ตั้งสัจจะอฐิษฐาน

    ลูกขอตั้งสัจจะอธิษฐานขอกราบขออาราธนาเมตตาบารมีรวมหลวงปู่ทวด หลวงปู่ดู่ท่านอันเป็นที่สุด ขอหลวงปู่ได้โปรดมีเมตตาอารธนาบารมีรวมขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าโดยตั้งแต่องค์ปฐมจนถึงองค์ปัจจุบันบรมมหาจักรพรรดิ์ทุกๆพระองค์ บารมีรวมพระปัจเจกพุทธเจ้า พระโพธิสัตว์ พระธรรมและพระอริยสงฆ์ทั้งหลายโดยตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันและอนาคต บารมีรวมหลวงปู่ทวด หลวงปู่ดู่ ท่านอันเป็นที่สุด บารมีรวมหลวงตาม้าเป็นต้น


    ขอบารมีหลวงปู่ได้โปรดเมตตาน้อมนำภพภูมิต่างๆทั้งหลายในทั่วทั้ง 3 แดนโลกธาตุ อันประกอบไปด้วยเทพ 6 ชั้นพรหม 20 ชั้น เทพพรหมทุกชั้นฟ้ามหาสมุทรโดยทั้วทั้งแสนหมื่นโกฎิจักรวาล เทพพรหมเทวาที่เกี่ยวพันกับหลวงปู่ทวด หลวงปู่ดู่ หลวงตาม้า เทพพรหมเทวาที่เกี่ยวพันเกี่ยวข้องกับข้าพเจ้าโดยตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันและอนาคต ท่านท้าวจตุมหาราชทั้ง4 พระยายมราชพร้อมบริวารโดยทั้งหมด พระศรีสยาเทวาธิราชโดยทุกๆพระองค์ วีรบุรษและวีรสตรีทั้งหลายที่คอยปกป้องรักษาแผ่นดินสยาม โอปาติกะทั้งหลาย ฤาษีและดาบสทั้งหลายศาลเจ้าพ่อหลักเมืองโดยทุกๆจังหวัด พระเสื้อเมือง พระทรงเมือง พระราหูวราหก เจ้ากรุงพาลี แม่พระธรณี แม่พระคงคา พระเพลิง พระพาย พญาครุฑพร้อมบริวาร พญานาคพร้อมบริวาร คนธรรณ์ ชาวเมืองลับแล และสถานที่อันศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายที่ข้าพเจ้าได้เคยไปอธิษฐานไว้ ขอหลวงปู่ได้โปรดเมตตาน้อมนำท่านทั้งหลายมาร่วมสวดบทพระมหาจักรพรรดิ์


    [​IMG]

    บทสวดพระบรมมหาจักรพรรดิ์

    นะโมตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมา สัมพุทธัสสะ ( 3 จบ )


    นะโมพุทธายะ พระพุทธไตรรัตนญาณ มณีนพรัตน์
    สีสะหัสสะ สุธรรมา พุทโธ ธัมโม สังโฆ ยะธาพุทโมนะ
    พุทธะบูชา ธัมมะบูชา สังฆะบูชา อัคคีธานัง วะรังคันธัง
    สีวลีจะมหาเถรัง อะหังวันทามิ ทูระโต
    อะหังวันทามิ ธาตุโย อะหังวันทามิ สัพพะโส
    พุทธะ ธัมมะ สังฆะ
    ปูเชมิ

    (สวด 3 จบ หรือมากกว่านั้นได้)


    บทอัญเชิญพระเข้าตัว (แผ่บุญ)


    ขอหลวงปู่ได้โปรดเมตตารวมบุญทั้งหมดทั้งมวลนี้แผ่ออกไปในทั่วทั้ง 3 แดนโลกธาตุเพื่อปรับภพ ปรับภูมิ ปรับส่งวิญญาณทั้งหลาย


    สัพเพพุทธา สัพเพธัมมา สัพเพสังฆา

    พะลัปปัตตา ปัจเจกานัญ จะยังพลัง
    อรหันตานัญ จะ เตเชนะรักขัง พันธามิ สัพพะโส
    (สวด 3 จบ หรือ 5 จบได้)


    พุทธัง อธิษฐามิ ธัมมัง อธิษฐามิ สังฆัง อธิษฐามิ


    เสร็จแล้วอธิษฐานเอาถ้าใครมีโอกาสสวดเอาได้นะครับ เป็นการสร้างบารมีอย่างนึง

    OOO

    บทสวดจักพรรดิโดยย่อ

    บทสวดพระบรมหาจักพรรดิ์ (โดยท่านหลวงปู่ดู่วัดสะแก จ.อยุธยา)


    นะโมตัสสะภะคะวะโตอะระหะโตสัมมาสัมพุทธัสสะ (3จบ)

    แล้วสำรวมกายวาจาใจนึกถึงครูบาอาจารย์ที่เคารพหรือท่านหลวงปู่ทวดแล้วตั้งพุทธานุสติถึงพระพุทธเจ้าและคุณงามความดีของท่าน
    แล้วกล่าวว่า...


    นะโมพุทธายะ พระพุทธะ ไตรรัตนะญาณ
    มณีนพรัตน์ สีสะหัสสะ สุธรรมา
    พุทโธ ธัมโม สังโฆ ยะธาพุทโมนะ
    พุทธะบูชา ธัมมะบูชา สังฆะบูชา
    อัคคีทานัง วะรังคันธัง สีวลี จะมหาเถรัง
    อะหังวันทามิ ทูระโต อะหังวันทามิ ธาตุโย
    อะหังวันทามิ สัพพะโส
    พุทธะ ธัมมะ สังฆะ ปูเชมิ

    (สวด 3 จบ หรือตามกำลังวัน
    อาทิต 6 จบ/ จันทร์ 15 จบ / อังคาร 8 จบ/พุธ17 จบ /พฤหัสฯ 19 จบ /ศุกร์ 21 จบ / เสาร์10 จบ)


    บทอัญเชิญพระ (ครอบวิมานทิพย์แผ่บุญ)


    สัพเพพุทธา สัพเพธัมมา สัพเพสังฆา
    พะลัปปัตตา ปัจเจกานัง จะยังพลัง
    อรหันตานัญ จะเต เชนะรักขัง
    พันธามิ สัพพะโส (๕ จบ)
    พุทธัง อธิษฐามิ
    ธัมมัง อธิษฐามิ
    สังฆัง อธิษฐามิ

    (f)

     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 12 พฤศจิกายน 2006
  3. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    พอดีเห็นมีเรื่อง "ภูเขาบุญ" อยู่เหมือนกัน ก็เลยจะขออนุญาตนำข้อความเก่าๆของผมเอง ที่เคยเขียนเอาไว้นานแล้ว มาลงให้อ่านอีกรอบหนึ่งหนะครับ เผื่อคนที่ไม่เคยทราบจะได้ทราบด้วยนะครับ

    ----------------------------------------------------------------------

    เมื่อวันที่ 9 มิ.ย.49 ที่ผ่านมานี้ ผมได้ไปถวายเงินผ้าป่าสร้างพระ (รอบที่2) กับท่าน พ.ธรรมรังสี ที่วัดสระแก จ.อยุธยา ท่านได้เล่าให้ฟังว่า ภัยภิบัติที่ได้เกิดขึ้นไปแล้วนั้น ท่านเองก็ทราบมาก่อนเหมือนกัน และมันก็ได้เกิดขึ้นไปแล้วจริงๆ
    แต่ที่ท่านบอกว่าท่านอกสั่นขวัญแขวนก็คือ ภัยภิบัติที่กำลังจะมาถึงในอนาคตนี้ต่างหากหละ ท่านบอกว่าท่านเห็นลูกไฟมากมายตกลงมาจากท้องฟ้า เป็นห่าลูกไฟห่าใหญ่ ท่านก็พาคนกลุ่มหนึ่งวิ่งเข้าไปหลบในถ้ำได้อย่างปลอดภัย ส่วนคนที่วิ่งหนีกระเจิดกระเจิงเข้าป่าไปนั้นก็ถูกลูกไฟตกใส่ เผาไหม้ร้องโอดโอยทั้งคนทั้งป่า ไหม้หมดเลย

    ดังนั้น ด้วยเหตุนี้จึงเป็นเหตุอันหนึ่งที่ท่านได้รับบัญชามาจากเบื้องบน ให้มาสร้างพระพุทธรูป 9 องค์ องค์ละ 9 องค์ เอาไปประดิษฐาน ณ.จุดต่างๆของโลก ซึ่งได้แก่สมเด็จองค์ปฐม ,พระอุปคุต, เจ้าแม่กวนอิม ,พระกษิติครรภ์โพธิสัตว์,หลวงปู่ทวด,หลวงปู่โต,หลวงปู่ดู่,หลวงปู่เทพโลกอุดร และพระสยามเทวาธิราช อย่างละ 9 องค์หมดเลย เพื่อเป็นเหมือนเสาอากาศรับสัญญาณ พระพุทธคุณ พระธรรมคุณ พระสังฆคุณ กระจายคุ้มครองจุดนั้นๆเอาไว้

    นอกจากนี้ท่านยังได้อธิบายคำว่า "บัญชีทอง" ซึ่งพระยายมราชท่านได้บอกหลวงพ่อฤาษีฯไว้ว่า ใครก็ตามที่ได้ร่วมบุญสร้างสมเด็จองค์ปฐมฯนั้น ชื่อจะถูกจารึกไว้ใน"บัญชีทอง"หมดทุกคน เพราะอานิสงส์ของการสร้างสมเด็จองค์ปฐมนั้น มีมากกว่าการสร้างพระพุทธรูปอื่นๆยิ่งนัก ซึ่งผมก็เพิ่งถึงบางอ้อเมื่อวานนี้เอง ท่านว่า
    ..ปกติคนบาป ที่จะต้องตกนรกนี่ ชื่อจะถูกจารึกไว้โดยอัตโนมัติ ใน "บัญชีหนังมา" ด้วยหมึกสีดำ คือพอเปิดบัญชีมาอยากรู้เรื่องของใคร ก็จะปรากฎเรื่องของคนนั้นขึ้นมาเองเลย ไม่มีผิดพลาดด้วย ถ้ามีคนมาให้พิพากษาอีก ก็เปิดบัญชีเล่มเดิม หน้าเดิมนั่นแหละขึ้นมา เรื่องราวในนั้นก็จะเป็นของคนคนนั้นไป (ซึ่งอันนี้ตรงกันกับที่หลวงพ่อเกษม อาจิณณสีโลท่านเทศน์ไว้เหมือนกัน) สำหรับคนที่มีบุญมากจะได้ขึ้นสวรรค์ ชื่อก็จะถูกจารึกไว้โดยอัตโนมัติใน"บัญชีทอง" ด้วยหมึกสีน้ำเงิน และถ้าได้ทำบุญสร้างสมเด็จองค์ปฐมฯชื่อก็จะถูกจารึกไว้ในบัญชีทองเล่มนี้ทันที ส่วนจะเคยทำบาปทำชั่วอะไรมาบ้างนั้นค่อยไปเคลียร์กันทีหลัง ท่านว่างั้นนะครับ นอกจากนี้ท่านยังว่าในบัญชีทองนี้ ถ้าชื่อใครถูกจารึกไว้ด้วยหมึกที่เป็นสีแก้วใสๆหละก็ จะไม่ได้ไปสวรรค์แล้วครับ จะได้ไปพระนิพพานแทน

    มีอีกประเด็นหนึ่งที่ผมเพิ่งทราบและน่าสนใจมากคือท่านบอกว่า ที่ท่านต้องมาสวดมนต์อธิษฐานจิตที่วัดสระแกทุกปีๆ และมาทำพิธีถวายผ้าป่าที่วัดนี้นอกเหนือจากเพราะว่า หลวงปู่ดู่ (วัดสระแก) + หลวงปู่ทวด (ซึ่งท่านบอกว่าทั้ง 2 องค์นี้เป็นภาคหนึ่งของพระศรีอารย์ แบ่งภาคลงมาเกิดเพื่อสร้างบารมี) + หลวงปู่เทพโลกอุดร เป็นอาจารย์ของท่าน (มาสอนท่านในสมาธิเสมอๆ) แล้ว ยังมีอีกเหตุผลหนึ่งก็คือ ที่วัดสระแกแห่งนี้ หลวงปู่ดู่ท่านได้อธิษฐาน"ภูเขาบุญ" ไว้บนท้องฟ้าเหนือวัดสระแกแห่งนี้ ซึ่งมีลักษณะคล้ายๆพระธาตุดอยสุเทพ แต่ใหญ่กว่า สีทองเหลืองอร่าม ใครมีตาทิพย์ก็จะสามารถมองเห็นได้ ท่านบอกว่า หากจะเทียบความสงบและพลังที่เกิดขึ้น ที่ท่านได้จากการเข้าป่าไปปฏิบัติธรรมนาน 1 เดือน ก็จะเท่ากับที่ได้จากการมาปฏิบัติที่วัดสระแกแห่งนี้เพียงวันเดียวเท่านั้นเอง เพราะภูเขาบุญนี้ เป็นขุมพลังที่มากมายมหาศาลมาก เหมือนได้มาชาร์จพลังที่รวดเร็วมาก ท่านว่าและยืนยันหนักแน่นอย่างงั้นนะครับ

    ท่านใดสามารถสัมผัสพลังทิพย์เหล่านี้ได้ ก็ลองไปสัมผัสดูนะครับ ส่วนผมเองแม้จะสัมผัสไม่ได้ แต่ก็ได้ฟังคนที่สัมผัสได้มาเล่าให้ฟังแบบนี้อยู่บ้าง ลองพิสูจน์ดูนะครับ
    <!-- / message --><!-- sig -->
     
  4. Wisdom

    Wisdom ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    1,669
    กระทู้เรื่องเด่น:
    11
    ค่าพลัง:
    +26,542
    ธรรมหลวงปู่บุดดา

    <CENTER>[​IMG]</CENTER><CENTER> </CENTER><CENTER> "จะมาห่วงสังขารคนอื่นทำไม มันเกิด-ดับของมันอยู่อย่างนั้น ในสมัยพุทธกาลก็เคยมีมาแล้ว พระพุทธเจ้าไม่สบาย พระอานนท์มาร้องไห้ เลยต้องสอนกันใหม่ มันก็เหมือนสนามฟุตบอล เราอย่าลงไปเล่นกับเขา เป็นคนดูเสียมันก็หมดเรื่อง ถึงธรรมะก็พ้นเกิด พ้นตาย..."</CENTER><CENTER> </CENTER><CENTER><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="80%" align=center border=0><TBODY><TR><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE borderColor=#ffff00 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="82%" align=center border=1><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffcc>
     
  5. Wisdom

    Wisdom ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    1,669
    กระทู้เรื่องเด่น:
    11
    ค่าพลัง:
    +26,542
    ธรรมะจิปาถะ

    [​IMG]

    ปฏิปทาของหลวงปู่ดู่ ที่เห็น ได้เด่นชัด คือ ท่านมีเมตตาต่อทุกๆ คน ไม่ว่าผู้ใด มาหาท่าน ท่านจะต้อนรับ ด้วยเมตตาจิตเสมอ โดยเฉพาะผู้ที่สนใจ ในการปฏิบัติธรรมกรรมฐาน ท่านจะรัก และเมตตาเป็นพิเศษ

    ท่านเคยเล่าว่า เมื่อแรกเริ่ม ปฏิบัติธรรม ท่านอยากเด่น อยากดัง ยังไม่ใช่อยากดี วิชาหลายๆ อย่าง รวมทั้ง รอยสัก ที่ปรากฏ บนกายท่านนั้น ล้วนแต่เกิดขึ้นในช่วงที่อยากเด่นดังทั้งสิ้น

    ต่อมา ท่านได้พิจารณาเห็นว่า สิ่งเหล่านี้ มิใช่หนทาง พ้นทุกข์ เป็นบาป ไม่เป็นกุศล ท่านจึงเลิก และ ไม่ได้สนใจ อีกต่อไป แม้ว่า ท่านจะทำได้ เรียนสำเร็จ ท่าน ก็มิได้ใช้ วิชาเหล่านั้น ไปในทาง ที่เสื่อมเสียเลย คงมุ่งปฏิบัติธรรม เพื่อ ออกจากทุกข์ อุทิศชีวิตเพื่อพระพุทธศาสนาอย่างแท้จริง

    หลวงปู่ดู่ ได้ละสังขาร ไปด้วยอาการอันสงบ ด้วยโรคหัวใจ ในกุฏิของท่าน เมื่อวันอังคารที่ ๑๗ มกราคม ๒๕๓๓ สิริรวมอายุได้ ๘๕ ปี ๘ เดือน พรรษา ๖๕

    ตลอดชีวิตในสมณเพศ หลวงปู่ดู่ปฏิเสธ ที่จะ รับตำแหน่ง และสมณศักดิ์ใดๆ แม้ว่าท่าน จะมีความอาวุโส กว่าพระรูปอื่นๆ ก็ตาม ท่านจึง เป็นเพียง พระลูกวัดธรรมดา รูปหนึ่งเท่านั้นเอง

    นอกจากนี้ ท่านยัง ไม่รับกิจนิมนต์ นอกวัด ตั้งแต่ปี ๒๔๙๐ จนถึง วันละสังขาร รวมทั้งการฉันมื้อเดียว มาโดยตลอด แต่ภายหลัง ประมาณปี ๒๕๒๕ เหล่าศิษยานุศิษย์ ได้กราบ ขอร้องให้ท่านฉัน ๒ มื้อ เนื่องจาก ความชราภาพ และมีภารกิจ ในการต้อนรับญาติโยมมากขึ้น ท่านจึง ได้ผ่อนปรน ตาม ความเหมาะ ความควรแห่งอัตภาพ

    หลวงปู่มิได้ตั้งตนเป็นพระเกจิอาจารย์ แต่ท่าน ก็ไม่ปฏิเสธเมื่อมีลูกศิษย์ขออนุญาตสร้างพระเครื่อง วัตถุมงคล เพราะ ท่านเห็นว่า ศิษย์บางคนยังขาด ที่ยึดเหนี่ยวทางจิตใจ หลายคน ต้องอิงกับวัตถุมงคล ท่านจึงพูดอยู่เสมอว่า "ติดวัตถุมงคล ก็ยังดีกว่า ติดวัตถุอัปมงคล"

    วัตถุมงคลที่หลวงปู่ดู่เมตตาปลุกเสก ให้บรรดาศิษยานุศิษย์ที่โด่งดังมากเป็นพิเศษก็คือ พระเหนือพรหม เป็น รูปพระพรหม ๔ หน้า ที่มีองค์พระพุทธเจ้าอยู่เหนือเศียร ซึ่งเป็น พระเนื้อผงพุทธคุณ บางรุ่นก็สร้างเป็นรูปเหรียญ

    นอกจากนี้ วัตถุมงคลอีกอย่างหนึ่ง ที่โด่งดังมากก็คือ พระหลวงพ่อทวด วัดช้างให้ จ.ปัตตานี เนื่องเพราะ หลวงปู่ดู่ท่านมีความเคารพศรัทธาเลื่อมใสองค์หลวงพ่อทวดมาก

    OOO



    <TABLE bgColor=#ccff99><TBODY><TR><TD vAlign=top width=250>[​IMG]
    .....นิพพานมีอยู่จริงในปัจจุบัน ถ้าใครออกจากปัจจุบันไม่เห็นเลย ทุกเขญาณัง มันเกิดขึ้นกับจิตนี่เอง ให้พิจารณากายในมากๆ นิพพานไม่อยู่ตามต้นไม้ อยู่ที่จิตใจหมดอาสวะทั้งหลายนั่นเอง


    </TD><TD vAlign=top>หลวงปู่บุดดา ถาวโร

    ศิษย์: หลวงปู่ครับ นิพพานโลกุตระ เป็นอย่างไร
    หลวงปู่: มันก็หมดอาสวะซิ อวิชชาไม่เหลือ
    ศิษย์: จิตยังอยู่ไหมครับ
    หลวงปู่: จิตปรมัตถ์ไป เจตสิกปรมัตถ์ รูปปรมัตถ์จิตยังอยู่ มันเกิด-ดับ มันเป็นสังคตะไป ไม่ใช่สัตว์คนเป็นสังคตธรรม สังคตธรรมมีอยู่ อสังคตะธรรมมีอยู่ วิราคะธรรมมีอยู่ แต่ไม่ใช่สัตว์ไม่ใช่คนเท่านั้น
    ศิษย์: หมดสมมุติ หมดความยึดถือไช่ไหมครับ
    หลวงปู่: .ฮื้อ! มันไม่มีอาสวะ ไม่มีอวิชชาสวะ ไม่มีอวิชชาสังโยชน์ ไม่มีอวิชชานุสัย ล่ะก็ กิเลส กรรม วิบาก มันก็ไม่มี จิตไม่มีนาม-รูปของขันธ์แล้ว มันเหนือนาม-รูปของขันธ์แล้ว สังคตะมันเหนือขันธ์ ๕ วิราคะธรรมมันเหนือขันธ์ ๕ (เหนือ คือ ไม่ถูกครอบงำ ไม่มีอุปาทานขันธ์ ย่อมไม่กลับกำเริบอีก)ขันธ์ ๕ ยังมีนามรูปติดต่อกันทางอายตนะธาตุนี่ ส่วนนิพพาน ปรมัตถ์นี้ไม่เกิดไม่ดับเป็นอสังคตะธรรม แต่ จิต เจตสิก รูป ปรมัตถ์นี้ยังเกิดดับเป็นสังคตะธรรม วิราคะธรรม ไม่มีราคะ หมดราคะถึงโลกุตระแล้วนั่น ไม่มีราคะโทสะ โมหะ เผาลนแล้ว
    ศิษย์: เมื่อดับจิต แล้ว นิพพาน สูญ ไม่เหลืออะไรเลยหรือปล่าวครับ..
    หลวงปู่: นิพพานไม่สูญ เป็นแต่อาสวะกิเลสสูญ อวิชชา ตัณหา อุปาทาน กรรม วิบาก มันสูญ แต่ สังคตะธรรม อสังคะธรรม วิราคะธรรม มันไม่ได้หมดไปด้วย บารมี ๓๐ ทัศน์ที่พระพุทธเจ้าสร้างเป็นของไม่ตาย แต่ว่าตัวบุญต้องเปลี่ยนแปลงไปจนกว่าพระโพธิสัตว์ตรัสรู้ เพราะถ้าเป็นตัวบุญอยู่กับพระเวสสันดรก็ไม่ตรัสรู้ซิ ก็ได้เป็นกษัตริย์ไม่ตรัสรู้ซิ แต่เพราะสละหมดอย่างพระเวสสันดร เที่ยวออกค้นคว้าถึง ๖ ปี(ซึ่งก็ต้องอาศัยบารมี อันเป็นนิสัยที่สั่งสมมา) จึงตรัสรู้ พระพุทธเจ้าบางองค์ก็อายุไม่เท่ากันมาองค์ปัจจุบันอายุ ๘๐ ปี (แล้วแต่บารมี)
    ศิษย์: ที่เขาว่าไปเที่ยวเมืองนิพพาน น่ะเขาไปกันได้จริงหรือป่าวครับ
    หลวงปู่: .เที่ยวได้แต่ปริยัติน่ะซิ พูดเอาภาคปริยัติก็เที่ยวได้ ภาคปฏิเวธเที่ยวได้ที่ไหนล่ะ มันมีบอกเมื่อไหร่ล่ะ
    ศิษย์: .แล้วอย่างมโนมยิทธิล่ะครับ
    หลวงปู่: นั่นมันเรื่อง พุทธนิมิต ธรรมนิมิต สังฆนิมิต ก็ตามใจซิ ก็นิมิตมันมีอยู่ หลับตาลืมตาก็มี มีของพระอริยะเจ้า พระพุทธเจ้าก็แสดงพุทธนิมิต ธรรมนิมิต สังฆนิมิต ได้ ให้เห็นกันทั่ว กามโลก รูปโลก อรูปโลก ให้เขาได้เห็นกันเมื่อครั้งเสด็จลงจากดาวดึงส์นี่ ก็จิตนี่ล่ะมันรับธรรมะ นอกจากกายกับจิตแล้วจะเอาอะไรไปรับล่ะ กายกับจิตนี่ล่ะมันรองรับพระไตรปิฎก พระพุทธเจ้ารู้นรก ๒ ชั้น นรกชั้นนอก นรกชั้นใน สวรรค์ชั้นนอก สวรรค์ชั้นใน นิพพานชั้นนอก นิพพานชั้นใน มันต้องมีภายนอกภายในพิสูจน์กันดู ดูนิพพานกันอย่างนี้ อ่านพระไตรปิฎกกันอย่างนี้ซิ นิพพานไม่ใช่รูปขันธ์ ไม่ใช่นามขันธ์ มันเหนือรูปขันธ์ นามขันธ์ สร้างบารมีมาก็เอาเป็นเครื่องมือ สร้างบารมีต่างหากล่ะ นามรูปนี่ตรัสรู้แล้วเอาไปเมื่อไหร่ล่ะ บารมี ๓๐ ทัศน์ ไม่ใช่ตัวขันธ์ ๕ มันเหนือขันธ์ ๕ พระพุทธเจ้าตรัสรู้แล้วก็เหลือขันธ์ ๕ พระปัจเจกพุทธเจ้า และพระสาวกทั้งหลายตรัสรู้ ละสังโยชน์ แล้วก็เหลือยังขันธ์ ๕ เขายังเขียนรูปโลกไว้ให้ดู แต่อยู่เหนือขันธ์ ๕

    ดูเพิ่มเติมที่ เว็บ ประตูธรรม



    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    ประวัติหลวงปู่บุดดา
    http://www.palungjit.org/board/showthread.php?t=57618

    OOO​

    [​IMG]

    หลวงพ่อฤาษีลิงดำ กับ หลวงปู่บุดดา

    (f)
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • lusri3.jpg
      lusri3.jpg
      ขนาดไฟล์:
      39.4 KB
      เปิดดู:
      5,028
    • Luangpudu.jpg
      Luangpudu.jpg
      ขนาดไฟล์:
      19.6 KB
      เปิดดู:
      5,605
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 11 พฤศจิกายน 2006
  6. Wisdom

    Wisdom ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    1,669
    กระทู้เรื่องเด่น:
    11
    ค่าพลัง:
    +26,542
    ประวัติพระลูกศิษย์ของหลวงปู่ดู่ที่ยังทรงธาตุขันธ์อยู่ในปัจจุบัน

    [​IMG][​IMG]
    หลวงปู่ทวด เหยียบน้ำทะเลจืด / หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ
    (รูปสำหรับฝึกกรรมฐาน)

    [​IMG]
    หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ
    หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ วัดสะแก จ.อยุธยา พระอาจารย์ของหลวงตาม้า
    (คาถาบูชา นะโมโพธิสัตโต พรหมปัญโญ)

    [​IMG]
    พระอาจารย์วรงคต วิริยธโร (หลวงตาม้า) พระผู้ปฎิบัติดีปฎิบัติดีปฎิบัติชอบรูปหนึงในปัจจุบันตามแนวทางและปฎิปทาของพระอาจารย์เอกของท่านซึ่งก็คือหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ วัดสะแก จ.อยุธยา(ในภาพเป็นบริเวณถ้ำใหญ่ที่วัดซึ่งวัดของหลวงตาม้าจะกินอาณาเขตเขาลูกหนึงเลยทีเดียวเป็นสัปปายะที่เงียบสงบและมีถ้ำเยอะมากวัดตั้งอยู่ใกล้ๆกับชายแดนพม่าในเขตอำเภอเชียงดาว)


    [​IMG]


    เกี่ยวกับตัวท่านหลวงตาม้าคร่าวๆ
    (เท่าที่ท่านพอจะเล่าให้ฟังบ้างและได้ยินมาจากลูกศิษย์)


    [​IMG]
    หลวงตาม้า


    หลวงตาม้าท่านเป็นศิษย์ของหลวงปู่ดู่และท่านได้อยู่ฝึกกรรมฐานกับหลวงปู่ดู่ในเพศฆราวาสเป็นเวลาเกือบ 20 ปี
    แต่ก่อนที่หลวงปู่ดู่ท่านจะมรณภาพไปไม่นานนั้นหลวงปู่ท่านก็ได้สั่งให้หลวงตาม้าท่านบวชและขึ้นไปอยู่ที่ภาคเหนือโดยท่านได้บอกกับ
    หลวงตาม้าในครั้งนั้นด้วยว่า ​

    "จำไว้ไม่ว่าแกไปไหนเหรออยู่ที่ไหนข้าก็อยู่ด้วย
    เองเอาพระองค์นี้ไป(พระรูปหล่อเหมือนหลวงปู่ดู่)หากเองสงสัยอะไรในการปฎิบัติให้แกถามเอากับพระองค์นี้"


    พร้อมกันนั้นหลวงปู่ดู่ท่านได้เมตตาสั่งสอนแนะแนวข้อปฎิบัติก่อนที่หลวงตาม้าท่านจะออกธุดงค์ขึ้นเชียงใหม่


    [​IMG][​IMG]


    ท่านหลวงตาท่านได้ธุดงค์รอนแรมอยู่เป็นเวลานานตามภาคเหนือของประเทศไทยตั้งแต่เมื่อประมาณเกือบ 20 กว่าปีก่อนท่านได้ธุดงค์ไปนมัสการพระพุทธบาท 4 รอยตั้งแต่ยังไม่ค่อยมีคนขึ้นไปและร้างอยู่ท่านได้ธุดงค์แวะภาวนาตามถ้ำต่างๆในส่วนเรื่องราวการธุดงค์ของท่านหลวงตาม้านี้สนุกและพิศดารมากหากนำมาเล่านี้ทั้งสนุกและตื่นเต้นแต่ก็หาอ่านไม่ได้เพราะว่าหากอยากทราบต้องไปถามกับท่านเอาเองตัวผู้พิมพ์เองก็รู้คร่าวๆเท่านั้นเท่าที่ท่านเล่าให้ฟังเป็นบางส่วน


    ในที่นี้จะเล่าลัดแค่ในส่วนการมาพบเจอถ้ำเมืองนะของท่านหลวงตา


    ท่านได้ธุดงค์ไปเรื่อยจนมีอยู่วันวันหนึ่งท่านได้ตามญาณหลวงปู่ดู่ไปจนเจอเข้ากับถ้ำแห่งหนึงซึ่งชาวบ้านแถวนั้นเรียกว่าถ้ำเมืองนะ
    (ถ้ำที่ตามตำนานกล่าวว่าเป็นที่เคลื่อนทัพครั้งท้ายๆของพระนเรศวร)
    ซึ่งในปัจจุบันตั้งอยู่ที่ ต.เมืองนะ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่


    [​IMG]


    ท่านได้อยู่ภาวนาอย่างเงียบๆในถ้ำนั้นเป็นเวลานับ 10 ปีโดยมีชาวบ้านในละแวกนั้นซึ่งเป็นชาวไทยและชาวไทยใหญ่คอยอุปัฐฐากท่านตลอดมาจนถึงวันหนึ่งท่านก็ได้เริ่มออกสังคมและเริ่มสร้างวัดขึ้นที่นั้นและสั่งสอนลูกศิษย์เรื่อยมาจนถึงบัดนี้(ปัจจุบันท่านหลวงตา 62 ปี)โดยแนวคำสอนท่านจะเน้นในด้านบุญญฤทธิ์และการสัมพัสภพภูมิต่างๆโดยการฝึกกรรมฐานตามแนวทางหลวงปู่ดู่ในบางโอกาสท่านยังเดินทางไปเยี่ยมคณะลูกศิษย์และสอนกรรมฐานในกรุงเทพเป็นครั้งคราวและบางครั้งก็จะไปเป็นเจ้าภาพในการหล่อพระท่านยังได้สร้างพระวัตถุมงคลออกมาหลากหลายรุ่นตามสูตรหลวงปู่ดู่ และจากมวลสารที่ท่านได้รับมาจากหลวงปู่ดู่ท่านโดยตรงโดยพระที่ท่านสร้างมานั้นเป็นที่รู้จักกันดีในทางเหนือและท่านยังชอบแจกพระผงห้อยคอให้แก่คนที่ท่านพบเจอด้วยโดยพุทธคุณขององค์พระท่านบอกว่าเป็นกำลังของพระรัตนตรัยรวมกับพระจักพรรดิและพระโพธิสัตว์ที่บารมีเต็มแล้วตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันปฎิปทาของท่านหลวงตาเป็นการบำเพ็ญแนวโพธิสัตว์และลูกสิษย์หลายๆคนได้ประจักษ์ถึงบารมีท่านในด้านพุทธภูมิมาแล้วทั้งนั้นและหากมีผู้ใดสงสัยในเรื่อง3โลกธาตุหากไปถามท่านท่านจะสอนให้ได้อย่างละเอียดและวิธีปฎิบัติเพื่อสัมพัสนับว่าท่านเป็นพระสงฆ์ที่มีญาณบารมีแก่กล้ามากรูปหนึ่งในปัจจุบัน
    ที่สั่งสอนคนให้เดินบนเส้นทางสายไปนิพพาน​


    เกร็ดย่อยอื่นๆ


    หลวงตาม้าท่านเมตตามากการปฎิบัติของท่านในตอนแรกเป็นไปเพื่อหลุดพ้นในชาตินี้แต่หลังจากที่ท่านภาวนาไปท่านได้รับกระแสพุทธภูมิเก่าของท่านเข้าที่จิตจนทำให้ท่านเกิดความเมตตาสงสารและอฐิษฐานจิตต่อเพื่อฉุดช่วยให้สัตว์ทั้งหลายทั่วทั้ง 3 โลกธาตุมีที่พึ่งมีร่มโพธิ์ร่มไทรนับว่าเป็นเมตตาอันนับประมาณมิได้ของท่าน


    เคยมีลูกศิษย์คนหนึงของหลวงตาไปหาฤาษีชื่อดังตนหนึงในจ.สมุทรสงครามที่เชี่ยวชาญทางอภิญญาและการรักษาโรคและได้สนทนากันมีประโยคหนึงที่เขาเล่ามาว่าฤษีตนนั้นได้กล่าวว่า "บารมีอาจารย์แกยิ่งใหญ่จริงๆข้ายอมรับ ไมเชื่อข้าแกขึ้นไปถามบนสววรค์สิว่าใครไม่รู้จักหลวงตาม้าบ้างในปัจจุบัน....บอกให้มาหาข้าเลย"

    รายละเอียดวัดพุทธพรหมปัญโญ

    วัดพุทธพรหมปัญโญ ตั้งอยู่ที่ ต.เมืองนะ อ.เชียงดาว จ.เชียงไหม่ โดยมีพระอาจารย์ วรงคต วิริยะธโร(หลวงตาม้า) เป็นเจ้าอาวาส
    ปัจจุบันวัดพุทธพรหมปัญโญ เป็นสถานปฎิบัติธรรมแห่งหนึ่งโดยยึดแนวคำสอนของหลวงพ่อดู่ พรหมปัญโญ เป็นหลัก ลักษณะของวัดนับว่าเป็นสัปปายะที่สงบ มีถ้ำอยู่หลายแห่งในวัดโดยมีถ้ำหลักที่ภายในป็นลักษณะถ้ำใหญ่ๆ(ตามตำนานกล่าว่าสมเด็จพระนเรศวรมหาราชทรงมาเสด็จสววรณคตที่นี้)นอกนั้นที่วัดแห่งนี้มีพระจำพรรษาอยู่ 5-6 รูป โดยมีพระแก้วแดงเป็นพระประธานประจำวัด
    และมีพระพุทธเจ้าปางจักพรรดิ์เป็นพระประธานองค์ใหญ่ / รายละเอียดอื่นๆจะโพสทยอยตามมาครับ.....​

    หากท่านใดผ่านไปแถบเชียงดาวหากมีเวลาก็ลองแวะไปที่วัดไปกราบนมัสการท่านได้ที่วัดพุทธพรหมปัญโญ ต.เมืองนะ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่แถมที่วัดยังเป็นสัปปายะที่ดีและมีถ้ำเยอะมากๆและอีกอย่างท่านทำพระไว้หลายรุ่นทั้งที่เป็นพระพุทธรูปด้วยหากสนใจก็เข้าไปชมได้(ท่านชอบที่จะเน้นในการสร้างพระออกมาในแนวจักพรรดิโดยท่านเป็นหนึ่งในพระสงฆ์ในยุคนี้ที่บุกเบิกเรื่องกำลังพระจักพรรดิในการทำออกมารวมอยู่กับองค์พระแบบต่างๆ)

    (f)​



    <!-- / message --><!-- attachments -->
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 11 พฤศจิกายน 2006
  7. Wisdom

    Wisdom ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    1,669
    กระทู้เรื่องเด่น:
    11
    ค่าพลัง:
    +26,542
    [​IMG]


    หลวงพ่อฤาษีลิงดำ กับ หลวงปู่บุดดา


    (f)
    <!-- / message --><!-- attachments -->
     
  8. Wisdom

    Wisdom ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    1,669
    กระทู้เรื่องเด่น:
    11
    ค่าพลัง:
    +26,542
    [​IMG]
    จิตใจแห่งพระโพธิสัตว์ผู้มีบารมีเต็มเปี่ยมแล้วภูมิจิตภูมิธรรมของพระโพธิสัตว์องค์นั้นบริสุทธิ์ดุจจิตใจแห่งพระอรหันต์เพียงแต่พระโพธิสัตว์องค์นั้นยังมิได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าเท่านั้นเองเพียงรอให้ถึงยุคท่านเท่านั้น
    ดังคำกล่าวของหลวงพ่อฤาษีลิงดำที่เคยพูดเปรียบถึงภูมิจิตของหลวงปู่ดู่ไว้ว่า
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 11 พฤศจิกายน 2006
  9. Wisdom

    Wisdom ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    1,669
    กระทู้เรื่องเด่น:
    11
    ค่าพลัง:
    +26,542
    หลวงปู่ดู่เทศน์สอนคณะศิษย์วัดท่าซุงผู้ได้มโนมยิทธิ
    [​IMG]

    [​IMG]
    หลวงปู่ดู่เทศน์สอนคณะศิษย์วัดท่าซุงผู้ได้มโนมยิทธิ
    ขอคัดลอกเทปที่หลวงปู่ดู่ที่ท่านเคยเทศน์สอนคณะศิษย์วัดท่าซุงที่ได้มโนมยิทธิ ซึ่งได้เดินทางไปกราบหลวงปู่ดู่ ตามคำสั่งหลวงพ่อฤาษีฯ หลวงปู่ดู่ท่านเทศน์ว่า...............(ถอดจากเทปที่บันทึกไว้กลางปี 2530)
    ________________

    หลวงปู่.....เอ้า คณะนี้มาจากไหน (แล้วหลวงปู่ท่านก็เงียบ) อ๋อเด็กฝาก

    คณะมโนมยิทธิ...หลวงพ่อ(ฤาษี) ท่านให้มากราบเจ้าค่ะ หลวงปู่รู้จักไหมเจ้าคะ



    หลวงปู่ดู่...รู้จัก

    คณะมโนมิยทธิ....หลวงปู่เจ้าคะดิฉันฝึกมโนขึ้นไปกราบพระข้างบนดีไหมเจ้าคะ


    หลวงปู่ดู่.....การไปกราบพระ พบพระนั้นเป็นของดี ให้หมั่นรักษาองค์พระ(ภาพพระ)เข้าไว้ พระท่านจะสอน ท่านจะบอกวิธีการปฏิบัติ เราก็นำมาประพฤติปฏิบัติตามด้วยความตั้งใจ เคร่งครัด แต่ถ้าพบพระแล้ว ท่านสอนแล้วไ ม่นำมาประพฤติปฏิบัติ หรือปฏิบัติจนพบพระแล้วไม่สามารถทำให้อารมณ์ชั่วทั้ง ๓ คือ โลภ โกรธ หลง มันเบาบางหลง อย่างนี้ยังใช้ไม่ได้ ถือว่าปฏิบัติผิดทาง คนที่มัวแต่เอาสิ่งที่ตนเองได้ (ญาณ) ไปดูนั้นดูนี่ ทำนายทายทัก ไม่นานอุปทานก็เข้าแทนที่ ทีนี้แทนที่มันจะไปสุคติภูมิ มันก็ไปอบายภูมิแทน เหตุจากการแอบอ้าง คำสอนของพระ เพราะอารมณ์อุปาทานนั้นเอง จงระวังไว้ ท่านมหาวีระ ท่านมีบารมีสูง มีข้างบนเป็นกำลังหนุน เป็นอาจารย์ใหญ่สอนคนได้จำนวนมาก ข้าขอโมทนา พวกแกเกิดมาพบพระอรหันต์ที่มีบารมีสูง อย่าให้เสียทีที่ได้พบ เอาสิ่งที่ตนปฏิบัติบัติได้(ญาณ)มาอบรมตนเอง อย่าเที่ยวไปทำนายทายทักชาวบ้าน ข้ออันนั้นเห็นจะไม่ใช่จุดประสงค์ แม้ลูกศิษย์ อยู่ใกล้ข้าแท้ๆ ยังเฝือได้ แล้วถ้าพวกแกยังประมาท ระวังนรกจะกินหัวเอา....


    คณะมโนมยิทธิ...เราจะรู้ได้ยังไงเจ้าคะ ว่าเวลาเราขึ้นไปกราบนั้น เราเห็นจริงๆ

    หลวงปู่....แกลองใช้อารมณ์นั้น(ญาณ) ตรวจสิ่งที่มองไม่เห็น แต่สิ่งนั้นยังมีอยู่สิ เช่น แกลองตรวจดูว่าในกระเป๋าของเพื่อนที่มาด้วยกันมีเงินอยู่เท่าไหร่ ถ้าแกตอบถูก อารมณ์ที่แกขึ้นไปกราบพระ แกก็เห็นจริง แต่ถ้าแกตอบไม่ถูก พระที่แกเห็นก็ไม่จริง...

    คณะมโนมยิทธิ....เราถามเทวดาเลยได้ไหมเจ้าค่ะ

    หลวงปู่....เอ้า เงินในกระเป๋านี้มันเป็นของหยาบ แกยังมองไม่เห็นเลย นับประสาอะไรกับเทวดา แกจะไปมองเห็นล่ะ กายเทวดาละเอียดกว่ากันเยอะ

    คณะมโนมยิทธิ...ต้องตรวจอารมณ์เช่นนี้ก่อนใช่ไหมค่ะ

    หลวงปู่ดู่...ใช่ ข้าก็ให้ลูกศิษย์ตรวจอารมณ์อย่างนี้ก่อนแล้วค่อยขึ้นไปกราบพระ ถ้าตรวจแล้วไม่ตรงก็ต้องหัดวางอารมณ์ใหม่ ไม่นานก็ตรง คราวต่อไป ไม่ต้องกำหนด เขาจะรู้เลยว่าอะไรซ่อนอยู่ตรงไหน .....(หลวงปู่เงียบสักพัก) (แล้วท่านก็พูดขึ้นว่า) พระมหาวีระยังสอนให้แกหัดทำเวลาตอนเช้ามืด ให้ลองตรวจว่า เช้าวันนี้จะมีใครมาหาไหม เขาจะมาทำอะไร ใส่เสื้อสีอะไร ใช่ไหมล่ะ


    คณะมโนมยิทธิ....หลวงปู่รู้ได้ยังไงเจ้าคะ


    หลวงปู่ดู่...ก็พระมหาวีระบอกข้า อยู่ข้างๆนี่แหละ บอกว่า..พวกแกมันลิงทะโมน ต้องจับไปมัด เฆี่ยนแล้วสอน (เสียงหลวงปู่หัวเราะ แล้วพูดว่า)ต่อไปให้รีบตั้งใจปฏิบัติ อย่าสนใจคนอื่น สนใจจิตตัวเองให้มากๆ รักษาจิตตนเองให้ดี รักษาองค์พระ(ภาพพระ)ไว้อย่าให้หาย ชำระใจให้ปราศจากความโลภ โกรธ หลง มันก็ถึงเองแหละนิพพาน ไม่ใช่ปากก็บอกจะไปนิพพาน แต่ไม่ชำระโลภ โกรธ หลงให้ขาดไป อธิษฐานยังไงมันก็ไม่ถึงนะแก นิพพานเข้าไม่ได้ด้วยการอธิษฐาน แต่ต้องอาศัยการปฏิบัติ ซึ่งจุดสำคัญคือการละอารมณ์ โลภ โกรธ หลง
    ละได้เมื่อไหร่ถึงทันที ละไม่ได้มันจะถึงแค่หัวตะพาน....

    คณะมโนมยิทธิ...สาธุเจ้าค่ะ หลวงปู่

    หลวงปู่ดู่ ...ให้พร.............................................
     
  10. Wisdom

    Wisdom ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    1,669
    กระทู้เรื่องเด่น:
    11
    ค่าพลัง:
    +26,542
    ธรรมบรรยาย
    หลวงปู่ดู่ พฺรหฺมปัญโญ
    วัดสะแก จังหวัดพระนครศรีอยุธยา


    [​IMG]

    ไม่พยากรณ์

    เกี่ยวกับเรื่องปฏิบัติธรรมแล้วจะได้สำเร็จมรรคผลนิพพานหรือไม่ เคยมีพระภิกษุท่านหนึ่งได้มากราบนมัสการและเรียนถามหลวงพ่อว่า " หลวงพ่อครับ กระผมจะได้สำเร็จหรือไม่ หลวงพ่อช่วยพยากรณ์ทีครับ " หลวงพ่อนิ่งสักครู่หนึ่งก่อนตอบว่า " พยากรณ์ไม่ได ้" พระภิกษุรูปนั้นได้เรียนถามต่อว่า " เพราะเหตุไรหรือครับ " หลวงพ่อจึงตอบว่า " ถ้าผมบอกว่าท่านได้สำเร็จหากท่านเกิดประมาทไม่ปฏิบัติต่อ มันจะสำเร็จได้อย่างไร และถ้าผมบอกว่าท่านไม่สำเร็จท่านก็คงจะขี้เกียจ และจะทิ้งการปฏิบัติไป นิมนต์ท่านทำต่อเถอะครับ "

    คำบูชาพระ

    นะโมพุทธายะ พระพุทธ ไตรรัตนญาณ

    มณีนพรัตน์ สีสะหัสสะ สุธรรมา

    พุธโธ ธัมโม สังโฆ ยะธาพุทโมนะ

    พุทธบูชา ธรรมบูชา สังฆบูชา

    อัคคีทานัง วะรังคันธัง สีวลีจะมหาเถรัง

    อะหังวันทามิ ทูระโต

    อะหังวันทามิ ธาตุโย

    อะหังวันทามิ สัพพะโส

    พุทธะ ธัมมะ สังฆะ ปูเชมิ

    พระดีที่น่าเคารพ

    ปกติเวลาเราไปไหวพระสุปฏิปันโนหรือพระที่ทรงคุณธรรม บางครั้งมักจะมีการขอให้ท่านช่วยอธิษฐานจิตวัตถุมงคลที่นำไป ผู้เขียนและคณะบางครั้งเวลาที่ท่านมีสุขภาพดีอารมณ์แจ่มใสจึงขอให้ท่านทำให้มีครั้งหนึ่งผู้คนไปกันมากของที่จะให้ท่านอธิษฐานมีหลายอย่างรวมกันไป เมื่อท่านอธิษฐานเรียบร้อยแล้ว หลวงพ่อพูดขึ้นว่า

    " เจอดีหลายๆ องค์ พระนะ แต่องค์นี้เป็นพระดีมาก "

    ท่านชี้ไปที่ล็อกเกตพระสงฆ์องค์หนึ่ง เมื่อผู้เขียนหยิบมาดู จึงกราบเรียนท่านว่า

    " ก็เป็นล็อกเกตรูปหลวงพ่อไงละครับ ที่ทางวัดเขาทำให้บูชา "

    หลวงพ่อท่านจึงรีบตอบว่า

    " เอ้าข้าไม่รู้ ทำไว้ซะเล็กเลยมองไม่เห็นว่าเป็นองค์ไหน "

    มีลูกศิษย์อีกคนจึงถามท่านว่า

    " ทำไมหลวงพ่อจึงรู้ละครับ "

    ท่านจึงตอบว่า

    " ข้าก็ไม่รู้เพียงแต่มีความรู้สึกพิเศษ แกถามอาจารย์เขาดูดีกว่า "

    หลวงพ่อท่านเลี่ยงมาให้ผู้เขียนตอบแทน แต่ผู้เขียนได้แต่ยิ้มไม่ตอบอะไร จนเมื่อลาหลวงพ่อกลับจึงตอบให้ฟังว่า

    " หลวงพ่อท่านคงมีเมตตาที่เห็นพวกเราทุกคนเคารพท่านแล้วไม่สงสัยท่าน ท่านจึงบอกอย่างนี้ก็ได้ อีกอย่างหนึ่งคงมีแสงสว่างจากพลังจิตใจในคุณพระที่ท่านอธิษฐานไว้ ไปปรากฏที่หลวงพ่อก็ได้ อะไรก็ดีทั้งนั้นแหละ "

    เรื่องของพระดีที่มีคุณธรรมนี้ หลวงพ่อท่านเคยบอกผู้เขียนว่า

    " เวลาที่ไปไหว้พระองค์ไหนก็ตาม ถ้าผู้ที่ทำเห็นแล้วจะรู้ได้ เพราะท่านจะมีที่อยู่ของท่านเฉพาะ ถ้าองค์ไหนเราเห็นท่านอยู่ในที่ของท่านแล้วองค์นั้นแหละพระดี ข้อสำคัญต้องทำให้เห็น หรือเวลาแกไปเจอภาพพระองคืไหนก็ตามเอามือแตะภาพท่านทำใจเฉยๆ ถ้าขึ้น (ปีติ) มาถึงหัวแสดงว่าองค์นั้นดี"

    ผู้เขียนเคยนำรูปของสมเด็จพระสังฆราช (อยู่) วัดสระเกศไปให้ท่านอธิษฐานจิต พอหลวงพ่อท่านแตะรูปท่านบอกว่า

    " องค์นี้เป็นพระดีมีบารมีสูงมากพอกับหลวงพ่อโตวัดระฆัง จะมากกว่าเสียด้วย ถ้าแกไม่เชื่อลองจับดูก็ได้ "

    ผู้เขียนรีบตอบท่านว่าไม่ละครับ เพราะผู้เขียนรู้ตัวเองดีว่าคุณธรรมของเรายังน้อยนิด บารมีของเรายังไม่เท่ากับหนึ่งในล้านส่วน ของเศษละออง ธุลีพระบาทของพระโสดาบันเลย แต่อย่างไรก็ตาม ผู้เขียนรู้สึกซาบซึ้งในองค์หลวงพ่อมาก ที่ท่านมีเมตตาสั่งสอน เพื่อให้ความรู้ และความกระจ่างกับ ลูกศิษย์

    สากจฺฉาย ปญฺญา เวทิตพฺพา

    ปัญญารู้ได้ด้วยการสนทนา

     
  11. Wisdom

    Wisdom ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    1,669
    กระทู้เรื่องเด่น:
    11
    ค่าพลัง:
    +26,542
    [​IMG]

    โมทนาสาธุขอให้บารมีพระรัตนตรัยและครูบาอาจารย์ป้องภัยทุกท่าน
     
  12. หลับตา

    หลับตา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    717
    ค่าพลัง:
    +3,151
    ขอบคุณครับมีประโยชน์มากๆเลย ^______^
     
  13. Wisdom

    Wisdom ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    1,669
    กระทู้เรื่องเด่น:
    11
    ค่าพลัง:
    +26,542
    อ้างอิง: http://www.palungjit.org/board/showthread.php?p=374793#post374793
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ pattarawat [​IMG]
    ผมเคยไปนอนค้างที่กุฏิของหลวงตาม้าคืนหนึ่งครับ ไปกับเพื่อนทางธรรมที่ดีที่สุดคนหนึ่ง ท่านมีเมตตามาก สงสัยอะไรท่านก็เมตตาตอบให้หมดแบบไม่อั้น (ท่านได้กล่าวถึงอนาคตของประเทศไทยด้วยครับ) คืนนั้นมีลูกศิษย์ไปนอนด้วย 3 คน สนทนาธรรมกันแบบเป็นกันเองมากครับ ก่อนกลับท่านได้มอบพระให้ผมด้วย ถ้ามีโอกาสจะไปนอนที่กุฏิอีกครับ

    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    (f) โมทนาสาธุด้วยครับ...ไม่แน่เราอาจจะได้เจอกันเข้าสักวัน
    <!-- / message --><!-- sig -->
     
  14. Wisdom

    Wisdom ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    1,669
    กระทู้เรื่องเด่น:
    11
    ค่าพลัง:
    +26,542
    [​IMG]

    เอามาให้อ่านกันครับเป็นประสปการ์ณส่วนตัวของผมเอง

    หลวงปู่ดู่ท่านพาไปสนทนาธรรมกับพรหม

    http://www.palungjit.org/board/showthread.php?t=42060

    (f)

     
  15. Wisdom

    Wisdom ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    1,669
    กระทู้เรื่องเด่น:
    11
    ค่าพลัง:
    +26,542
  16. Wisdom

    Wisdom ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    1,669
    กระทู้เรื่องเด่น:
    11
    ค่าพลัง:
    +26,542
    ขอฝากกระทู้ที่เคยโพสไว้ซึ่งเกี่ยวเนื่องกันนะครับ

    บทสวดของหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ ที่หลวงตาม้าท่านแนะนำลูกศิษย์

    http://www.palungjit.org/board/showthread.php?t=45443

    แจก FREE พระผงหลวงปู่ทวดพิมพ์เปิดโลกผงจักรพรรดิ หลวงปู่ดู่ สูตรหลวงตาม้า
    http://www.palungjit.org/board/showthread.php?t=55767
     
  17. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,671
    ค่าพลัง:
    +51,946
    [​IMG]




    ***************************
    บทนมัสการพระพุทธเจ้าเฝ้าพระพุทธองค์
    ***************************

    สาริสะ อาระหะตัง สัทถัง บัททะนัง อุลุมจะ มัยหัง
    เอกตะนี ปะชัง มัยหัง มัยหัง สัญญัง เหตะ เนมารัง สีระอิน
    ปะชัง สุขขัง สุขขัง มานะสะ บัพพะเก ตะยัง โอหัง เอกทะ
    เอโชตะรัง คมหัง คุมหัง ตานี มาลากันตัง สัญญา เรหัง
    เวททะนัง บัพพะขันติ คิริตตัง สัญญัง นิพพานัง เหติ ฯ

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 พฤศจิกายน 2006
  18. เสขะ

    เสขะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    170
    ค่าพลัง:
    +1,077
    โมทนาสาธุครับที่นำเรื่องราวของหลวงปู่มาบอกกล่าวให้ได้รับรู้ โมทนาครับเท่านจ้าชาย [​IMG]
     
  19. thanoos

    thanoos เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    155
    ค่าพลัง:
    +986
    อนุโมทนาครับ ที่ช่วยเผยแพร่สิ่งที่รู้ กับผู้ไม่รู้ ให้ได้รู้
     
  20. tassanai_k

    tassanai_k เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    885
    ค่าพลัง:
    +3,518
    ......
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...