สงสัยเรื่องความแตกต่างของศีลพระภิกษุและสามเณร

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย ขันธมารทาส, 8 ตุลาคม 2008.

  1. ขันธมารทาส

    ขันธมารทาส สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    11
    ค่าพลัง:
    +4
    ขอเรียนถามดังนี้ครับ

    สิกขาบทของสามเณร มี10สิกขาบท สิกขาบทข้อที่3คือ อพรัมจริยา เวรมนี สิกขาปทังสมาทิยามิ คืองดเว้น จากการประพฤษผิดพรหมจรรย์ หรืองดเว้นการร่วมประเวณี ในข้อนี้หากสามเณรล่วงแล้ว ถือว่าเป็นอาบัติปาราชิก เหมือนภิกษุหรือไม่ และหากเป็นแล้วสามเณรนั้นถือเป็น โมฆะบุรุษ ห้ามสวรรค์ห้ามนิพพาน เหมือนภิกษุใช่หรือไม่ อย่างไรครับ โปรดอธิบายให้กระจ่างด้วยครับ เพราะ ผมสงสัยว่า สามเณร ไม่น่าจะมีอาบัติปาราชิก เพราะยังไม่ใช่ภิกษุแต่เป็นเพียงผู้เตรียมตัวเป็นภิกษุเท่านั้น หากสามเณรล่วงสิกขาบท ข้อสามแล้ว เพียงแต่ขาดจากความเป็นสามเณร แต่ไม่น่าจะถึงกับต้องอาบัติปาราชิกเหมือนภิกษุ และหากไม่ต้องอาบัติปาราชิกแล้ว สามเณรที่ล่วงละเมิดสิกขาบทข้อสาม โทษจึงไม่ถึงขนาดต้องห้ามสวรรค์ห้ามนิพพาน เพราะไม่ใช่ภิกษุ ความเข้าใจของผมข้างต้นถูกต้องตามพระไตรปิฏกหรือไม่ครับ รบกวนขอความกระจ่างด้วยครับ

    และหาก ความเข้าใจของผมผิด คือ สามเณร ถือว่าต้องอาบัติปาราชิก ห้ามสวรรค์ห้ามนิพพาน แล้วหากในกาลต่อมา อดีตสามเณร ได้โตเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น และ มีความรู้รับผิดชอบชั่วดี รู้สำนึกผิด ที่ตนได้ล่วงศีลข้อสาม ในอดีตที่ผ่านมา สามเณรนั้นสามารถ ตั้งความปรารถนา เป็นพระปัจเจกพุทธเจ้า เหมือน พระเทวทัต ได้หรือไม่ครับ และ ปาราชิก4 กับอนันตริยกรรม กรรม2กลุ่มนี้ กลุ่มไหนส่งผลหนักกว่ากัน
     
  2. ขันธมารทาส

    ขันธมารทาส สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    11
    ค่าพลัง:
    +4
    เนื่องจาก ผมได้ไปค้น ข้อมูลจนได้ความว่า สามเณรเป็นอนุสัมปัน ฉะนั้น ในการบัญญัติพระวินัยของพระบรมศาสดา ทรงได้ถือรวมเอา พระวินัยสิกขาบท ที่ทรงบัญญัติแก่ภิกษุ มาใช้กับสามเณร หรือไม่ครับ เพราะ หากพระบรมศาสดา ทรงบัญญัติพระวินัยสิกขาบท เฉพาะเหล่าภิกษุแล้ว สามเณร ที่ล่วงสิกขาบท ในข้อสาม จึงไม่ถือว่า ต้องอาบัติปาราชิก เพราะไม่ใช่ภิกษุ แต่เป็นอนุสัมปัน การห้ามสวรรค์ ห้ามนิพพาน จึงไม่น่าจะมีแก่สามเณร ที่ล่วงสิกขาบทข้อสาม แต่อาจมีเพียงกรรมอันเกิดจากการล่วงสิกขาบท ข้อสาม เท่านั้น ผมเข้าใจอย่างนี้ถูกต้องไหมครับ อันนี้ไม่ได้มีความปรารถนาเลี่ยงบาลีนะครับ แต่ผมเข้าใจอย่างนี้จริงๆ จึงอยากขอความกระจ่างจากภิกษุ อุบาสก อุบาสิกาที่รู้ธรรม รู้วินัย กระจ่างชัด มาอธิบายให้กระจ่าง และถ้าจะให้ดี หาแหล่งอ้างอิงจากพระไตรปิกกมาเทียบเคียงด้วยนะครับ
     
  3. โป๊ยเซียนสาว

    โป๊ยเซียนสาว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,543
    ค่าพลัง:
    +2,279
    อนุโมทนา ค่ะ จะรออ่านจากผู้รู้มาแจ้งนะจ๊ะ

    ^ ^
     
  4. slamb

    slamb เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2007
    โพสต์:
    1,021
    ค่าพลัง:
    +538
    เท่าที่ทราบมา ปาราชิก ขาดจากการเป็นสงฆ์ ถ้ายังเป็นสงฆ์อยู่ต่อไปห้ามสวรรค์ ห้ามนิพพาน ถ้าสึกออกมาเป็นฆราวาส รู้สํานึก ปฏิบัติดี ก็สามารถสําเร็จธรรมได้อยู่ครับ ไม่เหมือนกับอนันตริยะกรรม อันนี้ห้ามสวรรค์ห้ามนิพพาน ในชาติต่อไปจากชาตินี้

    ในกรณีที่ต้องอาบัติปาราชิก
    หลังจากสึกออกมาเป็นคฤหัสหรือสามเณรแล้ว ก็ไม่ห้ามมรรคผลหรือสวรรค์

    ดังข้อความในอรรถกถาของอังคุตรนิกายแสดงไว้ว่า

    "อิมํ ปน เทสนํ สุตฺวา ชาตสํเวคา ฐานํ ชหิตฺวา สมาเณรภูมิยํ ฐิตา
    ทส สีลานิ ปูเรตฺวา โยนิโสมนสิกาเร ยุตฺตปฺปยุตฺตา เกจิ โสตาปนฺนา, เกจิ
    สกทาคามิโน, เกจิ อนาคามิโน อเหสุ. เกจิ เทวโลเก นิพฺพตฺตึสุ. เอวํ
    ปาราชิกาปนฺนานมฺปิ สผลา อโหสิ."

    "ภิกษุ ๖๐ รูปผู้ต้องอาบัติปาราชิกเหล่านั้น เมื่อสดับพระธรรมเทศนา
    อัคคิกขันโธปมสูตรนี้แล้วเกิดความสลดใจ สละศีลพระมาดำรงอยู่ในฐานะ
    สามเณร แล้วยังศีล ๑๐ ให้ครบถ้วน เพียรประกอบในโยนิโสมนสิการ
    บางรูปได้เป็นพระโสดาบัน บางรูปเป็นพระสกทาคามี บางรูปเป็นพระอนาคามี
    บางรูปไปเกิดในเทวโลก พระธรมเทศนามีประโยชน์แม้แก่บุคคลผู้ต้อง
    อาบัติปาราชิกแล้วอย่างนี้"

    (องฺ อ ๑.๖๐)

    ทีนี้เณรทําผิด แน่นอนว่าต้องเบากว่าพระ แล้วผมจะถามครูบาอาจารย์ให้นะครับ..สาธุ
     
  5. ขันธมารทาส

    ขันธมารทาส สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    11
    ค่าพลัง:
    +4
    อนุโมทนาครับ ขอบคุณมากครับ แต่หากอนันตริยกรรมห้าม มรรคผลนิพพาน แล้วทำไมท่านพระเทวทัต ถึงได้เป็นพระปัจเจกพุทธเจ้าละครับ หรือเป็นความปรารถนาของท่านเอง และหากท่านปรารถนา อรหัตภูมิ จะได้ไหมครับ และการห้ามสวรรค์ ห้ามนิพพาน ห้ามเฉพาะ ชาติต่อไปจากชาตินี้เพียงชาติเดียวหรือครับ หากห้ามเฉพาะ ชาติต่อไปจากชาตินี้เพียงชาติเดียว ผมก็พอเข้าใจแล้วว่าทำไมท่านพระเทวทัต ถึงสามารถตรัสรู้ เป็นพระปัจเจกพุทธเจ้า ในอนาคตกาลได้ แต่ขอความกรุณา ท่านภิกษุ อุบาสก อุบาสิกา ผู้รู้ธรรมช่วยขยายความเกี่ยวกับ สาเหตุที่ท่านพระเทวทัต ได้ล่วงอนันตริยกรรม แต่สามารถ บรรลุเป็นพระปัจเจกพุทธเจ้าในอนาคตกาลได้ ให้ผู้ไม่รู้ท่านอื่น ได้ทราบด้วยครับ ผมจะได้ทราบว่าตรงกับที่ผมเข้าใจหรือเปล่า และถือว่าเป็นธรรมทาน ขออนุโมทนาบุญครับ
     
  6. เฮียปอ ตำมะลัง

    เฮียปอ ตำมะลัง ทุกสิ่งจบสิ้นลงด้วยความตาย วุ่นวายทำไม ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    24,969
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +91,129
    ทำไม...เมื่อพระเทวทัตพ้นกรรมจากมหาเวจีนรก
    สามารถตรัสรู้เป็นพระปัจเจกพุทธเจ้าได้.........??



    <TABLE class=ncode_imageresizer_warning id=ncode_imageresizer_warning_3 width=329><TBODY><TR><TD class=td1 width=20>[​IMG]</TD><TD class=td2 unselectable="on">Click this bar to view the full image.</TD></TR></TBODY></TABLE>[​IMG]


    พระเทวทัตถูกธรณีสูบ ให้ต้องไปรับกรรมในมหาเวจี นรก ในช่วงที่ถูกสูบจนถึงคอ พระเทวทัตมีสติระลึกได้ ได้อธิษฐานขอยึดเอาพระพุทธองค์เป็นที่พึ่งต่อไป ความว่า

    ข้าพเจ้าขอนับถือพระพุทธเจ้า ผู้เป็นบุคคลอันล่ำเลิศ ผู้เป็นวิสุทธิเทพยิ่งกว่าเทพยดาทั้งหลาย ผู้ฝึกฝนบุคคลที่ควรฝึกฝน ผู้มีพระจักษุรอบพระองค์ ผู้มีลักษณะแห่งบุญอันคุณด้วย ๑๐๐ ด้วยกระดูกของข้าพระเจ้า ที่ยังมีลมหายใจอยู่อีก

    พระพุทธองค์ทรงตรัสพุทธพยากรณ์แก่พระสาวกว่า เมื่อพระเทวทัตพ้นกรรมจากมหาเวจี นรก จะมีโอกาสสร้างสมบารมี จนสามารถตรัสรู้เป็นพระปัจเจกพุทธเจ้า ทรงพระนามว่า อัฏฐิสสระในอนาคต

    มาวิเคราะห์เจาะลึกกันลงไป ถึงข้อคุณสมบัติของพระเทวทัตอันใดหรือ ? ที่พระพุทธองค์ถึงกับทรงเปล่งพุทธพยากรณ์เกี่ยวกับเรื่องนี้ออกมาจากพระโอษฐ์ เมื่อวิเคราะห์แล้ว จะเห็นอย่างแน่แท้ว่า พระเทวทัตมีคุณสมบัติที่จะได้รับคำพยากรณ์ถึง ๔ ข้อ ด้วยกัน คือ

    ๑. เกิดเป็นมนุษย์ ๒. เป็นบุรุษเพศ ไม่เป็นกระเทย ๓. พบพระพุทธองค์ขณะมีพระชนม์ชีพอยู่ และได้สร้างกุศลต่อหน้าพระพักตร์ ๔. เป็นบรรพชิต หรือ นักบวช

    ในคุณสมบัติทั้ง ๔ ข้อนี้ อาจจะมีผู้สงสัยว่า พระเทวทัตสร้างกุศลต่อหน้าพระพักตร์อันใดหรือ ? อย่าลืมว่า ก่อนตาย พระเทวทัตได้เปล่งวาวาขอยึดเอาพระพุทธองค์เป็นสรณะ หรือ ที่พึ่งต่อไป แม้จะไม่ได้เปล่งต่อหน้าพระพักตร์ แต่ก็ถือได้ว่าสร้างกุศล และพระพุทธองค์ทรงรับทราบ และอนุโมทนา จึงเกิดผลานิสงส์ ที่อาจจะส่งผลให้แก่พระเทวทัต ถึงกับมีโอกาสเป็นพระพุทธเจ้าในอนาคตกาลได้ จึงเป็นที่มาของพุทธพยากรณ์ดังกล่าว
    ท่านคิดว่า พระเทวทัต อยากเป็นพระพุทธเจ้าไหม ? เมื่ออ่านพุทธประวัติแล้ว จะทราบว่า พระเทวทัตอยากเป็นพระพุทธเจ้าจนตัวสั่นเชียวแหละครับ แต่การอยากของพระเทวทัตนั้น เป็นไปในทางที่ไม่ชอบ ไม่ถูก ไม่ควร ตั้งตนเป็นพระพุทธเจ้าองค์ที่ ๒ แข่งกับพระสมณโคดม ทำให้เกิดอนันตริยกรรมที่ใหญ่หลวง คือ สังฆเภท ยุยงสงฆ์ให้แตกแยกกัน

    พระเทวทัตไม่ได้มีเวรกรรมกับพระพุทธองค์ ในพระชาติสุดท้ายเท่านั้น แต่มีมาหลายภพหลายชาติทีเดียวในขณะที่พระพุทธองค์ทรงบำเพ็ญพระบารมี ในฐานะพระโพธิสัตว์ และใช่ว่าพระเทวทัตจะเป็นฝ่ายทำร้าย หรือเบียดเบียนพระโพธิสัตว์แต่ถ่ายเดียว ในบางภพบางชาติ พระโพธิสัตว์กลับเป็นฝายเบียดเบียนให้พระเทวทัต ได้รับทุกข์ หรือเสียผลประโยชน์เช่นกัน เวรกรรมที่ผูกพันกันทั้งดีและร้าย ได้และเสีย จึงส่งผลต่อเนื่องมาถึงชาติภพสุดท้ายของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ถ้าจะกล่าวว่า พระเทวทัต มีส่วนช่วยในการสร้างพระบารมีของพระโพธิสัตว์ ทำให้พระโพธิสัตว์บรรลุพระโพธิญาณ ก็คงไม่ผิดความจริงนัก และนี่ก็อาจจะเป็นอานิสงส์อีกข้อหนึ่ง ที่ทำให้พระเทวทัต เมื่อพ้นกรรมจากมหาเวจีนรกแล้ว สามารถสร้างบารมีจนได้เป็นพระพุทธเจ้าในอนาคต แม้จะเป็นได้เพียง พระปัจเจกพุทธเจ้า ก็ตาม


    http://www.agalico.com/board/showthread.php?t=18476
     
  7. อดุลย์ เมธีกุล

    อดุลย์ เมธีกุล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กันยายน 2007
    โพสต์:
    7,363
    ค่าพลัง:
    +11,793
    อนุโมทนาครับ หลังจากที่ท่านใช้กรรมในนรกแล้ว ซึ่งเป็นกรรมฝ่ายบาปทำให้บาปกรรมเบาบางลง และกรรมฝ่ายกุศลคือถวายคางให้พระพุทธเจ้าเป็นพุทธบูชาพร้อมกล่าวอานิสงค์เป็นพระปัจเจก ซึ่งเป็นกรรมฝ่ายบุญก็ส่งผลทันที จึงทำให้สำเร็จ
     

แชร์หน้านี้

Loading...