สวดมนต์ทุกวัน แต่ไม่มีพระพุทธรูปเป็นประธาน

ในห้อง 'บทสวดมนต์ - คาถา' ตั้งกระทู้โดย กนกพลศรี, 4 กรกฎาคม 2008.

  1. paranyu

    paranyu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    259
    ค่าพลัง:
    +122
    http://www.samyaek.com/mambo/index.php?option=com_content&task=view&id=621&Itemid=44


    เนื้อหาบางส่วนจากการแสดงธรรมชุดนี้
    ๑. รูป ฯลฯ เป็นของร้อน - พึ่งไม่ได้
    - ควรพิจารณาให้มันวาง
    ๒. พระธาตุไม่ได้เสด็จเอง แต่เป็นเพราะเทวดาทำ
    ๓. พิธีกรรมเป็นขยะในศาสนา
    ฯลฯ
     
  2. paranyu

    paranyu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    259
    ค่าพลัง:
    +122
    http://www.samyaek.com/mambo/index.php?option=com_content&task=view&id=617&Itemid=44



    เนื้อหาบางส่วนจากการแสดงธรรมชุดนี้ คือ

    ๑. วิธีแก้เมื่อโดนคุณไสย
    ๒. ใส่บาตรข้าวสาร – อาหารแห้ง... ผิด
    ๓. ภาวนาเพื่อแก้ความยากจน... ผิด
    ๔. ไม่มีปีใหม่
    ๕. สวดมนต์ไม่รู้ความหมาย... อันตราย
    ๖. ผู้น้อยให้ผู้ใหญ่ทำงานให้... ผิด
    ฯลฯ
     
  3. PrasertN

    PrasertN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    104
    ค่าพลัง:
    +195
    การนึกถึงภาพพระพุทธรูป ก็ไม่ผิด คล้าย กสิน
    การไม่นึกภาพพระพุทธรูป แต่ระลึกถึงพระองค์ท่าน โดยไม่นึกรูป เป็นพุทธานุสสติทั้งคู่
    จริตมี6 จริต การปฏิบัติมีตั้งหลายอย่าง
    ทั้งใช้รูปและไม่ใช้รูปไม่น่าเอามาเปรียบเทียบกัน หรือทำอย่างนี้ ไม่ต้องทำ อีกอย่าง แต่สุดท้ายก็ต้องละรูป ที่ต้องใช้รูปเพราะเป็นเรื่องของจริต ซึ่งอาจต้องพิจารณารูปเพื่อให้ละรูปได้
    ใช่ไหมครับ
     
  4. PrasertN

    PrasertN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    104
    ค่าพลัง:
    +195
    คุณ paranyu เป็นภิกษุหรือเปล่าครับ
     
  5. ภัทรอังคาร

    ภัทรอังคาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    4,904
    ค่าพลัง:
    +14,098
    นั่นนะสิค่ะคุณ paranyu เป็นภิกษุหรือป่าวค่ะ แลดูเหมือนจะรอบรู้มากเคย แต่คิดว่าไม่น่าจะต้องให้ยุ่งยากขนาดนั้นเลยนี่ค่ะ สำคัญอยู่ที่จิตศรัทธา การสวดมนต์ทุกคนก็สวดด้วยความศรัทธาทั้งนั้น ไม่เคยเห็นมีพระสงฆ์องค์ไหน สาธยาย เช่นคุณเลยนะค่ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 กรกฎาคม 2008
  6. paranyu

    paranyu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    259
    ค่าพลัง:
    +122
    ตอบคุณ Prasertn

    ผมไม่ใช่ภิกษุครับ........ว่าแต่ถามเพราะ.........


    ตอบคุณ ภัทรอังคาร ครับ

    สมัยก่อนพุทธกาล ก็ไม่มีใครตรัสรู้ธรรมแบบพระพุทธเจ้า ไม่มีประเพณีที่พระพุทธเจ้าพาสอนพาทำ ไม่มีวินัยสงฆ์ ความเชื่อของนักบวช นักบำเพ็ญในยุคนั้นก็ปฏิบัติตามประเพณี
    ตามคำสั่งสอนของครูบาอาจารย์ในสมัยนั้น เช่น ทรมานตนแบบสุดโต่งนักปฏิบัติสมัยนั้นก็มองเป็นเรื่องดี เรื่องน่านับถือ น่ายกย่อง เป็นเรื่องถูกต้อง

    พอมีสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสรู้ท่านก็เริ่มอบรมสั่งสอนอาจารย์ของท่าน จนมาเป็นศิษย์ของท่านเริ่มจาก5รูปจนมาเป็นศาสนาพุทธในปัจจุบัน


    ว่าแต่ท่านทั้งสองอ่านหรือฟัง ลิงค์ที่ผมแนะนำหรือยังครับ ฟังแค่ลิงค์2อันบนก็น่าจะทราบแล้วครับ ว่าทำไมหลวงปู่ถึงมีคำสอนไม่เหมือนพระอาจารย์รูปอื่นๆ เพราะอะไรลองฟังดูครับ
     
  7. paranyu

    paranyu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    259
    ค่าพลัง:
    +122
    รถ เรือ รถไฟ รถไฟใต้ดิน-ลอยฟ้า เครื่องบิน ฯลฯ

    เราจะเดินทางจากจุดหนึ่งไปจุดหนึ่ง
    อะไรดีที่สุดครับ

    บ้างก็ตอบว่าแล้วแต่ความสะดวกในการเดินทางของเราเป็นตัวที่น่าจะนำมาตัดสินใจ
    บ้างก็ตอบว่าควรคำนึงเรื่องค่าใช้จ่ายเป็นตัวที่น่าจะนำมาตัดสินใจ
    บ้างก็ตอบว่าถ้าคำนึงเรื่องค่าใช้จ่ายอย่างเดียวไม่ถูกต้องคำนวนเรื่องความคุ้มค่าถึงจะถูก
    ฯลฯ
    แล้วถ้าถามผมว่าแล้วอะไรคือคำตอบที่ถูกที่สุด คำตอบคือ ผมไม่รู้ครับ
    ประเด็นคือผมอยากให้เราลองศึกษา ลองฟัง ลองคิดตาม ลองเรียนรู้ดูครับ
    บางอย่างที่เคยขัดกับความเชื่อหรือความรู้เดิมของเราอาจจะดีหรือไม่ดี
    อาจจะถูกหรือไม่ถูกลองเราได้เปิดใจลองศึกษาความรู้ใหม่ๆดู เราก็จะได้คำตอบครับ
    ว่าของเก่าถูกต้องแล้วดีแล้ว หรือของใหม่ถูกต้องกว่า ดีกว่า หรือทั้งของเก่าและของใหม่คือความรู้ที่เราจะไปประยุกต์ใช้ได้เข้ากับตัวเรามากที่สุด หรือฯลฯ
    เหตุผล มันก็ถูกทุกคนล่ะครับ ขึ้นอยู่ที่เรามองมุมไหน แต่ความรู้เราจะดีกว่าเดิมถ้าเราลองศึกษาเรื่องใหม่ๆและเทียบเคียงเป็น และนำมาประยุกต์ใช้เป็น
     
  8. paranyu

    paranyu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    259
    ค่าพลัง:
    +122
    ลืม......อีกอย่าง

    อย่าเข้าใจผิดว่าผมเป็นผู้รอบรู้นะครับ ก็อปมาให้อ่านเป็นส่วนใหญ่
    บางที่ผมเห็นคำถามในลักษณะที่ผมค้นคว้าก็อปมาได้ ผมก็ก็อปมาตอบหาใช่ความรู้ของผมแต่อย่างใดครับ
     
  9. paranyu

    paranyu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    259
    ค่าพลัง:
    +122
    นี่ก็ก็อบมาจากเว็บนี้แระ..........


    ธรรมะจากการไปเที่ยวอินเดีย...


    <HR style="COLOR: #ffffff; BACKGROUND-COLOR: #ffffff" SIZE=1><!-- / icon and title --><!-- message --><TABLE cellSpacing=1 cellPadding=5 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD>ไปเที่ยวอินเดีย... <HR width="100%" color=#dddddd SIZE=1>[​IMG]</TD></TR><TR><TD bgColor=#ffffff>
    <TABLE width="100%" border=0><TBODY><TR><TD>...ไปเที่ยวอินเดีย...

    ...เห็นปาฏิหาริย์หลายอย่าง ในสถานที่ตรัสรู้ ตลอดจนเห็นสถานที่ปรินิพพาน ของพระพุทธองค์ ภาวนาทำจิตได้ง่ายกว่าอยู่เมืองไทย เพราะ พระอรหันต์ทั้งหลาย ท่านเมตตาภาวนา การทำจิตได้เร็วกว่าอยู่เมืองไทย เข้าจิตถึงอริยสัจจ์เสมอไป... ล้วนแต่เป็นสถานที่มงคลทั้งนั้น... ดุจประหนึ่งว่า เราเกิดในอินเดียมาหลายชาติ สร้างบารมีครั้งสุดท้าย มาเกิดเมืองไทย... เกิดมาในโลกมนุษย์ ทุกข์มาก รู้สึกเป็นอย่างยิ่ง จึงพยายามเจริญสมณธรรม ให้สิ้นทุกข์ ในชาตินี้ ทุกข์ปัญจขันธ์ก็พออยู่แล้ว ทุกข์ภายนอก กลัวอันตรายทุกอย่าง ที่มนุษย์เบียดเบียนกัน ฆ่ากัน แย่งชิงกัน เพื่อลาภ ยศ บ้าง สารพัดทุกอย่าง สุขแต่ผู้มีธรรมะ ในเรือนใจ ไม่มีธรรมะ เป็นทุกข์อย่างยิ่ง... แก่ชรามานานเท่าไร พึงภาวนาให้คุ้นเคยกับความตาย เพราะ จะต้องตายอยู่แล้ว อานิสงส์ของการช่วยชีวิตสัตว์ โดยเฉพาะ เป็นสัตว์ที่เขานำไปฆ่า ว่ามีอานิสงส์มาก กล่าวคือ ทำให้อายุยืนหนึ่ง ไม่ติดคุกติดตะรางหนึ่ง... ถึงแม้จะตกทุกข์ได้ยาก ก็มีคนคอยช่วยเหลือ... การภาวนาก็ดี การรักษาศีลก็ดี การบำเพ็ญทานก็ดี เป็นกิจที่ต้องทำทุกคน ทุกเพศ ทุกวัย ไม่เลือกเวลา ไม่เลือกสถานที่ ไม่เลือกบุคคล ทำได้หมดทั้งนั้น...

    นิรนาม

    ...ความสำเร็จนั้น...

    ... ไม่ใช่อยู่ที่การสวดมนต์ อ้อนวอนพระเจ้ามาประทานให้ หากแต่ ต้องลงมือทำด้วยตนเอง ถ้าตั้งใจทำตามแบบแล้ว ทุกอย่างต้องสำเร็จ ไม่ใช่จะสำเร็จ พระพุทธเจ้า ท่านวางแบบเอาไว้แล้ว ครูบาอาจารย์ ทุกองค์ มีพระพุทธเจ้าเป็นที่สุด ก็ได้ทำตามแบบ เป็นตัวอย่าง ให้เราดู อัฐท่านก็กลายเป็นพระธาตุกันหมด... เหมือนกับเรากินข้าว ไม่ต้องอยากให้มันอิ่ม ค่อยค่อยกินไป มันก็อิ่มไปเอง...ภาวนาก็เช่นกัน ไม่ต้องไปคาดหวังให้มันสงบ หน้าที่ของเรา คือ ภาวนาไป ก็จะถึงของดี ของวิเศษในตัวเรา แล้วจะรู้ชัดขึ้นมาว่า อะไรเป็นอะไร ให้หมั่นทำเรื่อยไป...การมาอยู่ด้วยกัน ปฏิบัติด้วยกันมากเข้า ย่อมมีเรื่องกระทบกระทั่งกันไป เป็นธรรมดา ตราบใดที่ยังเป็นปุถุชน คนธรรมดาอยู่ ทิฐิความเห็นย่อมต่างกัน ขอให้เอาแต่ส่วนดีมาสนับสนุนกัน อย่าเอาส่วนเลวมาอวดกัน...การประมาสพระก็ดี การพูดจาจ้วงจาบในพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ หรือ ท่านที่มีศีลมีธรรมก็ดี จะเป็นกรรมติดตัวเรา และ ขัดขวางการปฏิบัติธรรมในภายหน้า ดังนั้น หากเห็นใครทำความดี ก็ควรอนุโมทนายินดีด้วย แม้ต่างวัด ต่างสำนัก หรือ แบบปฏิบัติต่างกันก็ตาม...

    หลวงปู่ ดุ่ พรหมปัญโญ



    </TD></TR></TBODY></TABLE>ที่มา http://www.dhammathai.org/articles/view.php?No=483

    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 กรกฎาคม 2008
  10. ธัมมนัตา

    ธัมมนัตา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,516
    ค่าพลัง:
    +9,769
    เห็นด้วย ในข้อที่สวดมนตร์แล้วควรรู้คำแปล และปฏิบัติตามธรรมนั้น ๆ

    ที่ผ่านมามีข้อจำกัดคือบทสวดมนตร์ส่วนใหญ่ ไม่มีคำแปล หายาก แต่ปัจจุบันมีมากขึ้นแล้ว

    ปัจจุบันจึงได้หาบทสวดที่มีคำแปลมาสวด
    ได้ทั้งการตอกย้ำ ในศรัทธา และปัญญาที่มาจากคำแปลบ้อธรรมที่ลึกซึ้งเหล่านั้น

    แต่แรกเริ่มนั้นก็สวดไปก่อนโดยไม่รู้ความหมาย ต่อมาจึงขวนขวายหาบทแปลมา
    เมื่ออ่านบทแปลแล้วจะมีความลึกซึ้งในข้อธรรม ยิ่งสวดคู่พร้อมคำแปลจะดีมาก
     
  11. paranyu

    paranyu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    259
    ค่าพลัง:
    +122
    กระทู้นี้......ก่อนหลวงปู่จะเป็นข่าวหน้าหนึ่งอีก
     
  12. PrasertN

    PrasertN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    104
    ค่าพลัง:
    +195
    ผมเริ่มต้นจากสวดไม่รู้คำแปลครับ
    ต่อมาก็สนใจว่าที่สวดหมายความถึงอะไร
    เมื่อความหมายก็รู้สึกดีมาก

    บทชินบัญชร คงไม่ใช่พระธรรมของพระพุทธเจ้า แต่ผมก็สวด

    นะโมโพธิสัตโต อาคันติมายะ อิติภควา ไม่ใช่พระธรรมของพระพุทธเจ้า
    บูชาหลวงปู่ทวด ผมก็สวด

    บทบูชาท้าวเวสสุวัน ผมก็สวด
    บทขอขมาพระภูมิเจ้าที่ ผมก็สวด

    สวดแล้วรู้สึกดี

    ในพระไตรปิฎกผมมักเจอว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ดูก่อนอานนท์ ดูก่อน(ชื่อภิกษุ)
    อยากเห็นอย่างอื่น เช่นดูก่อนมหาบพิตร ที่เกี่ยวกันกับเรื่องนี้ ช่วยเอามาโพสให้ดูด้วยครับ

    คำสอนบางอย่างเหมาะเฉพาะบุคลต่างกาลต่างวาระกัน
    อาจเหมาะกับปัญญาชนไม่เหมาะกับผู้เบาปัญญา
    อาจเหมาะกับภิกษุไม่เหมาะกับปุถุชน
    มีคนจำนวนมากไม่ชอบเรียนธรรม เรียนไม่รู้เรื่อง ไม่สนใจเรียน คงบังคับกันไม่ได้
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 กรกฎาคม 2008
  13. BRAVA

    BRAVA สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    57
    ค่าพลัง:
    +2
    สิ่งที่อยากบอก อยากแบ่งปันให้ผู้อื่นได้รู้ด้วยเนี่ย คุณparanyu ก็ได้นำมากล่าวไว้เกือบหมดแล้วนะคะ เห็นว่าเป็นสาระ และเป็นความจริงที่ปฏิเสธไม่ได้เลย อยากให้ทุกท่านเอากลับไปศึกษา และพิจรณาให้ถ่องเเท้เสียก่อนค่ะ หลังจากนั้น จะเอาธรรม มาค้านธรรม ก็ลองค้นคว้าร่วมกัน ก็ไม่ว่าค่ะ แต่ว่าท่านที่ เอาเรื่องของ วัฒนธรรม ประเพณี ความเชื่อส่วนตัว มาค้านกันนี่ เห็นจะคุยไม่รู้เรื่อง ก็ปล่อยเขาไปเถอะค่ะ เว้นแต่ว่าถ้าเขาค้านมาแบบใช้เหตุผลในลักษณะซักค้าน เพื่อหาคำตอบนี่ก็สงเคราะห์เขาหน่อยนะคะ จิตตั้งมั่นแล้ว พลังใจไม่มีหมดหรอกค่ะ
     
  14. BRAVA

    BRAVA สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    57
    ค่าพลัง:
    +2
    ว่าแต่ท่านๆที่เข้ามาค้านๆๆๆ เนี่ย เข้าไปศึกษา ตามที่คุณparanyu เค้าเเนะนำหรือยังคะ ถ้าแบบว่าเข้าไปดูเเล้ว ธรรมที่อยู่ในนั้น ท่านไม่เห็นด้วยตรงไหน ก็เอามาคุยกันดูสิคะ เเต่ถ้ายังไม่ได้ดู ไม่อยากดูไม่อยากรู้อะไรนอกเหนือจากที่คุณเคยรู้มาอีกแล้ว ก็ไม่เป็นไร แต่อย่าคุยกันเลยค่ะ เรื่องในธรรมกับเรื่องนอกธรรม คุยกันไม่รู้เรื่องหรอก ก็อ่านเรื่องแต่งเรื่องเล่ากันต่อไปนะ
     
  15. ธัมมนัตา

    ธัมมนัตา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,516
    ค่าพลัง:
    +9,769
    การเข้าถึงธรรมมีหลายระดับ

    1.สวดโดยไม่เข้าใจความหมาย เป็นส่วนใหญ่ของชาวพุทธในปัจจุบัน
    2.สวดและเข้าใจความหมาย จะมีน้อยลง คือกลุ่มพระสงฆ์และผู้ใฝ่ธรรมทั้งหลาย
    3.เข้าใจในธรรม ปฏิบัติธรรมอยู่อาจไม่จำเป็นต้องสวดพร่ำเพรื่อ
    (ที่วัดมเหยงคณ์ ให้ผู้ที่มาปฏิบัติธรรม ไม่ต้องทำวัตร สวดมนตร์)

    แต่อย่างไรก็ตามก็ยังเห็นว่าคนที่หันมาสวดมนตร์แม่เบื้องต้นจะไม่รู้ความหมายก็ยังดีกว่าคนที่ไม่สนใจจะสวดมนตร์ใด ๆเลย
    อย่างน้อยก็เป็นอุบาย ขั้นต้นในการน้อมจิตเป็นในทางกุศล สวดไป นาน ๆ ก็จะก่อเกิดปัญญาอาจรื้อฟื้นสัญญาเก่าได้

    แต่เพื่อให้เกิดปัญญาแก่ผู้สวดจึงจำเป็นที่จะต้องเร่งให้มีหนังสือสวดมนตร์ที่มีคำแปล ออกมาให้มาก ๆ

    ประสบการณ์ข้างต้นคือประสบการณ์จริงที่เจอมากับตัวเอง

    ภูตังคะมะหิ ตะมังคะลัง
    ขอให้พ้นจากความมืดและเข้าถึงความสว่าง
     
  16. Denverguy

    Denverguy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2008
    โพสต์:
    358
    ค่าพลัง:
    +129
    เรื่องสัตว์นั้น ถึงมันไม่รู้เรื่องก็ไม่ผิดอะไรเพราะมันเป็นสัตว์ซึ่งไม่เข้าใจภาษาคน แต่ที่มันได้ไปเกิดบนสวรรค์นั้น เพราะจิตก่อนตายมันเป็นจิตอันควรแก่ภพภูมิที่ดี คือตายด้วยความสุข สงบ แต่คนเรามันไม่ใช่สัตว์ที่ฟังภาษาคนไม่รู้เรื่อง ถึงจะไม่รู้เรื่องเพราะคนละภาษาก็ควรจะศึกษาเอาจากผู้ที่แตกฉาน ที่ท่านแปลมาเป็นภาษาที่เราเข้าใจ พอสวดด้วยความเข้าใจ ก็สามารถนำมาไตร่ตรอง ใคร่ครวญ คำสอนในบทสวดนั้น แล้วนำมาปฏิบัติตาม จึงจะเป็นบุญ เป็นกุศลจริงๆ ไม่ใช่สวดแบบนกแก้วนกขุนทอง ไม่รู้เรื่องจึงไม่เข้าใจแล้วก็ไม่ได้น้อมนำมาปฏิบัติ ให้เกิดประโยชน์ตนแล้วยังจะไปแนะนำให้คนอื่นสวดตามแบบไม่รู้เรื่อง จะได้ประโยชน์อะไร นอกจากนึกคิดเอาเองว่าเออ เราสวดมนต์ทำความดีแล้ว ทั้งๆ ที่ไม่รู้สวดอะไรไป เพื่ออะไร
    พระสมัยพุทธกาล ท่านมีความจำดี ไม่ต้องมาจดบันทึกอย่างเราๆ สมัยนี้ เมื่อได้ฟังธรรมอันใดจากพุทธองค์ ก็จดจำไว้ นานๆ ก็มาสวดเพื่อตรวจทานในข้อธรรมที่ได้ฟังมา แล้วนำไปปฏิบัติเป็นสำคัญ แต่ละบทนั้น ก็ได้จากพระอรหันต์สาวกทั้งนั้น
    อย่างบทรับศีลห้า แปลกันได้หรือเปล่าว่าอะไร ท่านเหล่านั้นล้วนเป็นอริยะบุคคลผู้ไม่สั่นคลอนในศีลเป็นแน่แท้ ท่านถึงประกาศจะรับศีลทุกๆ ข้อไปปฏิบัติได้อย่างไม่บกพร่อง
    ลองหันมาสำรวจตัวเองกันดูสิ ว่าศีลห้าเรานะ สมบูรณ์ บริบูรณ์ดีแล้วหรือ มั่นใจแล้วหรือว่ารักษาได้หมดทุกข้อ อย่างไม่มีทางละเมิด ส่วนใหญ่ก็ยังมีให้เห็น รับศีลห้าบอกจะรักษาให้ได้ตลอดชีวิต ตามภาษาบาลีที่ไม่เข้าใจ แต่ก็สวดๆ ตาม พอรับไม่ทันข้ามชั่วโมง นาที วัน ก็ไปฆ่าสัตว์ ไปขโมย ไปผิดลูกเมียเขา โกหก กินเหล้านี่ ในวัดยังนั่งกิน แล้วจะไปรับทำไมศีลนะ โกหกพระพุทธองค์ชัดๆ จะได้บุญหรือบาปกันแน่พิจารณากันเอานะครับ ผู้นิยมสวดแบบไม่รู้เรื่อง หรือจะศึกษาหาคำแปลเพื่อจะได้เข้าใจ น้อมนำไปปฏิบัติให้เกิด มรรค ผล กับเขาบ้าง ก็คิดเอา
     
  17. PrasertN

    PrasertN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    104
    ค่าพลัง:
    +195
    คนเรามีหลายจริต<?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-com:eek:ffice:eek:ffice" /><o:p></o:p>
    ไม่อยากเรียน เรียนได้ สนใจเรียน เรียนเก่ง<o:p></o:p>
    ขั้นแรกศรัทธายังไม่มาก หรือเป็นเด็ก ก็ให้สวดมนต์แบบไม่รู้ความหมายไปก่อน อย่าห้ามโดยเฉพาะกับเด็กอนุบาล สวดผิดถูกออกเสียงผิดถูกไม่เป็นไร ไม่บาปหรอก ค่อยๆแก้กันไป เมื่อโตขึ้น ศรัทธาไม่มาก ก็เลิกสวดไปเอง แต่ถ้าศรัทธามากขึ้นเขาจะค้นคว้าเอง ไม่ต้องไปบังคับกำหนดกฎเกณฑ์ พระอริยะเจ้าไม่เห็นจะมาต่อว่าต่อขาน เราผู้ซึ่งยังประพฤติธรรมไปไม่ถึงไหนว่าไม่ทำอย่างโน้น ไม่ทำอย่างนี้ มันเรื่องของเขา อย่าเอาอัตตาของเราไปใส่ผู้อื่น<o:p></o:p>
    พระอริยะเจ้ามากมาย ไม่ห้ามการสวดมนต์แบบไม่รู้ความหมาย ภพนี้ หรือภพหน้าที่เราไม่รู้ เขาอาจเริ่มศรัทธามากขึ้นเมื่อไรก็ได้ มันอาจเป็นตะกอนเล็กๆอยู่ในจิตที่รอวันเติบโต<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    ผมไม่คิดว่าการสวดแบบไม่รู้เรื่อง ออกเสียงสูงต่ำไม่ถูกต้อง เป็นสิ่งผิด (ควรจะเปลี่ยนเป็น การศึกษาความหมายและออกเสียงให้ถูกต้องเป็นสิ่งที่ดีเป็นสิ่งที่ควรกระทำ)<o:p></o:p>
    เพราะถือเป็นเรื่องของภาษา เปรียบเทียบกับภาษาอังกฤษ ยังมีอังกฤษ-อเมริกัน อังกฤษ-ออสเตรเลีย ที่ออกเสียงหรือไวยากรณ์ แม้กระทั่งความหมายบางคำต่างออกไปจากอังกฤษแท้ ชาวอังกฤษไม่รับว่าเป็นภาษาอังกฤษ แต่ไม่ใช่อุปสรรคขัดขวางความเจริญของประเทศชาติ เช่นเดียวกันกับการสวดมนต์ภาษาบาลีสำเนียงไทย มอญ ลังกา ก็ไม่ขัดขวางความเจริญในธรรม ต่อให้สวดถูกต้องตรงตามอักขระ แต่ถ้าไม่เจริญวิปัสสนา ก็ยังเต็มไปด้วยอัตตา เหมือนเดิม หรือยิ่งกว่าเดิมอีก เช่น ฉันทำถูกต้องตามพระไตรปิฎกแล้ว ใครไม่ปฏิบัติตามพระไตรปิฎกผิดหมดและต้องมาศึกษาตามนี้จึงจะถูก ใครชอบแนวทางนี้ก็ทำไป เอาให้บรรลุอรหัตผลไปเลย หรืออย่างน้อยก็โสดาปติผล แล้วจะเข้าใจเองว่าทำไมพระอริยะเจ้าท่านไม่ห้ามการสวดมนต์ไม่รู้ความหมายหรือออกเสียงไม่ถูก ผมไม่เคยได้ทราบจากประวัติหลวงปู่มั่นที่เป็นพระอาจารย์ของพระกรรมฐานมากมาย แนะนำให้ยึดพระไตรปิฎกสุดโต่งอย่างนี้ ไม่ใช่ว่าหลวงปู่มั่นไม่ศึกษาพระไตรปิฎก แต่ท่านให้เน้นการปฏิบัติเป็นหลัก<o:p></o:p>
     
  18. paranyu

    paranyu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    259
    ค่าพลัง:
    +122
    เรียนคุณ PrasertN ครับ

    พระอริยเจ้าท่านไม่ห้าม แต่ พระพุทธเจ้าท่านตำหนิ ท่านสั่งสอนตักเตือน คุณจะเลือกเชื่อใครครับ

    ส่วนเหตุผลหาอ่านเอาตามลิงค์ที่ผมแนะนำเถิด
     
  19. nopam

    nopam สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    36
    ค่าพลัง:
    +1
    สาธุ สาธุ สาธุ อนุโมทนากับคุณ PARANYU เนี๋ยแค่ลูกศิษย์นะนี่คล่องแคล่ว.. ถึงปานนี้ไม่ต้องไปหาหลวงปู่กันก็ได้นะ........ และเริ่มต้นเรียนอนุบาลใหม่กันได้แล้วหละ...มีไตรสรณ์คมณ์ ให้ได้เรียกว่าบริบูรณ์...และอุทิศบุญอย่างฉับพลันให้เป็นซะก่อน...เพราะญาติทิพย์ของท่านรออยู่มากมายคอยบุญของท่านอยู่...ได้ผีเป็นเพื่อนไม่ชอบ ชอบเป็นศัตรูกับผีหรือไง เดี่ยวเขมรจะทำของใส่แล้ว อุทิศบุญให้เขาเลย ผีมันไม่เอาก็เซ่อแล้ว....สวดมนต์หรือคล้องวัตุถุไว้ที่คอ ถ้าลืมเผลอเมื่อไหร่โดนมันเล่นงานแน่.....อุทิศบุญมีแต่มันจะพาพวกมาให้รับบุญและเป็นมิตรกับเรา...แฮ่ ๆๆๆๆ
     
  20. ZeusInw

    ZeusInw เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    565
    ค่าพลัง:
    +333
    เสียจาย ผมมีพระอยู่ที่คอ/ที่ใจ มาเป็นแว๊บ ๆ

    ก้อ พระอยู่ในห้อง หลวงพ่อฤาษีลิงดำเคยบอกว่า

    อยู่ในห้องนอนน่ะ เห็นทุกวัน ตื่นมาก้อเจอ เป็นพุทธานุสติ

    ไปทำงานก้อเจอ อันนี้มันลงนรกไม่ได้อยู่แล้ว จะแต่งเนื้อแต่งตัว แก้ผ้าอย่างไรก็ตามเถอะ

    นิมนต์พระดูก็ได้...นานๆ ที
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 มีนาคม 2009

แชร์หน้านี้

Loading...