สอบถามข้อสงสัยเรื่องการฝึกสมาธิครับ

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย powerbeen, 28 ตุลาคม 2017.

  1. powerbeen

    powerbeen Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มกราคม 2015
    โพสต์:
    14
    ค่าพลัง:
    +30
    ช่วงก่อนหน้านี้(ปีที่แล้ว)ผมเริ่มฝึกนั่งสมาธิ(อ่านเอาจากหนังสือหลายๆเล่ม และตามแบบที่คุณยายเคยสอน) ด้วยช่วงแรกก็นั่งไม่นาน 2-3นาที แล้วก็เพิ่มเวลาไปเรื่อยๆ แต่คิดว่าน่าจะยังไม่เกิน 45นาที เมื่อฝึกไปได้สักระยะก็เริ่มมีอาการ ตึงหน่วงตรงบริเวณหว่างคิ้ว แรกๆก็แค่สงสัย แต่อาการนี้มาบ่อยขึ้นๆ เพียงแค่หลับตาอาการตึงหน่วงก็มาทันที หลังๆแม้แต่ลืมตาทำงานปกติ เพียงแค่นึกคำภาวนา อาการตึงก็มาทันที และด้วยกลัวจะเกิดอันตรายผมจึงหยุดฝึกสมาธิตั้งแต่บัดนั้น แต่ก็ยังจับคำภาวนาบ้างบางครั้งระหว่างวัน ผมได้กลับมาเริ่มฝึกสมาธิอีกครั้งแต่อาการนี้ก็ยังไม่เกิดอีก
    ผมอยากทราบว่า
    1.อาการที่เกิดนี้มันคืออะไรครับ
    2.มันจะเกิดอีกได้หรือไม่ และหากว่าเกิดอีก ควรจะวางจิตหรือจัดการกับมันอย่างไร
    3.เป้าหมายสูงสุดในการฝึกสมาธิของผมคือพระนิพพาน แต่เป้าหมายแรก คือ อยากออกไปเที่ยวได้(ทั้งๆที่รู้ว่าไม่ควรอยาก) ผมควรจะต้องฝึกไปทางไหน และพอจะหาครูบาอาจารย์ได้ที่ไหนครับ
     
  2. สมิง สมิง สมิง

    สมิง สมิง สมิง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มกราคม 2017
    โพสต์:
    1,135
    ค่าพลัง:
    +952

    1. พอฝึกสมาธิมีอาการตึง หน่วงระหว่างคิ้ว อาการนี้เกิดจาก การกำหนดจิตตรงนั้น (อาจไม่ได้ตั้งใจ, หรือตั้งใจ, หรืออาจเป็นฐานจิตที่เราเคยทำมาและถนัดตรงจุดนี้ คือ หน้าผาก หรือระหว่างคิ้วนี่เอง) การกำหนดจิต คือ การนึก การเอาความรู้สึกไปอยู่ตรงนั้น แล้วจะมีแรงกระทำเกิดขึ้นตรงนั้น คือ อาการตึง ๆ หรือหน่วงนั่นเอง หรือเหมือนมีแรงกดเบา ๆ
    ...การกำหนดฐานจิต คือ ที่ที่อยู่ของจิต ในการภาวนา เช่น บริกรรมภาวนา เข้า พุท ออก โธ คำบริกรรมก็จะอยู่ที่ฐานจิต จิตอยู่ตรงไหน คำบริกรรมอยู่ตรงนั้น บริกรรมซ้ำ ๆ ลงไปตรงจุดนั้น ก็จะมีการสะสมพลังจิตเกิดขึ้นที่ฐานจิตนั้นนั่นเอง...
    ...ด้วยเหตุนี้ ตรงนี้ มีพลังงานเกิดขึ้นเพราะเป็นสถานที่จิตรองรับพลังงาน (พลังจิตที่เกิดขึ้น) ย่อมมีแรงกระทำ หรือ ความรู้สึก ปรากฏบ้าง...
    ...ตามหลักสูตรครูสมาธิของพ่อแม่ครูอาจารย์หลวงพ่อวิริยังค์ สิรินธโร ได้กำหนดฐานจิตไว้ ๓ ฐาน คือ
    1. บริเวณหน้าผาก (ระหว่างคิ้ว บริเวณใบหน้าก็รวมอยู่ด้วย)
    2. หัวใจหรืออกด้านซ้าย
    3. สะดือ

    2. อาจเกิดหรือไม่เกิดก็ได้ ถ้าเกิดแล้วมันไม่สบาย มันมึน ทื่อชา หรือมันไปสะกดตัวเอง ก็เปลี่ยนฐานจิตใหม่
    3. ควรหาครูบาอาจารย์ที่ตรงจริต ครับ

    ...อนุโมทนาบุญ...
     
  3. น้องนกลาบ ชื่อนี้สีชมพู

    น้องนกลาบ ชื่อนี้สีชมพู ค ว า ม ต า ย คื อ ก า ร เ ริ่ ม ต้ น ข อ งชี วิ ต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 เมษายน 2017
    โพสต์:
    176
    ค่าพลัง:
    +156
    หนูก็เป็นเหมือนกันค่ะ รู้สึกหนักตรงระหว่างคิ้ว
    เหมือนมันปูดๆ
    แต่หนูกำหนดฐานจิตที่จมูกนะ
     
  4. สมิง สมิง สมิง

    สมิง สมิง สมิง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มกราคม 2017
    โพสต์:
    1,135
    ค่าพลัง:
    +952

    ...ของน้องนกลาบ เป็นตาที่สามครับ...

    ...อนุโมทนาบุญ...
     
  5. Apinya Smabut

    Apinya Smabut นิพพานังสุขัง นิพพานเป็นสุขอย่างยิ่ง

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2014
    โพสต์:
    1,398
    กระทู้เรื่องเด่น:
    57
    ค่าพลัง:
    +2,631
    เป็นไปได้ 2 กรณีครับ

    - ถ้าอาการตึง ๆ นั้นในขณะที่มีอาการ แล้วมีความรู้สึกอารมณ์นิ่งและไม่มีอาการปวดตาปวดหัว ก็ปล่อยให้ตึงต่อไปเลยครับ เป็นอาการที่จิตรวมได้ถูกต้องแล้ว ไม่ต้องทำอะไรเพิ่มฝึกแบบเดิม ทำให้มีอาการแบบนี้ทุกวันทุกเวลา เดี๋ยวจิตก็รวมเป็นหนึ่งเอง

    - ถ้ามีอาการตึง ๆ แล้วมีลักษณะปวดหัวปวดตาร่วมด้วย แสดงว่าเป็นภาวะที่จิตกำลังรวมเหมือนกัน แต่ไปรวมผิดจุด ทำให้มีอาการปวดตาเกร็งตาร่วมด้วย ควรหาตำแหน่งที่เราคำนึงถึงเวลาภาวนาใหม่
     
  6. powerbeen

    powerbeen Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มกราคม 2015
    โพสต์:
    14
    ค่าพลัง:
    +30
    ของผมตึงหน่วง แต่ไม่ปวดหัวปวดตาครับ แค่ตึงมากจนรู้สึกชัดเจนเท่านั้นครับ ขอบคุณสำหรับคพแนะนำครับ พอเป็นแนวให้ไปต่อได้โดยไม่รู้สึกกังวลแล้วล่ะครับ ขอบคุณมากครับ
     
  7. powerbeen

    powerbeen Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มกราคม 2015
    โพสต์:
    14
    ค่าพลัง:
    +30
    ขอบคุณมากครับสำหรับคำแนะนำ เท่านี้ก็พอเป็นแนวทางคลายความกังวลลงไปได้แล้วครับ
     
  8. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,430
    ค่าพลัง:
    +35,010
    ทั่วๆไป...นะครับ
    หนึ่งให้ดูว่า เวลาหลับตาสายตาปกติได้โน้มลงมามองที่หน้าฝากหรือไม่
    เพื่อเป็นการตัดระบบการไปดึงความคิดจากสมองมาใช้..

    สอง หายใจเข้าและออกลึกถึงท้องหรือไม่ คือหายใจเข้าท้องพอง หายใจออกท้องยุบไหม
    สาม ดูว่า เวลาหายใจระลึกรู้ลมหายใจเข้าและออกหยุดที่ปลายจมูกหรือไม่
    สี่ ดูว่า เผลอไปตามลมหายใจหรือไม่ ถ้าเผลอตาม ประกันได้ ชาตินี้ ไม่เกินปฐมฌาน...
    ห้า เผลอเอาจิตไปกำหนดไว้ที่ส่วนไหน รู้ไม่ แค่ไม่รู้กิริยาตรงไหน
    ของร่างกายนั่นคือ จิตส่งออกไปแล้ว.........

    สมาธิแบบเตือนๆกัน จะได้ไม่หลงทางไปในแนววิเศษแล้วเผลออุปโลกน์ตัวเองได้
    ฝึกสมาธิถ้ายังมีกิริยาอะไรก็ตามส่งผลกระทบทางผิวกาย ไม่ว่ากิริยาใดๆ
    ให้พึ่งรู้ไว้ว่า สมาธิสะสมเรายังไม่พอ แค่นั้นเองไม่มีอะไรครับ ก็หาวิธีสร้างซะ...
    ไม่ว่าจะเดินจงกลมร่วมกับนั่ง และเจริญสติในชีวิตประจำวันให้ต่อเนื่อง...

    ถ้าฝึกสมาธิแล้วปวดศรีษะ แสดงว่า เรายังตัดความคิดไม่ได้
    ให้มาระลึกรู้ลมหายใจเข้าออกที่ปลายจมูก กับโน้มตาปกติมองที่ลิ้นปี่ซะ

    ถ้าฝึกสมาธิแล้ว ได้เห็นนามธรรมอะไรก็ตาม แล้วเราไม่เข้าใจว่าคืออะไร
    ไม่เข้าใจวัตถุประสงค์ แสดงว่า กำลังสติทางธรรมเราไม่พอ
    ให้เลิกสนใจสิ่งที่เห็น เพราะยิ่งไปอยากรู้ยิ่งทำให้ช้า
    แล้วฝึกสติต่อให้ต่อเนื่อง
    เด่วจะมีการรู้ได้เองโดยไม่ต้องไปถามใคร...

    ส่วนถ้าในร่างกาย มันมีคล้ายลมหมุนๆ ตามแนวด้านหน้า
    ไม่ว่าจะ กลางระหว่างขา ขึ้นไปถึงศรีษะด้านบน
    ถ้าเกิดพวกนี้ อย่าไปสนใจอะไร ปล่อยให้มันเป็นไปของมันเอง
    ตามธรรมชาติ อย่าไปคิดว่า เป็นอะไรที่วิเศษ วิโส เด่วจะหลงตัวเอง
    หลงทิศหลงทาง และจะออกนอกแนวพุทธศาสนา จะไปสนใจแต่เรื่อง
    นามธรรมไร้สาระ พิสูจน์ไม่ได้ ออกทางผู้วิเศษ บ้าพลังงานไปไร้สาระ
    และจะกลายเป็นผู้วิเศษอุปโลกน์ได้...
    เพราะ ที่มันเกิดการหมุนนั้น มันเพราะวิบากที่จิตเคยสร้างมาทั้งนั้นหะลครับ
    ถ้าไปสนใจ มันจะก่อเชื้อให้เราเชื่อ และต้องไปตาม วิบาก จริต อนุสัยเหล่านั้น
    ไม่รู้จักจบจักสิ้น ด้วยการมาหลอกเราต่อว่า เป็นอะไรที่วิเศษตาย
    ได้ตายแน่ แต่ออกแนว ตาย ๕ แบบไม่รู้ตัวได้ครับ
    ดังนั้นให้ช่างมัน จะหมุนจะอะไรอย่างไร ช่างหัว(.....)มันครับ
    จะปลอดภัยทั้งกายและใจ ตลอดไปในอนาคตครับ
     
  9. ธรรม-ชาติ

    ธรรม-ชาติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    2,566
    ค่าพลัง:
    +9,966
    +++ นั่นคือ "อาการเพ่ง" ที่เกิดขึ้นมาโดย ไม่รู้ตัว
    +++ นั่นคือ "เริ่มเป็นนิสัย ติดเพ่ง" โดย ไม่รู้ตัว
    +++ ยินดีด้วย ที่มัน "ยังไม่เกิดขึ้นมาอีก"
    +++ มันคือ "การเพ่ง"
    +++ สามารถเกิดได้ทุกครั้งที่ทำการ "เพ่ง"
    +++ อ่านต่อไป ข้างล่าง
    +++ ตั้งเป้าไว้ "ดี" แล้ว
    +++ จริง ๆ ตรงนี้ควรเป็น "เป้าหมายสุดท้าย" ไม่ใช่เป้าหมายแรก
    +++ มหาสติปัฏฐาน 4 เน้นที่ ทำความ "รู้สึก" ให้ได้ทั้งตัว แล้วจะ "รู้สึก" ทุกอย่างได้เอง แม้แต่วาระจิตของตนเอง
    +++ ได้ที่ "ความรู้สึกตัวทั่วถึง" ใน "กายของตัวคุณเอง" นะครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...