สอบถามเกี่ยวกับการปฎิบัติสมาธิครับ

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย pisetsith, 5 สิงหาคม 2016.

  1. pisetsith

    pisetsith สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 สิงหาคม 2016
    โพสต์:
    3
    ค่าพลัง:
    +2
    รบกวนครับ ผมฝึกนั่งสมาธิเอง ลองผิดลองถูกมาตลอด จนปัจจุบันทำได้อย่างนี้
    รบกวนสอบถามดังนี้ครับ
    1. จะคอนเฟิร์มว่า ปฎิบัติถูกต้องหรือไม่ เพื่อจะได้ปฎิบัติต่อไป
    2. อาการดังกล่าว มันคืออะไร สมาธิแบบไหนที่เค้านิยามกันครับ?
    “ช่วงนี้ ระหว่างวัน พยายาม โฟกัส ที่กาย และปลายวางจิต รับรู้สิ่งที่เป็น โดย ไม่ไปบังคับ ผลคือ เรารู้ลมหายใจได้
    ส่วนเวลานั่งสมาธิทุกๆเช้า ผมก็ทำเหมือนกับประจำวัน แต่จะรับรู้จิต โดยทำอานาปนสติ จน สุดท้ายจะไปหยุดที่ จุดๆนึงที่ผู้รู้ ผู้บังคับ จากนั้นก็ทำ มรณนุสติ ทำให้ปล่อยวางได้ ก็กลายเป็นสังเกตุ ผู้รู้ ผู้บังคับ
    หลังจากนั้น ความรู้สึก มัน ดิ่งลึก รู้สึกว่ามัน ลึกลงไปได้อีกเรื่อยๆ ลมหายใจห่างขึ้นๆ เรื่อยๆ ไม่กระวนกระวาย ที่ไม่หายใจ หรือกลั้นหายใจ
    มันจะเป็นอย่างนี้สักแป๊บ หรือพักนึง
    จากนั้น มันจะมีห้วงความคิด มา ปิ๊งๆ แว๊บๆ โผล่มา แต่เราหายใจอยู่ เหมือนมัน มองมัน แต่เราไม่ได้จมกับมัน มันจะมากวน แว๊บๆ
    เป็นอย่างนี้ จนเราต้องการออกจากสมาธิ ก็ค่อยๆ ออก โดยผมจะ คุมการหายใจก่อน ให้บังคับให้ได้ก่อน จากนั้น ขยับนิ้ว ทีละนิ้วช้าๆ จากนั้นค่อยๆลืมตา
    พอลืมตา ออกจากสมาธิ รู้สึกเลยว่า คันๆ เกาตลอดเลย
    รบกวน ด้วยนะครับ
    ขอบพระคุณครับ
     
  2. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,053
    ค่าพลัง:
    +3,465
    วิธีสังเกต ว่า ถูกไม่ถูก

    ก็ต้อง ทบทวนลงไปว่า เหนกิเลส ไหม

    ทีนี้ กิเลสตอนที่ ทำการภาวนา จะไม่ใช่ กิเลส
    หยาบๆ แบบปุถุชน

    กิเลสที่ควร รื้อค้น เฝ้นธรรม เราจะหมายเอา

    อุปกิเลส หรือไม่ก็ สังโยชน์เบื้องต้น แต่ถ้า
    เปน อานาปานสติ จะเหน สังโยชน์ชุดสุดท้ายได้
    แต่การเหน จะเปนเพียงการยกมาสิกขา มารับรู้รส
    เผ็ดร้อน จะไม่ใช่ยกเพื่อตัดทำลาย

    เรียกว่า จะเหน ปัญญาธรรมสองอย่าง

    ปัญญาเพื่อการรื้อค้นไม่ประหาน

    กับ ปัญญประหานกิเลส

    เหนปัญญาทั้งสองเปน ธรรมคู่ เกิด แล้วก็ดับ

    พอยกเหนได้


    สังเกตตรงที่ เราพูดว่า ปล่อยวางผู้รู้ ถอนห่างจากผู้รู้

    จักสำเนียกเหนว่าปล่อยจิต แล้วหายใจเข้า/ออก

    ซึ่งเปน ขั้นตอนหนึ่งของ อานาปานสติ

    ถ้ายกวิจัย ญาณ เปน ธรรมอย่างหนึ่ง เกิด ดับ

    ก็จะพิจารณาอานาปานาสติ ไปถขั้นสุดท้ายได้

    เราจะเรียกว่า ครบรอบการเจริญอานาปานสติ

    พอ อ้อ ครยรอบเปนแบบนี้ ที่เหลือคือทำให้มากๆ

    จนการครบรอบการเจริญอานาปานสติ เปน วินิโย
    วิริยรัมภา ไม่ต้องเจตนาจงใจเจริญอานาปานสติ

    ก็จะเรียกว่า มีอานาปานสติ เปนปฏิปทา ไม่มีวิตก
    วิจาร มีปิติสัมโพฌชงค์ได้ทุกลมหายใจเข้า ออก

    ยังไม่สำเร็จอะไรนะ ยังแค่เริ่มต้น หัดรู้ หัดดู ธรรมดาๆ

    มันจะ ธรรมดา เพราะเดียวมันหายไปหมดเลย
    เหมือน ภาวนาไม่เปน

    เกิดสลับไป สลับมา เพื่อให้เรา สิกขา สังขตธรรมตรงหน้า

    ทีนี้ ก็ต้อง ไปเอะใจเอาเอง ธรรมชาติที่พ้นการปรุงแต่ง อยู่
    ฝากทางไหน และ ปฏิปทาอันเปนเครื่องอบรมให้มาเหนได้
    อย่างนี้ มีอะไรบ้าง มีอะไรเปนอุปการธรรม มีอะไรเปน สโมธาน

    ก้อธิษฐาน กันไป ตามอินทรีย และ พละ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 สิงหาคม 2016
  3. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,053
    ค่าพลัง:
    +3,465
    ถ้า ภาวนา แล้ว จมโลกไปนาน กว่าจะกลับ

    เนื่องจาก การภาวนา เปน อานาปานสติ

    ตรงนี้ เอาไปพิสูจน์เอาเอง ถ้า มีอานาปานสติ
    เปนปฏิปทา พื้นฐาน ตอนที่ไป เพียรยก อุปการธรรม
    เช่น กสิณบ้าง นวสีบ้าง อสุภะบ้าง มรณสติบ้าง อนุสติอื่นบ้าง

    นั่นแหละเหต ของ กำหนัด เกิดกามสัญญา
    และจะเปนตัวเหตให้ จมโลกแบบฉับพลัน

    ประมานว่า เหาะมาในอากาส ก็หล่นลงไปเสพ
    กามเอาดื้อๆ

    ดังนั้น สมัยแห่งการควร สมาทาน อุปการธรรม
    สโมธาน ก็ต้องวิจัยด้วย เจตนาสมาทานลอยๆ
    ไม่มีเหตเฉพาะหน้า เจ้งกระบ้ง เอน็จอนาถแน่นอน
     
  4. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,053
    ค่าพลัง:
    +3,465
    พอวิจัยสมัยได้

    พระสารีบุตร ท่าน กระซิบว่า ก็กิเลส อุปกิเลส นั่นเอง

    เปน อุคหนิมิตของอานาปานสติ การพ้น การละ ที่ถูกสมัย
    ไม่มีพิษ หรือ อามิสในการอยู่สุขนั่นเองเปน ปฏิภาคนิมิต

    อันเปน การภาวนาที่เรียกว่า ปฏิสัมภิทามรรค
     
  5. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,053
    ค่าพลัง:
    +3,465
    ถ้าข้างบน พอเข้าใจ

    เหนแล้ว ฮึกเหิม อาจหาญ ในสุญตาปฏิปทา ที่ประกอบมา

    ไม่ใช่เพราะอ่านแล้ว เอาไปอวยตน

    ก็ฟังดีๆนะ

    ทำยังไงก็ไม่ถูกหลอก ปฏิบัตผิดตลอดทุกอย่าง
    แม้นจะเดิน ปฏิสัมภิทามรรค

    เว้นแต่ จะเหนจิต มันมีกระบวนการ ข้ามโคตร

    ถึงจะมี ส่วนถูก เล็กๆ น้อยๆ ให้เปน กระแสแห่งธรรม
     
  6. pisetsith

    pisetsith สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 สิงหาคม 2016
    โพสต์:
    3
    ค่าพลัง:
    +2
    ขอบพระคุณครับ
     
  7. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,053
    ค่าพลัง:
    +3,465
    กลับมาเรื่องบ้านๆ

    เรื่อง สมาธิ .....

    คุณจะเน้นส่วนที่ ออกจากสมาธิ จิตมันจะต้องโกยขยะ
    มาประดับ ตัวตนอย่างเปนลำดับ ก้สังเกตไป

    การหวลกลัยเข้ามาสู่ วัฏสงสารหยาบๆ มันเปนยังไง

    ถ้าเหน วัตถุตามสัญญาหมาย และ การเคลื่อน(มนะ)เข้าไปครอง

    แล้ว เมาสังสารวัฏ มันจะ ดี๊ดี เก๊งเก่ง

    แต่ถ้าภาวนาเปน เหน ปฏิจสมุปบาท อริยสัจจ
    มันจะเข้ามา อย่างมีสติ มีการเหนวิเศษ

    งงไหม

    อานาปานาสติ ไม่มีเรื่อง จิตรวม แบบ สมาบัต แบบฌาณ

    ลมหายใจหายไป อานาแานสติ จะหมายถึง ยกการเหน
    ความต่างของสัญญา เหนสัญญาไม่เที่ยง พรากจากสัญญา
    จิตจึงเปนหนึ่ง มีการหายใจเข้าออก ด้วยภูมิจิตมนุษย์

    พ้นจากการประกอบโยคะ อันเปนรุปสังโยชน์ อรูปสังโยชน์
    เกยตื้น

    เอาตรงนี้มา ยกสิกขาก็ได้
     
  8. Saber

    Saber เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    5,942
    กระทู้เรื่องเด่น:
    19
    ค่าพลัง:
    +11,819
    อาการของการปฏิบัติ อานาปานสติ ครับ ที่เป็นนั้นคือ เรื่องพื้นๆเบื้องต้นเฉยๆ เท่านั้นครับตั้งแต่ก่อนจนถึงหลังออก จะอาการอะไรก็แล้วแต่ ทุกอย่างที่บอกเล่ามานั้นอย่าไปสนใจคับ

    การที่ ดิ่งลึก ลงเรื่อยๆนั้น เป็น อาการของ ปิติ ให้เรารับรู้แล้วก็ปล่อยวาง อย่าไปตามดูอาการ ถ้าไปตามดูอาการพวกนี้ มันก็จะดิ่งลงไปเรื่อยๆ ไม่มีจุดสิ้นสุดหรอกครับ

    พอผ่านช่วงนี้ไป จิตมันจะสงบ เราให้เรามีสติอยู่กับผู้รู้ ที่แว็บๆนั้นเข้ามาเรื่องปรกติของคนที่ยังไม่ชำนาญ ที่จิตเรายังไม่นิ่งนั้นเอง


    เราทำสมาธิ เราต้องการให้จิตสงบเป็นสมาธิ ครับ จขกท. ไม่ใช่ทำสมาธิแล้วเอาอารมณ์ไปจับอาการทางจิตอาการทางกายต่างๆอะไรพวกนี้

    ทำสมาธิกรรมฐาน อานาปานสติ เป็น สมถะกรรมฐาน ทำจิตให้สงบ จิตตั้งมั่นจนจิตเป็นสมาธิครับ


    และอยากจะบอกว่า การปฏิบัติกรรมฐาน ครูบาอาจารย์สอนไว้ให้ปฏิบัติกรรมฐาน ทีละกอง ครับ จะฝึกอะไรจับอะไรก็เป็นกองๆไป ไม่ใช่ว่า เปลี่ยนไปเปลี่ยนมา จะหาดีไม่ได้สักอย่าง

    จะ อานาปานสติ หรือจะ มรณนุสติ ก็ต้องอย่างใดอย่างนึง เพราะกรรมฐานแต่ละกอง การปฏิบัติไม่เหมือนกันแถม 2 อย่างมานี่ คนละสายกันเลย ครับ

    อานาปานสติ คือ สมถะ สงบจิตตั้งมั่น เป็นเรื่องของ ฌาน สมาบัติ ครับ
    มรณนุสติ คือ การ วิปัสสนา พิจารณาความตาย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 สิงหาคม 2016
  9. Saber

    Saber เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    5,942
    กระทู้เรื่องเด่น:
    19
    ค่าพลัง:
    +11,819
    อนุสสติ ๑๐

    อนุสสติ
    แปลว่า "ตามระลึกถึง" กรรมฐานกองนี้ เป็นกรรมฐานที่ตามระลึกนึกถึง
    มีกำลังสมาธิไม่เสมอกัน บางหมวดก็มีสมาธิเพียงอุปจารฌาน บางหมวดก็มีสมาธิถึงปฐมฌาน
    บางหมวดก็มีสมาธิถึงฌาน ๔ และฌาน ๕ กำลังของกรรมฐานกองนี้มีกำลังไม่เสมอกันดังนี้ เมื่อถึง
    กรรมฐานหมวดใดมีกำลังเท่าใด จะได้เขียนไว้เพื่อทราบ อนุสสติทั้ง ๑๐ อย่างนี้ ก็เหมาะแก่อารมณ์
    ของนักปฏิบัติไม่ใช่อย่างเดียวกัน บางหมวดก็เหมาะแก่ท่านที่หนักไปในสัทธาจริต บางหมวด
    ก็เหมาะแก่ท่านที่หนักไปในวิตกและโมหะจริต บางหมวดก็เหมาะแก่ท่านที่หนักไปใน ราคจริตกองใด
    หมวดใดเหมาะแก่ท่านที่หนักไปในจริตใด ก็จะได้เขียนบอกไว้เพื่อทราบเมื่อถึงกองนั้น ๆ อนุสสตินี้
    มีชื่อและอาการรวม ๑๐ อย่างด้วยกัน จะได้นำชื่อแห่งอนุสสติทั้งหมดมาเขียนไว้เพื่อทราบดังต่อไปนี้

    ๑. พุทธานุสสติ ระลึกถึงคุณพระพุทธเจ้าเป็นอารมณ์
    ๒. ธัมมานุสสติ ระลึกถึงคุณพระธรรมเป็นอารมณ์
    ๓. สังฆานุสสติ ระลึกถึงคุณพระสงฆ์เป็นอารมณ์
    ๔. สีลานุสสติ ระลึกถึงคุณศีลเป็นอารมณ์
    ๕. จาคานุสสติ ระลึกถึงผลของทานการบริจาคเป็นอารมณ์
    ๖. เทวานุสสติ ระลึกถึงความดีของเทวดาเป็นอารมณ์
    (อนุสสติทั้ง ๖ กองนี้ เหมาะแก่ท่านที่หนักไปในสัทธาจริต)
    ๗. มรณานุสสติ ระลึกถึงความตายเป็นอารมณ์
    ๘. อุปสมานุสสติ ระลึกถึงความสุขในพระนิพพานเป็นอารมณ์
    (อนุสสติ ๒ กองนี้ เหมาะแก่ท่านที่หนักไปในพุทธจริต)
    ๙. กายคตานุสสติ เหมาะแก่ท่านที่หนักไปในราคจริต
    ๑๐. อานาปานานุสสติ เหมาะแก่ท่านที่หนักไปในโมหะและวิตกจริต
    อนุสสติทั้ง ๑๐ นี้ เหมาะแก่อัชฌาสัยของนักปฏิบัติแต่ละอย่างดังนี้ ขอท่านนักปฏิบัติ
    พึงทราบ และเลือกปฏิบัติให้พอเหมาะพอดีแก่อัชฌาสัยของตน จะได้ผลเป็นสมาธิมีอารมณ์ตั้งมั่น
    รวดเร็ว ไม่ล่าช้า

    กำลังสมาธิในอนุสสติทั้ง ๑๐ มีกำลังสมาธิแตกต่างกันอย่างนี้

    พุทธานุสสติ ธัมมานุสสติ สังฆานุสสติ เทวตานุสสติ มรณานุสสติ อุปสมานุสสติ อนุสสติ ทั้ง ๗ นี้ มีกำลังสูงสุดเพียงอุปจารสมาธิ

    อานาปานานุสสติ สำหรับอานาปานานุสสตินี้ มีกำลังสมาธิถึงฌาน ๔






    http://www.palungjit.org/smati/k40/index.htm
     
  10. Saber

    Saber เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    5,942
    กระทู้เรื่องเด่น:
    19
    ค่าพลัง:
    +11,819
    กรรมฐานสี่สิบกอง เปลี่ยนไปทุกวัน จะหาความก้าวหน้าได้อย่างไร ?

    ถาม : กรรมฐานสี่สิบกอง ที่เราเลือกมาปฏิบัติครั้งแรก ถ้าทำไป ๆ แล้วรู้สึกว่ายังไม่ไปไหน แล้วเปลี่ยนกองถือว่าเป็นการโลเลหรือเปล่าครับ ?
    ตอบ : ไม่ใช่โลเล แต่จะเหมือนกับที่เคยเปรียบว่า ขุดบ่อแต่ไม่ได้น้ำ สมมติมีน้ำอยู่ในระดับ ๑๐ วา พอขุดไป ๆ ถึง ๕ วา ไม่ถึงตาน้ำสักที เราก็ย้ายที่ไปขุดใหม่ เท่ากับเราเริ่มต้นนับหนึ่งใหม่

    ถาม : ถ้าเลือกมาสัก ๒ กองแล้วทำ
    ตอบ : ๒ กองที่คุณเลือก หรือกองเดียวที่คุณเลือก ให้เป็นอานาปานสติไว้ก่อน ๑ กอง ซึ่งกองอื่นเลือกอะไรก็แล้วแต่ ถ้าไม่มีลมหายใจเข้าออก กรรมฐานทุกกองไปไม่รอด

    ถาม : แล้วถ้าวันหนึ่งจับภาพพระ อีกวันหนึ่งจับกสิณ
    ตอบ : เจริญแน่..! ทำแบบนั้นอีกกี่ชาติก็ได้แค่ทำ..!

    ถาม : เปลี่ยนไปทุกวัน
    ตอบ : ชาติหน้าตอนเย็น ๆ อาจจะได้..!

    ถาม : ถ้าทำอย่างนี้ชาติหน้าตอนเย็น ๆ จะได้หรือครับ ?
    ตอบ : ถ้าวันนี้คุณจับกสิณ แล้วคุณก็เลิก..ปล่อย ถ้าสมาธิคลายตัวก็ไหลตามกิเลส พอรุ่งขึ้นแทนที่คุณจะมาจับกสิณเพื่อว่ายทวนกิเลสต่อ แต่คุณไปจับอีกกองหนึ่ง แล้วคุณก็ปล่อยและก็ไหลตามไป พออีกวันคุณก็กลับไปทำอีกกอง

    ลองนึกดูก็แล้วกัน คนไหลตามกิเลสไปสองวัน แล้วว่ายกลับมา จะหาความก้าวหน้าได้อย่างไร ? ขาดทุนสะสมไปเรื่อย รอวันล้มละลาย..!


    ถาม : แล้วถ้าทำทุกวัน อย่างละกองวันละชั่วโมงละครับ ?
    ตอบ : ๒๔ ชั่วโมงยังไม่รอดเลย..!

    ตอนนี้ค่าแรง ๒๕๐ บาท ก็ตีเสียว่าชั่วโมงหนึ่ง ๑๐ บาท สิบบาทพอกินไหม ? กินซาละเปาลูกหนึ่งก็หมดเงินแล้ว

    เรื่องของการปฏิบัติ เลือกกรรมฐานกองใดกองหนึ่งแล้วทำให้ถึงที่สุดไปเลย ถ้าหากถึงที่สุดแล้วกองอื่นจะเป็นของง่ายเพราะกำลังที่ใช้เท่ากัน เปลี่ยนแค่วิธีการนิดเดียว เพราะฉะนั้น..อย่าหลายใจ กรรมฐานไม่ใช่วิชาทางโลก ที่จะได้สะสมหน่วยกิตได้ เขาต้องการความจดจ่อต่อเนื่องตลอด คุณไปสะสมหน่วยกิตก็ได้เหมือนกัน ได้แค่ในส่วนอานิสงส์ที่เป็นกุศลกรรม แต่ความสำเร็จมาถึงยาก



    รวมธรรมะจากพระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ)

    www.watthakhanun.com/webboard/forumdisplay.php?f=26
     
  11. pisetsith

    pisetsith สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 สิงหาคม 2016
    โพสต์:
    3
    ค่าพลัง:
    +2
    ขอบพระคุณครับ
     
  12. ยอดคะน้า

    ยอดคะน้า เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มกราคม 2010
    โพสต์:
    960
    ค่าพลัง:
    +711
    ลองฟังผู้รู้ดูครับ

    https://www.youtube.com/watch?v=A_wNlX-y0vg
     

แชร์หน้านี้

Loading...